Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
=== "อั้นแน่" สาวติสท์ ติดจักรยาน ตอนที่ 5 ==={แตกประเด็นจาก V12567339} ติดต่อทีมงาน

=== "อั้นแน่" สาวติสท์ ติดจักรยาน ตอนที่ 5 ===

= คำนำ =
เสียดายเราไม่มีเครื่องหยุดเวลา
แต่ขอบคุณพระเจ้าที่สร้างตัวหนังสือมาให้เป็นทามแมชชีนชั่วคราวย้อนกลับหาอดีต
"อั้นแน่" สาวติสท์ ติดจักรยาน จะพาคุณย้อนอดีตหาวันวานอันแสนหวาน พร้อมแล้วก็เกาะขอบล้อตามมาเลย


= ความเดิมตอนที่แล้ว =
ผมไม่ได้เจออั้นแน่หลายวันแล้ว ล่าสุดก็มาเจอกันบ่ายวันนี้
ทำให้ผมห้ามใจไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ผมจึงไปชวนเธอกินข้าวด้วยกันครั้งแรก
(อ่านตอนที่ 1-4 ได้จากลิ้งค์ด้านล่างนะครับ)


=== "อั้นแน่" สาวติสท์ ติดจักรยาน ตอนที่ 5 ===

เราปั่นจักรยานไปกินข้าวที่ตลาดหน้ามอด้วยกัน
อั้นแน่ใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวตัวเดิม กางเกงยีนส์เข้ารูปสีเทาขาสั้นประมาณหัวเข่า
สะพายกระเป๋าข้างผ้าแคนวาสสีเขียวเย็บขอบด้วยหนังสีน้ำตาล
รองเท้าแบบ TOMS สีเชอร์รี่ ปั่นจักรยานแม่บ้านสีชมพูลายคิตตี้ปลอมคันเก่งของเธอ

ส่วนผมนะเหรอ เสื้อหน้าศึกษาแขนขาวติดกระดุมทุกเม็ด ใส่เน็คไทค์
กางเกงแสลค รองเท้าหนังแบบผูกเชือกตามระเบียบ ปั่นจักรยานเช่าสีน้ำเงินของหอพัก
เพราะพอเลิกเรียนผมก็แวะมาหาอั้นแน่เลย ยังไม่ทันกลับไปเปลี่ยนชุด

เราเริ่มปั่นออกจากหอ 7 หญิง ผ่านสี่แยกไฟแดงที่หอ 3 หญิง
ผ่าน อมช.(โรงอาหารกลาง) ผ่ากลางหมู่ตึกคณะวิทยาศาสตร์
มาออกทางศาลาธรรม ไปประตูหน้ามอชอ
ผมให้อั่นแน่ขี่นำไปก่อน โดยบอกว่าจะดูรถด้านหลังให้
ที่จริงแล้ว ผมอยากมีเวลามอง และพิจารณาเธอมากกว่า
ผมชอบมองไรผมสั้นๆที่หูของเธอยามโดนลมสบัดปลิว
ผมซอยสั้นเผยให้เห็นเนื้อคอสีขาวนวลที่ตัดกับผมสีดำ
แผ่นหลังและช่วงตัว ที่รับกับช่วงขาที่ยาว ศิลปะอาจเรียกสิ่งนี้ว่าความลงตัว
แต่วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นเรียกสิ่งนี้ว่า Equilibrium

เราเพิ่งมีโอกาสได้รู้จักกัน แม้เราจะได้พบกันในเวลาสั้น
แต่ก็เหมือนเป็นคนที่ได้เจอกันมานานแล้ว
ที่จริงควรเรียกว่า "เราควรได้เจอกันมานานแล้ว"
ให้ตายสิ ผมเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว ขอโทษที

เราตัดสินใจหาอะไรกินกันที่ร้าน Milk Zone
โดยจอดจักรยานไว้หน้าร้านและล๊อคไว้ด้วยกัน
"แถวนี้ไม่มีที่จอดล๊อคจักรยาน ก็คงต้องล๊อคไว้แบบนี้
ถ้าขโมยจะเอาไป ก็คงต้องขโมยไปทั้งสองคัน" เธอพูดกับผม
ผมได้แต่พยักหน้าและไม่ได้ตอบอะไร พลางคิดในใจว่า
ใจผมก็อยากจะล๊อคไว้กับใจเธอด้วยเหมือนกัน
เวลาใจเธอไปไหน ใจผมก็จะได้ตามไปด้วยทัน

ผมถามเธอบนโต๊ะอาหารว่าวันนั้นที่ให้ผมยืมจักรยาน
ทำไมเธอถึงให้ผมยืม ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

"อ่อ เราเคยเห็นธันวามาก่อนนะ เธออาจจำไม่ได้
ต้นเทอม เรานั่งทำงานใต้หอเธอ แล้วเธอก็เทน้ำมาม่าใส่โต๊ะเรา
มันกระเด็นโดนงานเราเปรอะหมดเลย เพื่อนเรารีบตะโกนขึ้นไป
แต่เธอก็เดินเข้าห้องไปแล้ว ตอนนั้นเราโมโหมาก
ถามเพื่อนเราที่อยู่หอนี้ว่าเจ้าของห้องนี้คนไหน
เพื่อนเราก็ชี้เธอให้เราดู เราจึงรู้จักเธอนับแต่นั้นเป็นต้นมา"

ผมรีบขอโทษขอโพยอั้นแน่ ผมไม่รู้มาก่อนว่าทำให้ใครเดือดร้อน
จากการชอบกินมาม่าหอยลายผัดขี้เมาแห้งของผม(O_o") แต่ว่าไปก็คงผิดที่ผมเอง
ที่เวลาเทน้ำมาม่า ผมขี้เกียจเดินไปเทที่ห้องน้ำ จึงเทมันดื้อๆตรงระเบียงห้องตัวเอง

ผมถามเธอต่อว่าทำไมวันนั้นจึงให้ผมยืมจักรยาน
เธอตอบว่า "วันนั้นนะเหรอ เราเห็นเธอวิ่งมาแต่ไกลแล้ว เธอดูรีบๆ รีบมากๆ
เราก็เลยถามออกไป เธอกล้ายืม เราก็กล้าให้
เราเคยเสนอจักรยานให้เพื่อนเรายืมหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีใครอยากจะปั่นมัน
ขนาดเมท(เพื่อนร่วมห้อง)เรา ยังพูดแบบว่า...จะใช้จักรยานทำไม
ไม่มีใครเค้าใช้กันหรอก เหนื่อย ที่จอดก็ไม่มี เดี๋ยวก็หาย แล้วเดี๋ยวรถก็ชนเอาหรอก
เพื่อนเราอีกหลายคนก็พูดกันแบบนี้ ทั้งที่มันไม่เคยจะลองปั่นจักรยานด้วยซ้ำ
มีเพื่อนเราอีกคนยังบอกอีกว่า มอชอนะ เนินเยอะ ปั่นขึ้นเนินเหนื่อยจะตาย
โดยเฉพาะเนินอีค่อน (คณะเศรษฐศาสตร์) แต่เราก็พยามอธิบายว่า ถ้าวางแผนว่าจะไปไหน
เราก็เลี่ยงได้นะ แบบจากหอ 7 หญิง จะไปหอสมุด ก็ไม่ต้องไปทางเนินอีค่อนก็ได้..."

"ไปทางตึกวิทย์ แล้วทะลุออกข้างหอสมุดใช่ไหม" ผมพูดขัดขึ้นมา
"ใช่แล้ว ไปทางนั้นแหละ เรานะ พยายามอธิบาย มันก็ยังหาว่ามันอ้อม
เราก็บอกว่า มันเป็นการวางแผนการเดินทาง ถ้าเรารู้ว่าจะไปตรงไหน และมีอุปสรรค์ตรงไหน
เราก็วางแผนให้มันไปอีกทางที่ดีกว่าได้นิ แต่มันก็จะบอกว่าอีกว่า
กรุอยากไปไหนกรุก็ไป ไม่เห็นต้องวางแผนอะไรเลย
เรานะ เหนื่อยใจที่จะอธิบายมันจริงๆ" อั้นแน่เธอระบายออกมาอย่างไม่อั้น

"ก็มีแต่ธันวานี่แหละที่ปั่นจักรยานเรา ตอนเย็นที่เห็นธันวาปั่นจักรยานอะ
เราดีใจมากเลยนะ อย่างน้อยก็มีคนที่ปั่นเป็นเพื่อนเรา
ถ้าเราบ้า เหมือนที่คนอื่นบอก เราก็คงมีอีกคนที่บ้าเหมือนเรา
จักรยานสำหรับเรานะ ทำให้เราได้ไปโน่นไปนี่ได้ตามที่เราอยากไป
ถ้าเราเหนื่อยเราก็พัก ถ้าเราปั่นไม่ไหวเราก็จูง
วันนั้นที่ธันวาพาเราขึ้นไปอ่างเกษตรอะ วันเสาร์ใช่มะ
ตอนวันอาทิตย์เราก็แวะขึ้นไปอีกนะ ไปตอนเย็นๆ
ซื้อเจียวดาว (ไข่ที่มีไข่เจียวและไข่ดาวอยู่ในฟองเดียวกัน) จากหลังมอแล้วก็ปั่นขึ้นไปหนะ
ธันวาเคยขึ้นไปตอนค่ำปะ " ผมสั่นหัวแสดงว่าไม่เคย แล้วเธอก็พูดต่อ
"ตอนมืดนะ ดาวสวยมากเลย ที่นี่เห็นดาวชัดกว่าที่บ้านเราอีก
เรานะ ช๊อบชอบอ่างเกษตร ตอนเช้าก็สวย ตอนเย็นก็สวย..."

หลังกินอาหารเสร็จ เราสั่งปังเย็นมากินกันต่อ
แล้วอั้นแน่ก็ชวนคุยอีกสัก 2-3 เรื่อง
ตอนนี้ เธอ..สำหรับผมแล้ว
คนอะไรก็ไม่รู้ ตอนเช้าก็สวย ตอนเย็นก็สวย น่ารักด้วยอีกต่างหาก

สักทุ่มกว่าเราออกจากร้าน ปั่นจักรยานย้อนกลับไปทางเดิม
แต่ไม่ทันไร เพิ่งพ้นประตูมหา'ลัยเข้ามา ฝนที่ก่อตัวมาตั้งแต่เย็นก็ตกซะแล้ว
สายฝนโปรยปรายมาอย่างเราตั้งตัวไม่ทัน ฝนต้นฤดูตกอย่างไม่เกรงใจใคร
มีเท่าไร เทให้หมด อย่างนั้นเลย

ถนนเข้ามอจากด้านหน้าเป็นทางตรงยาวไม่มีที่ให้เราหลบฝน
นอกจากปลายสุดถนน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาธรรม
ศาลาธรรมเป็นเรือนปูนสีขาวขนาดใหญ่
มีสะพานบันไดทอดยอดยาวจากทางขึ้นด้านหน้าสู่ตัวเรือน
ขอบรั้วบันได ตลอดจนบานประตู หน้าต่าง และหลังคา เป็นสีแดงชาดทั้งหมด
ด้านหน้ามีป้ายชื่อเหนือบานประตูแบบจีน เขียนตัวหนังสือสีทองบนแผ่นไม้สีแดงว่า
"ศาลาธรรม"

เราทิ้งรถไว้บันไดทางเข้าข้างหน้า และวิ่งไปหลบฝนใต้ชายคาของศาลาธรรม
บัดนี้ผมและเธอเปียกปอนไปทั้งตัว อั้นแน่ตัวสั่นเป็นลูกหมา
ผมเองก็สั่นไม่แพ้กัน เพราะลมที่พัดมาพร้อมฝนนั้นแรงมาก
จนตอนที่ขี่จักรยานรู้สึกเหมือนมีใครนำเข็มเป็นพันๆเล่มมาทิ่มแทงหน้า
ผมพาเธอหลบลมไปซอกตึกด้านข้างของศาลาธรรม
ณ ที่นี้มีเราอยู่เพียงสอง
ไฟสลัวๆสีส้มจากโคมไฟที่มุมตึก ส่องให้พอเห็นทุกสิ่งทุกอย่างแบบลางๆ
ฝนลงเม็ดแรงขึ้นมาอีก เธอหันหน้ามาและขยับใกล้เข้ามาด้านในอีก
ช่วงเวลานี้ ผมกำลังจ้องมองหน้าเธอ ผมและเธอยืนห่างกันไม่เกินเอื้อม
ภาพตรงหน้าของผมเป็นภาพของใบหน้าสีขาวที่ต้องแสงไฟสีส้มส่งให้เปล่งประกายออกมา
ในฉากหลังที่มืดสนิท ผมของเธอเปียกและประอยู่บนใบหน้า เรียวปากที่เคยเป็นสีชมพู
ได้กลับซีดลงเพราะความหนาว แต่ทว่ายังคงรูปที่งดงามเหลือเกิน
เสื้อนักศึกษาสีขาวของเธอที่ชุ่มน้ำไปทุกจุด ตอนนี้แทบจะซีทรู
ผมก้มมองลงไปที่เรือนร่างของเธอ สายตาผมค้างและจดจ้องอยู่นาน
ผมไม่สามารถละสายตาออกมาได้ ผมรู้สึกว่าผมกลืนน้ำลายเสียงดังมาก
และเธอก็พูดขึ้นมาคำเดียวว่า "บร้า" และหันหลังหลบสายตาผม

ณ เวลานี้ ผมคงเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก เพราะได้มายืนอยู่กับอั้นแน่
ในสภาพเปียกปอนกันสองต่อสอง ดวงอาทิตย์ลาลับไปนานแล้ว
ท้องฟ้าช่างมืดตึ๊ดตื๋อ ลมฝนที่พัดมามันช่างหนาว
ดั่งเป็นเสียงสนับสนุนให้เราอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น รึไร


ตอนที่ 1 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12564214/V12564214.html
ตอนที่ 2 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12567339/V12567339.html
ตอนที่ 3 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12567339/V12567339.html#26
ตอนที่ 4 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12567339/V12567339.html#38

ตอบจดหมายตอนที่ 1 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12564214/V12564214.html#22
ตอบจดหมายตอนที่ 2 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12567339/V12567339.html#25
ตอบจดหมายตอนที่ 3-4 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12567339/V12567339.html#54
ตอบจดหมายตอนที่ 5 :: http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V12587368/V12587368.html#22

เนื้อที่โฆษณา
ผมจะอัพทุกๆตอนที่เฟสบุคอันนี้นะครับ กดแอดกันไว้นะครับ เผื่อหากระทู้ไม่เจอ
:: https://www.facebook.com/reallykeab

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 55 13:06:53

แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 11:23:33

จากคุณ : หอยทากตัวน้อย
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 20:23:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com