 |
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีใช้กันในรถยนต์ทั่วๆไปที่วิ่งตามท้องถนน
1.Part Time 4 Wheel Drive มีอยู่ในรถ pickup 4x4 และในรถ SUV ที่มีพื้นฐานมาจากรถ pickup เช่น Mu7 , Everest , Sport Rider , G Wagon โดยจะสามารถเลือกระบบส่งกำลังได้ 2 แบบนอกเหนือจากระบบขับเคลื่อนล้อหลังที่ใช้ในสภาพเส้นทางปกติได้แก่
1.1 4 Hi ระบบนี้ Trasfer Gear จะแบ่งกำลังให้ล้อคู่หน้าและหลังอย่างละเท่าๆกันคือ 50/50 โดยยังคงมีอัตราท้ายเท่ากับตอนใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้ระบบนี้ยังสามารถใช้ความเร็วได้ใกล้เคียงกับตอนที่ใช้ระบบจับเคลื่อนล้อหลัง แต่มีเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีกว่าโดยเฉพาะในสภาพถนนที่เปียกลื่น หรือผิวร่วน แต่ปัญหาก็คือ diff กลางแบ่งกำลังไปล้อคู่หน้าและหลังอย่างละเท่าๆกัน ทำให้เวลาเลี้ยวมุมแคบ ล้อคุ่หน้าและหลังจะหมุนด้วยความเร็วที่ไม่เท่ากัน แต่ diff กลางถูกล็อคเอาไว้ให้การส่งกำลังและการหมุนเกิดขึ้นเท่ากัน ผลก็คือวงเลี้ยวจะกว้างอย่างมากเพราะล้อแต่ละคู่พยายามจะหมุนให้ความเร็วเท่ากันให้ได้ หากผู้ขับฝืน ในสภาพเส้นทางที่ลื่นหรือร่วนอาจจะเห็นอาการฟรีทิ้งของล้อคู่ใดคู่หนึ่ง แต่ถ้าเป็นถนนแห้งแรงยึดเกาะสูงอาจทำให้เสียการควบคุมได้ ระบบนี้จึงไม่ค่อยเหมาะกับการใช้บนถนนไฮเวย์เท่าไหร่ แต่ผู้ที่ใช้เป็นเข้าใจระบบการทำงาน และทราบข้อจำกัดตรงนี้ก็ยังพอที่จะใช้ได้ แต่ต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
1.2 4 Low ระบบนี้ระบบนี้ Trasfer Gear จะแบ่งกำลังให้ล้อคู่หน้าและหลังอย่างละเท่าๆกันคือ 50/50 แต่คราวนี้อัตราทดจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว เช่นจาก 1.00 ใน 4Hi กลายมาเป็น 1.90 ใน4Low ทำให้มีกำลังฉุดลากที่สูงขึ้นเกือบเท่าตัว แต่ทำความเร็วสูงไม่ได้ จึงเหมาะกับเส้นทางที่ทุรกันดาร ปีนที่สูงชัน ข้ามหล่มโคลน
2.Full Time 4 Wheel Drive ระบบนี้ถูกสร้างมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของระบบ Part Time 4 Wheel Drive ที่ไม่สามารถวิ่งบนไฮเวย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยอย่างเพียงพอ โดยเพิ่มความสามารถในการแบ่งแยกกำลังของ Diff กลาง โดยจะยอมให้ล้อคู่หน้าและคู่หลังหมุนด้วยความเร็วที่แตกต่างกันได้ เช่น ต่างกันได้ถึง 30:70 โดยระบบนี้นิยมใช้ในรถ Sport กำลังสูง เช่น GTR , Impressza , Evo , 911 เพราะนอกจากจะเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้นแล้วยังเป็นการลดภาระของยางที่เดิมทำหน้าที่อยู่แค่ 2 ล้อ ซึ่งในรถกำลังสูงๆมักจะต้องออกแบบให้มีขนาดที่กว้างกว่ารถทั่วไป เพื่อป้องกันการฟรีทิ้งของยาง การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำให้สามารถลดขนาดของยางลงได้ ในรถ SUV เช่น Fortuner Landover Landcruiser หรือรถใช้งานอย่าง jazz (ในต่างประเทศ) ก็เลือกใช้ระบบนี้ได้เช่นเดียวกันแต่เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวที่ดีขึ้นทั้งในสภาพถนนปกติ หรือเปียกลื่นจากฝน หรือหิมะ ในรถ Sport หรือรถใช้งานในเมือง จะมีเฉพาะระบบ Full Time 4 Wheel Drive เพียงอย่างเดียว แต่ในรถ SUV นอกจากจะมี Full Time 4 Wheel Drive เพื่อวิ่งบนถนนดำแล้ว ยังมี Part Time 4 Wheel Drive ไว้สำหรับเส้นทางทุรกันดารด้วย แต่ก็อาจต้องแลกมาด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่มากขึ้น เพราะมักไม่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังให้เลือกใช้
3.All Wheel Drive , Automatic 4 Wheel Drive ปกติจะขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหน้า แต่ระบบนี้จะทำงานแบบ Full Time 4 Wheel Drive ในบางโอกาส ผู้ใช้มักควบคุมการทำงานไม่ได้ โดยระบบจะถูกสั่งให้ทำงานด้วยระบบกลไกหรืออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อล้อหน้าเกิดการหมุนฟรี เช่น ออกตัวแรงๆบนพื้นที่ลื่น ระบบก็จะสั่งให้ล้อคู่หลังทำงาน แต่เมื่อกลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้วก็จะกลับไปขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบนี้มีอยู่ในรถเช่น CRV , Escape , Captiva
แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 23:18:50
| จากคุณ |
:
Fox 
|
| เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 55 23:15:13
|
|
|
|
|
สงสัยการใช้ 4H ใน 4x4
