ความคิดเห็นที่ 1 อ้อ ในกรณีที่ไม่สามารถห่อรถได้นะคะ ต้องจอดแบบหนีน้ำไม่ทัน น้ำประมาณ 1 เมตรอะไรแบบนี้อะคะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 06:43:24 A:27.130.93.111 X: TicketID:073234

ความคิดเห็นที่ 2 ท่วมสูงมากไม่ทราบค่ะ แต่เพื่อนเขาเอาแม่แรงมายกรถให้สูงที่สุดค่ะ  ค้างไว้แบบนั้นค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 06:55:42

ความคิดเห็นที่ 3 ถอด ecu เอาถุงมัดท่อไอเสีย ท่ออากาศ ถอดขั้วแบต รายละเอียดหาด้านล่าง มีเยอะพอสมควร จากคุณ : Nongsine เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 07:01:22

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องขั้วแบตเห็นหลายคนบอกว่าควรให้คนมีความรู้เป็นคนถอด บ้านเราก็ไม่ได้ถอด แต่พันเป็นมัมมี่แทน จากคุณ : ฮิเมโกะ เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 07:29:24

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนที่เสียหายมากที่สุดหากโดนน้ำแช่ คือส่วนหัวรถ(เครื่องยนต์ กล่องควบคุมต่างๆ)   หากเคลื่อนย้ายไม่ทัน  ทำอย่างไรก็ได้ให้หัวรถอยู่เหนือน้ำ (ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสียหาย) จะโดยวิธีการยกด้วยวิธีใดๆก็ตาม แล้วแต่อุปกรณ์ในแต่ละบ้านจะอำนวย สถานการณ์แบบนี้ต้องคิด ประยุกต์ ใช้สิ่งของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ครับ เพราะหากแนะนำวัสดุ อุปกรณ์ชนิดใดชนิดหนึ่ง คนก็จะแห่ไปซื้อกัน แล้วก็จะเกิดการหาประโยชน์จากสถานการณ์ ด้วยเก็งกำไร โก่งราคา ตามสันดานของพ่อค้าที่ไร้จรรยาบรรณ (พ่อค้าที่ดีๆก็มีเยอะครับ) ป.ล.หลังน้ำลด แล้วหากรถโดนน้ำมา อย่าพยายามติดเครื่อง ให้ตรวจสอบระบบต่างๆให้แน่ใจว่าไม่ได้โดนน้ำทำลาย จากคุณ : cyber-ta เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 07:49:40

ความคิดเห็นที่ 6 ขึ้นอยู่กับทักษะทางช่าง และเครื่องมือ ณ ตอนนั้นครับ ถ้าจอดอยู่บ้านก็ขึ้นแม่แรง แล้วหาอะไรรองไว้ ถ้าอยู่บนถนน เต็มที่ก็คงแค่ถอดแบบออกมา (ไม่ใช่แค่ถอดขั้วแบต) จากคุณ : Steve Davis เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 08:17:56

ความคิดเห็นที่ 7 ในกรณีต้องทิ้งรถแช่น้ำ ให้หาถุงพลาสติกมาหุ้มปลายท่อไอเสียหลายๆชั้น รัดให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไป ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทั้งสองขั้ว ถอดกรองอากาศออก เก็บของทั้งหลายออกจากรถให้หมด กล่องอีซียูถ้าถอดเป็นก็ถอด ไม่ได้ไม่เป็นไร หาถุงมาหุ้มไว้ ตรงกระจังหน้าด้วย กันคลื่นน้ำมากระแทกน้ำเข้าไป โดยปกติเครื่องยนต์จะเป็นระบบปิด ถ้าไม่ถึงขนาดจมมิดทั้งคัน ถ้าซีลต่างๆไม่รั่ว น้ำจะไม่เข้าไปในเครื่องยนต์ครับ พอน้ำรถก็หารถมายกไปศูนย์บริการครับ ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์เด็ดขาด ยกเว้นแต่จะแน่ใจว่าระดับน้ำตอนที่ท่วมนั้นไม่ได้เข้าไปถึงระดับเครื่องยนต์ครับ จากคุณ : มดแดงแฝงพวงมะม่วง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 08:24:31 A:58.137.131.35 X: TicketID:325071

ความคิดเห็นที่ 8 ขอโทษครับเขียนไม่เคลียร์ กรุณาลงไปอ่านด้านล่าง แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 09:33:31 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 09:11:37 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 09:10:53 จากคุณ : อากง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 09:08:21

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ถอดแบต งานงอกยาวๆ เลยครับ ไม่ต้องเอาไฟไปเลี้ยงหรอกครับ มันจะพังก็เพราะเอาไฟไปเลี้ยงเนี่ยแหละ จากคุณ : poryaris เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 09:12:03

ความคิดเห็นที่ 10 #8 ผมว่า #4 เค้าคงพันรถทั้งคันมากกว่าคัรบ จากคุณ : X~JunioR เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 09:21:58

ความคิดเห็นที่ 11 ขอเตือน!!! ทำอย่างคุณฮิเมโกะ (#4) (ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าพันแต่แบตนะครับ) ไม่ได้ประโยชน์ครับ เพราะอุปกรณ์หลายอย่างรวมทั้ง ECU มีไฟไปเลี้ยงตลอดเวลา มันจะเสียหายตรงนั้น   ** เราไม่ได้กลัวแบตพัง  แต่เรากลัวอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าอยู่จะพัง ** [u/]***** ดังนั้นเราจึงต้องเอาแหล่งจ่ายไฟฟ้า ในที่นี้คือแบตเตอรี่ ออกจากระบบ ***** [u/] แค่ไปพันแบตกันน้ำโดนแบต ไม่มีประโยชน์ ____________________________________________ ถ้าไม่เข้าใจระบบของรถ ลองนึกถึงว่าเปิดทีวีไว้ตลอด แล้วน้ำท่วมทีวี และยกทีวีหนีไม่ได้ ทำไงไม่ให้ทีวีช็อต -->  ต้องเอาไฟฟ้าออก ทำไงให้ไฟฟ้าหายไป --> ถอดปลั๊ก ไม่ใช่เอาอะไรไปหุ้มปลั๊กกันน้ำเข้าปลั๊ก  แต่ไฟฟ้ายังคงวิ่งเข้าทีวีอยู่ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 09:36:34 จากคุณ : อากง เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 09:35:58

ความคิดเห็นที่ 12 ห่อรถทั้งคันเลยสิ จากคุณ : thisname เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 12:10:15

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าอุดท่ออากาศตรงบริเวณลิ้นปีกผีเสื้อและท่อไอเสียไม่ทัน และหาที่จอดรถที่อยู่สูงๆไม่ได้ โดยรถเราต้องโดนน้ำท่วมแน่ๆ ผมมีวิธีที่รถจะเสียหายน้อยสุดครับ โดยต้องทำตามวิธีด้านล่างดังนี้ครับ 1.ถอดขั้วลบแบตออก อันนี้จำเป็นมาก 2.ถอดกล่อง ECU ออก ถ้าไม่ทราบตำแหน่งของECU ให้โทรไปถาม ศูนย์บริการรถยนต์แต่ละยี่ห้อ หรือ อู่ซ่อมรถที่เชื่อถือได้ ยังไม่จบครับ สมมติว่า น้ำลดไปแล้ว อย่าเพิ่งสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะถ้าเราสตาร์ทเครื่องยนต์ จะทำให้ก้านสูบคด เพราะน้ำที่เข้าไปในกระบอกสูบนั้นคือของเหลว โดยของเหลวมีคุณสมบัติอัดตัวได้น้อยมากเมื่อเทียบกับอากาศ ดังนั้นเมื่ออัดตัวไม่ได้มันก็เลยทำให้ก้านสูบคด เนื่องจากเราพยายามจะไปสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมมีวิธีแก้ไขง่ายๆหลังน้ำลดครับ 1.ถอดหัวเทียนทุกหัว 2.ใส่ขั้วลบแบตและกล่องECUกลับเข้าไป 3.สตาร์ทเครื่องยนต์4-5ครั้งเพื่อไล่น้ำออกจากห้องเผาไหม้ เครื่องหมุนแต่ไม่ติด เพราะหัวเทียนถูกถอดออก 4.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ 5.ใส่หัวเทียนกลับเข้าไป 6.สตาร์ทเครื่องยนต์จนติดและอุ่นเครื่องยนต์ประมาณ5นาที ปล ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยถ้ามีน้ำเข้าไปในช่องเติมน้ำกลั่น เสริมเป็นความรู้นิดนึงนะครับ สำหรับรถยนต์ที่ใช้สายพานราวลิ้น ถ้าน้ำท่วมเข้าไปโดนตัวสายพานราวลิ้น ให้ทำการเปลี่ยนสายพานราวลิ้นด้วยนะครับ เพราะ ถ้าสายพานราวลิ้นโดนน้ำท่วม จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลงและมีโอกาสทำให้สายพานราวลิ้นขาดได้ครับ แต่สำหรับสายพานหน้าเครื่องโดนน้ำไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ใช้รถนะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 19:52:20 แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 54 14:46:16 จากคุณ : EDIFICE เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 54 12:28:16