PANTIP.COM : V11355981 สอบถาม 525i E34 Big nose VS Legend V6 3.2 ปี 93 [รถ-ประดับยนต์]

ความคิดเห็นที่ 1

ผมไม่เคยสัมผัส Legend แต่เป็นเจ้าของ E34 รุ่นที่คุณว่าอยู่ ขอตอบเฉพาะข้อนะครับ

1.อัตราเร่ง 0-100 ประมาณ 9 วินาทีครับ ข้อสังเกตุคืออัตราการตอบสนองของรอบเครื่องช่วง 0-5000 รอบมันจะขึ้นเรื่อยๆตามประสาเครื่องหายใจเอง แต่พอวาวโนสเปิดมันจะดึงขึ้นอย่างน่าใจหายกวาดไปสุดที่ประมาณ 6500 รอบ ดังนั้นถ้าคุณต้องการอัตราเร่งที่ดี ต้องเล่นกับรอบเครื่องให้เป็น ส่วนอัตราเร่งอยากรู้ว่าเป็นไง ลองเปิด Youtube ดูเองได้เลยครับ เพียบ แต่รอบรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ ความเร็วปลายสูงสุดที่ผมเคยทำได้คือ 225km/h อย่าลืมว่าถึงมันจะชื่อรุ่น 525i ก็ตาม แต่จริงๆแล้วความจุมันแค่ 2.4 ลิตรนะครับ รถประกอบในโดนตอนซีซีไป ถ้าเป็นรถนอกจะเป็น 2.5 ลิตรแท้ๆ

2.บีเอ็มเดิมๆ ไม่นิ่มนะครับบอกไว้ก่อน มันจะเป็นฟิลลิ่งแนวหนึบแน่น ให้อารมณ์สปอร์ตคือถ่ายทอดความรู้สึกของพื้นถนนมาให้คุณได้รับรู้บ้าง ประมาณว่านี่หลุมนะ แต่ไม่ได้เด้งกระแทก หรือโยนไปทั้งคัน คุณสามารถรูดผ่านทางรถไฟ หรือลูกระนาดได้แบบไม่ต้องเบรคโดยที่อาการรถจะตึงๆ ช่วงล่างเก็บอาการไว้หมด เช็ตมาแบบกลางๆ คือกึ่งอันเดอร์สเตียร์ และโอเวอร์สเตียร์ ถ้าคุณไม่พยายามฝืนมัน รับรองว่ายังไงมันก็ไม่มีอาการท้ายปัดเป็นเด็กกวาดลาดวัดให้เห็นแน่นอน

3.ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบโบราณ กระปุกธรรมดาลูกปืนหมุนวน แถมไม่มีวงจรช่วยเพิ่มความหนืดตอนความเร็วสูงอีก แต่ก็ให้ความรู้สึกมั่นใจ แน่นพอสมควร หนักพอประมาณผู้ใหญ่น่าจะชอบแบบนี้ อาจเฉียบคมสู้แรคแอนพีเนียนไม่ได้ วงเลี้ยวปกติครับ มิหนำซ้ำผมยังคิดไปเองว่ามันแคบกว่ารถใหม่ๆหลายๆรุ่นซะอีก

4.อัตราการกินน้ำมัน ผมไม่รู้ครับ 555+ เพราะไม่มีตังค์เติมเต็มถังแล้ววัดซักที ถ้าดูจากคอนซัมชั่น หรือไอ้เกจ์ไม้กวามที่วัดอัตราสิ้นเปลืองใต้วัดรอบ หารเฉลี่ยออกมาแล้วตก 11-12 กิโลลิตร เวลาเดินทางความเร็ว 120km/h ครับ

5.อะไหล่ในศูนย์ไม่ต้องสืบครับ คุณน่าจะรู้กิตติศัพท์ของยนตรกละเป็นอย่างดีว่ามันจ้องฟันแค่ไหน เล่นเอาสมัยนั้นบรรดาเสี่ยๆ ป๋าๆทั้งหลาย กระเป๋าฉีกไปตามๆกัน แต่ตอนหลังมีอะไหล่เซียงกง และอู่นอกเก่งๆแล้ว สบายใจได้ครับ แถมบริษัทแม่มาบริหารเองไม่ใช่ยนตรกละเจ้าเก่าแล้ว เลยพลอยทำให้ราคาอะไหล่เบิกศูนย์ราคาลงไปบ้าง แต่มันก็ยังแพงอยู่ดีแหละ ถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่เคยเบิกอะไหล่ศูนย์หรอก หาไม่ได้จริงๆหรือเป็นชิ้นเล็กๆ ถึงผมจะฝากอู่เบิก เพราะเค้าได้ลดเปอร์เซ็น ถูกกว่าไปเบิกเอง ส่วนของเหลวก็ทั่วไปตามร้านอะไหล่เลยครับ ไม่ต้องไปซีเรียสอะไร เน้นหาซื้อง่าย ยี่ห้อเป็นที่น่าเชื่อถือสะดวกแก่ตัวเราก็พอ

6. - 7. ข้อนี้แล้วแต่เวรแต่กรรมแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของเก่าดูแลดีไหม อย่าลืมมันเป็นเครื่องจักร นึกอยากจะเสียก็เสียได้ทุกเมื่อ แต่ผมไม่เคยกินข้าวลิง ตายกลางทางเพราะบีเอ็มนะครับ คงเป็นเพราะผมสังเกตุอาการรถตลอด ไม่ต้องปล่อยให้มันพัง ถ้ารู้สึกว่าขับแล้วไม่เหมือนเดิมผมก็เอาเข้าอู่แล้วครับ โชคดีที่ผมเจออู่ที่ช่างเค้าใจดีไม่ฟัน ผมวิ่งหาอะไหล่เองไปให้เค้า ช่างเค้าคิดแต่ค่าแรงตั้งแต่หลักร้อย ไปถึงหลักพันบาท เฉพาะค่าซ่อมในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา รวมทุกอย่างประมาณ 1.2 แสนบาทได้แล้วครับ ถามว่าแพงไหน มันก็ไม่แพงครับ เพราะไม่ได้จ่ายทีเดียว ผมพยามซ่อมให้มันกลับมาดีเหมือนเดิม ง่ายๆคือผมยินดีที่จะจ่ายเพื่อซื้อความสบายใจ ถ้าซ่อมตามอาการก็ไม่เท่าไรหรอกครับ

พิมพ์ตั้งนาน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่บ้างก็น้อยนะครับ แต่ถ้าเป็นผมนะ E34 แน่นอน สำหรับผม Legend มันรถไร้อนาคตครับ อะไหล่บอดี้ก็หายากเต็มทีแล้วแถมแพง จำนวนรถยังน้อยอีก เครื่องยนต์แปลกๆวางขวางแต่ดันขับหน้า การซ่อมบำรุงไม่ต้องพูดถึง แม้จะเป็นเซียนฮอนด้า เจอรุ่นปราบเซียนตัวนี้เข้าไปถึงกับหงายหลัง เพราะมันซับซ้อนไม่เหมือนกันเก๋งฮอนด้าทั่วไป พังมายุ่งเลย อย่างน้อยบีเอ็มมันยังมีอนาคตกว่า เพราะวางเจได้ อะไหล่หาง่าย คนใช้เยอะ ของแต่เพียบ

จากคุณ : Fair382

เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 03:53:28