หลายๆ ความเห็นยังอธิบายไม่ตรงนะครับ ผมจะอธิบายให้ฟังว่ามันหายไปไหน
รถคันดังกล่าวที่เกิดกรณีเช่นนี้ก็คือ ทางดีลเลอร์ได้มีรถสต๊อก ร่นดังกล่าว ไว้จำนวนมากๆๆ หรือมีสต๊อกไว้แต่ยังขายไมได้สักที .........ก่อนหน้านี้จนปล่อยรถ หรือหาลูกค้าที่สนใจจะซื้อรถร่นนี้ไม่ทัน งานเข้าซะและ ดีลเลอร์จะทำไงดีละ
เอารถมาขายจาก tmt ก็จะปลอดภาระการจ่ายค่ารถ ดอกเบี้ย อยู่......โดยประมาณ หากคันไหนที่ลงมาเกินระยะเวลาที่กำหนดแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ ยังอยู่ในสต๊อก ทางดีเลอร์ก็จำเป็นที่จะต้อง.............คัดรถบางคัน ออกมาแจ้งจำหน่ายให้ TMT ซะก่อน เพื่ออะไรอะหรือครับ
1. เมื่อแจ้งจำหน่ายแล้ว รถร่นคันที่แจ้งก็จะตัดขายออกจากระบบสต๊อกทั้งของดีลเลอร์และของ TMT เพื่อ ทำให้ดีลเลอร์สั่งรถจาก TMT ได้มากขึ้น...ก็รถฉันไม่มีขายไง ขายไปแล้วไง แต่จิงๆๆ แค่แจ้งตัดขายไปแต่ไมได้ขายจริง
2. หากดีลเลอร์ไม่แจ้งขายออกไป หลังจากรถลงและยังขายไม่ได้ ประมาณ .......วันโดยประมาณ งานจะงอกครับ เพราะจะต้องเริ่มจ่ายเงินให้ TMT แล้วและหากยังไม่ขาย ไม่เพียงแต่จะต้องจ่ายค่ารถคันนั้นๆ อาจจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยให้ TMT ด้วย เพราะถือ่าสั่งรถมาเยอะเกิน และเอามากองไว้ ทำให้ขายไมได้ เพราะงั้น ยอมแจ้งขาย จ่ายแค่ค่าตัวรถดีกว่าจะมาจ่ายดอกเบี้ย และเสียภาพพจน์กับ TMT ด้วย
3. และหากดีลเลอร์แจ้งจำหน่ายตัดสต๊อกไปแล้ว รถคันนั้นก็จะเริ่มนับอายุประกันตัวรถ ตั้งแต่วันที่ลูกค้ารับและแจ้งจำหน่ายไปจากดีเลอร์ นับ 1 ไปจนถึงครบอายุตามที่ประกาศไว้ ผลก็คือทำให้รถคุณหมดอายุประกันตามไปด้วย
4. เหตุผลอีกประการ นอกจากตัดสต๊อกล่วงหน้าแล้ว ก็คือ ลูกค้าก่อนหน้านี้จะเอารถคันนี้แต่มีเหตุผลบางประการ ที่ทำให้ไม่สามารถรับรถคันนี้ไปได้ ยอมให้ยึดเงินแทน แต่เหตุผลนี้มีน้อยรายครับ
สรุปคือ......................รถคันที่คุณได้ ยังเป็นรถใหม่มือ 1 ที่อยู่ในดีลเลอร์ ไมได้มีใครเอาไปใช้ หรือเป็นรถมือ 2 แต่อย่างใดครับ เพียแค่เขาตัดการ์ดอายุรถ โดนแจ้งจำหน่ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้อายุประกันหายไป วิธีแก้ไขที่ผมเคยทำ
1. ให้ทาง TMT ออกการ์ดประกันให้ลูกค้าใหม่ โดยนับแต่วันที่ลูกค้าตัวจริงซื้อ ไม่ใช่วันตัดขาย แต่วิธีนี้ทำได้ยาก เพราะ TMT ไม่ได้ผิดอะไร คนที่ผิดคือดีลเลอร์รถ เพระงั้นดีลเลอร์ควรรับผิดชอบเอง
2. แจ้งลูกค้าโดยตรง ทำจดหมายเอกสารเซ็นรับรองโดยผู้บริหารของดีลเลอร์ และดีเลอร์ รับประกันอายุรถต่อไป ให้ตรง ครบตามกำหนดจริงที่ลูกค้าซื้อไป และให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการของดีลเลอร์ที่ลูกค้าซื้อไปโดยตรง เพราะดีลเลอร์เองเป็นผู้รู้ อายุ ประวัติรถคันนั้นๆ ดีที่สุด เพระหากไปเข้าศูนย์บริการที่อื่นตอนเช็คระยะ ประวัติจะไม่ตรงกับความจริงที่ลูกค้าออกรถ ประวัติจะขึ้นวันที่ดีลเลอร์ตัดขายรถ
3. หากลูกค้าไม่สะดวก ไม่ประสงค์จะเข้าศูนย์บริการของดีลเลอร์ที่ซื้อ ทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายขาย และฝ่ายศูนย์บริการ ต้องช่วยจัดการ ประสานงาน กับศูนย์บริการ ของดีลเลอร์ที่ลูกค้าจะเข้าไปตรวจเช็คตามระยะประกัน โดยจะเป็นการชำระเงินสดให้กับดีลเลอร์ที่ลูกค้าเอารถไปเข้าเช็ค หรือให้ลูกค้าเอาใบเสร็จมาเบิกค่าใช้จ่ายกับดีลเลอร์ที่ซื้อ ตามระยะประกัน ตามจริงที่ครอบคลุมในการรับประกันไว้
ซึ่งวิธีการแจ้งจำหน่ายก่อนขายจริงเช่นนี้ ไม่ว่าจะ TMT หรือดีลเลอร์ หรือพนักงานส่วนต่างๆ โดยเฉพาะลุกค้า ไม่มีใครชอบหรอกครับ เพราะต้องมาอธิบายต่อลุกค้า และส่วนตัวผมเองก็ไม่ชอบวิธีนี้เช่นกัน ไม่ชอบตรงที่ หากเกิดกรณีเช่นนี้ ดีลเลอร์ควรที่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบแต่เนิ่นๆ ว่ารถคันนี้เป็นแบบนี้ และจะจัดการแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ให้ลุกค้ามารู้ทีหลัง ปัญหาจะเกิดหลายอย่าง เช่น หมดความไว้วางใจจากลูกค้า เป็นต้น
เพิ่มเติมข้อความครับ**
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 55 13:31:38
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 55 13:26:27
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 55 13:22:25
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 55 13:20:30