ความคิดเห็นที่ 1 เฮ้ย... เบื่อจริงๆ จากคุณ : pomjaidee เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 23:31:24

ความคิดเห็นที่ 2 LPG ก็ขึ้นไม่ใช่เหรอครับ หรือเจ้าของกระทู้ยังไม่รุ้เรื่องครับ ราคาอยู่ที่16.30บาทครับ จากคุณ : ninnat31 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 00:42:12

ความคิดเห็นที่ 3 แท๊กซี่เดี๋ยวนี้เขาออกรถ รถใหม่ห้ามจดทะเบียน LPG นิครับ จะใช้ก็คงไม่ได้แล้ว อำมหิตสุดๆนะครับ งานนี้ ป้อน ทั้งหลอก ทั้งชวนเชื่อ ทั้งบังคับ(อย่างที่ผมบอก) แล้วเชือดดดด จากคุณ : นอกวงการ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 00:46:31

ความคิดเห็นที่ 4 @คห.2 รู้สิครับ ว่า LPG ก็ขึ้นถึงบอกว่าแพงกว่า NGV หน่อยไง (16.3 vs 14.5) ถ้าไม่รู้ก็ต้องบอกว่า NGV แพงกว่า LPG สิ กลับไปอ่านใหม่น่ะคร้าบ จากคุณ : Darjeeling_jung เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 01:12:46

ความคิดเห็นที่ 5 แท๊กซี่ที่ใช้ LPG เป็น Rare item อยู่นะครับ ตอนขึ้นแท๊กซี่ โชเฟอร์ ก็บอกหากันไม่ได้เลยรถ LPG จ่ายค่าแก๊สแพงกว่า แต่หมดวันมีเงินเหลือเป็นพัน แต่ใช้ NGV จ่ายน้อยกว่า แต่ เสียเวลาเติมเป็นชั่วโมง จากคุณ : น้องปลาดาว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 01:39:03

ความคิดเห็นที่ 6 ขึ้นแทกซี่ช่วงนี้ บ่น เรื่องแก๊สกันสุดๆเลย จากคุณ : kuttokung เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 01:51:11

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเห็นบางคันพี่แกเล่น 3 ระบบเลย นำ้มัน+lpg+ngv จากคุณ : แอบแรงแซงโค้ง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 02:03:24

ความคิดเห็นที่ 8 ปตท ต้องหาทางแกล้ง LPG ต่อไป จากคุณ : IhateCopS เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 07:17:41

ความคิดเห็นที่ 9 LPG ผลิตไม่เพียงพอใช้ในประเทศนิครับ ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ราคาที่นำเข้า มันแพงกว่าราคาขายในประเทศอีก จากคุณ : Minicoupe เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 07:30:00

ความคิดเห็นที่ 10 ผลิตไม่พอจริงหรือครับ ขุดได้เกินครับ แต่อ้างว่าโรงแยกไม่พอ (ทั้งๆที่ยังผลิดไม่ถึง 50%) เลยต้อง ขายก๊าซดิบนอก(กำไรต่อที่ 1)แล้วซื้อกลับในราคาตลาดโลก(ต่อที่ 2) แล้วให้รัฐอุดหนุนก่อนขาย และปตท.ก็ไม่เคยคิดจะขยายโรงแยกด้วย เพราะทำอย่างนั้นกำไรน้อยกว่า ประเทศเราผลิตก๊าซได้เป็นอันดับที่ 22 ของโลกครับ ทุกวันนี้ส่งออกมากกว่าใช้ในประเทศด้วยซ้ำ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 22:45:32 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 08:49:00

ความคิดเห็นที่ 11 จริงหรือครับ..คุณ Hil4552 ว่า..เราส่งออกมากกว่า ใช้ในประเทศ ขอข้อมูลอ้างอิง หน่อยได้ไม๊ครับ??? เพื่อความน่าเชื่อถือ ..ของข้อมูล..ขอเวปไซด์ อ้างอิง หรือ ข้อมูล จากกรมธุรกิจพลังงานก็ได้ครับ.หรือข้อมุลศุลกากร เพื่อเปรียบเทียบหน่อยครับ. เป็น LPG หรือ NGV ครับ ตัวที่ว่า เราส่งออกมากกว่า..ใช้ในประเทศ.. ไม่ได้ ดิสเครดิต นะครับ.. แต่อยากให้ มี หลักฐานสักหน่อย เพื่อประกอบการเชื่อถือข้อมุลของคุณ.. ไม่ได้ไม่เชื่อนะครับ แต่ .ประเทศเราเสียโอกาส เพราะข่าวลือ ข่าวลวงเยอะครับ..ถ้ารบกวนเกินไป ก็ขออภัยด้วย จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:24:12 A:223.206.214.248 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 12 ถึง NGV จะขึ่นไปกิโลกรัมละ 14 บาทกว่า ก้อยังถูกกว่า LPG ลิตรละ 16 บาทกว่าอยู่ดีครับ ปริมาณ 1 กก มันมากกว่า 1 ลิตรอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเติมก๊าซ NGV เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ไม่ต้องรอคิวยาวมากแล้วครับ เพราะที่พม่าซ่อมเสร็จแล้ว คิดในทางที่ดีซะว่ายังงัยก้อประหยัดกว่าน้ำมันมากกว่า 2 เท่าอยู่ดีครับ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:39:13

ความคิดเห็นที่ 13 มันเป็นพลังงานทางเลือกครับ  ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เลือกให้ดีครับ จากคุณ : todkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:54:44

ความคิดเห็นที่ 14 พ่อค้าจะขึ้นราคา ก็ทำให้ขาดตลาดสิ การตลาดง่ายๆ จากคุณ : เพ็ชรสามสี1 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:59:45

ความคิดเห็นที่ 15 #9 NGV. ทุกๆวันที่รถใช้เติมกันอยู่    เป็นแก๊สนำเข้าจากพม่าแทบทั้งหมด เนื่องจากปตท.บอกมาเอง         สรุปแล้วมันก็นำเข้าจากต่างประเทศของที่ขุดในอ่าวไทยไม่ได้ใช้เติมรถ แล้ว LPG.ในบ้านเราก็มีจะได้จากการกลั่นน้ำมันหรือสูบจากอ่าวไทยมาเข้าโรงแยกแก๊ส       แต่เนื่องจากการใช้เยอะจึงต้องนำเข้าเป็นบางส่วน อ่านให้ดีนะครับ    ความหมายของสองวรรคข้างบนมันให้ความรู้สึกและความหมายที่แตกต่างกัน ก็โอเคนะหาก NGV.ที่ใช้ๆเติมรถยนต์ในบ้านเรา    มาจากผลผลิตของไทยจากอ่าวไทยล้วนๆ    แบบนี้มันก็ควรที่จะต้องสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ แต่ปรากฎว่ามันต้องไปนำเข้าจากพม่าแทบทั้งหมด    จะไปใช้มันทำไมละ  ทำแบบนี้เท่ากับไปอุดหนุนพม่าให้มันรวยป่าวๆ    ทำให้ประเทศเราต้องเสียดุลย์การค้าให้พม่าไปด้วยโดยไม่จำเป็น ที่มา.....ก็จากคำอธิบายของ ปตท. เองในช่วง NGV.ขาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงตอนนี้ จากคุณ : เสือปลาขี้เมา เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 10:10:47

ความคิดเห็นที่ 16 เมือ่ก่อน ผมก็คิดเหมือนคุณ เสือปลาขี้เมา นะว่า ถ้าผลิตได้ในประเทศ น่าจะเอามาซํพพอร์ต ให้ ประชาชน.. แต่จากการดูตัวเลขต่างๆ ที่มีคนยกมาให้..ปริมาณการใช้ LPG ของไทย มากขึ้นเรื่อยๆ จนเกินจุดที่ไทย ผลิต พอที่ใช้ แล้ว.. ต้องพึ่งพาการนำเข้า แล้ว.. แถม การดูดใช้ ทรัพยากรในประเทศ..มันมีวันหมด..ถ้าสามารถ นำ LPG ไปสร้าง มูลค่าเพิ่ม ได้ เพื่อ..สร้างรายได้ให้ประเทศ ก็เอาไปทำเถิด.. อาจจะแบ่งส่วนนึงไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในด้านครัวเรือน.. แล้วก็หา ทรัพยากรจาก เพื่อนบ้าน มาเพื่อ ..ใช้ ฟุ่มเฟือย ในด้านการคมนาคม.. มันก็ถูกต้อง. ผมเชื่อว่า ถ้ากลับกัน..ไทยเราให้พม่า มาสูบใช้ทรัพยากร แบบที่เราทำกับพม่าอยุ่ ก้มีคนด่า อยู่ดี ว่าขายชาติ..เพราะเอาทรัพยากรของเราไปให้ เพื่อนบ้านใช้.. การเอา ทรัพยากร ของเพือ่นบ้านมาใช้..โดยแลกเงิน ตรา ผมว่า มัน win/win แถม สร้างคอนเน็คชั่น ในการเข้าไป แผ่ ขยายการลงทุน ด้วย.. พม่า เนี่ยะ ถ้าเปรียบเป็นสาวๆ ..ก็ เรียกได้ว่า ยังใหม่ สด.สวย..และเต็มอิ่ม.หนุ่ม ที่เปรียบกับนักลงทุน ..มองกันตาเป้นมัน.. ฉะนั้น ..การชิงความได้เปรียบ จากการเป้นคนใกล้ชิด เข้าไป เพื่อ ตักตวง ผมเชื่อว่า..ถ้าไทย ไม่เข้า ก็เปรียบไป กับ พวก มดแดงแฝงพวงมะม่วง หรือพวก ใกล้เกลือกินด่าง.. เงินทอง คือ มายา.. ทรัพยากรที่เอามาใช้ ต่างหาก เป้นของจริง อยู่ที่ว่าสามารถนำมาต่อยอดสร้างประโยชน์ให้คนในประเทศได้มากขนาดไหนต่างหาก. และ จวนเจียนเต็มที่ ที่จะเปิด ประชาคม อาเซี่ยน..หรือ ถ้ามันสำเร็จ มันจะมีการพัฒนา ด้านการ ค้า และเปิดเสรีมากขึ้น ในหลากหลายผลิตภัณท์ ถ้าพี่ไทย ยังคิด แยกเขา แยกเรา อยุ่..สงสัย จะไม่ทันกิน.. ผมว่าควรปรับตัว แต่เนิ่นๆ.. โอกาส พัฒนาจน เป้น ประชาคม ที่สมบูรณ์ มันต้อง พร้อม..และผู้ทีพ่ร้อมจะได้ประโยชน์สุงสุด จากการเปิดเสรีคั้งนี้ จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 10:59:44 A:223.206.226.109 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 17 อ่าน คห. 10 ดู ก็รู้แล้วว่า ในกะโหลก มันกลวงแค่ไหน เพราะมีแค่สมองด้านความจำส่วนเดียว แต่ส่วนวิเคราะห์ และประมวลผล ไม่มีอยู่เลย จากคุณ : เสียดายเงินชาติเลี้ยงดูคนพวกนี เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:33:43 A:125.27.72.47 X: TicketID:137371

ความคิดเห็นที่ 18 จากคุณ : เสียดายเงินชาติเลี้ยงดูคนพวกนี เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:33:43 A:125.27.72.47 X: TicketID:137371 จากคุณ : รู้ไว้ซะด้วย เลิกโง่ได้แล้ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:51:34 A:125.27.72.47 X: TicketID:137371 ไม่ลองแสดงความคิดเห็นหน่อยหรือ   --  ผมอยากรู้ จากคุณ : flux.mut เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:21:29

ความคิดเห็นที่ 19 อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ 1. ลดภาษีรถคันแรก 1 แสน เพื่อกระตุ้นยอดขายรถ 2. ขึ้นราคา น้ำมัน, ngv, lpg ทั้ง 2 มาตรการ ผลลัพธ์คือกำไรของบริษัทน้ำมัน เป็นคนไทย ต้องยอมรับครับ จากคุณ : lastman เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:43:32 A:110.168.189.30 X: TicketID:252531

ความคิดเห็นที่ 20 LPG เมื่อประมาณปี 2530-2532 ช่วงนั้นมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ผมเคยทำงานอยู่ในเรือขนแก๊ส เรือขนาดใหญ่มากจะมาลอยลำทิ้งสมอหน้าคลัง ปตท.ที่ศรีราชา จอดถ่ายแก๊สกันเป็นเดือนจนหมด ส่งตามท่อไปเก็บบนคลัง และเรือเล็กๆจะไปรับถ่ายวื่งเข้ามาส่งเข้าคลังเล็กแถวๆช่องนนทรีในกรุงเทพ หลังจากนั้นมาตั้งแต่ปี 3535 ผมทำงานอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ไม่เคยเห็นว่าจะมีเรือแก๊ส LPG มาจอดลอยลำอีกเลย เนื่องจากว่าบ้นเรามีโรง กลันน้ำมันหลายแห่งแล้ว LPG จึงเหลือจากการกลั่นน้ำมัน ตอนนี้เพื่อนของผมยังทำงานอยู่ในเรือขนแก๊ส แต่เขาวิ่งขนจากโรงกลั่นระยอง ไปส่งเวียตนามกับจีนครับ จากคุณ : น้าเตวิช เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:46:21

ความคิดเห็นที่ 21 วันที่ 9 ม.ค. เมื่อเวลา 20.30 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.และประธานคณะกรรมการศึกษาตรวจสอบการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และนายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์ผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ร่วมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ASTV น.ส.รสนา กล่าวถึงกรณีขึ้นราคาก๊าซ NGV ว่า ปัญหาอยู่ที่นักวิชาการก็ตาม ปตท.ก็ตาม ชอบพูดว่าราคาก๊าซ-พลังงานต้องสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง แต่ต้นทุนที่แท้จริงเคยเอามาเปิดเผยหรือไม่ ราคาจากเอกสารโฆษณาของ ปตท.เอง ระบุว่าราคา NGV อยู่ที่ 8.39 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งมันไม่ใช่ต้นทุนจริง มันเป็นราคาที่ขายให้กับ กฟผ. ซึ่งรวมค่าบริหารจัดการ รวมค่าผ่านท่อ รวมกำไร และยังบวกค่าขนส่งอีก 5.56 บาท เท่ากับค่าขนส่ง 40 เปอร์เซ็นต์ มันมีกิจการอะไรที่ค่าขนส่งมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาก๊าซในตลาดโลกเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2554 อยู่ที่ 2 เหรียญ 79 เซ็นต์ต่อ 1 ล้านบีทียู 1 ล้านบีทียู เป็นค่าความร้อน ถ้าแปลงให้เป็นกิโลกรัมก็คือเท่ากับ 27.82 กก. พอเป็นเงินไทยเฉลี่ยตกที่กิโลกรัมละ 3.37 บาท นี่คือต้นทุนตลาดโลก มันสะท้อนต้นทุนตรงไหน อีกทั้งราคาก๊าซธรรมชาติปี 2007-2011 ขึ้นสูงสุดเมื่อปี 2008 หลังจากนั้นต่ำลงเรื่อยๆ ทิศทางในตลาดโลกเป็นขาลง แต่คุณกลับสวนขึ้นและขึ้นในยามที่คนกำลังลำบากจากปัญหาน้ำท่วม อีกทั้งความจริงแล้วราคาผ่านแนวท่อก๊าซมันถูกมาก เมื่อปี 2552 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานอนุญาตให้ปตท.ขึ้นค่าผ่านท่อได้ 2 บาท ต่อ1 ล้านบีทียู ก็คือรวมแล้ว 22 บาท กับอีกเศษนิดหน่อย ต่อ 27.82 กก. เฉลี่ยแล้วไม่ถึง 1 บาทต่อกก. สมมุติเอาราคาตลาดโลก 3.37 บาท บวก 1 บาท อยู่ที่ 4 บาท แต่คุณบวกค่าขนส่งมหาโหดอย่างนี้ได้อย่างไร ก๊าซถ้าส่งตามแนวท่อจะถูกที่สุด ตามธรรมชาติของก๊าซเหมาะกับรถที่ใช้วิ่งเป็นทางประจำเช่นรถเมล์ สามารถทำปั๊มเฉพาะที่เป็นจุดจอดรถ แต่นี่รัฐบาลมาสนับสนุนให้รถเล็กมาใช้ ใช้อำนาจรัฐทุกอย่างบังคับให้มาใช้ NGV น.ส.รสนากล่าวอีกว่า วันนี้กลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งทั้งหลายที่ออกไปต่อต้านการขึ้นราคา NGV เสียท่ารัฐบาลไปแล้ว สิ่งที่ทำวันนี้ไม่มีความหมายเลย เมื่อยอมเปิดบริสุทธิ์ให้ขึ้น 50 สตางค์แล้ว ไม่มีทางลด นั่นก็เพราะขาดข้อมูลในมือ ต้องให้ ปตท.เปิดเผยตัวเลขต้นทุนที่แท้จริงออกมา น.ส.รสนากล่าวว่า ทรัพยากรของไทยถูกขุดขายเพิ่มขึ้นทุกปีในขณะที่รายได้เข้ารัฐไม่ได้เพิ่มตาม ข้อมูลของ EIA (Environmental Impact Assessment) ไทยผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ที่อันดับ 23 ของโลก จาก 224 ประเทศ มากกว่าหลายๆ ประเทศที่เป็นกลุ่มโอเปก เรามีทรัพยากรมหาศาล แต่ทุกคนบอกว่าเราต้องพึ่งพา นำเข้าตลอด สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ปตท.ใหญ่เกินไป มีอำนาจเหนือตลาดหลักทรัพย์ เหนือรัฐบาล และสื่อ เพราะไม่มีประเทศไหนที่ปล่อยให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจมีขนาดเงินหมุนเวียนใหญ่กว่ากระทรวงการคลังเกิน 3 เท่า น่ากลัวที่รัฐบาลปล่อยให้ปตท.อยู่ในสภาพที่เป็นทั้งรัฐและเอกชน โดยให้รัฐถือหุ้น 51.5 เปอร์เซ็นต์ เพื่อคงความเป็นรัฐอยู่ จะได้ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ซึ่งอะไรที่มันใหญ่เกิน ถ้าล้มนี่ล้มดัง อันตรายต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด อีกทั้งยังปล่อยให้ควบรวมกิจการทั้งแนวดิ่ง คือครอบงำกิจการปิโตรเคมีทั้งหมด และควบรวมแนวนอน ซึ่งเป็นการยึดฐานลูกค้า จนมีอำนาจใหญ่มาก ตอนนี้ไม่มีภาคส่วนไหนกล้ากับปตท.เลย น.ส.รสนายังกล่าวว่า การค่อยๆ ปรับเพิ่มทีละ 50 สตางค์ จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนแบบไม่รู้ตัว เหมือนกับการต้มกบ เมื่อต้มโดยปรับอุณหภูมิขึ้นทีละน้อยๆ กบจะไม่รู้ตัวเพราะมันปรับตัวตามอุณหภูมิ แต่ถ้าใส่ไปตอนร้อนๆ กบจะกระโดดหนี กรณีขึ้นราคาก๊าซก็เช่นกันประชาชนก็จะปรับตัวอยู่กับการขึ้น 50 สตางค์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเราจะยอมถูกต้มหรือเปล่า เลือกว่าจะเป็นกบตัวแรกที่ถูกต้มหรือกบตัวสองที่กระโดดหนี ด้าน นายอิฐบูรณ์กล่าวว่า กรณีเกิดโรงแยกก๊าซเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยที่ 6 มีคำถามว่า เกี่ยวหรือไม่กับการพยายามทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติลอยตัวขยับเพิ่มทันที ความจริงแล้วไม่สนใจว่าต้นทุนที่แท้จริงเป็นอย่างไร ขอแค่ขึ้นมาก่อน แล้วรัฐบาลก็ยอม ประชาชนเหมือนถูกมัดมือชก ราคา NGV 14.50 บาท เป็นราคาที่ปตท.ต้องการขอขึ้นมานานแล้ว นี่คือต้นทุนที่เขาต้องการ โดยไม่ได้อิงกับราคาตลาดโลกเลย เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมาโดยตลอด แต่มาได้ในจังหวะรัฐบาลนี้ ซึ่งนายกฯเป็นประธานโดยตำแหน่ง ในกลุ่มของพวกเขาเองก็คุยกันว่าเทคนิคการขึ้นราคา คือค่อยๆกินทีละ 50 สตางค์ จนสิ้นปี 2555 จะจ่ายเพิ่มขึ้นทั้งหมด 6 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ จากราคาฐานเดิม ถ้าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างแท้จริงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่สามารถทำได้ แต่ธุรกิจนี้สามารถทำได้ ทางด้าน LPG ก็ขึ้นราคาเช่นกัน แต่กระแสเงียบไป ซึ่ง LPG นี่หนักกว่าอีก เพราะไม่มีลิมิต เขาใช้คำว่าจะไต่ราคาขึ้นไปถึงต้นทุนของโรงกลั่น ซึ่งถ้าโรงกลั่นบริหารงานย่ำแย่ ไม่ต้องควบคุมในเชิงประสิทธิภาพ อยากให้ขึ้นราคาก็ได้ กลไกแบบนี้เป็นธรรมหรือไม่ ประเทศไทยสามารถพึ่งพาแหล่งพลังงานเองได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองเคยแถลงต่อสภาว่าต้องพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ 55 เปอร์เซ็นต์ นั่นคือเราสามารถพึ่งพาตัวเองได้ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมราคาที่คนไทยใช้ถึงเป็นราคาตลาดโลก 100 เปอร์เซ็นต์ นี่เฉพาะราคาน้ำมัน ส่วน LPG ก็พยายามเกาะตลาดโลก แต่ NGV ดันไม่ยึดราคาตลาดโลก แสดงว่าจะใช้ราคาอะไรก็ได้ใช่หรือไม่ คำถามง่ายๆ ทรัพยากรเป็นของแผ่นดินไทย ส่วนใหญ่ก็มาจากอ่าวไทย สัมปทานที่รัฐได้น้อยมาก การเข้าถึงทรัพยากรมันไม่เป็นธรรม เราเจอคนโลภที่ตัวใหญ่มาก คุมตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ที่สำคัญคนที่เป็นข้าราชการระดับสูง เป็นปลัดกระทรวงพลังงาน อีกตำแหน่งก็เป็นประธานบอร์ดของบริษัทเอกชน (ปตท.) แล้วคนๆนี้ก็มีหน้าที่ตั้งราคา จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมัน นายอิฐบูรณ์กล่าวอีกว่า เราพบกรณีไม่เป็นธรรมของก๊าซ LPG เป็นอย่างมาก เขากล่าวหารถยนต์ที่ใช้ LPG เป็นตัวการให้ก๊าซไม่พอใช้ แต่ตรวจสอบแล้วตัวการคืออุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งก็เป็นบริษัทในเครือปตท. พอกลุ่มนี้ใช้ไม่เคยแจ้ง แต่เวลาแถลงข่าวว่าต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ปรากฎว่าไม่ใช่นำเข้า LPG แต่นำเข้าเป็นก๊าซองค์ประกอบ ซึ่งรถยนต์ใช้ไม่ได้ ปรากฎว่าอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่สามารถใช้ได้ แล้วเวลาสั่งจ่ายเงินชดเชย มติล่าสุดสั่งอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจ่ายแค่ 1 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆโดนกัน 5-10 กว่าบาท นี่คือหลายมาตรฐาน นายอิฐบูรณ์กล่าวต่อว่า ถ้าเราจ่ายแพงแล้วเกิดกระจายรายได้ไม่ว่า แต่นี่ไปอยู่ที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เปรียบเหมือนเราเสียดินแดนโดยถูกกำลังผูกขาดทางเศรษฐกิจครอบงำ ทั้งนี้ จำนวนเงินที่ประชาชนต้องจ่ายเพิ่มขึ้น คำนวณแบบทั้งปี ถึงสิ้นปี 55 เงินที่ต้องจ่ายเพิ่มส่วนของ NGV เพื่อให้ได้ก๊าซ 40 กก. จะเพิ่มอีก 140 บาท จากเดิมแท็กซี่จ่าย 340 บาท ต้องจ่าย 480 บาท ฉะนั้นบัตรเครดิตอะไรต่างๆ อย่าลืมรัฐบาลแค่สำรองจ่ายให้ก่อน แล้วไปจ่ายหนี้เองทีหลัง หากไม่จ่ายอาจถูกฟ้องยึดรถได้ ส่วน LPG จากเดิมที่ 45 ลิตร 500 บาท จะเพิ่มมา 220 บาท ต่อไป 45 ลิตรจะต้องจ่าย 720 บาท ง่ายๆทั้งปีมันขึ้นทั้งหมด 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อค่าตรงนี้เพิ่ม กลไกต่างๆ ทั้งระบบก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งภาระก็จะถูกผลักไปให้ผู้ที่ไม่มีปากมีเสียง ///////////////////////////// ลองพิจารณากันดูนะครับ ว่าราคาแกสในบ้านเรา สมควรให้ประชาชนต้องมาแบกภาระไหม? ปตท เคยมาชี้แจงราคาต้นทุนที่แท้จริงของแกสไหม?? จากคุณ : ขอลุงก่อน ลุงแก่แล้ว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:56:12 A:124.122.204.148 X: TicketID:344321

ความคิดเห็นที่ 22 ใครบอกว่าเราส่งออกก๊าซ? ทุกวันนี้เรา่ยังนำเข้าทางพม่าอยู่เลย และปีล่าสุดมีการนำเข้าเป็น LNG เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำ ก๊าซธรรมชาติขุดจากอ่าวไทย+นำเข้าจากพม่า+Import LNG http://www.eppo.go.th/info/3ng_stat.htm Table 3.1-1: Production and Import of Natural Gas Domestic production ~80% Import from Burma ~20% Table 3.2-3: Consumption Share of Natural Gas by sector Share(%) 2010 Electricity 67.6% Industry 11.8% GSP 16.1% NGV 4.5% ส่วนของ GSP นี่แหละที่ส่งไปแยกก๊าซเป็น LPG ได้ คำถามคือ ใครบอกว่าส่งออก ส่งออกไปไหน ส่งอย่างไร NG ต้องใช่ท่อส่ง(แบบเราเอาจากพม่า) หรือไม่ก็ทำเป็น LNG ซึ่งมีต้นทุนสูงนะครับ และแค่การใช้ในประเทศก็แทบจะไม่พอแล้ว คราวแล้วแหล่งในพม่ามีปัญหาแหล่งนึง(เขาอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุ) ตัดการส่งไปแค่ 10% ก็ทำให้เราต้อง ปล่อยน้ำจากเขื่อนที่กาญจนบุรีเข้าท่วมบ้านเรือน เพราะต้องการปั่นไฟเร่งด่วนมาแล้วครับ แล้วจะแบ่งมาให้ LPG ได้อีกเท่าไร ส่วนโรงแยกก๊าซมีจำกัดจริง จะให้เพิ่ม แล้วใครจะลงทุน ในเมื่อทำแล้วขายได้แค่ 300USD ในขณะที่ตลาดโลก 900USD? ให้รัฐลงทุนก็ไม่ต่างจากการเอาเงินไปอุ้มโดยตรงนั่นแหละ ส่วนใครบอกว่าขึ้นราคาแล้วบ.เอกชนจะกำไรเพิ่ม คำถามคือกำไรได้อย่างไร ในเมื่อก่อนหน้่านี้ก็เป็นรัฐชดเชยโดยตรง ตอนนี้ก็แค่จะเลิกชดเชยแล้วให้ผู้ใช้จ่ายเองตามราคาจริง พูดกันด้วยข้อเท็จจริงครับ ใครมีข้อมูลอื่นๆก็มาแชร์กัน แต่เอาความเชื่อล้วนๆแล้วด่าเอามัน ก็คงไม่น่ารับฟังสักเท่าไร จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:59:04

ความคิดเห็นที่ 23 #21 คุณรสนาพูดความจริงไม่หมดหลายอย่าง ราคา NG ตลาดโลก เราไม่สามารถนำเข้า NG ได้โดยตรงนะครับ ยุโรปเขายังต้องทำท่อข้ามทวีป หมดเิงินไปมหาศาล ส่วนที่เรานำเข้าทางเรือได้คือ LNG ที่แพงกว่าเพราะต้นทุนการผลิต และต้ันทุนการขาย NGV คือต้นทุึนการทำแนวท่อส่ง และส่วนที่อยู่นอกแนวท่อส่ง ก็ต้องเอารถบรรทุกไปขาย ซึ่งมันไมุู่ถูกเลย ถ้ามันไม่แพงจริง มีค่ายอื่นทำแข่งไปเยอะแล้วครับ ส่วนกำลังผลิตพูดไปหลายรอบแล้ว ไม่ฉายซ้ำ ผู้บริโภค จะโทษกลุ่มปิโตรเคมีภัณฑ์ คำถามคือ ยังไงแล้วการผลิตจาก GSPมันก็เพียงพอแค่ครัวเรือน ที่เหลือคือการนำเข้าโดยตรง และผ่านการกลั่นน้ำมันดิบซึ่งก็นำเข้าเหมือนกัน แล้วเราจะหลอกตัวเองขายในราคาถูกได้อย่างไร ในเมื่อต้นทุนส่วนที่เหลือ ก็คือการนำเข้าทั้่งนั้น? จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 13:06:43

ความคิดเห็นที่ 24 เยอะจังอ่านไม่หมดเลย  แต่ที่รู้ๆคือ ขึ้นแน่ๆ แล้วเค้าก็กะเล่น lpg ให้ตายชัวร์ๆ แค่นั้นแหละ เถียงไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร จากคุณ : sayumpoo เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 14:55:16

ความคิดเห็นที่ 25 ยังมีคนคิดว่า LPG ผลิตไม่เพียงพอใช้ในประเทศอีกหรือ จากคุณ : NIHAJ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 15:20:11

ความคิดเห็นที่ 26 #25 อ้างอิงจาก สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ก.พลังงาน http://www.eppo.go.th/info/2petroleum_stat.htm Table 2.4-2: Demand and Supply of LPG, Propane and Butane Supply of LPG(2010) GSP =44.2% <-โรงแยกก๊าซ(Gas Separation plant) จากอ่าวไทยและพม่า Refinery=28.4% <-กลั่นจากน้ำมันดิบ other=0.2% Import= 27.2% <-นำเข้า LPGโดยตรง ส่วน Import นี่ไม่ใช่การนำเข้าหรือครับ? แล้วการกลั่นจากน้ำมันดิืบ นี่น้ำมันดิบไม่ได้นำเข้าหรือครับ? ถ้าผลิตจากอ่าวไทยเองมันพอใช้ เราคงไม่ต้องนำเข้า LPG โดยตรงหรอกครับ หรือแม้แต่ NG(NGV) ปีที่ผ่านมาเรามีการนำเข้า LNG โดยตรงด้วยซ้ำ บางครั้งข้อเท็จจริงก็อาจไม่ตรงกับ"ความเชื่อ"นะ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 15:31:49

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ 4 จุดเอาข้อมูลมาแต่เอามาไม่หมด ลองคลิ๊กดูนะครับ ข้อมูล NGL http://www.eppo.go.th/info/2petroleum_stat.htm Table 3.1-1 (ตัวเลขที่มาแก๊ซทั้งหมด)ไปดูใน yearly นะครับ ปี 2010 ตรงสรุปเลย Import 857 Domestic 3511 จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เราผลิตเอง และนำเข้าเพียงเล็กน้อย ตรงกับผมว่ามั้ยครับ และดูข้อมูลย้อนนะ ครับเรานำเข้ามานานแล้ว แต่คำว่านำเข้าไม่ใช่หมายถึงว่าเราผลิตไม่พอนะครับ เพราะส่วนนึงเราส่งออกด้วย ลองดุตาราง 3.2-1 แบบปีครับ(เป็นตัวเลขการนำก๊าซไปใช้)DISTRIBUTION  OF  NGL จะเห็นได้ว่าปี 2010 Export 135 ล้านลิตร จากทั้งหมดที่มี 810 ล้านลิตร (ทั้งสองตารางคนละหน่วย) จะเห้นได้ว่าจากข้อมูลตรงนี้ เราส่งออกคิดเป้น % พอๆกับที่นำเข้า คำถามคือจะส่งออกทำไมถ้ายังใช้ไม่พอ และสาเหตุที่เราผลิตน้อยเพราะปตท.ไม่เร่งการผลิตด้วยเพราะกลัวจะเสียกำไร สอ่งที่คุณ 4 จุดอ้างในคห.22 มันคนละเรื่องนะครับ บางครั้งการนำเข้าไม่ได้หมายความว่าเราพอไม่ส่งออก ตัวอย่างเช่นไทยผลิตไฟฟ้าขายพม่าเป็นส่วนใหญ่ แต่ในบางพื้นที่เราก็ยังต้องซื้อไปกกลับมาจากเค้า ทีนี้ประเด็นคือเราผลิต NGL ได้มากมายขนาดนี้เทียบกับตัวเลขนำเข้า(ที่จริงๆต้องไปลบกับที่ส่งออกก่อน) มันถือว่าเราผลืตได้พอใช้เลย แต่ทำไมเราถึงควบคุมราคาไม่ได้ ต้องไปอ้างราคานำเข้า ทั้งๆที่ส่วนนำเข้ามีผลนิดเดียวเอง แล้วที่ผลิตได้อีกกว่า 80% นี่คือกินนิ่มใช่มั้ยครับ ผมถึงถามไงว่าจะขึ้น NGV ตามราคาตลาดโลกแต่ตัวเองผลิตได้(โดยการดูดจากแผ่นดินไทย)นี่นะ แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 23:27:52 แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 23:27:13 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 23:25:39

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วน LPG พูดยาก เพราะมันมีที่มา 2 ที่ ส่วนนึงก็มาจากการกลั่นน้ำมัน แต่ส่วนนึงก็มาจากการแยกก๊าซ หมายความว่าส่วนใหญ่เราก็ผลิตได้เองอีกนั่นแหละ http://www.eppo.go.th/info/2petroleum_stat.htm ดูจากตัวเลขที่ได้จากตาราง 2.4.2-2 Demand and Supply of LPG,  Propaned Butane เราเริ่ม import ก็าซตั้งแต่ปี 2008 ทั้งๆที่ในปี 2007 เรามีการใช้ LPG ในภาค Automobile ไม่ต่างกับปัจจุบันมากเรากลับไม่ต้องนำเข้า ถามว่า ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น อะไรทำให้เราใช้ก็าซเยอะขึ้น คำตอบคือตัวเลข Feedstock เพิ่มขึ้นอย่างมาก (ไม่ได้เกี่ยวกับรถเลย) ในขณะที่การผลิตก็าซ LPG โดยวิธี GSP ระหว่าง 2007-2010 ไม่เพิ่มขึ้นเลย (คงที่ที่เลข 2600) ย้อนกลับไปดู เรามีการขุด NGL มาใช้ในปี 2007 เพียง 2500 แต่ในปี 2010 เราผลิตถึง 3500 เพิ่มขึ้นเกือบ 30% แต่ทำไมเอาไปแปรรูปเป็น LPG ได้เท่าเดิม (ตามตาราง 3.2.3 แสดงให้เห็นว่า NGL ถูกใช้ ในขบวนการ GSP 16-17% เท่าเดิม) แก๊ซตรงนี้หายไปใหน หากปริมาณ LPG ที่ได้จากขบวนการ GSP เพิ่มเท่าๆกับที่มีการขุด NGL เพิ่ม เราจะไม่ต้องนำเข้า LPG เลย (หรือซื้อเพิ่มเพียงเล็กน้อย)ลองคิดตามครับ ทำไมตัวเลขมันลงตัวพอดี อ่อแล้วสังเกตุอะไรอีกอย่างมั้ยครับ ปตท.เคยขอขึ้นราคา NGV LPG ในปี 2006 ซึ่งขณะนั้น นอกจากเราไม่นำเข้า LPG แล้วเรายังส่งออก 2005 เก้าแสนตัน 2006 4 แสนตัน แต่หลังจาก ขึ้นราคาไม่สำเร็จ เพียงชั่ว 2 ปี เรากลับต้องเริ่มไปนำเข้าทันที แถมทั้งๆที่ขุดก๊าซมากขึ้น แต่ ปริมาณก๊าซที่ได้จากขบวนการแยกไม่เพิ่ม? (ตรงนี้ผมเอาแค่ส่วนที่เกิดจากสิ่งที่เราหาได้เองนะครับ คือวิธี GSP ยังไม่เอาวิธีอื่น)แ หมกเม็ดอะไรหรือเปล่า ข้อมุลทั้งหมดผมเอามาจากในเว็บกระทรวง พลังงาน ซึ่งกระทรวงพลังงานก็เอาข้อมุลจากปตท.อีกที ดังนั้นปตท.แต่มาหรือเปล่าเชื่อถือได้แค่ใหน แต่จากที่ดูคร่าวๆมันก็ไม่ make sense แล้ว อ่อ แล้วตัวที่ทำให้เราต้องอิมพอร์ตผมบอกจากข้างบนแล้วใช่มั้ยครับว่า คือตัว feedstock ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว(ในขณะที่รถ แทบไม่เพิ่มเลยย)  ไอ feedstock ตัวนี้หมายถึงอะไรบอก ตามตรงผมก็ไม่รู้แต่แปรตรงตัวคือ วัตถุดิบ(ทำไม่ไม่รวมกับภาคอุตสาหกรรมก็ไม่รู้) รวมถึงภาค อุตสาหกรรมที่ใช้เพิ่มจาก 2007 ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มจากสองส่วนนี้รวมกันพอๆกับเลขที่ เรานำเข้า แสดงว่าปัจจัยที่ทำให้ต้องนำเข้าคือภาคอุตสาหกรรม แต่ๆๆๆๆๆๆ LPG ภาคอุตสาหกรรมมันลอยตัว ไปนานแล้วครับเจ้านายหมายความว่าปตท.ไม่ได้ขาดทุนส่วนที่นำเข้ามาเลยย ดังนั้นที่อ้างขึ้นในส่วนรถยนต์ ข้ออ้างล้วนๆครับ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 00:14:20 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 00:05:09

ความคิดเห็นที่ 29 #27 คำถามคือ ต้นทุนแท่นขุดเจาะของไทย ถูกกว่าต้นทุนแท่นขุดเจาะของฝรั่งอย่างไร? ถึงจะให้ราคาขายเราถูกกว่าตลาดโลกมากๆ? เราไม่ต้องจ้างวิศวกรเก่งๆ ไปคุม ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เกรดดีๆเพื่อทำ platform หรือครับ? แล้วจะนำเข้า ต้องดูราคา LNG ครับ ไม่ถูกเหมือน NG เฉยๆแน่นอน (จะนำเข้า NG ต้องต่อท่อตรงจากประเทศผู้ขาย แบบพม่ามาไทย) เรื่องพอไม่พอ ให้ดูเหตุการณ์ปีก่อน ที่แหล่งผลิตในพม่าหยุดไปแหล่งนึง นับแล้วแค่ 10% เอง แต่ทำให้ไทยต้องปล่อยน้ำจากเขื่อนที่กาญจนบุรีมากลางดึก เพื่อปั่นไฟฟ้าชดเชยเร่งด่วนครับ น้ำท่วมกลางดึกกันไปเลย เรื่องส่งออก ไปทำความเข้าใจก่อนว่า NGL คืออะไรก่อนนะครับ มาเทียบสัดส่วนไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพราะคนละหน่วย แต่มันเพราะคนละชนิดกัน(NGL ไม่ใช่ LNG และไม่ใช่ NG ด้วยนะ) มันเป็นผลผลิตพลอยได้อีกขั้นนึง(ของเหลือจากการผลิตปกติ) ไม่ใช่ตัว NG โดยตรงครับ ย้ำอีกทีว่าเราไม่ได้ส่งออก NG เลยครับ #28 การผลิต LPG จาก GSP ปี2010 แค่ 44% นะครับ เรียกว่าเป็นส่วนใหญ่ได้อย่างไร? อย่าไปรวมผลผลิตจากการกลั่นน้ำมันสิครับ เพราะมันก็คือการนำเข้าน้ำมันดิบมากลั่นในไทย ต้นทุนมันก็ตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกนั่นแหละ GSP(Gas Separation plant) คือโรงแยกก๊าซ จะผลิตเพิ่มก็ต้องเพิ่มโรงแยกก๊าซ ซึ่งมันชะงักงันในช่วงสิบปีมานี้ เช่นที่จะนะ ก็มรึงสร้างกรูเผา หรือมาบตาพุด ก็โดนศาลสั่งระงับไปเป็นปี เพิ่งปลดล็อคมานี่เอง (ดูตัวเลขเทียบปี 2010-2011) จะเพิ่มทันที คงต้องไปถามชาวบ้าน NGO พธม. ว่าไปขัดขวางทำไม เลยทำให้เรามี GSP เพิ่มช้าลง feed stock คือวัตถุดิบกลุ่มปิโตรเคมีภัณฑ์ครับ(เช่นเม็ดพลาสติก) ถ้าคุณจะห้ามขายให้เขา นิคมอุตสาหกรรมแถบตะวันออกทั้งหมด ก็ล้มพังพาบ และสินค้าที่เกี่ยวข้องขึ้นราคาอีกหลายเท่าตัวแน่นอน  สินค้าอุปโภคที่คุณใช้รอบๆตัวทุกวัน ใกล้ตัวกว่าการใช้ในรถยนต์เสียอีก เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าถึงจริงๆ ส่วน industry คือการขายให้เป็นพลังงานโดยตรงครับ เช่นกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิค ก็ใช้ LPG ในการเตาเผา อ้อสัดส่วนรวมมันไม่ได้เพิ่มมาก แต่ปริมาณการใช้ automobileมันเพิ่มขึ้นมากจริงนะครับ เทียบย้อนหลังดู%growth rateเลย และเขาจะขึ้นราคาก็ขึ้นทั้งระบบ ยกเว้นแค่ครัวเรือน(ที่พออ้างเอากำลังผลิตจาก GSP มาครอบคลุมได้) ไม่ได้ขึ้นแค่ automobile ราคาในกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่งจะเริ่มลอยตัวครับ ยังห่างจากราคาตลาดโลกอีกเยอะ ลองนำตัวย่อไปหาข้อมูลเพิ่มสักนิด แล้วจะเข้าใจภาพรวมมากขึ้นครับ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:29:54

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อมูลมันก็คือข้อเท็จจริงครับคุณ4จุดเอาข้อมูลมาอ้างอิงก็ถูก แต่ถ้า make sense แล้วข้อมูลมันไม่สมเหตุสมผลดังคุณhil4552 ขอให้เราถกกันด้วยข้อเท็จจริง หวังว่าคุณ4จุดไม่ได้มีเอี่ยวใดๆทั้งสิ้นกับMinistry of Energyเลยละกัน เนื่องจากจงใจเอาข้อมูลมาแต่เอามาไม่หมด จากคุณ : NIHAJ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 16:33:58

ความคิดเห็นที่ 31 #29 เลอะเทอะไปใหญ่แล้วคุณ ค่าแยกแก๊ซมันไม่ได้แพงครับ ค่าแยกแก๊ซและขนส่งและจัดการอื่นๆ ปตท.เคยเปิดเผยแล้วว่าอยู่ที่ 5 บาทกว่าๆ(นี่คือรวม ค่าการตลาดและกำไรแล้วครับ)ต่อกก. ส่วนแก๊ซที่ราคา ตลาดโลกมันสูง ไม่ใช่เพราะมันแยกยากแต่มันสูง เพราะมูลค่าตัวแก๊ซ ซึ่งปตท.ได้มาฟรีๆโดยการสูบจาก บ่อในแผ่นดินไทยครับ ดังนั้นตัดคำว่าราคาตลาดโลกได้เลย เพราะต้นทุน NGV ปตท.แค่ 5 บาทครับ ส่วนมีส่งออกมีแน่ครับ ไม่เชื่อกลับ ไปดูข้อมูลในเว็บกระทรวงพลังงานนั่นแหละ ส่วนเรื่อง LPG ผมไม่เคยบอกว่าให้เค้างดส่ง feedstock ครับ ภาคอุตสาหกรรมเค้าซื้อ LPG ราคาตลาดมานานแล้วดังนั้นส่วนที่นำเข้า หากปตท.ไปขายพวกนี้ ก็ไม่ขาดทุนครับ แยกเอาจริงๆตอนนี้ LPG เราอุ้มราคาแค่ภาคครัวเรือนและขนส่งเท่านั้น ลองดูปริมาณการใช้ปี 2010 ดูครับ ความต้องการใช้ LPG ภาคครัวเรือน +ขนส่ง เท่ากับ 3 ล้านตัน จากความต้องการใช้ทั้งหมด 6 ล้านตัน คิดเป็น 50% พอดีซึ่งมากกว่า ปริมาณที่เราผลิตเองไม่มาก ดังนั้นหากเอาแก๊ซส่วนที่ผลิตเองจาก GSP มาใช้ใน 2 ภาดที่ถูกอุ้ม มันก็พอดี(2010 เราสามารถ GSP ได้ 2.6 ล้านครับ แต่อย่างที่ผมบอกตัวเลขมันหายไป เพราะขุดก๊าซมากขึ้น ส่งแยกก๊าฐมากขึ้น เกือบ 40% แต่ปริมาณ LPG ที่แยกได้เท่าเดิม ) ส่วนภาคอื่นๆไม่เกี่ยวเลย เพราะเค้าซื้อ LPG ราคาตลาดนานแล้ว รัฐไม่ได้อุ้มราคาแต่อย่างใด ส่วน LPG ใครว่าเพิ่มทุกปีครับ ปี 2007 ซึ่งยังไม่ได้นำเข้า LPG เราใช้แก๊ซในภาคขนส่ง 5.72 แสนตัน 2008 เริ่มนำเข้า 4 แสนตัน เราใช้แก๊ซในภาคขนส่ง 7.76 แสนตัน 2009 เริ่มนำเข้า 7.53 แสนตัน เราใช้แก๊ซในภาคขนส่ง 6.66 แสนตัน 2010 2008 เริ่มนำเข้า 1.6 ล้านตัน เราใช้แก๊ซในภาคขนส่ง 6.8 แสนตัน ตรงใหนครับที่ว่าแนวโน้มเพิ่ม ช่วงที่เพิ่มเยอะๆจริงๆมันตั้งแต่ปี 2004-2007 เพราะเริ่มมีการเปิดตัว ระบบแก๊ซรถยนต์ แต่หลังจากนั้นตัวเลขมันทรงตัวครับ และปีปัจจุบัน เราใช้แก๊ซภาคขนส่ง มากกว่าปี 2007 ที่ไม่มีการนำเข้าเพียง 1 แสนตัน แต่กลับนำแก๊ซเข้ามาเพิ่มถึง 1.6 ล้านตัน แสดงให้เห็นว่าแก๊ซที่นำเข้ามานั้น ไม่ได้เอาไปใช้ภาคขนส่งจริงๆ ตามตารางข้างล่างก็ชัดเจนว่ามัน ถูกเอาไปใช้ ภาคอุตสาหกรรม และเป็นวัตถุดิบอย่างี่คุณว่า แต่พวดนนี้เค้าจ่ายเต็มอยู่แล้ว แล้มมันมาเกี่ยวอะไรกับข้ออ้างขึ้นราคาภาคขนส่งครับ ส่วนภาคครัวเรือนและขนส่งที่ถูกอุ้มหากมอง จากเลขตรงนี้จะเห็นได้ว่ามากกว่าตัวเลขมากกว่าก๊าซจาก GSP นิดหน่อยเท่านั้น(นี่ขนาดเลขหมกเม็ด) ดังนั้น ผมไม่เชื่อว่าปตท.จะขาดทุนตรงนี้จริงๆ เวลาคุณจะอ้างเอาตัวเลขมาด้วยครับ อย่าพูดลอยๆ ที่มาตาราง  http://www.eppo.go.th/info/2petroleum_stat.htm อันล่างสุดรายปี แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 20:44:28 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 20:38:38 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 20:37:13

ความคิดเห็นที่ 32 #30 ถ้าผมมีเอี่ยวหรือไม่มีเอี่ยว แล้วมันมีผลกับ"ความเป็นเหตุเป็นผล" ของ"สิ่งที่ผมพูด"อย่างไรครับ? การโจมตีตัวบุคคลด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับประเด็น เป็นการใช้เหตุผลวิบัติแบบหนึ่งนะครับ โต้แย้งด้วยข้อมูลอย่างมีัเหตุผลจะดีกว่านะครับ #31 มั่วใหญ่แล้ว รู้จักค่าภาคหลวงไหมครับ :P แท่นขุดเจาะในอ่าวไทย ไม่ใช่ของPTT ทั้งหมดนะครับ มีฝรั่งอีกเยอะ ต้องไปแย่งประมูลแล้วจ่ายค่าภาคหลวงให้รัฐด้วย ใครบอกว่าฟรี? แล้วขนก๊าซจากแท่นขุด ผ่านอะไรครับ ผ่านท่อ ต้องลงทุนไหมครับ? แล้วขนไปปั๊ม(ไม่ว่าผ่านท่อ หรือขนรถ) ต้องอัด มีปั๊มแรงดันสูงต้องลงทุนไหมครับ? (บอกเป็นข้อมูลว่า ปั๊มน้ำมัน/LPGทั่วไปค่าก่อสร้างแถวๆ 5-10ล้าน แต่ปั๊มNGV(CNG) เริ่มต้นที่ 30ล้านบาทครับ) ราคาหน้าปากหลุมในตลาดโลกก็ราวๆ 4บาท แต่ราคาขายหน้าปั๊มที่เมกาก็สิบกว่าบาทเหมือนๆเรานี่แหละ(แพงกว่า14บาทด้วยนะ) ลอง search google ดูก็ได้ครับ อ้อเรื่องส่งออก รบกวนช่วยระบุ URL หรือเลขตารางที่ชัดเจนด้วย เพราะผมเห็นแต่การส่งออก NGL ซึ่งมันไม่ใช่ NG นะครับ เป็นผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแยกก๊าซอีกที เป็นกระบวนการทำให้ของเสีย(flare)กลับมามีคุณค่าอีกนิด ผมก็ให้ดูตัวเลขแล้วว่ากำลังผลิต LPG จาก GSP มันพอครอบคลุมแค่ครัวเรือนเท่านั้น (~40กว่า%) ไม่มากพอเหลือภาคขนส่งอีกสิบกว่า % ครับ ดูตัวเลขดีๆ(ตารางคุณก็บอกชัดนะว่า cooking+automobile มันเกิน GSP) ไม่เหมือนเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ที่มันใกล้พอจะครอบคลุมไหว ตอนนั้นผมก็ออกมาคัดค้านการขึ้น LPG ในรัชดาเช่นกัน แต่ ณ ตอนนี้สภาพการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้วครับ LPG ตลาดโลก 900USD บ้านเรา 300USD แถม GSP พอแค่ cooking อีก มันก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ว่ายังไงก็ต้องขึ้นตามต้นทุนนั่นแหละ ซึ่งตรงนี้ถ้าคุณบอกว่า ส่วนต่างมันนิดเดียว ไม่น่ีาขึ้นหมด ก็ต้องมองแบบแยกส่วนกันครับ เพราะ growth rate ของทั้งคู่ก็มีแนวโน้มขึ้นกันหมด แล้วถ้ามันรวมแล้วมันเยอะกว่า GSP มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะคิดราคาอย่างไร ไม่ให้กระทบภาคครัวเรือน? สุดท้ายมันก็ต้องแยกส่วนคิดอยู่ดีนั่นแหละ เรื่องgrowth rateภาคขนส่ง ผมพูดแบบโดยรวมย้อนหลังสิบปีครับ (อันนี้ยอมรับว่า ใช้ความจำ จากที่เคยพูดเมื่อปี 2006 ในรัชดานี่แหละ ซึ่งปีหลังๆมันเปลี่ยนไปมาทรงๆตัว) จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 09:08:36

ความคิดเห็นที่ 33 เอาเป็นว่าไม่ต้องเถียงกันครับ คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดในงานนี้ก็นักการเมืองอยู่ดี หรือมีใครกล้าบอกว่าไม่ใช่!!!!!!!!!  คนที่เสียประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชนคนไทย!!!!! จากคุณ : ninnat31 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 10:22:49

ความคิดเห็นที่ 34 #33 ประชาชนทั่วไปก็ได้ประโยชน์ครับ ไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันแพงๆ(สมัยพี่มาร์คขึ้นไปลิตรละ 7บาท) เพื่อไปอุ้ม NGV/LPG ไงล่ะครับ ใช้เชื้อเพลิงตามราคาจริง มันจะได้ปรับตัว ไม่ใช่ใช้ของถูกแต่สูบเงินจากอีกกลุ่มมาฟรีๆซะงั้น จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 11:49:22

ความคิดเห็นที่ 35 #32 จริงๆผมหมายถึง NGL แต่ต้นแล้วกลับไปอ่านนะครับ ผมบอกแต่ต้นแล้วว่าปตท.ไม่คิดจะเพิ่ม กำลังการแยกก๊าซ เพราะขายแก๊ซดิบแล้วแล้วค่อยซื้อกลับหลังแยก(ก็ซื้อจากพม่านี่แหละ)คุ้มกว่าเพราะรัฐบาล อุดหนุนให้ตลอดอยู่แล้วมันถึงรวยไง เข้าใจนะครับ การขายไปและซื้อกลับผมไม่ได้หมายถึงขายไปแหล่งเดียวกัน แต่สุดท้ายคุณก็ยอมรับแล้วว่ามีการส่งออกจริง แล้วแต่แรกผมพูดผิดตรงใหนในคห. 10   "ขายก๊าซดิบนอก(กำไรต่อที่ 1)แล้วซื้อกลับในราคาตลาดโลก(ต่อที่ 2)" คือปตท.ก็ขายก๊าซดิบในที่นี้คือ NGL และซื้อก๊าซดิบกลับจากพม่า ตรงมั้ยครับ กำไรมั้ยครับ เหอะๆ กรณาอย่ามาแถ ส่วนเรื่องค่าหลวง พอดีเลยครับมีตัวเลขให้ดู http://www.google.co.th/search?aq=f&sourceid=chrome&ie=UTF-8&q=%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87#pq=%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87&hl=en&cp=14&gs_id=x&xhr=t&q=%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87+PTT&pf=p&sclient=psy-ab&source=hp&pbx=1&oq=%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87+PTT&aq=f&aqi=&aql=&gs_sm=&gs_upl=&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_cp.,cf.osb&fp=c45390cb02cf4a6c&biw=1366&bih=607 ลองเข้าไปดู ในลิ้งแรกครับ นี่แหละคือค่าหลวงที่ปตท.จ่าย ซึ่งสำหรับก๊าซที่ใช้ในประเทศ เค้าเก็บเพียง 12.5% ครับ(ดูสไลด์ที่ 21 ครับ) หรือพูดง่ายๆคือ LPG เก็บ 1 บาท NGV เก็บ ไม่ถึงบาท เยอะมากๆๆครับ ปตท.ล่มจมแน่ๆ แถมถ้าขายในประเทศไอเงินส่วนนี้ยังกลับไปเป็นเครดิตภาษีอีก (ค่าหลวงเราไม่ได้สูงอยู่แล้ว ยังจะกล้าไปขายเท่าประเทศที่ค่าภาคหลวงแพงๆอีก) โอ๊ยๆ ปตท.น่าสงสารมาก เสียค่าหลวงตั้ง 1 บาทแล้วยังไปลดภาษี(ผมถึงบอกไงว่าได้มาเหมือนฟรี) ได้อีกอย่างนี้เจ๊งแน่ๆครับส่วนเรื่องลงทุนผมรู้ครับเค้าต้องลงทุนแต่ผมว่าคุณอ่านหนังสือไม่ออกแน่ๆ ผมบอกแล้ว แท่นเจาะทั้งหลายปตท.ลงทุนตั้งแต่ยังเป็นรัฐวิสาหกิจครับ พูดง่ายคือลงทุนด้วยภาษีเราคร้าบบบ ส่วนเรื่องต้นทุนการสูบการประกอบการอื่นๆก็บอกไปแล้วว่าปตท.เคยแจ้งไว้สำหรับประมาณ 5 บาท รวมกับอีกไม่ถึงบาทเป็น 6 บาท ขายราคาปัจจุบันขาดทุนแน่ๆ เหอะๆ ส่วนที่ว่าก๊าซไม่พอภาคยานยนต์ใช่ครับ มันไม่พอ แต่ความจริงๆไอส่วนที่ขายราคาเกินจริงทำไมไม่พูด แล้วตอบผมชัดๆได้มั้ยครับ ทำไมปี 2007 เราขุด NGL มา 2500 ปี 2010 ขุดมาถึง 3500 แต่ทำไมได้ LPG มาเท่าเดิมตั้งแต่ ปี 2007-2010 ทั้งๆที่ มีสัดส่วนการนำไปผ่านกรรมวิธีแยก LPG เท่าเดิมคือประมาณ 16-17% ของ NGL ตรงนี้แก๊ซหายไปใหน หากแก๊ญ LPG ที่ได้เพิ่มตามอัตราส่วนการขุด NGL ป่านนี้มันพอไปแล้ว ผมถึงบอกว่าตัวเลขจากกระทรวงพลังงานที่ปตท.แจ้งมันโดนแต่งมาโดยตลอด ขอร้องถ้าจะเถียงเอาตัวเลขเอาที่มามาอ้าง อย่าสักแต่พูดว่าค่าโน่นค่านี่หลักฐานไม่มีว่าเท่าใหร่มันไม่น่า เชื่อถือครับ อย่าสักแต่แก้ตัวแทนรัฐบาลเลย ปล. ชาวบ้านได้ประโยชน์ตรงที่ไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน 7 บาทหรือ? ตอนนี้ผ่านมาไม่ถึงปี ราคา น้ำมันขยับไปเท่าก่อนเก็บเข้ากองทุนน้ำมันแล้วครับ แถมเงินในกองทุนหมดแล้วอีก เพราะรัฐโง่ ปล่อยให้ปตท.โก่งราคา(หรือสมยอมก็ไม่รู้) เลยต้องเอาเงินกองทุนมาชดเชย(ทั้งๆที่ความจริง ปตท.ไม่ชดเชยก็กำไร)สุดท้ายล่าสุดได้ยินว่า เงินกองทุนหมดจะแล้ว และเค้ากำลังกลัมมาเก็บใหม่ โอ้ยดีใจจนน้ำตาใหลเลย รัฐบาลดีจริงๆ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 18:25:57 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 18:24:22 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 18:23:49 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 55 18:19:12 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 18:14:25

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าคิดว่า ปตท. ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่งคือ การทำกำไรให้มากขึ้น แล้วไม่พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อหากำไรเพิ่ม หรือ พยายามมองโลกในแง่ดี ด้วยการขายสินค้าในราคาเหมาะสม เพื่อช่วยคนไทยอย่างแท้จริง ถ้าคิดแบบนี้ ผมว่า คนคิด คงมอง ปตท. ผิดไปถนัด ปตท. สร้างภาพอย่างมาก ซึ่งหมดเงินไปเยอะ กับการสร้าง Brand ถ้าลองสังเกตุ ในช่วงตั่งแต่แปรรูป หมดเงินกับการ โฆษณาไปเยอะมาก ในทุก ๆ สื่อ ถ้าเป็นคน ชอบซื้อนิตยสารอ่านหลากหลายรูปแบบ คุณอาจจะงง ๆ ว่า ไอ้หนังสือที่ไม่น่า มี ปตท. มาเกี่ยวข้อง ก็ยังมี ปตท. มาเป็น สปอนเซอร์ หรือ โฆษณาโง่ ๆ ที่ว่า แก๊สโซ่ฮอล์ไม่ผิด ทั้ง ๆ ที่รถที่ไม่รองรับ เติมออกมา ก็มีปัญหากันนับไม่ถ้วน นอกจากนี้การบริหารงานที่ หรูหรา งบประมาณการจัดงาน การจัดองค์กรให้หรูหรา ฟุ่มเฟือย มีระดับ เพื่อหน้าตา ก็ถือเป็นต้นทุน แต่บางที อาจจะมากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งต้นทุนเหล่านั้น ก็คงจะถูกนำมา คิดเป็นต้นทุนการบริหารงานด้วย แต่โครงการดี ๆ ก็มีเยอะนะครับ เช่น ปลูกป่า หรือ ช่วยเหลือ เหตุน้ำท่วม หรือ โครงการดี ๆ อื่น ๆ แต่ผมว่า ถ้าเรามองแบบ บริสุทธิใจสุด ๆ มองแบบว่า ตัวเองเป็น ปตท. คุณก็จะรู้คำตอบในใจ ว่า ปตท. ต้องการอะไร ถ้าไม่ใช่กำไร ที่มากขึ้น มากกว่า ผลประโยชน์ของ คนไทย... เพราะคนใน ปตท. ก็คือ คนในรัฐบาล เมื่อมีโอกาสใช้อำนาจในการ เอาเปรียบประชาชน ก็สมควรทำ เพราะถ้าไม่ทำตอนนี้ ก็ต้องบอกว่า "โง่เต็มที" เพราะไม่รู้จะได้ทำอีกทีตอนไหน เพราะโอกาสที่อำนาจจะอยู่ในมือเบ็ดเสร็จขนาดนี้ และ เสียงประชาชนที่ไม่รู้อิโน่อิเน่ ที่สนับสนุนอยู่มากมาย ก่อนที่จะกลายเป็นเสียง สาบส่ง ด่าแช่ง เสียก่อน ดังนั้น จึงจำเป็นต้อง รีบดำเนินภาระกิจ เพิ่มกำไรให้กับ ปตท. ให้มากที่สุด เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ๆ ก็รู้ ๆ กันอยู่ กระทรวงการคลัง มีรายได้เพิ่มขึ้นแน่ ๆ ซึ่งจะเป็นเงินสดมาหมุนในมือให้กับ รัฐบาล และ ผู้ถือหุ้น ปตท. ก็มีเปิดเผยให้ดู ซึ่ง ผู้ลงทุนจากต่างชาติเหล่านี้ ได้วิเคราะห์มาอย่างดีแล้ว ว่า ปตท. ของไทยนี่แหละ ที่ทำกำไรได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อเรารู้ว่า นักลงทุนต่างชาติ ที่สนใจ ลงทุนกันขนาดนี้ ล้วนแต่เป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ซึ่งยังมองออกว่า ปตท. ทำกำไรได้ อย่างงดงาม จึงเป็นที่หอมหวน และ จากพฤติกรรมเหล่านั้น ก็เป็นภาพที่ย้อนกลับมาบอกกับ ผู้ที่ต้องซื้อพลังงานจาก ปตท. ได้ว่า ปตท. ก็ต้องการกำไรที่สูงสุด ด้วยการทำทุกวิถีทาง --------------------------------------------------------------------------------------------------- ซึ่งก็ไม่ได้เป็นที่น่าแปลกใจนัก เมื่อ ปตท. ก็เป็นองค์กรซึ่งแสวงหากำไร และถือหุ้น 50%++ โดยกระทรวงการคลัง และ รัฐบาลก็คือกระทรวงการคลัง (ก็ทุกรัฐบาลน่ะแหละ) ปตท. น่าจะแจกแจงให้ละเอียด โดยลงโฆษณาใน สื่อต่าง ๆ ซึ่งก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ นิตยสารรายเดือน รายปักษ์ หรือ แผ่นโฆษณาต่าง ๆ ถึงต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งผู้ที่ซื้อพลังงานจาก ปตท. จะรับได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ การทำงานของ ปตท. เองต่างหาก ว่าโปร่งใสแค่ไหน แต่จากที่เห็นปัจจุบัน ยังไม่มีความชัดเจนในด้านต้นทุน และ การกล่าวว่าขาดทุนนั้น ก็ต้องดูว่า ขาดทุนทางบัญชี หรือ ขาดทุนไปแล้วจริง ๆ หรือใครขาดทุน หรือ ไม่ขาดทุนแต่กำไรน้อยเกินไป คำตอบง่าย ๆ แค่นี้ บริษัท ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ คงจะสามารถทำรายงานออกมาได้ ไม่ยาก นอกจากว่า สิ่งเหล่านี้ จะเป็นความลับดำมืด ที่เปิดเผยไม่ได้ หรือ ต้องได้รับการตกแต่งก่อน ที่จะเผยแพร่ออกสู่สาธารณะก็เป็นได้ แต่ถ้าหากการชี้แจงดูมีเหตุผล ก็คงไม่มีใครคัดค้าน หรือมีก็น้อยมาก เพราะใจจริง ๆ ของผมก็ต้องการให้ ยกเลิกการอุ้ม แต่ ก็ต้องการรู้ต้นทุนจริง ๆ วิธีการจริง ๆ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่าย จิปาถะ ที่จะเป็นต้นทุน ต้นทุนก่อสร้างโรงแยกก๊าซ ค่าที่ดิน ค่าเสื่อมราคาโรงงาน ค่ารถขนก๊าซ ค่าสร้างท่อก๊าซ ค่าเสื่อมราคาท่อก๊าซ ค่าบำรุงรักษาระบบ ค่าสัปทานที่พม่า ค่าขุดเจาะสำรวจ เงินใต้โต๊ะให้ทหารพม่า? เงินโบนัส เงินฟุ่มเฟือยต่าง ๆ ที่ใช้สร้างภาพ ต้องจัดทำออกมาให้มันดูเป็นข้อมูลที่ ยอมรับกันได้ แต่อย่า มาทำแบบ รวบหัวรวบหาง เพราะถือว่า มีเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนอยู่ เหรียญมีสองด้านเสมอ ปตท. ก็มีด้านที่ไม่อยากเปิดเผย แต่เป็นถึง บริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ ก็น่าจะจริงใจหน่อย เพราะการปรับขึ้นราคา NGV หรือ NLG มีผลกระทบเป็นวงกว้างมาก น่าจะเรียกว่า ไม่มีอะไรที่จะ กระทบเป็นวงกว้างไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะ ปากท้อง คือ LPG ขนส่ง คือ NGV ของทุกอย่าง ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ล้วนต้องผ่านการใช้พลังงานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง หรือ แม้แต่แรงงานมนุษย์ ก็ต้องการอาหารจาก แก๊สหุงต้ม เป็นพลังงานในการทำงาน อยากให้ 1. ยกเลิกเก็บ เบนซิน ไปอุดหนุนพลังงานอื่น ๆ หรือ เก็บเข้ากองทุน 2. ขยับราคา แก๊ส เข้าไปที่ต้นทุนจริง ๆ ไม่ใช่ โมเมมาพูด 3. ดีเซล ก็ไม่ต้องอุดหนุน ใครมีเงิน ก็ซื้อได้ ใครจน ก็เดิน หรือ จักรยาน ถ้าหิว ก็หาเตาถ่านมาใช้แทนเตาแก๊ส แค่นี้เอง จากคุณ : EAK099 (EAK099) เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 03:11:16

ความคิดเห็นที่ 37 #35 เฮ้อ ผมบอกให้ไปทำความเข้าใจก่อนว่า NGL คืออะไร NGL คือผลผลิตพลอยได้ในการแยกก๊าซ ซึ่งเป็นกระบวนการนำก๊าซส่วนเกินที่ปกติเผาทิ้ง(flare ตามปล่องนั่นแหละ) มาทำกระบวนการหน่อย เพื่อแยกเป็นผลิตภันฑ์กลับมา มันไม่ใช่เนื้อก๊าซธรรมชาติที่สามารถนำไปใช้ต่อได้เต็มที่เหมือนก๊าซธรรมชาติ(NG) หรือก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ตัวหลังนี่แหละที่เรานำเข้าจากตปท.(ทางเรือ) ราคาแพงกว่าราคาหน้าปากหลุมมากๆ เพราะมีกระบวนการเยอะกว่าครับ ฉะนั้นจะส่งออกไป ก็ไม่มีผลกับเรื่องนำเข้าครับ เพราะมันคนละอย่างคนละชนิด ไม่ได้ไปใช้งานเหมือนกัน แยกให้ดีนะครับ NG LNG NGL พูดย้ำหลายรอบแล้วก็เบื่อเหมือนกันนะ ถ้าจะเปรียบเปรย ก็เหมือนน้ำมันก๊าด เป็นผลผลิตจากการกลั่นน้ำมันดิบ แล้วสมมติถ้าการใช้น้ำมันก๊าดในประเทศน้อย เราก็เหลือส่งออก แต่การส่งออกน้ำมันก๊าด ไม่ได้มีผลทำให้เราต้องเร่งนำเข้าน้ำมันดิบสักหน่อย เพราะผลิตภัณฑ์หลักที่เราต้องการคือ เบนซิน(ULG) ดีเซล ฯลฯ (อันนี้สมมตินะครับ ผมไม่ได้ดูตัวเลข จริงๆแล้วเราอาจจะใช้น้ำมันก๊าดมากกว่าก็ได้) ฉะนั้นจะส่งออกหรือไม่ส่งออก NGL ก็ไม่มีผลต่อการนำเข้า NG(LNG) ครับ ทำความเข้าใจดีๆนะครับ เห็นคุณสับสนมากขนาดเอาตัวเลขมาลบสัดส่วนกันมั่วๆหลายรอบแล้ว ย้ำอีกทีเราไม่ได้ขุด NGL นะครับ เราขุด NG มาเข้าโรงแยกก๊าซเป็น LPG และได้ของเหลือเป็น NGL ถ้าคุณยังสับสนกับเรื่องพื้นฐานง่ายๆ ที่ผมอธิบายหลายรอบอีก ก็คงต้องขอเลิกคุยแล้วล่ะครับ ค่าภาคหลวงมากหรือน้อย อันนี้ผมไม่แน่ใจ แต่ฝรั่งขุดในอ่าวไทยเขาก็จ่ายเท่านี้มานาน ไม่ได้จ่ายมากหรือน้อยกว่า PTT ไม่เห็นมีใครบ่น แล้วจะให้ PTT จ่ายแพงกว่าฝรั่งหรือครับ? (อ้อลองดู link 2 ของ link คุณจะมีรายละเอียดว่า หลุมเจาะไหนในอ่าวไทย ใครเป็นเจ้าของกันบ้าง จะได้ไม่ด่าแต่ PTT เจ้าเดียว :P ) เรื่องกองทุนน้ำมัน  แล้วชาวบ้านไม่ใช่คนจ่ายเงิน 7 บาทหรือไงหว่า? ทำไมคนใช้น้ำมัน ULG ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถเก่า และเครื่องจักรทางการเกษตร ต้องจ่ายเงินมากกว่าคนรวยๆ ในเมืองหลวงเพื่อไปอุ้มคนรวยด้วยครับ? ปีที่แล้วพี่มาร์คผลาญเงินอุ้มดีเซลไป 3หมื่นล้าน(เลียนแบบทักกี้อุ้มดีเซล 7หมื่นล้าน) เก็บเงินจากคนจนๆลิตรละ 7 บาทจนอ่วม(คนจนไม่มีปัญญาซื้อรถใหม่มาใช้ E20 ที่ได้เงินอุดหนุนหรอกครับ) การบิดเบือนโครงสร้างอย่างหนักจนสำนึกการใช้พลังงานผิดเพี้ยนจากต้นทุนจริง ผมต้องเรียกว่าการบริหารแบบโง่ๆ(รวมถึงทักกี้ตอนอุ้มดีเซลครั้งแรกด้วย) จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 12:09:44

ความคิดเห็นที่ 38 ปล่อยเขาเถอะครับ คุณ สี่จุด ถ้าเขาคิดว่ายังคิดว่า NGL คือ NG  คืออันเดียวกัน ก็ต้องถามว่าทีว่าเราส่ง ออก เราส่งออกยังไง ในเมื่อเวลาเรานำเข้ายังต้องลงทุนวางท่อถางป่่าจนมีคนมาต้อต้านอยู่พักนึงเลย   แล้วหน่วยที่เขาพูดถึงเนี่ย มันไม่ใช่ปริมาณน้อยๆเลย มันถึงจะสามารถส่งออกได้ง่ายๆ  เพราะมันเป็นหน่วย ล้านลูกบาทฟุต (MMscfd)  เราผลิตเองในประเทศน่าจะซัก 3000-3500 MMscfd ต่อวันนะครับ ไม่ใช่ต่อปี   แต่การใช้ NGV ในภาคข่นส่งของไทย แค่หลักร้อยล้าน ต่อปีนะครับ คิดดูต้องใช้อะไรขนถึงพอที่จะส่งออกได้    แล้วเรื่องค่าภาคหลวง มันไม่เกียวกับราคาและเอามาอ้างถึง หรือเทียบอะไรได้เลย NGV หรือ LPG เลย เพราะทั้งสองอย่างนี้มันต้องผ่านกระบวนการผลิตอีก ถึงจะได้มาใช้  แต่ค่าภาคหลวงคือเงินที่เก็บส่วนแบ่งจากการขายปิโตรเลียม ซึ่งก็คือแก๊สธรรมชาติ น้ำมันดิบ หรือ คอนเดนเสท จากผู้ผลิตที่ได้รับสัมปาน เช่น ปตท.สผ.  , เชพรอน หรืออีกหลายๆ บริษัท  ที่ขุดเจาะ ผลิตและขายแก๊ส  ให้กับ ปตท.(เพราะ ปตท. เป็นเจ้าของท่อแก๊ส) แล้วบริษัทพวกนี้ก็ต้องเสียภาษีจากรายได้สุทธิอีก 50% เข้ารัฐ  ส่วน ปตท.ซื้อก็ต้องใช้เงินไม่ใช่ได้มาฟรีๆ แล้วถึงเอาไปขายให้การไฟฟ้า ฟรือเข้าโรงงานต่างๆ อีกที     อันนี้ลิงค์ คำอธิบายเรื่องค่าภาคหลวง ที่เข้าใจง่ายๆ จะเห็นว่าสูงสุด  15% http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87    แล้วก็อย่าไปเชื่อมุกใหม่ ของ สว.ขาประจำที่บอกว่า ต้องเก็บ ค่าภาคหลวง 70-80% เหมือนประเทศในแอฟริกา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขายกมา เพราะแหล่งปิโตรเลียมแต่ละพื่นที่มันไม่เหมือนกันทั้งปริมาณ คุณภาพ หรือขนาดของหลุม  ซึ่งมันทำให้ต้นทุน และความเสี่ยงของแต่ละที่มันไม่เท่ากัน ก่อนที่จะเจาะ หรือให้สัมปทาน  สัมปทานในทะล หรือบนฝั่งต้นทุนก็ต่างกัน ผู้ผลิตต้องรับความเสี่ยงเอง เราไปเรียกสูง ขนาดนั้นก็คงไม่มีใครมาทำ ในเมื่อทุกวันนี้ปริมาณแก๊ส ในอ่าวไทยมันก็น้อยลงเรื่อยๆ จนต้องใช้เทคโนโลยีที่มากขึ้น ค่าใช่จ่ายสูงขึ้นในการผลิต รวมถึงสัญญานี้ก็ทำมานานแล้วด้วย (สัมปทาน แรก ประมาณแถวๆปี 2505 แต่กว่าจะผลิตได้จริง 2523) แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 22:45:08 จากคุณ : Deknon22 เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 22:39:14