ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากเครื่องยนต์ก่อนแล้วกันครับ รอบเดินเบาไม่นิ่ง อาการนี้คือสตาร์ทรถ จอดเฉย ๆ เข้า P หรือ N รถจะสั่นๆ ถ้าเปิดกระโปรงรถดูจะเห็นอาการเครื่องเต้น ๆ ผิดปรกติ อันนี้เรียกว่าเดินเบาไม่นิ่ง พอเร่งเครื่องก็เหมือนจะปรกติแต่ไม่ปรกติเท่าไหร่เพราะเร่งไม่ออก แบ่งเป็นสามเรื่องครับ "อากาศ" ผมเจอบ่อยที่สุดกับอาการนี้กับรถ E36 316 คือ AirFlow Meter(AFM) มันค้าง ถ้าคุณมองไปหากรองอากาศของรถ ตัวนี้จะเป็นตัวที่อยู่ต่อจากกระปุกกรองอากาศ สีเงินด้าน ๆ เวลาถอดออกมา มองไปในช่องที่อากาศผ่าน จะเห็นแผ่นโลหะที่เราสามารถเอามือดันโยกไปมาได้ เวลาอากาศเข้ามาก มันก็จะไปดันแผ่นนี้ให้เปิดมาก ในกล่องจะมีวงจรความต้านทานที่หมุนค่าไปตามการเปิดมากน้อยของแผ่นโลหะันั้น เพื่อบอกกับ ECU ว่าอากาศไหลผ่านมากน้อยเท่าไหร่ เวลาไปดูในคอมถ้าเคยแอบดูช่าง มันจะบอกหน่วยเป็น mg/sec วิธีแก้ไขง่าย ๆ ที่สุดคือ ถอดมาทำความสะอาด = Free แต่ถ้าเป็นบ่อย ๆ ต้องไปหาโรงกลึงอัดแกนออกมาทำแกนใหม่มันจะไม่ล้มไปขัดกันอีก < =1000บาท หรือ ซื้อใหม่ ราว ๆ 6000 บาท ไม่แนะนำมือสอง เพราะใช้ไม่นานเดี๋ยวก็เป็นอีก จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:19:47 A:101.108.166.121 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 2 ของ E46 ใช้ MAF แล้วไม่มีปัญหานั้น แต่เคยถอดออกมาทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ ค่าใช้จ่ายคือค่าแอลกอฮอล์ เท่านั้น "ไฟ" ไฟก็หมายถึงระบบจุดระเบิด หัวเทียน และ คอยล์ รถสองรุ่นที่ผมใช้เป็นคอยล์ และหัวเทียนแบบเดียวกัน เวลามีอาการสงสัยว่าจะมาจากอันนี้ผมก็สลับเอาอีกคันมาใส่ แต่ของ E46 หนักหน่อย ศูนย์ใส่หัวเทียนผิดเบอร์มาให้ หัวกลางมันก็กุดหายไป ผมใส่แบบเขี้ยวเดียวแทนของศูนย์ไป วิ่งดีเหมือนเดิม เบอร์ที่ใช้อยู่ทั้งสองคัน BKR6EGP สี่หัว = 250 บาท หัวเทียนนั้นถอดง่ายครับ ดึงสายออกมาตรง ๆแล้วก็เอา บล็อก5/16 หรือ 14mm ลึก ๆ ไข บล็อกหัวเทียนถูก ๆอยู่ราว ๆ 200 บาท กร็อกแกรกถูก ๆ 199 บาท ก้านยาว12นิ้ว 4หุนก็ราว ๆ 100 บาท ้คอยล์จุดระเบิด ผมยังไม่เคยเสีย แต่ไปซื้อมือสองเก็บไว้อันหนึ่ง 1500 บาท สายหัวเทียน ผมก็ัยังไม่เคยเสีย ไม่เคยซื้อ แต่รู้ว่าอย่างดี ๆ สี่เส้น ไม่เกิน 3000 บาท ที่เคยเห็นบางท่าน เจอปัญหารอบเดินเบาสั่นเนื่องจากระบบไฟอีกตัวก็คือ Sensor องศาปีกผีเสื้อ ถอดมาล้าง ก็จบครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรถ้าทำเองได้ หรือให้ร้านทำก็ไม่น่าเกิน 500 บาท แพงมากแล้ว จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:30:14 A:101.108.166.121 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 3 "น้ำมัน" รอบเดินเบาบางทีก็มีเหมือนกันว่าเร่งเครื่องไปซักพัก หายซะอย่างนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ให้เดาว่า ปั๊มติ๊ก หรือ วาล์วกักแรงดันเสียครับ ยิ่งถ้ามีอาการสตาร์ทยากมาด้วยก็น่าจะเป็นไปได้ ถ้าติดแก๊สไม่ได้ตัดปั๊มติ๊กบวกกับรถเ่ก่า ๆ ก็ยิ่งน่าจะเป็นที่สองอย่างนี้ครับ โดนมากับตัว ปั๊มติ๊กแปลงใส่ 2300 บาท ของใหม่ ไม่ใช่เซียงกง และ วาล์วกักแรงดัน 1600 บาท บางคนบอก แก๊ซโซฮอลกัดท่อ ...รถผม 16 ปี เติม Gasohol วันแรกที่มีขาย ใช้สลับกับแก๊สตลอด ถ้ามันจะมีอะไรเสีย ผมก็นึกไม่ออกแล้วครับ... สรุปโดยรวมว่า E36 E46 ใช้ Gasohol ได้ E36 ควรเติม 95 เพราะถ้าเติม 91 เหมือนมันจะKnock เอาตอนเติมใหม่ ๆ แสดงว่ามันปรับค่าไม่เก่ง E46 เติม 91 -95 แล้วแต่ความพอใจครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:35:52 A:101.108.166.121 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 4 ระบบน้ำหม้อน้ำ การจัดการน้ำหม้อนำ BMW ก็เหมือน ๆกับรถทั่ว ๆ ไปที่ใช้ระบบน้ำแบบปิด คือไม่มีน้ำ หรือ อากาศเข้าออกในระบบได้เว้นแต่จะรั่ว ตำแหน่งรั่วก็เป็นไปได้ทุกที่ ตั้งแต่ หม้อน้ำ~ 4000 บาท หม้อพัก~ 2000 ข้อต่อวาล์วน้ำ ท่อยาง ประเก็นฝาสูบ ประเก็นProfileที่อยู่หน้าเครื่อง ปั๊มน้ำ ท่อหลังเครื่อง ถ้าทำทั้งหมดเสียทุกอย่าง ไม่เกินสามหมื่นควรจะจบกับระบบน้ำรวมค่าแรงแล้ว แต่คงไม่มีใครเสียมันทุกอย่างหรอกครับ รถผมเองเจอแค่ประเก็นฝาสูบกับ E46 เนื่องจากรถจอดนานเกินไป แล้วพอเอามาใช้อีกทีแผ่นประเก็นมันก็สนิมขึ้นซะแล้ว และถ้าเป็นรถติดแก๊ส ควรจะเช็คหม้อต้ม และข้อต่อหม้อต้มด้วย ชอบรั่วเหมือนกัน การเติมน้ำถ้าเป็นแบบกระปุกใส ให้ดูแค่ขีด Max สตาร์ทรถแล้วเปิดรูไล่ลมหรี่ ๆ ไว้ ถ้าเป็นกระปุกทึบเปิดฝาเติมน้ำ ดูให้กลม ๆ ที่สอง ของลูกลอยลอยพอดีคอไม่ได้เติมให้น้ำล้นกระปุก ควรใช้ Coolant ที่ไม่ใช่น้ำยาล้าง Coolant ที่เหมาะสมเีีขียนในคู่มือว่าคือ Ethylene glycol พวกนี้จะทำให้หม้อน้ำไม่เป็นตะกรัน โลหะไม่เป็นสนิม จุดเดือดเพิ่มไปเป็น 140C เปลี่ยนถ่ายปีละครั้งกำลังดี ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 300 บาท การเพิ่มจุดเดือดจำเป็นมากกับระบบปิด เพราะถ้าน้ำเดือดง่าย มันจะสร้างแรงดันในระบบ สร้างความเสียหายกับส่วนที่อ่อนแอได้ เช่นตะเข็บกระปุกพักพลาสติก ข้อต่อรัดเข็มขัด น้ำจะหนีออกทางนี้ได้ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:56:14 A:101.108.166.121 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 5 เดี๋ยวให้พี่ท่าน ลงก่อน เดี๋ยวมาช่วยต่อครับ ของผมที่ประจำการอยู่ตอนนี้มี E30 E34 E36 E39 E60 ปลายเดือนนี้น่าจะได้ ทุกวัน ทำเองกับมือเกือบหมดยกเว้น ห้องเครื่องครับ จากคุณ : คนผ่านมา (ผมมีแค่ร้อยทิป) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 11:59:37

ความคิดเห็นที่ 6 พัดลมไฟฟ้าจะมีกล่องควบคุม เวลาพัดลมเสีย ซื้อแต่พัดลมได้ครับ ไม่ต้องไปซื้อชุดควบคุมด้วย พัดลมพร้อมใบ พร้อมโครง ขายกันอยู่ 4000 บาท แต่ถ้าเอาชุดควบคุมด้วย น่าจะ 8000 บาท พวกนี้ถ้าไม่เคยชน เสียยากครับ รถผมสองคันไม่เคยเสียเลย แต่รถคนอื่นไม่รู้เป็นอย่างไร พัดลมสำคัญกับระบบน้ำหล่อเย็นมาก ดังนั้น เวลาก่อนดับเครื่องเปิดกระโปรงรถดูว่าพัดลมทำงานรึเปล่าทุกครั้งก็ดีนะครับ ดูตอนเครื่องร้อน ๆ จะได้เห็นพัดลมหมุนแรงสุด ถ้าหมุนแบบพัดลมเบอร์ 1ตั้งโต๊ะ ก็แสดงว่า มันอาจจะเสียแล้วครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 12:02:10 A:101.108.166.121 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 7 เข้ามาเก็บข้อมูลครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : sumoto เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 12:37:49

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับ ผมถนัดแต่ของเก่าๆพวก E28 E30 E34 E36 ของถนัดเลย โดยเฉพาะแอร์โฟร์เนี่ย ถ้าของใครไม่เน่าไม่ใช่บีเอ็มของแท้ครับ สุดท้ายเลยได้วิชามารเฉพาะตัวในการซ่อมแอร์โฟล์ ไม่ว่าจะเป็นเจียร์บานพับ ซ่อมบูทบานพับ โมสปริงเข็มกวาด เขี่ยเฟืองแอร์โฟล์ เอาดินสอ 2B ซ่อมลายปริ้นเข็มกวาดของแอร์โฟล์ ฯลฯ แกะซ่อมกันทุกอาทิตย์เพราะมันไม่นิ่งซักที กลายเป็นงานอดิเรกของผมไปเลย เพื่อนๆเอามาให้ซ๋อมกันประจำ เพราะล้างอย่างเดียวมันไม่หายหรอกครับ ต้องใช้วิชามารเฉพาะตัวช่วย ประมาณว่าสูตรผีบอกพรายกระซิบ สุดท้ายตอนนี้หลับตาเขี่ยเฟืองแอร์โฟล์ยังได้เลย ฮ่าๆๆ จากคุณ : Fair382 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 13:09:04

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณครับ ไม่มี E39 บ้างหรอ จากคุณ : malldeff เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 13:18:50

ความคิดเห็นที่ 10 โหวตดีกว่าครับ เพื่อนที่ใช้อยู่คนอื่นๆจะด้วยเข้ามาช่วยกันเพิ่มเติม และจะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่หาข้อมูลอยู่ด้วย จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 14:49:32

ความคิดเห็นที่ 11 โหวตครับ จากคุณ : jojoe in japan เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 14:50:02

ความคิดเห็นที่ 12 ช่วงล่าง ของ E36 E46 มีอะไหล่ใช้ด้วยกันได้หลายอย่าง แต่วัสดุจะมีการเปลี่ยนไปตามรุ่น ที่เจอ ๆ มากับตัวคือ ลูกปืนล้อ E36 E46 ล้อหลัง นั้นเป็นขนาดเดียวกัน ถ้าเปิดCatalog part จากเว็บฝรั่งมันจะมีบอกPart รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ว่าต่างกันที่วัสดุที่ออกแบบมาให้แข็งแรงขึ้น แสดงว่าถ้าคุณมี E36 ลูกปืนล้อเสียให้ซื้อของ E46 มาใส่จะได้เสียเงินรอบเดียว ราคาลูกปืนต่อล้อ 550 บาท มีแค่แรงแล้วแต่ร้านจะคิด อันนี้ผมจ้างเขาทำ ค่าแรงค่าของ 1000 บาท ลูกหมากของ E36 ยังเป็นแบบเสื้อเหล็กถอดซ่อมกลึ่งพลาสติกได้ตามร้านที่เขียนว่าอัดลูกหมาก ราคา 200 บาท ต่อลูก แต่ถ้าเป็นร้านที่ซ่อมแบบ ตอกโป๊ก ๆ ไม่ได้ถอดอะไรพวกนี้ 50 บาทก็ทำได้แล้ว E46 ลำบากกันหน่อย เพราะใช้ช่วงล่าง Aluminum จะมีคนรับเปิดซ่อมเหมือนกัน แต่บอกได้เลยว่ามันไม่ทนจริง ๆ เห็นมาหลายคนก็บ่นว่าซ่อมทีเดียวพัง ปีกนก E46 ต่อข้าง ไม่น่าเกิน 4000 บาท ได้ลูกหมากสามลูกกับปีนกAluminum ใหม่ ๆ บุชปีกนก E46 ที่ลือกันว่าเสียบ่อย ๆ ถ้ายังเปลี่ยนเอาของศูนย์มาใช้ เอาของแท้มาใส่รับรองว่าก็เสียง่ายเหมือนเดิมครับ อยากแก้ปัญหาให้ขาดแนะนำของเทียมแข็ง ๆ Made in Thailand ใช้ลืมกันไปเลย คู่ละ 2200 บาท พร้อมค่าแรงไม่แพงกว่าของแท้แน่ ๆ โช๊คอัพ เป็นเรื่องลึกลับ ไม่รู้ทำไม ซื้อโช๊คร้านเดิม สองครั้ง รุ่นเดียวกัน ราคาไม่เคยเท่ากัน นี่ถามเล่น ๆ ครั้งที่สามก็ยังไม่เท่าเดิมอีก เดี๋ยวแพง เดี๋ยวถูก เอาเป็นว่า โช๊คสี่ต้น ซื้อแล้วอย่าให้เกิน 10000 บาท เลยครับ 8000 บาทผมก็ว่าแพงแล้ว ยังไม่รวมค่าแรงนะ ถ้าใส่เองได้ก็ประหยัดไปครับ ถ้าเน้นนิ่ม ๆ โช๊คเดิมนิ่มที่สุดครับ อย่าไปใส่พวกBil Koni Gabriel KYB ให้เสียเวลา SACHS ดำเดิม ๆ นิ่มที่สุดแล้ว จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 14:51:29 A:101.108.182.124 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 13 มาเก็บข้อมูลด้วย ขอบคุณครับ จากคุณ : aAuy (if i will to love) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 14:52:07

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ขอถามเรื่องน้ำยาในหม้อน้ำหน่อยครับ ว่ามันจำเป็นแค่ไหนที่ต้องเป็นน้ำยาหม้อน้ำเฉพาะ เพราะส่วนตัวตอนนี้ใช้น้ำประปาธรรมดาอยู่ + รถคันเก่าที่ผ่านๆมาก็ใช้น้ำประปาตลอด ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นอะไร (หรือเป็น แต่ผมไม่เห็นก็ได้ 55) ถ้าไม่ดีจะได้เอาไปให้ที่อู่เปลี่ยนให้ (ผมเพิ่งเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ประมาณ 4-5 ด. แล้ว) เคยได้ยินมาว่าให้ไปซื้อของโตโยต้าใส่ก็ได้ ถูกตังดี มันใช้กันได้ใช่มั๊ยครับ ? จากคุณ : กั๊ตจัง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:12:44

ความคิดเห็นที่ 15 น้ำยาหม้อน้ำเอายี่ห้อ SPED ก็ได้ครับ ผมใช้ัอยู่ ขวดละ 100 บาท ผสมน้ำ 10 ลิตร แล้วค่อยเติมลงไป ต่อครับ ช่วงล่าง E36 E46 ยังมีผ้าเบรคที่ใช้ด้วยกันได้ด้วยหน้าหลัง แต่ข้างหลังจะต่างกันตางก้านที่เข้าไปในสูบ แต่ใช้กันได้ครับ ลองมาแล้วไม่เห็นต่างอะไรกัน โช๊คหลังก็ใช้ด้วยกันได้แต่ ตอนเลือกก็เอาแบบที่เป็นรุ่นเดียวกันเพราะมันโช๊คคนละแรงกัน ตอนแรกผมนึกว่าเหมือนกันหมด เอามากดด้วยมือ ใช้แรงกดไม่เท่ากันจริง ๆ ของ 32x กับ 318 แรงกดไม่เท่ากันครับ ราคาเท่ากัน เกียร์อัตโนมัติกับน้ำมันเกียร์ เป็นเรื่องที่มีคนเถียงกันมากที่สุดว่าน้ำมันเกียร์ต้องใช้แบบลิตรละโคตรแพง แต่ผมใช้ลิตรละไม่ถึง 300 บาท ใช้แบบที่เป็น Dexron III ทั้งสองคันไม่ว่าจะ E36 E46 แต่อันนี้ให้ดูที่ีเกียร์ครับว่าต้องเป็น GM ไม่ใช่ ZF ถ้าเป็น ZF ผมไม่รู้จริง ๆ ยังไม่ได้ลอง น้ำมันเกียร์ BMW ถ่ายทุก ๆ 50000 โลก็ยังไม่สายครับ ผมถ่ายครั้งแรก 100000Km แล้วเปลี่ยนไส้กรอวง 950บาท ไปด้วยในคราวเดียว แล้วถ่ายครั้งต่อไปทุก ๆ 50,000km ใครอยากใช้น้ำมันเกียร์แบบแพง ๆ เชิญครับ ไม่ว่ากัน ผมใช้ลิตรละไม่ถึงสามร้อยมาสองคันรวม 6 แสนกว่ากิโลเมตรไม่มีปัญหาอะไร แต่การถ่ายน้ำมันเกียร์นั้นสำคัญครับ อย่าได้ให้ช่างไม่รู้ถ่าย โดยเฉพาะเกียร์รุ่นใหม่ ๆ มันมีอุณหภูิมิการถ่ายน้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมทั้งตอนเติม และตอนวัดระดับล้น เติมขาดไปเีกียร์พังแน่ ๆ ครับ เห็นมาแล้ว เติมเกินยังไม่เคยเห็น เกียร์รถผมถ่ายแต่ละครั้งจะใช้ประมาณ 7 ลิตรกับ E46 4speed ถ้า E36 ใช้ราว ๆ 5 ลิตรครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:27:30 A:101.108.181.3 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 16 แก้ไขน้ำยาหม้อน้ำนิดนึงครับ ไม่ใช่ Sped แต่เป็นยี่ีห้อNoname มาก ๆ ซื้อจากร้านที่รุ้จักกันเขาแนะนำมา มันก็คือ Ethylene Glycol base ทั้งหมดครับ การเลือกซื้ออะไหล่ BMW เป็นรถที่มีขายทั่วโลก ยอดขายแต่ละรุ่นหลายล้านคันครับ ขายกันหลายปี ทำให้มีอะไหล่หลากหลายจากหลายผู้ผลิตทั่วโลก ในไทยก็ยังมี โดยเฉพาะอะไหล่ช่วงล่าง ทำในบ้านเราก็เริ่มมีแล้วคุณภาพพอใช้ได้ราคาไม่แพงไม่ถูก ร้านอะไหล่ไม่ใช่แหล่งหาซื้ออะไหล่ที่ถูกที่สุดเสมอไป หลาย ๆ ครั้งที่ผมเช็คอะไหล่ศูนย์ ถูกกว่าร้านอะไหล่อีก ผมเคยถามร้านกุญแจจากร้านที่โฆษณาในเว็บแห่งหนึ่ง รับทำกุญแจไม่มีรีโมทของ E46 อยู่ 3xxx บาท แต่พอไปสั่งศูนย์ Performance รามอินทรา 1970 บาท แต่ไขเก๊ะไม่ได้นะครับ สตาร์ทได้ เรื่องไขเก๊ะก็ไปกัดดอกจากกุญแจปรกติมาก็ได้แล้ว พกใส่กระเป๋าไว้ปลอดภัยครับ กุญแจ BMW ที่เป็นCHIP บางครั้งมันจะมีปัญหา Induce สัญญาณไม่ได้ทำให้ไม่สามารถสตาร์ทรถได้ จำเป็นต้องมีกุญแจสำรองครับ อย่างที่บอกไว้ไปสั่งศูนย์ไว้ครับถ้าไม่มี ถ้ากุญแจเสีย ร้านซ่อมกุญแจมีครับ ซ่อมได้จริง ๆ ค่าซ่อม 300 บาท อันนี้แล้วแต่อาการด้วยนะครับ ถ้ารีโมทเสีย แต่สตาร์ทได้อันนี้ซ่อมแพงกว่า กระจกไฟฟ้าตกราง เป็นเรื่องที่ทำให้มีคนบอกว่า BMW E36 E46 เป็นรถห่วยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าถ้าคุณเคลมพลาสติกรุ่นใหม่มาแล้วตอน BSI ปัญหาก็จะจบ แต่ถ้าไม่ได้เคลม ค่าซ่อมตามร้านไม่ถึง 1000 บาท เลิกพูดเถอะครับ ว่ารุ่นนี้ห่วยเพราะกระจกตกราง ถ้าบอกว่ามันห่วยเพราะอืด แรงม้าน้อย ก็จะสมเหตสมผลหน่อย ไฟส่องสว่าง ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟหรี่ ไฟทุกอย่างในรถ จะคุมด้วยกล่องอะไรซักอย่างในรถ กล่องเดียวคุมหมด ถ้าหลอดไฟขาดรถมันจะเตือนที่หน้าปัทม์ ควรหาสาเหตแก้ไขด่วนนครับ เพราะบางทีอาจจะช็อตก็ได้สร้างปัญหากับระบบไฟรวม ๆ ได้เช่นกัน นี่ีคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่ผมคิดว่าไม่ควรมีในรถยนต์เพราะมันควรเป็นแค่สวิทช์เปิดต่อสายตรงไปหลอดไปแบตเตอรี่ ทำให้แก้ปัญหายาก ไม่ควรให้ช่างไฟข้างทางซ่อมระบบไฟรถ เพราะอาจจะบานปลายครับ เช่นไฟหรี่ของรถ ถ้าขาด หรือหลอดหลุดไป ไฟเลี้ยวข้างที่อยู่กับไฟหรี่จะทำตัวเองเป็นไฟหรี่แทน บางคนไม่รู้ไปสลับขั้วสายครับ พังแน่ ๆ หลอดไฟที่ใช้กับ BMW ก็ไม่ต้องไปซื้อหลอดแพงๆครับ ซื้อจากร้านอะไหล่รถกระบะก็ใช้ได้เหมือนกัน มันก็แค่หลอดไฟครับ วัตต์ไม่ต้องตรงก็ได้ แต่อย่าให้ร้อนเกินเดี๋ยวโคมจะเหลือง ทุกวันนี้หลอดไฟหรี่ที่ผมใช้หลอดละ 5 บาท ไฟหน้า Hอะไรก็ไม่รู้จำได้ว่า 70 บาท ใช้มันจนลืมไปแล้ว เปลี่ยนมานานมากยังไม่ขาด จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:40:25 A:101.108.181.3 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 17 ผมโหวตให้นะ  จะได้เก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : Tangible เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:48:03

ความคิดเห็นที่ 18 ไดชาร์จ ระบบชาร์จไฟของ BMW จ้าง BOSCH,VALEO ผลิตให้ ไ่ม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่าร้านไดทั่วไปจะทำไม่ได้ หลอดไฟบนหน้าปัทม์รูปแบตเตอรรี่ต่อไปตรงกับชุดเรกูเรเตอร์ไดชาร์จ เวลาสตาร์ทติดมันก็ดับไป ชุดเรกกูเรเตอร์ไม่ค่อยเสีย แต่มีแปรงถ่านที่จะหมด เปลี่ยนได้หลักร้อย แล้วแต่ค่าแรงค่าสินน้ำใจจะให้กันไป ถ้าอยากเปลี่ยนทั้งเรกูเลเตอร์ก็ราว ๆไม่เกิน 2000 บาท ถ้าคอยไหม้ช็อตก็ไปจ้างเขาพัน หรือซื้อเซียงกงมาเอาแปรงถ่านใหม่ ๆ ใส่ ใช้ได้แล้ว ไม่เกิน 3000 บาท ใช้ร่วมกับ BENZ VOLKSWAGEN VOLVO ได้หลายรุ่นครับ จำไม่ได้เคยเช็ค ๆ ไว้ -------------------------------------------- มอเตอร์สตาร์ทหรือ ที่มักเรียกกันสบายปากว่าไดสตาร์ท อย่าให้ใครมาหลอกคุณว่าไดสตาร์ท BMW ซ่อมไม่ได้ครับ แกะ ๆ แงะ ๆ ออกมาซ่อมได้ตามร้านไดเหมือนกัน ค่าซ่อมไม่ถึงพัน ใครอยากเปลี่ยนหลักหมื่นปล่อยเขาไปครับ ------------------------------------- ลืม มอเตอร์กระจกไฟฟ้าอีกที ตัวนี้ถ้ามอเตอร์เสียซ่อมได้ครับ ไปเดินตามบ้านหม้อเปลี่ยนแต่มอเตอร์ก็ยังได้เก็บเฟืองไว้ ไม่เกิน 300 บาท เห็นไปซื้อกันมอเตอร์ตัวละ 5000 บาท สลดอะ รางกระจก ถ้าอยากเปลี่ยนยกราง ของใหม่ เอาทั้งชุดไม่เกิน 3000 บางท่านในเว็บBMW ดัง ๆ ซ่อมกันหลักหมื่น เออ แล้วก็บ่นว่าแพง .. จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:50:13 A:101.108.181.3 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเก็บเข้าคลังครับ :-) วันนี้ผมขอพักตรงนี้ก่อนครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 16:52:21 A:101.108.181.3 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 20 ยังไม่ขาย e46 ออกไปหรือครับ เคยเห็นมีกระทู้ไปเถียงกับ ผบทบ บอกว่าต้องขายทิ้ง วันหลังลองเล่าเรื่อง สีลอก กับไฟเบรกหลังซ๊อต ครับ น่าจะเป็นกันหลายคันอยู่ครับ จากคุณ : ผ่านมาเห็น เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 18:13:18

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาเก็บความรู้ + รออ่านต่อครับ น้ำมันเกียร์หลายคนบอกให้เข้่า 0บ เปลี่ยนอย่างเดียว อย่่าเสี่ยงเปลี่ยนอู่นอก ไม่งั้นมีพังแน่ๆ จริงเท็จประการใดครับ ? จากคุณ : กั๊ตจัง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 18:39:30

ความคิดเห็นที่ 22 พวก bmwsociety เห็นคุณซ่อมแล้วคงสะอึก หลงซ่อมแพงอยู่จนบัดนี้ เพราะยังไม่เจอคนรู้จริง จากคุณ : พัด เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 19:30:57 A:110.169.140.9 X: TicketID:343763

ความคิดเห็นที่ 23 คห 20 E36 ครับ คันที่เมียให้ขาย ไฟเบรค กับสีลอก ? ไม่เคยเจอเลยครับ ทุกวันนี้หลอดไฟเบรคยังเป็นหลอดติดรถอยู่ สีก็เดิม ๆ กับรถครับ คห 21 แล้วแต่ความเชื่อแล้วกัน ผมให้ช่างแถวบ้านถ่ายน้ำมันเกียร์ เปลี่ยนกรองเกียร์ให้ ไม่เคยถ่ายเป็นหมื่น ๆ เหมือนคนอื่นเขา คห 22 อันนั้นก็ว่ากันไม่ได้ครับ ส่วนใหญ่เข้าศูนย์ เข้าอู่ดัง ๆ มันก็เป็นธรรมดา ผมถ่ายน้ำมันเครื่องเอง ซ่อมช่วงล่างบางตัวเองด้วย จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 55 20:05:12 A:101.108.181.3 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 24 ไว้มาอ่านต่อครับ จากคุณ : แอบแรงแซงโค้ง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 00:35:02

ความคิดเห็นที่ 25 กลับมาต่อครับ เซนเซอร์ รถBMW E36 E46 เกิดในช่วงที่ Electronic Control เริ่มมีบทบาทกับรถมาก ทำให้รถมีเซนเซอร์เยอะมาก เซนเซอร์นั้นมีหลายแบบครับ แบ่งได้หลายชนิด และหน้าที่การทำงาน คร่าว ๆ ที่พอนึก ๆออก เซนเซอร์อุณหภูิมิ ที่ใช้วัดอุณหภูมิของสิ่งต่าง ๆในรถได้แก่ น้ำหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ อากาศภายนอก อากาศเข้าเครื่อง(วัดที่ต่ำแหน่ง MAF) อากาศที่ออกจากรถ อากาศภายในรถ อุณหภูิมิคอยล์แอร์(ไม่ให้เป็นน้ำแข็ง) อุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิง(อันนี้ผมก็ไม่เคยเห็นว่ามันอยูตรงไหน) ราคาทุก ๆตัวไม่มีตัวไหนเกิน 2000 บาท พวกนี้เสียค่อนข้างยาก แต่ถ้าไม่ระมัดระวังมีการถอดใส่ หัก กระแทก ก็เสียได้เหมือนกัน ที่นิยมเสียมากที่สุดของ E46 คือที่วัดอุณหภูมิภายนอกรถอยู่ใต้กันชนทางซ้ายด้านหน้าซุ้มล้อหน้า ไปอ่านเว็บไหนก็มีแต่คนบอกว่าตัวนี้เสีย อาการคือ ที่หน้าปัทม์บอกอุณหภูมิภายนอก -40'C ค่าเดียวตลอด มีผลต่อการทำงานของ ระบบทำความเย็นบ้างคือมันจะทำให้ Compressor ตัดเร็วเล็กน้อยขึ้นกับสภาวะแสงแดด เซนเซอร์ตำแหน่ง พวกนี้ส่วนมากจะเป็น Proximity แบบMagnetic หรือไม่ก็ Resistor type หรือ Electromagnetic Field ได้แก้ เซนเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง เซนเซอร์แคมชาฟท์ เซนเซอร์วัดระดับน้ำมันเครื่อง เซนเซอร์มุมปีกผีเสื้อ เซนเซอร์ตำแหน่งเกียร์ เซนเซอร์วาล์วต่าง ๆ กลุ่มนี้ ก็ไม่มีตัวไหนแพงเกิน 2000 บาท ที่นิยมเสียก็เซนเซอร์หน้าเครื่องที่เป็นแม่เหล็กสายไฟขาดใน ถ้าขยันผ่า เอามาเชื่อมสาย หล่อ Epoxy ใหม่ก็ใช้ได้ เขาเรียกกันว่า Camshaft Sensor อยู่เหนือส่วนบนของท่อน้ำออกด้านบนหน้าเครื่อง ถ้าเสียรถอาจจะสตาร์ทไม่ติด หรือถ้ามันติด ๆ ดับ ๆ ก็จะมีอาการสะดุดเพราะมันไม่รู้ตำแหน่ง camshaft ในบางจังหวะ อ่าน Code ในคอมเจอครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 09:25:06 A:101.108.179.225 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 26 รออ่านต่อด้วยคนครับ จากคุณ : เอก (aek_ps) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 11:28:28

ความคิดเห็นที่ 27 อ็อกซิเจนเซนเซอร์ เป็นเซนเซอร์พิเศษในการให้ข้อมูลกับ ECU เพื่อการจ่ายน้ำมันให้สอดคล้องกับปริมาตรอากาศ ตัวนี้อายุมันราว ๆ 2 แสนกิโลเมตรก็เริ่มจะเสียกันแล้ว บางคันเสียก่อนกำหนดก็มี บางคันเสียหลังจากนี้ไปก็มี ราคาเบิกห้างหลักหมื่นบาท ราคาเบิกร้านอะไหล่เกือบ ๆ6 พันบาท แต่ถ้าหาตามเว็บของใหม่ไม่เกิน 2 พัน บางร้านแถมใส่ให้ด้วยไม่ต้องไปหาช่าง อาการเสียต้องใช้คอมพิวเตอร์อ่านค่าครับ ถอดออกมาวัดก็ไม่ชัวร์เท่าใส่ไปในรถแล้วดูค่า เว้นแต่ว่าจะมี Function gen และ Oscilloscope อ่านถึงจะชัวร์ว่าเสียรึเปล่า ถ้ารถกินน้ำมันมาก หรือไอ้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเพี้ยนไปมาก ก็เป็นอาการของเจ้าตัวนี้ด้วย รถผม 4 แสนโลเปลี่ยนไปอันเดียว และีอีกคัน สองแสนโลก็ว่าจะเปลี่ยนเพราะค่ามันไม่ยอม Rich เลย O2 sensor เอาแบบสี่สายที่เป็นเต็มย่านครับ มันจะอ่านได้ 0 -1 Volt เต็ม ๆ ค่าความต้านทานขดลวดความร้อนไม่ต้องไปวัดครับ มันจะเป็นเท่าไหร่ก็ใช้ได้(คู่สีขาว) รถทุกคันแทบทุกยี่ห้อถ้าเป็นแบบBMW คือ Zirconia จะเหมือนกันหมด เพราะO2 sensor เขาผลิตอ้างอิงจาก Voltage <=> ความร้อน มันมีมาตรฐานอยู่ ต้องไปอ่านใน ISO ก็เลือกใช้เอาครับ ผมใช้ตัวไม่ถึงสองพัน มันก็ใช้ได้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร อยากเชื่อว่าต้องใช้ตัวละหมื่น ก็ตามใจครับ วิทยาศาสตร์มีไว้ให้ทดลอง ;-P จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 11:46:16 A:182.53.89.66 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 28 เดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิด เวลาวัดความต้านทานคู่ขาว ต้องไม่ Short หรือ Open circuit ครับ ถือว่าใช้ได้ คู่ขาวเวลาเสียมันจะเป็นสองอาการนี้ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 11:47:41 A:182.53.89.66 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนนี้ E46 323i ปี2000 กำลังมีปัญหาพอดี จอดนิ่งสนิทอยู่ที่บ้านยังไม่มีเวลาไปซ่อม อาการคือ ไฟมี บิดกุญแจ สตาร์ส แล้วเงียบ ไม่มีเสียงใด ๆเลย แบตไม่หมดเพิ่งเปลี่ยนครับ รบกวนด้วยครับ จะได้ซ่อมถูกจุด แต่ใจคิดว่า motor start ครับ จากคุณ : birdy323 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 12:25:36

ความคิดเห็นที่ 30 คห 29 ลองกุญแจดอกอื่นดูรึยังครับ เห็นเจ้าของรถบางคนมีปัญหากุญแจเสีย Immo ไม่induce สตาร์ทเงียบ ซ่อมได้ครับพวกนี้หาช่างเป็น ๆ ถ้าเป็นมอเตอร์สตาร์ทน่าจะได้ยินเสียงอะไรบ้าง จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 13:45:58 A:182.53.89.66 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 31 จบแล้วหรอครับ ? สรุปผมควรจะเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำเป็นแบบหล่อเย็นใช่มั๊ยเนี่ย ? จากคุณ : กั๊ตจัง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 13:53:13

ความคิดเห็นที่ 32 ยังไม่มีเวลาเขียนต่อครับ ขอทำงานก่อน คุณกั๊ตจัง ควรเปลี่ยนครับ เหตุผลก็คือ 1. เพื่อเพิ่มจุดเดือด 2. ลดตระกรันไปเกาะตามส่วนต่าง ๆ ภายในระบบน้ำ 3. ลดการเกิดสนิมในเครื่อง 4. ยืดอายุปั๊มน้ำ BMW ใช้โซ่ราวลิ้นแล้ว ไม่มีโอกาสได้เปิดปั๊มน้ำมาทำกันเท่าไหร่ครับ เดี๋ยวจะมาต่อให้นะครับ วันนี้ไม่ว่างเลย จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 15:48:56 A:101.108.189.142 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 33 กุญแจทุกดอก สตาร์ทเงียบหมดครับ แบบนี้เบื้องต้นควรทำอย่างไรดีครับ จากคุณ : birdy323 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 19:21:19

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ ผมเคยเป็นคล้ายๆกันครับ แต่ของผมstarterเสีย เปลี่ยนใหม่ทั้งลูกครับ จากคุณ : bleneon เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 55 22:03:17

ความคิดเห็นที่ 35 SACHS ดำ  พึ่งจัดมาเก็บไว้ตามพี่ Crayonz เคยบอกไว้นานแล้ว เอามาดู หลังมันเป็น E36 จริงๆด้วยครับ เอาไปเปลี่ยนร้านไพโรจน์ทันไหมเนี่ย  แง้ จากคุณ : aonly300 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 12:31:43

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 33 ถ้าอย่างนั้นก็ลองเช็ค Fuse starter ก่อนครับ ดูในคู่มือครับ คห. 35 มันใช้กันได้ครับ แต่มันต้องดูว่า 323 318 ถ้าเอา 323 ไปใส่ 318 มันจะแข็งและท้ายโด่งนิดนึงครับ แก๊สมันอัดมาแรงกว่า จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 16:27:42 A:101.108.173.73 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่รู้ คุณ Crayonz อ่านอยู่หรือไม่ จะมาแจ้งให้ทราบว่า รถใช้ได้แล้ว หลังจากรื้อดูกล่อง fuse และ relay ต่าง ๆ ตาม diagram ของรถ แต่ก็ไม่เจอตัวไหนเสีย วันนี้ไม่รู้นึกครึ้มอะไร เพราะกะว่าว่างจะ slide on ไปอู่ญาติแล้ว ไปลองรื้อกล่อง fuse ในห้องเครื่องดูอีกรอบ ไล่ดูตามสายไปไปสะดุด relay ตัวนึงซื้อไม่น่าจะใช้ของ ติดรถ เป็น Bosch 5ขา 12V 30A เลยจัดแจงเอาของอีกคันมาเปลี่ยนใส่ดู สรุปใช้ได้ครับ ดีใจจริง ๆ ที่ผมไม่ว่างงานพอดี ไม่งั้นคงต้องเสียค่ายกไปอู่อีก จากคุณ : birdy323 เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 55 20:41:31

ความคิดเห็นที่ 38 คห 37 โชคดีไปครับ ยินดีด้วยที่หาเจอเอง ถ้าต้อง Slide on ไปหาช่างเพราะรีเลย์ตัวเดียวน่าเสียดายแย่ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 11:30:55 A:101.108.163.135 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 39 ต่อครับ อะไหล่ตัวถัง และตกแต่งภายใน น่าจะเป็นอะไรที่แพงจริง ๆ อย่างที่ีเขาว่า แต่ที่ว่าแพงก็คงไม่ได้แปลว่าคุณจะชนยับพังมันทุกชิ้น เพราะหากเป็นเ่ช่นนั้น ไปหาหัวตัดท้ายตัด หรือ ตัดมาทั้งคันใส่ก็ได้ครับ มีรถญี่ปุ่นอีกเยอะรอตัด ชิ้นที่ไม่ต้องไปซื้อหัวตัดให้เสียเวลาก็โคมไฟครับ พวกนี้ของไต้หวันคุณภาพดีเยอะครับ ไฟตัดหมอก E36 Compact ผมเคยซื้อคู่ละ 1600 ใช้ไปเกือบสิบปีขายรถไปไม่มีปัญหาอะไร โคมใสแจ๋วเหมือนเดิมมีรอยเศษกรวดกระแทกตามสภาพ ไฟหน้า E46 เคยโทรถามร้านขายของแต่ 6000 บาท ได้ของใหม่ เลย เกจ์ หน้าปัทม์ สวิทช์ ส่วนใหญ่ซ่อมได้ แต่ต้องมีเวลาให้คนซ่อมซักหน่อยพวกนี้แค่ถอดหรือรื้อก็นานแล้วครับร คุ้มกว่าซื้อใหม่เพราะของใหม่ราคาสูง แต่ก็ไม่ได้แพงกว่ารถญี่ปุ่นครับ หน้าปัทม์หรือที่เรียกกันว่าเรือนไมล์ ราคาพอ ๆ กับหน้าปัทม์ Camry ราว ๆ หมื่นกว่า ๆ เซนเซอร์เบาะนั่งหน้าซ้าย สำหรับ Airbag ถ้ามันเสีย เห็นเขาซ่อมเปลี่ยนแผงเซนเซอร์พันกว่าบาท แต่ต้องรื้อเบาะหนังออก ผมให้อู่แห่งหนึ่งแปลงสวิทช์เปิดปิดแอร์แบกใส่แทน เวลาเอา Baby Carseat ใส่เบาะหน้า ก็กดปิดแอร์แบกลูกนั้นได้ เผื่อไว้ เครื่องยนต์ วาล์ว สูบ ผมใช้มาสีแสนกว่าโลกับ E36 ยังไม่เคยแตะมันเลย ติดแก๊สด้วย วาล์วก็ยังปิดดี ลูกสูบแรงอัดก็ยังปรกติ ไม่รู้ว่าเขาซ่อมกันเท่าไหร่ ราคาวาว์ลแทปเป็ท 2400บาทแปดตัว รถมีแค่แปดวาล์วตกตัวละ300 ไม่รู้มีใครเคยเปลี่ยนรึเปล่า เกียร์ เคยเช็คอะไหล่มาเลย์ สำหรับ E46 M43 เกียร์ GM รวมนำเข้า 8 หมื่น อันนี้ผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยน ถ้าซ่อมแพงมากซื้อใหม่มาเลย์มาเลยครับได้ยกลูก เติมน้ำมันเกียร์ เสียบปลั๊กใช้ได้เลย อะไหล่สิ้นเปลือง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ ราคาพอ ๆ กับรถญี่ปุ่นครับ กรองน้ำมันเครื่อง ตอนนี้ผมซื้อ 150 บาทมาพร้อมโอริง และแหวนก้นแท้ง กรองอากาศจำไมไ่ด้ไม่น่าเกิน 300 ซื้อไว้หลายอันเปลี่ยนทุก 50000 โล ถ้าขยันเป่า บางทีก็เกินครับ ไม่เสียหายอะไรก็ไม่เปลี่ยน รถก็ไม่เห็นพัง การกินน้ำมันของรถ จำเป็นมากที่ต้องรู้ไว้ ถ้ามันกินผิดปรกติ ก็ต้องรีบแก้ไขครับ เริ่มจากง่าย ๆ เช่นหัวเทียน กรองอากาศ แล้วค่อยไปหาของยาก ๆ อย่าง O2 Sensor MAF Sensorปีกผีเสื้อก็ว่ากันไป ระดับน้ำมันเครื่อง อย่าเติมเกินเป็นอันขาด เพราะมันจะไปถูกเผ่าใน Catalytic converter ทำให้เสียหายเปล่า ๆ เขียนมายาวแล้วนึกไม่ออกแล้วครับว่ามีอะไรต้องเสียอีก น่าจะครบคันแล้ว ถ้าใครมีอะไรมาแชร์ประสบการณ์กันก็ดีครับ ให้คนอื่น ๆ ได้อ่านครับ ขอจบแค่นี้ดีกว่า ใครอ่านแล้วยังซ่อมเป็นหมื่นเป็นแสนอยู่ ก็เชิญครับ ไม่รู้จะช่วยอย่างไรแล้ว ไม่ต้องมาอวดโชว์นะครับว่ายังซ่อมแพง ๆ อยู่ อดสงสารไม่ได้ครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 14:09:56 A:101.108.163.135 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ เดียวคงต้องเช็คเรื่องกินน้ำมัน เพราะรู้สึกว่าจะกินมากเลยตอนนี้ จากคุณ : birdy323 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 18:31:05

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Crayonz ไม่ทราบว่า O2 Sensor พอจะทราบราคาบ้างไหมครับ รวมๆ ที่ต้องทำก็คงเป็น เปลี่ยนหัวเทียน, ล้าง MAF Sensor(ตัวนี้ล้างไม่ยาก) ,ล้าง sensor ปีกผีเสื้อ(รื้อเยอะอยู่) ที่ยากคงเปลี่ยน Oxigen sensor ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : birdy323 เขียนเมื่อ : 19 มี.ค. 55 23:25:57

ความคิดเห็นที่ 42 คห 41 O2 Sensorล่าสุด เห็นขายอยู่ 1600 บาทครับ เช็กกับร้านอะไหล่ดูนะครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 55 14:34:23 A:223.206.36.8 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ กำลังมองหา e46 ไฟยกสักคัน ขออนุญาตเก็บไว้เป็นข้อมูลครับ ไม่ทราบว่าคุณCrayonz พอจะมีอู่แนะนำบ้างไหมครับ ถ้าซื้อรถมาแล้วจะได้เอาไปซ่อมใหญ่สักครั้งก่อน ให้พร้อมใช้ จากคุณ : Eak1199 (eak1199) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 55 20:45:05

ความคิดเห็นที่ 44 คห.43 อู่ในกรุงเทพผมไ่ม่ถนัดครับ รอคุณกั๊ตจัง,อาแปะเหล่านั้งเคียวห่วย หรือ Dr.จิม ที่ใช้ BMW มาแนะดีกว่า งานซ่อมช่วงล่างผมให้ร้านยางทำ บางตัวทำเอง งานซ่อมเครื่องก็ให้อู่เครื่องยนต์ทำ อย่างประเก็นเครื่องนี่ผมก็ให้อู่ทั่ว ๆ ไปไม่ใช่ BMW ทำ รื้อเองคงเป็นเดือนครับ ตอนนี้เลยแทบไม่มีอะไรต้องไปหาอู่ BMW แล้ว จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 13:49:27 A:101.108.160.145 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 45 นับถือครับ วันนึงถ้ามีโอกาสได้ครอบครองจะต้องเปิดหน้านี้ดูแน่ๆ จากคุณ : Nunix เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 03:06:30

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ทราบว่าจะชี้เป้าแหล่งอะไหล่ราคาไม่แพงได้ไหมครับ พอดีผมต้องเปลี่ยน หลายตัวอยู่ หลังไมค์ก็ได้ครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Orbiztaly (Orbiztaly) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 18:32:31

ความคิดเห็นที่ 47 # 46 หลังวัดโสมเพียบครับ ร้านไพโรจน์ , LM ลอง search หาเบอร์ใน google ดูครับ จากคุณ : กั๊ตจัง (กั๊ตจัง) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 17:49:58

ความคิดเห็นที่ 48 อยากให้ลงข้อมูลของ E90 มั่งครับ หมดประกันแล้ว ปี08  กำลังว่าจะไปติดแก๊สเหมือนกัน  กำลังหาข้อมูลการซ่อมอยู่ครับ  รู้สึกเหมือนแรคพวงมาลัยอาจจะเริ่มมีปัญหา จากคุณ : ItsamaauI เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 13:32:52