 |
ยังมีสิ่งละอันพันละน้อยเำพิ่มเติมครับ
อ้างอิง : http://www.teana-club.com/webboard/index.php?topic=13226.0
สืบเนื่องมาจากว่าเห็นหลายๆ ท่านที่เพิ่งสมัครเข้ามาใหม่ ถามคำถามซ้ำๆ กันหลายหน ผมเลยพยายามรวบรวมแต่ละคำถามมาไว้กระทู้เดียวกันเลย เท่าที่พอนึกออกนะ
สิ่งที่หลายคนคิดว่ารถควรจะมี แต่มันไม่มี
1. ปุ่มล็อกประตู (ที่แผงควบคุมภายใน) ปุ่มล็อกกระจก และปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันไม่มีไฟเรืองแสง
2. ปุ่มเปิดกระจกบานคนขับจะเรืองแสงตลอดเวลาที่สวิทช์กุญแจอยู่ในตำแหน่ง ACC หรือ ON แม้สวิทช์ไฟหน้าจะปิดอยู่ก็ตาม
3. รถรุ่น SS ไม่มีลายไม้ตรงที่วางแก้วเบาะหลัง ไม่มีไฟสร้างอารมณ์ที่มือจับประตู 3 บาน และไม่มีไฟส่องสว่างที่กระจกแต่งหน้าในที่บังแดด(รุ่น 250XV SS รุ่นหลังๆ มีไฟที่กระจกแต่งหน้าในที่บังแดดแล้ว) ส่วนรถรุ่น 200 ก็ไม่มีลายไม้ตรงที่วางแก้วเบาะหลังเช่นกัน (ลายไม้นี้มีเฉพาะรุ่น 250 ที่ภายในเป็นสีครีมเท่านั้น)
4. ประตูรถไม่มีระบบออโต้ล็อก อยากได้ต้องหาติดเอง
5. กุญแจรถที่เป็น immobilizer เป็นเพียงรีโมทคอนโทรลที่ให้ความสะดวกในการเปิด-ล็อกประตู เปิดฝากระโปรงท้าย รวมทั้งเรียกหารถในกรณีที่มองไม่เห็นแต่ได้ยินเสียง ไม่ใช่เป็นระบบกันขโมย ดังนั้นมันจึงไม่มีระบบตรวจจับการล็อกรถโดยที่ยังเปิดกระจกหรือเปิดประตูทิ้งไว้ ถ้าปิดประตูไม่สนิทจะไม่สามารถล็อกประตูโดยการกดปุ่มที่มือจับประตู แต่สามารถสั่งล็อกจากรีโมทคอนโทรลได้ และกรณีรถถูกบุกรุก ไม่ว่าทุบกระจก เปิดประตูด้วยกุญแจผีหรือวิธีใดๆ ที่ไม่ใช่รีโมทคอนโทรล เปิดกระโปรงหน้า-ท้าย รถจะไม่มีการร้องใดๆ ทั้งสิ้น
การตั้งค่าการใช้งานบางอย่างด้วยตนเองสำหรับรุ่นจอสี (หรือตั้งค่าโดยศูนย์บริการสำหรับรุ่นจอส้ม)
6. ถ้าตั้งสวิทช์ไฟหน้าไว้ที่ AUTO ไฟหน้าจะดับหลังจากลงจากรถแล้วปิดประตูบานสุดท้าย นับไปอีก 45 วินาที (ค่าที่ตั้งจากโรงงาน) ถ้าไม่ชอบ สามารถเปลี่ยนได้โดยการใช้คอนเซาท์3 ตั้งค่าสำหรับรุ่นจอส้ม หรือกดตั้งค่าจากปุ่มควบคุมใต้จอกลางสำหรับรุ่นจอสี ค่าที่ตั้งได้มีตั้งแต่ 0, 30, 45, 60, 90, 120, 150, 180 วินาที
7. เซ็นเซอร์ไฟหน้าอยู่ที่คอนโซลหน้าใกล้กระจกบังลม หากติดฟิล์มกรองแสงทึบๆ อาจมีผลทำให้เซ็นเซอร์มีความไวมากยิ่งขึ้น ความไวของเซ็นเซอร์สามารถปรับตั้งได้ 4 ระดับ ค่าที่ตั้งมาจากโรงงานอยู่ที่ระดับ 2 รุ่นจอส้มสามารถตั้งค่าโดยใช้คอนเซาท์3 ส่วนรุ่นจอสีตั้งค่าได้เองโดยใช้ปุ่มควบคุมใต้จอกลาง
8. ปุ่มล็อก-ปลดล็อกประตูที่มือจับประตูด้านนอก สามารถตั้งค่า enable/disable ได้ โดยรุ่นจอส้มตั้งค่าโดยใช้คอนเซาท์3 ส่วนรุ่นจอสีตั้งค่าได้เองโดยใช้ปุ่มควบคุมใต้จอกลาง
9. เครื่องเสียงติดรถสามารถตั้งค่าให้มันเร่ง-หรี่ระดับเสียงให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถได้ โดยรุ่นจอส้มตั้งค่าโดยใช้คอนเซาท์3 ส่วนรุ่นจอสีตั้งค่าได้เองโดยใช้ปุ่มควบคุมใต้จอกลาง อันนี้มีคนทักว่ามันไม่ใช่ ขอตัดออกครับ
10. ที่ปัดน้ำฝนก็สามารถตั้งให้มันทำงานด้วยความเร็วที่สัมพันธ์กับความเร็วรถได้เช่นกัน โดยรุ่นจอส้มตั้งค่าโดยใช้คอนเซาท์3 ส่วนรุ่นจอสีตั้งค่าได้เองโดยใช้ปุ่มควบคุมใต้จอกลาง
11. หากมีการถอดขั้วแบตเตอรี่ ปุ่มปิดกระจกคนขับที่เป็น AUTO รวมทั้งระบบ Jam protection จะถูก disable ไปโดยอัตโนมัติ สามารถตั้งค่าให้มันกลับมาปิดแบบวันทัชโดยการกดสวิทช์กุญแจไปที่ ON เปิดกระจกลงมา แล้วกดปิดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ถ้าทำแล้วยังไม่สำเร็จก็ลองใหม่โดยทำซ้ำแบบเดิม แต่กดปิดกระจกให้นานขึ้นไปอีก
12. หากไม่ชอบเสียงปิ๊ด หรือปิ๊น ตอนล็อก-ปลดล็อกประตูรถ สามารถปิดเสียงให้เป็นใบ้ได้โดยการกดปุ่มล็อก-ปลดล็อกที่รีโมทคอนโทรลพร้อมกันค้างไว้จนไฟเลี้ยวกระพริบ ก็จะทำให้เสียงมันหายไป ตอนล็อกรถจะมีเพียงไฟเลี้ยวกระพริบ ตอนปลดล็อกจะไม่มีเสียงหรือสัญญาณอะไรเตือน ยกเว้นไฟส่องสว่างในเก๋งที่จะติดขึ้นมา (หากตั้งค่าให้ไฟในเก๋งทำงานสัมพันธ์กับการเปิด-ปิดประตู)
13. ต่อจากข้อ 12 ถ้าตั้งเสียงล็อก-ปลดล็อกประตูรถเป็นโหมดใบ้แล้ว ตอนเปิดฝากระโปรงท้ายโดยกดปุ่มที่ฝากระโปรงจะยังคงมีเสียงร้อง ปิ๊ดๆๆๆ แต่หากกดเปิดกระโปรงท้ายจากรีโมทคอนโทรลจะไม่มีเสียง
ระบบแอร์
14. หากอากาศภายนอกเย็น แอร์ในรถจะเป่าลงเท้าก่อนเสมอไม่ว่าทิศทางลมจะเคยถูกตั้งไว้อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดใช้ไปสักพักนึงมันจะปรับขึ้นมาเป่าออกหน้าโดยอัตโนมัติ
15 การเปิดแอร์ ไม่ว่าจะด้วยการกดปุ่ม AUTO หรือบิดลูกบิดปรับแรงลม ระบบจะไม่จำทิศทางลมที่เราเคยตั้งไว้ มันจะคิดทิศทางของมันเอง ยกเว้นว่าเราดับเครื่องรถโดยไม่ได้ปิดแอร์ เมื่อติดเครื่องรถ ระบบแอร์ทั้งทิศทางลมและความเร็วลมจะยังคงเป็นค่าเดิม ทั้งนี้เพราะระบบไม่ได้ถูกปิดอย่างสมบูรณ์ตามรอบของมัน
16. บริเวณคอนโซลเกียร์จะมีความร้อนบ้างเป็นเรื่องปรกติ เพราะความร้อนส่วนหนึ่งจากท่อไอเสียจะทะลุผ่านอุโมงค์และฉนวนขึ้นมาได้ และถ้าเป็นช่วงเวลาที่มีการเปิดไฟส่องสว่าง คอนโซลเกียร์ตรงบริเวณจุดบอกตำแหน่งเกียร์จะร้อนมากขึ้นอีกอันเนื่องมาจากความร้อนของหลอดไฟบอกตำแหน่งนั่นเอง
17. จากข้อ 16 แอร์ช่องหลังมักจะเย็นไม่เท่าช่องหน้า เนื่องมาจากความเย็นส่วนหนึ่งมันหายไปเพราะความร้อนที่มาจากท่อไอเสียเนื่องจากท่อแอร์ในส่วนนี้ไม่ได้หุ้มฉนวน วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ ปรับลดอุณหภูิมเพื่อชดเชยความเย็น
18. แอร์รถทำงานโดยมีเซ็นเซอร์ 2 จุดใหญ่ๆ ทำงานสัมพันธ์กัน คือเซ็นเซอร์ภายนอกอยู่บริเวณหน้าหม้อ กับเซ็นเซอร์ภายในบริเวณคอนโซลหน้า เซ็นเซอร์ 2 จุดหลักนี้จะมองว่าถ้าอุณหภูมิภายนอก (อุณหภูมิที่จอ MID ที่หน้าปัด) สูงกว่าภายใน (ตัวเลขอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ที่หน้าจอแอร์) มันจะเข้าใจว่าเราปรับแอร์เพื่อต้องการความเย็น คอมเพรสเซอร์ก็จะทำงานเพื่อสร้างความเย็น ในทางกลับกันถ้าอุณหภูมิภายนอก (อุณหภูมิที่จอ MID ที่
หน้าปัด) ต่ำกว่าภายใน (ตัวเลขอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ที่หน้าจอแอร์) มันจะเข้าใจว่าเราปรับแอร์เพื่อต้องการความร้อน-อุ่น มันก็จะเรียกระบบฮีตเตอร์มาใช้ทำให้เราร้อน
สรุปง่ายๆ
ถ้าอุณหภูมิที่จอ MID ที่หน้าปัด > ตัวเลขอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ที่หน้าจอแอร์ คนขับและโดยสารจะเย็น ถ้าอุณหภูมิที่จอ MID ที่หน้าปัด <= ตัวเลขอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ที่หน้าจอแอร์ คนขับผู้โดยสารจะร้อน
โดยที่ระบบมันไม่ได้คิดเลยว่าตัวเลขที่หน้าจอแอร์เท่าใดที่คนจะรู้สึกร้อน-เย็น ลักษณะนี้ทำให้เรารู้สึกว่าแอร์ไม่เย็นเมื่อขับรถในตอนเช้าที่อากาศเย็นหรือวันที่มีฝนตก วิธีแก้ทางก็แค่ดูตัวเลขอุณภูมิที่จอ MID แล้วมาตั้งตัวเลขที่จอแอร์ให้ต่ำกว่ากันสัก 3 องศาก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานและเรารู้สึกเย็นได้
เครื่องเสียง
19. ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัยไม่สามารถกดสลับ FM1 <=> FM2 ได้ ทำได้แค่เพียง FM AM DISC AUX(สำหรับรุ่นจอส้ม) และไม่สามารถสั่งปิดเครื่องได้ ส่วนปุ่มเปลี่ยนแทร็ก ถ้าเลื่อนค้างไว้จะใช้เปลี่ยนแผ่น
20. รถรุ่นจอส้ม สามารถกดปุ่ม SOURCE บนพวงมาลัย เวียนเข้า AUX ได้แต่ต้องเสียบสาย 3.5 มิลไว้ที่ฟร้อนท์ ในขณะที่รถรุ่นจอสีจะกด SOURCE บนพวงมาลัยยังไงก็จะไม่เข้า AUX การจะเข้า AUX ของรถรุ่นจอสีต้องกดที่หน้าฟร้อนท์เท่านั้น
21. เวลาเปิดใช้ GPS ปุ่ม FM/AM DISC AUX ที่หน้าฟร้อนท์จะกดไม่ได้ ถ้าจะกดต้องปิด GPS ก่อนหรือไม่ก็กดเปลี่ยนแหล่งสัญญาณจากปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยแทน
22. ผู้ที่ติดฟร้อนท์เพิ่มเติมในเก๊ะ อาจจะประสบปัญหา ช่องเสียบ USB ใช้งานยาก เนื่องมาจากรูปทรงของฝาเก๊ะที่ปิดแล้วค่อนข้างแนบชิดกับส่วนที่เป็นช่องใส่ฟร้อนท์ ถ้า thumb drive ไม่เล็กจริงจะปิดฝาเก๊ะไม่ได้
23. รถรุ่นจอสี มีช่องรับ AUX ซ่อนอยู่ในช่องเก็บของคอนโซลกลางเป็น composite แดง ขาว เหลือง และการแสดงผลที่จอกลางนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อความเร็วรถเป็น 0 และมีการเหยียบเบรกมือ การปลดล็อกหน้าจอให้สามารถแสดงผลในขณะที่รถวิ่งสามารถทำได้โดยตัดสายไฟ 2 เส้น (มีกระทู้ DIY ปักหมุดในห้อง Technical J32)
ข้อสงสัยทั่วๆ ไป
24. Cruise Control สำหรับรุ่น 200 ยังไม่มีคนคิดค้นให้ใช้ได้จริง ที่ทำๆ กันคือติดสวิทช์หลอกเพื่อความเท่เท่านั้น
25. การเข้าเกียร์ตอนติดเครื่องใหม่ๆ และเครื่องเย็น อาจมีการกระตุกมากกว่าการเข้าเกียร์ตอนที่เครื่องยนต์อยู่ในอุณหภูมิทำงาน เพราะรอบเครื่องตอนติดเครื่องใหม่ๆ จะสูงกว่าปรกติเพื่ออุ่นเครื่อง
26. ใครที่เก็บสายพ่วงแบตเตอรี่ไว้ท้ายรถ โดยคิดจะให้เทียน่าเราเป็นผู้ช่วยเหลือคนอื่นในกรณีต้องพว่งแบตเตอรี่ให้เค้า อันนี้ถือเป็นกุศล แต่...หากเทียน่าเราเกิดแบตเตอรี่หมดไฟซะเองแล้วต้องใช้สายพ่วง เราจะซวยเเองพราะเปิดฝากระโปรงท้ายไม่ออก เนื่องมาจากว่าระบบเปิดฝากระโปรงท้ายทั้งหมดมันเป็นไฟฟ้า
27. การจอดรถขวางตามลานจอดรถให้เข็นรถได้ เมื่อดับเครื่องและเข้าเกียร์ P แล้ว กดปุ่ม Shift lock ที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาของคันเกียร์แล้วโยกออกมาที่ N ส่วนเรื่องการเปิด-ปิดประตู ก่อนหรือหลังดับเครื่องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล็อกรถเลย ขอแค่หลังดับเครื่องให้มีการโยกคันเกียร์เข้าไปที่ P สักหน่อย แค่นั้นก็ล็อกรถได้แล้ว
28. ไฟหน้ารุ่น 250 ที่เป็นแบบปรับระดับความสูงของลำแสงอัตโนมัติ ถ้าใครดึงช่วงล่างหน้าลงโดยหลังยังเท่าเดิมจะทำให้แสงไฟพุ่งลงพื้น เพราะระบบปรับสูง-ต่ำของโคมไฟแบบอัตโนมัตินั้น เซ็นเซฮร์มันตรวจจับที่ความสูงของท้ายรถ ถ้าท้ายรถสูงเท่าเดิม ไม่ห้อยลง มันจะไม่ปรับระดับไฟหน้าให้ อันนี้ต้องปรับด้วยมือโดยการใช้ไขควงด้ามยาวหมุนเฟืองที่หลังโคมไฟเท่านั้น
29. สายสลิงเล็กที่ฝากระโปรงท้ายมีไว้เพื่อใช้เปิดจากภายในกรณีที่เกิดพลัดตกลงไปแล้วฝากระโปรงปิดหรือเพื่อป้องกันการถูกลักพาตัว
30. หากลืมปิดไฟใดๆ ในรถหลังจากดับเครื่องหรือสวิทช์สตาร์ทอยู่ที่ OFF/LOCK แล้ว รถจะตัดไฟให้เพื่อป้องกันแบตเตอรี่คายประจุจนหมด โดยไฟที่กินวัตต์เยอะๆ เช่นไฟใหญ่ ไฟตัดหมอก รถจะตัดไฟใน 5 นาที ส่วนไฟเล็กๆ ที่กินวัตต์น้อย เช่นไฟในเก๋ง ไฟในกระโปรงท้าย รถจะตัดไฟใน 30 นาที
31. หากเหยียบเบรกในขณะที่คันเกียร์อยู่ที่ P จะได้ยินเสียงกริ๊กเบาๆบริเวณคันเกียร์ เป็นเรื่องปรกติ มันคือเสียงกลไกปลดล็อกเพื่อให้เลื่อนคันเกียร์ออกจาก P ได้
32. หัวหมอนปรับด้วยมือให้เอนหน้า-หลังไม่ได้ แต่มันจะปรับเองเมื่รถโดนชนท้าย
33. ไฟในเก๋งที่จะหรี่ลงหลังจากปิดประตู จะหรี่ลงไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะวูบหายไปเลย ไม่สมูธเหมือนรถยี่ห้ออื่นๆ อันนี้เป็นเรื่องปรกติของรถรุ่นนี้ซึ่งค่อนข้างจะถือว่าผิดปรกติสำหรับความรู้สึกคนทั่วไป
34. สำหรับรถใหม่ จะมีพลาสติกสีดำรูปตัวยูและมีแกนหยักๆ ยื่นออกมา มันเอาไว้ใช้สำหรับปิดรูร้อยตะขอลากรถ ซึ่งรูนี้เป็นโลหะสีเงินๆ อยู่ในช่องกันชนหน้า ทางด้านขวาของป้ายทะเบียน
35. ถ่านรีโมทคอนโทรลของรถรุ่น J32 เป็นขนาด CR2032 แต่ขนาด CR2025 ก็สามารถใช้แทนกันได้
36. หลังดับเครื่องแล้วจะยีงคงมีไฟเลี้ยงที่กระจกประตูทั้ง 4 บานอีกครู่หนึ่ง เพื่อความสะดวกในการปิดกรณีลืมปิด หรือเปิดเพื่อนั่งรอคนในรถ แต่ไฟเลี้ยงนี้จะถูกตัดทันทีที่มีการเปิดประตูเพื่อลงรถ
37. หลอดไฟหรี่ ไฟส่องทะเบียนท้าย และหลอดไฟแสงสว่างในเก๋ง เป็นหลอดขาแก้วแบบ T10 เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากจะเปลี่ยนหลอดเป็นสีอื่นๆ
38. ถ้าต้องการดับเครื่องโดยที่สวิทช์กุญแจยังอยู่ที่ตำแหน่ง ACC เพื่อจุดประสงค์ในการนั่งฟังเพลงในรถ ทำได้โดยการกดปุ่มสวิทช์กุญแจ 2 ครั้งติดๆกัน
39. ขดลวด 6 เส้นสั้นๆ ที่ตำแหน่งบนสุดของกระจกบานหลังคือเสาอากาศวิทยุ ดังนั้นการใช้ระบบไล่ฝ้าหลัง จะมีผลทำให้ฝ้าบริเวณขดลวดดังกล่าวไม่หายไป
40. รถสามารถสตาร์ทโดยไม่ใช้กุญแจ immobilizer ได้หรือไม่ อันนี้ผมมีคำตอบในใจ แต่....รอดูเฉลยจากกระทู้ชี้แจงเรื่องรถหายดีกว่า
จากคุณ |
:
.. (อักษรไทย_นอ.หนู)
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ม.ค. 55 09:17:37
|
|
|
|
 |