 |
ถ้าเป็นผมนะครับ
ตั้งราคาไม่ให้หนีจากคู่แข่ง แถมเปิดโปรโมชันใหม่ เพิ่งเปิดตัว ส่วนลดเงินสดลดทุกรุ่นราคา X,XXX - XX,XXX.- เพื่อรอดูตลาดว่า มันจะไปในทิศทางที่ดีรึเปล่า แล้วลอคแรกเป็นสิ่งสำคัญ คนได้รถลอตแรกๆ จะต้องทำรีวิวแน่นอน ทั้ง User Review หรือ ตามสำนักต่างๆ ถ้ารถดี ผมว่าจะพูดกันเป็นปากต่อปากแน่นอน แนวโน้มดี รถขายดี และเป็นรถที่ดีจริง หมดห่วงไปเปราะนึงละ มาเพิ่มราคาต่อได้ผมเชื่อว่าเพิ่มราคาขึ้นไม่กี่หลักพันถ้าแลกกับรถที่ดีคงจะยอมกัน แล้วเราก็ มาดูแลเรื่องศูนย์บริการกับบริการหลังการขาย ผมว่าจำนวนศูนย์บริการไม่ใช่สิ่งสำคัญ มันสำคัญอยู่ที่คุณภาพในการให้บริการ แต่อย่างน้อยๆ เขต หรือ อำเภอใหญ่ ต้องมีศูนย์บริการอย่างน้อย 1 ศูนย์ แล้วระยะทางแต่ละศูนย์ ควรไม่ห่างมากจนเกินไป ศูนย์น้อยสุดแต่ครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุด
เสร็จแล้วมาทำเรื่องราคา จะทำให้รถราคาถูกกว่าคู่แข่งยังไงโดยเราเจ็บตัวน้อยสุด ผมว่าในตอนแรก เค้าควรจะมองว่าอุปกรณ์เบสิคในการใช้ในการขับขี่มีอะไรบ้าง แล้วอุปกรณ์อะไร มันเป็นพวกของOption เสริม อย่างเช่น ใบปัดน้ำฝน มันสมควรโดนตัดไปจริงๆรึเปล่า *0* อย่างตอนนี้อุปกรณ์หลักๆคงเปลี่ยนไม่ได้ละ เหลือแต่อาจจะทำรุ่น ลิมิเต็ดใส่ของไฮเทคแล้วมีชุดแต่งรอบคันเพิ่มขึ้นไป รึเปล่า...(ในภายภาคหน้า)
แต่ยังไงผมก็มองว่า ลอตแรกเนี่ยละจะเป็นตัวตัดสินใจ ถ้ารถดีจริง ผู้ที่จะซื้อยี่ห้ออื่นอาจจะเบนมาหาดูยี่ห้อนี้บ้าง... ซึ่งตอนนี้ ผมมองว่า Eco Car การแข่งขันค่อนข้างที่จะสนุก เพราะแบรนใหญ่อย่างโตโยต้าไม่ได้เข้ามาร่วมวงด้วย ซึ่งญี่ห้อนี้แบรนราคาสูงมาก ส่วนฮอนด้าเจ้าตลาดอันดับ 2 ตกม้าตาย กับ บริโอ้ ทั้งราคา และ อุปกรณ์ที่จำเป็น ส่วนNissan March ได้เปรียบตรงที่ออกตัวก่อนคนแรก ความเชื่อมั่นในตัวรถก็ได้ใจคนไปเยอะแล้ว ทำให้ค่ายใหม่ๆ ที่น่าจะเปิดตัวถ้าไม่ใช่พวกเจ้าตลาดที่กินบุญเก่าคงทำราคา ราคาไม่น่าหนีจาก March หรอกครับ สรุปผมขอเดาว่า เปิดตัวถูกกว่านิดหน่อยละกัน แต่ถ้ารถขายดี มันก็พอๆกับค่ายอื่น
ป.ล. ผมชอบเดาผิดนะครับ เพราะไม่ค่อยมีหลักการ *0*
| จากคุณ |
:
harryoop 
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 55 13:07:55
|
|
|
|
|
เดาการตลาดของ ซูซูกิ สวิฟท์ eco car กันว่าจะเลือกทางไหน
ความคิดเห็นที่ 1
