|
ถ้าจะพูดคำว่า run in จริงๆแล้ว เขาจะหมายถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงานในรอบเดินเบาแช่เอาไว้ ระยะหนึ่ง เพื่อให้การสึกหรอของชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว เช่น แหวนสูบvsกระบอกสูบ , ชาร์ฟแบริ่ง ต่างๆ , วาล์วvsบ่าวาล์ว ฯลฯ สึกหรอกลมกลืนกัน จนลงตัว
แต่ปัจจุบัน accuracyของการผลิตชิ้นส่วนต่างๆมันพัฒนาขึ้นไปแบบเดิม ทางผู้ผลิตสามารถควบคุมคุณภาพในการผลิตได้ดีกว่าสมัยก่อน เรื่องแบบนี้จึงจำเป็นน้อยลง
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่ประกอบเป็นคันและขายให้ผู้บริโภคนั้น มันก็อยู่ในระดับที่สามารถใช้งานได้เลย เพียงแต่อย่าเล่นกันหนักๆเกินไป เพราะชิ้นส่วนอีกหลายชิ้นที่ยังต้องการการรันอินจริงๆ เช่น 1. เบรคvsผ้าเบรค 2. หน้าสัมผัสของยาง 3. ชิ้นส่วนบางชิ้นในเครื่องยนต์ ซึ่งถึงจะคุณภาพการผลิตดีเช่นไร ก็ใช่ว่าจะสึกหรอจนกลมกลืนกันไปแล้ว
ในคู่มือรถมักจะระบุไว้ว่าควรจะทำเช่นไร
ส่วนตัวผมแล้วสำหรับรถใหม่ป้ายแดง หรือ เครื่องที่เพิ่งoverhaul มาใหม่ๆ ที่ 1,000 กม. แรก ผมจะไม่เร่งเครื่องอย่างรวดเร็ว จะใช้เครื่องยนต์แบบเบาๆค่อยๆไต่ความเร็ว และใช้ความเร็วสูงสุดอยู่แถวๆที่ไม่เกินตร.ทล.จะยินยอม ครบ 1,000 กม. ผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง เพราะอย่างไรก็ย่อมจะมีชิ้นส่วนของโลหะ ฝุ่นผง ที่ตกค้างมาจากการประกอบเครื่องยนต์ออกมาได้
10,000 กม. แรกจะไม่ลากรอบเครื่องยนต์ หรือ เร่งเครื่องแบบแตะขีดแดง ( สำหรับขาซิ่งนะครับ ) อดเปรี้ยวไว้กินหวานหน่อย
เลย 10,000 กม. แล้วค่อยใส่กันเต็มๆ อย่างไรก็ตาม ก็เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว นะครับ สำหรับผมแล้ว 10,000 กม ใช้เวลาไม่ถึง 5 เดือน ก็ทะลุแล้ว
จากคุณ |
:
lucifer
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 54 08:16:15
|
|
|
|
|