ความคิดเห็นที่ 1 อยากรู้ว่า city bike , Mountain Bike , Touring ต่างกันอย่างไร? ถ้าจะบอกว่า City Bike ก็เหมือน City Car... คือจักรยานที่มีวัตถุประสงค์จะใช้งานในเมือง.. ส่วนใหญ่จะใช้ล้อ 700C เหมือนของเสือหมอบ.. แต่ก็จะใส่ยางหน้ากว้างกว่า เช่น 700x35C ขณะที่เสือหมอบใช้ยางหน้าแคบ 700x23C อุปกรณ์ขับเคลื่อนจะเอาของเสือภูเขามาใช้ เช่น จานหน้า 3 ใบ แต่จะใช้จานใหญ่กว่าภูเขา เช่น 48T-38T-28T (T คือจำนวนฟัน).. ขณะที่ภูเขาใช้จานเล็กกว่าเช่น 44T-32T-24T เป็นต้น.. ส่วนเฟืองหลัง ก็จะใช้ของเสือภูเขาเช่นเดียวกัน ซึ่งก็จะเป็นขนาด 12T-32T อย่างนี้เป็นต้น เบรคตอนนี้ก็จะเลือกเป็น วีเบรค หรือ ดีสเบรค.. รูปทรงก็จะเพรียวๆ ไม่ได้บึกบึนเหมือนจักรยานเสือภูเขา.. ทรงจักรยานจะไปทางเสือหมอบมากกว่า แต่องศาจะมาทางภูเขา คือล้อไม่ได้จัดชิดเฟรมเหมือนของเสือหมอบ.. ทั้งนี้เพื่อให้ขี่สบายๆ นั่นเอง.. บางครั้งจักรยานพวก City Bike ก็จะเรียกว่า Hybrid Bike เพราะเป็นจักรยานลูกผสมระหว่างเสือหมอบ กับเสือภูเขา   เป็นรถที่ปั่นได้เร็วกว่าเสือภูเขา แต่ก็ทำความเร็วได้ไม่เท่าเสือหมอบ สามารถไต่เนินสูง สะพานชันๆ แต่ก็ไม่สามารถเอาไปลุยป่าลุยเขาได้แบบจักรยานภูเขา... ก็ตามชื่อของมันคือเหมาะสำหรับปั่นในเมือง... ทางเรียบ... ทำความเร็วได้ ปั่นสบายๆ ไม่ต้องก้มไม่ต้องหมอบ... จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 08:34:07

ความคิดเห็นที่ 2 City Bike = จักรยานที่ใช้ในเมือง คงจำกัดความมาจากว่า ใช้ในเมืองน่าจะต้องมีความคล่องตัวสูง แม่บ้าน (milf) ใช้ในเมืองได้ touring bike (ท่องเที่ยว)  ใช้ในเมืองก็ได้ Mountain Bike (เสือภูเขา)  ใช้ในเมืองได้ Road Bike (เสือหมอบ)  ใช้ในเมืองได้ Hybrid (ไฮบริด)  ใช้ในเมืองได้ Fix  ใช้ในเมืองได้ คุณชอบแบบไหนล่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 09:10:46 จากคุณ : B Love Runaway เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 08:39:24

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับ Mountain Bike ก็คือจักรยานเสือภูเขา .. สามารถนำไปใช้ในป่าในเขาได้ดี... เฟรมของจักรยานเสือภูเขาก็จะมีขนาดใหญ่ หนากว่า แข็งแรงกว่าเฟรมของเสือหมอบ หรือ City Bike ล้อและยาง จะเป็นล้อ 26 นิ้ว เดี๋ยวนี้มีออกยางขนาด 29 นิ้วมาด้วย จะใช้ยางหน้ากว้าง เช่น 26 x 2.0 เป็นต้น.. อุปกรณ์ขับเคลื่อนก็จะเป็นแบบถึกๆ บึกบึน สามารถไต่มุมชันได้ดี.. เพราะในบางโอกาส จะไม่มีทางให้เร่งส่งเพื่อขึ้นเนิน ก็ต้องมีอัตราทดที่ทำให้สามารถปั่นขึ้นเนินชันๆ ได้ แต่ความเร็วในอัตราทดขนาดนั้น เดินอาจจะเร็วกว่า จานหน้ามี 3 จาน แต่ขนาดจะเล็กกว่าจักรยานพวกเสือหมอบ เช่น จะเป็น 44T-32T-24T ขณะที่เสือหมอบ อาจจะมีแค่ 2 จานแล้วใช้จานใหญ่ เช่น 52T-39T เป็นต้น.. ส่วนเฟืองหลังก็เน้นเรื่องมุมไต่มุมชัน ก็จะมีเฟืองขนาดใหญ่ให้ใช้ด้วย เช่น 11T-34T เป็นต้น.. ส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้จักรยานเสือภูเขากัน เพราะเหมาะกับการใช้ในเมืองเช่นกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด ถนนไม่ต่างจากโลกพระจันทร์ แถมมีฝาท่อเป็นตะแกรงเหล็กเอาไว้ดักรถล้อเล็กๆ บางครั้งก็ต้องกระโดดขึ้นไปปั่นบนฟุตปาท.. ทางจักรยานหลายแห่งก็ไม่ต่างจากแทรกที่ใช้แข่งโอลิมปิกสักเท่าใด.. สรุปคือเสือภูเขาเหมาะกับการใช้งานในกรุงเทพฯ ผมก็เลยเลือกใช้เสือภูเขาเป็นพาหนะประจำตัว... (คันในภาพ) จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 08:50:29

ความคิดเห็นที่ 4 น้า pakakaew เอาซะครบเลย  ^ ^ จากคุณ : สะบายดีบางกอก เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 08:54:43

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเห็นเขาปั่นในเมือง นั่นแหละคือ city bike จากคุณ : nranee เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:06:18

ความคิดเห็นที่ 6 จักรยานทัวริ่ง ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าใช้สำหรับเดินทางท่องเที่ยว.. รถประเภทนี้ก็ต้องมีความบึกบึนเช่นเดียวกับเสือภูเขา ... แต่มีสิ่งที่เพิ่มเติมสำหรับรถ Touring คือการรับน้ำหนักบรรทุก..   จักรยานทัวริ่งไม่เน้นเรื่องความเร็ว แต่จะเน้นเรื่องการปั่นสบายๆ อาจจะเห็นว่ารถทัวริ่งส่วนใหญ่จะใส่แฮนด์หมอบ ทั้งนี้เพราะต้องการให้มีที่จับหลายจุดเพื่อเปลี่ยนอิริยาบทของมือ หรือเอาไว้หมอบหลบลม... ถ้าเป็นรถทัวริ่งแท้ๆ เฟรมจะต่างจากเสือหมอบ.. เพราะเสือหมอบจะจัดเฟรมมาให้ใส่ล้อแล้วชิดเฟรม แต่ทัวริ่งจะจัดเฟรมมาให้ล้อ โดยเฉพาะล้อหลังห่างจากเฟรม.. ระยะจากท่อนั่งถึงล้อ จะเยอะกว่าพวกจักรยานเสือหมอบ หรือเสือภูเขา.. เพราะเวลาบรรทุกเยอะๆ แล้วส้นเท้าจะได้ไม่ติดสัมภาระ.. จะมีจุดยึดตะแกรงมาให้.. บางคันก็ติดบังโคลน หรือตะแกรงมาให้เสร็จเรียบร้อย.. ขณะที่เสือหมอบไม่สามารถใส่บังโคลนได้ เพราะจะติดล้อ ที่ติดยึดตะแกรงไม่มีให้แน่นอนเพราะติดไม่ได้ แต่เสือภูเขาบางรุ่นมีจุดยึดตะแกรงท้ายมาให้ด้วย... ลักษณะเด่นของรถทัวริ่งคือคันจะยาวกว่ารถประเภทอื่นๆ มีบังโคลน หรือที่เฟรมจะมีจุดยึดมาให้ มีแตะแกรงท้าย หรือเฟรมออกแบบให้มีจุดยึดตะแกรงมาให้ด้วย.. บางคันมีตะแกรงหน้า หรือมีจุดยึดมาให้พร้อม ซึ่งจักรยานเสือภูเขาจะไม่มีจุดยึดตะแกรงหน้ามาให้  เพราะตะเกียบหน้า จะเป็นโช้ค ส่วนทัวริ่ง จะเป็นตะเกียบโค้งๆ เพื่อสร้างสมดุลย์ในการขี่ขณะบรรทุกของ และมีความเสถียร มากกว่าพวกเสือหมอบ หรือภูเขา จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:06:45

ความคิดเห็นที่ 7 #4 สวัสดีตอนเช้าครับคุณ "สะบายดีบางกอก" จขกท. จะได้กระจ่างๆ หน่อย แล้วตัดสินใจได้ว่าจะใช้จักรยานประเภทไหน? แต่ถ้าจะปั่นจักรยานแนะนำให้มีหมดเลย ทั้งแม่บ้าน.. เอาไว้จ่ายกับข้าว เสือภูเขา.. เอาไว้ปั่นใน กทม. (แทน City Bike) ซิตี้ ไบค์ .. ถ้าอยู่แถวๆ สีลม สาทร ก็น่าใช้ (แต่ถ้าอยู่นอกเมือง ใช้เสือภูเขาดีกว่า) เสือหมอบ.. เอาไว้ปั่นเวลาออกไปเที่ยวนอกเมือง... ไปกลับแค่ภายในวันเดียว ทัวริ่งก็ต้องมีด้วย .... ถ้าเป็นคนชอบเที่ยว เอาไว้พักร้อนแล้วปั่นไปต่างจังหวัด สัก 7 วัน 10 วัน.. รถพับ... เผื่อสำหรับคนที่ต้องใช้พาหนะร่วมกับ รถไฟ BTS MRT BRT Airport Link.. แต่อายุเยอะหน่อย แนะนำ Full-Sus เอาไว้ปั่นบนทางเท้าใน กทม. จะได้นิ่มๆหน่อย... แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 55 09:24:17 จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:16:24

ความคิดเห็นที่ 8 Hybrid เหมาะที่สุด สำหรับ city bike จากคุณ : RageMachine เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:20:17

ความคิดเห็นที่ 9 ผมชอบมินิครับ ใช้มินิจาวาอยู่ตัวเล็กคล่องตัวดี ปั่นซ็อกแซ็กไปมาตอนรถติดได้สะดวกดี จอดเก็บตรงโต๊ะทำงานได้สะดวกเพราะเล็ก จากคุณ : ชัยiriver เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:38:18

ความคิดเห็นที่ 10 เสือหมอบ ที่มีแฮนด์ตรง จากคุณ : ผมรู้คุณก็ใช้ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:53:17

ความคิดเห็นที่ 11 คันใหนที่ใช่คุณ ลองดูครับเป็นแนวทางเบื้องต้นได้.... จากคุณ : AuN NK เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 09:56:12

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่มเติมให้ จาก #11 นี่ครับ City Bike... ใช้ในเมือง แบบนี้เหมาะสมที่สุด... พับขึ้นรถไฟฟ้า BTS MRT ขึ้นรถเมล์ ก็ยังได้.. แต่ปั่นเหนื่อย.... จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 10:54:45

ความคิดเห็นที่ 13 เ้ข้ามาอ่าน ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาก อีกไม่นานน่าจะมีเพื่อนสมาชิกมาสอบถามคำถามนี้อีก อ่านของท่าน pakakaew เข้าใจชัดเจนดีครับ จากคุณ : ดินแดนที่ไม่มีความปวดร้าว เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:10:15

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ pakakaew เป็นคนขยันอธิบาย อ่านหลายๆกระทู้ก็จะเห็น comment ของคุณ pakakaew อยู่บ่อยๆ ให้ลายละเอียดดี เปรียบเทียบให้เห็นค่อนข้างชัด ชอบครับ จากคุณ : สวิงลม เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 12:56:03

ความคิดเห็นที่ 15 # ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ คุณ "สวิงลม" ตอนนี้เย็นๆ ฝนตก..ออกไปปั่นไม่ได้เลย... พวกว่างงาน.. ตกงาน.. ครับ... เลยมีเวลาว่างเขียนโน่น.. นี่.. นั่น แล้วก็ชอบค้น บางครั้งก็ก๊อบปี้เก็บไว้ใน word บ้าง Notepad บ้าง ต้องขออภัยเจ้าของบทความทั้งหลายที่ผมนำก๊อปปี้มาลง.. บางครั้งไม่ได้ให้เครดิต.. เพราะหาต้นทางไม่เจอ.. คราวนี้คัดลอกของใครไว้ จะก๊อปปี้ URL ไว้ด้วย ... คราวหลังจะได้ไม่พลาด.. จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 18:13:59

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาอ่านที่คุณ pakakaew เริ่มกระจ่างมากขึ้น แต่ยังงงกับคำศัพย์บางคำ (มือใหม่สุดๆ) ครั้งสุดท้ายที่ปั่นจักรยาน คือเมื่อครั้งยังอยู่ ม.1 ตอนนี้ได้จักรยานในใจแล้ว น่าจะเอา Hybrid เพราะอยู่ต่างจังหวัด ทางปั่นสบายๆ ไม่ต้องหลบซอกแซกมาก เหมือน กทม และทำความเร็วได้เร็วกว่า เสือภูเขา แต่ไม่อยากขับเสือหมอบ เพราะหน้าล้อมันเล็กไปหน่อย ปั่นไม่เก่ง กลัวจะคว่ำเอา ส่วนแบบ #12 นี่ล้อเล็กไปหน่อย กว่าจะถึงที่ทำงาน เกรงว่าจะเหนื่อยจนหมดแรงทำงานซะก่อน ^_^ หรือจะให้ซื้อทุกตัวเหมือนความเห็นที่ 7 เกรงว่าเยอะไป งบน้อย หอยน้อย เริ่มจากตัวเดียว ใช้ได้ทั่วไทยไปก่อนคร้าบ จากคุณ : gweep เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 18:47:53

ความคิดเห็นที่ 17 # 16 คุณ gweep... ส่วนใหญ่แล้วไมได้มาทีเดียวพร้อมกันหมด... จะมาทีละคัน... พอรู้ตัวอีกที.. จักรยานเต็มบ้านแล้ว... ตอนนี้ปล่อยไปสี่คันแล้ว บ้านค่อยโล่งหน่อย.. แต่ก็ยังต้องเอารถเก๋งมาจอดข้างนอก... ในโรงรถเป็นที่จอดจักรยาน แทนรถยนต์... จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 17:41:07