Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
FORTUNER & PAJERO SPORT (ข้อมูลเปรียบเทียบ) ติดต่อทีมงาน

พอดีผมหาข้อมูลเปรียบเทียบ(ฟอร์จูนเนอร์&ปาเจโร่สปอร์ต)รถสองรุ่นนี้อยู่
ไปเจอข้อมูลที่คุณ"whaw 13" ไปโพสตอบไว้
เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ให้รายละเอียดเปรียบเทียบของผู้ใช้ได้ดีมากเลยก๊อปมาขึ้นกระทู้ให้อ่านครับ

ขออนุญาตและขอบคุณ คุณ whaw 13 ไว้ ณ.ที่นี้ครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

วัดความรู้สึกส่วนตัวจากที่บ้านมีใช้ทั้งสองคัน Fortuner 3.0V 4WD ปี 2010 กับ Pajero Sport 2.5 GT ปี 2011
ไม่ใช่แค่ขับแปร๊บๆ แล้วบอกอีกคันดีกว่าอีกคันได้เลยหรือขับอีกคันไม่เคยขับอีกคันหนึ่ง

1. สมรรถนะโดยรวม (เครื่องยนต์,ช่วงล่าง,เบรก,ตัวถัง,การประกอบ)
เครื่องยนต์ Fortuner แรงดีทั้งต้นและปลาย Pajero Sport แรงต้นมาช้าไปแต่ความเร็วไปซัก 30-40 กิโลจะพุ่งกระชากแรงมาเยอะเลย
แรงปลายขับแบบมนุษย์ปกติก็พอๆ กันแหล่ะ อย่าไปฟังพอที่บอกรถนี้เร็วกว่าแรงอีกรถได้แต่ตามอยู่ท้าย เรื่องมันอยู่ที่คนขับ ถนน จังหวะ ความเสี่ยง

ช่วงล่าง พอดีรถมันยังใหม่เลยบอกเรื่องทนไม่ทนไม่ได้ แต่บอกเป็นเรื่องความสะเทือนและการเกาะถนน ความสะเทือนไม่นิ่มเหมือนรถเก๋งทั้งสองคัน
จับสัมผัสสะเทือนได้ทุกรอยต่อรถที่ไม่สนิทหรือถนนไม่เรียบทั้งคู่ ช่วงล่างเดิมของ Fortuner ปี 2010 สะเทือนแบบกระด้างมีอาการเด้งๆ
แต่จะใช้ดีตอนคนนั่งเยอะท้ายจะไม่ยอบแยบ คนนั่งหลังไม่มีใครบ่นว่าเมารถ ถ้าเป็นตัวใหม่ BMC เขาว่าช่วงล่างนิ่มนวลพอๆ กับ Pajero Sport แล้ว
Pajero Sport ปี 2011 ช่วงล่างสะเทือนแบบนิ่มกว่าแต่ถ้านั่งหลายคนมีคนบ่นว่างท้ายมันโคลงเคลงกว่ารู้สึกเมารถ มีรายงานเยอะว่าโช็ครั่วโช็คตายกันหลายคัน
Pajero ที่บ้านก็โช๊คหลังรั่วเปลี่ยนไปตัว แต่ผมเห็นว่าซ้ายรั่วแต่ศูนย์เปลี่ยนขวาให้ ก็งงๆ อยู่ คงเห็นว่าซ้ายรั่วแต่ยังขับได้มั๊ง
เคยมีกรณีจากผู้ใช้คนหนึ่ง ศูนย์ไม่เคลมให้จนไปเกิดโช๊คตายเข้าโค้งบนดอยแล้วแถออกที่ที่ตรงนั้นมีข้างทาง กลับมาก็ยังต้องเถียงกับศูนย์กว่าเคลมได้
สรุปทั้งสองคันเอาให้ดีต้องเปลี่ยนโช็คและสปริง เพราะ Fortuner ปี 10 ไปทางแข็งเด้ง Pajero Sport ไปทางอ่อนและรับน้ำหนักมากเลยไม่ทนกัน

เบรค ก็พอๆ กันทั้งสองคัน ไม่มีคันนึงเทพคันนึงเบรคไม่อยู่ ทั้งคู่หนักเกือบสองตันจะเบรคต้องใช้ระยะทางมากกว่ารถเก๋ง

ตัวถัง ภายนอกก็เรียบร้อยพอๆ ขนาดรถก็พอๆ กัน แต่ปัญหาหนึ่งในการลงจากรถของคนสูงอายุ Fortuner คนแก่จะลงได้มั่นใจกว่าเพราะเบาะหน้ามีมือจับที่เสาเอ
บันไดแบนและตัวถังช่วงล่างเว้าเข้าทำให้บันไดมีพื้นที่วางเท้าได้มากกว่า Pajero Sport ตัวถังช่วงล่างตรงกว่าบันไดเป็นทรงท่อบากร่องวางเท้าเลยมีพื้นที่วางเท้าน้อยกว่า
ถ้าวันไหนเอา Pajero Sport ไปรับส่งญาติผู้ใหญ่จะเห็นตอนลงลำบากกว่า Fortuner

การประกอบ สองคันที่บ้านได้มาตรฐานทั้งคู่

การทรงตัว ขับในถนนปกติก็พอๆ กัน แต่ของ Fortuner มีระบบช่วยการทรงตัวอย่าง VSC TRC มาให้ มีดีกว่าไม่มีมา เพราะเป็นรถสูงเครื่องก็แรง

2. อ๊อปชั่น, อุปกรณ์ภายใน, การปรับเบาะนั่ง
วิทยุ
ถ้าเป็นตัวใหม่เรื่องวิทยุก็ได้ DVD มาทั้งคู่แล้ว แต่เรื่องคุณภาพเสียง ของ Pajero Sport จะปรับเสียงได้เยอะกว่า มี Option มากกว่า แต่ก็ปรับยากกว่ามาก
ไม่กางคู่มือถึงปรับไม่ถูกเลย แต่สังเกตุอย่างของ Pajero Sport  รับคลื่นวิทยุชัดสู้ของ Fotuner ไม่ได้ มีหลายพื้นไม่ชัดเท่า
Pajero Sport ไม่มีที่ปรับเสียงที่พวงมาลัยจะปรับที่จอวิทยุก็ต้องก้มลงและยืดสุดมือ ส่วน Fortuner มีมาให้เลย

แอร์ ทั้งคู่เป็นแอร์ Auto แต่ของ Fortuner เป็นแบบหน้าจอ Digital ปรับค่าได้ง่ายดูค่าง่ายกว่า ปัจจุบันทั้งคู่มีแอร์เพดานที่แถวสองและสามแอร์เย็นทั่วถึงดี

จอบอกค่าสิ้นเปลือง ระยะที่จะวิ่งต่อไปได้ อุณหภูมิภายนอก ทิศ มีใน Fortuner ส่วน Pajero Sport ไม่มีให้ มีใช้ดีกว่าทำให้ดูการสิ้นเปลืองได้ดีกว่าไม่มีใช้

พวงมาลัยของ Fortuner เป็นหนังผิวธรรมดาที่ดูจะมีความหนากว่าและขนาดหน้าตัดวงจะอวบเต็มมือ ส่วน Pajero Sport ผิวจะเรียบลื่นกว่าหน่อย
ผิวคล้ายพวกกระเป๋าสะพายของสาว ไม่รู้จะทนหรือไม่เพราะเห็นกระเป๋าหนังแบบนี้ผิวลอกกันเยอะ  ขนาดหน้าตัดวงจะเล็กกว่าหน่อย
อันตรายที่ยังไม่มีคำตอบจากมิตซูคือรถบางคันเกิดพวงมาลัยล็อคหรือฝืดผิดปกติในบางมุมเลี้ยว ไม่มีการเรียกเคลมทั้งหมดทำให้แค่เปลี่ยนให้ในบางคันที่เป็นเยอะ
เคยอ่านว่าคันนั้นใช้วิธีพาผู้จัดการศูนย์และหัวหน้าช่างขึ้นรถไปเทสในความเร็วที่เกิดปัญหา ให้รู้ว่ามันอันตรายแค่ไหนกลับเข้ามาก็อนุมัติเคลมให้เพราะกลัวตายเหมือนกัน
มีกรณีเกิดอุบัติเหตุจะเลี้ยวแต่พวงมาลัยล็อคจนเสียชีวิตทั้งคันยังฟ้องร้องกันอยู่เลย

การควบคุมพวงมาลัยของ Fortuner จะเหมือนรถอื่นๆ แต่ของ Pajero Sport ทำมาแปลกๆ คือถ้าเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา พวงมาลัยจะคืนตัวช้ามาหยุดอยู่ที่ 45 องศา ต้องสาวกลับเอง
ถ้าเลี้ยวซ้ายออกจากซอย พอรถจะตั้งลำได้คิดจะเหยียบคันเร่งส่งไม่สาวพวงมาลัยคืนให้ตรงได้พุ่งเข้าฟุตบาท แต่ถ้าเลี้ยวกลับรถพวงมาลัยคืนเร็ว
แบบนี้ผมไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีแต่แน่ๆ คือขับแล้วเมื่อยแขนกว่ารถอื่นเพราะช่วง 45 องศาต้องสาวคืนเองตลอด

ความสวยงามของคอนโซลและแผงข้างประตู Pajero Sport สวยกว่ามาก แต่ที่วางแขนของ Pajero Sport อยู่ต่ำไป ที่วางแขนคอนโซลกลางสั้นถอยไปหลัง
ถ้าจับพวงมาลัยที่ 2-3 และ 9-10 นาฬิกาจะวางแขนไม่ได้ ต้องจับที่ 4-5 และ 7-8 นาฬิกาถึงจะวางแขนได้ ส่วน Fortuner วางแขนได้แต่คอนโซลไม่ค่อนสวย
แถมมีช่องวางของทรงประหลาดๆ ใต้ช่องแอร์ และทั้งคู่ให้ช่องเก็บของมาน้อยมากทั้งคู่

ที่วางแก้ววางขวด แถวหน้า Fortuner ถ้าเป็นขับสอง เบาะหน้าจะมีช่องวางแก้วที่คอนโซล 2 ช่อง ที่คอนโซลกลาง 2 ช่อง ที่วางขวดที่ประตู 2 ช่อง
เบาะแถวสองมีที่วางแก้วหลังคอนโซนกลาง 2 ช่อง ที่วางขวดที่ประตู 2 ช่อง เบาะแถวสามที่วางแก้วหรือขวดสองช่อง
สำหรับ Pajero Sport แถวหน้ามีที่วางแก้วที่คอนโซล 2 ช่อง ช่องหนึ่งมีถ้วยที่เขี่ยบุหรี่ต้องเอาออกถึงใช้วางแก้ว  ที่วางขวดที่ประตู 2 ช่อง
แถวสองมีที่วางขวดที่ประตู 2 ช่องไม่มีที่วางแก้ว เบาะแถวสามที่วางแก้วหรือขวดสองช่อง ถ้านั่งกันเต็มคัน Fortuner ไม่ต้องวุ่ยวายเรื่องที่วางแก้วเพราะให้มาเยอะ

เบาะของ Pajero Sport ให้เบาะไฟฟ้าแบบ 8 ทิศทาง ให้มาคู่หน้าสองเบาะเลย ส่วน Fortuner ให้แบบ 6 ทิศทางเฉพาะคนขับ
แต่เรื่องความนั่งสบายเบาะ Pajero Sport สั้นไปหน่อย ขับนานเมื่อยขาเร็วกว่า Fortuner

เบาะแถวสองซ้ายขวาพอๆ กัน แต่ Fortuner นั่งกลางสบายกว่า Pajero Sport นั่งกลางจะรู้สึกเหมือนนั่งบนเนินสูงหลังผิงที่ท้าวแขนแข็งๆ ถ้าหลับจะไม่รู้สบาย
เพราะตัวจะโยนซ้ายขวาตามรถโยก

เบาะแถวสามระยะห่างแจากแถวสองพอๆ กันทั้งคู่ ความสบายในการนั่ง Fortuner นั่งเดินทางไกลก็ได้แต่ไม่สบายเท่าแถวสอง นั่งอัดสามในระยะใกล้ได้
ส่วน Pajero Sport ทำเบาะมาแบบนั่งก้นต่ำเข่ายกสูง คล้ายๆ นั่งชันเข่าแต่มีเบาะรองหลังขาตลอด นั่งนานๆ จะเมื่อย และนั่งได้สองคนอัดสามไม่ไหว
เพราะติดตู้แอร์ด้านขวาและผนังด้านซ้าย

การพับเบาะ ของ Fortuner แถวสามต้องพับแล้วแขวนขึ้น ต้องยืดสุดตัวถึงแขวนได้ ถ้าเป็นผู้หญิงคงแขวนขึ้นไม่ไม่ถึง แขวนแล้วบางมีเสียงอี๊ดอาด
ของ Pajero Sport พับลงได้เกือบจะเรียบทำให้ดูเรียบร้อยกว่า เรื่องการขนของก็พอๆ กัน เพราะ Fortuner ที่หายด้านข้างเพราะแขวนเบาะ
ส่วน Pajero Sport ที่หายไปตรงพื้นเพราะพับลงพื้น มีปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเพราะการพับเบาะลงพื้นของ Pajero Sport คือทำให้ยกพื้นสูงขึ้น
แล้วทำกล่องใส่ของที่หลังเบาะแถวสาม ขอบพื้นเลยสูงกว่าของประตูหลังหลายครั้งเปิดประตูหลังแล้วของมักร่วงลงมา ต้องใส่ตาข่ายกันของร่วงไว้

ประตู การปิดประตู ประตูหน้าดีทั้งคู่ แต่ประตูแถวสองของ Pajero Sport รู้สึกต้องออกแรงมากกว่านิดหน่อย
เมื่อฝนตก ถ้าจังหวะเปิดประตูของ Pajero Sport น้ำฝนและน้ำจากของประตูด้านบนจะหยดลงที่ขอบเบาะใกล้มุมพับเบาะ

ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติและปรับความเร็วได้ Pajero Sport มีให้ Fortuner ไม่มี ตรงนี้ผมชอบมาก มันปรับให้ได้จังหวะตามปริมาณความแรงของเม็ดฝน
และตามน้ำที่กระเด็นมาจากล้อคันหน้าได้ดี และที่ปัดน้ำฝนหลังเปิดปุ๊บปรับให้สองครั่งก่อนเลย ตรงนี้่ก็ดีเพราะกวาดครั้งแรงกเลยสองรอบทำให้เห็นท้ายชัดเจนเร็ว

ระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติก็ให้ความสะดวกสบายดี แต่บางทีมันเปิดเร็วไปหน่อย กลางวันเข้าใต้ทางด่วนก็เปิดให้แล้ว แต่พอฝนตกกลางวันมองรถกันไม่ชัดดันไม่เปิดไฟหรี่ให้

ระบบปรับระบบความสูงของไฟหน้ารถใหม่นี้ให้มาทั้งคู่แล้ว

ระบบทำฉีดน้ำความสะอาดโคมไฟหน้า ให้มาทั้งคู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้ใช้หรอก

ไฟส่องประตู Pajero Sport มีให้ Fortunerเป็น option เสริมราคา 1400

3. อัตราการกินน้ำมัน ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม.
Fortuner 3.0V 4WD ปี 2010 ผมขับได้ในเมืองที่ 9.5-10.5 ออกต่างจังหวัดได้ 11.5 วัดจากจออัตราสิ้นเปลือง
Pajero Sport 2.5 GT ปี 2011 ผมขับได้ในเมืองที่ 9.2-9.3 ต่างจังหวัดยังไม่เคยออก วัดจากระยะทางหารด้วยจำนวนน้ำมัน

4. ราคาขายต่อ Fortuner ดีกว่าชัดเจน ปีเก่าๆ ราคายังสูงอยู่เลย เรียกว่าขายต่อเจ็บตัวน้อยกว่าเยอะ

5. ค่าซ่อมบำรุงตามระยะ (ในกรณีเข้าศูนย์บริการทุกครั้ง) อันนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะ Pajero Sport เพิ่งสองหมื่นกิโลฟรีค่าแรงไม่มีเปลี่ยนอะไหล่แพงๆ
ของ Fortuner จะแพงที่ทุกสองหมื่นกิโล ช่วงหนึ่งหมื่นสามหมื่นไม่แพงหลักร้อย เข้าเช็คที่หกหมื่นกิโลพันเจ็ดร้อยบาท คุณภาพศูนย์บริการของโตโยต้าดีกว่า
บอกเวลาชัดเจน มีที่ให้รอเป็นสัดส่วนดี ของมิตซูเข้าเช็คพันโลตอนบ่ายโมงบอกเวลารับรถไม่ได้บอกได้แต่เย็นได้ บอกคิวเยอะทั้งที่โทรไปจองเวลาก่อนหนึ่งวัน
ไปถึงกลับต้องรอคนที่ไม่ได้จองแต่มาก่อน ที่นั่งรอก็ไม่เป็นสัดส่วนอะไร

ปัญหาหลักๆ ของทั้งสองคัน Fortuner ออกมาก่อนนานรุ่นแรกมีปัญหาเรื่องเบรค ควันย้อนเข้ารถ แต่รุ่นหลังแก้กันไปหมดแล้ว ดีตรงที่โตโยต้าแก้ปัญหาเหล่่านั้นไม่ให้ตกค้างมาในคันหลังๆ
จะมีก็ปัญหาที่ใจเพราะรถออกมานานคาดว่าปี 2014 จะมีตัวใหม่มาเลย ถ้าคุณเลือกผ่อนสี่ห้าปีผ่อนยังไม่หมดโฉมใหม่มาแล้วต้องไม่คิดมาก
ส่วน Pajero Sport ออกมาหลังกว่าได้ Fortuner เป็นโจทย์เลยแก้ไปหลายจุด แต่มีปัญหาหลักที่เป็นตั้งแต่ออกมาเลยก็เฟืองท้ายหอน โช็ครั่ว พวงมาลัยล๊อค
เฟืองท้ายหอนคันไหนหอนจะเปลี่ยนให้ แต่ก็บอกว่าเปลี่ยนแล้วก็ยังหอน อันนี้สำคัญเพราะมันไม่ได้เป็นของที่เราเปลี่ยนของอื่นใส่แทนได้ง่าย
ไม่เหมือนโช็ครั่วอันนี้เรื่องเล็กเครมยุ่งยากก็เปลี่ยนยี่ห้อดีใส่ดีกว่าเดิมได้ด้วย

ถ้างบพอและรอรถได้ คุณอยากได้รถที่ค่อนข้างสมบูรณ์ต่อการขับ การใช้งาน การซ่อมบำรุง ศูนย์มีเยอะและศูนย์ดีเลยมีเยอะ ให้ระบบที่ควรมีใช้มาดี ให้เลือก Fortuner
ถ้าเลือกราคาขายต่อเป็นหลักก็เลือก Fortuner
ถ้างบมีน้อยลงหน่อยอยากประหยัดเลือก Pajero Sport ก็ต้องหวังไว้ว่าให้รถเราไม่ใช่เป็นรถคันที่มีปัญหาเพราะคุณจะได้รับบริการน่าหงุดหงิดจากมิตซู
แต่รถส่วนใหญ่ไม่มีปัญหานะครับ

*สำหรับแคปติว่าผมบอกได้เรื่องเดียวคือเบาะแถวสองแคบไปหน่อยเพราะแบ่งที่ไปทำแถวสาม เบาะแถวสามก็ไม่ดีเลยแคบมากที่วางเท้าตรงไปข้างหน้าก็น้อย
ขนาดผมเป็นเท้าเล็กใส่รองเท้าเบอร์ 40 ยังไม่สามารถนั่งใส่รองเท้าวางเท้าตรงไปข้างหน้าได้เพราะติดท้ายเบาะแถวสอง ต้องนั่งบิดๆ เท้าเอา และนั่งเหมือนนั่งชันเข่าในที่แคบๆ
ถ้าทำแค่สองแถวแล้วทำเบาะแถวสองให้กว้างๆ จะดีกว่า

แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 03:15:41

จากคุณ : whaw13
เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 02:48:29

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 55 10:44:23

จากคุณ : KOKISME
เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 10:43:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com