รู้จักวัสดุในจักรยานของคุณ_คาร์บอน ไฟเบอร์,ไททาเนียมและอลูมิเนียม(4)
|
|
จักรยานสมัยใหม่และอุปกรณ์จักรยาน สร้างขึ้นโดยกรรมวิธี ใช้วัสดุที่ทำให้บริสุทธิ์ชั้นสูง พร้อมกับชื่อวัสดุต่างๆ ที่เราจดจำและเรียกกัน เป็นที่มาของรถที่ทำจากวัสดุบางชนิดในราคาที่สูงลิ่ว
แต่เราไม่สนใจแหล่งกำเนิดและวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังวัสดุเหล่านั้น บางครั้ง เข้าใจผิด ในหน้าต่อไปนี้นักเขียนนิตยสาร Velo News Buyers guide _2011 Lennard Zinn ตรวจสอบวัสดุต่างๆ ที่ทำให้เราขับเคลื่อนไปบนล้อ
ตอนที่ 4: คาร์บอน ไฟเบอร์ :CARBON FIBER, ไททาเนียม :TITANIUM อลูมิเนียม : ALUMINIUM คาร์บอน ไฟเบอร์
คิดถึงการประกอบกระสวยอวกาศที่น่าทึ่ง เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้, ตอนนี้มีการนำคาร์บอน ไฟเบอร์ นำมาใช้ในการประกอบจักรยานทุกคัน .เริ่มตั้งแต่เฟรมไปจนถึงส่วนประกอบของหมวก และพื้นรองเท้า .
คาร์บอนไฟเบอร์ ประกอบด้วยคาร์บอน , ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ที่ก่อรูปเป็นถ่านหิน กราไฟต์และเพชร และเป็นส่วนประกอบทางเคมีของอินทรีย์สารและอยู่ในสิ่งมีชีวิตบนโลก. คาร์บอน เป็นสารประกอบที่มีอยู่มากที่สุดเป็นลำดับ 4 ในเอกภพ และเป็นสารที่มีมากเป็นลำดับ 2 ในร่างกายมนุษย์
เพิ่มเติม (Carbon-fiber นั้นมีพื้นฐานมาจากพลาสติกธรรมดา เพราะมันคือ Polyacrylonitrile (โพลิอะคลิโลไนไทรล์) เรียกย่อๆ ว่า PAN PAN ก็คือต้นกำเนิดที่ใช้ในการผลิตผ้า เรยอง นั่นแหละ โดยเราจะเอาโมเลกุลที่ไม่มีความแข็งแรงเหล่านี้ มาเปลี่ยนแปลงการเรียงลำดับโครงสร้างทางเคมีกันใหม่ ซึ่งการผลิตเส้นใย carbon จาก PAN นั้นมี 4 ขั้นตอนดังนี้ 1. Oxidation คือ ขั้นตอนที่เอาเส้นใย PAN มาเผาที่ความร้อนสูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส จนเส้นใย PAN เปลี่ยนจากสีขาวกลายเป็นสีดำ โดยจะต้องเผาให้ทั่วจนถึงส่วนที่ลึกที่สุดของเส้นใย PAN เมื่อจบขั้นตอนนี้จะได้ผ้า Nomex หรือเสื้อกันไฟได้ แต่หากเราต้องการ carbon-fiber มันยังไม่พอ 2. Carbonisation คือ การแยกธาตุทุกชนิดที่ไม่ใช่ carbon ออกจากเส้นใย PAN โดยวิธีแยกก็คือ นำไปเผาที่ความร้อน 10,000-30,000 องศาเซลเซียส ในบรรยากาศไนโตรเจนด้วยความดันสูงมาก ไม่ใช่ที่บรรยากาศโลก หรือ สุญญากาศ โดยยิ่งเผาที่ความร้อนสูงเท่าไร carbon-fiber ก็จะยิ่งมีความแข็งแรงมากเท่านั้น 3. Surface Treatment คือการเคลือบผิวหน้าของเส้นใย ให้สามารถรวมตัวกันเป็นเส้นใยที่ใหญ่ขึ้นเพื่อนำไปใช้งาน โดยการเคลือบจะใช้สารประกอบโพลิเมอร์ ซึ่งสามารถยึดเกาะโครงสร้างเล็กๆ ให้สามารถคงรูปอยู่ได้ และทำให้เส้นใยมีความแข็งแรง หากเคลือบไม่ดีเวลานำเส้นใยไปใช้อาจจะมีโพรงอากาศเกิดขึ้น และทำให้มันไม่แข็งแรง พูดง่ายๆ ก็คือเปราะ 4. Surface Coating คือการเอา อีพ็อกซี่ มาเคลือบผิวเพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่มีการหลุดรุ่ย เพราะ carbon-fiber ที่เรานำมาใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปผืนผ้า ที่จะต้องนำมาตัดและขึ้นรูปกับแม่พิมพ์แล้วทำการหล่อเพื่อนำไปใช้งานอีกที โดยหากเราเคลือบไม่ดี เส้นใย carbon จะหักเป็นเศษเล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และหากคุณสูดมันเข้าไปจะเป็นต้นเหตุของมะเร็งขั้วปอดได้ ข้อมูลเพิ่มเติม จาก http://www.lancer-club.net/forum/index.php?topic=39851.0)
จากคุณ |
:
Stuff_shirt
|
เขียนเมื่อ |
:
11 มิ.ย. 55 07:01:17
|
|
|
|