Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขี่รถลุยลาวในอดีต...ไปเที่ยวเขมรที่เมืองไพลินดีกั่ว{แตกประเด็นจาก V11406906} ติดต่อทีมงาน

มาแว้วววววววเด้อ

คห1....ไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้-ขอขี่รถเอาลมประทะหน้าไว้ก่อนเป็นดีที่ซู้ดดดดด
คห2.....เมืองลาวนี้มีข้อยกเว้นครับ     พี่แกไม่รู้จักคำว่ากาละ-เทศะอะไรสักอย่าง....ผมเคยเล่าให้ฟังไปแล้วว่า     ผมเดินผ่านบ้านที่เมืองหลวงพระบางแห่งหนึ่ง....มีผู้ชายเปิด VDO-X นั่งดูอยู่ในบ้าน(ริมถนน)แบบไม่รู้ไม่ชี้......ที่ผมเซ็งเพราะว่ามีเด็กๆผู้หญิงนั่งดูอยู่3-4คน.....นี่คือมาตรฐานของเขาแหละ......

ส่วนในยุคที่ผมขี่รถไปเที่ยวลาวนั้น.....สังคมของคอมมิวนิสต์ยังมีแรงกระเพื่อมอยู่แบบเต็มพิกัด......ประมาณว่ายังมีทหารป่าเดินสะพายปืนให้เห็นอยู่ในตลาดเยอะ......หรือแม้แต่เวลามีการกระกาศเสียงตามสายในตลาด..ผมยังได้ยินว่า........สหายคำผาย......ให้มาพบนายแสง(กำนัน)ที่ขัวมิตตะพาบตอนมื้อแลงเด้อ......

ผมเคยเดินไปเตือนไอ้พวกซ่าที่ขึ้นมานั่งเล่นบนรถและเหยียบเบรคเล่นอะไรดังกล่าว.....มันจะเอาเรื่องผมนะ......พี่แกถามผมว่าเจ้ามีพาสปอร์ตบ่.เข้ามาหม่องได๋......ขอตรวจพาสปอร์ตหน่อย......อะไรอย่างนี้เป็นต้น.....ท่ามกลางกองเชียร์ของไอ้หมอนั่น(ที่สามารถแสดงอิทธิฤทธ์ข่มคนไทยได้)

เจ้าของโรงแรมที่นั่งดูแลพวกเราอยู่-(ชาติหนึ่งจะมีคนขี่รถมอไซค์ใหญ่ๆเข้าไปพักสักกี่คนเชียว.......เราเองก็เหมือนแขก VIPของเขาเหมือนกัน)

เจ้าของโรงแรมเลยต้องออกมาบอกว่า-เพิ่นมีพาสปอร์ตเด้อ....ข้อยสิลงทะเบียนยู้....เพิ่นมีเอกสารครบ......นี่คือตัวอย่างของสังคมของคนลาวครับ......แต่ปัจจุบันนี้ลาวเปลี่ยนไปในเชิง+เยอะแล้วละ.......สาเหตุเพราะฝรั่งเข้าไปเที่ยวกันเยอะขึ้น......ลาวแดงก็เลยจ๋อยลงไปกว่า80%...คงเหลือติดปลายนวมเอาไว้นิดหน่อยให้รู้ว่ามันคือคนของรัฐบาลที่พอจะมีสีอยู่บ้าง......แต่เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ครับ....

คห3....ตกลงจะไปเขมรหรือลาวล่ะ....หรือไปขี่ให้ลมตีหน้าแถวๆเชียงรายก็บอกมา.....
.........................................................................................

สาเหตุที่เมืองเขมรไม่มีน้ำดื่มให้บริการให้นักท่องเที่ยว เพราะเขายังเชื่อมั่นอยู่กับเรื่องของคุณไสย์...โดยเฉพาะเรื่องยาสั่งนั้น คนเขมรยังขามเกรงมาขนบัดนี้.....ใครไปเมืองเขมรก็จะเห็นว่า เวลาเราสั่งซื้อน้ำขวดอะไรก็ตาม...คนขายจะไม่เปิดให้ผู้ซื้อครับ....เขาจะแสดงความบริษุทธิ์ด้วยการเอาเครื่องเปิดจุกมาให้เราเปิดเองด้วยมือ......

ไม่ว่าจะนั่งในร้านอาหารหรือขายริมถนน เขาจะให้เราเปิดเองต่อหน้า......หากมรึงดันดื่มน้ำแล้วนอนชักดิ้นชักงอไปยังไง-เขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบไงล่ะ......
ภาษาเขมรในเมืองนี้...จะเรียกน้ำว่า ตึก..........น้ำแข็งเรียกตะก็อ..แก้วก็คือแกว.....ซ่อม(สำหรับใช้คู่กับช้อน...)เขาเรียกว่า ซอม.......มวยแปลว่า1.....หากเราจะสั่งน้ำแข็งเปล่ามากินก็บอกเขาว่า ....มวยตะก็อ......ใช่ป่าวฟะ.ชักจะลืมไปแล้ว
.........................................................................................
ผมขี่รถย้อนเข้าไปถึงเมืองไพลินก็รู้ได้เลยว่า     แถวนี้กลายเป็นบ้านร้างไปแล้ว......ร้านรวงทุกแห่งปิดทิ้งเอาไว้แบบหยาบๆ...มันอยู่ในลักษณะที่ว่าอุ้มลูกจูงหลานหนีออกไปจากบ้านแบบสิ้นสติ...ยิ่งขับรถย้อนออกไปทางเมืองปัตตะบอง(แปลว่ากระบองหาย)........ยิ่งมีชาวบ้านหาบคอนสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบครัวออกมาอย่างไม่มีทางเลือกไปเป็นอื่น........

สิ่งที่ผมเห็นว่าแปลกก็คือ ผู้หญิงแก่ๆชาวเขมรนั้นมักจะโกนหัวแล้วนุ่งขาว/ห่มขาวกันกว่า80%.......ผมหาสาเหตุไม่พบว่ามันเป็นคติของอะไร.หรือจะเป็นเพราะว่าแกถือศีลเองแบบบวชชีหรือย่างไรผมหาทราบไม่...แต่รับประกันว่าจะเห็นอยู่อย่างนี้ทุกหมู่บ้าน...แม้แต่ปัจจุบัน......

ก็เล่าสู่กันฟังเฉยๆไม่ได้เน้นเรื่องประวัติศาสตร์แต่อย่างใด........

ตามเส้นทางที่กล่าวนั้น จะมีชาวบ้าน(ผมว่าเป็นกลุ่มเครือญาติกัน)....ช่วยกันเข็นรถยนต์ขนาดเล็กๆตามกันมาเป็นหาง.......ประมาณว่าสัก100เมตรก็จะพบขบวนแห่รถยนต์แบบนี้คันหนึ่ง......นอกนั้นก็จะเป็นรถเข็นแบบใส่ของตามตลาดโรงเกลือที่เราคุ้นตา....แต่ไม่ใช่รถขนาดใหญ่ราวกับ10ล้อที่โรงเกลือนะครับ.......

ที่น่าสงสารก็คือจะมีคนป่วยถูกหามหนีสงครามาออกมาด้วย....เขาเอาผ้าขาวม้าแขวนกับกระบอกไม้ไผ่ แล้วเอาคนป่วยนอนยาวๆมาตามแนวผ้าขาวม้า.........มีคนแบกหามหัวหามท้ายกะร่องกะแร่งกันไปตามเรื่อง.....

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นประมาณ 2อาทิตย์........พวกเขมรแดง(เป็นเด็กๆอายุ15-16)ก็ยกพลมาถึงเมืองปัตตะบอง(ซึ่งห่างจากเมืองไพลินประมาณ80กม)............

ผมขี่รถย้อนออกไปจากเมืองไพลินได้สักครึ่งชั่วโมงก็รู้แล้วว่า สภาพการณ์มันคงเป็นแบบนี้ตลอดไป....ก็เลยขี่รถย้อนกลับ....

มาถึงชายแดนไทย(ที่ตาจ่าแก่ๆดังกล่าวดูแลอยู่)ยังไม่ทัน4โมงเย็นดีนัก...เลยเดินเกร่ไปดูโรงเตี๊ยมที่ชาวเขมรอพยพนอนพักอยู่......มันดันมีหัวกระทิงขายอีกต่างหากด้วย.....พี่แกขายหัวละ300บาทเอง......

...................................................................................
นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเอารถ SX200ไปขี่เที่ยวในเมืองเขมร.....ปั้มน้ำมันในเขมรจะเป็นของฝรั่งเศสยี่ห้อ Total เป็นส่วนใหญ่ครับ

 
 

จากคุณ : เคี้ยงโมโต
เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 20:55:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com