ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มต้นที่เครื่องมือที่ใช้ครับ ประแจชุด  ที่ใช้จริงๆ คือ เบอร์ 10, 12, 14 ใขควงปากแบน เลือกอันสั้นๆ จะได้ทำง่ายๆ ปะเก็นเหลว ปากตาย เบอร์ 10 ฟีลเลอร์เกจ ประแจแบบตั้งต่าแรงขันได้ คู่มือการทำงาน (หาได้ตามเว็บคลับ) กรองเครื่องที่เห็น ผมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 11:42:13 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:41:07

ความคิดเห็นที่ 2 ปากตายแหวนข้างชุด กับคู่มือครับ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 11:43:24 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:43:14

ความคิดเห็นที่ 3 ในขั้นตอนการทำ เนื่องจากผมทำคนเดียว ดังนั้น รูปถ่ายอาจน้อยไปนิด แต่ ผมจะแนบรูปตามตู่มือเพื่อความเข้าใจครับ จุดสำคัญของงานนี้คือ อุณหภูมิเครื่องต้องต่ำกว่า 38 C ตอนทำการตั้งวาล์ว ผมใช้วิธีจอดรถค้างคืนแล้วมาทำตอนเช้าครับ เริ่มที่ ถอดแบตเตอรี่ขั้วลบออก และถอดใบปัดน้ำฝน แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 13:20:11 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 13:07:34 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:50:07

ความคิดเห็นที่ 4 ถอดแผงหน้าเครื่อง จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:50:53

ความคิดเห็นที่ 5 ถอดแผงหน้าเครื่อง เหล็ก จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:51:47

ความคิดเห็นที่ 6 ถอดแผงหน้าเครื่อง เหล็ก มีนอตอยู่ หกตัว ใช่บล๊อกเบอร์ 10 ถอดออกมาครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:52:44

ความคิดเห็นที่ 7 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 12:17:29 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 12:15:31 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 11:54:52 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:54:38

ความคิดเห็นที่ 8 รอดูเลยครับ เข้า GE บ้านผมตอนนี้รอบตกตอนแอร์ทำงาน วิ่งมา 8x,xxx โล น้ำมันล้วนไม่ได้ติดแก๊ส !!! ขอบคุณมากๆ ครับ จากคุณ : นายเหม เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 11:55:39

ความคิดเห็นที่ 9 ถอดกรองอากาศ มีโบลต์สองตัว จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:17:09

ความคิดเห็นที่ 10 รูปครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:17:47

ความคิดเห็นที่ 11 จะได้รูปนี้ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:19:10

ความคิดเห็นที่ 12 จากนั้นถอดท่อร่วมไอดีพลาสติก โดยถอดลิ้นปีกผีเสื้อ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 12:22:26 แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 12:22:11 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:20:48

ความคิดเห็นที่ 14 จากนั้นถอดท่อร่วมไอดีพลาสติก โดยถอดลิ้นปีกผีเสื้อ (ต่อ) จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:23:19

ความคิดเห็นที่ 15 จากนั้นถอดท่อร่วมไอดีพลาสติก จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:24:04

ความคิดเห็นที่ 16 มาดูลิ้นปีกผีเสื้อ ของรถที่วิ่ง 70000 กม. กัน จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:26:02

ความคิดเห็นที่ 17 อีกด้าน จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:26:40

ความคิดเห็นที่ 18 ผมใช้น้ำยาล้าง ของ CRC Carburetor Cleaner ตามรูปครับ ฉีดใส่ผ้าแล้วเช็ด ในคู่มือห้ามฉีดใส่ ปีกผีเสื้อโดยตรง แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 12:30:10 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:29:57

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากทำความสะอาดแล้วครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:31:23

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไม่กล้าหมุนปีกผิเสื้อจากตำแหน่งเดิม เพราะว่า มีบางท่านบอกว่า หากหมุนเพื่อเช็ดให้เกลี้ยงๆ ตำแหน่งเริ่มต้นจะผิดไป ส่งผลตอนรอบเดินเบา ดังนั้น ผมไม่ได้ขยับครับ อีกเรื่องคือ คู่มือบอกว่า พยายามระวังอย่าเช็ดมากตรงจุดหมุน เพราะมีจาระบีโมลิบดินัม เคลื่อบอยู่ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:35:34

ความคิดเห็นที่ 21 รูปขณะทำครับ จะมีที่โล่งทั้งสองด้าน ทั้งซ้าย ขวา จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:37:06

ความคิดเห็นที่ 22 . จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:38:25

ความคิดเห็นที่ 23 จากนั้น ก็ถอดฝาครอบวาล์ว จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:39:25

ความคิดเห็นที่ 24 ได้รูปนี้ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:41:05

ความคิดเห็นที่ 25 เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบระยะห่างวาล์วครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:42:27

ความคิดเห็นที่ 26 . จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:42:44

ความคิดเห็นที่ 28 . จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:43:18

ความคิดเห็นที่ 29 1.นำ บล๊อกเบอร์ 19 สอดเข้าที่บังโคลนหน้าขวา ไปหมุนเพลาข้อเหวี่ยงโดย เริ่มจากสูบหนึ่ง สัญลักษณ์ UP และรอยบากที่เฟืองแคม จขนานกับแนวฝาสูบ (TDC= Top dead center) 2. ที่สูบหนึ่ง ใช้ feeler gauge ตามค่า (ผมใช้ 0.178 mm สำหรับใอดี และ 0.279 mm. สำหรับใอเสีย) สอดเข้าที่ช่องว่างระหว่าง ก้านวาล์ว 3. หากสอดแล้วรู้สึกว่าหนืดไป หรือหลวมไป ให้คลาย นัตล๊อกแล้วปรับระยะห่างด้วย ใขควางแบน ทั้งฝั้ง ไอดี ไอเสีย ดูรูปใน ความคิดเห็นที่ 28 รูป feeler gauge แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 22:47:35 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:53:28

ความคิดเห็นที่ 30 รูป ตอนใช้ feeler gauge วัด จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:54:42

ความคิดเห็นที่ 31 หากได้ค่าทื่กำหนดแล้ว ให้ขันแน่น ผมใช้ ประแจที่ปรับตั้งแรงบิดที่ขั้นตอนนี้ครับ รูปแสดง รอยบากเทียบกับฝาสูบ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 12:57:09

ความคิดเห็นที่ 32 จากนั้นหมุนเครื่องตามเข็มนาฬิกาทำสูบ  3, 4, 2 ซ้ำขันตอนเดิม เข้าใจง่ายๆ คือเราจะตั้งวาล์วเมื่อสูบนั้นอยู่ที่ Top dead center วาล์ว ไอดี ไอเสีย ปิดสนิท ของผมฝั่งไอดี ปรกติ ไอเสีย ตั้งใหม่ทุกสูบครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:00:46

ความคิดเห็นที่ 33 หลังจากทำเสร็จทุกสูบแล้ว ตรวจทานดีๆ ว่าขันแน่น นัตทุกตัวหรือยัง จากนั้นประกอบฝาครอบวาล์วกลับ โดยใช้ประเก็นเหลวทาตรงรอยต่อระหว่างฝาสูบด้วย จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:03:20

ความคิดเห็นที่ 34 . จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:03:37

ความคิดเห็นที่ 35 .. จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:03:51

ความคิดเห็นที่ 36 จากนั้นก็ประกอบกลับย้อนทางเดิม คือ กรองอากาศ, แผงหน้าเครื่อง , ต่อแบตเตอรี่ ดูว่าประกอบกลับครบทุกๆ อย่างแล้ว แล้วมาทำ ldle learning จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:06:24

ความคิดเห็นที่ 37 เพราะเราทำความสะอาดลิ้นปีกผีเสื้อ ทำให้ขนาดของลิ้นปีกผีเสื้อตอนปิดสนิท เปลียนไป ดังนี้นจึงต้อง ให้เครืองยนต็เรียนรู้รอบเดินเบาใหม่ ตามคู่มือ ต้อง ทำreset ด้วย HDS แต่เนื่องจากว่า เราถอดขั้วแบตแล้ว เปรียบเสมือนreset ไปในตัว เริ่มด้วย ติดเครื่องโดยไม่ต้องเปิดแอร์, วิทยุ ใดๆเลย เร่งรอบไปที่ 3000 รอบต่อนาที่ จนกระทั่งพัดลมหม้อน้ำทำงาน หลังจากนั้น ปล่อยเดินเบาเป็นเวลา 5 นาที่ หากพัดลมหม้อน้ำทำงาน ห้ามรวมเข้ากับ เวลาห้านาที แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 13:19:18 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:14:27

ความคิดเห็นที่ 38 สรุป อาการแอร์ตัดรอบตก หรือสั่น หายไป อาการเดินเบา สั่นน้อยลง สงสัยขอใดๆ ถามมาได้ครับ ปล. ครูวิชา auto เคยสอนว่า ถอดออกแล้ว หาที่ใส่ให้เป็นระเบียบ จะได้ ไม่มีฝรั่ง ญี่ปุ่นทำเกิน สว้สดีครับ แก้ไขเมื่อ 25 มี.ค. 55 22:43:17 จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:18:23

ความคิดเห็นที่ 39 แล้วมอเตอร์คุมรอบเดินเบาล่ะครับ ไม่ทำความสะอาดหรอ ก่อนล้าง มีอาการ ถอนคันเร่ง รอบร่วงไปเหลือ 5 - 600 แล้วค่อนเด้งขึ้นมาใหม่ ไหมครับ จากคุณ : Altezza เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:39:53

ความคิดเห็นที่ 40 ของผมเข้าศูนย์ 800 บาท ไม่รวม Vat จบ ไม่สามารถทำเองได้จริงๆ แค่เปลี่ยนกรองอากาศเองยังได้แผลเลย นับถืิอ จขกท ครับ จากคุณ : FyGI เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 13:55:49

ความคิดเห็นที่ 41 ได้ความรู้จริงๆครับ ขอบพระคุณครับผม _/\_ จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 14:03:39 A:27.55.11.62 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 42 จขกท. ตั้งวาล์ว ต้องเปลี่ยนประเก็นทุกครั้งหรือไม่ เพราะกลัวน้ำมันซึมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Enchize เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 14:21:47

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ธรรมดา จากคุณ : Sakuracommando เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 14:28:57

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท. น่าจะเป็นช่างอยู่ด้วยนะครับ คงไม่ใช่หัดทำแบบมือใหม่แน่ๆ 555 จากคุณ : dum.d เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 15:09:37

ความคิดเห็นที่ 45 ตอบท่าน Altezza ของผมไม่มีอาการนี้ครับ ตอบท่าน Enchize ผมไม่ได้เปลี่ยนครับ ใช้วิธีดูสภาพเอา ว่าไม่แตก ไม่แข็ง จะเปลี่ยนที่ แสนโลครับ ผมจะว่าเป็นช่างก็ได้ บังอิญว่าผมทำงานในโรงงาน แต่เป็นด้านการจัดการซะมากกว่า แต่ และเห็นว่ามาตรฐานมีความสำคัญครับ ทีทำงานนี้ เพราะขับเองทุกวัน  แต่เมื่อเอาไปหาช่างศูนย์ เขาก็แค่ฟ้งเสียง แล้วก็บอกว่า เป็นปรกติ ทั้งๆ ที่เลยช่วงเวลาตรวจสอบแล้ว ผมเป็นมือสมัครเล่นครับ แต่พยายามหาเครื่องมือเก็บใว้ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 15:52:16

ความคิดเห็นที่ 46 รุ่นนี้ตัวคุมรอบเดินเบามันอยู่ตรงไหนครับ จากคุณ : นายเหม เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 16:11:58

ความคิดเห็นที่ 47 ขอแสดงความชื่นชมครับ...ทำเองภูมิใจ ทำด้วยความใส่ใจ ไม่ต้องง้อช่าง จากคุณ : Komkrid เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 18:12:00

ความคิดเห็นที่ 48 เวลาที่ใช้ตั้งวาล์ว ไม่ได้ครึ่งของเวลาที่ใช้รื้อชิ้นส่วนอื่นๆเลย รถสมัยใหม่  จะทำอะไรที  แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว รถรุ่นใหม่ๆที่เป็นคันคันเร่งไฟฟ้า ตัวมอเตอร์คุมรอบเดินเบามันจะไม่ค่อยจะมีแล้ว เพราะจะใช้ลิ้นปีผีเสื้อไฟฟ้าคุมลมเข้าไปเลย Jazz รุ่นนี้ผมยังไม่เคยรื้อดู  แต่เข้าใจว่าก็ไม่มีเหมือนกัน จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 20:32:52

ความคิดเห็นที่ 49 ^ ^ ผมยังนึกว่ามีอยู่เลยนะ... เห็นมีกระเบาะดำๆ อยู่ใกล้ๆ ลิ้นฯ นึกว่าใช่ซะอีก... จากคุณ : Altezza เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 21:25:05

ความคิดเห็นที่ 50 ผมแวะมาศึกษาด้วย ขอบคุณมากครับ จากคุณ : yai6000 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 22:26:53

ความคิดเห็นที่ 51 ตอบ นายเหม ครับ เท่าที่ดูในคู่มือซ่อม ใช้ตัวมอเตอร์ลิ้นปีกผีเส้อคุมรอบเดินเบาครับ ตัวดำๆ ใกล้ๆ ลิ้นเป็น Evaporative Emission (EVAP) Control System ใช้ดูดใอระเหยน้ำมันมาเผาใหม้ครับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 22:42:05

ความคิดเห็นที่ 52 สรุปว่าไม่มีมอเตอร์คุมรอบเดินเบา  แต่ใช้ลิ้นปีผีเสื้อไฟฟ้าคุมเดินเบาเอาเลย อันนี้คงเป็นสาเหตุหนึ่งด้วย  ที่ปีกผีเสื้อใน คคห19-20 มันปิดไม่สนิท พวกลิ้นไฟฟ้าพวกนี้  ถ้าเราตัดไฟมันแล้วพยายามอย่าไปขยับตำแหน่งมันจะดี เพราะถ้าเราไปขยับตำแหน่งมัน  พอเราเสียบไฟไปใหม่ ตำแหน่ง 0% 100% มันจะเคลื่อนได้ แต่ถ้าตัวลิ้นมันออกแบบ hw และ sw มาดี  ทุกครั้งที่มีการ reset ใหม่ มันควรจะมีการตรวจเช็คตำแหน่ง 0% 100% ด้วยตัวเอง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 55 23:47:16

ความคิดเห็นที่ 53 งานปราณีต เพราะทำเอง มีใส่ถุงมือกันลื่นด้วย มอเตอร์รอบเดินเบาส่วนใหญ่เป็นสเตปมอเตอร์ มันเลยไม่มีการจำองศาตัวเองถ้าหลุดสเตป จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 02:08:08 A:61.90.73.139 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 54 เก่งมากครับ ชื่นชมโสมนัส จากคุณ : poryaris เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 10:08:22

ความคิดเห็นที่ 55 อ่าววว.... งี้ถ้าเผลอถอดลิ้นฯ ออกมา จะขยับกลับไปตำแหน่งเดิม จะทำยังไงล่ะครับ จากคุณ : Altezza เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 19:22:49

ความคิดเห็นที่ 56 ต้องลุ้นเอาครับ ว่ามันจะตรงตำแหน่งเดิม ก็เพราะสาเหตุนี้แหละครับ ที่ผมไม่กล้าขยับ จากคุณ : Luftwaffe เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 22:21:44

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไม่รู้ว่ารุ่นนี้  ถ้าไปขยับแล้วมันจะมีปัญหาหรือเปล่า ถ้าขยับแล้วมีปัญหา  ผมว่ามันต้องมีวิธีแก้ อย่างน้อยศูนย์ ต้องทำได้ จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 00:04:53

ความคิดเห็นที่ 58 ของ Civic 2.0 ที่เป็นคันเร่งไฟฟ้า ผมขยับเล่นเป็นร้อยรอบแล้วครับ ผมล้างปีละครั้ง สองครั้ง ปีนี้จะเข้าปีที่7 ไม่มีอาการผิดปกติครับ พอล้างเสร็จใหม่ๆ รถผมจะมีอาการเดินเบารอบสูงอยู่หน่อยนึง ขับไป 2-3 วัน ก็กลับมาเดินเบาปกติครับ จากคุณ : ถัง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 05:08:53

ความคิดเห็นที่ 59 เเวะัมาชม ขอบคุณข้อมูล เเละรูปภาำพสวยๆ ค่ะ จากคุณ : mssuchira เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 01:48:57