ความคิดเห็นที่ 1 มีรถ มันสะดวกก็จริง แต่หลายๆคนก็ทุกข์สาหัสจากการผ่อนรถนะคะ ยังไงเอามาลงห้องรถนี้ไว้ เผื่อใครกำลังตัดสินใจซื้อรถจะได้ประเมินถูกค่ะ ถ้าผิดห้อง แจ้งลบได้เลยค่ะ จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:14:25

ความคิดเห็นที่ 2 ห้ามให้ตายก็ไม่มีใครฟัง ของแบบนี้มันต้องโดนเอง.... ไม่ได้ว่าใครนะ จากคุณ : แพะภูเขาเจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:20:47

ความคิดเห็นที่ 3 เงินเดือน 20,000 บาท ถ้าผ่อนรถ 50% ไม่รอดล่ะครับ เหนื่อยมากๆครับ จากคุณ : เด็กบูรพา เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:24:55

ความคิดเห็นที่ 4 ทำออกมาได้ดีครับ แต่ผมว่าคนเงินเดือน 2 หมื่น คงไม่มีใครคิดซื้อรถ 8 แสน กระมังครับ ลองทำแบบเดิมแต่เป็นคชจ.สำหรับรถที่ราคาประมาณ 4.5 แสน ดูสิครับ คนเงินเดือนแบบนี้ คงอยากได้อีโคคาร์เกียร์ออโต้กันเป็นส่วนใหญ่ ผมว่า เขาพอจะอยู่รอดกันได้บ้าง ต้องอย่าลืมว่าเขายังอาจมีรายได้จากแหล่งอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย เช่น หา job พิเศษ, พ่อแม่พี่น้องช่วยผ่อน, เอารถที่ได้มานำไปทำประโยชน์หารายได้เพิ่มเติม, ค่าใช้จ่ายการเดินทางรถแท๊กซี่,รถไฟฟ้าที่ลดลงไป ฯลฯ รายได้เหล่านี้ล้วนทำให้คชจ.ต่าง ๆ ลดลงไปได้พอควร ผมเองซื้อรถคันแรกตอนทำงานได้สักสาม-สี่ปี รับฝิ่นรับจ๊อบนอก ขอเงินพ่อแม่มาโปะบ้างสัก 1 ใน 3 ก็ออกรถมือสอง ราคา 3 แสนกว่า ๆ เงินสดได้แล้วครับ มันจำเป็นสำหรับครอบครัวเวลาไปไหนมาไหนด้วยกันสะดวกกว่ามาก คชจ.อื่น ๆ เราก็กินอยู่อย่างประหยัดหน่อย งานสังคม เที่ยว ก็ไม่ต้องไปให้มากนัก และไม่ต้องหน้าใหญ่ให้มันมากนัก ก็พอประครองไหวครับ อีกอย่างเงินเดือนก็ไม่ได้คงที่ทุกปี ถ้ามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มันก็ช่วยได้อีกเยอะเช่นกัน แต่หากจะมีรถเพื่อใช้อวดชาวบ้าน คงจะแย่แน่นอน เพราะรถยังอวด คชจ.ทางสังคมอื่น ๆ คงต้องอวดอีกมากมาย เช่น มือถือ เสื้อผ้า กระเป๋า ฯลฯ ถ้าเป็นแบบนี้คงไม่รอดครับ ตายหยังเขียด จากคุณ : SitWalkStand เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:30:50

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถจริงๆ เงินเดือน 20000 ซื้อ Eco car ราคา 4 แสนกว่าบาท ก็ไม่เกินความสามารถนะ ประหยัดๆหน่อย จากคุณ : DoraeMa เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:31:33

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตค่ะ.... จากคุณ : ลิงกะหมา เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:34:21

ความคิดเห็นที่ 7 เงินเดือนแค่นี้ อีโค คาร์คำตอบสุดท้าย โบราณว่านกน้อยทำรังแต่พอตัว ยังใช้ได้ดี จากคุณ : vq2000 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:53:43

ความคิดเห็นที่ 8 อ๊ะ...ช่วยโหวดด้วยครับ ถามกันมาเยอะมากเหลือเกิน กับเงินเดือนเท่านี้ ผ่อนรถเท่านั้น จัดผ่านไม่ผ่าน สุดท้ายลืมถามตัวเองว่าไหวไหม ดันไว้ให้เข้ามาดูกันก็ดีนะ จากคุณ : OP_Por เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 18:55:18

ความคิดเห็นที่ 9 ลองจัดคันประมาณ450,000-500,000ให้ดูหน่อยเงินจะเหลือมัย จากคุณ : สุ่นต่าน86 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:01:36

ความคิดเห็นที่ 10 มิราจ  อัลเมร่า  มาร์ช  บริโอ  โซนิค  อาวิโอ  วีออส  ซิตี้  น้อง 2 ราคา 380,000-600,000  แล้วแต่จะเลือกมีหลายออฟชั่น ดาวน์ 120,000 ผ่อน 4,000-6,500  72 งวด แล้วแต่จะเลือกอีกนั่นแหละ ผมเงินเดือน 34,000 ยังซื้อวีออสใช้เลย ต้องดูภาระอื่นๆด้วย จากคุณ : O O (อังเคิลโอ๋) เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:07:34

ความคิดเห็นที่ 11 เราทำธุรกิจส่วนตัว กำไรต่อเดือนไม่ต่ำกว่าแสน ยังออกสวิฟเล๊ย ..มีเล็กแต่ผ่อนจบ ดีกว่ามีใหญ่แต่โดนยึดเน้อ จากคุณ : สังกะสีมีคม (dream drama) เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:12:05

ความคิดเห็นที่ 12 เงินเดือน 20,000 บาท ผมว่าผ่อนรถได้ไม่เงิน 5,000 บาทอะครับ ไม่งั้นไม่ไหวแน่เลย จากคุณ : modmodmo เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:14:35

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบมากครับ ผมถึงออก Almera ไง เพราะมันทำให้ชีวิตไม่ต้องเหนื่อยกับค่าใช้จ่ายรถยนต์ แต่เพื่อนผมออก Lancer EX ตัวรอง Top ดูท่าจะไม่ไหวแล้วครับ หากมันไม่เลิกเที่ยว เลิกกินเหล้า โดนยึดแน่ๆ จากคุณ : ข้ามคืน เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:49:52

ความคิดเห็นที่ 14 ซื้อมือสอง สาม สี่ ฯ แสนสอง จ่ายสด จากคุณ : สิงโตยนต์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:55:36

ความคิดเห็นที่ 15 มันน่าโหวต จากคุณ : ซุ่มในซอย เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 19:58:32

ความคิดเห็นที่ 16 เงินเดือน  15,000.-   ผ่อนบ้าน  4,000.-   กำลังจะผ่อนรถเกือบ  6,000.-   ยืมเงินแม่มาดาวน์  ต้องทยอยคืนเงินให้แม่อีก   ต้องจ่ายค่าเทอมเรียนโทเทอมละ  50,000.-   T^T จากคุณ : BKC เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:10:55

ความคิดเห็นที่ 17 ยอดเวอร์ไปนะครับ 8 แสน... จิงๆ น่าจะอยู่ที่ 5-6 แสน.. เกินไป 2 แสน สองแสนเนียเกินไปเยอะนะครับ...คริๆ...แต่ก็ขอบคุณมากครับ ที่อุตส่าห์คิดออกมาได้ จากคุณ : Externalman เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:13:43

ความคิดเห็นที่ 18 ผมซื้อมือสอง เงินสดเลย แล้วซ่อมใหญ่สองครั้ง จากนั้นใช้ยาวเลย... ปล. แต่ที่ไม่จบคือแต่งไม่จบต่างหาก อิอิ^^ จากคุณ : Alphadog เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:21:32

ความคิดเห็นที่ 19 มีจริงๆนะ  หนุ่มออฟฟิต ใช้ชีวิตแบบชาวเมือง เงินเดือนสองหมื่นกว่าๆ   ... อีโคไม่เอา(กระจอกไป)  รถเล็ก1.5ไม่เอา(กระจอกไป)  มือสองไม่เอากลัวจะดูเป็นคนจน   ต้องครูซ ซีอาร์วี ระดับนี้ขึ้นไป และต้องป้ายแดงเท่านั้น... ซึ่ง ระหว่างที่พักกับที่ทำงาน มีรถไฟฟ้าผ่าน  ที่ห้องพักก็ไม่มีที่จอด ยังงงๆอยุ่ ว่ามันทำไมคิดแบบนี้ ตอนนี้คงเก็บเงินดาวน์อยู่   อีกสักพักคงถอยรถ จากคุณ : ผู้หญิงโหดร้าย เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:23:14

ความคิดเห็นที่ 20 เอาจริงบ่งคนเงินดาว์นยังกู้มาเลยครับ จากคุณ : Steve Davis เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:31:56

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าถ้าอยากได้จริงๆ เก็บเงินดาวน์ให้เยอะที่สุด จากคุณ : toonza191 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:41:20

ความคิดเห็นที่ 22 ลองคำนวณบ้าง แล้วแบบนี้เอาไงดี T_T" แต่เรามีเงินนอกอีก ตัดสินใจไงดี จะจองดีไม่ดี จากคุณ : thegenius เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:42:15

ความคิดเห็นที่ 23 แบบนี้ต้องเป็นไฟล์ Excel ไปเลย แจกกันไปคำนวณให้กระจาย  จากคุณ : weerached เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:49:42

ความคิดเห็นที่ 24 รายได้เดือนนึงๆเกือบสี่หมื่นบาท ไม่มีหนี้อื่นๆ ผ่อนรถเดือนละ10500ยังตึงๆเลยค่ะ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพง กินข้าวมื้อนึงข้างทาง ก๋วยเตี๋ยวชามละสี่สิบ เฮ๊ออ เซงเป็ดดดดด จากคุณ : เจ้าออย เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:59:24

ความคิดเห็นที่ 25 ให้พ่อกับแม่น้อยจัง น่าจะให้คนละ 1000 อ่ะ อิอิ จากคุณ : fin_jung เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 20:59:31

ความคิดเห็นที่ 26 ถูกใจหลายๆ ท่านครับ เรื่องแบบนี้ เหมือน ธรรม ครับ คือต้องเจอด้วยตัวเองแล้วจะรู้เอง   เพื่อนบางคนมาปรึกษา เราบอกว่าเหนื่อยกว่าที่เห็นนะ การครอบครองรถ 1 คัน มันไม่ได้ยาก แต่ จะให้รถแสนรักของเราอยู่กับเราไปได้จนเป็นไท โดยไม่โดนใคร ยืมไปโดยไม่บอกกล่าวกัน และไม่นำมาคืน มันยากยิ่งกว่า บางคนต้องเจอกับตัวครับเพราะหัวแข็งและหัวสูงเกินไป จากคุณ : kie001 (kook_ng) เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 21:01:47

ความคิดเห็นที่ 27 ซื้อรถเกินตัวไปครับ รถแค่ 5-6แสนพอ ค่าเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์ตัดทิ้ง ค่าซักผ้าซักเองบ้างอะไรบ้าง ประกัน 2+พอ จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 21:15:08

ความคิดเห็นที่ 28 บางคนกลัวน้อยหน้าคนอื่นไง เอาโก้ อวดรวย สุดท้ายโดนยึด จากคุณ : [Sakura] เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 21:43:04

ความคิดเห็นที่ 29 โอแม่เจ้า...คิดหนักทันที กำลังอยากได้รถราคาหลัก ล้าน... นี่ขนาดเงินเดือนคิดว่าพอไหวนะเนี่ย ยังขยาด เปลี่ยนใจไปคบ เจ็ดแสนพอแระ... จากคุณ : a dear เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:09:05

ความคิดเห็นที่ 30 บริษัทไฟแนนซ์จัดประมูลรถเมื่อไหร่ น่าจะเห็นซุปเปอร์ 1500+อีโคคาร์อยู่ในลิสต์ หนาตา จากคุณ : องค์ประกอบศิลป์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:10:47

ความคิดเห็นที่ 31 ต่อให้อีโคคาร์ผมก็ว่าตึงมืออยู่ดี ในตารางยังขาดค่ารักษาพยาบาลด้วย ตลอดช่วงที่ผ่อนรถต้องรักษาตัวให้ดีๆ ห้ามป่วย ห้ามเจออุบัติเหตุ ไม่งั้นต้องกู้เงินมารักษาตัว ทุกวันนี้ผมไม่ได้ผ่อนรถแล้ว(ซื้อสดมือสอง) เอาแค่จ่ายค่าน้ำมันยังแทบกระอักเลย จากคุณ : แมวพุงป่องหูกาง เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:13:28

ความคิดเห็นที่ 32 ค่าประกันสังคมกับเงินออมเผื่อไม่สบายลืมคิดหรือเปล่า จากคุณ : ใบอ้อที่ล้อลม (ใบอ้อที่ล้อลม) เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:19:46

ความคิดเห็นที่ 33 เงินเดือนสองหมื่นใช้รถคันละแปดแสน แต่อยู่ห้องพักเดือนละ 3000 บาทมันไม่สมดุลกันเลย คงต้องทำให้สมดุลด้วยการซื้อรถให้ถูกกว่านี้สักครึ่งนึง แล้วไปอยู่ที่อยู่อาศัยที่ดีกว่านี้น่าจะสร้างสมดุลและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ครับ   ปล. คำว่าเงินเดือนคงเอามาใช้ไม่ได้เสียแล้วกับคนที่คิดจะซื้อรถ กลายเป็นสร้างบรรทัดฐานผิดๆ ที่จริงควรจะใช้ว่าเหลือเงินออมหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วเดือนละเท่าไหร่มากกว่า ถ้ายังประเมินเรื่องใช้จ่ายตัวเองไม่ได้ก็ไม่สมควรซื้อรถเพราะซื้อแล้วชีวิตมันจะโหดกว่านี้อีกครับ จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:31:49

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าเงินเดือนตามนั้น ต่อให้ลดยอดมาผ่อนเดือนละ หกพันกว่าบาทยังอ๊วกเลยครับ เพราะถ้าคิด คชจ ตามนั้น รถก็คงจอดไว้ซะมากกว่า แล้วคุณจะไม่มีสังคมบ้างเลยเหรอครับ นกน้อยทำรังแต่พอตัวครับ จากคุณ : นายหนึ่ง คนเดิมๆ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:36:57

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่เอาอัตราขึ้นเงินเดือน  โอที กับโบนัสมาคิดเป็นรายได้เพิ่มด้วยหรือครับ บางคนเขามีรายได้พิเศษทางอื่นด้วยนะ รายได้คงที่ตลอด 7 ปีนี่สงสัยทำงานยังไงกัน ลองปรับตัวเลขดูใหม่มั้ย จากคุณ : It's country เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:39:57

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าไม่มีพ่อ-แม่ช่วย หรือมีเงินเก็บที่มากพอ  เงินเดือน 30,000 ยังไม่กล้าออกรถกันเลยคับ จากคุณ : My_LovE_HapPyNesS เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:45:14

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเงินเดือนสองหมื่น ค่ารถ บ ช่วยจ่ายให้แปดพัน น้ำมัน บ จ่ายให้อีกแปดพัน หนี้บัตรนิดหน่อย ค่าโทรศัพท์ฟรี บ.ให้ค่าอาหารเดือนละสองพัน ผมกินเหล้าน้อยลง แต่เบียร์ฟรี (แต่ก็ไม่ค่อยได้กิน รักษาสุขภาพ) ก็พอใช้พออยู่ได้นะครับ จากคุณ : mr.virgin เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 22:50:18

ความคิดเห็นที่ 38 ขอโหวตครับ ใครคิดจะผ่อนรถราคาแพง แต่รายได้สุทธิยังไม่พอผ่อน แนะนำขนส่งสาธารณะ จากคุณ : Neo_zeeout เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:01:31

ความคิดเห็นที่ 39 โอที กับ โบนัส ไม่ควรนำมาคิดรวมเป็นรายได้เพื่อผูกภาระ เพราะมันไม่แน่นอนครับ เอาไว้ออมดีกว่า อัตราการขึ้นเงินเดือน เอามาคำนวณได้ แต่ต้องหักเงินเฟ้อก่อน ถึงจะชัดเจนครับ จากคุณ : คุณประพล เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:02:55

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าที่ทำมาเป็นของตัวเองก็เป็นคนโง่มาก แต่ถ้าทำมาเตือนคนอื่นก็ขอขอบคุณ จากคุณ : munited เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:07:18

ความคิดเห็นที่ 41 เงินเดือนละเกือบแสน ผมยังใช้สามห่วงเลยครับ... จากคุณ : แม๊กกี้สวิส เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:14:59 A:58.8.79.198 X: TicketID:364406

ความคิดเห็นที่ 42 file นี้มีหลายอย่างที่ไม่สมจริง 1. ค่าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ถ้าต้องประหยัดมันก็ตัดไปได้ 2. ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ปกติคนที่เช่าบ้านเค้าไม่ผ่อนรถกันหรอก เค้าย้ายบ้าน หรือย้ายหอไปใกล้ๆ ที่ทำงานเพื่อให้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเดินทางดีกว่า คนที่ผ่อนรถคือมีบ้านไกล เลยต้องผ่อนรถ ส่วนคนที่ผ่อนบ้านอยู่เค้าก็ไม่หาเรื่องมาผ่อนรถต่อหรอก ผ่อน 2 อย่างมันหนักเกินไป 3. ถ้าต้องเสียค่าน้ำมันขนาดนั้น ราคารถคงรวมค่าติดแก๊สไปแล้ว คนที่คิดจะมีรถเค้าต้องคำนวนแล้วว่า ต้นทุนค่าเดินทางมันต้องถูกว่าเดิม ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รวม 1. ค่าประกัน ถ้าไม่มีจะกินก็ทำชั้น 3 ก็พอแล้วขับให้มันระวังหน่อย 2. ค่าเปลี่ยนยาง ปกติมีอายุกัน 5 ปีขึ้น ดังนั้นก่อน 5 ปีนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอย่าเอามาเฉลี่ย และเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน เงินเดือนโบนัส มันไม่ปรับขึ้นเลยหรือ 3. ค่าซ่อมบำรุง รถใหม่อยู่ในประกันไม่เสียนะจ๊ะ อาจจะมีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็แค่พันนิดๆ ไม่ถึงหมื่น 4. ประกันชีวิตอันนี้ขอคืน เอาไปจ่ายเป็นเงินดาวน์แล้ว ไม่เหลือจ่ายหรอกส่วน เงินเดือน 20K หักภาษีอย่างมากไม่เกิน 1000 สรุป ค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ต่อปีเฉลี่ยต่อเดือนก็แค่ 1000 จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:38:12

ความคิดเห็นที่ 43 ^^^^ คุณพี่ข้างบนผ่อนรถอยู่หรอครับ :) จากคุณ : SamT เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:44:38

ความคิดเห็นที่ 44 ทำไมแต่ก่อนเงินเดือนเรา 2หมื่นนิดๆ ผ่อนรถเดือนล่ะ 11056 บาท ได้อ่ะ มันขึ้นอยู่กับคนมากกว่า ถ้าคิดแบบนั้นคงไม่ต้องซื้ออะไรแล้วอ่ะ จากคุณ : รักคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:46:04

ความคิดเห็นที่ 45 ลองคิดดูแบบนี้ เงินเดือน 25000 ซื้อ eco car  4 แสน ยังตึงสุดๆ สาวๆดูไว้ครับ ชอบคนมีรถกันนัก รู้หรือเปล่า ค่าผ่อน และอื่นๆแล้ว เขาแทบไม่เหลือเงินเลย สู้พวกโหนรถเมล์ ไม่ได้ มีเงินเก็บเยอะกว่าอีก จากคุณ : NumFai เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 55 23:52:27

ความคิดเห็นที่ 46 กระทู้นี้โดนใจมากเลยครับ สุดๆๆเลยอย่างผมเนี่ยก็อยากจะมีรถขับนะครับ แต่คิดไป-มา นอกจากค่าส่งรถในแต่ละเดือนแล้ว ยังมีค่าน้ำมันในระดับ 1000+ อีก คิดไปมา ความอยากหายไปเลย ไว้เราพร้อมกว่านี้มากๆค่อยออก ต้องใจเย็นๆ ส่วนเพื่อนผมเค้าใจร้อน ไปออกรถมือสองมา ราคา 3แสนกว่า รวมดอกไปก็ประมาณ 4แสนกว่า เพิ่งออกมาได้ไม่นาน วันนี้เห็นมาบ่นว่า หากจะปล่อยรถยึดเนี่ยจะเป็นอะไรมั้ย คือได้ยินแล้วอึ้งอ่ะ เค้าบอกว่าราคารถเค้าเนี่ยออกอิโค้คาร์ป้ายแดงได้เลย ผมก็เลยถามไปว่าแล้วจะออกรถอะไร อีโคคาร์ยี่ห้อไหน เค้ากลับบอกว่า เค้าไม่เอาอีโคคาร์หรอกมันเล็กไป ผมก็เลยถามตอบไปว่า จะเอา วีออสหรือซิตี้หรอ เค้ากลับหัวเราะและตอบว่าไม่เอาหรอก เค้าจะเอาระดับซีวิค โหยยยเราคิดในใจซีวิคเริ่มต้น 7แสนกว่า ขนาดรถมือสองราคา 4 แสนกว่า ยังบ่นแล้วบนอีกว่าไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมัน -*- แล้วจะยังส่งสัญญาณว่าจะส่งต่อไม่ไหวแล้ว แล้วออกซีวิคนี่จะรอดมั้ยเนี่ย แล้วยังมีมาถามผมอีกว่าทำไมไม่ออกรถยนต์ (คือผมมีแพลนจะออก HONDA PCX ) คือพูดในแนวกึ่งๆว่าออกทำไมมอไซต์ ผมก็เลยตอบไปว่า ออกรถอ่ะ มีปัญญาดาวน์นะ 15-25 % ก็ดาวน์ได้ ไม่ยากเลย ส่งต่อเดือนก็ส่งได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่มันไม่ใช่แค่ส่งรถอย่างเดียวอ่าดิ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าอื่นๆอีกจิปาถะ เอามอไซต์ดีกว่า ต่อเดือนเติมแค่หลักร้อยเอง  แต่ก็นะอย่างว่าเค้าก็ยังยืนยันว่าจะเอาซีวิคให้ได้ก็เลยปล่อยเลยตามเลย เนี่ยแหล่ะหนา คนที่ไม่ประมาณตน ใช้จ่ายเกินตัว จากคุณ : เจ้าชายโตโร่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:07:01

ความคิดเห็นที่ 47 ผมเนี่ยละครับ ตอนเรียนจบใหม่ๆ เงินเดือน 14,000 ซื้อรถคันละ 9แสน เอาเงินแม่ดาวน์ ผ่อนเดือนละ 13,xxx จ่ายค่าน้ำมันเดือนละ  13,xxx-16,xxx ประชันชั้นหนึ่งทุกปี  ยางขอบ17เปลี่ยนทุกปีครับ จ่ายคืนแม่เดือนละ 10,000 ทุกวันที่ 1 ของเดือน ไม่มีเลื่อน ก็ผ่อนหมดมาแล้วววค๊าบบ  ถ้าคิดว่าไหว อย่าไปกลัว   มูลค่ารถผมตอนนี้คงประมาณ 4-5 แสน แต่ใครมาให้เก้าแสนเท่าเดิมผมก็ไม่ขายนะค๊าบบ จากคุณ : ES_BK เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:31:30

ความคิดเห็นที่ 48 จบมา4เดือน เงินเดือน 19,000 ผ่อนรถ 8,500 ให้ที่บ้าน 5,000 ก็ยังอยู่ได้ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:42:32

ความคิดเห็นที่ 49 คหที่ 42 ครับ ด้วยความเคารพ ^^" file นี้มีหลายอย่างที่ไม่สมจริง แต่มันคือชีวิตจริงในหลายๆคนครับ 1. ค่าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ถ้าต้องประหยัดมันก็ตัดไปได้ ///หากเป็นผู้หญิงคิดว่าจะตัดได้หรอครับในส่วนนี้ อย่างมากก็ซื้อให้น้อยลง ตรงนี้แล้วแต่คนจะบริหาร แต่หากจะให้ตัดคงไม่ได้  เสื้อผ้าคุณจะไม่ซื้อใส่ซื้อเปลี่ยน หรือยอมไม่แต่งหน้า ปล่อยโทรมจนครบ 72 เดือนเลยหรอครับ 2. ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ปกติคนที่เช่าบ้านเค้าไม่ผ่อนรถกันหรอก เค้าย้ายบ้าน หรือย้ายหอไปใกล้ๆ ที่ทำงานเพื่อให้ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเดินทางดีกว่า คนที่ผ่อนรถคือมีบ้านไกล เลยต้องผ่อนรถ ส่วนคนที่ผ่อนบ้านอยู่เค้าก็ไม่หาเรื่องมาผ่อนรถต่อหรอก ผ่อน 2 อย่างมันหนักเกินไป ///คนที่เค้าผ่อนทั้งบ้านและรถมีเยอะไปครับแล้วแต่เค้าเพราะหากไหวเค้าก็คงทำ ส่วนคนที่เช้าห้องเช่าคอนโดอยู่เค้าก็ออกรถกันเยอะแยะ แต่ที่กระทู้นี้ตั้งมาเพราะเพื่อเตือนใจสำหรับคนเหล่านั้นครับ ซึ่งมีมากมายในรอบตัวเราหากคุณ คหที่42 คิดแบบนั้นก็ถูกต้องแล้วครับว่าไม่ควรทำ แต่ละคนมีรถเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกัน บางคนบ้านใกล้ที่ทำงานก็จริง รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน แต่ก็ออกรถมาเพื่อโก้ ก็เยอะ 3. ถ้าต้องเสียค่าน้ำมันขนาดนั้น ราคารถคงรวมค่าติดแก๊สไปแล้ว คนที่คิดจะมีรถเค้าต้องคำนวนแล้วว่า ต้นทุนค่าเดินทางมันต้องถูกว่าเดิม /// คิดแบบนี้มีแค่บางคนครับ บางคนออกแล้วคิดว่าไหวๆๆๆ แต่สุดท้ายไม่ไหวก็เยอะ เพราะเค้าคิดไม่รอบด้านเลยวางแผนพลาดไป แต่กระทู้นี้เป็นตัวอย่างวิธ๊คิดที่ดี เพราะส่วนใหญ่ก็แบบนี้ครับ ลืมไปว่าส่งค่ารถแล้วยังมีค่าน้ำมันด้วยก็มีเยอะ ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้รวม 1. ค่าประกัน ถ้าไม่มีจะกินก็ทำชั้น 3 ก็พอแล้วขับให้มันระวังหน่อย /// หากเกิดตูมมาอาจเสียมากกว่าชั้น 1 อีกนะครับเรื่องแบบนี้ต้องคิดเผื่อไว้ก็ถือว่าดีแล้วครับ เข้าตำรา เสียน้อยเสียมากเสียยากเสียง่าย 2. ค่าเปลี่ยนยาง ปกติมีอายุกัน 5 ปีขึ้น ดังนั้นก่อน 5 ปีนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายอย่าเอามาเฉลี่ย และเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน เงินเดือนโบนัส มันไม่ปรับขึ้นเลยหรือ /// ตรงนี้ต้องมาเอาเฉลี่ยอ่ะถูกแล้วครับ แล้วหากว่า 5 ปีแล้วคุณไม่มีโบนัส หรือเกิดบริษัทปรับเงินน้อยหรือไม่ได้ปรับเลยล่ะครับ บางคนเกิดตกงานอีกจะเอาเงินที่ไหนมาเปลี่ยนครับ หากไม่เฉลี่ยแล้ววางแผนออมไว้ก่อนทุกเดือน และ 5 ปีเนี่ย ยางจะไม่สามารถแตกหรือรั่วได้เลยหรอครับ ?? 3. ค่าซ่อมบำรุง รถใหม่อยู่ในประกันไม่เสียนะจ๊ะ อาจจะมีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็แค่พันนิดๆ ไม่ถึงหมื่น /// เรื่องนี้มันเป็นเรื่องฉุกเฉินควบคุมไม่ได้นะครับ รถป้ายแดงรถใหม่ที่ไม่มีปัญหาอะไร ลองดูกระทู้แนะนำในแต่ละสัปดาห์ได้ครับ มีมาแล้วทุกยี่ห้อ เพราะฉะนั้นก็ต้องสมควรหาค่าเฉลี่ยเพื่อวางแผนรองรับครับ 4. ประกันชีวิตอันนี้ขอคืน เอาไปจ่ายเป็นเงินดาวน์แล้ว ไม่เหลือจ่ายหรอกส่วน เงินเดือน 20K หักภาษีอย่างมากไม่เกิน 1000 สรุป ค่าใช้จ่ายส่วนเกิน ต่อปีเฉลี่ยต่อเดือนก็แค่ 1000 /// ถือเป็นความคิดที่ดีแต่จะทุกคนมั้ยที่คิดได้แบบนี้ ไม่คิดจะเผื่อเลยหรอครับ ในตลอด 72 เดือน คือเตรียมไว้แล้วไม่เกิดก็ดีไป แต่หากเกิดล่ะครับจะเอาเงินที่ไหนใช้ครับ หากคิดแบบประมาทแบบนี้ ผมไม่ได้ต้องการมาหักล้างอะไรกับคุณนะครับ เพราะสิ่งที่คุณบอกมานับว่าเป็นวิธีการจัดการที่ฉลาดอย่างหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่เค้าจะทำแบบคุณหรือเปล่า อีกอย่างวัตถุประสงค์ของกระทู้นี้คือ เตือนใจให้สำหรับคนที่คิดอะไรเกินตัวให้รู้จักหยุดคิดและพิจารณา ว่าเราสมควรออกรถหรือยัง คือเค้าไม่ได้จะเอาข้อมูลมาเป็นบรรทัดฐานน่ะครับ เพียงแต่ยกตัวอย่างมาเพื่อให้เกิดฉุคิดได้เท่านั้นเองครับ หากความเห็นผมทำให้ไม่พอใจผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ^^" จากคุณ : เจ้าชายโตโร่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:45:30

ความคิดเห็นที่ 50 #49 คือเค้าไม่ได้จะเอาข้อมูลมาเป็นบรรทัดฐานน่ะครับ เพียงแต่ยกตัวอย่างมาเพื่อให้เกิดฉุคิดได้เท่านั้นเองครับ ใช่ครับ ผมว่า ไม่ต้องมาเถียงกันว่าไหวไม่ไหว จริงไม่จริง ประเด็นคือ "ใช้ชีวิตให้พอเพียง" มีมาก หาได้มาก ก็ให้ใช้แต่พอประมาณ มีน้อย หาได้น้อย ก็ให้ใช้แต่พอดี จากคุณ : นายไข่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 00:57:53

ความคิดเห็นที่ 51 สำหรับผม กระทู้นี้มีคุณค่าและรู้สึกดีที่ได้เห็นบางคน เช่น คห.20 และ คห.29 หรืออีกหลายๆ คนที่ไม่ได้ตอบ ได้ฉุกคิดก่อนจะออกรถคันใหม่และกลายมาเป็นภาระที่ทำให้ลำบากต่อเนื่องยาวนานเป็นครึ่งทศวรรษ คือ...กระทู้นี้เขาต้องการเตือนคนที่กำลังจะซื้อรถโดยไม่ทันคิดรอบคอบนะครับ ไม่ได้จะเอามาบรรยายชีวิตใคร มันจะออกมาสมจริงได้ยังไงเพราะแต่ละคนก็มีเงื่อนไขต่างกัน ถ้ามันไม่ตรงกับรายรับ-จ่ายของคุณ แทนที่จะทักท้วงก็เอาตัวเลขของคุณออกมาเขียนตีแผ่เลยสิครับ ส่วนคนที่ทำได้และทำไปแล้ว ก็ลองอธิบายมาสิครับว่าคุณผ่านมันมาได้ยังไง ด้วยอารมณ์แบบไหนและหลังจากหมดภาระแล้วคุณมีสุขสบายมากขึ้นไหม กระทู้นี้จะได้มีคุณค่าเพิ่มขึ้นไปอีก จากคุณ : กฤตวัฒนา เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 01:16:25

ความคิดเห็นที่ 52 ดูจากความคิดหลาย ๆ คนแล้ว  .. ไม่แปลกใจเลยที่ไฟแนนซ์จะรวยเอา ๆ จากคุณ : oommy เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 01:19:22

ความคิดเห็นที่ 53 #49 งานเขียนของคุณถือเป็นการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา ด้วยข้อเท็จจริง ล้วนๆ อ่านแล้วก็ยอมรับได้ในหลายข้อ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก แต่ความจริงคือ ถ้าไม่ถึงกับขาดแยะจริงๆ ขาดเหลือนิดหน่อยพอดิ้นๆ ให้พ้นเดือนๆ หนึ่งไปได้ คนเค้าก็จะหาทางประหยัดเพื่อให้มันรอดๆ ไปใน 1 เดือนเอง อาจจะมีขอหยิบขอยืมหรือหางานเสริมเพิ่มรายได้ทำกันไป เรียกว่ากัดฟันผ่อนอยู่แบบกินมาม่ามันทุกมื้อเพื่อให้รอดได้ จากคุณ : ็Hong Zu เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 01:26:25

ความคิดเห็นที่ 54 ผมมองว่า จขกท เอามาโพสให้เราๆท่านๆที่คิดจะซื้อรถได้ฉุกคิดมากกว่าว่า นอกจากค่างวดที่ต้องส่งแล้ว มันยังมีรายจ่ายอื่นๆแฝงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะค่าน้ำมันค่าซ่อมบำรุง ค่าภาษีสังคม อื่นๆ เยอะแยะ ไหนจะค่ากินอยู่รายเดือนที่เราต้องจ่ายประจำอีก ซึ่งหากใครคิดจะซื้อก็ควรคจะคำนวนรายจ่ายของตนเองต่อเดือนออกมาว่ามากน้อยเพียงใดก่อนที่จะซื้อรถซักคัน จากคุณ : royd (roydroyd) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 02:40:44

ความคิดเห็นที่ 55 ซื้อรถ คชจ. ที่ไม่คาดคิดมันจะตามมาอีกเยอะมาก เหอๆ ยังไงใครใคร่จะซื้อ ก็คำนวณรายรับรายจ่ายดีๆ เด้อ จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 06:50:48

ความคิดเห็นที่ 56 จขกท.เอามาให้คนที่คิดจะซื้อรถเพราะอยากมีอยากได้เหมือนคนอื่นแต่เงินเดือนน้อยได้ฉุกคิดกัน เพราะถ้าสุดท้ายแล้วรถโดนยึดจะเสียใจ+เสียเงินเปล่าๆ     ผมได้เงินเดือนละ3หมื่นยังไม่กล้าผ่อนรถเลยครับ แต่โชคดีที่แม่เพิ่งซื้อรถให้ เงินแค่นี้ผมคงซื้อมอไซด์ดีกว่าหรือไม่ก็ซื้อจักรยานพับ+ใช้บริการขนส่งสาธารณะเอา ประหยัดกว่ากันเยอะ จากคุณ : 13ison เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 06:53:16

ความคิดเห็นที่ 57 ตัวเลขที่สมมุติ (หรือจริงหว่า) ดูอาจจะไม่สมเหตุสมผลในแง่ของตัวเลขซักเท่าไหร่ แต่ประเด็นอยู่ที่ การมีรถมันเป็นภาระมากจริงๆ จขกท. ก็แค่เอามาเตือนใจคนที่อยากจะมีรถแค่นั้นแหล่ะครับ จากคุณ : หนุ่มบางกะปิ (หนุ่มบางกะปิ) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 07:04:51

ความคิดเห็นที่ 58 แต่ผมมีรถประหยัดค่ากินได้หลายพัน เดือนนึงกิน9000-10000โทรสั่งทุกวัน แมค เอมเค เอสแอนด์พี-*- มีรถเหลือ4000-6000ออกไปซื้อน้ำเต้าหู หมูปิ้ง ก๋วยเตี๋ยว น้ำตก มีค่าแก๊สไม่เกิน1000 ประหยัดกว่าโทรสั่งอยู่ดี จากคุณ : เจ้าพ่อเจริญกรุง เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 07:32:34

ความคิดเห็นที่ 59 ลองดูค่ะ คิดจะซื้อ Accord แต่ที่บ้านบอกให้เอา Civic ใหม่ก็พอ แต่เราจะเอา Accord เพราะดูรวยกว่า และเราชอบมากกว่า Civic จากคุณ : พี่น้องซิกโก้ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:01:29

ความคิดเห็นที่ 60 เอาเงินดาวน์มาซื้อสด 3ห่วง ดีที่สุด จากคุณ : foxwood เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:10:17

ความคิดเห็นที่ 61 ปัญหาที่เห็นตอนนี้จากหลายที่ทำงาน คือ ซื้อรถมาต้องออกจากบ้านเร็วขึ้น รถติดมาก และหาที่จดรถไม่ได้ เพราะซื้อกันทั้งออฟฟิซ คิดให้ดีครับรถไฟฟ้ากำลังผุดมากมายหลายสาย มีรถนอกจากจะหมดเงินมากโข ยังหมดเวลาอีกมากมายต่อวันอีกนะ จะใช้เวลา 1 ใน 4 ของชีวิตบนรถ บนถนนหรือ จากคุณ : nubtong เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:12:20

ความคิดเห็นที่ 62 เยี่ยมเตือนสติครับแต่ความอยากนี่มันไม่เข้าใครออกใตรหรอก จากคุณ : โลกหมุนรอบตัวเธอ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:17:04

ความคิดเห็นที่ 63 อืมม  ของอย่างนี้ รู้ทั้งรู้ ก็จะเอา  ว่ามะ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:21:55

ความคิดเห็นที่ 64 ทำให้รู้สึกว่า หลายคน ถ้าพ่อแม่ไม่ช่วย รับรองตายสนิท จากคุณ : ไกด์ไม่เก่า เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:24:40

ความคิดเห็นที่ 65 สำหรับคนที่มีสถานะเหมือนในรูป ถ้าจดบัญชี รายรับ-รายจ่าย จะช่วยได้นะครับ น่าจะติดลบน้อยลง ถ้าทำงานมาแล้วซักพัก คงมีเงินเก็บบ้าง ก็อาจจะช่วยได้อีกนิด และเงินเดือนเพิ่มทุกปีนะครับ ก็ช่วยได้อีกนิด คนเราก็อยากมีบ้าน มีรถ ครับ แต่ต้องรู้จักตนเอง ว่ามีกำลังที่จะสามารถซื้อมาได้ป่าว สิ่งไหนทำไปแล้ว ไม่เดือดร้อนตนเอง และผู้อื่น ทำไปเถอะ จากคุณ : LifeBook เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:32:09

ความคิดเห็นที่ 66 เป็นกระทู้ที่ดีครับ สำหรับผมเงินเดือนแค่หมื่น ไปออกอีโค คาร์ ดาวน์ไป 2 แสนจากการขายคันเก่าแล้วโปะเงินเพิ่มเข้าไปอีกหน่อย ผ่อนราวๆ 4 พันต่อเดือนแต่ระยะยาวเลยครับ แค่งวดแรกก็กระอักแล้ว มันมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเข้ามาโดยไม่คาดคิดหลายอย่างเลยจริงๆ ครับ นู่น นั่น นี่ สารพัดจะจ่ายจนตอนนี้เครียดแล้ว เพราะปกติคันเก่าถ้าจ่ายก็ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมจุกจิก ยังพอมีเงินเหลือบ้าง กินดีๆได้บ้างบางมื้อ แต่นี่ส่งค่างวดแล้วจ่ายค่าน้ำมันอีก แล้วช่วงนี้หน้าฝนอาจต้องเข้าคาร์แคร์บ่อยขึ้น ไหนจะต้องเครียดคิดสำหรับปีหน้ากับเรื่องประกัน พรบ. แค่นี้ก็นอนไม่หลับหลายคืนละครับ T_T จากคุณ : silverstein เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 08:52:16

ความคิดเห็นที่ 67 ทำไมกินกันกระจอกแท้ วันละ100 ชีวิตจริงทำกันได้ป่าว กลัวจะหมดสะตั้งแต่10วันแรกแล้วสิไม่ต้องคำนวณเลย จากคุณ : งก เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:16:40 A:115.67.192.8 X: TicketID:337828

ความคิดเห็นที่ 68 เท่าที่ดู เป็นรายจ่ายเกี่ยวกับ รถเท่านั้น แต่รายจ่ายสืบเนื่อง จากการมีรถ ยังมีอีกเยอะ ที่เห็น คือการใช้ชีวิตแบบ เช้าทำงาน เย็นกลับบ้าน เสาร์อาทิตย์... ไม่ไปไหน หรือ ซื้อรถ มา เพื่อใช้เดินทางไปทำงาน เท่านั้นเอง ไม่ทำประกันชีวิต ไม่กินอาหารนอกบ้าน ไม่เที่ยวทั้งแบบท่องราตรี และ เที่ยวตจว. แต่เอาเป็นตุ๊กตาพอได้ครับ แต่เผื่อเหลือ ให้ได้อีกสักเดือนละ 3-5000 พัน เป็นอย่างน้อย ได้รถอะไร ก็คันนั้นแหละ : P สมัยเงินเดือนแถวๆ สองหมื่น ซื้อรถมือสอง คันละ 2.45 แสน จำตัวเลขได้แม่น : ) จากคุณ : เล่าสู่กันฟัง เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:27:01 A:58.9.190.174 X: TicketID:326785

ความคิดเห็นที่ 69 อยากให้เมียมาเห็นกระทู้นี้จริงๆ จากคุณ : PATCHAYAS เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:27:02

ความคิดเห็นที่ 70 ดูตกไป ประกันชีวิต... มีใส่อยู่แล้ว แต่ในภาพรวม ก็เป็นอย่างอธิบายไป นั่นแหละครับ ไม่มีรถ เราอยู่กันได้ พอมามีรถ หลายๆอย่างอาจจะดีขึ้น แต่ถ้าไม่เผื่อเหลือ ให้มากๆ สักวันที่ ไม่มีรถใช้ อีกครั้ง จะรู้สึกว่า มันจะยากลำบากกว่า ตอนไม่มีรถ ครั้งแรก....เยอะ : P จากคุณ : เล่าสู่กันฟัง เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:32:14 A:58.9.190.174 X: TicketID:326785

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้ายังไม่ซื้อก็มีเงินเหลือเดือนละ 9,000 บาท เก็บเดือนละ 5,000 อีกสองปี และโบนัสอีกปีละ 2 เดือน ก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอีก 200,000 คุณจะมีเงินไปดาวน์รถ 420,000 บาท และจะมีเงินเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 22,050 ในขณะที่ค่างวดรถจะเหลือเดือนละ 5,278 ไม่รวมดอกเบี้ย ระยะเวลาสองปีที่เก็บเงินมีความสุขกว่าการใช้เงินแบบจำกัดจำเขี่ยเพื่อผ่อนรถมากมายมหาศาลครับ สิ่งที่คุณต้องตัดสินใจก็คือ "ลดสเป็ครถลง" หรือ "รอเก็บเงิน" ผมเชียร์อย่างหลังนะเพราะระหว่างสองปีที่คุณเก็บเงินคุณอาจจะเห็นว่า "รถไม่มีความจำเป็น" อีกเลยก็ได้ และจะมีเงินเก็บชัวร์ ๆ ตั้ง 420,000 เพราะก่อนทีคุณจะมีเงินเดือน 20,000 แต่มีเงินเก็บ 120,000 แสดงว่ามีวินัยในการเก็บเงินพอสมควร อย่าให้ความอยากเพียงชั่วขณะมาสร้างความทุกข์ตั้ง 72 เดือนลยครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 09:56:03 จากคุณ : เป็นตับ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:49:27

ความคิดเห็นที่ 72 ผมว่าโมเดลของ จขกท.ใช้ได้เลยครับ ถึงแม้จะไม่ได้ตรงกับหลายๆ คน แต่ก็ทำให้แต่ละคนได้เริ่มคิด ว่าตรงไหนต้องจ่ายประมาณเท่าไหร่ อาจจะมากหรือน้อยกว่าตัวอย่าง ก็แล้วแต่จะจัดสรรกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคน สุดท้าย แต่ละคนก็ได้ตัวเลขของตัวเอง ว่า เหลือเฟือ เหลือเยอะ พอเหลือ ตึงๆ พอดี หรือไม่พอ ที่ผมอยากฝากเพิ่มเติมก็คือ safty factor ของแต่ละคนด้วย บางคน เหลือเยอะ คงไม่ต้องห่วง แต่บางคน พอเหลือ หรือ ตึงๆ ก็ยังอยากจะได้ ตรงนี้น่าเป็นห่วง อย่าง #59 คำนวณออกมาแล้วเหลือแค่พันกว่าบาท ดูเหมือนจะตึงๆ แต่ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ เพราะมีรายการให้แม่ ที่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาผมว่ายยังพอขอแม่ให้น้อยลงได้บ้าง ซึ่งพวกนี้มันก็แล้วแต่ปัจจัยของแต่ละคน ปล.#59 ครับ ขับ accord จ่ายค่าน้ำมันแค่ 4000 น่าจะห่างที่ทำงานไม่เกิน 10 โล ไม่สนใจหันมาปั่นจักรยานหรือครับ อิอิ จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:55:31

ความคิดเห็นที่ 73 เคยมีประสบการณ์ผ่อนรถเมื่อ 12 ปีก่อน สมัยนั้นดอกเบี้ยผ่อนรถแพงมากๆๆตกร้อยละ 11 - 12 ต่อปี แต่น้ำมันดีเซลตอนนั้นลิตรละ 11 - 12 บาท ค่าผ่อนรถกระบะโฟว์วิวเดือนละ 12,000 บาท ผ่อน 48 งวด ขนาดรายได้ตกเดือนละ 3 หมื่นบาทยังเลือดตาแทบกระเด็น   จากคุณ : โมโม่ ยุกยิก เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 09:58:46

ความคิดเห็นที่ 74 ก็ ตามนั้นค่ะ กระทู้นี้เอาไว้เผื่อใครต้องการซื้อรถจะได้คำนวนค่าใช้จ่ายคร่าวๆได้ถูก หรือถ้าเล็งรถราคาสูงไว้จะได้ประเมินถูกว่าต้องเสียประมาณเท่าไหร่ เพราะหลายๆท่านคิดแค่ค่ารถ ไม่ได้คำนวนอย่างอื่นที่จะตามมาด้วย เรื่องตัวเลขบางอย่างอาจดูเกินไปสำหรับบางท่าน (เช่นค่ารถมากไป ค่ากินน้อยไปซึ่งเป็นไปแทบไม่ได้ในชีวิตจริง --- มื้อละ 33 บาท = ข้าว 25+น้ำ7บาท รวมก็ 32บาทละ สรุปคือมื้อนึงกินข้าวได้ไม่เกิน 25 บาท ซึ่งปัจจุบันมันทำได้ยากมากกกก) แต่กรณีแบบนี้ก็มีจริงๆ และอย่างที่ คห บนๆบอก สำหรับใครที่ผ่านจุดลำบากกับการผ่อนรถมาแล้ว เอา ปสก จริงมาแชร์ เราว่ากระทู้จะมีค่าขึ้นค่ะ ถ้ามีประโยชน์ก็ขอบคุณค่ะ จากคุณ : BigSom เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:00:22

ความคิดเห็นที่ 75 ชีวิตใครชีวิตมันนะผมว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกที่จะคิดและทำ จากคุณ : yunisoft เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:09:30

ความคิดเห็นที่ 76 ผมว่า เป็น การตั้งต้นที่ดี สำหรับ คนที่คิดจะผ่อนรถ นะครับ แต่ สไตล์การใช้ชีวิตบางคนไม่เหมือนกัน ต้องปรับแต่งเข้าไป เป็นข้อเตือนสติได้ดี นะครับ แต่ขอเตือนคนที่รวม ค่า OT เข้าไปกับเงินเดือน เพราะเห็นมาแล้วหลายคน ช่วง เครษฐกิจแย่ ปล่อยรถไป แบบ เสียไม่ได้เยอะ อีก 3-4 งวดก็หมดแล้ว อย่าเอา OT รวมกับเงินเดือนเด็จขาด ให้เอาไป ลง ช่องเงินออมแทนครับ เพราะเหตุการณ์คาดเดาไม่ได้ อาจจเกิดขึ้นได้เสมอ ขอให้มีความสุขกับรถของคุณครับ จากคุณ : ไทปัน เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:29:16

ความคิดเห็นที่ 77 มันผิดตั้งแต่เงินเดือน 20,000 แต่จะซื้อรถราคา 800,000 แล้วล่ะ จากคุณ : เมื่อไรจะมีฯ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:31:52

ความคิดเห็นที่ 78 ยังไม่รวมค่าเปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆอีกนะครับ คนอยากได้รถแบบไม่คิด มักซื้อโทรศัพท์แบบไม่คิดด้วยเหมือนกัน ไอโฟน 20k+  ซัมซุง 20K+   ปีนึงเปลี่ยน 3 รอบ จากคุณ : zerg1 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:51:45

ความคิดเห็นที่ 79 คำนวณให้ดีก่อนจะทำอะไร คนที่หน้ามืดตามัวหลงเป็นทาสของวัตถุ จะเอาพวกรุ่นสูงๆแพงๆทั้งๆที่ตัวเองศักยภาพไม่พอ คนพวกนี้น่าสงสารคับ ต้องเดือดร้อนที่หลังแน่ รถเดี๋ยวนี้ยี่ห้อไหนรุ่นไหนหน้าตามันก็เหมือนๆกันไปหมด บอกเลยว่าคนส่วนใหญ่ที่เดินกันตามถนนแยกไม่ออกหรอกคับว่ารุ่นไหนยี่ห้อไหนดีกว่ากัน ห่วยกว่ากัน หรูกว่ากัน คุณขับรถหรูราคาแพงไปตามถนน คนเกินครึ่งมองไม่ออกคับว่ามันหรูมันแพง เพราะงั้นเลิกยึดติดกับเรื่องพวกนี้ดีกว่า ถ้าซื้อก็หาข้อมูลดีๆ ซื้อไปตามศักยภาพที่ตัวเองมีดีกว่าคับ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 10:59:41 A:58.11.43.78 X: TicketID:120548

ความคิดเห็นที่ 80 เค้าแค่มาเตือนสติ ................ จากคุณ : tough เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:12:32

ความคิดเห็นที่ 81 เงินเดือนแค่ 20,000 ถ้าไม่มีเงินเก็บ/ดาวน์เยอะไว้สำรอง  มีอ้วกแน่นอน จากคุณ : แฮมชีสอร่อยจัง ! เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:26:25

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้า 50,000 ซื้อรถ 2 ล้าน เอาอยู่ป่ะครับ จากคุณ : Kadaj17 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:32:06

ความคิดเห็นที่ 83 เง้อ ผมผ่อนรถคันแรกตอนเงินเดือน 45000 ครับ ผ่อนวีออส ด้วยปี 2004 ผ่อนเดือนละ 8400 มั้ง ผ่อนสบายๆเลย ไปเที่ยวสบายๆเลย เพราะตอนเงินเดือน สองหมื่น ผมไม่ใส่ใจเลยอ่ะ ที่จะมีรถ ตั้งปณิธานไว้ ว่า ถ้าเงินเดือนไม่ใช่ 4 เท่าของค่างวด จะไม่ผ่อนรถเด็ดขาด เคยเห็นสมัยทำงานใหม่ๆ เพื่อนเงินเดือน เริ่ม 24000 ของผมเริ่ม 18000 เพื่อนมันออกซีวิคเลย แต่สุดท้ายก็จอดไว้เฉยๆ ไม่ได้ไปไหน นี่ยังดีนะที่มันผ่อนหมด ผมเห็นหลายคนผ่อนไม่หมดครับ ไม่ไหว กระทู้นี้ดีครับ ให้เด็กรุ่นใหม่ฉุกคิดซะบ้าง ว่ามันมีอะไรมากกว่าค่าผ่อนรถ ปล.ผมคิดว่า ตามตารางนั่น ประเมินต่ำไปนิดด้วยซ้ำ พวกค่าอาหาร ค่าเที่ยวค่ากิน น้อยไปอ่ะ จากคุณ : Lattitude เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:45:19

ความคิดเห็นที่ 84 สำหรับผมสบายๆ ครับ ซื้อคันแรก ป้ายแดง  470000  ปี 38 เก็บเงินดาวน์  120000 ที่เหลือผ่อนเดิอนละ 8800 เงินเดือนขณะนั้น 8000   ไม่รู้รอดมาได้งัยวันนี้  แต่ผมไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยครับ   ใช้เงินเดือนแฟน  ทำตัวเรียบร้อย   และปิดก่อนกำหนด 1 ปีด้วยครับ ไม่ได้โม้ครับ   แต่มีแรงบันดาลใจหลายๆ อย่าง  ความมุ่งมั่นเกิน 100 รับจ๊อบเล็กๆ   แต่ตอนนี้เงินเดือนมากกว่าหลายเท่า แฟนคนเดิม    จะทำแบบเดิม ไม่กล้าครับ อายุมากขึ้นรอบคอบตามอายุ    ยกเว้นเปลี่ยนแฟนใหม่ ( อ่ะล้อเล่น ) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 11:48:04 จากคุณ : จันทร์ (วันจันทร์เพ็ญ) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:47:19

ความคิดเห็นที่ 85 ที่ว่าไหวๆ กัน นี้ ก็ยังให้ พ่อแม่ เลี้ยงดู  กันอยู่ดี จากคุณ : เคยทำอะไรได้ด้วยตัวเองบ้างมั๊ย (c_sujjitporn) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:48:59

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นแล้วก็เป็นห่วงครับ คำนวณไว้ค่อนข้างผิด เช่น ค่ากิน ค่าเครื่องสำอางค์ ค่าน้ำมัน ค่าประกันรถยนต์ ค่ากินวันละ 100 บอกตรงๆครับ ต้องบอกว่ามื้อละ 50-70 บาท ครับ ไม่ใช่วันละ 100 บาท ต้องเป็นวันละ 200 บาท เดือนนึงต้อง 6,000 บาทครับ อันนี้เฉลี่ย บางมื้อ 40-50 บางมื้อต้อง 100 กว่าบาท ครับ ดีไม่ดีเดือนนึงอาจจะมีซัก สองสามครั้งที่กินมื้อใหญ่เป็นพันหรือพันกว่าบาทครับ ค่าเครื่องสำอางค์ ไม่มีทางหรอกครับ 1000 บาทต่อเดือน คิดไปง่ายๆ 2000 ครับ ค่าน้ำมัน 2000-3000 บาทต่อเดือน อิอิ ไม่มีทางครับ อย่างต่ำๆ ไม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดเลย คิดได้เลย 4000 บาทเป็นอย่างน้อย เฉพาะไป-กลับที่ทำงานนะครับ ยกเว้นไปติดแก๊ส อันนี้ได้ครับ 2-3 พันเอาอยู่ทั้งเดือน ค่าประกันรถยนต์ ดูด้วยครับว่ารถเล็ก รถใหญ่ รุ่นเล็กๆ 18000 บาทต่อปี อ่ะได้ แต่รุ่นราคาหลักล้านขึ้นหมดสิทธิ์ครับ เค้าคิดตามทุนประกันครับ เปลี่ยนยาง 2 ปีก็พอครับ อย่าให้ถึง 3 ปี ให้เผื่อไว้หน่อย แต่จริงๆอาจจะ 3 ปี ค่าเปลี่ยนยางเอารุ่นธรรมดาๆก็พอครับ 8,000 กว่าบาท สี่เส้น ยี่ห้อที่ผลิตในไทย ฯลฯ สรุป ผมไม่ได้ชี้ว่าเงินเดือน 10000 บาท ไม่ควรมีรถ หรือเงินเดือน 50000 ควรมีรถขับ เพราะบางคนเงินเดือน 10000 เดียวแต่มีเงินเก็บเดือนละ 4-5 พัน ก็มีให้เห็น แต่บางคนเงินเดือน 30000 ก็ยังเห็นเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ ทั้งที่การใช้ชีวิตก็ไม่ได้ต่างกันมากมาย อยู่ที่นิสัยและวินัยการใช้เงินของแต่ละคนด้วย และความจำเป็นของแต่ละคน ครับ จากคุณ : CIA001 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 11:53:27

ความคิดเห็นที่ 87 ความเห็น59 ผิดนะครับ ดอกเบี้ย 2% 5ปี(60งวด)เป็นเงิน 130000 บาทครับ ตกผ่อนเดือนละ 23833 บาทครับ ภาษีประจำปี เครื่อง2300 ตกปีละประมาณเกือบ4000 พรบ.ปีละ645 รวมน่าจะอยู่ที่ 4500/ปี จากคุณ : keaw_m เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:09:01

ความคิดเห็นที่ 88 ผม เงินเดือนจากงานประจำ 12000  ซื้อรถ แปดแสนกว่าครับ อันนี้เรื่องจริง แต่เป็นรถแท็กซี่นะ รายได้จากแท็กซี่เฉลี่ยเดือนละ 20000-25000 ขับไม่เต็มที่เพราะทำงานประจำ ผ่อนรถเดือนละ 18000  + ซ่อมบำรุงเดือนละ 2-3 พัน ของตัวเองกิน+ใช้จ่ายอื่นๆ ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์รวมๆ 8000 ส่วนที่เหลือคือเงินเก็บ และส่วนที่ให้พ่อแม่ ไม่ต้องให้เลยครับ กลางวันพ่อเอารถไปขับหาตัง ได้เท่าไหร่ก้อเอาไป จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ แทนผมด้วย ตอนนี้ชีวิตมีความสุขดีครับ จากคุณ : Jackkrit_P เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:13:07

ความคิดเห็นที่ 89 ต้องขอบคุณ เจ้าของกระทู้ ที่คำนวณให้ดู ถึงแม้ว่าบางคนจะคอมเมนต์ เรื่องความสมจริงสมจังของตัวเลขก็ช่างเขา ผมว่าตัวเลขที่คุณทำ ดีเลยทีเดียว ส่วนใครจะปรับตัวเลขอย่างไรก็เรื่องของคนนั้น พยายามสร้างสมดุลให้ตัวเอง ภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ รายได้บางคนอาจเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นไม่เท่าหรือไม่มากไปกว่ารายจ่ายหรอกครับ จากคุณ : max เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:27:38 A:223.204.176.60 X: TicketID:354422

ความคิดเห็นที่ 90 ตาม#87....ครับ อย่างของจขกท. 8000,000 -120,000 = 680,000 ถ้าดอกเบี้ยไฟแนนท์สัก 2.5% ก็เสียดอกเบี้ยปีละ 680,000 X 0.025 = 17,000 ผ่อน72งวด (6ปี) = 17,000 X 6 = 102,000 ยอดรวมเข้าไฟแนนท์ = 782,000 ผ่อนต่อเดือน = 10,861.11 บาทครับ ไม่ใช่ 9,444 บาท จากคุณ : NV pooh เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:35:14

ความคิดเห็นที่ 91 ส่วนตัวคิดว่าเค้าแค่เอามา เทียบให้ดูเฉยๆ เป็นตัวอย่าง ออกรถ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะ มีค่าใช้จ่ายนะจะออกรถ พร้อมกับรายจ่ายพวกนี้หรือยัง ตัวเลขบางอย่างมันไม่ใช่ว่าจริงทั้งหมด เอาเข้าจริงๆ คนเงินเดือนไม่กี่หมื่น เค้าจะออกรถกันได้ยังไง ตัวเลขน่าสนใจ ทะว่าเค้ามั่นใจว่าออกรถได้ เรื่องรายจ่าย คิดว่าเค้าต้องเตรียมรับมือไว้บ้างแหละ(มั้งฉ จากคุณ : MzChewiize เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 12:51:47

ความคิดเห็นที่ 92 อย่าห้ามให้ยากเลยค่ะ ต้องโดนกับตัวถึงรู้ค่ะ เพื่อนๆโดนไล่ยึดกันเป็นแถว ต้องเอารถไปซ่อนกันให้วุ่นเลยค่ะ จากคุณ : นู๋เติ้ล เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:04:43

ความคิดเห็นที่ 93 ผมกู้ร่วมครับ :p จากคุณ : pilioly เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:11:55

ความคิดเห็นที่ 94 เรื่องแบบนี้มันขึั้นกับชีวิตแต่ละคน คนออกรถก็คงต้องรู้ตัวเองหรือประมาณตนระดับนึงครับ ถ้าไม่ไหวก็โดนยึดไปเป็นธรรมดา จากคุณ : น้ำปลาหวาน... เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:21:27

ความคิดเห็นที่ 95 แฟนผม 14000 ออก มาช  380000 ผ่อนสบายๆ คับ 5500 จากคุณ : ohmedattu เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:21:31

ความคิดเห็นที่ 96 เห็นมีความเห็นที่บอกว่าค่าซ่อมบำรุงไม่ถึงหมื่นต่อปี ของเราถึงนะ ค่าซ่อมบำรุงก็คือการเข้าไปเช็คระยะทุกหมื่นโลนี้แหละ เราขับรถเยอะไม่กี่เดือนหมื่นโลก็แปปๆละ ไปถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 0 ไม่ต่ำกว่า 2 พันกว่านะ ล่าสุดไปเช็ค 80000 โล ก็โดนไป 8000 กว่าบาท คนซื้อรถส่วนมากจะไม่เห็นและไม่นึกถึงรายจ่ายตามหลังยิบย่อยที่บานตะไทนะ ว่าปีนึงต้องเสียค่าประกันรถ ค่าเช็คระยะ ค่าน้ำมัน หัวเทียน กรองอากาศ เปลี่ยนแบตอีก พวกเนี้ยะ ค่าล้างรถ ล้างห้องเครื่อง (อันนี้ถ้าล้างเองก็ประหยัดไป แต่เราไปจ้างเขานะ แรกๆเคยล้างเองคนดียว เหนื่อยมากกกหลายชม. กว่าจะเสร็จ) มีรุ่นน้องมาปรึกษาอยากถอยรถเงินเดือนหมื่นกว่า เราเลยแจกแจงว่ามันมีค่าอะไรที่ต้องมาเสียบ้าง คนยังไม่มีรถจะไม่รู้ซึ้งรายจ่ายตรงนี้หรอก คิดแค่ว่าลดภาษีได้ ราคาพอส่งไหว จนเราแจกแจงให้ฟัง มันถึงเปลี่ยนใจไว้ก่อน 5555 ส่วนเพื่อนเราซื้อมาแล้วสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว กลับมาขี่เวฟไปทำงาน เอารถจอดไว้บ้านรอติดแก๊ส แต่รุ่นที่เพื่อนเราซื้อเนี้ยะมันกินจริง เครื่องแค่ 1400 แต่กินมากกว่าเครื่อง 1600 อีก ฮาๆๆ ไม่บอกนะว่ายี้ห้ออะไร มีรถก็มีแต่ลดกับลดนะจ๊ะ ยกเว้นคุณใช้รถหาเงินอันนี้ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือทำมาหากิน แต่ก็ยอมรับว่ามันทำให้ไปไหนมาไหนสบายขึ้น และไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหม พอมีรถแล้วจะติดสบายแบบเคยมีรถใช้ทุกวัน พอวันนึงต้องเอาไปเคลม จะรู้สึกว่าตัวเองลำบากมากต้องขึ้นรถเมลล์ 5555 อย่าบอกให้นั่งแท็กซี่นะ เขางก  -_-" {เพิ่มเติมนิดหน่อย} แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 13:35:34 จากคุณ : pinkqoo เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:24:28

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่ต้องพูดถึงเงินเก็บกันเลยทีเดียว ไม่เผื่อฉุกเฉินกันบ้างเลยหรือ?? จากคุณ : Jemie_A เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:25:35

ความคิดเห็นที่ 98 คุณ BigSom ลืมช่องเงินเก็บรายเดือนไปด้วยค่ะ ^_^ จากคุณ : ทะเลพระจันทร์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:46:14

ความคิดเห็นที่ 99 มีเรื่องนึงที่ไม่เป็นความจริงของคุณผู้ ญ เลย คือค่าเครื่องสำอางค์ 1 พันบาท แค่ชิ้นเดียวยังเกินเลย จากคุณ : นนร่างเทพ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:52:21

ความคิดเห็นที่ 100 " นกน้อยทำรังแต่พอตัว " คำคำนี้ ยังใช้ได้ดี ทุกยุคทุกสมัย ครับ สำหรับผมถ้าเงินเดือนไม่เกิน 3หมื่น ไม่มีทางซื้อรถยนต์แน่นอน จากคุณ : สองลิตรร้อย เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 13:54:40

ความคิดเห็นที่ 101 เงินเดือนสองหมื่น ซื้อรถแปดแสน แค่เริ่มต้นก็ติดผิดแล้วล่ะครับ จากคุณ : sLiimFit เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:04:09

ความคิดเห็นที่ 102 ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าเจตณาของ จขกท ต้องการสื่อให้กับคนที่จะซื้อรถ แต่คนอ่านหลายท่านในที่นี้คิดมากไปกว่า จขกท - หาว่าคำนวนผิดมั่ง - คิดไม่ละเอียดมั่ง เข้าใจกันไม๊ครับว่าแค่ต้องการสื่อให้คนที่คิดจะผ่อนรถมันไม่ได้ง่ายๆกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวันถ้าคุณมีเงินเดือนไม่มากพอ แต่อาจจะพออยู่ได้ แต่การใช้จ่ายมันก็ทุกลักทุเล.. จากคุณ : pccop2006 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:10:15

ความคิดเห็นที่ 103 และอย่าลืมคิดในแง่ โดนให้ออกจากงานกลางคัน หรือเหตุการที่คาดไม่ถึงนะครับ เจริญพร จากคุณ : น้อย ท่าพระ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 14:53:15 A:115.87.233.110 X: TicketID:365668

ความคิดเห็นที่ 104 เป็นข้อมูลน่าคิด น่าสนใจที่เอามาแชร์กัน จากคุณ : ฤทธา เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:12:58

ความคิดเห็นที่ 105 ทำไม่มีใครคิดถึงเรื่องเงินเก็บ บ้างเลยหล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 15:35:20 จากคุณ : gc_fresh เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:34:52

ความคิดเห็นที่ 106 ความคิดเห็นที่ 59 โอกาสโม้ 90% ผมขับ CR-V ค่าประกัน 28000 บาท ค่ายาง ค่าศูนย์ ไม่ต้องคิด 25000 นี่ตลกครับ เงินเดือน 55000 นี่ภาษี 20% ปีนึงเสียภาษีเงินได้ 132000 บาท ตกเดือนล่ะ 11000 บาทให้ลดยังไงก็ไม่หน้าต่ำกว่า 6000 และที่สำคัญสุด ต่อ พรบ + ภาษีนี่ 5500 ไม่ใช่หรือครับ เรื่องนี้ยังไม่รู้เลยหรือ ???? จะโม้อะไรก็หาข้อมูลก่อนนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 15:48:22 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 15:39:26 จากคุณ : cpuvoy เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 15:36:20

ความคิดเห็นที่ 107 ครอบครัวดิฉัน สามีเงินเดือน 40,000 +ดิฉันทำธุรกิจส่วนตัว 35,000/ด จอง city ไปค่ะ ผ่อน 7000+ /ด. ก็แทบจะแย่อยู่แล้ว ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้รถจริงๆ ไม่ซื้อเด็ดขาดค่ะ(มีรถเก่าอยู่แล้ว1คัน) ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ....จะซื้อรถซักคันนี่ต้องคิดหนักจริงๆค่ะ จากคุณ : loveofall เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:00:19

ความคิดเห็นที่ 108 ^_^ ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ ^_^    ตั้งใจออก swift ค่ะ จุดประสงค์หลักคือ ขับกลับบ้านต่างจ. ค่ะ "กาญจนบุรี" กลับบ้านทีไร มีกิจกรรมตลอด เดี๋ยวไปซื้อของบ้าง พาคุณแม่ไปทานข้าวบ้าง ไปวัดบ้าง ไปหาญาติ ๆบ้าง และอีกเยอะเลยค่ะ -----แต่ไม่มีความจำเป็นในการขับรถไปทำงาน เพราะนั่งเรือเร็วกว่า ไปห้างก็เรือ ไปเดินซื้อของตลาดนัด ก็ไปเรือ "สบายกว่าเยอะ" ----กลับบ้านตจว. เดือนละครั้ง รึสองครั้ง ค่ะ สมาชิกก็มี แค่ 3 คนตัวเล็กทั้งนั้น ดิฉันคิดไม่ผิดใช่มั้ยค่ะ ที่คิดจะออก swift ดาวน์ประมาณ 150,000 ผ่อนอาจ 60 รึ 72 เดือน   ^__^ จากคุณ : ลูกหมาของตาแก่ เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:17:42

ความคิดเห็นที่ 109 เสริม cost ให้ดูครับ -รายได้ หักภาษียังครับ -คุณจะไม่ซื้อ ltf rmf เพื่อเครมภาษีเลยเหรอครับ -ค่าที่จอดรถ -cost เข้า0 ทุก 6 เดือน หรือ10000โล โอเค อาจไม่เยอะ แต่ถ้ารถเข้าปี 2 3 4  เข้าแต่ละครั้ง เหนื่อยแน่ๆ โอเคว่า ถ้าจะ save cost อย่างค่าน้ำมัน ให้มันลดลง ก็อาจะไปติดแกส ค่าแกสอาจถูกกว่าน้ำมัน แต่ก้อมีค่าติดอีกหลายหมื่น ไหนจะประกันรถที่ขาดอีก รถ=ลด คิดก่อนซื้อ ถ้าเจ้าของรถมีครอบครัวต้องเลี้ยงดูด้วย ไหนจะค่านมลูก ค่าpoko ค่า entertain ครอบครัว ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 55 16:21:17 จากคุณ : ต้นes เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:19:03

ความคิดเห็นที่ 110 คห. 59 ครับ ภาษีที่คุณคิด คิดจากรายได้ทั้งหมดรึเปล่าครับ ของผมรายได้ยังไม่เท่าคุณ เดือนนี้ภาษีสะสมไป 40k แล้วครับ - -" จากคุณ : สามฤดูรสหวาน เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:27:55

ความคิดเห็นที่ 111 ผมเคยผ่อนรถ ... ที่ดอก 15% Flat Rate ครับ รถเก่า .... เพราะไม่มีเงินเนี่ยแหละ แต่ด้วยงานที่สมัคร บังคับต้องใช้รถ แต่ผ่อนเดือนละ สามพันกว่าๆ เงินเดือน 8000ค่า Com 4-6000  น้ำมันลิตรละ 8 บาท .... เหนื่อยมากกกกกกกกก   แต่ก็ภูมิใจครับ น้ำพัก น้ำแรงตัวเอง 100% ....  นึกแล้ว ... เฮ้อ จากคุณ : Zatan เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:51:15

ความคิดเห็นที่ 112 ต้องเป็นเงินเดือนหลังหักภาษีซะด้วย อาจสู้ไหวสำหรับคนมีโบนัสเกิน 2 เดือน จากคุณ : longde เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:53:40

ความคิดเห็นที่ 113 ผมว่าเงินเดือน 20000 เอา Nissan Alrema สักคันกำลังดีครับ ผ่อนเดือนละ 4-5000 บาท ดาวน์ 2 แสน ประหยัดน้ำมัน (17-25 km/l.) หรือจะเอา Honda PCX ก็ดีครับ 40-50 km/l. ทีเดียว จากคุณ : หนุ่มอัมพวา เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 16:56:22

ความคิดเห็นที่ 114 ส่วนตัวเเล้วผมธรรมดานะ 30,000กว่าๆ/เดือน ค่าภาษีสังคมผมไม่เอาเลย มันไร้สาระ ใครใช้ชีวิตเเนวๆผม ผมว่าเผลอๆเงินเหลือด้วยนะ ผมใช้ชีวิตเเบบนี้ตั้งเเต่ยังไม่ซื้อรถ งานเเต่ง งานบวช ผ้าป่า ไม่เอาเลยใช่มั้ย ตอบ ไม่ใส่ซองใครเลย ถ้าไม่สนิทจริง งานบุญงานบวชไม่ไปเช่นกัน ถ้าไม่สนิท ไม่ชอบสังคมวุ่นวาย บางปีก็ไม่ใส่ซองเลย ไม่ส่งน้องไปเรียนหรอ ตอบ สำหรับลูกคนเดียวเเบบผมสบาย ไม่มีน้อง ค่าท่องเทียว ตอบ ไม่เคยเสียเลย ไม่ชอบออกทริป ห้าง/หนัง ไม่ชอบไปเดินไปดู วันหยุด อยู่บ้าน ทำกับข้าว ชอบพักผ่อน สบายๆมากกว่า ล้ามา5วันเเล้ว เลี้ยงดูพ่อเเม่ ตอบ พ่อเเม่ยังสวยเปรี้ยวหล่อเฟี้ยวอยู่ ยังเเข็งเเรงเเละทำงานอยู่ เเละไม่ชอบเป็นภาระใคร(สำหรับครอบครัวผม) ไม่คิดมีครอบครัว/พาเเฟนกินข้าวหรอ ตอบ ไม่คิดมีเลย ผมชอบผู้ชาย ไม่เอาเมีย ถึงชอบผู้ชายก็ไม่อยากมีเเฟน ผมโลกตัวตัวสูง อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ ไม่มีลูกเมีย ภายใน 7 ปี ตอบ ก็บอกเเล้วว่าไม่เอาเมีย ชิชะ!!!!! -------------------------------------------------------------------------- ค่าอาหาร ตอบ ไม่เกิน120ต่อวัน บางวันทำกินเอง เองข้าวใส่กล่องไปกินนอกบ้านได้ ไม่เสียเงินอีก ค่าโทรศัพท์ ตอบ เติมเดือนละ 300 สิ้นเดือนยอดไม่เคยลงมาต่ำกว่า 260เลย เหลือตลอด นี่ถ้าเอาเงินออกมาได้ซื้อเกมส์ได้หลายเเผ่นเลยมั้ง ค่าซักผ้่า ตอบ ซักเองรีดเอง ไม่เคยจ้างใคร พวกสบู่ยาสีฟัน จิปาถะ ตอบ ผมไม่ถึง 500/เดือน เสื้อผ้า/ครีม ตอบ ครีม 6 เดือนซื้อครั้ง/ครั้งละ 3,000 กว่าๆ เสื้อผ้า 1 ปี ซื้อเเค่ครั้งสองครั้งเอง เเต่ละครั้งต้องเซลล์เท่านั้น ถึงมีเงินเเต่ไม่ซื้อทำใจซื้อราคาเต็มไม่ได้ ค่าเช่าบ้าน ตอบ ไม่เสียมีบ้านของตัวเอง เติมน้ำมัน ตอบ ค่าน้ำมั้นผมไม่เสียมาก เพราะอาทิตย์หนึง ผมใช้รถเเค่2-3วันเอง ขี้เกียจขับ รถไฟฟ้าเร็วกว่า ***นอกนั้นที่ไม่กล่าวคือของที่มันต้องเสียเเน่นอนอยู่เเล้ว *ยกเว้นค่าประกันชีวิต ผมไม่ทำ --------------------------------------------------------------- 20,000/เดือน ซื้อรถ 800,000 ผมว่าเวอร์เกินตัว เอาอีโก้คาร์ หรือพวกรถb-segment ก็พอเเล้ว ผมยังใช้ Ford น้องต้า หกเเสนเก้าเลย ฉะนั้น ผมว่า ถ้า 20,000/เดือน ซื้อรถซัก ห้าเเสนกว่า-หกเเสนปลายๆผมว่ายังไงก็พอ เเต่ต้องอดใจเก็บเงินดาว์นเยอะหน่อย สักสองเเสน เพิ่งจบ เริ่มทำงาน ยังไม่มีรถไม่ต้องอายใคร ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ตัองเป็นคนรู้จักตัวเอง ไม่ขี้อวดขี้โม้ มีระเบียบมากพอตัว ถึงจะพอ ถ้าทำเอกชน มีโบนัส ก็เอาใปจ่ายพวกประกัน ภาษี ซ่อมบำรุง ภายใน 5 ปีเงินเดือนต้องขึ้นบ้างเเหละ(กรณีพนักงานเงินเดือน) ถ้า 20,000/เดือน เเต่เป็นพวกเห็นอะไรก็อยากได้ ไอโฟน/บีบี รุ่นใหม่ออกเอาหมด พวกนี้เเนะนำไม่ให้ซื้อ เก็บเงินไว้ซื้อข้าวกินดีกว่า ส่วนตัวนะ ถ้าเป็นคนไม่ตามกระเเส ซื้อรถมาใช้งาน ไม่ซื้อมาอวด คิดว่าจะใช้นานๆ บ้านกับรถเเนะนำให้ซื้อรถก่อน(ถ้ามันจำเป็น) รถภายใน 5 ปียังไงก็จบ เเต่บ้านต้องผ่อนระยะยาว จากคุณ : คุณชายขี้อาย เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:20:27

ความคิดเห็นที่ 115 ผมเป็นข้าราชการเงินเดือน 10600.- ทุกวันนี้ยังผ่อนแจ๊ส 660000.-ได้เลย จากคุณ : muping เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:24:34

ความคิดเห็นที่ 116 เจ้าของกระทู้ได้เงินเดือนแค่ 20,000 แต่ทำไมใช้เงินแบบดูไม่สมเหตุสมผลเลยครับ - ข้อแรก เงินเดือน 20,000 จะออกรถ 800,000 เยอะไปไหมถ้าไม่มีเงินดาวน์เป็นก้อนตั้งแต่ต้น หรือครอบครัวพอจะมีฐานะบ้างเป็นทุนเดิม - ทำไมซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางทุกเดือนครับ? ผมใส่ชุดเดิมๆมาทำงานเป็นปีแล้วครับ ก็สลับไปสลับมา 1000/เดือนเยอะไปครับ - ค่ากินข้าวคุณลดได้อีกนะครับ ทำกับข้าวเก็บไว้กินที่บ้านบางมื้อสิครับ - ค่าโทรศัพท์ใช้อะไรตั้ง 500 - ซักผ้า 500 นี่ก็แพงเวอร์ - ของใช้ส่วนตัวเดือนละ 500 นี่เอยะเกินครับไม่อิงความเป็นจริงถ้าใช้อย่างประหยัด - ถ้ายังเช่าบ้านราคารวมน้ำไฟราคา 3พันอย่างที่บอกจริง แล้วจะออกรถ 8แสน ผมสรุปได้คำเดียวว่า ไม่โกหก ก็ไม่รู้จักประมาณตนเองครับ ผมว่าตารางที่คุณทำ นี่แค่ประชดสังคมว่าค่าครองชีพแพงครับ แต่ไม่ใช่ความเป็นจริงทีเกิดกับคุณ ทำเพื่อดราม่าให้เห็นว่าโลกโหดร้ายสังคมโหดร้าย ลากคนให้หดหู่ไปพอเพียง ประชดชีวิตเล่นๆมากกว่าครับ เพราะถ้าคุณเอาพวก Eco car มาแทน ราคาค่างวดมันจะไม่แย่แบบนี้ และจะยังสามารถออกรถได้ นี่คุณเล่นตั้งโจทย์ให้ลงล็อก ให้ดูแย่ มันก็แค่นั้นเอง ลองลดราคารถให้เหลือ 4แสนสิคุณ โกหก ไม่ก็ แต่ถ้าไม่โกหก คุณไม่มีเงินต้องโทษตัวเองนะครับใช้เงินไม่สมเหตุสมผล และไม่อิงกับความเป็นจริงเลย คุณไม่รู้จักประมาณตัวเอง สมควรลำบาก มีอยู่สองอย่างแหละครับ เรื่องภาษีสังคมและเรื่องอื่นๆ ไม่มีก็ไม่ตายครับ แต่ถ้าคิดว่าต้องมีโดยที่ตัวเองไม่มีปัญญาจ่าย ก็สมควรจนครับ แต่ถ้าจะคิดมีคนเรามันต้องขวนขวายครับ นี่ไม่ใช่ความจริงครับ ไม่จำเป็นต้องตีแผ่ จากคุณ : beckk (Beckk) เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:41:55

ความคิดเห็นที่ 117 เป็นกระทู้ที่เตือนใจได้ดีเลยค่ะ แต่ถ้าลดราคารถที่ซื้อลงมานิดนึง ก็น่าจะไหวนะคะ จากคุณ : เจ้าหญิงนางแอ่นน้อย เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 55 17:58:25