ความคิดเห็นที่ 1 แนะนำตัวก่อน ผมออกแบบชุดแต่งรถยนต์เป็นงานอดิเรกสำหรับให้บริษัทขาย แต่ก่อนหน้านั้นทำงานในบริษัทรถแห่งนึง กับวาดรูปการ์ตูนของตัวเองอยู่ ถนัดการวาดแนวญี่ปุ่น และเข้าใจการออกแบบแนวญี่ปุ่นเพราะคลุกคลีมานาน ส่วนตัวถนัดทั้งการมองด้านศิลปะและการคำนวณในสายวิทย์ แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 55 17:09:16 จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:09:08

ความคิดเห็นที่ 2 ผมถนัดและชอบวาดการ์ตูน วาดการ์ตูนนั้นไม่ใช่แค่วาด แต่ต้องวางโครงเรื่อง วางแผนสร้างโลกอีกโลกนึงขึ้นมา บางคนทำได้ บางคนทำไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ ผมยังทำไม่เสร็จ พื้นฐานของนักวาดการ์ตูน คือต้องออกแบบเป็น นอกจาก ออกแบบแล้ว ต้องวาดได้ทุกมุม และสัดส่วนในแต่ละมุมต้องถูกต้องให้มากที่ สุด ให้ได้ 100% ถ้าเป็นไปได้ ต่างจาก designer ตรงที่ designer วาดหรือร่าง concept คร่าวๆ สำหรับสิ่งของหนึ่งชิ้น ยังไม่ต้องมีเรื่องสัดส่วนมาเกี่ยวข้องใน ตอนต้น จนกว่าจะเข้าสู่ขั้นการลองปั้นงานต้นแบบ ซึ่งจะมีช่างปั้น และระบบ คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยด้วย จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:16:19

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับรูปที่ 1 นั้น BT-50 มีความเคร่งขรึม ดุดัน โหดดุจ Megatron จากเรื่อง Transformers ซึ่ง โคมไฟหน้าทั้งคู่ ก็คือนัยตา กระจังหน้าบนคือจมูก ส่วนกระจังหน้าล่างคือปาก ที่เล็กแต่บ่งบอกถึงความโกรธและพร้อมจะกระโจนขย้ำเหยื่อ แต่ก็มีป้ายทะเบียนมาปิดบังช่องนั้นไว้เหมือน เอาไว้กันไม่ให้ไปทำร้่ายผู้คน กระจกบังลมด้านบนคือที่อยู่ของผู้ที่ควบคุมมัน หรือที่นั่งคนขับนั่นเอง (กลัวคนด่าว่า น้ำท่วมทุ่งอีกจังหวะ แต่ขอบรรยายหน่อยนึงเหอะ) จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:20:30

ความคิดเห็นที่ 4 แบบที่ 2 ที่หลายๆ คนพูดว่า รับไม่ได้ BT50 ใหม่มันยิ้มหวาน ถอดภาพออกมาแล้วก็คือรถที่มีใบหน้าเหมือนกับการ์ตูนเรื่อง CARS ซึ่งทุกๆ คัน จะมีดวงตากลมใสอยู่ตรงกระจกหน้ารถ ซึ่งสาเหตุมาจาก การที่เป็นการ์ตูนสำหรับเด็กๆ เล็ก เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีนั่นเอง ดังนั้นโคมไฟ ด้านหน้าจะถูกลดบทบาทมาให้เป็นเพียงแค่ของประดับ หรือไม่ก็เหมือน แว่นตาชิ้นเล็กๆ แปะอยู่ตรงแก้มเท่านั้น ตำแหน่งปากนั้นให้ไว้กับกระจังหน้าด้านบน ซึ่งเข้ารูปกับรอยยิ้มพอดี แต่เนื่องจาก BT50 มีโคมไฟหน้าติดกับกระจังหน้า จึงดูแปลกๆ ไม่เข้ากัน เหมือนรูปการ์ตูน ส่วนกระจังด้านล่างไม่มีความหมาย อาจจะมองเป็นคาง ย่นๆ ก็ได้ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:24:55

ความคิดเห็นที่ 5 ผมมองว่า รถกระเทย กรีดอายลายเนอร์สีส้มซะด้วย จากคุณ : สิงห์คะนองโค้ง77 เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:28:12

ความคิดเห็นที่ 6 Mazda รถเขายิ้มแทบทุกรุ่น ดูเป็นเอกลักษณ์ จากคุณ : palermos เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:30:53

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับแบบที่สองคือมองกระจกหน้ารถเป็นดวงตานั้น อาจจะเหมาะกับรถสมัยก่อน ที่มีไฟหน้าสี่เหลี่ยม หรือไม่ก็กลมเหมือนๆ กัน ไปหมด และบางรุ่นเป็นแบบซ่อนโคมไฟได้ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ใบหน้าของรถได้ย้ายมาอยู่ที่ด้านหน้าของรถ แทนที่จะมองกระจกหน้ารถเป็นตาของรถ ซึ่งมีคนขับอยู่ข้างใน ปัจจุบัน มีโคมไฟทรวดทรงต่างๆ ออกมามากมายที่เป็นตัวแสดงบุคลิก อุปนิสัยของรถที่แตกต่าง จนเวลารุ่นไหนมีโคมไฟหน้าคล้ายๆ กับอีกรุ่น ก็จะถูกล้อเลียนกันได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้าจะเลือกว่า BT50 ยิ้ม ต้องอธิบาย ได้ว่า โคมไฟหน้าของรถนั้นคืออวัยวะส่วนอะไรของรถได้ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:32:31

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ กรีดไลเนอร์สีส้ม ในอเมริกาน่าจะมีกฎหมายบังคับ (หรือเพราะความนิยมก็แล้วแต่) เพราะรถทุกรุ่น ที่ขายเหมือนกับบ้านเรา ต้องมีแถบส้มในโคมไฟที่เป็นไฟเลี้ยว บ้านเรามีคนหาสติ๊กเกอร์สีส้มมาแปะกันเต็มไปหมดครับ ^ ^ รถยิ้มเป็นเอกลักษณ์ ยิ้มแน่นอนครับ ถ้ามีกระจังชิ้นเดียว แล้วถ้าเป็นสอง ลองมองด้วยความถนัดทางศิลปะที่มีอยู่ในตัวดูครับ หน้ารถก็เหมือนหน้าคนนี่ล่ะครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:38:01

ความคิดเห็นที่ 9 ในทางสากล ตำแหน่งที่เป็นโลโกของรถ หรือกระจังหน้าด้านบน (หากมี 2 ชั้น) เรียกว่า CAR NOSE หรือ จมูกของรถครับ ช่องที่รับลมเข้ามาในร่างกายของคนเรามีสองทาง 1) จมูก 2) ปาก ซึ่งรถยนต์ก็มีอวัยวะที่เรียกว่าจมูกเช่นกันครับ จมูกของรถยนต์นั้น เป็นคนละตัวกับ scoop ดักลม ที่บ้านเรานิยมเรียกว่าจมูก แบบนี้แสดงว่า รถส่วนใหญ่ที่ไม่มี scoop กลายเป็นรถไม่มีจมูกไป ซึ่งเป็นไปได้ยังไง ใช่มั๊ยครับ ซึ่งจมูกจะอยู่ในตำแหน่งที่พอดิบพอดีกับใบหน้าของคน อยู่ระหว่าง หัวตาทั้งสองข้าง และอยู่เหนือปาก นั่นทำให้คนที่วาดรูปได้ มอง BT50 มีปากเล็กๆ อยู่ด้านล่าง ส่วน ตำแหน่งกระจังบน หรือโลโก้นั้น ก็คือจมูก ลองนึกย้อนกลับไป ยังโฆษณา Fortuner รุ่นแอ็ฟ ก็จะเห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวถูกมอง ว่าเป็นจมูก จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 17:57:49

ความคิดเห็นที่ 10 CAPTURE รูปจากโฆษณา  Fortuner Minor Change รุ่นแอ็ฟ ทักษอร ตามหลักสากล มองไฟหน้าคือดวงตา กระจังระหว่างตรงกลางคือจมูก หรือจะเป็นหน้ากากที่ครอบบนจมูกก็แล้วแต่ เหมือนหน้ากากโรบิน ที่ปิดบังเฉพาะ ตากับสันจมูก จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:05:41

ความคิดเห็นที่ 11 ขับสวนกับผมทีไรทำหน้าหวานยิ้มเฉ่งทุกทีเจ้า BT 50 Pro นี่... จากคุณ : ขับช้าไม่แช่ขวากันนะครับ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:10:58

ความคิดเห็นที่ 12 ดูไม่ออกนะ รู้แต่ว่า เจ้านี้มัน ทา มาช์คาร่า สีส้ม ด้วย จากคุณ : เคน (ผีจีน) เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:21:20

ความคิดเห็นที่ 13 รถส่วนใหญ่สามารถถอดหน้าออกมาเป็นการ์ตูนได้ครับ สำหรับหน้าของ BT-50 ผมถอดออมาด้านซ้าย ตามที่ผมคิด ซึ่งตรงกับหลักสากล และคนวาดรูปทั่วไปมอง ปรากฎออกมาเป็น หุ่นยนต์สุดเท่ ซึ่งมีกระจังหน้าคาดตาสีดำหล่อๆ กับรอยแสยะยิ้มเล็กๆ แต่ตัวจริง BT จะทำปากบึ้งเหมือนยักษ์สำหรับรถกระบะถึกๆ.. ส่วนด้านขวาเป็นแบบที่ผมได้ยินคนพูดว่า BT50 หน้ายิ้มหวาน ซึ่ง ต้องวาดรูปไม่เป็นถึงจะมองเป็นแบบนั้นได้ แต่ที่จริงขอเจาะ จงว่าเป็นคนไทยบางคนดีกว่า เพราะในตลาดโลก เค้ามองเห็น เป็นจมูกกัน ซึ่งบ้านเรายังติดอยู่ในใจ คิดว่าสคูปคือจมูก ภาพที่วาด เสร็จก็จะออกมาสัดส่วนเบี้ยวๆ แปลกๆ ต่อให้เป็นคนที่วาดรูปเป็นจนเชี่ยว ชาญก็ตาม ก็คงวาดออกมาได้ไม่ต่างจากนี้ เป็นลักษณะเหมือน ตัวประหลาด ที่มีนัยตา 4 ตา มีปาก 2 ปาก ปากนึงยิ้มแฉ่ง อีกปากนึง กำลังโกรธ ไม่มีจมูกเพราะเป็นฝากระโปรงแบนเรียบ.. ในบ้านเรานั้น มีพื้นที่เล็กๆ ให้กับคนที่วาดรูปเท่านั้น เพราะเป็น ความสามารถที่ไม่ได้รับการสนับสนุน ถ้าเป็นญี่ปุ่น จะวาดเก่งมาก หรือเก่งน้อย แต่ส่วนใหญ่จะวาดได้ สำหรับบ้านเรา ถ้าวาดไม่เป็นก็คือ ไม่เป็นไปเลย ส่วนถ้าวาดเป็น ก็วาดเป็นไปเลยเป็นต้น แต่ผมคิดว่า การ วาดรูปช่วยให้สมองไม่ล้ามากในการคำนวณ มีการบาลานซ์สมองที่เหมาะสม ถ้ามีลูกๆ หลานๆ ก็หัดให้เค้าวาดเขียนเยอะๆ จะสามารถช่วยเสริมสมอง ได้เป็นอย่างดีครับ แล้วพวกวิชาคำนวณยากๆ ก็จะดีตามขึ้นมาเอง ในเมื่อโลกภายนอก (ประเทศไทย) มองว่า จุดที่ยื่นออกมาส่วนบนของ รถคือจมูกของรถ ดังนั้น จึงเริ่มมีการออกแบบให้จมูกโด่งมากขึ้นเรื่อยๆ นำมาเป็นค่ายแรกก็คือ Mitsubishi Evo X นั่นคือต้นตำหรับรถจมูกโด่งของ ญี่ปุ่น ซึ่ง เราจะเห็นรถอีกหลายรุ่นตามมาแบบนั้นในไม่ช้า อย่าง Corolla 2014 ที่ผมเพิ่งถอดภาพออกมาให้เห็นในกระทู้ก่อนหน้าเมื่อวานนี้ Overhang ที่ยาวขึ้น ผมมองเห็นสัดส่วนของ Evo X ซ้อนภาพอยู่ ผมเคยคิดมานานแล้ว ว่า ในเมื่อคนเรานิยมชนชาติที่มีจมูกเด่นเป็นสัน ในอนาคต น่าจะมี Designer จับเอาจุดนี้มาเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับรถต้นเองมากขึ้น ที่มีอยู่ยังน้อย แต่ใน อนาคตทุกๆ รุ่นน่าจะเล่นกับ "จมูก" ของรถมากขึ้น ส่วนตัวผมเห็นด้วย กับสิ่งที่เรียกว่าจมูก ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่สนับสนุนในตัวมันเอง ซึ่งผมไม่ถนัด ในการเชื่อตามความนิยมเท่าไหร่ รวมไปถึงเรื่อง ความนิยมเรียกสีว่า บรอนซ์เงิน บรอนซ์ทอง ซึ่งก็เป็นค่านิยมผิดๆ ที่คงจะอยู่คู่ชาวไทยไปตลอด กาล ผมเชื่อว่าการรับรู้ข้อมูลใหม่ๆ จะทำให้สังคมนั้นอุดมด้วยปัญญามากขึ้น ซึ่งความรู้ความเข้าใจเดิมต้องการๆ เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ถึงจะสดใหม่ครับ/ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:23:35

ความคิดเห็นที่ 14 ผมได้ยินได้ฟังมาตลอดว่า สัญลักษณ์หรือจุดเด่นของ Mazda ยุคปัจจุบันนั้นก็คือ กระจังหน้า 5 เหลี่ยม แต่ยังไม่เคยได้ยินว่าคือสัญลักษณ์หน้ายิ้ม ซึ่งเมื่อผมได้ฟังแล้วก็ขำ เพราะว่าดูยังไงก็น่ายิ้มชัดๆ ดูคู่หูในรูปนี้ สิครับ ยิ้มมาเลยทั้งคู่ ซึ่ง อันนี้ยิ้มจริง ผู้คนทั่วโลกก็เห็นว่ามันยิ้มเหมือน อย่างที่คนไทยมองเช่นกัน จมูกของรถ อยู่ด้่านบนเหนือปากยิ้มอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะ Mazda 3 หรือ Mazda 2 ซึ่งถ้าจะแก้ไขไม่ให้รถเป็นรถที่ยิ้มจนคนบางกลุ่มที่ไม่ชอบรถยิ้มเกลียด วิธีการคือ เลื่อนตำแหน่งของกระจังหน้า 5 เหลี่ยมให้ขึ้นมาทดแทนจุดที่ เป็นจมูกซะ หรือการเลื่อนตำแหน่งขึ้น ซึ่งเราจะได้เห็นมันกันใน Mazda 6 Mazda ไม่ได้โง่ เพราะเค้าก็รู้ว่า การที่รถเห็นชัดว่า ยิ้ม หรือบึ้งนั้น จะทำให้ คนแบ่งแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงจะชอบ อีกกลุ่มนึงจะเกลียด การที่ทำให้ Mazda 6 เป็นจมูกใหญ่ๆ ดูดุดันตาม concept shinari ทำให้รถดูดุดันมาก! เพราะมันดูเหมือนช่องดักลมขนาดใหญ่ บนตำแหน่งจมูกรถที่โดดเด่น และ designer ยังทำแถบดำเล็กๆ ข้างล่างขอบกันชน ให้ดูเหมือนปากที่ บึ้งตึงเล็กๆ ด้วย ปากบึ้งเล็กๆ เหมือนกับของ BT50 Pro นี่แหล่ะครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:34:56

ความคิดเห็นที่ 15 MAZDA นั้นร้ายมาก ที่แก้ลำ สิ่งที่ตลาดโลกไม่ค่อยชอบกันนัก หน้ายิ้มๆ ไม่ใช่สิ่งที่ดูดีเท่าไหร่ ยกเว้นว่า มันอยู่บน MX-5 ยิ่งเป็นรถระดับ D segment คุณคิดหรือว่า คนจะรับได้กับ รถ mid-size ระดับหรูสปอร์ตแต่หน้ายิ้ม ! Mazda เลือกที่จะทำจมูกให้โดดเด่นแทน ด้วยการเอากระจังหน้า 5 เหลี่ยม วางทาบไว้บนจมูก ทำหน้าที่เป็นจมูกดักลมขนาดใหญ่ ที่ดูดุดันมากๆ แล้วเสริมด้วย ริมฝีปากเรียวบางดูมีสไตล์ ด้านล่างที่เป็นทรงแสดงความขึงขัง หรือเรียกง่ายๆ ว่า "ปากบึ้ง" แทบจะเรียกได้ว่า ทั้ง BT50 pro และ Mazda 6 ใช้กลวิธีเดียวกัน แต่ใช้หลักการออกแบบคนละยุค เพราะ BT50 คือรุ่นสุดท้ายในยุคที่ใช้ design language "Nagare" ส่วน Mazda 6 ได้ใช้หลักแนวคิดใหม่  'KODO' ต่อจาก CX-5 จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 18:47:53

ความคิดเห็นที่ 16 ดูท่าทางทุกคนจะมองว่า BT50 ยิ้ม 555 ก็ไม่เป็นไรครับ ในเมืองไทยผมอาจจะเป็นคนส่วนน้อย แต่ที่จริงอยากให้ตอบคำถามหลายๆ ข้อที่ผมได้ถามไปด้วยว่า ตำแหน่งบนใบหน้าของ BT50 จะอธิบายอย่างไร หากมองว่า จมูกของรถคือปากที่กำลังยิ้ม ตรงนี้ลองมองด้วยเหตุผลเป็นหลักดู น่าจะพอเข้าใจความจริงได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ คนหมู่มากมักจะพาไป แบบนั้นก็คงจะเปลี่ยนแปลงข้อมูลลำบาก แต่แค่ให้คนส่วนใหญ่ได้ผ่าน ตาบ้างแค่นี้ผมก็พอใจแล้วล่ะครับ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 19:03:36

ความคิดเห็นที่ 17 มองเป็นหน้าบึ้ง ขึงขังแล้วเท่ขึ้นมาอีกมากเลยครับ จากคุณ : สิงโตอ้วน เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 19:10:22

ความคิดเห็นที่ 18 นึกว่าอยู่หว้ากอซะอีก ความรู้ทั้งนั้น จากคุณ : Art_Cheewapat เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 19:12:03

ความคิดเห็นที่ 19 ขอค้าน !  ท่านประธาน .... นี่เป็นการ เล่านิทาน ชัด ๆ (แซว) จากคุณ : ปัญญาประดิษฐ์ เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 19:41:17

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนตัวผมมองว่ายังไง Bt50 ก็บึ้ง เพราะผมมองตรงช่องห้าเหลี่ยม เป็นจมูก มองตรงด้านล่างเป็นปาก จากคุณ : NonGGerEKunG เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:28:37

ความคิดเห็นที่ 21 ...ทำมัย มอง ได้แค่ ยิ้ม หรือไม่ยิ้ม... ถ้าปากมันใหญ่ ขนาดนั้นจิงๆ ผมว่ามันไม่ใช่ปาก  แต่ มันคือ ผ้าปิด ปากเหมือน นินจา.... จากคุณ : Externalman เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 20:49:14

ความคิดเห็นที่ 22 ผมมองแวบแรกก็มองเป็นหน้าบึ้งแบบแรกครับ   ส่วนที่หลายคนมักจะมอง เจ้านี้มัน ทา มาช์คาร่า สีส้ม ด้วย ผมเห็นด้วยแต่แทนที่ผมจะรู้สึกว่าเหมือนกระเทย ผมกลับรู้สึกว่ามันดุดันยิ่งขึ้น เหมือนกับการเขียนตาแต่งหน้าแบบ คาบูกิ ทำนองนั้นนะครับ จากคุณ : okazaki เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:08:29

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็เห็น Mazda ช่วงหลัง ออกแบบรถมายิ้มแหกปากซะ ฉีกถึงรูหูทุกคันครับ BT-๕๐ ก็เช่นเดียวกันครับผม ส่วนไฟนั่น ... มันไม่มีความหมายเท่าไหร่ครับ มีหรือไม่มี เราก็นึกถึงปากอยู่ดีครับ เพราะ กระจังหน้า มันเป็นรูปทรง ของปากชัดๆ ครับ ถ้าไม่ทำทรงนี้ ไฟหน้า จะดูสำคัญขึ้น มาเองครับผม จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:12:09

ความคิดเห็นที่ 24 ^ ^ สำหรับผ้าปิดปากเป็นนินจา ผมเคยทำรูป Mazda 3 คือที่ปิดปากนินจา ลงใน Pantip น่าจะปีก่อนโน้นครับ ถ้าเห็นในรูป design concept จะชัดเลยว่าเป็นผ้าปิดปากเพราะว่า ขอบกระจังหน้านั้นสูงขึ้นมาถึงขอบตา เป็นนินจาเลยครับ ปัญหาคือ design นี้อาจจะตกหล่นไปในระหว่างทางตอนที่จะ final design ครั้งสุดท้าย คาดว่า กลัวจะถูกมองว่าหน้าดุเกินไป และมันก็ดูไม่ยิ้ม แต่ เป็น นินจา อย่างที่ว่านี่หล่ะครับ ซึ่ง สุดท้าย ฝ่ายออกแบบก็เลือกให้เป็น แบบ หน้ายิ้มอย่างที่เห็น ซึ่ง มันไม่ได้อยู่ที่ขนาดใหญ่หรือเล็ก แต่มันอยู่ ที่ตำแหน่ง และการที่อยู่บนกันชนหน้าลอยๆ ดังนั้น ทุกคนในโลกจึงลง ความเห็นว่า หน้ามันยิ้มครับผม จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:14:48

ความคิดเห็นที่ 25 น้องยิ้ม ^^ จากคุณ : kulor เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:29:02

ความคิดเห็นที่ 26 หน้ายิ้มค่ะ ชอบมากค่ะ เวลาขับรถสวนกัน เหมือนมีคนยิ้มให้ค่ะ จากคุณ : เด็กดอย เจ้าแม่ปาเงิน เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:29:46

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ที่คูณสยึมกึ๋ยมองแบบนั้น เพราะไม่ได้มีสมองฝั่งศิลปะล็อคเป้าหมายไว้รึเปล่าครับ ผมมองแบบนั้นไม่ได้ เพราะถูกล็อคให้ดูองค์ประกอบข้างเคียงเรียบร้อย การดูเป็นชิ้นๆ คือการมองตรงๆ แบบบริสุทธิ์ผุดผ่อง แบบเด็กบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เวลาวาดภาพอย่างนึง ผมสามารถหลอกเด็กให้ดูได้อีกแบบนึง ถ้าเรารู้ว่าเค้าจับ สัญลักษณ์อะไรที่สำคัญๆ เช่นนักฆ่านินจา แต่ทรงที่ปิดปากมองคล้ายรอยยิ้ม ผมก็สามารถพูดให้เด็กเชื่อได้ว่า คนๆ นี้ยิ้มแฉ่งมาเลยเป็นต้น 555 ผมคิดว่า Mazda ต้องการใช้เอกลักษณ์ 5 เหลี่ยม แต่ส่วนที่ว่าเค้าอยาก ให้มองว่ายิ้มหรือไม่ เป็นอิสระของ Designer ครับ ต้นคิดการออกแบบของ BT-50 คือ Sophisticated Beast หรือ สัตว์ที่ดุร้ายที่ซับซ้อน (อะไรซักอย่าง) แต่ผมเข้าใจว่า มันหมายถึง Beast ที่ดูเหนือกว่า ดูไม่พื้นๆ เหมือนกระบะ ทั่วไป ซึ่ง Designer ไม่ต้องการให้ Beast เป็น Beast ที่ยิ้มแฉ่งแน่นอน ปากด้านล่างสำคัญที่สุด ที่ต้องการสื่อถึงอารมณ์ของตัวรถ ถ้าเรายึดปากบนเป็นปาก ปากด้านล่างก็มีเหมือนไม่มีเหตุผล อย่างที่คุณ Externalman ว่าไว้ มันเหมือนหน้ากาก แต่ Mazda 3 พลาดที่ เป็นหน้ากากลอยๆ มันจึงกลายเป็นยิ้มแฉ่ง แป๊ะยิ้ม ส่วน BT50 นั้น ล็อคไว้อยู่ตรงกลาง เป็นหน้ากากโรบินฮู้ดได้พอดี รูปทรง 5 เหลี่ยมเป็นรูปทรงที่เท่ครับ ไม่ใช่ปากยิ้ม แต่ให้นึกถึงโลโก้อมตะ อย่าง Superman เพราะฉะนั้น Mazda 3, Mazda 2 นั้นพลาด พลาดตรง ที่ทำให้คนเข้าใจว่า กระจังหน้า 5 เหลี่ยมคือกระจังยิ้ม พลอยทำให้มีคน มองรูปทรงเหมือนๆ กัน กลายเป็นยิ้มไปหมด ทั้งๆ ที่ ถ้าเข้าใจด้านศิลปะ จะเห็นเป็นโครงหน้า โครงหน้าแบบ คาบูกิ นั่นก็ใช่ครับ เหมือนเลยทีเดียว เมื่อปีที่แล้วผมออกแบบมาเล่นๆ หน้ารถ ก็คือหน้าที่มีรายละเอียด มีตา หู จมูก ปาก หรือจะทำเป็นหน้าหุ่นยนต์ที่ชอบในอดีตแบบนี้เลยก็ได้ ถ้าองค์ประกอบเหมาะสม เราจะมองว่ามันเป็นเกราะ หรือที่ปิดปากอะไร ซักอย่าง อย่างรูป concept ของ Mazda 3 ด้านบน น่าเสียดายมากที่เค้า คัดทิ้ง จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 21:33:46

ความคิดเห็นที่ 28 พูดถึงกระจังหน้าทรง 5 เหลี่ยม เมื่ออยู่ในตำแหน่งต่างๆ ก็จะมีลักษณะต่างกัน นินจาคนที่ 1 คาดตา หรือคาดหน้าผาก ถึงจะเป็นทรงยิ้ม แต่ก็มองเห็นเป็น ชุดเกราะ หรือชิ้นส่วนที่เสริมบริเวณตา เปรียบได้กับ BT50 แถมยังโชว์ปาก เพื่อบ่งบอกอารมณ์ว่ากำลังรู้สึกอะไร นินจาคนที่ 2 เป็นนินจาแบบดั้งเดิม คือใชผ้าปิดหน้าเพื่อไม่ให้เห็นว่าเป็นใคร ขนาดของผ้าปิดเต็มเนื้อที่ เปรียบเทียบได้กับ Mazda 3 โฉมนินจาตอนที่เป็ นภาพสเก็ตช์ นินจาคนที่ 3 ใช้ผ้าทรง 5 เหลี่ยมปิดปาก แต่เนื่องจากมีขนาดเล็กๆ ดูลอยๆ ทำให้คนมองเห็นเป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย Mazda 3 และ 2 อาจจะดูไม่เจ้าเล่ห์ แต่ก็เป็นผ้าปิดปากลอยๆ ดูเหมือนยิ้มแฉ่ง จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 55 22:14:59

ความคิดเห็นที่ 29 ท่านพูดซะผมไม่เหลือศิลปะเลย ฮ่าๆๆๆ (โทษทีนะครับ ผมแจก Give ไม่ได้ มันหมดไปแล้ว) จริงๆ ผมจบสายศิลปะมาคนหนึ่งครับ แต่ มันเป็นดนตรีสากลแทน ก็เท่านั้นเอง ที่ท่านมอง ผมว่าเป็นลักษณะทาง "ศาสตร์" มากกว่าทางศิลป์ครับ ศิลป์จริงๆ ว่ากันที่ความรู้สึกครับ ประสบการณ์ของแต่ละคน จะเป็น ตัวเติมเต็มในานที่พบครับ ผมกล่าวแบบนั้น เพราะว่า ผมเห็นไอ่รูปทรงเนี่ยะ มันเอาไว้ใช้ทำ ปากที่แหกกยิ้มครับ แต่ ... กลับกัน หากผมนั่งมองทรงบ่อยๆ ผม ก็อาจจะรู้สึกไปว่า มันคือตราทรงเท่ห์ๆ ได้ครับ เพราะว่า ... ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเรานั้น ต่างกันไงครับท่าน รูปเดียวกัน เราถึงเห็นออกไปต่างกัน และให้อารมณ์ออกมาที่ต่าง กันออกไปครับ ถ้าคนอย่างผม มองแบบตั้งเป้า แยกชิ้น วิเคราะห์ องค์ประกอบทางศิลป์เอง มันก็จะกลายเป็น ไม่ได้มองภาพรวมไป เสียฉิบ ผมเคยมีลูกศิษย์ เอ่อ เอาเป็นคนรู้จักดีกว่า เป็นผู้หญิง ที่หลายๆ คนเห็นก็บอกว่า สวยมาก ผมก็ค่อนข้างเชื่อนะ ... แต่ เมื่อแยก พิจารณาที่ละจุด ผมว่าผลมันตรงกันข้าม ตาก็แปลกๆ ปากก็แปลกๆ แต่เชื่อมะ เมื่อเอามารวมกัน ความรู้สึกมันต่างกันออกไป ผมว่า BT-๕๐ เนี่ยะ วางรูปทรงแต่ละชิ้นไว้ได้ OK นะครับ แต่พอ เอามารวมกัน ผมกลับรู้สึกไปอีกทางเท่านั้นเองครับ และไม่ว่าท่านจะย้ายกระจังหน้าทางนั้น ขึ้นหรือลงไปตรงไหน ผล ที่ได้ มันก็เหมือนๆ เดิมครับ มันคือ ปากยิ้มแฉ่ง (แบบเกินเหตุ) ครับ เพราะ ๑. ขนาดของมันที่โตมาก มันจึงเด่น ๒. รูปทรงมันเป็นปาก ในประสบการณ์เก่าๆ ของหลายคน (เชื่อสิ     ว่ามนุษย์ต่างดาว ไม่คิดว่ามันเป็นปากหรอก) ทีนี้ถ้าท่านอยากเปลี่ยน ... ง่ายมากครับ เปลี่ยนทรงมัน จะง่ายกว่า ครับผม ผมเชื่อแบบนั้นครับ เพราะไอ่รูป ๕ เหลี่ยมในชีวิตคนเรา มัน ไม่ค่อยเจอครับ ไม่เจอจนฝังใจ เห็นอะไร จะไปนึกถึง มันคงยากครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 01:27:35

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมองไม่ออกว่ามันยิ้มหรือมันบึ้งนะ แต่ชอบตรงที่ว่ามันเปลี่ยนจากรถกระบะทุก ๆ รุ่นที่ทำออกมา เหมือนเป็นอีก Generation นึงเลยทีเดียว ผมว่าทำออกมาแบบนี้มันดูน่าสนใจและอาจจะทำให้ผู้ผลิตหลาย ๆ รายต้องออกมาวิเคราะห์โฉมรถรุ่นใหม่ของเค้า จากคุณ : Crazypapsi เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 11:30:00

ความคิดเห็นที่ 31 ดนตรีก็เป็นศิลปะ แต่ว่าอาจจะเป็นศิลปะคนละมิติกับการวาดภาพเลยก็ว่าได้นะ ครับ เพราะดนตรีมีหลากหลายมาก เสมือนเป็นตัวแทนคลื่นสมองของคนแต่ ละคนก็ว่าได้ เพลงจึงเป็นคลื่นเสียงที่เหมาะในการพัฒนาสมองของเด็กทารก แรกเกิด ดังนั้นดนตรีน่าจะเป็นสื่อที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนมากกว่า อย่าง เช่นคนที่มีหลายบุคลิก ก็ชอบฟังเพลงหลายสไตล์ คนที่ซับซ้อนก็จะชอบเพลง ที่มีรายละเอียดสูง คนที่เล่นดนตรีได้ สามารถเล่นเพลงต่างๆ ได้ แต่หลายคน ไม่สามารถแต่งเพลงเองได้ (ทำให้น่าสงสัย เพราะท่วงทำนองที่ unlimited ขนาดนั้น ถึงแม้การใช้โน้ตซ้ำกันเกิน 5-6 ตัวจะถือเป็นการลอกจนผิดกฎหมาย ลิขสิทธิ์ในบางประเทศก็ตาม ทำไมถึงมีเพลงที่แต่งเจ๋งๆ น้อย) เมื่อดนตรีเป็นสิ่งที่แสดงความเป็นตัวตนสูง ดังนั้นโอกาสที่แตกคอกันเอง หรือแตกวงก็มีสูงหากไม่มีใครยอมใคร ในขณะที่ด้านการวาดภาพ เราอาจ จะไม่ชอบสไตล์ของการวาดของคนๆ นั้น แต่เราจะยอมรับในเรื่องขององค์ ประกอบ หรือเนื้อเรื่องของภาพได้ง่าย เข้าใจและสนุกไปกับเรื่องราวของ คนอื่นได้ ทั้งๆ ที่ไม่ชอบลายเส้นของหมอนี้เลยเป็นต้น ดนตรีเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนถึงตัวตนสูงดังนั้น ถ้าโยงมาถึงเรื่องศิลปะ ที่เป็นภาพ ผมคิดว่าโอกาสที่ฟันธงสิ่งที่ตนเองชอบก็จะสูงไปด้วย ในขณะ ที่ด้านศิลปะแขนงที่ทำอยู่ (ไม่ใช่แขนงช่างศิลปขั้นสูงที่เข้าไม่ถึง) ผมต้อง crosscheck อยู่ตลอดเวลาว่า อันไหน in อันไหน out และต้องปรับตัวอยู่ ตลอด เพื่อแก้ไขแนวความคิดที่อาจจะผิดพลาด ให้ถูกต้องให้มากที่สุด ในขณะที่ตัวตนหลักก็คงยังต้องมีอยู่ด้วย แต่รายละเอียดรอบๆ อาจเปลี่ยน แปลงไปได้เรื่อยๆ นั่นคือทำไม อ.อากิระ โทริยามะ ถึงวาดตัวละครใน Dragon Ball หน้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในแต่ละภาค เพราะเมื่อมีการ update เกิดขึ้น รายละเอียดที่เก่าและอาจจะผิดไปแล้ว ก็ต้องแก้ หรือรถที่มีการ เปลี่ยนรุ่นทุก 4-6 ปี ศัพท์ทางการเรียกว่าการ re-design ซึ่งความหมายชัด เจนอยู่ในตัวของมันเอง คือการหยิบของเก่ามาปรับปรุงแก้ไขใหม่ ให้ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น องค์ประกอบมีความถูกต้องมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็น model change อันเป็นศัพท์ที่คนทั่วไปคุ้นเคย และยิ่งเปลี่ยนรูปโฉมมาก ขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งชอบมากขึ้นเท่านั้น ผิดกับดนตรี เช่นเพลง Imagine ของ John Lennon เราไม่สามารถทำการ re-design ให้กับเพลงที่อมตะที่สุดได้ อีกต่อไป ถึงจะมีกี่เวอร์ชั่นที่ทำใหม่ แต่คนก็ยังต้องการฟังเพลงต้นฉบับมาก ที่สุด เพราะเพลงคือสิ่งที่แสดงถึงตัวตนของคนๆ นั้นได้ ส่วนรถ หรือการ วาดภาพ เราต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้น ต้องมานั่งดูว่าอะไร คือจุดออ่นในการดีไซน์ของเดิม แล้วมาแก้ใหม่ โดยที่ยังคงยึดเอกลักษณ์ เดิมซึ่งเป็นตัวตนของตัวเองเอาไว้ด้วย Mazda เลือกทรงกระจัง 5 เหลี่ยม BMW เลือกกระจังทรงไตคู่ โทริยามะเลือก ผมชี้ๆ ตาเม็ดๆ ลายเส้นที่เป็นมิตร ดังนั้นผมคิดว่า ควรจะฝึกการวาดภาพและถ้ามีความสามารถก็ฝึกดนตรีด้วย แต่จะมีเวลาพอรึเปล่าสำหรับเด็ก เพราะดนตรีต้องการๆ ฝึกฝนมาก และ เมื่อเล่นเพลงได้แล้ว ก็ต้องสามารถแต่งเพลงให้ได้ด้วย เพื่อเป็นการฝึก จินตนาการ อันที่จริงทรง 5 เหลี่ยมของ Mazda ก็ไม่ใช่ปากยิ้มแฉ่งในการวาดภาพ เพราะปากที่แสดงออกถึงการยิ้มในการวาดภาพนั้นมีไม่จำกัด ของ Hyundai Elantra นี่ ยิ้มน่าเกลียดมาก Avanza ใหม่ยิ้มได้โอเคเลย สัดส่วนกำลัง เหมาะสม แต่ทีผิดก็คือตำแหน่งของกระจังหน้า 5 เหลี่ยม ที่ไปอยู่ใน ตำแหน่งของการอ้าปาก ถ้ารถญี่ปุ่นองค์ประกอบค่อนข้างจะชัดเจน ว่าเป็น ใบหน้าของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นเราจะเห็นปาก อยู่ในตำแหน่งของปากแน่นอน จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 11:50:46

ความคิดเห็นที่ 32 เหตุผลที่เลือกทรง 5 เหลี่ยมที่มีตรงกลางแหลมลงมาข้างล่าง เพราะว่ามันเป็นทรงที่เหมาะที่สุดที่จะรับกับเส้นผ่าตรงกลางของบอดี้ตามลูกศร ที่ Designer เชื่อว่ามันจะเป็นคมดาบที่แหวกอากาศผ่านไปได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของ Nagare ซึ่ง น้อยยี่ห้อจะมีแบบนี้ ถ้าทำกระจังป้านๆ ก็จะไม่เข้ากับ เส้นคมที่อยู่ตรงกลางอันนี้ ซึ่งเป็นเส้นที่ผ่ากลางโลโก้ M ของ Mazda ได้พอดิบพอดี (ตรงกลางอักษร M ก็จะเป็นติ่งแหลมชี้ลงมาข้างล่างอยู่แล้ว) ในขณะที่ Toyota นั้นไม่สามารถทำได้ เพราะองค์ประกอบต่างๆ ไม่อำนวย ต้องพึ่งทรงโค้งกลมเท่านั้นถึงจะเหมาะ ที่ Designer ต้องการก็คือหน้ากาก ซึ่งต้องเป็นทรงที่เหมาะเหม็งกับ บอดี้ concept การออกแบบ โลโก้ แบบพอดิบพอดี และต้องเป็นทรง ที่สวยที่สุด จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 12:04:12

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเห็นตอนเปิดไฟหน้าแล้ว จากหน้าหวานๆ จะเปลี่ยนไปทันที่ จากคุณ : QC Pass (wong1989) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 12:45:32

ความคิดเห็นที่ 34 เอ ... ผมคงไม่เหมือนชาวบ้านจริงๆ หละ เพลงก็เหมือนกันครับ ผมชอบเพลงที่เปลี่ยนแปลงไปจาก ต้นฉบับเดิม คืน เล่นใหม่อย่างไงก็ได้ครับ ผมพร้อมฟังเพลง อิมเมจิ้นแบบสามช่าด้วยซ้ำไป สำหรับผม สวยก็คือสวย เพราะก็คือเพราะ ต้นฉบับ ไม่สำคัญ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 21:23:43

ความคิดเห็นที่ 35 ความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงในข้อมูล และมีตัวตนที่ชัดเจน นี่แหล่ะครับนักดนตรี ส่วนด้านศิลปะด้านภาพคุณสยึมกึ๋ยไม่มีกึ๋นทางนี้เลยล่ะว่ากันตรงๆ  :D ไม่เห็นไรนะเพราะคนเราถนัดไม่เหมือนกัน โอเคเนอะๆ จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 01:37:17

ความคิดเห็นที่ 36 อธิบายก่อน ก่อนที่จะเข้าใจผิดเรื่องเกี่ยวกับเพลงเพลง ตัวนักดนตรีเองนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรในการเอาเพลงเก่าๆ มายำ เพราะมันเป็นความชอบและตัวตนซึ่งไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์อะไร แต่กรณีก่อนหน้าที่ผมพูดถึง Imagine ผมกำลังพูดอธิบายถึงหลักสัจธรรม ว่า เพลงเวอร์ชั่นหลังๆ มันไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะทำทำไปมากๆ บางครั้งมัน เหมือนขยะด้วยซ้ำ และคนก็จะลืมในเวลาไม่นานนักเพลงไม่ต้องการ re-design เท่าไหร่ ถ้าแต่งก็แต่งใหม่ไปเลย มันจะเวิร์ค คือ เพลง ไม่ต้อง re-design จะดีกว่า     รถ หรือการศิลปะทางภาพ ของ re-design เรื่อยๆ จะดีกว่า ถ้าคุณสยึมกึ๋ยตีกรอบว่าความรู้เรื่องดนตรีคือการเชื่อมโยงเข้าสู่ศิลปะด้าน ภาพนั้นคงจะไม่ใช่ เกือบจะเรียกได้ว่ามันเป็นคนละด้านกัน การทำดนตรี อาจจะเอาตัวเองเป็นหลักไว้ก่อน เช่นฉันจะมองมันเป็นปาก นี่แหล่ะถูกต้องที่สุดสำหรับฉัน ส่วนคนทำภาพ จะพยายามถามหาข้อมูลให้มากที่สุดเพื่อประมวลผลออก มาว่าไอ้ที่วาดมามันใช่หรือไม่ใช่อย่างไร แล้ว re-design อัพเดทตามข้อ มูลใหม่ๆ สดๆ แต่ศิลปะวาดภาพแบบไม่แคร์สังคมอันนั้นผมไม่พูดถึง เพราะว่าอาจจะติสท์จนหลุดโลกไปแล้ว ไม่ได้เป็นคนที่มาทำงานทางสื่อ แบบปกติทั่วไป จากคุณ : เน็ดคุง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 01:52:35

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เลยครับท่านเน็ดคุง ... ผมกล่าวเฉพาะดนตรีครับ ผมไม่ได้เรียนศิลปะ ทางทัศนศิลป์ มาโดยตรงครับ เรื่องพวกนั้น ผมทราบแบบหยาบๆ ครับ แถม ที่รู้ก็ อาจจะผิดพลาดเสียด้วยครับ แต่เรื่องเพลงนี่ ... ก็เหมือนท่านว่าครับ หลายคน ชอบต้นฉบับ เดิมครับ โคฟเวอร์ใหม่ให้ตายอย่างไงก็ไม่ชอบครับ ทั้งๆ ที่ผม ฟังมาหลายเพลง ผมว่า ทำใหม่เพราะว่าเยอะก็มีครับ อย่าง Santana เห็นชัดมากครับ แต่ ... นั่นมันก็ผมนั่นแหละ ผมชอบ อะไรที่ต่างจากเดิม ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะ ผมชอบเครื่องดนตรียุคใหม่ ที่ให้คุณภาพเสียง ที่ดีกว่าก็ได้ครับ เครื่องรุ่นเก่าๆ เสียงจะฟุ้งๆ บางๆ ผมไม่ชอบ ผมชอบเสียงแน่นๆ หนาๆ ฟังแล้วมีพลังครับ ขนาดเนื้อเปลี่ยนแปลงไป เมดลดี้หลักเปลี่ยน คอร์ดเปลี่ยน ผม ก็ยังฟังเลยครับ เอาเพลงสตริงไปเล่นให้เป็นบอสซ่าโนว่า แจ๊ส กันไปเลย ผมก็ยังชอบเลย และไม่รู้สึกว่า มันเป็นขยะไปครับ กลับกัน เพลงที่ออกมาใหม่เลย บางครั้งก็เป็นขยะไป ตั้งกะเพิ่ง ออก เหมือนกับเพลงเก่าบางเพลงนั่นแหละ อ่อ อีกเรื่องคือ ผม ไม่ค่อยได้ฟังเนื้อร้องหรอก เป็นภาษาอะไรก็ช่าง ผ่านเข้าหูมา โดยมาก เหลือแต่เสียงธรรมดา เหลือแต่ทำนอง เหมือนเสียงร้อง กลายเป็นเครื่องดนตรีไปชิ้นหนึ่งครับ อันนี้ยอมรับว่า ผมไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านทั่วไปเขาครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 13:26:39