ความคิดเห็นที่ 1 โซ่ เข้าเกียร์ ประหยัดกว่า สายพาน สายพาน ได้สะดวก สบาย ที่พักเท้า ขับ ออโต้ มาหลายปี ก็เปลี่ยนมา เข้าเกียร์ บ้าง (เราเปลี่ยนจากเข้าเกียร์หลายปี มาออโต้ คิดถึง ฟีล ความรุ้สึก การขับรถเกียร์จริง ๆ) ส่วนรถ แนะนำ รถค่ายคนบ้า ไม่แพง เร่งเครื่องไม่สะท้านแทบจะหลุดเป็นชิ้น ๆ แบบรุ่นยอดนิยม ..........  จากคุณ : Lunar_Eclipse (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 22:40:15

ความคิดเห็นที่ 2 รถเกียร์ประหยัดกว่าครับ แต่มาเจอข่าวแยมอะฮ่า เขาจัดแข่งขี่น้องเหมียว 115 i ประหยัดน้ำมัน ทำสถิติได้ 101 กม./ลิตร อึ้งเลย 555 http://www.yamaha-motor.co.th/News/View.aspx?ID=1843 จากคุณ : raksapondet เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 23:45:49

ความคิดเห็นที่ 3 Yamaha เครื่องเก่าแล้วมันดังกว่า.Honda ใช่เปล่าครับ ใจอยากได้.sx น่ะถามราคามา56000 สด ไม่รวมทะเบียน+พรบ. จากคุณ : toruza21 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:11:41

ความคิดเห็นที่ 4 ถามเจ้าของกระทู้อีกนิดครับ เห้นบอกว่าเติมน้ำมัน 100 บาท ทุก 2 วัน และขับวันละ 60 กิโลเมตร แปลว่าการเติมน้ำมัน 1 ครั้ง ขับได้ประมาณ 120 กิโลเมตร เข้าสูตรสมการแบบมั่วๆของผม 100/(60*2) = 0.84 อยากจะบอกว่าประหยัดแล้วนะ ประหยัดกว่ารถผมอีก... ผมยังได้อยู่ที่ 1.00 - 1.25 อยู่เลย ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ถ้าเปลี่ยนเพื่อประหยัดน้ำมัน ยกเว้นอยากเปลี่ยนรถ... เพราะเงินที่เสียไป ถ้าเอามาประหยัดน้ำมันจริง ต้องใช้เกือบ 50,000 กิโลเมตร ถึงจะคุ้ม... ================================ Yamaha Mio115i เครื่องไม่เก่านิ ปรับปรุงมาหัวฉีดใหม่ด้วย รอสาวก Yamaha ,าตอบอีกที ส่วนโซ่ จะดีที่ 1.ดูแลรักษาง่าย 2.ค่าบำรุงรักษาต่ำ 3.เทคนิคในการซ่อมน้อย 4.ประหยัดน้ำมัน ข้อเสีย 1.ไม่สวย (ยกเว้น Yamaha Spark135 และ Suzuki Shogun Axelo ในสายตาผมนะ) 2.ไม่สะดวกสบาย รถออโต้ ข้อดี 1.สะดวกสบาย 2.รถสวย 3.อาจได้ U-BOX ใหญ่ ข้อเสีย 1.อะไหล่จุกจิกเยอะ 2.ถ้าเสียตัวนึง ไล่กันยาวมาก บางปัญหาแก้ไขไม่ได้สำหรับออโต้ (ที่ได้ยินมา) 3.กินน้ำมันกว่า แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 01:45:33 จากคุณ : popzeta เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 00:47:34

ความคิดเห็นที่ 5 #2 100โล/ลิตร บร๊ะจ้าวววววววววว ยังงี้ มีตัง300เติมน้ำมัน ขี่ไปเชียงใหม่ !!! เพิ่มเติม #4 โชกัน ของซูซุกิ ไม่ใช่หรอครับ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 55 01:28:09 จากคุณ : Demonja เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:23:42

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ ระบุยี่ห้อให้แล้วครับ คือประโญคของผมมันจบที่ "รอสาวก Yamaha อีกที" ไปแล้ว แล้วผมก็มาบอกข้อดี-ข้อด้อยของรถเกียรืกับออโต้นะครับ มันเลยดูเหมือนติดกัน แต่จริงๆมันคนละประเด็น จากคุณ : popzeta เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:46:40

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนออกมาใหม่ๆ 3-4 วันเติมครั้งน่ะครับ ตั้งแต่จมนำ้นี้เติมเช้าวันจันทร์ ไม่เย็นวันอังคารก็เช้าวันพุธต้องเติมแล้วครับ เติม100 ก็ได้ประมาณ 2.33 ลิตร รูสืกว่ารถคันนี้วิ่งทางไกลไม่ค่อยจะดีแล้วครับ อัตราเร่งแซงก็ไม่ค่อยจะดีแล้วครับ จากคุณ : toruza21 เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 01:54:36

ความคิดเห็นที่ 8 งั้นเอางบไปทำเครื่อง เปลี่ยนโช้ค ลงยางหน้ากว้างดีมั้ยครับ ยกเว้นว่าอยากได้รถใหม่ จากคุณ : ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 09:45:57

ความคิดเห็นที่ 9 *** รู้สืกว่ารถคันนี้วิ่งทางไกลไม่ค่อยจะดีแล้วครับ อัตราเร่งแซงก็ไม่ค่อยจะดีแล้วครับ ... เรื่องอัตราเร่งแซงนี่ ถ้าสายพานเสื่อมมันก็หมุนฟรีเยอะนะครับ จากคุณ : พันท้ายนรสิงห์ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 10:42:12

ความคิดเห็นที่ 10 เปลี่ยนอะไหล่ถูกกว่าทำซื้อรถใหม่นะครับ แต่ปัญหาคือต้องเปลี่ยนให้ถูกต้องและตรงประเด็น! ขอยกใหม่ เห็นได้ความจุน้ำมันละ ระยะทางต่อวัน = 60 กิโลเมตร จำนวนที่ใช้งานได้ = 2 วัน ระยะทางทั้งหมด = 120 กิโลเมตร เติมน้ำมัน = 2.33 ลิตร/ครั้ง เข้าสูตรสมการมั่วๆในการหาการกินน้ำมัน (60*2)/2.33 = 51.50 รถคุณ toruza21 กินน้ำมันที่ 51.50 กิโลเมตร/ลิตร **"โครตประหยัด"** กินน้ำมันน้อยกว่ารถออโต้หัวฉีดในปัจจุบันอีก... แต่อย่างว่าเห็นบอกว่าระยะแซง และวิ่งทางไกลไม่ดีแล้ว อาจจะเพราะ เสื้อสูบ แคม ลูกสูบ ชามเม็ด ชามคลัช คงสนิมขึ้น หรือพวกสายพาน กรองอากาศเน่าแล้ว จริงๆลองเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลืองดูก่อน เปลี่ยนแบบห้องเครื่องใหม่ และก็ห้องสายพานใหม่ น่าจะประมาณ 10,000 บาท แต่ได้เหมือนรถใหม่มาวิ่งเลย แต่ถ้าเปลี่ยนคาร์บูด้วย เลิกดีกว่า ขายคันนี้ไปราคาถูกกว่าตลาดนิดนึง แล้วไปออกคันใหม่ work กว่า ปล.เจ้าของกระทู้ลองจับการกินน้ำมันดูจริงๆก่อน แล้วจะทำให้คุณตัดสินใจได้มากกว่าขึ้น โดยการจับเอา (ระยะทางตอนเติมน้ำมันเต็มถัง - ระยะทางตอนก่อนเติมน้ำมันเต็มถัง) / จำนวนน้ำมันที่เติมเต็มถังรอบระยะทางก่อนเติมเต็มถัง จากคุณ : popzeta เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:36:19

ความคิดเห็นที่ 11 คห 2 โฆษณาชวนเชื่อ เป็นไปไม่ได้ที่ ออโต้หัวฉีดจะประหยัดกว่าโซ่หัวฉีด .. ถ้าไม่แต่ง ปรับจูน mission imposible จากคุณ : Chacoolza (Chacoolza) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 11:43:07

ความคิดเห็นที่ 12 ผมไม่ได้โกหกน่ะครับ เพราะอาทิตย์นึงผมจะต้องเติมน้ำมัน3ครั้งๆล่ะ100บาทได้นำ้มันประมาณ 2.3ลิตร ทุกครั้งผมใช้รถคันนี้ทุกวัน แต่ถ้าวันไหนอัดเกิน80 ก็ต้องเติมก่อน.. จากคุณ : toruza21 (toruza21) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 12:25:21

ความคิดเห็นที่ 13 จากคำนวน รถคุณโคดประหยัดเลยนะ จากคุณ : ชายขอบ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:41:47

ความคิดเห็นที่ 14 ที่บอกว่าโคดประหยัด เพราะรถผม 30โลลิตรเองอะครับ ซ้อน2ทุกวัน จากคุณ : ชายขอบ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 14:47:37

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ตามพี่ชายขอบเลย รถผมถ้าให้บิดเนียนๆใช้ความเร็วต่ำๆ ยังได้แค่ 40 กิโลเมตร/ลิตร แต่ถ้าบิดหมดปลอก ซัดพร่ำเพื่อได้ 30 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าบิดทั่วไป ก็ 35 กิโลเมตร/ลิตร ผมนั่งคนเดียวตลอดครับ ผมหนัก 70 จากคุณ : popzeta เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:15:52

ความคิดเห็นที่ 16 ต่ายว่าไม่ได้กินน้ำมันมากกว่าเดิมหรอกค่ะ อัตราการบริโภคของรถมันเท่าเดิมแหละ แต่ที่ไม่เท่าเดิม มันราคาน้ำมันมากกว่า เลยทำให้รู้สึกว่ามันกินน้ำมันมากกว่าเดิม แล้วรถก็มีการใช้งานมาระยะนึงแล้ว ก็มีอะไรสึกหรอ อาจจะมีบิรโภคมากกว่าเดิมหน่อย แต่คิดว่าไม่ถึงขั้นกินมาก ทุกวันนี้ขี่CBR150 คาร์บูเติม50บาท ได้1ลิตรหน่อยๆ จากเมื่อก่อน ลิตรกว่าๆ เซ็ง - -" จากคุณ : RapbitZ_Love เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 14:13:12