ความคิดเห็นที่ 1 มานั่งหน้าห้องรอครับ...... จากคุณ : ปักษาเร้นลับ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:05:40

ความคิดเห็นที่ 2 ข้อมูล เว็บบอร์ด ของสังคมผู้ใช้ Yamaha FZ - เพิ่งมี และใหม่อยู่ http://www.fzclubthailand.com ER-6 http://www.er6thailand.com Monster 795,796 http://www.monsterclub-thai.com จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:06:15

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นคำว่า Naked เลยเข้ามาดูครับ จากคุณ : หนุ่มน้อยชอบวิบาก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:09:12

ความคิดเห็นที่ 4 (แก้ไข งงกับ Editor นิดนึง T-T) 1.Kawasaki ER-6n 2009-2011 (เขียนได้เยอะนิดนึง มีโอกาสครอบครองอยู่ปีนึง) 1.1 การขับขี่ทั่วไป 3 คำง่ายๆ “ดิบ ชานเมือง ดีด” “ดิบ” หากเทียบกับ ER-6n ตัวใหม่แล้ว (2012) โฉมเก่า จัดได้ว่าเป็นรถที่ให้อารมณ์ดิบได้ดีทีเดียว ช่วงเกียร์ 1-2 รอบต่ำ ออกอาการกระชาพอสมควร ถ้าเปิดหรือปิดคันเร่ง เร็วเกินไป แต่ถ้าแตะคลัชช่วยเบาๆแค่นิดเดียว (จังหวะก่อนที่รถกระชาก) ก็ช่วยให้ออกตัว หรือหยุดได้นิ่มนวลขึ้นมาก  ช่วงรอบที่ 5-6-7 พัน เป็นย่านที่กำลังขี่ได้สนุก บิดส่งเป็นมา engine brake หนักหน่วงใช้ได้ ช่วยชลอรถได้มั่นคงและมีประสิทธิภาพมาก “ชานเมือง” เช่นกัน เทียบกับตัวใหม่แล้ว โฉมเก่า ให้อารมณ์ของรถที่ขับขี่ได้ดีในการจราจรที่ไม่คับคั่งมากเกินไป ตำแหน่งแฮนด์ และความไวของหน้ารถที่น้อยกว่าตัวใหม่พอสมควร (หน้าหนักกว่า) ช่วยให้รถมั่นคงในการเข้า ออกโค้งด้วยความเร็ว แต่ก็ออกจะหน่วงเล็กๆ หากต้องซอกแซกไปมาตามการจราจรคับคั่ง (แต่ถ้าชินแล้ว พริ้วไหวได้ไม่ต่างจากรถเล็ก) “ดีด” ช่วงล่างเดิมๆของ ER6n โฉมเก่า ช็คหลังปรับได้ 5 ระดับ เดิมๆที่เซทมาค่อนข้าง ดีด พอสมควร เมื่อเจอคลื่นบนถนน ยิ่งตอนโค้งแรกๆทำเอาเหวอไปเหมือนกัน แต่ถ้าเซทให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวแล้ว (ผมหนัก 60kg ปรับให้นิ่มลง 1 เบอร์) จะช่วยได้ “เยอะ” มากเลยทีเดียว กลายเป็นรถที่เข้าออกโค้งได้เสถียรมาก 1.2 ท่านั่งในการขี่ การเข้าโค้ง “สบาย แต่ สนุก” ตำแหน่งต่างๆของรถเอื้อให้ท่านั่งของคนขี่นั่งได้อย่างสบาย ออกทริปยาวๆได้โดยไม่ล้ามากจากท่านั่ง ตำแหน่งแฮนด์จะค่อนข้างสูงนิดนึง ตัวจะโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย (สำหรับผมสูง 163 cm) เข้า ออกโค้งได้คล่องตัว ติเพียงแค่ขนาดของถังน้ำมัน ที่เล็กไปนิดนึง (ช่วงเข่า) ทำให้การหนีบถัง เพื่อ lean-in,with,out อาจจะหวิวๆบ้างเล็กน้อย หรือเวลา hang-on อาจจะรู้สึกไม่กระชับมากเท่ารถสปอร์ต   แต่ก็จัดได้ว่าเป็นรถที่ขี่สนุกมากคันนึง 1.3 ช่วงล่าง เบรค โช้คหน้า ค่อนไปทางนิ่ม เล็กน้อย แต่รักษาสภาพการตามติดของถนนได้ดี กดหน้าเบรคหนักๆ ไม่มีอาการปลิ้น  ช็คหลังค่อนข้างดีด เล็กน้อย เซท preload ให้เหมาะสมแล้ว สนุกขึ้นเยอะในการขับขี่ ABS แยกอิสระหน้าหลัง ช่วยให้ผู้ขี่ที่ไม่ชำนาญสามารถหยุดรถได้ในระยะที่สั้นมาก (ความเร็ว 80 km/hr ในระยะ 20 เมตรนิดหน่อย บนสนามฮอนด้า) แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:21:07 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:20:04 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:18:50 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:18:13 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:15:15 จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:14:19

ความคิดเห็นที่ 5 ปูเสื่อเรียบร้อยครับ.... จากคุณ : ปาร์ค135ltd'06 (วันนี้ เพื่อวันข้างหน้า) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:25:46

ความคิดเห็นที่ 6 2. Kawasaki ER-6n 2012 (2สูบ 650cc) 2.1การขับขี่ทั่วไป 3 คำง่ายๆ อีกแล้ว “นิ่มนวล  ในเมือง สบาย” “นิ่มนวล” นิ่มนวลไปหมด ทั้งโช๊คหน้า หลัง แม้กระทั้งช่วงรอบต่ำการเปิด ปิด คันเร่ง ทำได้ง่าย และนิ่มนวลมาก หน้าไว หักไปมาได้คล่องตัว กลับรถได้ง่ายมาก แทบไม่ต้องใช้ความพยายามในการเลี้ยว (ในความเร็วต่ำ) “ในเมือง” จากที่ขี่ง่ายไปหมด ทำให้เป็นรถที่เหมาะ และเอื้อ กับการใช้ในการจราจรที่คับคั่ง ความร้อน ไม่มีปัญหา ต้องเรียกว่าเย็นสบาย (ในบรรดา big-bike)  ทอร์คมาดี และราบรื่นกว่าตัวเก่า เปิดคันเร่งส่งโค้งทำได้เนียน และง่ายขึ้นมาก “สบาย” ER-6n 2012 สำหรับผม จัดได้ว่าเป็นรถที่ขี่ได้สบายที่สุด ในบรรดาทั้งหมดที่จะพูดถึง เป็นมิตรกับคนขี่ แม้กระทั่งคนที่ประสบการณ์ไม่มาก ก็สามารถขี่ได้แบบไม่ยากเย็น แต่ๆๆๆ อย่าได้เผลอกับความสบาย เพราะมันยังแฝงพลังไว้อีกมาก ออกตัวเกียร์ 1-2-3 ยกหน้าลอยได้สบายๆ แบบไม่ต้องใช้ความพยายาม 2.2 ท่านั่งในการขี่ การเข้าโค้ง ท่านั่งออกไปทาง “หลังตรง” ที่สุด ตำแหน่งแฮนด์ สูง และใกล้ตัว ทำให้คอนโทรลรถที่ความเร็วต่ำได้ดี บาลานซ์รถทำได้ดีมาก แต่ด้วยหน้าที่ไว เวลาเจอรอยต่อ ถนน หรือเบรคแรงมากๆ อาจจะมีเป๋นิดหน่อย เข้าโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูง จะให้ความรู้สึกที่หวิว และลอยนิดหน่อย ขี่ได้สนาม เซ็ทโช็คหลังให้แข็งขึ้นซักเบอร์นึง ให้ความรู้สึกที่"แน่น" กว่าเดิมเยอะทีเดียว ถ้าเจอคลื่นถนน  ออกอาการ หน้าสะบัดนิดหน่อย แต่ท่านั่งหลังตรง ช่วยให้คุมได้ง่ายขึ้นเวลาออกอาการ ตำแหน่งถังน้ำมันค่อนข้างสูง ช่วงเข่าค่อนข้างบาง เข้าโค้งได้ไม่กระชับมาก พริ้วได้ง่ายที่สุดในบรรดารถทั้งหมดที่จะพูดถึง 2.3ช่วงล่าง เบรค ช่วงล่าง ค่อนข้างนุ่มนิ่มที่สุด คนขี่สบายมาก  ซับแรงไว้ได้เยอะ เบรคได้มั่นใจ แต่เนื่องจากท่านั่ง ที่ หลังตรง ทำให้อาจจะต้องโน้มตัวมากดหน้ารถเล็กน้อยเพื่อให้เบรคได้เต็มประสิทธิภาพ ABS ยกมาจากตัวเก่า ทำงานได้ไม่แตกต่างกัน แต่ๆๆ โน้มตัวช่วยกดรถนิดนึง ทำให้หยุดได้มีประสิทธิภาพขึ้นมาก แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 00:41:51 จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:38:27

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบจังกระทู้แบบนี้ จากคุณ : ลูกหมาตกน้ำป๋อมแป๋ม เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 00:54:48

ความคิดเห็นที่ 8 ผมชอบ รูปลักษณ์ตัว 2012  มากกว่า ผมว่ามันลงตัวดี  แต่ชอบความดุดัน และดิบๆ แบบตัว 2011 มากกว่าครับ จากคุณ : จริงจัง อีลิแกนซ์ (จริงจัง อีลีแกนซ์) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:08:44

ความคิดเห็นที่ 9 ไปลองขี่ ER6N 2012 ของเพื่อนมา โอ้ยยย....ไม่ติดผ่อนVIGO อยู่อีก2ปีกว่า มีโดนแน่ จากคุณ : Air_graphic เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:15:34

ความคิดเห็นที่ 10 ตี 1 !!! มีคนมาอ่านกระทู้เราด้วย ตื่นเต้นๆ :) อีกนิดนะครับใกล้จบหล่ะ 3&4 Ducati Monster 796 &795(2สูบ L-Twin 803cc) (ตอนแรกว่าจะแยกเขียน แต่เจ้าสองคันนี้คล้ายกันมากจริงๆ  ขอเขียนรวบเลยหล่ะกันนะครับ ) 795, 796 หลักๆภายนอก ต่างกันที่ • เฟรมรถ 795 ใช้ เฟรม 696 สวิงอาร์มคู่ • 796 สวิงอาร์มเดี่ยว • ขนาดล้อหลังของ 795 ใส่ยางเบอร์ 160 (Pirelli angle) • 779M796 ใส่ยางเบอร์ 180 (Pirelli Rosso) • Thailand made (เย่ๆๆๆๆ) กับ Italy made 3.1 &4.1 การขับขี่ทั่วไป มุข 3 คำ อีกหล่ะ “หล่อ สั่น มันส์” “หล่อ” สีแดงกระชากใจจริงๆ  เฟรมถักเป็นเอกลักษณ์ design ที่ลงตัวในหลายๆด้าน ทุกวันนี้เวลาเห็นคนขี่ผ่าน ก็ยังมองมันบ่อยๆ จังหวะของไอเสีย ของเครื่อง L-twin ทำให้เสียงท่อที่ออกมาเป็นลูกๆ (แทบจะตามจังหวะการเต้นของหัวใจ) “สั่น” เอกลักษณ์อีกอย่างของ ducati .. สั่นน้อยๆตลอดเวลา แต่ไม่ได้มากมายจนรับไม่ได้ แต่เมื่อเปิดคันเร่งเข้าเรื่อยๆ ถึงมันจะสั่น มันก็ สั่น แบบให้อารมณ์สนุกได้ดีมากทีเดียว นี่สินะ Italian feeling “มันส์” กำลังของเครื่องยนต์ที่ออกมามากมายตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้เป็นรถที่ขี่เล่นโค้งได้มันส์มาก ส่งออกโค้งได้ไม่เนียนที่สุด ถ้าความเร็วต่ำจะพาลกระตุกเอา แต่ถ้าได้ความเร็วซักหน่อย สนุกทุกครั้งที่ได้ เข้าออก โค้งกับมันเลยจริงๆ (แม้จะสั่นๆนิดนึง) แต่ถ้าขี่ใช้รอบค่อนข้างสูง ซัก 6-8 พันรอบ ต่อเนื่องกัน .. กระเทือนพอสมควรเลยทีเดียว คลัชน้ำมันนุ่มนิ่ม อาจจะทำให้คนที่ไม่คล่อง เปิดคันเร่งขาด (ทำให้กระตุกดับ) หรือเปิดคันเร่งมากเกินไปพาลให้เลียครัชทิ้ง แต่เมื่อจับจังหวะได้มันคือความ “มันส์” จริงๆ ถ้ามีคนซ้อน ต้องปรับตัวอีกนิดหน่อย เพราะต้องเปิดคันเร่ง ให้สัมพันธ์กับจังหวะคลัชพอดี ไม่งั้นจะพาลกระชากคนซ้อน กล่องตัดออกอารมณ์ กระแทกหมวกได้ การขับขี่ในเมืองทำได้ไม่ยากเย็นจนเกินไป แต่ • ตำแหน่งของกระจกเดิม ที่ยืดยาว กว้างได้อีก มุมมองดีมาก แต่จะฟาดกระจกรถเอาง่ายๆ • ความร้อน ระบายด้วยอากาศ รถติดหนักๆ หรือ ติดไฟแดงนาน ดับเครื่องซักนิด  (ลดโลกร้อน รักษาขนหน้าแข้งได้ดี) • แต่ถ้าออกทริปแล้ว สบายครับ ไม่รู้สึกอะไร 3.2 &4.2 ท่านั่งในการขี่ การเข้าโค้ง 795 &796 ท่านั่งคล้ายกันมาก ทั้งคู่จะทำให้คนขี่โน้มตัวมากที่สุด (ในบรรดารถที่เขียนถึง) ขนาดถัง (ตำแหน่ง) ของ 795 ออกจะกระชับ และพอดี ‘น้อยกว่า’ 796 เล็กน้อย การเข้าโค้ง หากปรับตัวกับจังหวะคลัช และกำลังของมันได้แล้ว ท่านั่งการเข้าโค้งจัดได้ว่าดี เอื้อให้เข้าได้หนัก ออกได้เร็ว ถังน้ำมันของทั้งคู่ กระชับกับขาดี แต่เวลา hang-on หรือ lean-in รู้สึกเหมือนมีลมจากด้านข้างของรถตีให้หมวกสั่นได้มากกว่าคันอื่น 3.3 &4.3 ช่วงล่าง เบรค ช่วงล่าง นิ่งมากทั้งคู่ เข้าโค้งความเร็วสูงได้เสถียร แต่ยังคงนิ่มในการใช้งานบนถนนทั่วไป การตามติดของช่วงล่างทั้ง 795, 796 เซทได้ดี ไม่ออกอาการดีด แบบ ER-6n โฉมเก่า แต่ก็ไม่นิ่มจนเกินไป เหมือน ER-6n โฉมใหม่ เบรค ABS ใน 796 ทำงานได้ดีมาก แม้บนทางหินคลุก ลูกรัง สไลด์นิดหน่อย แต่ยังสบาย รวมกับท่านั่งที่เอื้อให้กดหน้ารถได้เยอะ ทำให้ใช้เบรคได้เต็มที่ 795 แม้จะไม่มี ABS แต่เช่น 796 ท่านั่งช่วยให้กดหน้าได้เยอะ ใช้เบรคได้ค่อนข้างเต็มที่ แต่ต้องระวังน้ำหนักเบรคหลังเล็กน้อย มันจับดีจริงๆ ถ้าตกใจอาจจะเผลอล็อคล้อหลังโดยไม่ตั้งใจได้ง่ายๆ จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:19:50

ความคิดเห็นที่ 11 ติดตามรออ่านเช่นกันครับ  ^_^ จากคุณ : กยิราเจ กยิราเถนัง เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:22:31

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาโหวตครับ จากคุณ : jc (jaycee) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:28:32

ความคิดเห็นที่ 13 คห.10 ส่วนตัวผมชอบM796 มากกว่าครับ  M795  มันดูคล้าย M696 เหลือเกิน แต่ก็ไม่อาจจะเอื้อมได้ทั้งหมดที่กล่าวมา  ขอเข้ามาอ่านเป็นความรู้รอบตัวครับ จากคุณ : ปาร์ค135ltd'06 (วันนี้ เพื่อวันข้างหน้า) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:35:42

ความคิดเห็นที่ 14 รอก่อน ER6N เจอกันแน่ ปลายปีนี้ จากคุณ : labtipp เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:39:24

ความคิดเห็นที่ 15 อิอิ รออ่านนนนนนนนน แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 01:46:15 จากคุณ : RaZer_IT เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 01:43:38

ความคิดเห็นที่ 16 ตีสองงงง ยังมีคนอ่านก็จัดไป :D (คันสุดท้ายสำหรับ รีวิวบ้านๆ แต่ละคัน .. เดี่ยวจะตามด้วยตารางสรุปอีกนะครับ) 5. Yamaha FZ-8n (4สูบ 779cc) เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เพิ่งได้ทะยอยรับรถกันได้ประมาณเดือนที่แล้ว คนใช้ยังน้อยอยู่ สำหรับผมหาข้อมูลในไทยได้น้อยมาก เพิ่งเริ่มมี webboard ของ FZ แต่ข้อมูลยังน้อย (http://www.fzclubthailand.com) อาศัยอ่านจากเว็บนอกเป็นส่วนมาก กว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงก็อาทิตย์ที่แล้วนี่เอง เป็นคันเดียวที่ไม่ใช่ของเพื่อนๆ แต่ไปลองที่ศูนย์ ไม่ได้ออกถนน (ยังไม่คุ้นกับศูนย์ Yamaha เกรงใจนิดนึง ^^) ผมอาจจะอธิบายได้ไม่ตรงมาก แต่จะพยายามอธิบายออกมาเท่าที่จับอารมณ์ของรถได้นะครับ 5.1 การขับขี่ทั่วไป มุขหากินในกระทู้นี้ 3 คำง่ายๆ สำหรับ FZ “3ส” - “สุภาพ สปอร์ต สนุก” “สุภาพ” ได้เห็นรถแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่ “หล่อ” เหมือน ducati หรือล้ำแบบ ER-6n รวมๆ ออกไปทางกลางๆไปหมด พอได้ลอง (วนในศูนย์อยู่ราวๆ 10-15 นาที จนพนักงานเรียกจอด T-T) ไม่แปลกใจมากนักกับนิสัย เครื่องยนต์ 4 สูบ ของ Yamaha ใน FZ-8n ช่วงต้น ไม่เกิน 6 พันรอบ มาแบบเนียน นิ่มนวล (แต่อย่าเผลอ) ขึ้น-ลงได้ราบรื่น เปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงไม่มีกระตุก กระชาก เลย เกียร์ 1 ปล่อยไหล ขึ้นเกียร์ 2 (แบบไม่เปิดคันเร่งเลย) ขึ้นเกียร์ 3 ต่อเนื่อง นิ่มนวลตามนิสัย 4 สูบ “สปอร์ต” ขัดกับ ข้างบนเล็กน้อย แต่ FZ-8n แม้จะสุภาพในช่วงต้น แต่เมื่อรอบเริ่มไล่ ช่วง 6-8 พันรอบ พละกำลังเริ่มไหลมาเทมา พาทะยานไปข้างหน้าอย่างเร็ว แต่ยังคงเนียนมาก ไม่ออกอาการพยศ รอบกวาดหวือหวา เป็นช่วงที่ “สนุก” ไปพร้อมๆกับมันได้อย่างเต็มที่ แต่  (อีกแล้ว) !!!! ทางในศูนย์ช่างสั้นนัก พอ 8พันรอบ ถ้าขึ้นเกียร์ 2  ก็ต้องลง 1 พร้อมเบรคทันที ไม่งั้น .. แหก ไปซัดกระบะที่จอดแน่ๆ ทำให้ได้ลอง engine brake ไปในตัว Engine brake ต่อเนื่อง ราบรื่นตามนิสัยเครื่อง ไม่ออกอาการกระชากหน้าทิ่ม เหมือนคันอื่น   “สนุก” จากข้างต้นเช่นกัน แม้ว่าช่วงต้นของ FZ-8n ออกจากนุ่มนิ่ม เมื่อเทียบกับ monster หรือ ER แต่เมื่อได้รอบสูงขึ้น กำลังที่ไหลมาอย่างต่อเนื่อง พาให้ขี่ได้สนุกมากเลยทีเดียว บาลานซ์ของรถดีมาก แม้จะน้ำหนักตัวมากที่สุดในทั้งหมด แต่พริ้วได้ ไม่ทิ้งกับ ER-6n 2012 5.2 ท่านั่งในการขี่ การเข้าโค้ง ท่านั่งออกไปทาง กลางๆ คล้ายๆกับ ER-6n โฉมเก่า แต่เหมือนว่าตำแหน่งแฮนด์จะกว้างกว่าเล็กน้อย ทำให้คอนโทรลรถได้ง่ายกว่า ER-6n โฉมเก่า สำหรับ FZ-8n  ที่ผมชอบที่สุดในบรรดาทุกคันคือตำแหน่งถังน้ำมัน สำหรับผม (163cm) ถังใหญ่ และกระชับกับขาที่หนีบมาก พอๆ กับ M796 ตำแหน่งถัง และท่านั่งที่กระชับ ทำให้กลายเป็นรถที่เข้าโค้งได้ง่าย lean-in,with,out สบาย ใช้ร่างกายช่วงล่างคอนโทรลรถได้ง่าย และ hang-on ได้กระชับมาก ทำให้ลงโค้งได้มั่นใจ 5.3 ช่วงล่าง เบรค ช่วงล่างค่อนไปทางแข็ง อยู่ตรงกลางระหว่าง ER-6n โฉมเก่า และใหม่ เข้าโค้งได้กระชับ และแน่น (อาจจะเพราะท่านั่งที่เอื้อให้เข้าโค้งได้ดี)  ไม่ออกอาการดิ้นให้รู้สึก ให้ความรู้สึกที่ แน่นๆ เบรค ตัวที่ขายในไทยไม่มี ABS แต่เบรคเดิมๆ ก็หยุดรถได้ดีพอสมควร กดหน้าลงนิดหน่อย ช่วยให้หยุดได้มั่นคงขึ้นมาก เบรคหลัง สำหรับผมค่อนข้างเซทได้พอดี ไม่จับหนักเกินไปจนจะพาลล็อค รวมกับโน้มตัวนิดนึง ช่วยให้ใช้เบรคหน้าได้เต็มที่มากขึ้น จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:09:00

ความคิดเห็นที่ 17 รออ่านอยู่เช่นกัน ใช่ 250 cc ค่ายเขียวอยู่ แต่สักวันเราจะโต! จากคุณ : Monstruo เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:17:11

ความคิดเห็นที่ 18 อยากให้ลาก รถคนบ้า มาเขียนด้วยอ่าครับ จากคุณ : RaZer_IT เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:21:35

ความคิดเห็นที่ 19 ตารางสรุปแต่ละหมวดหมู่ เช่นเคย ตามอารมณ์ ความเห็น และสรีระ ส่วนตัวนะครับ ^^ สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะคันไหนก็ตามขอให้เป็นสองล้อ ถ้าคิดจะออกทริปด้วยกัน เราก็ไปด้วยกันได้หมด ไปถึงกันทุกคันทุกคน กลับกันให้ครบทุกคันทุกคน รถมันคงคุยกันไม่รู้เรื่อง ถ้าคนที่ขี่มันไม่คิดจะคุยกัน ขอบคุณที่ตามอ่าน กระทู้ (นานๆที) แบบบ้านๆของผมนะครับ ps. ขออนุญาตไม่ออกความเห็นเรื่องราคา บำรุงรักษา นะครับ อันนี้แล้วแต่ว่าแต่ละคน "อยาก" อะไร :D เรียงจาก มาก(ดี) > น้อย(ดีน้อยกว่าหน่อย) 5>4>3>2>1 แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 02:36:45 จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:35:59

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาปูเสื่อรออ่านกันนะครับ เพิ่งรู้ว่าเขียนๆไป มีคนเข้ามารออ่าน มันยิ่งทำให้อยากเขียนให้เสร็จ ให้ดี :) คห. 13 .. ค่อยๆเป็นค่อยๆไปคร้าบ ตั้งไว้เป็นรางวัลอย่างนึงที่ได้ทำตามใจตัวเอง มันก็จะมาเอง คห. 18 .. รถคนบ้าผมเคยมีโอกาสได้บ้าตามอยู่แค่สองคันคือ K8 กับ K7-r600 อะครับ ไม่ค่อยได้มีโอกาสบ้ามาก .. สำหรับผม K8 เป็น sport class 1000 ที่มันส์ที่สุด เถื่อนสุด ตามคอนเซ็ป คนบ้าจริงๆ ได้มีโอกาสขี่เยอะๆ ช่วงแพลุงหรั่งอะครับ สนุกจริง ยอมรับเลย K7-r600 เป็น sport class 600 ที่รู้สึกพริ้วที่สุด น้ำหนักเบาหวิว ปรับตัวง่ายมาก ถ้าขี่ ninja แล้วมา K7-r600 สบาย แทบไม่ต้องปรับอะไรมาก ไว้มีโอกาสจะขออนุญาตพื้นที่เขียนแบบบ้านๆ สำหรับ sport class 1000 นะคร้าบ :) จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 02:43:10

ความคิดเห็นที่ 21 #รออ่านล่วงหน้า sport class 1000 หึหึ ขอบคุณครับ จากคุณ : RaZer_IT เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 03:44:47

ความคิดเห็นที่ 22 มีเจ้า M795 กะเค้าคันนึง ยอมรับเลยว่า สั่น สั่น สั่น ขี่ไปแล้วมือเริ่มชาเมื่อไหร่เริ่มรู้ละว่า กำแฮนด์ผิดท่า จากคุณ : Tsengok เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 04:17:21

ความคิดเห็นที่ 23 เข้ามาอิจฉาเจ้าของกระทู้จัง ทุกวันนี้ยังขี่ปีกนก 250 เอง จากคุณ : =Razzo= เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 05:40:02

ความคิดเห็นที่ 24 น่าเสียดายที่เน็คเค็ทไบค์ในไทยน่าจะมีตลาด 250 บ้าง จากคุณ : Hamy Lynn Lee เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 06:25:41

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ จากคุณ : เปรตเวหา เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 08:20:42

ความคิดเห็นที่ 26 จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:04:08

ความคิดเห็นที่ 27 จริง ดีหมดทุกคันเลยครับ   ไปลองขี่ที่ศูนย์ดูเลยครับ เอาตามความชอบและอารมณ์ เลยครับ จากคุณ : aoni เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:14:39

ความคิดเห็นที่ 28 คงมีไม่กี่คนที่ได้ลองขี่หลายๆรุ่นแบบนี้ครับ ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล จากคุณ : AppLePie81 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:39:04

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : LiTtLe miLAnEllO เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:49:02

ความคิดเห็นที่ 30 ทั้งสามคันเป็นรถที่อยู่ในข่ายที่อยากได้และได้ไปลอง มาครบทุกคันเหมือนกัน สุดท้ายราคาและเงื่อนไงเป็นตัวแปร ER6n @ 255000 รอรถสามเดือน M795 @ 399990 รอรถสามเดือน FZ8 @ 480000 ไม่ต้องรอ แต่FZ1 ตัวพันราคา590000มีลังเล แต่เนื่องจากคนรอบข้างคอเดียวกันขี่ตัวพันทุกคน ผมเลยไปจบที่ZZR1400 อยากจะบอกว่า ZZRมุดในเมืองได้พอๆกับสามตัวข้างบนนี้เลยครับ แถมกำลังเหลือๆตอนออกทริปด้วย แต่มันซดน้ำมันมากกว่า จากคุณ : bigBirdS เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 09:58:47

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากครับ กำลังสนใจรถแนวนี้พอดี ได้ความรู้มากทีเดียว จากคุณ : chun_zaa เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:04:51

ความคิดเห็นที่ 32 ผมแก่แล้วเคยใช้ ER-6n 2009 ไม่มีเอบีเอส  ไม่ชอบเลย กระด้าง ปรับโช้คหลังให้พรีโหลดลดลงก็กลายเป็นย้วยในโค้ง  เซ็ทปกติ จะดีดจนปวดหลัง  กระชากตัวรุนแรงแต่คงสะใจหนุ่มๆ  แฮนด์ค่อน ข้างหนัก    อ่านจขกท.รีวิวตัว 2012 ชักอยากลองอีกสักครั้ง  แม้น ว่าเวลานี้กลับมาขี่เวอร์ซิส  ค่อนข้างลงตัวกับนิสัยตัวเอง  เพียงแต่ ใช้งานในเมืองไม่คล่องเอาเสียเลย  เรื่องนิ่มนวลแม้ว่าดีทีเดียว  แต่ ก็มิอาจเทียบตัวดีแทรกเกอร์ 250 ได้  ตัวนั้นรูดหลุมสบายมากๆ ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆ  แต่อย่าลืมว่า  คนเราไม่ได้ชอบแบบเดียว กันหมด  คอฮาลี่ย์คงมีเคืองเล็กๆ  5555 จากคุณ : silverliner เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 10:37:12

ความคิดเห็นที่ 33 คห. 27 .. เห็นด้วยเลยครับ :) คห. 30 ... ZZR1400 กรี๊ด กันเลยทีเดียว คห. 32 ... ER-6n 2009-2011 โช็คหลังดีดจริงๆ แต่สำหรับผม ปรับพรีโหลดลงมาอาการดีดหายหมดครับ ไม่ย้วยมาก พอดีกับตัวผม Dtx-250 นี่ใช่เลยกับการขี่ในกรุงเทพ คอสะพาน ลูกระนาด เปิดคันเร่งกระโดดข้ามได้อย่างมั่นใจ แรงต้นมันส์เหลือหลาย Versys ผมติดตรงที่มันสบายเกินไป (สูงอีกต่างหาก) ขาถึงได้แค่ข้างเดียวแบบครึ่งเท้า - -' เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ ตามแต่ว่าคนจะชอบอะไรครับ ในที่นี่ผมพยายามไม่เอาไปเปรียบเทียบกับ ยี่ห้อ หรือ รุ่นอื่นๆ เขียนแค่อารมณ์ของรถคันนั้นๆไป แต่สุดท้ายเราก็ไปด้วยกันได้หมดทุกคัน ทุกแนวครับ :) จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 11:25:50

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับบบบบบบ จากคุณ : รถใหญ่ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 12:29:20

ความคิดเห็นที่ 35 ยุโรปตลาดขนาดกลาง จริงๆ  FZ-8  จะเทียบกับ Kawa z 750, Hornet 600 อีกตัวก็ Suzuki GSR 750 แน่นอน Ducati 796 และ Streetriple ของไทอั้ม  ครับ ฉะนั้น เอา ER มาเทียบด้อยกว่าเยอะครับ  อย่างว่าบ้านเรามีแค่นี้นิเนอะ Hornet's nest Thailand ---> http://www.facebook.com/groups/252389178193170/  เผื่อมีคนสนใจ จากคุณ : SuHciP เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 13:45:07

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 35 เห็นด้วยครับ อันนี้ผมขอเปรียบในรถที่มีในตลาด ที่มีศูนย์จำหน่ายอย่างเป็นทางการครับ บ้านเราขาดรถในกลุ่มนี้ไปพอสมควร แต่ก็เริ่มมีมาให้เห็นเรื่อยๆแล้ว Street/ Speed triple ยังไม่มีโอกาสได้"ลอง"จริงจัง เลยไม่ได้เอามารวมในนี้ มิติรถของ triumph เหมือนจะใหญ่ .. แต่ตัวจริง มันเพรียวมากเลย ได้แค่เพียงคร่อม ฟังเสียง ดูรอบๆ เท่านั้น 3 สูบ 675cc ช่างน่านัก :) จากคุณ : ทองม้วนกลมๆ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 13:51:59

ความคิดเห็นที่ 37 คห 3 คุณหนุ่มน้อยชอบวิบาก รถจ๊า ไม่ใช่คนครับ 555 จากคุณ : Nipon_V-Max เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 17:21:17

ความคิดเห็นที่ 38 795 ก็น่าสนใจ แต่ไม่มีตังค์เวลาเข้าศูนย์ครับ จากคุณ : ใจบงการ เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 18:17:13

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณที่สละเวลาเขียนให้อ่านครับ จากคุณ : HDE35 เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 22:50:54

ความคิดเห็นที่ 40 แบบบ้านๆนี่ล่ะเข้าใจง่ายดี ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : fanclub เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 55 16:29:07