ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อได้รถมาแล้ว ก็เอาไปเคลือบแก้วก่อน ด้วยความที่รถเป็นสีบรอนซ์ ก็จะไม่ค่อยเห็น effect ของเคลือบแก้วนัก (ถ้าสีเข้มหรือสีดำ จะสะท้อนเงาชัดมาก) ที่เห็นนี่ก็ค่อนข้างเงาแล้ว และผมพบภายหลังว่าหลังจากผ่านไปอีก 2-3 วัน น้ำยาจะทำงาน และจะดูเงาขึ้นไปอีก จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:44:52

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนขั้นตอนการเคลือบแก้ว ต้องปิดส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นกระจก เพราะน้ำยาเคลือบแก้วจะทำให้ กระจกเราขุ่นเสียไปเลย (เพราะมันมีส่วนของแก้วด้วยกัน) จะเห็นว่าก่อนเคลือบแก้ว สีรถจะไม่เงาเท่ากับหลังทำ​ (รูปที่แล้ว) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:46:16

ความคิดเห็นที่ 3 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 23:48:48 จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:46:47

ความคิดเห็นที่ 4 ลืมรูปมุมหน้าซ้ายครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:48:05

ความคิดเห็นที่ 5 ด้านขวา จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:49:29

ความคิดเห็นที่ 6 ผมลืมบอกไปว่า กระจกของส่วนห้องโดยสารตอนหลัง 5 ชิ้น + ซันรูฟ 3 ชิ้น เป็นแบบ Privacy Glass ก็คือว่ามองจากด้านนอก จะไม่เห็นข้างใน (เห็นน้อยมากๆ) แต่อยู่ข้างในมองออกมาข้างนอก เหมือนติดฟิล์มสีอ่อนๆ ส่วนกระจกข้างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าเป็นแบบ Tinted Glass (เจือสี) ช่วยกรองแสงได้ระดับหนึ่ง ผมก็เลยติดฟิล์ม V-Kool ทั้งคัน ดังนี้ กระจกหน้า ติดเบอร์ VK-70 (เกือบใส) กระจกข้างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ติดเบอร์ VK-40 (เข้ม) กระจกซันรูฟ 3 ชิ้น ติดเบอร์ VK-40 (เข้ม) กระจกห้องโดยสารตอนหลัง 5 ชิ้น ติดเบอร์ VK-30 (รุ่นใหม่ ที่เข้มขึ้นไปอีก) พอรวมกับ Privacy Glass แล้ว มองจากข้างนอกดำเกือบสนิท มองจากข้างในในวันแดดออกยังนึกว่าฝนจะตก (ผมว่ามันมืดไปนิด..แหะๆ) ในรูปคือติดฟิล์มอย่างที่ว่าแล้ว ส่วนเรื่องกันความร้อนนั้น วางใจ V-Kool เถอะครับ ดีที่สุดแล้ว เฉพาะค่าฟิล์มคันนี้ทั้งคันเหยียบ 4 หมื่นบาท จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:52:42

ความคิดเห็นที่ 7 ด้านหลัง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:55:24

ความคิดเห็นที่ 8 ล้อแม๊กซ์ 5 ก้านของเมอร์เซเดสเบนซ์ ขนาด 17" ยางเบอร์ 225/55 R17 101W ของ Pirelli รุ่น Cinturato P7 ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (เป็นพวก Green Performance) นุ่ม เงียบ ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้นาน (High Milege) ดูสัปดาห์/ปีที่ผลิตแล้วก็ 9 เดือนก่อนรับรถ ออกจะเก่าไปนิด จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:58:17

ความคิดเห็นที่ 9 กระจกมองข้างค่อนข้างใหญ่ เห็นชัด มีเส้นไข่ปลาขีดไว้ บ่งบอกว่านอกเขตนั้นกระจกจะโค้ง เห็นมุมกว้างขึ้นไปอีก ช่วยให้ไม่พลาดเวลาที่รถเล็กๆ อยู่ใกล้เข้ามามากๆ อนึ่ง ไม่มีไฟเลี้ยวบนกระจกมองข้างครับ ไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถจะเป็นดวงเล็กๆ อยู่ที่แก้มหน้าซ้าย-ขวา จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 23:59:45

ความคิดเห็นที่ 10 ฝาถังน้ำมันอยู่ทางด้านซ้าย ใต้ประตูผู้โดยสารตอนหน้า เวลาจะเปิดเติมน้ำมันต้องเปิดประตูซ้ายออกมา เพราะมันใช้เป็นกลไก ในการล๊อกฝาถังน้ำมันไปในตัว ผมว่าอันนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:01:09

ความคิดเห็นที่ 11 เปิดประตูหน้า แล้วเปิดฝาถังน้ำมัน จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:02:43

ความคิดเห็นที่ 12 ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ซึ่งหันเลี้ยวตามพวงมาลัยด้วย ทำให้เห็นข้างทางด้านที่รถกำลังจะเลี้ยวไป ฟีเจอร์นี้ปรกติจะพบได้ในรถเก๋งหรู แต่ Vito ก็ไม่พลาดที่จะเอามาอำนวยความสะดวกให้เรา ด้านล่างของโคมไฟ มี Daylight แบบ LED ซึ่งเป็นมาตรฐานไปแล้วสำหรับรถยุโรป โดยที่ Daylight นี้สามารถโปรแกรมให้เปิดหรือปิด ได้จากพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:04:00

ความคิดเห็นที่ 13 แก้ไขครับ มันไม่ได้หัน แต่มันมีไฟเสริมอีกดวงหนึ่ง เมื่อเราหมุนพวงมาลัยไปทางไหน ไฟด้านนั้นจะติดเพิ่มขึ้นมา ช่วยส่องให้เห็นด้านข้างเพิ่มขึ้นมาครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:05:24

ความคิดเห็นที่ 14 กระจังหน้าเป็นแบบ 3 แถบ โดยมีดาว 3 แฉกอันใหญ่ของเบนซ์อยู่ตรงกลาง หน้าตาเหมือนพวกเบนซ์สปอร์ต ผมก็ชอบนะ เพราะแต่ก่อนเบนซ์วีโต้จะมีกระจังหน้าเป็นแบบรังผึ้ง ผมว่าไม่สวยเลย (ของอีกค่ายหนึ่งที่ผมไปดูก็ยังเป็นแบบรังผึ้งอยู่) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:06:20

ความคิดเห็นที่ 15 Blue Efficiency เป็นเทคโนโลยีที่เครื่องยนต์จิบน้ำมันน้อยลง ในขณะที่ปล่อยมลพิษน้อยลง ผ่านมาตรฐาน Euro-5 ผมเคยดมกลิ่นไอเสียของ E-Class คันเก่า มันค่อนข้างเหม็น แต่ของคันนี้ไอเสียมีกลิ่นน้อยลงมาก จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:07:12

ความคิดเห็นที่ 16 122 CDI คือรหัสที่บ่งบอกถึงขนาดเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ วางเรียงเป็นตัว V 72 องศา 4 วาล์วต่อสูบ แคมชาร์ฟขับเคลื่อนด้วยโซ่ ปรับระยะวาล์วด้วยไฮโดรลิก หัวฉีดแบบ piezo แบบ 8 รูต่อหัวฉีด และสามารถฉีดเป็น pulse ได้สูงสุด 5 pulses ต่อ 1 จังหวะจุดระเบิด เมื่อรวมกับแรงดันน้ำมันระดับ 1600 bar ทำให้ฝอยน้ำมันละเอียดมากๆ ให้แรงม้าถึง 224 hp ให้แรงบิดสูงถึง 440 Nm ที่ 1400-2800 รตน. อย่างต่อเนื่อง เทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าแล้ว ให้พละกำลังมากขึ้น 10% จิบน้ำมันและคายไอเสียน้อยลง 5% จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:09:34

ความคิดเห็นที่ 17 เปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นมา พบว่าก้านเหล็กที่ใช้ค้ำฝากระโปรงไม่มีฉนวนกันความร้อนสักช่วงเลย ก็ต้องจับเหล็กดุ้นๆ นั่นแหละ ถ้ากลับมาถึงบ้าน หรือรถเสียกลางทาง เวลาเปิดฝากระโปรงรถให้ระวังเหล็กอันนี้มันร้อนครับ ร้อนจากห้องเครื่องนั่นแหละ มืออาจพองได้ (ในรูปไม่เห็น เหล็กค้ำนี้จะอยู่ทางซ้ายมือเมื่อหันหน้าเข้าหารถ โดยมันจะเหน็บอยู่เหนือหม้อน้ำมันเบรค (ฝาเหลืองๆ นั่นแหละครับ) ในรูปจะเห็นจุดหมุนตรงโคนก้านอยู่เหนือฝาหม้อน้ำฉีดล้างกระจก ฝาสีฟ้าทางซ้ายมือครับ) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:11:01

ความคิดเห็นที่ 18 ด้วยเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ ทำให้จังหวะการหมุนนั้นเรียบลื่นกว่าแบบ 4 สูบอยู่แล้ว เมื่อมี Balanch Shaft ซึ่งหมุนในทิศทางตรงกันข้าม หักล้างแรงเหวี่ยงของแคมชาร์ฟ ก็ยิ่งทำให้ยิ่งเรียบและเงียบเข้าไปใหญ่ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:12:09

ความคิดเห็นที่ 19 มุดดูใต้ท้องกันหน่อย ที่เห็นนี้คือ Air Suspension ของช่วงล่างด้านหลังครับ ไม่มีโช้คอัพ ไม่มีคอยล์สปริง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:13:09

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพนี้เป็นช่วงล่างด้านหลัง จะเห็นเพลาขับอันใหญ่ ยาวเหยียดจากหน้ามาหลัง โดยช่วงกลางรถจะมีแขนประคองเฟืองท้ายอยู่ ส่วนที่เห็นด้านใกล้ๆ (ทางขวาของภาพ) ก็คือ Trailing Arm ของล้อหลัง ลองสังเกตความหนาของเหล็กแต่ละชิ้นนะครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:14:34

ความคิดเห็นที่ 21 มือจับประตู เป็นสีเดียวกับตัวรถ อันนี้เป็น option ที่โชว์รูมที่ผมซื้อเขาแถมมาให้ครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:15:38

ความคิดเห็นที่ 22 รางประตูเลื่อนไฟฟ้าทั้ง 2 ข้างเก็บรางค่อนข้างมิดชิด จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:16:17

ความคิดเห็นที่ 23 การออกแบบให้กระจกข้างอยู่เกือบจะเป็นระนาบเดียวกับตัวถังรถ (ขอบกระจกบาง) ส่งผลให้ลมไหลลื่น ช่วยลดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:17:08

ความคิดเห็นที่ 24 ก่อนก้าวขึ้นรถ เรามาดูบันไดรถกัน ผมว่าบันไดมันอยู่สูงไปหน่อย และระดับบันไดก็ไม่ต่างจากพื้นรถ ทำให้ประโยชน์ ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่ การก้าวขึ้นรถ ไม่มีมือจับให้โหนตัวขึ้น แต่เนื่องจากตัวรถไม่สูงจากพื้นนัก ก็ก้าวขึ้นเองไม่ยากครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:18:03

ความคิดเห็นที่ 25 เรามาดูการปรับเบาะของเบาะหน้ากัน ก็มี 3 เรื่องคือ ปรับเอน เป็นปุ่มหมุนอันใหญ่อยู่ค่อนไปด้านหลัง ปรับความเอียง (ความสูง-ต่ำของปลายเบาะด้านหน้า) เป็นปุ่มหมุนอันใหญ่อยู่ค่อนไปทางด้านหน้า ก้านโยก สำหรับปรับความสูง-ต่ำของเบาะ ซึ่งพบว่าปรับได้ไม่ยาก แม้ว่าตัวเราจะนั่งอยู่บนเบาะแล้วก็ตาม จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:19:19

ความคิดเห็นที่ 26 เบาะกลาง ค่อนข้างเล็ก นั่งไม่สะดวกหรอกครับ ขาจะติดคอนโซลเกียร์ด้วย ทำไว้เพียงเพื่อแค่ให้ครบ 11 ที่นั่ง พับพนักพิงลงมาเป็นที่วางของดีกว่า จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:20:19

ความคิดเห็นที่ 27 ใต้เบาะกลาง วางแอมป์ไว้ที่นี่ 2 ตัว จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:20:59

ความคิดเห็นที่ 28 คันเร่งเป็นแบบไฟฟ้า (ไม่มีสายคันเร่ง) ซึ่งทำงานร่วมกับสมองกล พบว่ามันให้ความรู้สึกดีมากเลยครับ ผมจะเล่าให้ฟังอีกทีตอนที่รีวิวทดสอบการขับขี่ แป้นเบรค ผมว่าอยู่สูงไปนิด ทำให้ต้องยกปลายเท้าสูงๆ เพื่อเปลี่ยนจากคันเร่งมาเหยียบเบรค อีกอย่าง..ลักษณะการนั่งขับรถตู้ เราจะนั่งอยู่สูง หน้าแข้งจะตั้งชัน ปลายเท้าจะไม่เหยียดไปข้างหน้าเหมือนการขับรถเก๋ง ทำให้เวลากระดกเท้าขึ้นมาเหยียบเบรค เหมือนจะหดปลายเท้าเข้ามาไม่ได้มาก (ลองทำดูครับ) ก็เลยรู้สึกว่าแป้นเบรคมันสูงไปหน่อย อันนี้ต้องปรับตัวเอา ส่วนแป้นเล็กๆ ทางซ้ายสุด (ตัวอักษรบังอยู่พอดี) อยู่ติดกับคอนโซลกลาง เป็นเบรคมือ (แต่ใช้เท้าเหยียบ) เวลาจะปลดล๊อก จะใช้วิธีดึงมือจับที่อยู่ทางขวาเหนือคันเร่ง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:22:34

ความคิดเห็นที่ 29 เปิดประตูคนขับ จะเห็นช่องเสียบกุญแจ สวิทช์ไฟหน้า ซึ่งเปิดได้แบบ ไฟหรี่ ไฟหน้าปรกติ Auto (เปิดเองเมื่อเข้าที่มืด) เปิดเฉพาะฝั่งซ้าย หรือขวา (สำหรับเวลาจอดขอบทางในที่มืด เราสามารถเปิดไฟหน้าและหลัง ในด้านที่ยื่นออกมาบนถนนได้ เพื่อความปลอดภัย) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:24:33

ความคิดเห็นที่ 30 ด้านบนของแผงประตูคนขับ มีแผงสวิทช์ดังนี้ ปุ่มปรับกระจกมองข้าง ก้ม-เงย เข้า-ออก สวิทช์เลือกปรับกระจกมองข้าง ซ้ายหรือขวา ถ้าเลือกตรงกลาง ปุ่มปรับกระจกมองข้างจะใช้ "หุบ/กาง" กระจกมองข้างทั้ง 2 พร้อมๆ กัน โดยไม่มีระบบ หุบหูอัตโนมัติเมื่อล๊อกรถ ต้องกดเอาเอง สวิทช์กระจกไฟฟ้าของห้องโดยสารตอนหน้า สวิทช์กระจกไฟฟ้าของห้องโดยสารตอนหลัง โดยที่กระจกคู่หลังสุดจะกางออกได้ประมาณ 5 ซ.ม. (เหมือนหูช้าง) เอาไว้ระบายอากาศในรถ สวิทช์ล๊อกไม่ให้กระจกไฟฟ้าทำงาน จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:26:00

ความคิดเห็นที่ 31 จากการใช้งาน พบว่าแผงสวิทช์นี้อยู่ใกล้กระจกไปหน่อย เวลาเอากระจกขึ้น บางทีมือเราพาดอยู่บนแนวกระจก กระจกจะ เลื่อนขึ้นมาโดนมือเรา ตกใจเล็กน้อย จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:26:43

ความคิดเห็นที่ 32 พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน โดย 2 ก้านล่างมีโครเมี่ยม (ไม่เงา) ครอบอยู่ ดูหรูหราขึ้นอีกนิด จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:27:21

ความคิดเห็นที่ 33 หน้าปัทม์ สไตล์เบนซ์คือเรียบๆ โดยสัญญลักษณ์ไฟเตือนต่างๆ จะติดขึ้นมาเฉพาะยามจำเป็นเท่านั้น ระหว่างนั้นเราจะไม่เห็น แม้แต่เงาหรือเหลือบแสงของมัน ทำให้ดูไม่รกตา ไม่รบกวนสมาธิผู้ขับขี่ สิ่งหนึ่งที่เซอร์ไพรส์ผมมากๆ ก็คือ เกจ์วัดความเร็วมันเป็นแบบ Mile per Hour ... พระเจ้า ผมถามโชว์รูม เขาบอกว่า รถนำเข้าจากอังกฤษ เพราะศูนย์กลางรถพวงพาลัยขวาอยู่ที่อังกฤษ ก็เลยมาเป็นแบบนี้ ตอนที่ซื้อ..ผมเองก็ไม่ได้สังเกต และไม่ได้ดูของอีกค่ายหนึ่งด้วยว่าเป็นเหมือนกันหรือเปล่า แต่ก็เอาเถอะ เรามาไกลถึงขั้นนี้แล้ว โชคดีที่จอคอมพิวเตอร์ตรงกลาง สามารถเลือก option ให้แสดงความเร็วรถเป็น km/h ได้ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:29:22

ความคิดเห็นที่ 34 แผงบังแดด ธรรมดามากๆ ทั้ง 2 ข้างเหมือนกันคือ มีกระจกส่องหน้า มีไฟแสงสว่างดวงเล็กๆ อยู่ข้างบน และมีแถบคาดใสๆ เอาไว้สำหรับเหน็บเอกสารเช่น บัตรจอดรถ ฯลฯ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:30:23

ความคิดเห็นที่ 35 ผมคิดว่าคุณภาพการประกอบ ยังไม่ดีเท่าที่ควร เทียบกับรถ Class อื่นของเบนซ์ไม่ได้ ก็อย่างว่า..นี่มันคือรถโดยสาร และรถบรรทุกของต่างประเทศเขาครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:32:40

ความคิดเห็นที่ 36 ตามรอยต่อ ยังเก็บไม่ค่อยเนียน วัสดุก็แข็งๆ (ไม่ถึงกับหลอกด้วยพลาสติกครับ ยังพอนุ่มๆ อยู่บ้างด้วยโฟมโพลียูรีเทนข้างใน) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:33:37

ความคิดเห็นที่ 37 ซันรูฟบานแรก อยู่เหนือคนขับ อ้อ..สังเกตว่าเหนือประตูคนขับไม่มีราวโหนครับ ไม่รู้จะประหยัดไปทำไม ทั้งๆ ที่ข้างซ้ายก็มี จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:34:37

ความคิดเห็นที่ 38 ซันรูฟในห้องโดยสารด้านหลัง บานหน้าเลื่อนเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าได้ (สวิทช์สีดำๆ อยู่ตรงกลาง) ส่วนบานหลังเป็นแบบติดตาย สภาพแสงที่เห็นนี่ เป็นวันที่แดดจ้า (แต่ไม่ใช่แดดส่อง) มองขึ้นไปผ่านฟิล์ม V-Kool VK-40 และกระจก Privacy Glass แล้ว เห็นความสว่างประมาณนี้ ประโยชน์ของ Sun Roof ช่วยให้ในห้องโดยสารมีแสงสว่างธรรมชาติ ทำให้ดูโอ่โถงกว้างขวาง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:36:02

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ต้องกลัวความร้อน เพราะฟิล์ม V-Kool กับกระจก Privacy Glass ช่วยได้เยอะ ถ้ายังไม่พอก็เลื่อนม่านบังแดดมาปิดได้อีก จะทึบประมาณนี้ (ซันรูฟของคนขับก็มีม่านนี้เหมือนกันครับ) ภาพนี้ถ่ายในสภาพแสงเดียวกันกับภาพก่อนหน้านี้เลย จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:37:12

ความคิดเห็นที่ 40 แผงคอนโซลกลาง (ขออภัยที่ไม่ได้ทำความสะอาดก่อนถ่ายรูปครับ) คนขับสามารถเปิด-ปิดประตูเลื่อนไฟฟ้าทั้งสองข้างได้จากตรงนี้ นอกจากนั้นก็เป็นปุ่ม Central Lock ของรถ เลือกได้ว่าจะล๊อกทั้งคัน หรือล๊อกเฉพาะประตูเลื่อน มีปุ่มเปิดไฟแสงสว่างในห้องโดยสารด้านหลัง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:38:02

ความคิดเห็นที่ 41 ระบบแอร์ด้านหน้าเป็นแบบ THERMOTRONIC ซึ่งพัฒนาต่อมาจาก TEMPMATIC จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:38:47

ความคิดเห็นที่ 42 แอร์ของห้องโดยสารด้านหลัง เป็นแบบ TEMPMATIC โดยมีแผงควบคุมอยู่บนเพดาน เหนือกระจกมองหลัง ผมพบว่าแอร์ด้านหลังนี่เย็นไม่ค่อยทันใจ และเย็นไม่ฉ่ำเหมือนรถเก๋ง เมื่อรถวิ่งออกไปแล้วก็จะเย็นได้ที่ (เพราะเครื่องยนต์ช่วยหมุน compressor) เท่าที่ถามๆ มา รถตู้ยุโรปมักเป็นแบบนี้ บนแผงเดียวกัน ยังเป็นแผงสวิทช์ไฟเก๋ง ไฟอ่านหนังสือ กล่องเก็บแว่น และสวิทช์เปิด-ปิดซันรูฟทั้ง 2 บาน (ซันรูฟ สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ 2 บาน ส่วนบานหลังสุดเป็นแบบติดตาย) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:40:48

ความคิดเห็นที่ 43 มองเลื่อนมาข้างหน้าอีกหน่อย เป็นกระจกมองหลัง และลวดลายกันแดดของกระจกหน้า พูดถึงกระจกหลังหน่อย ผมเองเพิ่งเคยขับรถตู้ เพิ่งได้รู้ว่ากระจกหลังนี่แทบไม่มีประโยชน์เลย เพราะมองไม่เห็น (กระจกหลังอยู่สูง) แถมยังมีเบาะหลังอันใหญ่พนักพิงสูงๆ บังกระจกหลังเกือบมิด นี่ถ้าไม่ได้กล้องมองเวลาถอยหลังด้วยแล้ว หละก็..เสร็จเลย ดังนั้น..เวลาจะซื้ออย่าลืมเรียกหากล้องมองหลังนะครับ อ้อ..พูดให้ครบ ในเรื่องการถอย ในการขับรถตู้ ผมต้องปรับตัวให้หัดถอยหลังโดยดู 3 อย่างคือ กระจกซ้าย กระจกขวา กล้อง สลับกันดูไปมา พร้อมกับฟังเสียง Parktronic เวลาใกล้สุด จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:42:22

ความคิดเห็นที่ 44 ไหนๆ ก็พูดเรื่องถอยหลังแล้ว ก็เลยเอารูปบนจอ COMAND เวลาเข้าเกียร์ถอยหลังมาให้ดูซะเลย เส้นสีเหลืองจะช่วยเรากะระยะ โดยเส้นข้างจะบอกถึงแนวรถที่กำลังถอยไป เส้นแนวนอนอันไกลสุดคือระยะ 2 เมตร ถัดเข้ามาเป็นเส้น 1 เมตร และเส้นใกล้ๆ คือ 25 ซ.ม. ครับ มุมกล้องนั้นกดได้ต่ำมาก จะเห็นสีแดงๆ ที่ขอบล่างของภาพนั่นคือป้ายทะเบียน แถบโค้งๆ สีขาวถัดขึ้นมาคือกันชนรถครับ หลังจากทำความคุ้นเคยสักพักแล้ว ก็พบว่ามันช่วยได้มากเลย จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:44:24

ความคิดเห็นที่ 45 ง่วงจัง..พรุ่งนี้มาต่อให้นะครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:47:41

ความคิดเห็นที่ 46 จอ COMAND ในเวลาปรกติ สามารถตั้งเป็นนาฬิกาก็ได้ เป็นแผนที่นำทางก็ได้ อย่างที่เห็นในภาพ ในแผนที่จะมีสัญญลักษณ์ บอกที่ตั้งปั๊มน้ำมัน สถานพยาบาล และศูนย์บริการเมอร์เซเดสเบนซ์ ผมว่านี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน เรื่องปั๊มน้ำมัน เท่าที่เห็นจะเป็น Shell, Esso, Caltex ครับ ถ้าเป็นปั๊ม ปตท., บางจาก, Petronas จะขึ้นเป็นสัญญลักษณ์ ตู้เติมน้ำมันแทน (บางครั้งก็ไม่มีแสดงด้วย คงตกหล่นจากฐานข้อมูลไป) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:55:33

ความคิดเห็นที่ 47 มาดูการตกแต่งภายในกันบ้าง การเปิดประตูบานเลื่อนทำได้โดยดึงมือจับด้านนอกตัวรถ ส่วนการเปิด-ปิดจากข้างในก็ใช้สวิทช์สีแดงตัวนี้ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:56:19

ความคิดเห็นที่ 48 Hilight อย่างหนึ่งก็คือเบาะโซฟาคู่หน้า สามารถปรับเอนนอนได้ มีที่พักน่องกางออกมาได้ ส่วนที่พิงศีรษะ จะเห็นว่าปรับสูง-ต่ำได้ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:57:15

ความคิดเห็นที่ 49 ข้างเบาะขวา จะมีที่วางแก้วน้ำ/สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เมื่อกางออกมา (รูปนี้ยังไม่กาง) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:58:18

ความคิดเห็นที่ 50 รูปนี้กางแล้ว จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 00:58:46

ความคิดเห็นที่ 51 เบาะเล็กคู่หน้า (อุตส่าห์มีเข็มขัดนิรภัยกับเค้าด้วย) ทำไว้ให้ครบ 11 ที่นั่ง เวลาตรวจสภาพ/ต่อทะเบียนจะได้ไม่มีปัญหา ตรงกับการจดทะเบียนแบบป้ายฟ้า สำหรับร้านตกแต่งรถตู้ร้านนี้ ผมว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้คนนั่งตรงนี้สักเท่าไหร่ เพราะกล่องลำโพงยื่นออกมา ทำให้พิงได้ไม่สุด และถึงแม้เบาะเล็กจะยื่นออกมาได้ด้วยสวิทช์ไฟฟ้า แต่มันก็บอบบาง เกินกว่าจะไปนั่ง ผมก็เลยเอาไว้วางเท้า กับวางของ ซะแทน จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:00:36

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพคอนโซลแบบเต็มๆ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:01:15

ความคิดเห็นที่ 53 เลื่อน TV ขึ้นมา (ด้วยสวิทช์สีน้ำเงินด้านล่างซ้าย) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:01:53

ความคิดเห็นที่ 54 กระจกกั้นระหว่างห้องคนขับกับห้องโดยสารตอนหลัง มีสวิทช์บังคับอยู่ที่แผงคอนโซล และที่เสาด้านขวาหลังคนขับ อ้อ..ในภาพจะเห็นมือจับเวลาก้าวขึ้น-ลงรถครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:02:28

ความคิดเห็นที่ 55 เบาะหลังสุด ตัวเบาะนั่งเป็นแบบเรียบ เพื่อความยืดหยุ่นในการจัดที่นั่ง จะนั่ง 2 หรือ 3 คนก็ยังได้ แต่มีเข็มขัดนิรภัยไว้ 4 ชุด เพื่อให้ครบ 11 ที่นั่งครับ (คนขับ + เบาะกลาง + ผู้โดยสารตอนหน้า + เบาะเล็ก x 2 + โซฟา x 2 + เบาะแถวหลังมีเข็มขัดนิรภัย 4 ชุด) พนักพิง แบ่งเป็น 2 ตอน ปรับเอนได้อิสระจากกัน ลักษณะเบาะจะโค้งๆ งุ้มๆ หน่อย ถ้านั่ง 2 คนซ้าย-ขวา จะสบายมาก กว้างโคตร (ไม่ต้องห่วง จุดยึดเข็มขัดนิรภัยตรงกลางเบาะไม่ตำก้นครับ) แต่ถ้านั่ง 3 คน คนกลางจะพิงไม่ค่อยสะดวก จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:04:03

ความคิดเห็นที่ 56 แม้จะเลื่อนเบาะหลังขึ้นมาสักนิด (เพื่อกันพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง) คนนั่งหลังก็ยังมี Leg room สบายๆ ใต้เบาะโซฟาข้างหน้ายังเป็นช่องว่างให้สอดเท้าเข้าไปได้ อันนี้เป็นประสบการณ์เลยนะครับ ผมเคยไปดูการตกแต่งรุ่นเก่าๆ ฐานเก้าอี้โซฟาเขาทำแบบตีกล่องทึบ สอดเท้าเข้าไปไม่ได้ ทำให้คนนั่งหลังไม่สามารถยืดขาไปข้างหน้าได้ นั่งนานๆ แล้วเมื่อยครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:05:22

ความคิดเห็นที่ 57 อีกมุมหนึ่งของคนนั่งหลัง มีที่วางแขนอยู่ข้างๆ (อยู่สูงไปหน่อย) สังเกตเห็นกระจกไหมครับ ที่ผมว่าติดฟิล์ม VK-30 แล้วมันมืดไปหน่อย จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:06:02

ความคิดเห็นที่ 58 สำหรับคนนั่งหลัง จะมีช่องฝาเปิดได้ 3 ฝาที่ด้านข้างตัวรถ แต่มันอยู่ตำแหน่งค่อนไปทางเบาะโซฟาไปหน่อย จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:07:54

ความคิดเห็นที่ 59 เปิดออกมาจะเป็นดังนี้ ที่วางแก้วน้ำ ที่เขี่ยบุหรี่ ว่างๆ ไม่มีฟังก์ชั่น เหมือนจะเอาไว้วางคานพาดในกรณีที่บรรทุกของด้านหลัง จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:10:25

ความคิดเห็นที่ 60 รูปนี้ตั้งใจให้เห็นว่า แผงกระจกกั้นระหว่างห้องคนขับกับห้องโดยสารตอนหลัง วางแนวถอยหลังไปประมาณ 6 นิ้ว เพื่อให้ที่นั่งด้านหน้าสามารถถอย หรือเอนไปได้อย่างสะดวก จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:11:11

ความคิดเห็นที่ 61 มาดูด้านหลังกันบ้าง มือจับสำหรับเปิดประตูหลังอยู่ใต้ป้ายทะเบียน เวลาเปิด มันจะไม่เด้งออกมา ทำให้นึกว่าเปิดไม่ออก เวลาจะงัดบานประตูออกมา ไม่มีที่ให้จับดึงจากข้างนอก ต้องดึงที่มือจับนั่นแหละ ผมหละกลัวมันหักจริงๆ แต่พอดึงออกมาได้สัก 30 ซ.ม. แล้ว โช้คก็ทำงาน ช่วยดีดบานเปิดขึ้นได้อย่างเบาแรง แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 22:47:28 แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 22:45:57 จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:11:52

ความคิดเห็นที่ 62 เวลาจะปิด ก็มีห่วงที่ทำด้วยไวนิลไว้ให้ มันเกะกะอยู่อย่างนั้นนะครับ ไม่หดกลับ ไม่มีที่รัดเก็บ ห่วงนี้จะมีอันเดียวอยู่ทางขวาของตัวรถ (เมื่อมองจากด้านนอก) อีกทางเลือกหนึ่งคือดึงตรงช่องที่เขาทำเว้าไว้ให้ ที่บานประตู แบบนี้มีทั้ง 2 ข้างครับ เวลาดึง ช่วงแรกจะหนักนิดหน่อย พอถึงจุด 30 ซ.ม. ก่อนปิด มันจะงับเข้าไปเองอย่างง่ายดาย ปั๊ป..ทีเดียวแน่น..ไม่ต้องลุ้นครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:13:02

ความคิดเห็นที่ 63 ตรงกลางบานประตู จะมีที่เปิดประตูหลังจากภายใน พร้อมทั้งกลไกล๊อกจากข้างใน จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:13:46

ความคิดเห็นที่ 64 มองด้านหลัง จะเห็นว่ามีพื้นที่เก็บสัมภาระพอสมควร อันนี้เบาะหลังอยู่ในตำแหน่งเดิมตอนที่ผมถ่ายภาพ Leg room ของคนนั่งหลังนะครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:14:28

ความคิดเห็นที่ 65 เนื่องจากยางอะไหล่อยู่ใต้ท้องรถด้านหลัง เพื่อความสะดวกในการเอายางอะไหล่ออกมา เขาจึงออกแบบให้สามารถยกตัวรถขึ้นได้ (ด้วยความช่วยเหลือของระบบ Air Suspension) จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:15:58

ความคิดเห็นที่ 66 นี่คือภาพถุงลม ที่ยืดขึ้นสุด สังเกตเห็นเพลาขับ จากเดิมอยู่แนวนอน เปลี่ยนเป็นเอียงลง และลักษณะถุงลมที่ผอมสูงขึ้น จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:17:12

ความคิดเห็นที่ 67 ภาพเปรียบเทียบเวลาที่ยกท้ายรถขึ้นสูงสุด กับเวลาปรกติ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:18:03

ความคิดเห็นที่ 68 หลังจากที่สำรวจตัวรถกันทั่วแล้ว เดี๋ยวผมจะพาไปทดลองขับครับ เราจะมาดูกันว่า feeling เวลาทดลองขับ Mercedes Benz Vito 122 CDI นี่มันเป็นยังไงกันบ้าง คอยพบกับบทความถัดไปครับ ระหว่างนี้ แนะนำให้แวะเยี่ยมชม Blog เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ของผมก่อนครับ >>> http://thaimlmcenter.com/blog แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 22:59:07 แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 22:57:47 จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 01:18:54

ความคิดเห็นที่ 69 เยี่ยมเลยค่ะ ขอเก็บข้อมูลต่อ อิอิ จากคุณ : Blackforest26 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 02:16:04

ความคิดเห็นที่ 70 ครอบครัวเบนซ์จริงๆ รีวิวแบบนี้ทำการบ้านมาพอสมควรนะครับเนี่ย จากคุณ : เจ้าพ่อไม้โครง (etaaui) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 02:17:04

ความคิดเห็นที่ 71 ถุงลม น่าจะนุ่มสบายดีนะครับ จากคุณ : จักรขวด เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 05:44:55

ความคิดเห็นที่ 72 ละเอียดมากครับ เยี่ยมเลย จากคุณ : oven เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 05:45:41

ความคิดเห็นที่ 73 ตอบคุณ Blackforest26 -- จะพยายามเขียนต่อ ตอนที่ 4 คืนนี้ครับ (การขับขี่) คุณจักรขวด -- นุ่มดีครับ แต่ไม่ใช่ว่าประทับใจสุดยอดครับ จะรอดูระยะยาวด้วยว่ามันจะมีปัญหาเหมือนอย่างที่หลายท่ายเคยเจอกันมาหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 23:00:21 จากคุณ : thaitanaka (thaitanaka) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 07:49:40

ความคิดเห็นที่ 74 ละเอียดดีครับ เดี๋ยวย้อนไปอ่านตอนก่อนแล้วรออ่านตอนใหม่ จากคุณ : JIRATH เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 08:09:58

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณครับ รถน่าใช้มากเลย จริงๆแล้วผมเคยมอง Vito ไว้ แต่ภรรยาอยากได้ Alphard ก็เลยพลาดโอกาสไปครับ จากคุณ : tumm12 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 08:27:24

ความคิดเห็นที่ 76 หรูหรามาก ชอบตรง air suspensor นี่แหละ เมื่อไหร่จะทำชาใช้เยอะๆ น๊อ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 10:10:24

ความคิดเห็นที่ 77 มีบัตรเข้าสวนจิตรลดาด้วย อิอิ จากคุณ : เขม่า เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 10:20:30

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณครับ รายละเอียดดีมากครับ จากคุณ : ตังชัย เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 10:26:55

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากครับ รีวิวดีมากๆ จากคุณ : DeMoN06 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 10:32:15

ความคิดเห็นที่ 80 แจ่มครับ ละเอียดมากครับ :) จากคุณ : AMIYAMA เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 10:40:33

ความคิดเห็นที่ 81 ต้วของ gray รู้สึกจะไฟไม่ใช่ ซีนอนนะครับ และระวังคอยดูเรื่องน้ำมันหน่อยก็ดีครับ ตอนนี้เติมบางจากไปก่อนก็ได้ครับ เพราะตอนนี้เป็น เครื่อง euro 5 หมดแล้ว ครับ รู้สีกหัวฉีดตัวนี้เป็น 2000 บาร์แล้วนะครับ จากคุณ : gt3 เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 11:14:54

ความคิดเห็นที่ 82 รถสวยมากเลยครับ sun roof มองจากภายในแล้วช่วยผ่อนคลายได้เยอะเลย น่านั่งมากเลยครับ จากคุณ : via Android เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 11:46:45

ความคิดเห็นที่ 83 นี่มันรถขนของ บรรทุกคน เอามาทำเป็น รถนั่ง หลีกภาษี 7 คน ทำเป็น 11 ที่นั่งอีกต่างหาก ข้างใน ภายนอก ระบบต่างๆ ยังห่างกะ Alphard เยอะแยะมาก พวกตู้ที่ทำมาก็ยังกะพวกรถตู้ดูไม่สวยเลย ไฟข้างในห้องโดยสารห่างไกลกะ alphard มหาศาล ที่เป็น dimmer แบบเครื่องบิน สวิทเปิดประตูแยกต่างหากแบบนี้ไม่สะดวกเลย ของ alphard เปิดได้ที่คนขับ หรือ กดเปิดประตูเองก็ได้ ดีกว่า alphard อย่างเดียวคือ เครื่องยนต์ นอกนั้น ตกหมดครับ ไปลองดูเองละกันถ้าไม่เชื่อผม จากคุณ : ฟาง เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 12:48:37 A:203.148.187.139 X: TicketID:289572

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณสำหรับรีวิวอย่างละเอียดครับ อยากได้ข้อมูลการใช้จานดาวเทียมอ่ะครับ ใช้ดีไหม ผมติดฟรีทีวี รายการของช่องสาม กะไทย พีบีเอส ไม่ทราบการใช้งานเป็นอย่างไร ในตัวเมือง บนทางด่วน (วิ่งเร็ว ๆ) ชานเมือง ขอรายละเอียดด้วยนะครับ ขอบคุณมากมายครับ จากคุณ : สุกรสยาม เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 19:38:59

ความคิดเห็นที่ 85 กระทู้สุดยอดของสุดยอด ละเอียดมาก เห็นแล้วทึ่ง จากคุณ : armkaa เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 20:15:40

ความคิดเห็นที่ 86 ขอบคุณจขกท มากครับรายละเอียดดี ถ่ายรูปชัด ไม่ค่อยเห็นด้วยกับรถดีเซล ทีหลีกเลียงการจดเพื่อเป็น 11 ที่นั่งแบบนี้ หักเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้เต็มอีกตางหาก ถ้าดูในฐานะผู้ใช้ก็คุ้มมากๆ (ควรซื้อเลยแหละ) แต่รัฐตรวจสอบบริษัทเบนซ์หน่อยก็ดีนะ 555 จากคุณ : E-Boat เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:22:08

ความคิดเห็นที่ 87 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก คห.83 คุณฟางครับ เรื่องภาษี มันคงเป็นช่องว่างทางกฏหมายที่การเก็บภาษีนำเข้าและการจดทะเบียนรถกับกรมขนส่ง มีรอยต่อช่วงที่เป็นป้ายแดง และเป็นเรื่องของ 2 หน่วยงานราชการที่ทำงานแยกกัน และไม่ cross-check กันบนรถคันเดียวกัน ตอนที่นำเข้าก็ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้องตามพิกัดของสภาพรถที่นำเข้ามา ในขณะที่ตอนจดทะเบียนก็ต้องผ่านการตรวจสภาพ และสภาพต้องถูกต้องตามประเภทรถที่จะจดทะเบียน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือผู้นำเข้าทำให้ถูกกฏหมายทั้ง 2 ขั้นตอน ก็เป็น trick ในการทำให้ทั้งถูกกฏหมาย และทำราคาให้อยู่ในระดับที่ขายได้ครับ เรื่องไฟในห้องโดยสาร รุ่นนี้เป็นแบบ Dimmer แล้วครับ ไฟจะค่อยๆ dim เวลาดับ และมีการเรืองแสงในยามกลางคืน ส่วนเรื่องสวิทช์เปิด-ปิดประตูเลื่อน รุ่นนี้สามารถสั่งเปิด-ปิดได้จากคนขับด้วยครับ เรื่องระบบต่างๆ ผมคิดว่าอยู่ที่ใครจะเน้นตรงไหนสำคัญ ผมคิดว่า Alphard ทำได้ดีกว่ามากในเรื่องของ Gadget, อุปกรณ์อำนวยความสะดวก, ระบบเครื่องยนต์ที่ไม่เป็นรองใคร และการที่อุปกรณ์/คอนโซลต่างๆ ผลิตจากสายการผลิดโรงงาน ก็คงสวยงามและได้มาตรฐานแน่นอนครับ ในขณะที่เมอร์เซเดสเบนซ์เป็นผู้นำในเรื่องของระบบความปลอดภัย ความบึกบึนแข็งแรงของรถเยอรมัน และการใส่ใจใน รายละเอียดต่างๆ ของระบบ ผมใช้เบนซ์อยู่หลายคัน เห็นชัดเจนครับ ตอนแรกคนรถผมก็เชียร์อัลพาร์ท ภรรยาผมก็ชอบอัลพาร์ท ผมเองก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่พอไปดูตัวจริงแล้ว สิ่งที่บังเอิญว่า ไม่ตอบโจทย์ของเราคือที่นั่งแถวหลัง นั่ง 3 คนค่อนข้างลำบาก (เพราะด้วยดีไซน์ของเบาะ), ความรู้สึกการนั่งภายในรถ ยังให้ความรู้สึกคล้ายรถเก๋ง และความโอ่โถงกว้างขวางของห้องโดยสารน้อยไปหน่อย จึงจำเป็นต้องตัด choice นี้ออก แต่อย่างอื่นดีหมดครับ ตอบคุณ E-Boat -- คุณคงมีความรู้เรื่องการ manage ค่าใช้จ่ายและภาษีเป็นอย่างดี ถูกต้องแล้วครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:51:32

ความคิดเห็นที่ 88 ตอบคุณสุกรสยาม -- เรื่องจานดาวเทียม ผมไม่เคยเปรียบเทียบกับจานรับยี่ห้ออื่น ก็เลยคงจะวิจารณ์ยากหน่อยครับ แต่ยี่ห้อ SaTView ที่ทางโชว์รูมเขาติดให้ผม เวลาวิ่งๆ ไปในเมือง ก็มีภาพหลุดบ้างเหมือนกันครับ หายไป 1 วินาทีแล้วกลับมา - ถ้าลอดใต้สะพานลอยข้ามแยก ภาพหลุดแน่นอน - ถ้ามีตึกสูงบัง ก็หลุดบ่อย - แต่ถ้าวิ่งบนทางด่วนโล่งๆ ไม่มีปัญหาครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:59:59

ความคิดเห็นที่ 89 กระทู้ถัดไป ผมจะเขียนถึงความรู้สึกที่ได้รับจากการขับขี่รถรุ่นนี้ แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 55 22:43:52 จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 23:24:30

ความคิดเห็นที่ 90 ติดตามอ่านได้ที่นี่ครับ  >>>  ทดสอบ ทดลองขับ User Review ความเห็นผู้ใช้งาน Mercedes Benz Vito 122 CDI 2012 รถตู้หรูเมอร์เซเดสเบนซ์วีโต้ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 23:26:43

ความคิดเห็นที่ 91 สวยครับ สวยงามมาก ทำการบ้าน กับ Review นี้มาเป็นอย่างดี อ่านง่าย เหมาะสำหรับเป็น Mercedes Family จริงๆครับ จากคุณ : O a T (oatsutee) เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 23:29:40

ความคิดเห็นที่ 92 ความคิดเห็นที่ 86 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ขอบคุณจขกท มากครับรายละเอียดดี ถ่ายรูปชัด ไม่ค่อยเห็นด้วยกับรถดีเซล ทีหลีกเลียงการจดเพื่อเป็น 11 ที่นั่งแบบนี้ หักเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้เต็มอีกตางหาก ถ้าดูในฐานะผู้ใช้ก็คุ้มมากๆ (ควรซื้อเลยแหละ) แต่รัฐตรวจสอบบริษัทเบนซ์หน่อยก็ดีนะ 555 จากคุณ : E-Boat [Bloggang] เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:22:08 [แก้ไข] ^ ^ รบกวนสอบถามเพิ่มครับ สงสัยว่า รถราคา ประมาน 3 ล้านแบบนี้แม้จะเป็นดีเซล 11ที่นั่ง-ป้ายฟ้า มันจะหักค่าใช้จ่ายบริษัทได้เต็มได้ยังไงอะ เพราะเท่าที่ทราบ รถเก๋ง 4-5ที่นั่ง , Alphard 6-7ที่นั่งเครื่องเบนซิน จะหักได้แค่ค่าเสื่อมปีละ2แสน ได้5ปี รวม 1ล้านบาท Hyundai H-1 เครื่องดีเซล 11ที่นั่ง ราคา 1.ล้านกว่ายัน 1.8ล้าน มันก็หักได้แค่ 1 ล้านไม่ใช่หรือครับ หรือว่าผมเข้าใจผิด จากคุณ : นะโมตัสสะ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 00:25:48 A:101.108.168.251 X: TicketID:347736

ความคิดเห็นที่ 93 ถามเพิ่มอีกนน่อยครับ ถ้าเป็นรถ 11 ที่นั่ง เครื่องเบนซิน ราคา 3ล้าน จะหักได้เต็มหรือไม่ครับ จากคุณ : นะโมตัสสะ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 00:29:04 A:101.108.168.251 X: TicketID:347736

ความคิดเห็นที่ 94 ตอบ คห.92, 93 -- เท่าที่ผมเคยคุยกับฝ่ายบัญชี ความแตกต่างอยู่จดทะเบียนเป็น 11 ที่นั่ง (ป้ายฟ้า) คิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับเบนซิน/ดีเซลครับ ถ้าเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 7 ที่นั่ง จะบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายได้ 1 ล้านบาท เมื่อบันทึกเป็นค่าใช้จ่าย กำไรก็ลดลง ก็เสียภาษีน้อยลง แต่ส่วนที่เกิน 1 ล้านบันทึกไม่ได้ ก็เลยไม่ได้รับสิทธิทางภาษี ในขณะที่รถส่วนบุคคล 11 ที่นั่ง ทางบริษัทสามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้เต็มจำนวน ทำให้ใช้สิทธิทางภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ ผิด/ถูกอย่างไร ท่านที่มีความรู้ในทางบัญชีรบกวนเข้ามาเติมเต็มด้วยนะครับ จากคุณ : thaitanaka เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 01:47:58

ความคิดเห็นที่ 95 ตอบ ต้องเป็นป้ายฟ้าครับ ถ้ารถผู้บริหารป้ายดำ หักได้เต็มที่ 1 ล้าน ไม่ต้องคิดมากครับ บริษัทส่วนใหญ่มันมีอะไรให้หักเยอะจนเกินลิมิตอยู่แล้ว ถ้าจะหักให้พอดีๆ ก็ต้องคุยกับฝ่ายบัญชีด้วย เดียวซื้อไป 3m หักได้แค่ 1m --------------------------------------- แต่รถพวกนี้มันรถใช้งานครับ รับส่งพนักงาน รับแขก ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้จริงๆ แต่พวกรถช่วงสั้น แต่ยัดเบาะไว้เยอะๆ ผมว่าบริษัทรถทำไม่ถูก จากคุณ : E-Boat เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 16:54:05