ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อพูดถึงการขับรถ ก่อนขับได้ก็ต้องมีใบขับขี่ ที่อังกฤษนี่สำหรับรถยนต์ทั่วไป ใบขับขี่มี 2 แบบ แบบแรกเรียกว่า Provisional license ใช้สำหรับหัดขับ ใครอายุเกิน 18 อยากหัดขับรถก็ไปขอแบบฟอร์มที่ไปรษณีย์ กรอกแล้วส่งไป เสียเงินนิดหน่อย ก็จะได้ใบขับขี่ประเภทนี้มาใช้เพื่อหัดขับเท่านั้น คือเมื่อขับ ต้องมีคนที่มีขับขี่จริงแล้วอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไปนั่งไปด้วย และรถต้องติดตัวอักษร L ตัวใหญ่ๆ ไว้ให้คนอื่นเห็นเด่นชัดทั้งหน้าหลัง อีกประเภทคือใบขับขี่ Full License แบบนี้ต้องสอบผ่านก่อน สอบทั้งทฤษฏีและปฎิบัติ การสอบเข้มข้นมากโดยเฉพาะภาคปฎิบัติ เพราะต้องสอบขับบนถนนจริง สถานการณ์จริง แถมกรรมการเขี้ยวมาก  ไม่มีการซูเอี๋ย อัตราสอบตกสูงกว่า 50%   ดังนั้นการต้องสอบ 2 รอบหรือ 3 รอบจึงผ่าน เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่นี่ และเพราะใบขับขี่ที่นี่ได้มายากกว่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ คนที่นี่เลยขับรถดี เข้าเรื่องบ้างดีกว่า เล่าถึงสิ่งที่แตกต่างบนถนนบ้าง จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:03:51

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อ 1  ขับรถมามากกว่า 2 ปี ไม่เคยเจอตำรวจตั้งด่านตรวจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ กลางวันหรือกลางคืน ตำรวจจราจรอังกฤษไม่เค๊ยไม่เคยมาตั้งด่านตรวจรถกันเลย   พี่ตำที่อังกฤษสงสัยรัฐบาลเลี้ยงดี ไม่ต้องใช้เตารีดคันไถ หรือหาลำไพ่พิเศษจากกระบะ มอไซต์ หรือสิบล้อ   ไม่ต้องซ่อนตัวตามใต้เสาทางด่วน  หรือที่มืดๆ ตามท้องถนน   ดังนั้นความกวกขันอุ่นใจแบบไทยๆ หาไม่ได้ที่อังกฤษ โอกาสที่จะได้เห็นตำรวจจราจรตัวเป็นๆ ยืนบนท้องถนน คือเมื่อมีอุบัติเหตุ   สภาพอากาศเลวร้าย มีรถเสียข้างทาง หรือมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายบนถนนเท่านั้น   แต่โอกาสที่จะได้เห็นรถตำรวจขับตระเวนไปมานี่เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะบนมอเตอร์เวย์ทางระหว่างเมือง บางครั้งตำรวจตระเวนในรถธรรมดา คอยขับตามคั้นโน้นคันนี้ แล้วก็ตรวจสอบป้ายทะเบียนไปด้วย ว่าคันนี้จ่ายภาษี หรือมีประกันครบถ้วนหรือเปล่า อันนี้ดูจากพวกรายการสารคดีครับ ยังไม่เคยโดนเรียกเอง หรือเห็นรถโดนเรียกด้วยตัวเองเลย จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:06:39

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อ 2 คนอังกฤษแทบไม่รู้จักการแต่งรถกันเลย ซื้อรถออกจากโรงงานมาแบบไหน เค้าก็ใช้ต่อกันแบบนั้นแหละ ร้านประดับยนต์ ขายชุดแต่ง ล้อแมค หาทำยายากมากๆ   ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ  ขับรถมาสองปีกว่า  ยังไม่เคยเจอไฟซีน่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้อ รถติดฟิล์มดำมืด หรือฟิล์มปรอทสะท้องแสงแยงตาข้างหลัง   รถโหลดเตี้ย   บิ๊กฟุตยกสูง  ไม่มีให้เห็นทั้งนั้น   แม้แต่แฟชั่นสุดเท่ห์คือการไม่ติดป้ายทะเบียนหลังที่คนไทยนิยมกันมาก ยังไม่เคยเจอแม้แต่คันเดียว   3.  คนที่นี่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกันปีละครั้ง หรือนานกว่านั้น   น้ำมันเครื่องที่นี่เปลี่ยนกันทุกๆ ประมาณ 10000 - 15000 ไมล์ ก็ราวๆ หมื่นหกพันกว่าโล หรือสองหมื่นกว่าโลเปลี่ยนครั้งนึง เป็นน้ำมันเครื่องเกรด semi นี่เอง   ส่วนบ้านเราศูนย์ฯ บอกให้เปลี่ยนทุก 3000 - 5000 โล ถ้าเป็นพวกน้ำมันสังเคราะห์นานหน่อย หมื่นโล   เอ สงสัยน้ำมันเครื่องที่นี่มันเทพกว่าหรือไงเนี่ย หรือเราถูกบริษัทขายน้ำมันเครื่องหลอกให้เปลี่ยนเร็วกว่าที่ควรหว่า จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:08:25

ความคิดเห็นที่ 4 วินัยการจราจร มันก็มาจากพื้นเพวัฒนธรรมของคนในชาติด้วยครับ   สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในสามัญสำนึกกันตั้งแต่เด็กๆ เพราะปลูกฝังกัน และตัวอย่างที่เห็นได้จากพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่รอบตัว กฏหมายเองก็เป็นอีกส่วนนึง ที่บังคับให้ผู้คนบนถนนใช้รถอยู่ในกรอบ ผมถึงชอบประโยคที่ว่า วินัยจราจรสะท้อนวินัยชาตินั่นแหละครับ เป๊ะ จากคุณ : Future is on my hand เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:08:26

ความคิดเห็นที่ 5 4. การกระพริบไฟสูงสำหรับที่ประเทศอังกฤษและอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการให้ทาง ต่างจากเมืองไทยที่หมายถึง เอ็งหลบไปให้พ้นๆ เลย ออกมาตรูชน     ดังนั้น ถ้าคุณรอเลี้ยว หรือเปิดไฟเลี้ยวขอเปลี่ยนเลน รถที่สวนทางมาหรือรถที่อยู่ด้านหลังกระพริบไฟให้ แปลว่าเค้าให้ทางคุณ ให้คุณไปก่อน   แถมที่ประหลาดคือ  คนที่นี่ให้ทางกันง่ายมากๆ เวลาจะออกจากซอย หรือเข้าเลนผิดต้องเปลี่ยนเลน ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวคันหลังก็ให้ไปเอง 5. คนที่อังกฤษนี่นิยมเข้าคิวกันมาก แม้แต่การขับรถ   เช่นบนถนนที่มี 2 เลน เมื่อติดไฟแดง รถส่วนใหญ่จะพร้อมใจกันไปติดรออยู่เลนซ้าย ไม่ค่อยมีใครออกขวาเพื่อไปติดในคิวที่มันสั้นกว่า ทั้งที่มันก็ว่างๆ แล้วก็ไปตรงต่อเหมือนกัน   ต่างกับเมืองไทย ที่เลนไหนว่างกว่าแม้แต่ช่วงคันรถเดียว ก็จะมีคนเลื้อยเปลี่ยนเลนไปมา ขอให้ได้ไปเร็วอีกนิดเถอะน่า   ยิ่งไปกว่านั้น คนที่นี่ไม่ค่อยหวงเลน ถ้ารถมันติดเป็นขบวนยาว แล้วคุณวิ่งขวามาโกงรอปาดซ้าย หรือจะเปลี่ยนเลน หรืออะไรก็ตาม รถคันหลังมักพร้อมที่จะอภัย และให้ทางให้คุณแทรกเสมอ   เจอแบบนี้บ่อยๆ คุณจะอายไปเองจนหลังๆ ไม่กล้าทำพฤติกรรมแบบนี้ ต่างจากบ้านเรา ที่รถคันหลังจะพยายามขับจี้ตูดคันหน้าให้มากที่สุด เพื่อปิดทางไม่ให้พวกรอแทรก แทรกตัวเข้ามาได้เด็ดขาด จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:11:05

ความคิดเห็นที่ 6 6. ที่อังกฤษมีวงเวียนเยอะมากถึงมากที่สุด ต่างจากบ้านเราที่ขนาดใน กทม ยังมีแค่ไม่กี่วงเวียน วงเวียนที่นี่ยึดหลักว่า ถ้ามีรถทางขวามือ ให้รถทางขวาไปก่อนเสมอ   แม้รถทางคุณจะติดมากๆ ค่อยๆ กระดึ๊บ แต่เมื่อใดที่มีรถทางขวามา แม้เค้าจะมาทีหลังจากทางที่ว่างกว่า ก็ต้องให้เค้าไปก่อน แต่ไม่ต้องแปลกใจ คนที่นี่จำนวนไม่น้อยรักความเป็นธรรม แม้จะมาจากทางขวา ได้สิทธิไปก่อน แต่ถ้าเค้าเห็นว่ารถทางซ้ายติดว่า คนรอคิวเข้าวงเวียนกันนานกว่า รถขวาอาจจะหยุด แล้วกระพริบไฟให้คุณไปก่อน หรือผลัดๆ กันไปก็ได้ 7 กฏจราจรที่นี่ศักดิ์สิทธิแม้พี่ตำจะไม่มาคอยหลบๆ ซ่อนๆ ตรวจ คนที่นี่ปฏบัติตามกฏเป็นกิจวัตร แม้ดึกดื่นเที่ยงคืน ติดไฟแดงทั้งๆ ที่เลนอื่นๆ ไม่มีรถ ถนนว่างโล่ง   คนที่นี่ก็จะติดรอจนกว่าจะไฟเชียวนั่นแหละ ลูกลักไก่มีน้อยมากๆ   แต่การลักไก่ตอนไฟเหลือง มีให้เห็นบ้างเหมือนกัน   แต่มีข้อยกเว้นสำหรับคนข้ามถนนนะครับ ที่ถ้าถนนว่างๆ แม้จะเป็นจังหวะห้ามข้าม   คนที่นี่จะข้ามถนนกันเป็นเรื่องปกติ  แปลกจริงๆ มันขัดๆ กันเองยังไงไม่รู้ จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:13:24

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ต้องไปถึงอังกฤษหรอกครับ  แค่สิงค์โปร  นี่ก็เห็นความแตกต่างแล้วครับ จากคุณ : ภานุพงษ์ (panupong_see) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:15:35

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วอะไรที่เหมือนเมืองไทยมั่ง มีไหมหละ ก็ต้องบอกว่ามีครับ 5 5 5 นั่นคือ พวก taxi  วัยรุ่น หรือรถเมล์  เป็นข้อยกเว้นเรื่องมารยาทการขับ   พวกนี้ขับไม่ต่างจากนักขับไทยๆ ทั่วไป สามารถมาขับในเมืองไทยได้โดยไม่กระดาก คนขับเลวๆ ก็มี แต่โอกาสที่จะเจอพวกนี้ เทียบกับการขับรถในบ้านเราแล้ว มันน้อยมากๆ  บ้านเราเจอทุกวัน ที่นี่นานๆ เจอที สามสี่เดือนก่อนกลับไปไทย ขับรถวันแรกเผลอใช้นิสัยอังกฤษ นั่นคือมีน้ำใจ ให้ทางตลอด ไม่ว่าจะมีรถเลี้ยว รถขอเข้าเลน  ผลคือได้เรื่องครับ คันหลังบีบแตรไล่บีบแตรด่าตลอดทาง  ต้องปรับตัวกันมากมาย พอมาชับรถที่ ตปท นี่ ทำให้มันเห็นข้อแตกต่าง หรือความรับผิดชอบต่อสังคม ที่คนในประเทศพัฒนาแล้วมีมากกว่าอย่างเทียบไม่ติด ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่สะดวก  ไม่ค่อยมีคนทำกัน ก็นับว่าเค้าปลูกฝังกันดี   ยิ่งอะไรเลวๆ เช่นไฟซีน่อนแยงตาชาวบ้าน  เปิดไฟตัดหมอกทั้งที่ไม่มีหมอก   ไม่ติดป้ายทะเบียนหลัง หรือติดฟิมล์ปรอทที่มันสะท้อนเข้าตาชาวบ้าน อะไรๆ ที่ทำแล้วมันส่งผลกระทบคนอื่น เดือดร้อนคนอื่น   นักขับในประเทศที่เค้าพัฒนาแล้วเค้าไม่ค่อยทำกันครับ ไม่ต้องรอให้ตำรวจมาตั้งด่านตรวจจับ สำนึกเค้ามีกันได้เอง ก็เลยเอามาบอกเล่ากัน   เห็นคนไทยบางคนบอกเมืองไทยดีที่สุด คนไทยมีน้ำใจ   โดยส่วนตัวก็อยากจะบอกว่า ผมว่าไม่จริง(หวะ) เพราะวัฒนธรรมการขับรถ มันสะท้อนตัวตนของคนในชาติได้ดี ว่ามีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคน เห็นแก่ตัว  หรือมีน้ำใจแค่ไหน จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:17:54

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ยากครับอะไรที่คิดว่าดีเราทำให้ติดเป็นนิสัย ขับรถตามกฏกำหนดใครจะเบียดปล่อยเขาไป ถึงช้าหน่อยไม่เป็นไร เอาธรรมใช้ในชีวิตตลอด เรามีดีกว่าอังกฤษเยอะ ชีวิตเราก็สุขแม้ในยามรถติด จากคุณ : น้ำพริกนรก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:33:41

ความคิดเห็นที่ 10 ตำรวจจับมีครับพี่ มันเล่นรถไม่ติดเครื่องหมายด้วย ขับเล่นๆ ขับเร็วๆบนมอเตอร์เวย์แป๊ปเดียวไอ้รถธรรมดาข้างหลังมันเปิดไฟวับแล้ว ไฟกระพริบมันก็ซ่อนอยู่ในกระจังหน้าหละครับ ตามระเบียบ แล้วพอจะรู้จักคนอยู่บ้างเจ้าหน้าที่เขาขี้เล่น เขาเล่นจับกันแบบสนุ๊กเลย ไล่แบบลูกสี มีตอนจบตบลูกดำอีก อันนี้จริงยืนยันได้ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:51:28 A:27.55.1.31 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 11 ต่างกันตรงวินัย จากน้ำท่วมที่ผ่านมายังไม่เข้าใจนิสัยคนไทยอีกหรอ แต่ถ้าพูดถึงน้ำใจคนไทยอันนี้อีกเรื่อง จากคุณ : punjungkung เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:58:31

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเคยขับในเยอรมัน ไม่ใช่ขับเที่ยวธรรมดา แต่ขับเป็นอาชีพรับจ้างส่งรถให้ Heartz   วันดีคืนดีไปอังกฤษ ตกใจหมดเลย ทำไมคนอังกฤษขับรถแย่อย่างนั้น   ขอโทษ ผมว่าจขกทคงเพิ่งไปเมืองนอกใหม่ๆ จึงได้ตื่นเต้น และอวยฝรั่งอังกฤษซะยาวเหยียดอย่างนั้น พูดจริงๆ นะครับ ไม่ได้แกล้งพูด คนยุโรปเขานินทาว่า ประเทศที่ขับซ้าย ขับแย่พอกันทั้งโลก นี่พูดในมุมมองของฝรั่งยุโรปที่ลือว่ามีคุณภาพดีกว่าคนไทย ผมอยากให้เราริเริ่ม ปลูกฝังใหม่ เลิกซะทีเถอะครับ ที่จะถล่มชนชาติตนเอง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:19:36

ความคิดเห็นที่ 13 เล่าให้ฟังต่อสักนิด ที่มาของการขับชิดซ้าย มันเริ่มจากพวกอัศวิน ที่มันพร้อมจะรบกัน พอเห็นใครขี่ม้าสวนมา มันรีบชิดซ้ายเอาไว้ก่อน เพื่อจะได้ชักดาบออกมาฟาดฟันได้ถนัด ในเมื่อต้นกำเนิด มันพร้อมจะรบกัน ซะขนาดนั้น คุณๆ จะหวังอะไรนักหนา ที่ขับชิดซ้ายแล้วจะเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ ครับ ขอโทษที่ขัดคอ สักหน่อย เพราะไม่ชอบใจ คนไทยถล่มประเทศตนเอง ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:22:30

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ที่ดีคือ ให้ทา่งกระพริบไฟให้เข้าเลน ให้ออกร่วมทางเอก จอดให้หักหัวออกจากที่จอดก็มี ทางม้าลายไม่ต้องมีไฟเขียวไฟแดงคนรอจอดให้ข้าม ทางเดี่ยวที่เรียกว่าซิงเกิลแทรกมีหลบขอบทางให้อีกฝั่งไปนี่ทำกัน ทางเบี่ยงมาสองสามเลน ลดเหลือเลนเดียวแบ่งกันไปเลนละคันนี่ทำเองไม่ต้องมีกรรมการมาคอยโบ แล้วที่ดีที่สุดคือรู้จักขอบคุณ เขาให้เบี่ยงออก แค่ยกมือตรงๆขอบคุณ หรือกระพริบไฟซ้ายขวาก็ได้ แค่นี้ถ้าเอามาทำที่ไทยจำนวนคนโดนยิงทิ้งตามถนนคงน้อยลงเยอะ อันนี้อยากเห็นทำกันที่เมืองไทยครับพี่ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:27:16 A:27.55.1.31 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่รู้ครับ ผมไม่เคยไปที่อื่น นอกจากจีน แค่ครั้งเดียวในชีวิต แล้วการขับรถของผม จะไม่ค่อยเป็นที่เดือดร้อนของคนอื่น เคารพกฏจราจร (จนคนอื่นด่า) ผมเริ่มต้นที่ตัวเองครับ จากคุณ : kloyman เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:30:56

ความคิดเห็นที่ 16 เคยเช่ามอเตอร์ไซค์ขับที่เนปาลหนเดียวเอง  ชิดซ้ายเหมือนเรา   กับคนอังกฤษที่รู้จักสองคน  ผมก็ว่าเค้าสุภาพดี  ไม่เห็นจะบ่นว่าการจราจรให้ได้ยินเลย   ญาติคนเยอรมัน  ตอนนี้อยู่เมืองไทยใช้รถผมอยู่ก็กล้าๆกลัวที่จะขับในไทยเหมือนกัน  แต่ก็ขับได้ แม้ว่าจะสลับขวาเป็นซ้าย  ก็ไม่เห็นจะบ่นอะไร  ก็เพราะเข้าใจว่าเมืองไทยใบขับขี่ทำกันง่าย  ไม่แพง  ค่าปรับถูก แต่คงเครียดเวลาขับรถน่ะ จากคุณ : Tangible เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:50:58

ความคิดเห็นที่ 17 ขับที่อังกฤษ ได้ tickets มา 2 ใบ  ขับไวเกินกำหนด กับจอดในที่ห้ามจอด จากคุณ : TimeS-To-Enjoy เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:58:50

ความคิดเห็นที่ 18 1. กลับมาเมืองไทย ขับแทบจะไม่เป็น เช่น 1.1เห็นรถจ่อจะออกจากซอย เราชะลอกระพริบไฟให้ออก เพราะเค้าไม่ออกเพราะนึกว่าเราไม่ให้ออก ถ้าขับ กลางคืนก็ดับไฟแทน แต่กลางวันจนปัญญา ต้องชะลอรถแทบจะหยุดสนิทให้เค้าถึงออก ทำให้เสียเวลาเรา เสียเวลาคันหลัง เสียผ้าเบรค เสียน้ำมันเร่งเครื่องต่อ 1.2  สอบใบขับขี่ที่นู่นสอบบนถนนจริง คนตรวจนั่งข้าง ๆ ถ้าไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย ได้สอบใหม่แน่ ๆ (เปอร์เซ็นต์คนสอบครั้งเดียวแล้วผ่านเฉลี่ยทุกศูนย์สอบมีเพียง 30%) กลับมาที่ไทย พอหยุดให้คนข้ามโดนคันหลังบีบแตรไล่ ที่เลวร้าย ถ้ามีมากกว่า 2 เลน เราหยุด  คนข้ามผ่านหน้ารถเราไปแล้ว แต่เลนข้าง ๆ มันไม่หยุด มาอย่างเร็วเลย เกือบทำให้คนข้ามโดนรถเลนข้างๆ ชนตายหลายทีแล้ว เฮ้อ 1.3 แต่ก่อนคันหน้าข้าง ๆ เปิดไฟเลี้ยวจะหยีบคันเร่งส่ง ปิดไลน์ยังกะแข่งรถ แต่เดี๋ยวนี้ ทำให้ นิสัยการลัดคิว การปาดเลิกเลย ต่อคิวอย่างเดียว ใครเปิดไฟเลี้ยวขอเปลี่ยนเลน จะเบรคให้เข้าทันที (ถ้าเป็นเมืองนอกกระพริบไฟให้ แปลว่าเข้ามาเลนฉันได้เลย เมืองไทยไม่รู้จะทำยังไง ) จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:01:39

ความคิดเห็นที่ 19 ขับชิดซ้ายเพราะว่านักรบถนัดขวา ดาบจะอยู่ทางซ้าย เวลาจะชักดาบ จะได้ถนัด ดังนั้นเวลาเดิน หรือขี่ม้าก็ต้องเดินชิดซ้าย เวลาสวนกันดาบจะได้ไม่มาเกี่ยวกัน มือขวาก็ตะเบ้ะกันไป แต่หลังจากอังกฤษ ไม่ ถูกคอกะฝรั่งเศส  รบรากัน นโปเลียนก็เลยเลือกที่จะทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับอังกฤษ รวมถึงขี่ม้า ก็ไปขี่ทางขวาแทน จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:13:41

ความคิดเห็นที่ 20 เหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อเดือนกว่า ๆ มั๊ง ขับรถจะออกจากปาร์คแบบอารมณ์ดี ๆ หลังจากไปเดินออกกำลังกาย ถนนมีสองเลน พอขับมาก็เจอไฟแดง เห็นรถปิ๊คอัพใหญ่คันนึงจอดอยู่เลนขวา ลูกศรก็บอกโต้ง ๆ ว่าเลนนั้นเลี้ยวขวาอย่างเดียว ผ่านตลอดถ้าไม่มีรถตามถนนใหญ่ ก็เห็นพี่ท่านจอดอยู่คันเดียวก่อนหน้าเรา คิดว่าคงจะตั้งใจเลี้ยวขวาแต่คงจะรอให้ถนนโล่งจริง ๆ (ไม่คิดว่าพี่ท่านรอไฟเขียวเหมือนเรา) ส่วนเลนของเราคือไปทางตรงกับเลี้ยวซ้าย เราจะไปทางตรงก็เลยต้องรอจนกว่าไฟแดงจะหมด ทีนี้พอไฟเขียวมาก็เห็นพี่ปิ๊คอัพท่านเล่นปาดผ่านหน้าเราพรวดไปเลี้ยวซ้ายไปถนนอีกฝั่งเลย แบบเรียกว่าเร็วมากแถมเป็นรถใหญ่ โชคดีที่ตัวเราเองเป็นคนที่เวลาติดไฟแดง พอได้ไฟเขียวถ้าเราอยู่หน้าสุดเราจะไม่ออกรถแบบพรวดพราดเลย จะมองซ้ายขวาก่อนแล้วค่อย ๆ ออกรถ(อันนี้คุณครูสอนในคอร์สตอนเรียนขับรถมาแบบนี้ เรื่องความปลอดภัย ก็เลยจำไว้และนำมาใช้จริง ๆ) คือถ้าเราเป็นคนออกรถไวนี่ วันนั้นนึกภาพไม่ออกว่าคุณพี่ปิ๊คอัพใหญ่นั้นจะเสยน้องแมโร่ไปไหน ตอนนั้นทั้งโมโหทั้งใจสั่นตกใจ แต่ก็ได้แต่พูดในใจว่า "เออ...ไปดีเถอะนะท่าน ขับรถแบบนี้รับรองเจอดีแน่ ๆ..." เล่นกระโดดข้ามเลนหน้าไฟจราจรเลย และตัวเองก็ไม่ได้ดูหน้าคนขับปิ๊คอัพหรอกว่าเป็นฝรั่งหรือสแปนิชหรือเอเชี่ยนหรือว่าคนดำ เพราะมัวแต่พยายามทำใจตัวเองให้สงบน่ะ และเป็นอุทาหรณ์ให้คนขับรถเวลาออกรถตอนได้ไฟเขียวนี่ถ้าระวังหน่อยก็สามารถลดโอกาสอุบัติเหตุได้เหมือนกันนะ อย่างน้อยก็น่าจะซัก 10 - 20 เปอร์เซ็นต์บ้างล่ะ ปล. อันนี้เป็นกรณีขับรถแบบพวงมาลัยซ้ายแบบชิดขวาในอเมริกานะคะ จากคุณ : JC2002 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:25:51

ความคิดเห็นที่ 21 2. ทำให้รู้ว่า การได้ใบขับขี่มาง่าย ทำให้คนไทยขับรถกันไม่เป็นระบบและมีระเบียบ เมืองที่เค้าพัฒนาได้มายาก และต้องรักษาให้ดี  ถ้าใบขับขี่โดนยึดจะทำมาหากินลำบาก สมัครงานก็ยาก ค่าประกันก็แพงตามไปด้วย.  ใบขับขี่สะอาดไม่โดนคดี. สามารถเอาไปเขียนใน resume สมัครงานได้อย่างภาคภูมิใจ 3. ทำให้รู้ว่า. เค้าคิดภาษีตามมลพิษของรถที่ปล่อย รถที่ปล่อยมลพิษเยอะ จ่ายภาษีเยอะ เพราะถือว่าคุณทำให้เพื่อนร่วมโลกเดือดร้อน 4. ทำให้รู้ว่า โอนรถเมืองไทยยุ่งยากมาก ๆ แถมด้วยคำว่าตรวจสภาพ ไม่น่าจะใช้คำนี้เรียก เพราะมันแค่ขูดลาย ส่วนที่ตรวจสภาพแล้ว แต่รถควันดำ ควันขาวมีให้เห็นเยอะแยะ ถ้าเป็นเมืองเค้า รถควันดำหลุดมา สาวไปถึงอู่ที่รับตรวจสภาพ เจอยึดใบอนุญาต ปิดกิจการได้เลย ปล. จบไว ๆ นะคุณประกอบ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:33:47

ความคิดเห็นที่ 22 อังกฤษไม่รู้น่ะ แต่ชอบการขับของคนเยอรมันมาก ตั้งแต่รถเมล์ แท็กซี่ ยันรถส่วนบุคคล ปล.มีโอกาสนั่ง S-klass ก็ตอนนี้นี่แหละ 5555 จากคุณ : Civic เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:33:51 A:110.168.89.82 X: TicketID:326497

ความคิดเห็นที่ 23 ขอโหวตครับ  ได้รอยหยักสมองเพิ่มขึ้นอีกครับ จากคุณ : greentan เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 23:51:36

ความคิดเห็นที่ 24 รู้จักคนอินเดีย....... เค้าบอกว่า "เมืองไทยขับรถได้ดีกว่าที่บ้านเค้าเยอะ...... 55555" จากคุณ : ขับไปลุ้นไป (ไวเหมือนโกหก) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 23:51:51

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นลุง TinyNu มาบอกว่าผมอวยฝรั่งอังกฤษ ท่าทางจะเพิ่งมา ตปท ก็เพิ่งมาได้ 2 ปีกว่าๆ ครับ  ขับรถในประเทศนี้ยังไม่ถึงแสนโล ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ   แต่ไอ้เลวๆ ก็ได้เห็น ไอ้ดีๆ ก็ได้เจอ เจออะไรดีๆ ก็เอามาเล่า คนอื่นจะได้รู้ได้เห็นมั่ง นี่ถ้าเป็นคนอื่นมาต่อว่า ผมคงเฉยๆ ไม่ตอบโต้อะไร ไม่ชอบดราม่า แต่นี่ลุงมาเอง  แหม่ ต้องต้มน้ำร้อนรอไว้เลยนะเนี่ย คือผมเองก็เห็นผลงานที่ลุงโดนถอนหงอกมาหลายหนแล้ว ลุงอ่านหนังสือก็ไม่ค่อยแตก  แถมไม่รู้จริงแต่ชอบคุยโม้ไปเหมือนผู้รู้ทุกเรื่อง เช่นคุยโม้เรื่องปลาทูมั่งอะไรมั่ง  เชียร์ EM ball ไม่ลืมหูลืมตามั่ง ลุงยังไม่เข็ดอีกหรือ   นี่ยังมาคุยเรื่องขับซ้ายขับขวาอะไรของลุงอีก ทั้งที่มันไม่เกี่ยวกันเลย อ้อ ลุงคุยว่าขับรถในเยอรมันมาเยอะ ลุงเป็นนักขับแบบไหนหละ ใช้นิสัยไทยๆ ขับ หรือใช้นิสัยแบบเยอรมันขับ ผมเห็นลุงชอบเผยแพร่อะไรผิดๆ ไม่รู้จริง แต่ทำเหมือนรู้จริง จริงๆ แล้วความเห็นต่างๆ ของลุง ไม่ว่ากระทู้ไหน ผมไม่เคยให้ราคา เพราะมีแต่อคติ ไม่รู้จริง แถมชอบคุยโต ก็รำคาญมาพอควร แต่ขี้เกียจไปยุ่งเกี่ยว แต่คราวนี้โดนกับตัว ก็ขอจัดหนักซะหน่อย  อยากถกเถียงกับลุงครับ เลียนแบบคุณตะโกเลยนะครับเนี่ย ถ้าเป็นคนไทย ต้องชื่นชมแต่คนไทยเท่านั้นหรือลุง เห็นอะไรไม่ดีของคนไทย ห้ามว่า ห้ามยกชาติอื่นมาเปรียบเทียบงั้นหรือ เป็นคนไทย ต้องอวยตัวเองว่าชาติเราดีที่สุดในโลกเท่านั้น แบบนั้นเรอะ ผมได้ออกจากกะลามา เห็นอะไรดีผมก็ว่าดี อะไรไม่ดีผมก็ว่าไม่ดี ไม่ใช่ได้่เห็นโลกกว้างแล้ว แต่ยังปล่อยให้อคติครอบงำ หรือแก่แบบไม่คิดเรียนรู้ข้อผิดพลาดข้อบกพร่องอะไรเอาซะเลย แบบนั้นก็ไม่ไหวนะลุง ที่เปรียบเทียบมารยาทการขับรถของคนไทยกับอังกฤษ เพราะผมเห็นมาแค่สองประเทศ ถ้าเยอรมันขับดีกว่าคนอังกฤษ ก็ไม่ได้แปลว่าคนไทยขับรถดีอยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมหรือคนรอบข้าง  บ้านเราต่ำกว่ามาก ได้ยินมาว่าคนเยอรมัน คนญี่ปุ่น หรือพวกแถวสแกนดิเนเวียขับรถกันดี แต่ไม่เคยสัมผัสเอง  ไม่เคยเห็นเอง จึงไม่กล้าเอามาเล่า คนไทย ก็ควรจะรู้ว่าชาวโลก หรือคนประเทศอื่นๆ เค้าขับรถกันยังไง หัดดูตัวอย่างที่เค้าดีๆ กว่าบ้าง เผื่อจะได้คิดปรับปรุงกันบ้าง ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ หรือเปรียบเทียบกับแต่พวกที่ด้อยกว่า ไร้วินัยกว่า มารยาทแย่กว่า แล้วก็เอาแต่หลงไหลได้ปลื้มกับชาติพันธุ์ของเรา  ปล่อยปะละเลยแบบนี้ กลับมาคุยกันต่อหน่อยนะครับลุง ผมอยากให้กระทู้ผมขึ้นดราม่ามั่ง จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 02:32:04

ความคิดเห็นที่ 26 นั่นซินะ แค่ติงนิสัยการขับรถของคนไทยบางส่วน มันถล่มประเทศตัวเองตรงไหนเนี่ย สำหรับผมแล้ว สัญญาณไฟกระพริบ ปุ่มเป็นรูปสามเหลี่ยม (เหมือนป้ายจอดฉุกเฉิน) ที่ทั้งในคู่มือรถ ทั้งในการสอบใบขับขี่ บอกไว้ว่า "สำหรับจอดข้างทางฉุกเฉิน" แต่ทุกวันนี้บนถนน มันคือ "ขอตรูไปแบบฉุกเฉิน" กับเวลาข้ามแยกคือ "ขอตรงไปนะ" นี่แหล่ะที่ขัดใจที่สุด หลายครั้งมากที่สี่แยก (สี่แยกเล็กๆ) เจอรถมาทางขวา ผมจะเห็นแค่ไฟเลี้ยวซ้าย ผมจะตรงไป เพราะงั้นจะต้องไปก่อน (ไม่งั้นเลี้ยวมาก็ติดรถผม) แต่พอตรงไป รถสองคันก็จะมาจ๊ะเอ๋กัน เคยโดนลงมาด่าทีนึงว่า "เปิดไฟขอทาง คุณจะวิ่งผ่ามาทำไม" ต้องตอบกลับไปนิ่มๆ ว่า "ผมขอโทษครับ แต่ไปดูคู่มืออีกทีเถอะ ว่าไฟที่เปิดน่ะมันใช้ทำอะไร" แต่เร็วๆ นี้ เพิ่งได้คำตอบแบบคาดไม่ถึงมาว่า "นึกว่าเป็นไฟสัญญาณขอตรงไป ก็มันเป็นลูกศรชี้ขึ้น" กับอีกคำตอบนึง "รถร่วมฯ มันเปิดเวลาขอทางนี่หว่า" จากคุณ : สันโต๊ะ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 04:41:25

ความคิดเห็นที่ 27 เคยอยู่ฟิลิิปปินส์ 6 เดือน ขับรถเองได้  Ticket มา 2 ใบข้อหาล่ะ 2000 Peso แพงมากมายแล้วที่จ่าย 2000 นี่ใต้โต๊ะนะครับ ครั้งแรก ขับรถอยู่เลนส์กลับรถแล้วเบี้ยงมาเลยส์ตรง อีกครั้งขับรถผิดเข้าเลนส์รถเมลล์ครับ แต่เวลาขับรถที่ฟิลิปปินส์เวลาคุณคขับรถคุณจะได้ยินเสียงแตรเป็นปกติเลยครับ ไม่รู้จาบีบทำไมกันนักหนา ส่วนเรื่องรถติดนั้นมากมายกว่าเราเยอะครับ จากคุณ : Trio Gold (ton9718) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 10:23:26

ความคิดเห็นที่ 28 ู^ ^ ให้โลกรู้ว่า เมืองไทยมีดี อะไร จากคุณ : Eastern Far away เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 10:25:15

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นกระทู้ที่ดีครับ ได้รู้อีกแง่มุมของประเทศที่พัฒนาแล้ว ปล.ถ้าผมไปขับที่นั้นคง เลวขั้นเทพ แน่ๆเลย อิอิอิ+ ขนาดขี่ใน กทม รถติดๆ ยังเลื้อยเป็นงูเลย จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:28:58

ความคิดเห็นที่ 30 1.เมืองไทยให้คนลงไปยืนจองที่จอดได้ 2.เมืองไทยเอารถไปจอดหนีน้ำท่วมบนสะพานข้ามแยกได้รวมถึงทางด่วน 3.เมืองไทยไม่ต้องรอเข้าคิว ไปปาดไปแทรกเอาข้างหน้าได้ 4.เมืองไทยขับไปโทรไป ก้อได้ 5.เมืองไทยขับรถไปไล่ยิงใครก้อได้ จับไม่ได้หรอก 6.เมืองไทยปิดถนนหลวงแข่งรถได้ด้วย มีแว้นซ์เพียบ 7.เมืองไทยป้ายห้ามจอดคือป้ายหยวนๆจอดได้ ขาวแดงคือขอบถนนมีเมนส์ 8.เมืองไทยเมาแล้วขับรถได้สบาย นานๆมีด่านที จากคุณ : ซาสิ้ว เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:36:59

ความคิดเห็นที่ 31 แหะๆๆๆ ลองเข้ากระทู้นี้เล่นๆ เจออีกแล้วครับ  ลุงดราม่า หรือ ลุงทิน ปลาทู ไม่เคยเปลื่ยนเลยน่ะลุง เค้าถามลุงดีๆ ก็ด่าพ่อ ด่าแม่ ซะงั้น  จากตรงนี้ http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D11422460/D11422460.html กระทู้นี้ ก็เป็นประโยชน์สำหรับคนไม่รู้อย่างตะโก งั้นขอตะโก อ่านอีกรอบก่อนครับ ขอบคุณ จขกท ครับ จากคุณ : ตะโกครับ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:38:36

ความคิดเห็นที่ 32 เคยขับในหลายๆ ประเทศของยุโรป เป็นเวลาพอสมควร และเคยเห็นหลายๆ กรณีที่ทำเอาแปลกใจ ที่ผมชอบมากเป็นเรื่องของการต่อคิว และไม่แย่งกันครับ เค้าแบ่งๆ กันไป บางที่รถเยอะแต่มันจะไม่ติด ผมว่าประเทศไทยทำได้ครับ เริ่มต้นที่ตัวเราเองเนี่ยแหละ อย่าฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่เปิดเลนใหม่ ไม่แซงเส้นทึบ แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้บังคับกฎ ต้องปฏิบัติตนให้มีประสิทธิภาพครับ ลงโทษผู้กระทำผิดอย่างตรงไปตรงมา เอาง่ายๆ ถามคนในนี้หน่อย ใครเคยโดนตัดแต้มบ้างครับ กฎมันก็ดีอยู่ แต่ไม่ใช้ มันก็เหมือนไม่มีกฎนั่นแหละครับ จากคุณ : Anonymous เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:41:00 A:49.49.136.4 X: TicketID:108591

ความคิดเห็นที่ 33 มาเลเซียเค้าก็คล้ายๆบ้านเราละครับ แต่จะมีส่วนดีอยู่หน่อยตรงที่เค้าดู..จะมี น้ำใจมากกว่าหน่อยในเรื่องการให้ทาง อะไรแบบนั้น พวกเร่งเครื่องตอนไฟเหลืองก็ไม่ต่างกะบ้านเรา ขับเร็วเกินกำหนดบน High way ระหว่างเมืองก็มีเยอะโดยเฉพาะ Benz BM Lexus และรถยุโรปราคาแพงๆ แต่จะไม่ค่อยได้เห็นในรถประจำชาติอย่าง Proton ,Perodua ขับรถเข้ามาเลย์ก็ให้ทำตามสำนวนเข้าเมืองตาหลิ่วได้เลย ... จากคุณ : Dare More เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 22:38:30

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาฮา...กับ 26 หนึ่งในนั้นคือแม่เราเองจ้า...ฮ่าๆ เราเองก็เข้าใจแบบนั้นมาตลอดนะ...เพิ่งรู้จิงก็วันนี้ล่ะ ปล.ตอนสอบไปขับขี่ไม่เจอรูปนี้ในข้อสอบอ่ะ...ไม่งั้นก็คงผิดอ่ะ จากคุณ : ยืมเพื่อน (SHeDAMe) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 23:52:26

ความคิดเห็นที่ 35 มารยาทในการขับรถของคนอังกฤษดีจริงๆครับ ยิ่งในสก็อตแลนด์ดีมากๆ ส่วนตัวขับที่อังกฤษมาได้ 1 ปีแล้ว จากที่เคยขับรถเมืองไทยติดนิสัยแย่ๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองแบบที่ จขกท. บอกจริงๆครับ ที่อังกฤษจะมีบัสเลนท์ ทำให้ผมนึกถึง BRT บ้านเรามากๆๆ บัสเลนท์เนี่ยห้ามรถส่วนบุคคลวิ่งเด็ดขาด ยังไงก็ห้ามละครับ วิ่งโดนจับแน่นอน คนที่นี่ก็ต่อกันเป็นระเบียบถึงแม้ว่ารถจะติดก็ไม่เข้าไปใช้บัสเลนท์ ก็จะต่อคิวอยู่อย่างงั้น ถือว่ามีระเบียบวินัยมาก ซึ่งตรงนี้ต้องยอมรับว่าต้องจากเมืองไทยโดยสินเชิง อีกอย่างก็ตามที่ จขกท บอกนะครับเข้าผิดเลนท์แค่เปิดไฟเลี้ยวขอทาง คนที่นี่ก็ให้ไปง่ายๆ แต่เมืองไทยนี่ผมแทบจะเอารถเข้าไปสีกับอีกคันหรือก้มกราบ อีกอย่างนึงก็เวลาเขาให้แล้วเข้าเลนท์แล้ว ถ้าเราเปิดไปฉุกเฉิน 1 ครั้ง นั่นหมายถึงแสดงการขอบคุณกับรถคันหลังที่ให้เราเข้าเลนท์ครับ แต่สิ่งนึงที่ผมเบื่อมากที่สุดในการขับรถที่นี่คือ ตำรวจ! เข้าใจว่าเขามี reccord ของผมไว้แต่ก็เรียกตลอดเวลา และต้องอธิบายสิ่งเดิมๆ อันนี้น่าเบื่อและเสียเวลามากครับ (อันนี้เรื่องยาว ขอละไว้ครับ) เรื่องที่จอดรถของที่นี่ถือว่าเรื่องใหญ่เลยละครับ ถ้าไม่ยอดเหรียญเสีย ticket ให้ดีๆ หรือ กะเวลาให้เหมาะๆ อาจจะโดน ticket จากตำรวจเอา ส่วนตัวผมยังไม่เคยโดนนะครับ แต่เห็นเพื่อนโดนไปแล้วเบาะๆก็ 3,000 บาท หรือไปจอดผิดที่ ก็เอารถมายกรถคุณไปเลย โหดดีแท้ ต้องไปรับรถออกจากอู่เสียค่าประกันรถเกือบ 10,000 บาทโดยประมาณ หรือถ้าคุณไปจอดรถคนพิการ แล้วถ้าคนพิการมาจอดไม่ได้ แล้วเขา report ไปถึงตำรวจก็โดนหนักเช่นกันครับ คนที่นี่ให้เกียรติคนพิการกับครอบครัวมากๆ ส่วนตัวลึกๆ ผมว่าคนไทยขับเก่งกว่าคนอังกฤษเยอะนะครับ คนอังกฤษยังเงอะๆงะมีให้เห็นบ้าง ยิ่งตอนจอดเนี่ยไม่ต้องสืบ คนไทยจอดเก่งกว่าเป็นไหนๆ คนที่นี่ถนัดเอาหัวเข้าซองซึ่งต่างจากบ้านเรา รถจอด 10 คันเอาหัวเข้าสัก 8 คัน ที่แรกผมก็งงว่าทำไมคอนที่นี่จอดรถประหลาด ที่ไหนได้ จอดแบบนี้เขาจะได้เก็บของสะดวก เลยถึงบางอ้อเลยครับ ยังมีอีกมากมายที่เมืองไทยต่างจากอังกฤษครับ แต่คนที่นี่เหมือนเขาไม่มีต่อมโกรธโมโหกัน เขาก็เลยไม่ถือสากันเท่าไหร่ครับ จากคุณ : A t a m a ' Z เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 07:23:16

ความคิดเห็นที่ 36 เอ่อ อันนี้อธิบายให้เข้าใจนะครับ เรื่องจอดรถเกินเวลาคนที่ให้ทิกเก๊ตไม่ใช่ตำรวจนะครับ เขาเรียกว่า trafic warden เป็นลูกจ้างของท้องถิ่นครับ ถ้าเคยเรียนขับรถเขาก็จะสอนจะอธิบายชัดเจน อันนี้เมืองไทยก็เคยจะคิดทำแต่ไม่สำเร็จเสียอย่างนั้น เพราะคงเรื่องศักดิ์ศรีมัง ตอนที่ทำตำรวจเทศกิจ หรือดับเพลิง ผมจำได้ว่าที่เมืองไทยนี่มีกระแสต้านครับ แต่ลองดูอังกฤษเป็นตัวอย่างว่ามันสำเร็จได้จริง ไม่นับ กิจการรถไฟ ไฟฟ้า ประปานะครับ นอกเรื่องเอาว่าที่อังกฤษนี่เรื่องที่จอดรถเป็นเรื่องน่าปวดหัว ไอ้ไปคอยเติมมิเตอร์นี่บางที่ก็ทำไม่ได้ ภาษาเขาเรียกว่าฟีดดิง ตัวมิเตอร์เองบางที่จะมีตาคอมพิวเตอร์ไว้นับเลย หรือบางที่ก็ใช้ warden พวกนี้มาคอยจดหละครับเขาให้จอดชั่วโมง หรือสองชั่วโมงก็ต้องย้ายรถจริง ไม่อย่างนั้นก็โดนแปะใบสั่ง ที่น่นเขาถึงมีขายพวงกุญแจสำหรับนับเวลาจอดครับ พอถึงเวลาก็จะร้องเตือนครับ ลองหาตามร้านซุปเปอร์มาเก๊ตดูครับ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 08:38:44 A:27.55.0.137 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 37 เราเคยอ่านข่าว ชาวต่างชาติข้ามถนนที่แยกราชประสงค์ ถูกรถชนตาย..... แค่นี้เราก็รู้แล้วละค่ะว่า บนถนนคนไทยไม่มีน้ำใจค่ะ ข่าวต่อๆกันมาก็ยิงกันเพราะเรื่องแซงแล้วไม่ยอม.... มันไม่ใช่แค่กฎค่ะ ตอนนี้ขับรถต้องใจเย็นค่ะ อย่ามีปัญหาถ้า ขับช้าก็โดนบี้ตามมาติดๆ บีบแตรไล่ ขับเร็วก็โดยมันปาดกลับ โดนบีบแตรไล่ คนไทยเหมือนกับว่า ถ้าขับรถแบบคนอังกฤษขับคงจะยากนิดนึง (รอไปเถอะ) เพื่อนเรา 2 คน ไปอยู่ตปท. อยู่ไป 4-5 ปี ยังคงสอบเอาใบขับขี่ไม่ผ่าน ผัวก็ด่าเช้า เย็น เพราะ course เรืียนแพง แล้ว เจือกโง่อีก แต่เวลาถามเพื่อนมันกลับบอกว่าที่นี่แมร่งกวนตรีน.....จะออกซ้ายมันต้องให้ตรูดูซ้าย แล้ว ดูขวา แล้วดูซ้ายอีกที่ถึงออกรถได้.....ตรูเวียนหัว จอดรถก่อนเข้าวงเวียนต้องห้างเกินเส้น อะไรเทือกนี้....สอบตกไป 3-4 ครั้ง ถึงกับถอดใจค่ะ ไม่ขับก็ได้ ต้องบอกว่าคนไทยมีน้ำใจนะค่ะ ใจดี แต่อยู่บนถนนปีศาจจะเข้าสิง......จิตวิญญาณแห่งความดีจะออกจากร่าง......... พอจอดรถ มันก็จะกลับมาเป็นคนเดิม.. แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 15:28:33 จากคุณ : L'hivre เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:26:14