ความคิดเห็นที่ 1 ดีเซลแรงบิดสูง เบนซินรอบสูงกว่า กระบะวางเบนซินเพราะต้องการติดแก๊ส รถเก๋งวางดีเซลเพราะต้องการประหยัดค่าน้ำมัน กับแรง แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 09:23:00 จากคุณ : ตี๋แก้มป่อง เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 09:21:43

ความคิดเห็นที่ 3 ดีเซล ตอนนี้ เทคโนโลยีมันทำให้มีอัตราเร่งเหนือกว่าเบนซิน แต่ข้อด้อยจะยังอยู่ที่เสียงดัง และตัวเครื่องหนักและแพงกว่า จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 09:39:18

ความคิดเห็นที่ 4 แล้ว พวกความสามารถในการบรรทุกของ ต่างกันไหมครับ ถ้า cc เท่ากัน จากคุณ : knightrockky เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 09:46:43

ความคิดเห็นที่ 5 จริงๆเทียบแค่ชนิดเชื้อเพลิงมันดูจะง่ายไป ดีเซลพกของแถมมาเพียบ เทอร์โบ+อินเตอร์+โบยังแปรผันอีก เบนซินล่ะ บ้านๆที่ใช้กัน พ่วงเต็มที่แค่ระบบแปรผันวาล์ว ถ้าพ่วงเหมือนๆกัน เบนซินแรงกว่าแน่ ผมเห็นรถเก๋งในยุโรป พวกเบนซ์ บีเอ็ม เครื่อง วี6หรือวี8 โบคู่นี่ แรงบิดเขาไม่น้อยดีเซล แถมช่วงกว้างมากๆ แทบจะตลอดรอบที่มีให้เลย ดังนั้น เอาแรง เบนซินแรงกว่าแน่ๆ แต่ ถ้าเอาแรงกลางๆถึงสูงและทนทาน ดีเซลมีแววจะทนกว่านะ ปล.ถึงเบนซินจะจูนระบบให้แรงบิดกว้างมากๆ แต่ก็ยังเป็นรองดีเซลอยู่ดีแหละ พวก10ล้อหัวลากยุโรป แรงบิดมันรุนแรงและยาวไกลมากๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 10:01:04 จากคุณ : johnlee เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 10:00:43

ความคิดเห็นที่ 6 ดูง่ายๆBMW320Iกับ320Dความจุเท่ากันแต่ดีเซลมีแรงบิดมากกว่า ใช้อัตราบริโภคน้ำมันน้อยกว่า อัตราเร่งต้นกลางปลายมากกว่า ทั้งสองรุ่นนี้คือรถในระดับบ้านๆใช้งานทั่วไป การจะเอาเบนซินรุ่นแรงมาเทียบก็ต้องเทียบกับดีเซลรุ่นที่มันไม่ธรรมดาเหมือนกันครับ ไม่ใช่เอาเบนซินรุ่นแรงพิเศษมาเทียบกับดีเซลบ้านๆ ถ้าค่ายยุโรปใหญ่ๆเค้าจะทำรุ่น M ดีเซล AMG ดีเซลก็ทำได้ไม่ยากขึ้นอยู่กับว่าเค้าจะทำขายหรือเปล่าเพราะติดเรื่องภาพลักษ์เสียงของเครื่องยนต์อยู่ ต่างประเทศมีเยอะแยะดีเซลรุ่นแรงเป็นพิเศษที่แรงไม่แพ้เบนซินเทอร์โบแต่บ้านเราที่หมกมุ่นกับรถตลาดค่ายใหญ่เลยยังไม่ไปไหน ไม่ต้องไปมองอะไรอื่นไกล บ้านเราโอกาสที่คนทั่วไปจะจับต้องเครื่องV6 V8มีน้อยมากถ้าไม่รวยจริงๆ เก๋งดีเซลคือโอกาสที่จะให้คนทั่วไปได้ใช้รถที่มีความแรงเทียบเท่าเบนซินเครื่องโตๆกับเค้าบ้าง ไม่ใช่ต้องเอาเงินเก็บทั้งชีวิตมาลงกับรถแพงๆ จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 10:41:58 A:202.149.29.81 X: TicketID:337652

ความคิดเห็นที่ 7 รถในสนามแข่ง F1 ใช้เครื่องอะไรครับ? จากคุณ : jacksu เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 11:10:17

ความคิดเห็นที่ 8 รุ่นใหม่ๆแรงๆ ลองหาดูซิตามนี้ ในอากู๋ audi TDI le mans จากคุณ : Gorillavigo เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 11:25:40

ความคิดเห็นที่ 9 คห.6 320I มันไม่โบอ่ะครับ ดีเซลมันติดโบ โบกะโบดิ อิอิ จากคุณ : johnlee เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 11:50:27

ความคิดเห็นที่ 10 เอาตามที่ผมเข้าใจนะ ถ้าซีซ๊เท่ากัน จำนวนลูกสูบเท่ากัน ลักษณะเครื่องเหมือนกัน(สมมติว่า สี่สูบเรียงเหมือนกัน) เอาไม่โบทั้งคู่นะ  เครื่องดีเซลจะมีแรงบิดที่เยอะกว่ามากก มาในรอบต่ำกว่าและพาวเวอร์เเบนเยอะกว่า แน่นอน มีแรงลากจูงเยอะกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า มีรอบเครื่องน้อย ในทางกลับกัน เครื่องเบนซิน แรงบิดน้อยกว่า และมาในรอบที่สูงกว่า แต่แรงม้ามากกว่า ลากรอบเครื่องได้สูงกว่า น้ำหนักเครื่องเบากว่า อัตราเร่งในช่วงแรกๆอาจจะไม่สู้เครื่องดีเซล แต่ปลายไหลและได้ท๊อปสปีดสูงกว่าเครื่องดีเซลแน่ๆ จากคุณ : HS4OQI เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 12:45:31

ความคิดเห็นที่ 11 เครื่องยนต์เบนซิน ในรถแรงๆ สามารถปั่นรอบขึ้นไปสูงๆ ได้มากกว่า ดีเซล แน่นอนว่า รอบเครื่องยิ่งมาก ก็ยิ่งมีแรงเพิ่มขึ้น แต่รอบเครื่องยิ่งสูง อัตราการบริโภคก็ยิ่งสูงตาม เครื่องยนต์ดีเซล จุดเด่นก็คือ เรื่องแรงบิด เพราะเป็นรถที่มีกำลังอัดสูงมาก แรงบิดจึงมาเยอะที่รอบเครื่องต่ำ ทำให้มีอัตราเร่งที่ดี แต่ด้วยรอบเครื่องที่ไม่ต้องลากรอบขึ้นไปสูงๆ รถก็พุ่ง ทำให้อัตรการบริโภคน้ำมันจึงประหยัดกว่า จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 12:50:42

ความคิดเห็นที่ 12 ลองเทียบรถรุ่นเดียวกันแต่คนละเครื่องก็ได้ครับ Ford Focus 2.0TDCI (เครื่อง2000เทอร์โบดีเซล) Performance: 0-62mph in 8.9secs, max 129mph, 56.5mpg Tech: 1997cc, 4cyl, FWD, 138bhp, 236lb ft, 1421kg, 129g/km CO2 Ford Focus 1.6 EcoBoost (เครื่อง1600เทอร์โบเบนซิน) Performance: 0-62mph in 7.9secs, max 130mph, 47.1mpg Tech: 1596cc, 4cyl, FWD, 182bhp, 199lb ft, 1333kg, 139g/km CO2 รุ่นอื่นๆ http://www.topgear.com/uk/ford/focus/specs สรุป สมรรถนะ: เบนซินเทอร์โบ>ดีเซลเทอร์โบ>เบนซินธรรมดา ความประหยัด: ดีเซลเทอร์โบ>เบนซินเทอร์โบ(เครื่องเล็ก)>เบนซินธรรมดา(เครื่องใหญ่) จากคุณ : HellRaiZer เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 14:13:18 A:58.8.165.177 X: TicketID:313622

ความคิดเห็นที่ 13 เครื่องดีเซล มีประสิทธิภาพสูงกว่า ซึ่งแปลว่า ประหยัดกว่า แต่ที่ความจุเท่ากัน  เครื่องเบนซินจะแรงกว่า สำหรับเครื่องเทอร์โบก็ควรเทียบกับเครื่องเทอร์โบด้วยกัน แต่ถ้าจะเทียบกับเครื่องหายใจเอง ต้องเอาความจุไปคูณด้วย 1.7 เช่น เครื่อง 2.0 เทอร์โบ ก็ต้องไปเทียบกับ เครื่อง 3.4 หายใจเอง จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 15:47:32

ความคิดเห็นที่ 14 ต่างกันตรงที่นำไปใช้งาน เครื่องเบนซินแรงบิทน้อยครับ พูดถึงโซนบ้านเรานะครับที่มีในตลาด แรงบิทเยอะๆ ก็มีแต่ต้องพกรอบเครื่องมาสูงกันเลยทีเดียว นั่นคือเหตุผลที่ว่าเครื่องเบนซินแรงกว่า เพราะบ้านเราเดิมๆ Red Line ก็ไม่ต่ำกว่า 6500 กันเลย ในขณะที่ดีเซลราวๆ 4400 รอบ ผมไม่พูดถึงเรื่องประหยัด แต่จะพูดถึงการนำไปใช้งาน ลองคิดดูถ้าเอาเบนซินใส่กระบะ ถึงหน้าผลไม้ ผมทุกทุเรียน 3-4 ตัน ผมต้องเร่งเครื่องตั้งเท่าไหร่รถถึงจะแรงพอพารถหนัก 3-4 ตันวิ่งได้สัก 100 คงใช้รอบ 2500 ไม่ได้แน่นอนเจอเนินหน่อยก็ลากเกียร์กันอุตลุดแล้ว อีกทั้งยังความร้อนสะสม การเสียดสี ตั้งเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นดีเซล วิ่งสัก 100 รอบเครื่องสบายๆ ความร้อนก็ไม่สูง คิดเล่นๆ นะครับ ใครขับเบนซินเดิมๆ เกียร์ธรรมดา ลองถอนคลัชในรอบเครื่องเดินเบาสัก 700-800 รอบ มันแทบออกตัวไม่ได้ แต่ถ้าเป็นดีเซล ถอนคลัชขึ้นมาก็ออกตัวได้สบายๆ ผิดพลาดอย่างใด ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : อยู่อย่างสงบ เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 16:20:57

ความคิดเห็นที่ 15 F1 ใช้เครื่องอะไร คิดได้ไงครับ อ่านกติกาของF1 บ้างรึเปล่าว่าเค้าจำกัดอะไรบ้าง? จากคุณ : เขียนบน iPad (Steve Davis) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 22:17:51

ความคิดเห็นที่ 16 ตอบ จขกท เครื่องดีเซลกับเบ็นซินหลักๆต่างกันที่ inertia ครับ เดี๋ยวนี้เครื่องเบนซินแบบฉีดตรง+turbo สามารถสร้างแรงบิดที่ีอบต่ำๆแถมมาในช่วงกว้งกว่าเครื่องเบนซิน ทำไมไม่เอาไปใส่ในรถ10ล้อซะเลย inertia นั่นแหละครับเป็นข้อแตกต่างเพราะเครื่องยนต์ที่มีinertia สูง รอบเครื่องยนต์จะแปรผกผันกับload น้อยกว่าเครื่องที่มีinertia ต่ำกว่า Inertia ที่ต่างกันมาจาก นั้นของเครื่องและกำลังอัดครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (Steve Davis) เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 22:26:00

ความคิดเห็นที่ 17 คห. 15 กรุณาตอบให้ตรงคำถามครับ... ไม่ได้ถามว่า กฏระเบียบหรือข้อจำกัดของ F1 มีอะไรบ้าง... แต่ถ้าไม่ทราบว่าใช้เครื่องอะไร ก็อย่าตอบครับ จากคุณ : jacksu เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 13:15:03