ความคิดเห็นที่ 1 โดยออกเดินทางตอนตี 4.20 ของวันที่ 13  ก่อนหน้านั้นช่วงหัวค่ำได้ออกไปเติมน้ำมันมาจนเต็มถัง เลขไมล์ ตอนเติมอยู่ที่ 5,989 กม. วิ่งกลับมาบ้าน ไมล์ขึ้นไป 3 กม.มาอยู่ที่ 5,992 ซึ่งเป็นหลัก กม. ช่วงออกเดินทาง จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:13:23

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงแรกของการเดินทางจากสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ วิ่งตัดไปออก ลำพูน –ลำปาง ช่วงนี้ใช้ความเร็วประมาณ 120 กม./ ชม. จากลำปาง – จังหวัดตาก เพิ่มความเร็วมาอีกหน่อยอยู่ในช่วง 130 -140 กม./ชม. มีบางช่วงจัดไป 150 -170 กม./ ชม. ถึงจังหวัดตาก ก็ลดเพดานความเร็วมาอยู่ที่ 120 -130 กม./ชม. ใช้ความเร็วเท่านี้ ยาวไปถึงบางประอิน แล้วตัดเข้าวงแหวนตะวันตก โดยใช้ความเร็ว 100 - 120 ยิงยาวถึงพระรามสอง แล้วแวะเยี่ยมญาติแถวมหาชัย ออกจากมหาชัย ก็ใช้ความเร็วประมาณ 120 – 130 กม./ ชม. จนเลยตัวจังหวัดเพชรบุรีมาได้ซักพักก็แวะเติมน้ำมันถังแรก เลขไมล์ขึ้น 6,829 กม เติมน้ำมันไป 71.496 ลิตร เป็นเงิน 2,300 บาท เท่ากับวิ่งมา 6,829 – 5,989 = 840 กม.หารออกมาได้ 840/71.496 = 11.74 กม./ลิตร จอ MID ขึ้นเฉลี่ย 11.5 เอ่อ! เติมจริงออกมาดีกว่าหน้าจออีก จากนั้นคุมความเร็วประมาณ 120 ยาวจนถึงท่าแซะ ชุมพร แล้วก็หาโรงแรมนอน มีรถติดบ้างแถวปราณบุรีและประจวบ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 03:17:37 จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:16:43

ความคิดเห็นที่ 3 ออกจากท่าแซะแต่เช้าประมาณ 6.30 น. ของวันที่ 14 ก็วิ่งยาวถึงสุราษฯ ช่วงนี้ถนนว่างเลยใช้ความเร็ว 130 -140 กม./ชม.ได้แบบสบายๆ จากสุราษฯ ก็คุมความเร็วไม่ให้เกิน 120 แวะเข้าเขื่อนรัชชประภา ออกมาแวะ กินอาหารทะเลที่บางพัฒ จากนั้นก็เข้าตัวเมืองภูเก็ต ทางช่วงนี้ก็คุมอยู่ที่ 120 – 130 จะมีช่วงบายพาสก่อนเข้าภูเก็ตที่เหยียบเพลินไปหน่อย 140 -160 กม./ชม. พอเข้าภูเก็ตก็เป็นลักษณะวิ่งทางในเมือง เที่ยวแถวตัวเมืองแล้วก็หาโรงแรมที่พักแถวตัวเมือง จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:22:08

ความคิดเห็นที่ 4 วันรุ่งขึ้น 15 เมษายน น้ำมันก็ยังเหลืออยู่เกือบ 1 ใน 4 ของถังก็ขับเที่ยวไปรอบๆเกาะขึ้นจุดชมวิวเขาขาดบ้าง ไหว้หลวงพ่อแช่มบ้าง ขึ้นไปไหว้ BIG BUDDA บนเขาบ้าง แล้วก็เติมน้ำมันถังที่ 2 ไมล์ ขึ้นไป 7,699 กม. เติมน้ำมันไป 72.384 เป็นเงิน 2,350  เท่ากับวิ่งมา 7,699 – 6,829 = 870 กม. หารออกมาได้ 870/72.384 = 12.01 กม / ลิตร จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:25:04

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อแอร์ยังไงอะครับ พ่อผมสนใจอยู่ จากคุณ : Galaxy S (Glamosic) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:28:40

ความคิดเห็นที่ 6 เช้าวันที่ 16 หลังจากซื้อของฝากเรียบร้อยก็เดินทางออกจากภูเก็ตโดยใช้เส้นทางภูเก็ต - ระนอง – ชุมพร ใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 -120 กม./ชม.ตลอด และเป็นช่วงเดียวที่คุณพ่อมานั้งเบาะหน้าจนถึงระนอง แวะกินข้าวที่ระนองเสร็จท่านก็กลับไปนอนด้านหลังต่อ พอบรรจบกับส้นทางสายชุมพร – สุราษฯ รถเริ่มหนาแน่น ก็ขับไหลตามกันไป 100 -130 ไหลไปได้เรื่อย จนถึงชะอำก็หาข้าวกินหาที่พัก เช้าวันที่ 17 ออกเดินทางต่อและแวะเติมน้ำมันปั้ม ปตท. ก่อนถึงแยกวังมะนาว น้ำมันถังที่ 3 ไมล์ขึ้นมา 8641 กม. เติมไป 72.452 ลิตร เป็นเงิน 2330 บาท เท่ากับวิ่งมา 8641-7699 = 942 กม. หารออกมาได้ 942/72.452 = 13.00 กม./ลิตร ดูว่าช่วงนี้อัตราบริโภคดีขึ้น เพราะไม่ได้ใช้แอร์ด้านหลังเกือบ 300 กม. และคุมความเร็วดีขึ้น จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:29:09

ความคิดเห็นที่ 7 หลังจากเติมน้ำมันก็ออกเดินทางต่อไปที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ความเร็วก็คุมอยู่ที่ประมาณ 120 กม/ ชม ช่วงบ่ายออกจากบางบ่อขึ้นบูรพาวิถี ต่อด้วยทางด่วนใน กรุงเทพฯยาวไปผ่านเมืองทองและไปลงที่เชียงราก วงแหวนตะวันตก ช่วงแรกก็ขับอยู่ที่ไม่เกิน 120 แต่พอเลยเมืองทอง ก็เพิ่มความเร็ว เป็น 140 กม./ชม. ตลอดระยะทางขากลับเชียงใหม่ จะใช้ความเร็วประมาณ120 – 140 กม./ชม. จะมีช่วง ลำปาง – ลำพูนที่หลายครั้งแช่ยาวที่ 140 กม./ ชม.  พอถึง จ.ลำพูน ก็คลานเข้า อ.สันป่าตองที่ 80 กม./ชม ถือว่า COOLDOWN เครื่องยนต์ไปในตัว ตามรูปถ่ายเมื่อกลับมาถึงบ้าน จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:32:07

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ Glamosic แอร์ผมต่อที่ตัวแทนของแครี่บอยครับทำพร้อมหลังคา เป็นแบบแขวนติดหลังคา เดี๋ยวตอนเช้าจะถ่ายรูปมาให้ดู จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:35:17

ความคิดเห็นที่ 9 ค่าเฉลี่ยต่างๆ จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:37:32

ความคิดเห็นที่ 10 มาถึงบ้านก็ดึกแล้วจึงค่อยออกไปเติมน้ำมันในวันรุ่งขึ้น ช่วงเติมไมล์ขึ้นไปที่ 9,536 กม. เติมน้ำมันกลับไปได้ 72.30 ลิตร เป็นเงิน 2,370 บาท เท่ากับวิ่งมา 895 กม. หารออกมาได้ 895/72.30 = 12.37 กม./ลิตร จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:39:33

ความคิดเห็นที่ 11 สรุป ทริปนี้วิ่งไป 9,536 – 5,989 =  3,547 กม. ใช้น้ำมันไป 71.496+72.384+72.452+72.30 = 288.632 ลิตร หารออกมาได้ 3547 / 288.632 = 12.289 กม./ลิตร หน้าจอ AVG ผมไม่ได้รีเซ็ทที่ละถัง แต่จะดูเฉลี่ยตลอดทั้งการเดินทาง โดยออกมาที่12.2  ถือว่าใกล้เคียงที่เดียว ค่าน้ำมันทั้งหมด 2,300 + 2,350 + 2,330 + 2,370 = 9,350 บาท  ตัวเลขออกมาอาจไม่สวยหรูเพราะเจอแอร์ด้านหลังของเสด๊จพ่อเข้าไป บวกกับผมขับรถค่อนข้างใช้ความเร็วอยู่ เลยได้เท่านี้ ที่พยายามลงรายละเอียดในการใช้ความเร็วแต่ละช่วงให้ดูเพื่อให้เปรียบเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในแต่ละช่วงนั้นๆครับ   แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 03:55:52 จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:45:22

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าใครข้องใจอะไรตรงไหนก็ถามได้นะครับ ตอบได้ก็จะตอบ และขออภัยกับ FRONT ตัวหนังสือที่เล็ก เพราะผมพิมพ์ใน WORD ก่อนแล้วค่อยก๊อปมาลง มีปัญหากับมันพอสมควร ทำยังไงก็ไม่ยอมใหญ่ เอ้อ (ตัวหนังสือนะครับอย่าคิดลึก) จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:49:40

ความคิดเห็นที่ 13 ติดหลังคารุ่นเดียวกับผมเลย Series 7 ผมสงสัย เจ้า อัตราความเร็วเฉลี่ยเนี่ย รู้สึกว่า มันไม่เห็นจะใช้ได้จริงเลย ทำยังไง มันก็ได้อัตราอยู่ประมาณนี้เหละ ไม่ว่าจะลอง Set กี่ครั้ง มันก็ได้อัตราแค่นั้น ลองขับในเมือง มันก็ได้ค่าเฉลี่ย 40 - 50 ส่วนอีกครั้งนึง ขับขี้นทางด่วน บางนา ชลบุรี ผมผ่านด่านจ่ายเงินปุ๊บ ผมก็กด Reset เลย แล้วก็เหยียบไป 120 ตลอดจนถึงชลบุรี ผมพยายามใช้ความเร็วให้นิ่ง 120 มันก็ไม่ขึ้นถึง 120 นะ แต่มันขึ้นแค่ 90 100 ประมาณนี้ พอถึงด่านเก็บเงิน มันก็มีรถติดข้างหน้าสัก 5 - 6 คัน ผลปรากฏ ตัวเลขมันก็ลดลงเรื่อย ๆ กลับมาที่ 40 - 50 กม/ชม อยู่ดี สรุป ไม่ว่าจะทำยังไง ขับเหยียบให้ตายยังไง Set ใหม่ทุกครั้ง ค่าเฉลี่ยมันก็จะได้แค่ 40 - 50 กม/ชม ส่วนอีกอันนึง ทำไม ของรถผม "ระยะทางที่สามารถขับได้" มันบอกไม่ละเอียด คือ ถ้า สมมติ น้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ จนไฟเตือนน้ำมันติดปุ๊บ ค่า "ระยะทางที่สามารถขับได้" จะไม่มีการแสดงผลเลย แต่จะมีข้อความว่า ระดับเชื้อเพลิงต่ำ แสดงแทน ทำให้ก็เลยไม่รู้เลยว่า มันจะขับได้อีกกี่ กม บางที ตัวเลขระยะทางโชว์อยู่ว่า ขับได้อีก 100 กม แล้วอยู่ ๆ ไปเตือนน้ำมันตืดขึ้นมา ตัวเลข 100 กม ที่บอกว่า ขับได้ มันก็หายไปเลย คราวนี้ ก็เลยไม่รู้ว่า จะวิ่งได้อีกสักเท่าไหร่ ซึ่งมันต่างจาก รถหลาย ๆ คัน ที่มันสามารถบอก Range ได้ถึง 0 กม กันเลยทีเดียว ตรงนี้ ผมว่า มันไม่ค่อยละเอียดเลยนะ จากคุณ : Mr.VTEC เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 07:38:16

ความคิดเห็นที่ 14 เปนรีวิวที่ชัดเจน ตรงไปตรงมาดี แบกขนาดนั้น ถือว่าโอเคนะ ถ้าเครื่องตัวเดียวกัน แต่อยู่ในตัวถังแบบแคป ไม่ยกสูง ล้อสัก 15  ผมว่าต้องได้ 15 กม/ลิตรแน่ จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 07:39:42

ความคิดเห็นที่ 15 ประหยัดดีครับ   ช่วงขาขึ้นจาก   นครสวรรค์  ไป   ตาก   เป็นยังไรครับ   อัตราการสิ้นเปลือง อยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าอยู่ในเกณฑ์ 11 -12 กม/ลิตร ก็พอๆกับวีโก้ 3.0 MT จากคุณ : ไทยเดิ้ง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 08:26:38

ความคิดเห็นที่ 16 แจ่มครับ รถแบกหนักเรื่องแอร์หลัง + เท้าหนักกว่าผมเยอะเลย ฮ่าๆๆ แต่ผมว่า คงไม่มีตัวขับ 2 ยกสูง AT ค่ายไหนทำได้ขนาดนี้แล้วแหละ ในสภาพการขับขี่เหมือนกัน การใช้งานเหมือนกัน แต่ก็นะอาจจะอืดๆกว่าชาวบ้านหน่อย แต่ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแหละครับ จากคุณ : bodyseries เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 08:29:23

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่าอัตราสินเปลือง เป็นระดับมาตรฐานของรถกระบะสมัยนี้ หลายๆ ยี่ห้อก็ทำได้ แต่ที่ถูกใจผมมากๆๆ คือ รถคุณแต่งได้สวยมากกกกก และ รูปถ่ายแก้มรถ ตัดกับท้องฟ้าและน้ำทะเล สวยมากครับ จากคุณ : kie001 (kook_ng) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 08:44:44

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้มีประโยชน์ดี จากคุณ : para เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:03:57 A:182.52.61.82 X: TicketID:277170

ความคิดเห็นที่ 19 รีวิวดี รถก็งาม อยากไปแอ่วพ้อง... จากคุณ : กาลัง กัตวา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:08:33

ความคิดเห็นที่ 20 เคยลองจับจากหน้าจอ  ตัวใหม่ ออโต้ ขับ2 4ประตูยกสูง  เปิดแอร์  24 องศาตลอด วิ่ง 80-120   ขึ้นหน้าจอ  12.5 กิโล/ลิตรครับ   แบกนน.คนไปทั้งหมด  7 คน จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:13:49

ความคิดเห็นที่ 21 ถือว่าประหยัดแล้วครับ รถรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ประหยัดครับ จากคุณ : *380 Z เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:17:44

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับ Review ครับ แต่ต้องบอกว่าอัตราการกินน้ำมันขนาดนี้ รถกระบะรุ่นใหม่ๆทำได้ทั้งนั้นครับ แม้แต่พวกกระบะดัดแปลงก็ยังได้ ปล. คราวหน้าลองเปลี่ยนไปพิมพ์ใน Notepad แล้วค่อยเอามาแปะจะดีกว่าครับ Word น่าจะจำการตั้งค่าตัวอักษรไว้ แต่จริงๆถ้าความคิดเห็นอยู่ใน Classic Mode ไม่น่าจะจำมานะครับ จากคุณ : ar เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:31:28

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ Mr.VTEC ครับผมมีคำตอบให้ แต่ออกไปทำธุระก่อน แลวจะมาไขข้อสงสัยให้ จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:33:29

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณ จขกท. มากครับ  นอกจากจะไปท่องเที่ยวแล้วยังสละเวลาในการบันทึกข้อมูล และนำมาแบ่งปันเพื่อนๆ ชาวรัชดาอีกด้วย  ผมก็จองรุ่นนี้เหมือนกันแต่สีขาวมุกเอเวอเสต์  แต่ยังไม่ได้รถเลย  จากข้อมูลถือว่าประหยัดดีเหมือนกัน ไม่เสียใจที่เลือกครับ จากคุณ : อิ๊คคิว เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:39:09

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าประหยัดดีครับ แบกน้ำหนักเยอะแบบนี้ยังได้ 12 Km./Liter รถผม Hi-Lander Cab 3.0 VGS รถเดิมๆ ยางเดิม ขับไปกลับ กทม. - ภูเก็ต เหยียบสุดๆ ไม่เน้นประหยัด ได้ประมาณ 12 Km./Liter ครับ จากคุณ : yai6000 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:46:21

ความคิดเห็นที่ 26 ...... แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 10:51:30 จากคุณ : visionnet เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:49:18

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณที่มารีวิวดี ๆ ให้ชม กำลังตัดสินใจจะออกรุ่นนี้พอดีเลยค่ะ อยากทราบว่าเบาะหลังถ้าคนที่สูงประมาณ 180 นั่งสบายไหมคะ ขางอมากรึเปล่า ขอคำแนะนำด้วยค่ะยังไม่ได้ไปดูของจริงกันเลย แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 10:50:20 จากคุณ : น.ส.เข็มทราย เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:49:43

ความคิดเห็นที่ 28 A/T กินไม่เยอะแฮะ ของผมตัวเก่า 2500 คอมมอน เกียร์ธรรมดา กดหนักกว่า 120-160 แตะ 180-190 ด้วย ยาวๆทั้งขึ้นและลงชุมพร ได้เกือบๆ 13 จากคุณ : visionnet เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:51:12

ความคิดเห็นที่ 29 ลมยางอ่อนไปหน่อยนะผมว่า จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 14:16:11

ความคิดเห็นที่ 30 ลมยางปกติครับ  4ประตูยกสูง ออโต้  ข้างประตูติดไว้ 29 เองครับ จากคุณ : ปลาโลมา_:P เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 15:45:58

ความคิดเห็นที่ 31 สี่คน+แบกเกือบ100โล+auto กดขนาดนี้ประหยัดอยู่นา ปล.รุ่นนี้ได้ภาษีคืนเท่าไหร่ครับ จากคุณ : Beloved-Leon เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:07:23

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าเป็นตัว เกียร์ธรรมดา จขกท คิดว่ายังไงเหรอครับ จะประหยัดกว่าหรือเปล่า? จากคุณ : หมูน้อยหน้าลิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:50:51

ความคิดเห็นที่ 33 คห.13  Mr.VETEC : คือเจ้าออลนิวเนี้ย จอคำนวณเรื่องความเร็วเฉลี่ยมันแปลกก็เพราะว่า พวกเล่นนับเวลาตั้งแต่บิดกุญแจมาที่ ON เลย แม้เราไม่ได้สตาร์ทเครื่อง บิดกุญแจ ON แล้วเปิดเพลงฟัง แต่จอ MID มันก็นับเวลาเดินทางแล้ว เวลาเลยออกมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ ส่วนตัวคำนวนน้ำมันเห็นด้วยครับ ผมเคยลดต่ำสุดก็ 70 กม. มันก็ตัดมาเป็นการเตือนว่าระดับน้ำมันต่ำ  จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 19:06:48

ความคิดเห็นที่ 34 คห.15   คุณไทยเดิ้ง   ทางนครสวรรค์ - ตาก ช่วงที่แย่ๆ ตรงกำแพงเพชร  มีทำไปบ้างครับ แต่ก็ยังแย่เหมือนเดิม เพียงแต่ระยะทางที่แย่สั้นลง คห.31   คุณ Beloved - Leon  ของผมไม่ได้คืนภาษีครับ ไม่ใช่รถคันแรก คห.32   คุณหมูน้อยหน้าลิง ลองอ่านของคุณ bodyseries ดูมั้ยครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11946267/V11946267.html จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 19:16:19

ความคิดเห็นที่ 35 อ้าวแปะลิ้งไม่เป็นซะเรา ใครแปะได้ช่วยหน่อยแล้วกัน จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 19:17:41

ความคิดเห็นที่ 36 มิตซูผมอยากได้ 12-13 ต้องยอมวิ่งไม่เกิน 100 แต่ระนอง-รอบเกาะภูเก็ต-ระนอง ได้มา12.75กม/ลิตร จากคุณ : MitsuGrandis เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 20:58:48

ความคิดเห็นที่ 37 แต่แถบแสดง ระยะทางที่สามารถขับต่อไปได้ จริง ๆ เขาน่าจะทำให้มันละเอียดมากกว่านี้นะครับ ไม่ใช่ พอไฟเตือนน้ำมันขึ้นปุ๊บ ก็ไม่แสดงผลเลย แล้วก็ขึ้นข้อความว่า ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ ผมเคยขับไปเรื่อย ๆ หลังจากไฟเตือนนะครับ ขับไปสักพัก แถบน้ำมันจะเริ่มกระพริบ ๆ ครับ เอาแล้วไง ใจหายแล้ว มันจะหมดมั้ยนะ แต่จำได้ว่า เมื่อตะกี้ มันยังโชว์ 100 กว่าโล อยู่เลย พอกระพริบสักพัก แถบมันก็จะลดลงอีกครับ ลดไปจนหมด ไม่เหลือเลยนั่นเหละครับ แสดงว่า ใกล้หมดเต็มทีละ ผมขับจน แถบหมดเกลี้ยงเลย แล้วก็เติมน้ำมัน รู้สึกคราวนั้นเติมไป 71 ลิตร ประมาณนี้ (สเป็กโรงงาน ถังน้ำมันจุ 76 ลิตร) จากคุณ : Mr.VTEC เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 22:23:42

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆครับ กำลังอยากรู้อยู่พอดีเชียว ถ้าแบบนี้ก็คงไม่ต่างกันมากกับวีโก้ตัวเก่าของผม วิ่งทางเชียงใหม่นครสวรรค์ คนสองคน + สัมภาระ + บิ๊กไบท์ 1 คัน ก็ได้ประมาณนี้เหมือนกัน ประมาณ 12 กว่าๆ เริ่มสงสัยแล้วว่า ไอ่ที่แข่งกันจิ๊บๆบ้าง หนึ่งถังยังเหลือบ้าง คงจะพอๆกันซะละมั้ง แต่ยังไงก็ขอบคุณที่สละเวลามารีวิวให้ดูนะครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าขับเร็วนะครับ เป็นห่วง จากคุณ : เป็นบัตรผ่านตั้งนาน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:11:44

ความคิดเห็นที่ 39 ดูแล้วตื่นเต้นอยากได้รถเร็วๆ ผมจองเหมือนรุ่นนี้เป๊ะเลย อยู่เชียงใหม่เหมือนกันครับ แต่แอบเสียดายนิดหน่อยไม่ได้รถคันแรกกับเขา รุ่นนี้ได้ตั้ง 94000 จากคุณ : xxx เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:28:04 A:180.183.248.217 X: TicketID:354882

ความคิดเห็นที่ 40 #39 ขอบคุณครับ จากคุณ : Beloved-Leon เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:48:43

ความคิดเห็นที่ 41 ประหยัดกว่านาวาร่า 144 แรง อีกหนะ 5A/T เหมือนกัน แต่บอดี้หนูนาหนักกว่ามั้ง??? รถผมได้ 12.8 เอง ความเร็ว 100-110 เองครับ  เซ็งอ่ะ ออลนิว ของคุณจอมมาร ล้อโตกว่า กดเล่นไปเพลินๆ 130-140-150-160 ยัง ประหยัดดีแท้เหลา จากคุณ : oopz!136 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:57:02

ความคิดเห็นที่ 42 BT50 PRO 2.2AT ของผม 8โลลิตร/ในเมืองครับ ^^" จากคุณ : f_u_n เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:59:12

ความคิดเห็นที่ 43 คห. 27 คุณเข็มทรายครับ เบาะหลังสำหรับคนสูง 180 cm. ผมว่าพอไหว ตัวผมสูง 169 cm. นั้งแล้วความสูงบนเพดานยังเหลือเยอะส่วน Leg room เหลือพอสมควร ส่วนขาจะนั้งแล้วตั้งชันมากกว่าวีโก้นิดหน่อยเพราะเบาะหลังวีโก้ เซ็ทไว้สูงกว่า ออลนิวดีแม็กนิดๆ จะมีส่วนที่ไม่ค่อยสบายก็พนักพิงหลังที่ยังรู้สึกว่าชันอยู่ ถ้าทางไม่เกิน 400 กม.ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่ทางยาวๆแบบนี้มีเมื่อยกันบ้าง ผมเคยลองไปนั้ง FORD ตัวใหม่ก็มีความรู้สึกพอๆกันกับเจ้าออลนิวนี่แหละ ถ้าจะให้นั้งสบายที่สุดผมว่ายังไงก็ยังเป็นเจ้า TRITON อยู่ เพราะเบาะเอียงได้มากที่สุด แต่เนื้อเบาะผมว่ามันบางไปหน่อย จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 00:21:00

ความคิดเห็นที่ 44 คห.39   ขอให้ได้รถเร็วๆนะครับ คห.41  คุณ oopz!136 คิดว่าแรกกับความแรงแล้วกันครับ อิอิ คห.42   คุณ f_u_n มันได้เท่านั้นจริงๆหรือครับ ของผมอยู่ที่ 11.5 - 13 กม./ลิตร จริงผมชอบ BT50 PRO โฉมแคปตัวเตี๊ยสีดำอยู่นะครับ ผมว่าเอามาโหลดนิดๆ ใส่ล้อขอบ 19 กำลังสวยเลย   จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 00:34:36

ความคิดเห็นที่ 45 คห.38  คุณเป็นบัตรผ่านมาตั้งนาน ขอบคุณครับที่เป็นห่วง ที่เห็นผมขับเร็วผมมีทริกส่วนตัวน่ะครับ คือที่เห็นขับเร็วส่วนใหญ่ผมจะขับตามรถที่คันหน้าน่ะครับทิ้งระยะสัก 80 - 100 เมตรน่ะครับ โดยขับไปเรื่อยๆพอมีรถที่เค้าใช้ความเร็วที่เราพอใจแซงไป ก็ตามเลยครับ แต่ไม่ตามในระยะกระชั้นชิดน่ะครับ แต่ทิ้งระยะไม่ให้คันนำเค้ารำคาญ 80 - 100 เมตร ยิ่งเวลาขับเกิน 120 ตอนกลางคืนผมจะใช้วิธีนี้ประจำ ถ้าเกิดมีอะไร ฉุกเฉินขึ้นมาคันหน้าก็จะเจอก่อนครับ วิธีนี้ใครจะนำไปใช้ก็ได้นะครับ แต่ถ้าง่วงอย่าทำ เพราะไฟท้ายรถคันหน้ามันจะเหมือนสะกดจิตเรายังไงไม่รู้   จากคุณ : จอมมารลุ่มน้ำปิง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 00:47:18

ความคิดเห็นที่ 46 เมื่อไหร่ รถเราจะมาเนี๊ยะ คันไม้คันมือซะมัด ขอบคุณรีวิวเจ๋ง ๆ มากครับ ผมตามรีวิวอยู่ครับ เจ๋ง ทั้ง คุณจอมมารลุ่มน้ำปิง  กับ คุณ Bodyseries (เท้าหนักทั้งคู่ เหยียบกัน 130 140 เบา ๆ หน่อยนะครับ ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง) ถูกใจครับสำหรับรีวิว จากคุณ : Ambient เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 11:20:37