มาเป็นเศรษฐีบ่อน้ำมันบนดิน
|
 |
1. ข้อมูลประเทศไทยปลูกมันสำปะหลัง มีดังนี้
ในปี 52 พื้นที่ปลูกเประมาณ 8.3 ล้านไร่ ผลผลิต 30 ล้านตัน(3.62ตันต่อไร่) ในปี 53 พื้นที่ประมาณ 7.3 ล้านไร่ ผลผลิต 22 ล้านตัน ( 3.01 ตันต่อไร่) ในปี 54 ประมาณการพื้นที่ปลูกประมาณ 6.9 ล้านไร่ ผลผลิต 21 ล้านตัน (3.05 ตันต่อไร่) ในปี 53 ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวม 6.85 ล้านตันได้เงินเข้าประเทศ 62,500 ล้านบาท (โดยที่เกษตรกรขายหัวมันสดได้เฉลี่ย 2.31 บาทต่อ กก.เท่านั้น ( 1 ไร่ ขายหัวมันสดได้เงิน ประมาณ 7,500 บาท)
2. ประเทศไทยใช้น้ำมันเบนซินวันละ 25 ล้านลิตร คำนวนเป็นราคานำเข้าจากสิงค์โปร์ลิตรละ 20 บาท ปีหนึ่งเราซื้อน้ำมันเบนซินต่างชาติใช้ 182,500 ล้านบาท แสดงว่าเราปลูกมันสำปะหลังเหลือขายไปต่างประเทสได้เงินมาซื้อน้ำมันเบนซินใช้ได้แค่ 4.1 เดือนเท่านั้น
3. ถ้าประเทศไทยนำมันสำปะหลังสดไปผลิตเอทานอลทั้งหมดเลย กำหนดว่าใช้หัวมันสดปีละ 30 ล้านตัน จะได้เอทานอลที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้จำนวน 5,000 ล้านลิตร หรือวันละ 13.7 ล้านลิตรเท่านั้น (ประเทศไทยใช้น้ำมันเบนซินวันละ 25 ล้านลิตร) หมายความว่าเราต้องใช้เอทานอลผสมใช้เป็นน้ำมัน E85 ได้เพียง 16.11 ล้านลิตรเท่านั้น
4. แสดงว่าถ้าผลผลิตมันสำปะหลังต่ำเพียง 3 ตันต่อไร่ต่อปี ไม่พอที่จะนำมาผลิตเอทานอลใช้เป็นเชื้อเพลิงในประเทศ ซึ่งต้องการใช้หัวมันสดถึงวันละ 127.5 ล้านกิโลกรัมต่อวันหรือ 46.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งถ้าไม่เพิ่มเนื้อที่ปลูกมันเราต้องเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ได้ไร่ละ 6.0 ตันต่อไร่ต่อปีหรือต้องเพิ่มเป็น 2 เท่าทีเดียว
5. ถ้าต้องการให้มีมันเส้นเป็นอาหารสัตว์ในประเทศและส่งขายต่างประเทศในอัตราเดิมด้วยคงต้องเพิ่มกำลังการผลิตต่อไร่ให้ได้ 3 เท่าหรือประมาณไร่ละ 10 ตันต่อไร่ต่อปีทีเดียวครับ
6. จริงๆแล้วภายใต้การจัดการทรัพยากรเกษตรที่มีประสิทธิภาพและการสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากรัฐอย่างเป็นธรรมประเทศนี้สามารถปลูกมันสำปะหลังได้ผลผลิตกว่า 15 ตันต่อไร่ต่อปีด้วยซ้ำไปครับ
แล้วถ้าให้ราคาน้ำมันเบนซิน E85 ราคา 30 บาทต่อลิตรตลอดไปจะเกิดอะไรขึ้นกับชาวไร่มันสำปะหลังที่มีไร่มัน 10 ไร่กันบ้างละครับ
7. ราคาหัวมันสดจะเพิ่มสูงขึ้นจาก กก.ละ 2.31 บาทต่อกก.เป็น กก. ละ 3.5 บาททันที 10 ไร่ @ 15 ตัน 1 ปี ได้เงินรวม 1,437 บาทต่อวัน หักต้นทุนที่ต้องจ่ายไปแล้วให้เหลือกำไรวันละ 1,000 บาท แบบนี้พี่น้องอีสานทุ่งกุลาบอกว่าได้ถอยรถปิกอัพป้ายแดงให้ลูกๆ ที่ไม่ต้องไปทำงานโรงงาน แต่กลับมาขึ้เยี่ยวใส่โคนมันกันทุกวันกันเลย
8. แล้วเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร ถ้าพี่น้องเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง มีเงินเหลือกินเหลือใช้วันละ 1,000 บาท จะมีใครขายเสียงอีกหรือไม่ ผมตอบว่านอกจากเขาจะไม่ขายเสียงแล้วเขายังตอกหน้า สส.ว่า คุณทำอะไรให้กับฉันเพื่อให้ฉันได้เงินมากกว่าวันละ 1 พันบาทได้ฉันก็จะเลือกให้เป็น สส. มันจะกลับทางกันทันทีใช่ไหมครับ
9. เงินอยู่ในอุตสาหกรรมเอทานอลไปถึงเกษตรกรรวมปีละ 85% ของ 182,500 ล้านบาท หรือ155,125 ล้านบาทต่อปี
10. นั่นหมายความว่า โรงกลั่นน้ำมันของไทยทุกโรง ต้องส่งน้ำมันเบนซินพื้นฐานอ๊อเทน 87/89 ออกขายต่างประเทศ ถึง 85% เพราะประเทศไทยต้องการน้ำมันเบนซินเพียง 15% เพื่อผสมเป็น E85
11. ส่วนโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่ต้นทุนการสูงเช่นโรงกลั่นที่อยู่ในเมืองหลวง(ไม่ติดทะเล) ก็ต้องปิดโรงกลั่นไปภายในไม่เกิน 3 ปีเท่านั้น(ถ้าไม่ปรับตัวเช่นยังมองว่าความคิดแบบนี้เป็นความคิดแบบมูลนิธิ ไม่ทำกำไร IRR=15% และความคิดของผู้บริหารเป็นมืออาชีพเท่านั้น) ส่วนโรงกลั่นในเครือ ฝรั่ง 2 ยี่ห้อก็ต้องเลิกกิจการไปเช่นเดียวกัน
12. ราคาหุ้นของอุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมจะต่ำกว่าราคาพาร์ แล้วเกษตรกรมีรายได้สุทธิวันละ 1 พันบาท จะไม่เป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมันทั้งประเทศให้มันรู้ไปศิวะ
ในมุมมองของการจัดการทรัพยากรเกษตรแล้วทำได้ครับ รีอาร์ม = จัดกำลังอาวุธคือปัญญารู้แจ้งระบบทุนนิยมตลาดหลักทรัพย์ เพื่อการจัดสรรทรัพยากรเกษตรที่เป็นธรรมนั่นเองนั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 02:22:46
| จากคุณ |
:
rearmthai 
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ม.ค. 55 01:28:36
|
|
|
|
