Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
****เห็นใครใครก็พูดถึงเรื่องซื้อรถคันแรก ผมขอแชร์ประสบการณ์การขายรถคันแรกครับ*** ติดต่อทีมงาน

ผมขายรถคันแรกไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2555  มีประสบการณ์ในการขายมาแชร์ให้ฟังครับ....

1. ต้องทำใจว่า ขายเต้นท์ หรือ เทิร์นกับศูนย์คือขายให้พ่อค้าคนกลางเค้ารับซื้อไปขายต่อ ดังนั้น ราคาต้องต่ำกว่าขายเอง แน่นอน

2. สิ่งที่ดีกว่าที่ได้จากการเทิร์น คือ ทำสัญญาขายรถเพื่อประกันราคาขาย แล้ว ขายในวันที่ ได้รับรถใหม่ ทำให้ผมมีรถใช้ตลอดจนถึงวันที่ได้รับรถใหม่

ผมใช้รถ Jazz 2005 S/AT เป็นรุ่นรองบ๊วยครับ ไม่มีแอร์แบ๊ค ไม่มีเอบีเอส ไม่มีล้อแม๊ค ไม่มีสเกิร์ต  เป็นตัวธรรมดา ไมล์ประมาณ แสนหก ใช้มา เจ็ดปี  ขายได้ 300000 บาทครับ...เข้าใจว่าขายเองคงได้มากกว่านี้ แต่เนื่ืองจากมีความจำเป็นต้องใช้รถทุกวันจึงเลือกเทิร์นกับศูนย์ครับ....

ศูนย์ที่ผมไป มีทั้งรับซื้อเอง และเรียกเ้ด้นท์มาตีราคา

ศูนย์ที่รับซื้อเอง ให้ราคาเริ่มต้นต่ำมากๆ 260K - 270K ตีราคาโดยยังไม่ได้ลองเครื่องนะครับ ซึ่งคิดว่าถ้าลองเครื่องแล้วคงจะต้องหาทางติให้ราคาลงไปอีก

ส่วนศูนย์ที่เรียกเ้ต้นท์มาตีราคา  เซลส์ให้คุยกันคนตีราคาแนะนัดสถานที่ดูรถกันครับ  วิธีดูรถซึ่งคิดว่าน่าจะเหมือนกันทุกทีคือ
- ดูโครงสร้างของรถว่าโดนชนมาบ้างหรือไม่  โดยจะเปิดประตูทุกบาน ดูขอบตัวถึงริมประตู ถ้ามีรอบทำสี หรือ บุบ ก็จะถูกกดราคาลงไป   เปิดท้ายแล้วดูในหลุมยางอะไหล่ เพื่อจะดูว่าถูกชนท้ายมาหรือไม่ และถูกชนมาแรงหรือไม่ เพราะในส่วนตรงนี้ถ้าช่างทำไม่เนียน คนตีจะดูออก  สำหรับรถผมนั้นถูกตัดราคาเพราะส่วนนี้ครับ เคยโดยแท็กซี่ชนท้ายเบาๆ ช่างทำแต่กันชนกับฝาท้ายไม่ได้เก็บรายละเอียดในหลุมยางอะไหล่ทำให้เห็นชัดมากๆ   สุดท้ายเปิดฝากระโปรงหน้าดูโครงสร้างด้านหน้าครับ  เ้ข้าใจว่ารถที่ถูกชน กับ รถที่ไม่เคยถูกชนจะมีตำหนิไม่เหมือนกัน
- ลองขับ อย่างที่รู้กันว่า CVT เป็นจุดขายและเป็นจุดตายของรถแจ๊ส  ผมชอบ CVT ครับ เพราะมันทำให้ไม่รู้สึกว่าเปลี่ยนเกียร์ (เพื่อนที่แนะนำให้ซื้อบอกเหมือนขับรถก๊อล์ฟ) เข้าเรื่องดีกว่า   คนตีราคารถ จะลองขับ ลองถอยหลัง เพื่อดูว่าเกียร์ใกล้จะเสียหรือยัง แม้ว่าจะยังไม่เสียหรือไม่มีอาการ  คนตีราคาก็จะพยายามบอกว่า เดี๋ยวมันก็จะเสีย เพื่อ ??????????
- ดูสภาพภายนอกและภายในโดยรอบ  ผมเห็นคนดีราคาเค้าเดินไปรอบๆ รถเพื่อดูสภาพภายนอก และภายในโดยรวม ดูแบบไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ครับ  ผมถามเค้าว่า ถ้าไปทำสีเพิ่มจะได้ราคาเพิ่มหรือเปล่า เค้าบอก เค้าไปทำเอง เนียนกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำสีเพิ่มครับ
- ดูคู่มือการเข้าศูนย์บริการ (ถ้ามี) จริงๆ แล้วผมคิดว่า เค้าคงไม่ค่อยสนใจว่า เข้าศูนย์ตลอดหรือไม่ หรือถ้าเข้าศูนย์ตลอดจะทำให้ราคาดีขึ้น  แต่เค้าดูรุ่นรถอย่างเป็นทางการ ที่จะเขียนชื่อรุ่นไว้ในเล่มคู่มือการเข้าศูนย์ครับ

หลังจากดูโน้นดูนี่แล้ว ก็จะเข้าโหมดต่อรองราคา  ถ้ามีราคาอยู่ในใจ ควรจะบวกไปซัก 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะยังไงก็จะต้องมีการต่อ  แต่ตอนนั้นผมลืมครับ และตอนแรกคุยกับเซลส์บอกจะได้รถเดือนนี้ ก็เลยจะรีบให้ตีราคา  แต่ตั้งราคาในใจไว้ว่า 300K ก็โอเคแล้ว   คนตีราคาจะถามราคาเป้าหมายของเรา แล้วก็คิดในใจว่า ซื้อไปแล้วเค้าไปทำอีกนิดหน่อย เอาไปขายบวกราคาเพิ่มซัก 50K จะได้หรือเปล่า ถ้าได้เค้าเอาแน่นอน.....(อันนี้ คหสต. นะครับ) เพราะดูหน้าพี่ที่มาตีราคาแล้ว เหมือนเค้าจะพอใจครับ....

สรุปว่า รถผมขายได้ 300K ครับ ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะให้ เต้นท์ที่ติดต่อกับศูนย์มาตีราคา ผมแวะไปตีที่เต้นท์ใกล้ๆ กัน มีวิธีการดูรถคล้ายๆ กัน ก็ให้ราคา 300K เหมือนกัน แต่ต้องขายทันที  พอผมบอกว่า ต้องรอรถ ซึ่งน่าจะได้ตอนสิ้นเดือน  เจ้ที่ตีราคาก็บอกว่า ราคาคงต้องหย่อนลงนิดนึง.....มันคงเป็นกลยุทธ์การต่อรองนะครับ

***ขอจบประสบการณ์ขายรถคันแรกไว้ตรงนี้นะครับ****

ปล. ระหว่างที่รอตีราคา ผมเอารูปรถไปลองขายตามเวปต่างๆ โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 350K (ซึ่งคิดว่าคงจะโดนต่อซักหมื่น-สองหมื่น) ผ่านไปวันเดียวก็มีคนโทรมาถามครับ....

 
 

จากคุณ : mahnoitammada
เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 20:12:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com