ความคิดเห็นที่ 1 ว่ากันคร่าว ๆ เครื่องยนต์นี้ ดียังไง ? 1. เครื่องเบามาก ๆ แค่ 134 Kg 2. ขนาดกระทัดรัดมาก ๆ (ทัศนาขนาดตัวจริง แบบ 1 module จากรูปได้เลยครับ) 3. สร้างแรงม้า 325 แรงม้าที่ 3500 รอบ (แก้ไขหัวข้อกระทู้ครับ เขียนผิดเป็น 350 HP) 4. แรงบิด 900 Nm ลองเปรียบเทียบเล่น ๆ กับเครื่อง Benz CL 63 AMG กว่าจะสร้าง 900 Nm ได้ต้องใช้เครื่องความจุ 5.5 L กับน้ำหนักตัวกว่า 200 KG Note: เนื่องจากไม่มีข้อมูลเรื่องเทียบเป็นเครื่องกี่ลิตร คิดคำนวณเอาเอง จากลูกสูบ bore 100mm ปริมาตรของกระบอกสูบ ทั้งสองสูบ น่าจะเป็น 1.2 x 2 = 2.4 L น่ะครับ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:12:00

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องยนต์นี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ว่ากันว่าเครื่องนี้ ถ้ามามาแปะไว้ในรถยนต์ eco car จะประหยัดได้ถึง 42 กิโล/ลิตร จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:15:40

ความคิดเห็นที่ 3 หลักการทำงานของเครื่องยนต์  ก็คือไม่มีฝาสูบ แต่เอาลูกสูบอีกลูกหนึ่งไปไว้ที่หัวแทน และเคลื่อนที่ย้อนกลับมาหาลูกสูบอีกด้านได้ ทำให้ระยะชักเหลือแค่ครึ่งเดียว จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:20:12

ความคิดเห็นที่ 4 เจอแต่เครื่องOpposedธรรมดา ตามเครื่องบินเล็ก อันนี้...น่าสนใจ จุดระเบิดคงรุนแรงมากๆ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 01:23:59 จากคุณ : โท๊ต9116 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:23:06

ความคิดเห็นที่ 5 1 module มีสองกระบอก สี่ลูกสูบ เอามาต่อกันได้ เป็น 2 module มีคลัชตรงกลาง ซึ่งจะสามารถทำงานแยกกันได้ แปลว่า สมมติว่า รถติด ๆ ก็หยุดการทำงานซะชุดหนึ่ง แบบนี้หยุดจริง ๆ ครับ ซึ่งจะไม่เสียพลังงานในการหมุนด้วย ซึ่งแตกต่างจากพวก Benz 8 สูบที่หยุดทำงาน 4 ได้แต่ลูกสูบอื่น ๆ ก็ต้องเคลื่อนที่ไปด้วยเพราะอยู่บนเพลาข้อเหวี่ยงเดียวกัน จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:24:57

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.ecomotors.com/videos/opoc-dual-module ฟังในวิดีโอบอกว่าจะทำให้รถยนต์ทั่วไปวิ่งได้ 100 Mile per gallon ก็ ประมาณ 42 km/liter และถ้าอ่านพวก Wikipedia, Google ต่อไปอีก ก็จะพบว่า คนประดิษฐ์เครื่องนี้ จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรใหม่ แต่เอาแนวคิดที่มีมาเป็นร้อยปีแล้วมาปรับปรุง และแกก็คงจะทำได้จริงๆ เพราะแกเป็นคนที่พัฒนาเครื่อง Diesel กับเครื่อง VR6 ให้ค่าย Volkswagen แถมมีตังค์พี่ Bill Gate และพรรคพวกหนุนหลังอีก แต่จะมาถึงมือผู้บริโภคเมื่อไหร่... ก็ไม่อาจทราบได้ จากคุณ : PS406 (Bhumisri) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:27:51

ความคิดเห็นที่ 7 เครื่องนี้เอาข้อดีของเครื่อง 2 จังหวะ ได้แรงม้า แรงบิดทุกรอบ มารวมกับข้อดีของเครื่องเครื่อง 4 จังหวะ คือมลพิษต่ำ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:32:17

ความคิดเห็นที่ 8 คล้ายเครื่อง 2 จังหวะของมอไซด์รุ่นเก่า ดูๆแล้ว ไม่เวิร์คในโลกของความเป็นจริง เพราะ push rod ไม่ได้อยู่ในแนว center ของลูกสูบ แต่ต่อไปผลักจากด้านข้างเอา ใช้ไม่นาน สลักยึดก็ทนไม่ไหวพังไปก่อน เครื่องยนต์แบบปกติ ถ้าเงินพันล้านบาท ทำได้แค่เนี๊ยะ เสียดายตังค์น่ะ เอาไปให้จีนแดงทำเครื่องต้นแบบอาจจ่ายแค่ 20 ล้านก็เหลือๆ ไม่งั้นให้กิมจิเกาหลีทำให้ไป 40 ล้านเลยเอ้า รึสุดๆส่งให้พี่ยุ่นทำร้อยล้าน ฮอนด้า โตต้ารีบบอกมาเลย ส่วนเงินที่เหลือ เอาไปเปิดฮาเร็มไว้ปรนเปรอสาวๆ จากคุณ : แบบนี้ดีกว่าน่ะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:35:12 A:58.9.67.80 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 9 จัดลงF1คงแจ่มครับ จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:35:49

ความคิดเห็นที่ 10 คห. 6 ใช่แล้วครับ เครื่องยนต์แบบนี้มีมานาน แต่ก็มีการพัฒนาการไปเรื่อย ๆครับ พวก Doxford มีมาเป็นร้อยปี แล้วแต่ที่พัฒนามาใหม่นี่การวางตำแหน่งอื่น ๆ ที่ต่างกันครับ เช่น doxford ใช้ 2 เพลาข้อเหวี่ยง ทำให้เครื่องมันใหญ่โต ดู Animation ที่นี่ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/File:Opposite_piston_engine_anim.gif แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 02:23:00 จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:39:18

ความคิดเห็นที่ 11 Peter Hofbauer เป็นวิศวกร ที่ Volkswagen AG มายี่สิบปี ตอนนี้ เค้ามาเป็น CTO (Chief technology officer) เพื่อนำความคิดของเค้า มาสร้างเป็นนวัตกรรมที่ทำงานได้จริง วีดีโอที่เค้าอธิบายการทำงานเครื่องยนต์ที่เค้าพัฒนาขึ้นมา จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:45:53

ความคิดเห็นที่ 12 ลืมแนบ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:46:30

ความคิดเห็นที่ 13 แหง่ววว ทำมายไม่ขึ้นอ่ะ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:48:07

ความคิดเห็นที่ 14 งั้นเอาเป็น link ไปแทน 1. http://www.youtube.com/watch?v=5Y8QqeuvArE 2. http://www.youtube.com/watch?v=buX89nlww2E แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 01:53:57 จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 01:49:57

ความคิดเห็นที่ 15 Clip EM100 ตอนทดสอบ http://www.ecomotors.com/videos/ecomotors-em-100-benchtesting จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:12:15

ความคิดเห็นที่ 16 325 กับ 650 แรงม้า  ตัวหลังนี่เป้าหมายสำหรับรถบรรทุก จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:15:36

ความคิดเห็นที่ 17 น่าสนใจดีครับ การใช้งานระยะยาว ก็ต้องดูกัน  ตรงที่ต่อ rod ออกมาจากลูกฯ ตรงนั้น น่าจะโดนงัดพอสมควรเลย ไม่รู้เขาแก้ยังไง จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:20:08

ความคิดเห็นที่ 18 เทสกันหนัก จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:31:54

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบคห. 8 และ 17 Peter ได้จดสิทธิบัตรเรื่องการป้องการ side force ไว้แล้วโดยการออกแบบ ตัวร่องนำเอาไว้ (Guided Bridge) จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:49:38

ความคิดเห็นที่ 20 ลืมรูปครับ ไฟล์เต็ม http://www.freepatentsonline.com/20100229836.pdf ได้ผลไม่ไป ก็รอนู่นแหล่ะ ตัวจริงออกมาให้เราได้ใช้ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 02:50:51

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่งได้สิทธบัตรไปเมื่อสามสี่เดือนที่แล้วครับ เครื่องปั่นไฟจากเครื่องยนต์ OPOC โหลดไม่เยอะใช้ Module เดียว โหลดเยอะ Module ที่ 2 ทำงานช่วย จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 03:10:03

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าท่านะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:46:04

ความคิดเห็นที่ 23 ทฤษฎีได้ครับ   การใช้งานจริงต้องรอดูกันยาวๆ ค่าใช้จ่ายจริงต้องรอลุ้นว่าบานรึเปล่า แมนทาแน๊นท์เป็นไงไม่รุ ส่วนตัวชอบครับ... จากคุณ : น้ำท่วมจ้า เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:48:34

ความคิดเห็นที่ 24 หากเปนจริง ก็ขอได้รับคำขอบคุณจากชาวโลก ยังไงก็ดีที่ได้คิดนะครับ (Segway ผมรอซื้อของถูกๆ สักหมื่นกว่าบาท ทำไมไม่ทำมาขายสักที) จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:50:07

ความคิดเห็นที่ 25 ทำแบบเล็กๆแค่ 100KW เอาไว้ปั่นไฟใส่รถ Hybrid ก็น่าจะพอนะ เล็กๆเบาๆประหยัดน้ำมัน จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:53:49

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่ากี่ km/l ก็ชั่งมันคงไม่โตหรอกเพราะน้ำมันกำลังจะหมดโลก จากคุณ : เค้าล้อเล่น (fatman144) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 08:59:03

ความคิดเห็นที่ 27 เจ๋งดีคับ ขอบคุณ จขกท. จากคุณ : NOTTO เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:21:29 A:203.151.101.76 X: TicketID:182253

ความคิดเห็นที่ 28 ขอขอบคุณ จขกท ครับ ได้ข่าวว่าบริษัท รถในจีนจะซื้อลิขสิทธิไปผลิตครับ ถ้าทำออกมาขายตอนนี้ ก็คงแซงหน้ารถยนต์จากทุกประเทศละครับ  สำหรับญี่ปุนขอทำแก๊สโซลีน ฉีดตรงพ่วงเทอร์โบก่อน  ตอนนี้ตามเกาหลีไม่ทัน รถยนต์ที่เคยขายดีในเมกาก็ไม่พุ่งหมือนเก่าเพราะเครื่องยนต์โบราณพอกับไอ้กัน อิอิ ขอแซวกองเชียร์ซามูไรหน่อยนะครับ แต่ผมก็ยังใช้รถญี่ปุ่นเหมือนเดิม จากคุณ : ลำไพล47 (ลำไพล47) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 29 ก็เหมือนเอาเครื่องมอเตอร์ไซค์ มาหันหลังต่ออนุกรมกันล่ะครับ และก็ทำให้เครื่องเล็กลงโดยการเปลี่ยนการฝาสูบไปเป็นลูกสูบตัวบนเคลื่อนที่ลงมา   ต้องคอยดูการทดสอบกับรถจริงๆ ตัวถังหนัก 1.5 ตัน ด้วยครับ ว่าไหวหรือเปล่า   ส่วนราคาน้ำมันอย่าหวังไปเลยครับ สมมุติ ทำเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันน้อยมาได้จริงๆ สุดท้ายราคาน้ำมันก็ต้องปรับขึ้นมาเอง  เพราะโอเปคก็จะผลิตน้ำมันออกมาน้อย นั่นก็คือ ยังไงเราก็จ่ายค่าเชื้อเพลิงเท่าเดิมครับ แต่จะมีข้อดีคือ เรายังมีน้ำมันใช้ไปอีกหลายปี แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 10:23:45 จากคุณ : The Peak เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 10:21:06

ความคิดเห็นที่ 30 ท่าน เฮียมี่ ครับ ๑๐๐ kW นั่นมันราวๆ ๑๓๔ Hp เชียวนะครับ ดูตามโครงสร้าง ผมว่ามันน่าจะราคาถูกกว่าเครื่องยนต์ ธรรมดานะครับ เพราะ เพลากลางสั้นกว่าเยอะครับ ฝาสูบ แบบเดิมๆ ก็ไม่มี ห้องเผาไหม้ก็หายไปครึ่งหนึ่ง ถ้าแพงกว่า คงเป็นเรื่องตั้งราคาอัดไปสู้เฉยๆ เหมือนกับ ยุคที่ซีดี ขายแพงกว่าเทปนั่นแหละครับ ต้นทุนมันไม่น่า เป็นไปได้ครับ ขายค่าความใหม่ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 11:04:01

ความคิดเห็นที่ 31 เอามาใส่ฟอร์จูนเนอร์ อิ๊ๆ จากคุณ : card_deb เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:19:26

ความคิดเห็นที่ 32 เข้าใจคิดแฮะ ไม่ต้องมีฝาสูบใช้ลูกสูบ นับว่าสุดยอดมากเลย จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:35:05

ความคิดเห็นที่ 33 น่าสนใจมากครับ ต้องรอดูในระยะยาว เชื่อว่าอีกไม่นาน  ถ้าบริษัทรถยนต์ฝั่งยุโรปหรือญี่ปุ่นซื้อลิขสิทธิ์ไปผลิตเมื่อไร  คงได้เห็นเครื่องแบบที่ว่า ลงแข่งในรายการ endurance อย่าง Le mans    เป็นการทดสอบสมรรถนะและความอึดไปด้วย จากคุณ : CLK BRABUS เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:35:19

ความคิดเห็นที่ 34 ป้าด...เครื่องร้อยกว่าโล ได้สามร้อยกว่าม้า เอ่อ... ขายเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ ถ้าราคาไม่แรง จะเทิร์นคันเก่ารอ จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:51:25

ความคิดเห็นที่ 35 R&D ที่แพงคิดว่าไม่ใช่เพราะทำยังไงให้เครื่องยนต์ทำงานได้ แต่เพราะทำยังไงเครื่องยนต์ถึงจะทนทาน จากคุณ : naipui เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 12:52:25

ความคิดเห็นที่ 36 ดีกว่า ไม่คิดพัฒนาอะไรเลย จากคุณ : Poprock Engineer เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:12:04

ความคิดเห็นที่ 37 ความคิดเห็นที่ 7 พอดูรู้เรื่องนะครับ แต่ภาพตาม ความคิดเห็นที่ 10 ผมไม่รู้เรื่องอะ เพลามันอยู่ไหนหว่า จากคุณ : เท่ดี (cud28) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 13:22:30

ความคิดเห็นที่ 38 เอาไว้มีล้อครบสี่ล้อแล้ววิ่งได้เบรคอยู่แอร์เย็น   แล้วค่อยมาคุยได้ปะ จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:04:39

ความคิดเห็นที่ 39 แรงดีแต่ห่วงเรื่อง ความต่อเนื่องของแรง หนะครับ แต่ก็ถือเป็น ข่าวดีนะเนี่ย.. จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:34:33

ความคิดเห็นที่ 40 นึกถึง มาสด้า ตอนที่เข็นเอาเครื่องโรตารี่ ออกมาเลยครับ สิ่งที่มาสด้าหมดไปทั้งเงินทั้งเวลามากที่สุดก็คือ ทำยังไงให้เครื่องยนต์โรตารี่มันทนทาน และใช้งานได้จริงๆนี่แหละ และหนึ่งในวิธีที่มาสด้าทำให้เครื่องโรตารี่เป็นที่ยอมรับกันก็คือ จับมันลงสนามแข่ง เลอมังค์ ซะเลย ใครจะมาว่า เครื่องโรตารี่ไม่ทน วิ่งสู้เครื่องลูกสูบธรรมดาไม่ได้ ก็ซัดบนสนามแข่งให้รู้เรื่องไปเลย คาดว่าเจ้าเครื่องตัวนี้ ในอนาคตคงได้เห็นออกมาแน่ๆ จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:40:47

ความคิดเห็นที่ 41 เช้ามาอ่าน ^^ จากคุณ : starjoke20 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 16:31:55

ความคิดเห็นที่ 42 หาเรื่องรวยอีกแล้วนะบิลเกต จากคุณ : opp เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:23:37 A:58.8.202.73 X: TicketID:330558

ความคิดเห็นที่ 43 เปลี่ยนแหวนทีนึงหน้ามืดแน่ จากคุณ : แป้นเล็ก เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:23:42

ความคิดเห็นที่ 44 เรื่องแข่งเลอร์มัง  ผมจะบอกอะไรให้ แข่งงานนี้  มันมีอะไรที่ประหลาด พวกทีมค่ายใหญ่ๆ ก็มาแข่งบ้างไม่แข่งบ้าง และกติกาแข่ง  ก็ไม่ได้ยุติธรรมกับรถทุกแบบ ปีไหนใครแข่งชนะ  ถ้าอยากรู้ว่าชนะได้ไง ข้อแรก ให้ไปดูว่า มีคู่แข่งที่เป็นทีมใหญ่ๆหรือเปล่า ต่อมา ให้ไปดูกติกา ว่าเอื้อกับรถที่ชนะหรือไม่ เรื่องโรตารี่ ผมขี้เกียจพูดละกัน เพราะเรื่องมันเก่าแล้ว เอายุคใกล้ๆปัจจุบันหน่อย  ที่ Audi ทำเครื่องดีเซลวิ่งชนะ อันนี้ไม่ต้องไปดูคู่แข่งให้เสียเวลา   ให้ดูที่กติกาก็จะเห็นว่ามันเอียงให้เครื่องดีเซลชนะได้ง่ายขึ้นแบบชัดเจน จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:33:37

ความคิดเห็นที่ 45 สุดยอด จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 21:54:07

ความคิดเห็นที่ 46 โรตารี่ ทำยังไงก็แป๊ก เพราะมันใช้งานจริงๆแพ้ลูกสูบปกติ ทั้งเรื่องกินน้ำมันและความทนทาน รวมถึงแรงบิดในรอบต่ำ เอาเข้าจริงๆไม่เวิร์ค เลยหายไป เครื่องนี้ก็เหมือนกัน เรื่องแก้ไ side force จขกท.ยังไม่ทันพูดออกมา ผมก็นึกได้แล้ว คือใส่น่องแบริ่งขวางตามยาว แต่ถ้าผมคิดได้ มันย่อมเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเกินกว่าที่จะใช้ได้จริง เพราะพวกฝรั่งมันคงหาวิธีแก้มาหลายสิบหลายร้อยปี ดังนั้นไร้ประโยชน์ จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:18:31 A:58.11.8.152 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 47 นวัตกรรมเกิดจากสิ่งที่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทำให้มันเป็นไปได้ มี R&D เพื่อสานต่อนวัตกรรมที่สร้างขึ้น เพื่อให้สานฝันมันใช้งานได้จริง ผมว่านี่เป็นเรื่องดี มากกว่าไร้ประโยชน์ ขอบคุณ จขกท ฮะ จากคุณ : ^Nobi^ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:48:32

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนกดเต็มสามร้อยม้า ไม่มีทาง 42 km/l แน่นอน จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:57:15

ความคิดเห็นที่ 49 ดูการทำงานแล้ว แจ่มมาก  แต่ปัญหาอยู่เรื่องความทนทานอย่างที่สงสัยกัน  แต่เรื่องความ "เทพ"  จัดว่าเทพจริงๆ เท่าที่ดูๆมา เครื่องยนต์ทั่วไป  อัตราส่วนแรงบิดกับขนาดความจุของเครื่องยนต์อยู่ีที่ ราวๆ 7:10  คือ ถ้าเครื่องยนต์มีความจุ 2000 ซีซี จะมีแรงบิดเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 14 กก-เมตร หรือราว 140nm/2000 ซีซี เครื่องตัวนี้ มี 900nm แถมความจุแค่ 1200 ซีซี    แถมได้รอบต่ำแค่ 3500 รตน ไม่เทพ ก็ไม่รู้ว่าไงแล้ว จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:10:15

ความคิดเห็นที่ 50 จะได้มีโอกาสใช้ก่อนโลกแตกไหมนะ ... จากคุณ : internetsmile เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:48:01

ความคิดเห็นที่ 51 ดูทีแรกนึกว่าเครื่อง Boxer แต่ดูไปดูมามันไม่ใช่นี่นา จากคุณ : tunera เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:53:46

ความคิดเห็นที่ 52 คงไม่ถูกใจสำหรับ ขาชอบลากรอบ  อิอิ จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 08:53:07

ความคิดเห็นที่ 53 ขออภัยอย่างสูงครับ บางความคิดเห็นไม่เห็นต้องออกความเห็นเชิงดูถูกเลยก็ได้นี่ครับ เช่นว่า "ก็แค่ อย่างนั้น ก็แค่อย่างนี้" ก็ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่ท่านแสดงออกมาไม่ดี เพียงแต่ว่า ไม่เห็นจะต้องออกความเห็นเชิงดูถูกดูแคลน เลยก็ได้ครับ เพราะ มันทำให้คิดว่า ท่านน่าจะทำได้นะ ง่ายๆแค่นี้ ถ้าท่านมีเงิน หรือเปล่าครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : คนผ่านมา (ผมมีแค่ร้อยทิป) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:08:03

ความคิดเห็นที่ 54 ถูกใจความเห็นที่53จัง แนวทางของมันก็ตรงกับกระแสการพัฒนาในปัจจุบันนี้ที่ลดขนาดความจุลงแต่เพิ่มกำลังด้วยเทอร์โบและให้อัตราการใช้น้ำมันที่ลดลงเรื่อยๆ คนในเว็บบอร์ดบางคนนี่เก่งกันจังรู้ดีกว่าทีมพัฒนาวิจัยที่หมกมุ่นกับมันมาเป็นปีๆเสียอีก..... ดูถูกกันเข้าไปเหอะระวังสุดท้ายตัวเองจะต้องกลืนน้ำลายเพราะมันจะกลายเป็นต้นแบบเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่จะใช้กันในอนาคต ถึงเวลานั้นอย่าซื้อนะคร้าบบบบ จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:39:37 A:202.149.29.81 X: TicketID:341456

ความคิดเห็นที่ 55 ถึงคุณ penn's อยากเพิ่งรีบดูตัวเลขความจุแล้วตกใจ เพราะเครื่องยนต์แต่ละประเภทมันมีการทำงานไม่้้เหมือนกัน อย่างเครื่อง Rotary กลวัตรมันน้อยกว่าเครื่องลูกสูบ 4 จังหวะอยู่ครึ่งนึง ถ้าดูแค่ความจุของเครื่อง อาจจะตกใจ ว่าเครื่องแค่ 1300cc ทำไมมันมีแรงได้ขนาดนั้น แต่พอมาดูปริมาณการประจุไอดี  ก็จะเห็นว่ากำลังที่มันได้ออกมานั้นมันไม่เ้ท่าไหร่เลย สำหรับเครื่อง Rotary ถ้าเทียบกับเครื่องลูกสูบ 4 จังหวะ  ต้องเอาความจุคูณด้วย 2 จากที่เห็นว่ามีแค่ 1300cc มันก็จะกลายเป็น 2600cc แต่พอเอาไปเทียบกับเครื่อง 2600cc ในด้านกำลังและประสิทธิภาพมันก็จะด้อยกว่าทันที สรุปง่ายๆว่า อย่าดูแ่ค่ตัวเลขความจุของเครื่อง  แต่ให้ดูที่ประสิทธิภาพในการแปลงพลังงาน สำหรับชาวบ้านก็ดูง่ายๆคือ อัตราสิ้นเปลืองกับกำลังที่ได้ เครื่องเล็กแค่ 1000cc  มีแรงเท่ากับเครื่อง 3000cc  แต่กินน้ำมันมากกว่าเครื่อง 3000cc มันก็ถือว่าไม่ได้เรื่องครับ แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 12:01:53 จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:00:48

ความคิดเห็นที่ 56 ถึงนาย ex พวกเครื่องที่ดูเหมือนประหลาด  จริงๆแล้วในโลกนี้มีคนคิดเอาไว้มานานมากแล้ว แต่สมัยที่คิดได้ มันติดกับข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่น เทคโนโลยีทางด้านวัสดุศาสตร์ หรือที่เด่นมากในยุคนี้ก็พวกเทคโนโลยีอิเล็กโทรนิคส์ที่มาใช้ควบคุม และที่สำคัญคือ ทำแล้วมันจะคุ้มกับการใช้งานหรือเปล่า ในสมัยก่อนทำหน่ะทำได้  แต่ใช้ได้ไม่ทน และไม่คุ้มจนที่จะนำมาใช้กัน  มันก็เลยอยู่แค่ในห้องแล็บ อย่างเทอร์โบ ที่เพิ่งมาเห็นตามรถบ้านๆตอนนี้  ที่มันเกร่อได้เพราะน้ำมันราคาแพง จนทำให้ค่าน้ำมันที่มันประหยัดขึ้นได้มันคุ้มกับค่าซ่อมบำรุงที่ต้องเพิ่มขึ้น สินค้าหลายๆอย่าง ที่ออกมาเป็น mass product ที่หลายคนเห่อกัน มันไม่ใช่อะไรที่ใหม่  แต่มันเป็นของที่ถูกพอจะทำมาขายแล้วกำไรดี จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:13:00

ความคิดเห็นที่ 57 ดูเผินๆคล้ายเครื่อง Boxer มาก จากคุณ : tunera เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 12:42:12

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านมาก็มีพวกแถเจ้าเดิมตามเคย จากคุณ : zaskar27 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:01:07

ความคิดเห็นที่ 59 อืม.....ก็ในเมื่อสมัยนี้วัสดูศาสตร์กับเทคโนโลยีมันไปได้ก้าวไกลกว่าสมัยก่อนแล้วไงเจ้านี้ถึงมีสิทธิที่จะมาเป็นต้นแบบของเทคโนโลยีใหม่ของรถในอนาคต แล้วมันก็ตรงกับแนวทางการพัฒนาของค่ายรถในปัจจุบันที่เค้ากำลังทำกัน ซึ่งก็ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องปฏิเสธว่ามันเป็นไปไม่ได้ๆๆๆ คนสมัยก่อนก็แบะปากตอนที่เปลี่ยนมือจากเครื่องแบบคาบูเรเตอร์มาเป็นระบบหัวฉีดดูถูกต่างๆนาๆว่าไม่ทนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วตอนนี้เป็นไง? เกร่อกันทุกยี่ห้อ เทคโนโลยีนี้ใหม่หรือเปล่าไม่สนแต่ที่สนคือมันเหมาะสมแล้วกับโลกของเราในตอนนี้ที่มีแต่น้ำมันน้อยลงและไม่สามารถลดจำนวนการผลิตรถยนต์ลงได้อีกมีแต่เพิ่มขึ้น เครื่องเล็กลงแต่ให้พลังงานมหาศาลกินน้ำมันน้อยลงมากแบบก้าวกระโดด ยิ่งมีขนาดตัวที่เล็กลงมากน้ำหนักแค่100กิโลนิดๆนั่นหมายถึงการออกแบบให้ตัวรถมีพื้นที่ใช้สอยได้เยอะกว่าเดิมอีกมากมาย จะผนวกกับระบบไฮบริดก็จะยิ่งลดการใช้น้ำมันได้มากมายยิ่งกว่านี้อีก นึกไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธเจ้านี่สักนิด??? จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:35:09 A:202.149.29.81 X: TicketID:341456

ความคิดเห็นที่ 60 ดีแน่ ทำได้ทุกอย่าง แต่คงต้องดูความดุ้มทุนของการสร้างและพัฒนาให้วัสดุแข็งแรงทนทาน เอาให้แข็งแรงมากๆก็ๆด้ เล็กมากๆก็ๆด้ แต่แพง จากคุณ : - NPie - เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:37:42

ความคิดเห็นที่ 61 ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรถยนต์ก็ได้นิครับ ถ้าอัตราส่วนกำลังได้ขนาดนี้จริง เอาไว้ปั่นไฟให้รถยนต์ Hybrid ยังได้เลยนะ >3< จากคุณ : ปังปอนด์ป่วน เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:05:06

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนแรกดูpantipดูหลักการทำงานบน iPhone น้อง   ก็เลยกลับมาเปิดคอมฯที่บ้านดูอย่างละเอียด คืออันดับแรกผมว่ามันเป็นนวัตกรรมใหม่  ที่แน่นอนจะต้องต่อยอดพัฒนาต่อๆได้ไปอีกเรื่อย ๆ ได้แน่ แต่คำถามคือมันไม่ได้มีวาล์วเปิดปิดไอเสียใช่ไหมครับ  จากการสังเกตุมันมีพอร์ทไอดีไอเสียอยู่ตรงลูกสูบที่ไม่ได้พลิกหัว(ขอเรียกอย่างนี้แล้วกันนะ  ลูกที่สีน้ำเงินอ่ะ)พอเลื่อนลงจะไปที่ BDC จะเปิดพอร์ทขึ้นมา(ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าที่เราเห็นนั้นเป็นไอดีหรือไอเสีย) ถ้าเครื่องยนต์ 2 จังหวะธรรมดา  พอร์ทไอเสียจะใหญ่กว่าพอร์ทไอดี  และพอร์ทไอดีจะมีหลาย ๆ ช่อง(ยึดภาพจาก Nova Dash) และที่เครื่องยนต์นี้มีพอร์ทเล็ก ๆ หลาย ๆ ช่อง   นั่นน่าจะเป็นพอร์ทไอดี  อ่าว.. แล้วไอเสียหล่ะ? ตอนนี้ผมยังไม่ได้ดูละเอียด   แต่ผมคิดว่าเครื่องนี้น่าสนใจ น่าศึกษามากครับ ผมว่ามันต้องเจ๋ง แต่ซีซีต่ำ  ม้าจัดขนาดนั้น  บิดมาแบบเว่อร์ๆ  จิบน้ำมันอีกต่างหาก ดูแล้วมันขัด ๆ หลักวิทยาศาสตร์กันไปหน่อย แต่อย่างว่าหล่ะ  มนุษย์เราทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้  คงไม่ได้ฉีกหรือหักกฏธรรมชาติหรอกมั๊ง พลันนึกไปถึงวิชาเทอร์โมไดนามิกส์เลย     ต่อไปต้องดอดใส่วัฏจักรนี้ไปในหนังสือ โอ๊ย..  Yunus Cengle กะ Michael Boles  ปวดหัววว แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 54 18:50:42 จากคุณ : siLvan เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:46:03

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นกระทู้ในรัชดาที่ได้รับการโหวต ก็จะเป็นเรื่องความเดือดร้อนต่าง ๆ กระทู้นี้เป็นกระทู้เทคนิค วิชาการซะส่วนใหญ่  ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเยอะ จนมีคนโหวตให้ขึ้นกระทู้แนะนำ ก็ดีใจครับ เพราะอย่างน้อยค้นคว้าและการพิมพ์ของผมก็มีประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง และมันก็จะเป็นส่วนหนึ่งเล็ก ๆ ที่อาจจะจุดประกายให้คนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ได้กลายเป็นคนชอบอ่าน ขอบค้น ชอบคิด ชอบสังเกต จนอาจจะประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโลกนี้บ้าง =============================================== เพิ่มเติมต่อสักเล็กน้อยครับ สำหรับเครื่องยนต์แบบ OPOC มีนานมาก  มีหลายรูปแบบ และ มีหลายบริษัทที่พยายามทำออกมาให้เป็นเชิงพาณิชย์ คือใช้จริงให้ได้ ที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างงานที่คิดว่ามีแนวโน้มมากที่สุดที่จะใช้ได้จริง อย่างของบริษัทหนึ่งคือ Achates Power ซึ่งก็เป็นคู่แข่งของ ECO Motors จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:32:21

ความคิดเห็นที่ 64 Achates Power  ทำเครื่องยนต์แบบ OPOC เหมือนกัน แต่การออกแบบการวางเพลาข้อเหวี่ยงอาจจะต่างกันกับของ ECO Motors ทำให้ขนาดเครื่องยนต์ออกมาต่างกัน จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:47:07

ความคิดเห็นที่ 65 เครื่องยนต์แบบลูกสูบชนกัน (OP - Opposed Piston) ทั้ง ECO Motors และ Achates Power ก็มีแนวทำเครื่องยนต์ในรูปแบบนี้ เนื่องจากมีข้อดีหลาย ๆ เช่น 1. OP เป็นเครื่องยนต์รู้กันมานานแล้วว่าให้ Thermal Efficiency สูงสุดในบรรดาเครื่องยนต์สันดาบภายใน (Internal Combustion Engine -ICE) 2. ชิ้นส่วนน้อย ฝาสูบก็ไม่ต้อง วาว์ลก็ไม่ต้อง 3. เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ให้พลังงานในทุกรอบการหมุน ================================================= Achates Powers อธิบายไว้ว่าทำไมเครื่องยนต์ OP จึงมีประสิทธิภาพสูง ก็เพราะว่า - เครื่องยนต์แบบนี้ทำให้สูญเสียการถ่ายเทพลังงานน้อย (reduced heat transfer) - เมื่่อสูญเสียพลังงานน้อยกว่า ก็ไม่ต้องจ่ายเชื้อเพลิงมากเพื่อให้พลังงานที่เท่ากัน - เมื่อจ่ายเชื้อเพลิงน้อย ก็ทำให้เวลาการจุดระเบิดน้อยลง ได้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้น จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:00:48

ความคิดเห็นที่ 66 Thermal Efficiency (TM) อธิบายคร่าว ๆ หมายถึง พลังงานที่ใส่เข้าไป / พลังงานที่ได้ออกมา เช่น ใส่ไป 1 ออกมาแค่ 0.3 Thermal Efficiency ก็ = 0.3 หรือ 30% นั่นคือ เครื่องยนต์ได้พลังงาน(จากเชื้อเพลิง)ไป 1 หน่วย แต่เสียพลังงานไปในกระบวนการซะ 0.7 (หายไปเนื่องจากแรงเสียดทาน การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ฯลฯ) เหลือออกมาเป็นแรงให้ใช้จริง ๆ เพียง 0.3 เครื่องยนต์นั้นก็มี Thermal Efficiency = 30% และไม่มีเครื่องยนต์ตัวไหน ใส่ไป 1 ออกมา 1 แน่นอน (นั่นคือไม่มีการสูญเสียเลย) ============================================== โดยปกติแล้ว เครื่องยนต์เบนซิน ให้ TM ประมาณ 25% เครื่องยนต์ดีเซล ประมาณ 35% บริษัทไหนทำเครื่องยนต์ให้ได้ TM > 45% ก็หืดขึ้นคอแล้ว แต่ Achates Powers อ้างว่า เครื่องยนต์แบบที่เค้าผลิตขึ้นมานั้นสามารถ ให้ TM ได้ถึง 51% !!! จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:18:25

ความคิดเห็นที่ 67 ซึ่ง ECO MOTORS ทำได้เท่า ๆ กัน คือ 50% ซึ่งถือว่าเป็นตัว เครื่องยนต์ที่มี TM สูงที่สุดตอนนี้ (ไม่นับตัวที่ยังไม่เห็นตัวจริง ของ Perfect Motor Corp. ที่อ้างว่าได้ถึง 80%) note: เครื่องยนต์ของ ECO Motors EM100 ที่กล่าวข้างต้นที่ให้ 325 แรงม้า แรงบิด 900nm ไม่ใช่เครื่อง 1.2 L เพราะว่าต้อง x 2 ไปด้วยเพราะมี 2 สูบ (ตามที่ note ไว้ใน คห.1) แต่ ECO Motors ก็จะทำตัว 1.2L 160 แรงม้าออกมาด้วยก็น่าจะเป็น EM65 (ขนาดลูกสูบ 65mm) นั่นเอง จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:34:28

ความคิดเห็นที่ 68 มาดูเทคนิคประหลาด ๆ บ้าง เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเครื่องยนต์ 2 จังหวะไม่เป็นที่นิยม ก็เพราะการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดมลพิษเยอะ และเหตุใด เครื่องยนต์ 2 จังหวะถึงได้กลับมาให้ความสนใจอีก ??? =============================== ทั้ง Achates Power และ ECO Motors ทำเครื่องยนต์แบบไม่มีฝาสูบยังไม่พอ และที่สำคัญไม่มีชุดควบคุมวาล์ว (Valve train) ครับ ????!@!@ เลิกไปเลยสำหรับคำศัพท์เช่น SOHC DOHC 8 วาล์ว 16 วาล์ว VVTi Mivec etc. แต่ใช้รูรอบ ๆ กระบอกสูบเป็นช่องให้ไอดีเข้าและออกแทน!!! จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:50:05

ความคิดเห็นที่ 69 นี่หล่ะครับ  ไคลแมกซ์ของคำถามผม ต่อเรื่อย ๆ เลยครับรอ F5 อยู่ จากคุณ : siLvan เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 23:57:47

ความคิดเห็นที่ 70 แล้วการเผาไหม้มันจะสมบูรณ์ได้ยังไง ในเครื่องยนต์ 2 จังหวะ แล้วมันจะผ่าน euro 5 ได้เหรอ ??? มีการจดสิทธิบัตรสำหรับการทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ในเครื่องยนต์ 2 จังหวะแบบ op ไว้หลายวิธี เทคนิคที่น่าสนใจ ก็มี 2 ตัวอย่างดังนี้ 1.เกี่ยวกับการนำอากาศดีเข้า และการเชิญอากาศเสียออก เครื่องยนต์ 4 จังหวะ มี ดูด อัด ระเบิด คาย ตรงตอนคายนี่แหล่ะที่เอาสูกสูบไปดันไอเสียออก แต่เครื่องยนต์ 2 จังหวะแบบ OP ใช้เทคนิคคือ (ดูตาม Clip แนบครับ) - เอาเทอร์โบอัดอากาศดีดักรอไว้เลย (มันไม่เข้าในกระบอกสูบเพราะติดข้าง ๆ ลูกสูบ) - พอลูกสูบเลยรูช่องไอดีปั๊บ อากาศดีก็ไหลเข้ามาได้ ไล่อากาศเสียออกทางรูล่าง - พอรูล่างที่เป็นไอเสียปิด รูบนไอดียังเปิดต่ออีกหน่อยเพื่ออัดอากาศดีเข้าอีก เท่านี้ก็ทำให้ได้อากาศดีอยู่ในกระบอกสูบ จะให้ไอเสียเหลือมากหรือน้อยในกระบอกสูบ เพื่อทำให้ NOx น้อยลงก็ยังทำได้เช่นเดียวกันกับ เทคนิคการใช้ไอเสียวนเข้ากระบอกสูบ (EGR)เหมือนเครื่องยนต์ 4 จังหวะ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:07:54

ความคิดเห็นที่ 71 เครื่อง 1.2L x 2 สูบ ก็เท่ากับ 2.4 L นี่เป็นเครื่องสองจังหวะ แต่ไม่รู้ว่ากลวัตรจะเท่ากับเครื่องสองจังหวะลูกสูบหรือเปล่า ถ้าเท่ากัน ก็โดน x2 เข้าไปอีก  เบ็ดเสร็จแ้ล้วก็คือ 4.8L 4.8L ได้ 350 ม้า  คือ  73 ม้า/ลิตร  เครื่องเบนซินบ้านๆสมัยยี่สิบปีที่แล้วทำกันง่ายๆ้เลย นึกไม่ออกว่าเป็นเครื่องตัวไหน  ก็ 4A-FE นี่แหละ ส่วนแรงบิด 900 Nm  อันนี้ถือว่าดีเกือบสองเท่าเลยดีเดียว แต่รอบแรงบิดสูงสุด มาต่ำเหมือนพวกเครื่องรถบรรทุก จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:12:53

ความคิดเห็นที่ 72 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ปกติ มันก็ไม่มีวาล์วอยู่แล้ว ไม่ต่างจากเครื่องโรตารี่ ไม่มีวาล์วเหมือนกัน จากคุณ : ไม่มีอะไรใหม่ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:15:58 A:58.9.49.7 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 73 2. เรื่องการเชิญน้ำมัน แปลว่า ทำยังไงให้น้ำมันพร้อมที่จะกลายเป็นไอได้มากที่สุด เพราะคลุกเคล้ากับอากาศ ตัวนี้มีหลายเทคนิค แต่ ECO Motors เลือกใช้วิธีคือ ทำยังไงทำให้มันมันมันไปอยู่ที่จุด Critical Point (พร้อมจะเป็นไอ) ได้ดีที่สุด นั่นคือ ทำยังไงให้ แรงดันสูง และทำยังไง อุณหภูมิสูง PV=nRT ปกติอัดแรงดันสูง ๆ มันก็ร้อนอยู่แล้ว ฉีดเป็นฝอยอยู่แล้ว น้ำมันร้อน กลายเป็นไอ แต่ถ้าเกิดไปอัดเยอะเกิน ไอ้ที่เป็นไอพร้อมอยู่ อ้าว กลับมาเป็นหยดน้ำอีก ดังนั้น Peter Hofbauer ทำสองอย่าง เพื่อให้น้ำมันไปสู่จุด Super Critical State คือ 1. ก็อัดแรงดันสูง ๆ เหมือน Pump ที่ใช้ใน Common Rail อันนี้เป็นเรื่องปกติ 2.เอาความร้อนจากท่อไอเสีย มาอุ่น (น่าจะเรียกว่าต้มมากกว่า) น้ำมันแถมไปก่อนด้วย (อันนี้แหล่ะ ที่แปลกกว่าระบบอื่น ๆ) 3.ก่อนจะฉีดเข้าหัวฉีด  มีตัวหัวเผาพิเศษ เผาน้ำมันให้ร้อนขึ้นไปอีก พร้อมเป็นไอ 4. หัวฉีดพิเศษปล่อยไอของน้ำมันเข้าไป เทคนิคของอากาศและการจ่ายน้ำมันแบบนี้ ทำให้เครื่องยนต์ OP 2 จังหวะ ปล่อยไอเสียที่มีมลพิษที่ต่ำได้  ไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ 4 จังหวะ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:35:01

ความคิดเห็นที่ 74 ถ้าให้เดา หัวเผาเพิ่มอุณหภูมิเพื่อให้น้ำมันเข้าสู่ Super Critical Point กะหัวฉีดน่าจะอยู่ตำแหน่ง ดังรูปครับ จากคุณ : กลายใต้ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 00:57:25

ความคิดเห็นที่ 75 ชอบครับ กระทู้แบบนี้ จากคุณ : หลานปู่แล เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 10:24:27

ความคิดเห็นที่ 76 ผมว่ามันไม่น่าจะทนนะ แล้วอีกอย่างเครื่องสูบนอน มันสู้สูบตั้งไม่ได้ในแง่แรงดึงดูดของโลก สูบนอนมันใช้กำลังมากกว่า จากคุณ : ฟะะ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 10:25:50 A:124.121.177.232 X: TicketID:343674

ความคิดเห็นที่ 77 ได้ความรู้ดีมาก ถ้าเครื่องทนและต้นทุนถูกแถมได้ประสิทธิภาพดี ผมว่าอนาคตรุ่งแน่ จะคูณออกมาก 4.8 หรือ 9.6 ลิตร ช่างแม่ม ถ้าไปลงรถแล้วเทสได้40 โลลิตรจริง จากคุณ : Sorn มาคับ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 11:01:17

ความคิดเห็นที่ 78 ผมว่ามันทนกว่าเยอะเพราะไม่มีฝาสูบ ไม่มีพวกกลไลวาล์วที่เป็นจุดอ่อน และสูบนอนนี่แหละที่แรงดึงดูดโลกส่งผลน้อยกว่า แต่มีผลน้อยมากเทียบกับกำลังเครื่อง จากคุณ : SIXSIXONE เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 17:02:10

ความคิดเห็นที่ 79 ขอรถที่ใช้ไฟฟ้าก่อนล่ะกัน ผมเชื่อว่า รถที่ใช้ไฟฟ้า มีประโยชน์ไม่แพ้กัน ว่าแต่... PTTจะยอมหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องนึง?? จากคุณ : TearNa เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 20:57:49

ความคิดเห็นที่ 80 ...ติดตามครับๆ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย ^^ ขอบคุณครับ .. จากคุณ : bamboo601 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:03:13

ความคิดเห็นที่ 81 ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเค้าก็บอกว่า กำลังพัฒนา ให้มันเป็นไปได้อยู่ โทมัส เอดิสัน กว่าจะประดิษฐ์หลอดไฟได้ เค้าก็หาไส้หลอดเป็นหมื่น เป็นแสน ชนิดเหมือนกัน ^^ โดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปได้ครับ ที่จะมีเครื่องยน opoc ในรถยนต์ สักวันนึง ส่วนกลัวเรื่องความทนทานไม๊? ผมแอบเห็นหอยตัวนึงด้วย ถ้าไม่ต้องอัดอากาศแรง ๆ เพื่อเรียกแรงม้า เอาแค่ให้รถวิ่งได้ ประหยัดน้ำมัน ผมว่ามันน่าจะเป็นไปได้เลยล่ะ ตาบิล ได้ใจผมจริง ๆ ต่างจากตาติ๊ป  5555555 จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 02:02:08

ความคิดเห็นที่ 82 บาง คห ตอบได้ ok ส่วนบาง คห ... เฮ่อ จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:56:40

ความคิดเห็นที่ 83 ถูกใจ คห.53 อย่างแรง รร. ประถม สอนให้เด็กมีความคิดริเริ่ม แต่แถวนี้(บางคน) เอาแต่กระแนะกระแหนคนมีความคิดริเริ่มซะงั้น จากคุณ : เปลวไฟในน้ำแข็ง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:26:25

ความคิดเห็นที่ 84 นวัตกรรม พลิกโฉมโลก  ในอนาคต จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:14:54

ความคิดเห็นที่ 85 นายต้น99 ชอบทำกระทู้กร่อยทุกทีเลย แม้จะแย้งด้วยหลักการ แต่ก็แฝงด้วยการกระแนะกระแหนคนอื่น จากคุณ : CHAOS A.D. เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 23:14:03

ความคิดเห็นที่ 86 อีกแล้วครับ.. สำหรับคนที่มีความคิดเก่าๆหัวโบราณ ที่ว่า แรงโน้มถ่วงมีผลกับสูบนอน มันผลน้อยมากจนแทบจะไม่มีเหลือเลย ภายใต้แรงกดดันและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ เหมือนคนขึ่จักรยานแหละครับ จอดนิ่งๆแรงโน้มถ่วงก็ทำให้คุณล้มได้ แล้วลองขี่เคลื่อนไปซิครับ ไม่เห็นมีใคนบ่นเรื่องแรงโน้มถ่วงเลย จากคุณ : coldcool เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 08:38:47

ความคิดเห็นที่ 87 คิดแล้วทำ แต่โดนด่า ดีกว่าไม่ทำอ่า เอาแต่ด่าคน จากคุณ : ลูกจ้างดีเด่น เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 11:54:15

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่น่าเชื่อว่าแนวคิดในยุคแรกเริ่ม จะนำกลับมาพัฒนาต่อไปนานขนาดนี้ จากคุณ : reni เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 18:47:59

ความคิดเห็นที่ 89 ความเห็น 87 ขอแก้ไขข้อความครับ ดีกว่าไม่ทำ h่า เอาแต่ด่าคน จากคุณ : หล่อเลือกได้ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 05:40:00 A:124.122.105.32 X: TicketID:330015

ความคิดเห็นที่ 90 ถ้ามันพลิกโฉมสามารถเอามาใส่มอเตอร์ไซค์(พวกที่ต้องใช้แรงบิดสูงเช่นพวกรถลุยๆ)  คงดี  เดี๋ยวซักพักคงมีเครื่องแถวเรียง  สูบวี เพื่อเน้นคาแรคเตอร์เฉพาะตัวของเครื่องชนิดนั้นๆ จากคุณ : zaskar27 เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 08:00:20

ความคิดเห็นที่ 91 สุดยอดเลยท่านกลายใต้ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 08:52:51

ความคิดเห็นที่ 92 เข้ามาอ่านเปิดหูเปิดตา บางความเห็นอ่านข้ามๆไปก็ได้ครับ จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 13:56:55

ความคิดเห็นที่ 93 เกรียนเยอะนะที่นี่ จากคุณ : BeLaBall เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 14:14:50

ความคิดเห็นที่ 94 ผมไม่สามารถวิจารณ์คนคิดค้นเทคโนโลยีได้ครับ เพราะผมสร้างอะไรไม่ได้ เป็นได้อย่างมากแค่คนใช้มัน ส่วนตัวผมเคารพคนคิดค้นและต้องให้เกียรติเขา ผมไม่ดูถูกคนที่คิดอะไรใหม่ให้กับโลกครับ แต่ยกย่องและสนับสนุนสิ่งนั้นถ้ามันสร้างสรรค์และทำให้ชีวิตของผมสะดวกขึ้น ดีขึ้น ประหยัดขึ้น จากคุณ : นายอึเหม็น เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 17:35:15

ความคิดเห็นที่ 95 แรง ประหยัด  เปลี่ยนโลก แน่ๆ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 21:28:54