ความคิดเห็นที่ 1 2.ผู้อารีย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งน้ำมันมอไซค์หมดกลางทางเปลี่ยว ในต่างจังหวัด โทรบอกเเพื่อนเอาน้ำมันมาให้หน่อย รออยู่พักใหญ่ยังไม่มา เชื่อไหม เกือบครึ่ง ชม ไม่มีรถผ่านมาเลย อย่างน่ากลัว สักพัก มีแก๊งวัยรุ่นเดินๆ กึ่งวิ่งมา เป็นชายทั้งหมด วิ่งมาล้อมผม ตอนแรกผมกลัวมาก สักพักมีเสียง งิดๆ ฟิดๆ พร้อมกระดิกหาง โอเค เป็นมิตรนี่หว่า มาเลย มาให้ลูบหัวหน่อยเร็ว น่ารักมากพวกนาย แก๊งนี้นั่งเป็นเพื่อนผมอยู่จนเพื่อนผมมา ไม่รู้จะให้อะไรตอบแทน แต่สัญสัญาว่าจะไม่มีวันลืมพวกนายแน่นอน แด่แก๊ง F4 (ตอนนั้น F4 ดังมาก)  จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:09:23

ความคิดเห็นที่ 2 3.แปดคน 1 คัน สมัยเรียนไปเที่ยวรถยนต์ 1 คัน กับเดอะแก๊งไปกันอย่างกับปลากระป๋อง ไปไหน ไปกัน หน้า 3 คน หลัง 5 คน ทุกวันนี้เรามีรถยนต์กันหมดแล้ว ทำไมมันหาเวลาที่เราจะไปเที่ยวด้วยกันยากจังเลยครับ คิดถึงบรรยากาศเดิมๆ จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:15:07

ความคิดเห็นที่ 3 เวลาที่หายไป หลายๆ คน ทำเวลาช่วงหนึ่งหายไป ช่วงวัยรุ่นจะเป็นช่วงที่อยู่กับเพื่อน เฮฮากัน ไปเที่ยวกัน แต่บางคน ต้องทำงานส่งตัวเองเรียน ไม่มีโอกาสที่จะไปเที่ยวแบบนั้น จนเมื่อทุกคนได้จบปริญญา มีงานทำ มีสังคมของตัวเอง มีครอบครัว จะกลับมาเที่ยวด้วยกันอีก ไม่มีแล้ว จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:37:04

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีเรื่องเล่า แต่ชอบอ่านครับ เบาสมองดี จากคุณ : อุ่นสบาย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:50:50

ความคิดเห็นที่ 5 ตามอ่านครับ จากคุณ : คนมีตังค์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:57:49

ความคิดเห็นที่ 6 หามาให้อ่านอีกนะครับ สนุกดี จากคุณ : เงาะสีชมพู เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:15:17

ความคิดเห็นที่ 7 เคยไป ตจว แวะพักที่ปั๊ม พอขึ้นรถก็ไปกันต่อไม่คิดอะไร ถึงปลายทางอ๊ะ!!!รองเท้าคนขับไม่ได้ขึ้นมาด้วย ขากลับไปดู ยังอยู่เป็นคู่เรียบร้อยเหมือนเดิม!!! อีกทีไปอีสาน แวะจุดพักรถ พาแมวไปเดินเล่น ดันเตลิด หายไป เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มา ขากลับไปหาก็ไม่มี พออีกเดือน แวะอีก ก็ไปตามหาไทเกอร์อีก ลองเรียกๆดู มันวิ่งมาหาร้องเมีี้ยวๆใหญ่เลย น้ำตาจะไหล จากคุณ : เขียนบน iPhone (ยัยหนูมิสา) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:52:41

ความคิดเห็นที่ 8 เล่าเรื่องของคุณพ่อนะคะ เริ่มจากคุณพ่อจะมาขับรถกลับบ้านข้ามจังหวัดให้ในวันศุกร์เป็นประจำ วันนั้นระหว่างทางเราขอแวะ seven คุณพ่อก็เข้าห้องน้ำ พอกลับมาที่รถ คุณพ่อรออยู่แล้วในรถเล่าให้ฟังว่าเมื่อตะกี้ แอบเปิ่น เพราะพ่อมาที่รถเราซึ่งเป็น mazda2 พ่อก็กดรีโมตเปิดประตู  แต่เปิดไม่ได้ เค้าก้เดินรอบคัน  เริ่มระแวง แอบตำหนินิดนึงว่าทำไมแบตรีโมตใช้มาไม่ถึงปีหมดเร็ว  เตรียมโวยวายกับเราแล้ว   คนหน้า seven ก็เยอะ 555  เค้าก้จ้องๆ มองๆ สักพักพ่อพยายามแกะรีโมตตอนพลิกหาช่อง  ก็เห็นสัญลักษณ์  H ตัวใหญ่ๆ  จึงเพิ่งเอะใจว่ากดรีโมตผิดคัน  ดันกดรถของตัวเอง  ไม่ใช่รถของลูก หลังจากนั้นก็ทำเนียน ขึ้นรถ เล่าให้ฟัง  อย่างขำเลย  555  แต่หนักสุดคงอายคนที่หน้า seven จากคุณ : rosella เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:57:37

ความคิดเห็นที่ 9 ถนนมืดมิดแต่กลับสว่างจ้าอบอุ่นด้วยน้ำใจ คืนว่าขับรถจากแม่ฮ่องสอนกลับกรุงเทพใช้เส้นทางออบหลวง ดอยเต่า ลี้ เถิน แต่เที่ยวเพลินมืดตั้งแต่ออบหลวง ทันใดนั้นเจอรถแต่งซิ่ง5-6คันโหลดเตี้ยขับตามกันมา กระผมก็ขับต่อท้ายขบวนเขาซะงั้น หลังจากนั้นขบวนรถแต่งเขาก็เริ่มขับนับจำนวนกันและปรับขบวนกันยกใหญ่ โดยที่ผมก็รั้งท้ายอยู่จากนั้นขบวนนั้นทึกคันก็ขับเข้าปั้มผมก็ตามไปและ ผมและผู้ชายในขบวนนั้นก็เดินเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ผมยกมือซ้ายไปหาเขา เขายกมือขวาขึ้นมา ผมรีบยกมือขวาแล้ว บอกว่าสวัสดีครับพี่ผมไม่คุ้นทางขอไปด้วยคนน่ะครับ เขายกมือรับไหว้และหายข้องใจพร้อมบอกว่า ให้ขับเข้ามาอยู่ในขบวนได้เลย เดี๋ยวจะขับปิดท้ายให้ ช่วงลี้ เถิน ตลอดทางที่ขับคันหน้าเปิดไฟเลี้ยวบอกทางโค้งตลอด แถมเวลาแซงทางตรงก็ขับปิด บอกไลน์ตลอดจนถึงทางออกพหลโยทิน โล่งอก ทางทั้งมืด เปลี่ยว โค้ง ชัน อันตรายมากๆ แต่มาได้ด้วยดีสะดวกมั่นใจมากๆ ขอบคุณพี่ๆขบวนนั้นด้วยครับแก๊งค์ Puzzle ชลบุรี น้ำใจนี้จำได้ไม่เคยลืม จากคุณ : Mr.FIF เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 13:45:29

ความคิดเห็นที่ 10 ป้าบีเป็นคนที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรถ  รู้ยี่ห้อรถก็แค่ benz bmw toyota honda ถึงคราวจะมีรถคันแรก  ก็ไปซื้อรถของเพื่อนมาใช้  พอถึงวันโอนเล่มทะเบียนที่ขนส่ง  เจ้าหน้าที่ประกาศหมายเลขทะเบียนถูกต้อง  แต่ประกาศยี่ห้อรถว่าฮุนได ป้าบีก็งง  ทะเบียนก็ทะเบียนของเรา  แต่ทำไมยี่ห้อฮุนได  (ตอนนั้นนึกว่ายี่ห้อรถบรรทุก) ในใจคิดตลอดเลยว่ารถที่ตรูซื้อจากเพื่อนมาคือยี่ห้อฮอนด้า  ที่มันเป็นรุ่นพิเศษที่เป็นตัว "H" เอียง ๆ  ฮี่ ๆๆ จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:16:19

ความคิดเห็นที่ 11 เล่าด้วยคนครับ ผมกับเพื่อนๆไปเที่ยวชัยภูมิกัน ขากลับก็ผ่านเพชรบูรณ์ ก็เห็นเขาขายมะขามข้างทาง แวะเลยครับ ซื้อกันคนละหลายโล แม่ค้าเห็นซื้อกันเยอะก็เลยใจดี แถมให้ถุงใหญ่มากๆบอกว่าเอาไว้กินในรถ พอขึ้นรถก็กินกระหน่ำ ทั้งคนนั่งแล้วก็คนขับ สักพัก...... เพื่อนคนขับของผมก็เร่งเครื่องอย่างแรง แบบว่ามันขับเร็วมากๆ ทุกคนนิ่ง เงียบ ไม่มีใครพูดอะไร เหงื่อออกกันเพียบ เพื่อนผู้หญิงคนเดียว ที่ไปด้วยซึ่งนั่งกินกาแฟก็สงสัย "พวกแกเป็นอะไรกันเนี่ย" สักพักรถก็มาถึงปั้ม คนขับมันแทบจะดริฟเพื่อจอด พอรถจอดปุ๊ป พวกผมทั้งสี่คนก็รีบกระโจนลงจากรถทันที ห้องน้ำมีแค่สี่ห้องครับ ผมไวหน่อยก็จองได้ เพื่อนคนสุดท้ายมันตัดสินใจเข้าห้องผู้หญิง พวกผมใส่กันไม่ยั้ง เสียงดังกระหึ่ม ที่ตลกสุดๆก็คือ ดันมีผู้ชายคนหนึ่ง เดินเข้ามาในห้องน้ำที่พวกผมกำลังใส่กันอย่างสุดมันส์ พอเข้ามาถึง ผมได้ยินแค่เสียงเล็กๆคำเดียวเอง................. โห.............. ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:16:31

ความคิดเห็นที่ 12 เคยไปเหนือ แล้วแวะทานข้าว เอาไอ่หมาน้อยผูกไว้กะต้นไม้หน้าร้าน ไปรถตู้ครับ หลายคนเลย พอกินข้าวเสร็จ ก็กลับขึ้นรถไปเลย ขับไปได้พักใหญ่ ๆ เพิ่งนึกได้ว่า เอาไอ่ลูกหมามาด้วยนิหว่า เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน วนรถกลับมา เจอมันนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เดิม ไม่เห่า ไม่โวยวาย แต่ทำหน้าเหมือนเซ็ง ๆ ประมาณว่า กุนึกแล้วว่ามรึงต้องลืมกุ แบบนั้นอ่ะ จากคุณ : parasite_moll เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:22:54

ความคิดเห็นที่ 13 เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 14:56:43

ความคิดเห็นที่ 14 ของผมมีทั้งฮาและก็เสียว..เอาแบบฮาปนอายนะครับ.. เรื่อแรก..ผมเอารถที่บ้านย่าไปใช้สำรวจเส้นทาง กทม.-กาญจนบุรี ขากลับก็แวะร้านขายของฝาก(ผมไปกับน้องผู้หญิงสองคน)ผมรอที่รถ ก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาที่รถบอกบอกให้เปิดกระโปรงหลัง(ผมนึกว่าน้อง) ก็เลยเปิด คุณเธอเก็บของเสร็จเปิดประตูขึ้นมานั่ง..แล้วผมกับเธอก็ตกใจ เพราะ..เธอขึ้นผิดคัน..แกะสายเบลท์ผิดๆถูกๆ..ผมเลยต้องเดินไปส่งเธอที่รถ ของแฟนเธอ..แล้วผมก็เห็นน้องผู้หญิงของผมสองคนยืนอยู่ที่รถคันนั้น.. พร้อมกับแฟนของเธอ..เราสองฝ่ายต่างหัวเราะกับความโก๊ะของสาวๆ.. แล้วแฟนเธอก็บอกว่าทำไมไม่จำทะเบียน..เธอเถียงมาบอกว่า..ใครจะไปคิดว่า รถแบบนี้สีขาวจะมาเที่ยวที่นี่กันล่ะ..นี่แหละครับ..ผู้หญิงไม่เคยผิดจริงๆ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 15:10:39 จากคุณ : ปกป้องครอบครัวอันเป็นที่รัก (nismo b11) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:06:30

ความคิดเห็นที่ 15 โบกรถไปเที่ยวขุนแม่ยะคนเดียวค่ะ หลายปีมาแล้ว หลังปีใหม่ในวันที่ชาวบ้านเค้ากลับไปทำงาน แต่เราหนีมาเที่ยวคนเดียว ตอนโบกมีน้องที่เชียงใหม่มารอส่งอยู่ห่างๆ ให้เราโบกคนเดียว ก็มีรถปิคอัพคันหนึ่งจอดรับ และให้ขึ้นไปนั่งแคปข้างหน้าด้วยกัน อากาศหนาวมากค่ะ นั่งหลังแข็งตายแน่ๆ พี่คนขับมากับเมียเค้าก็ถามว่าจะไปไหนเชอรี่ก็ตอบไปว่าไปด่านขุนแม่ยะ พี่เค้าว่า พี่ไปแค่ห้วยน้ำดัง เชอรี่เลยบอกว่าไปแค่นั้นก็ได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวโบกต่อไปเอง  พี่เค้าขายของอยู่ในหน่วยห้วยน้ำดังค่ะ พอไปถึงตรงนั้นก็โบกกะบะได้อีกคันค่ะ ไม่กี่นาทีถัดมา ทีนี้ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่าขุนแม่ยะมันอยู่ตรงไหนหนอ ที่มีนางพญาเสือโคร่ง ก็เลยโทรถามเพื่อนตอนเลยด่านทหารมา เพื่อนบอกว่า นั่นหละทางเข้าอยู่ตรงนั้น เราก็อ้าว เคาะๆๆข้างรถบอกพี่คนขับว่าขอลง พี่เค้าก็เลยไปไกลแล้ว 2-3 กม.ได้ ก็ข้ามถนน มาโบกรถอีกคัน ทีนี้เป็น 4x4 ยกสูงมากจอดรับแบบไม่รีรอเลย แต่บอกคนขับก่อนว่า ขอลงตรงด่านทหารนะคะ น้องคนสวยนั่งหน้าก็ยิ้มพยักหน้ารับค่ะ และก็ได้ถึงหน้าด่านขุนแม่ยะ แต่ทีนี้ ค่ารถเข้าไปตั้ง 1500 บาทแหนะไปกลับ คือเข้าไปส่งแล้วจะไปรับกลับออกมาตามที่นัดไว้ ทีนี้ทำไงดีหว่า เงินก็น้อย แต่อยากเข้าไปจัง มาถึงนี่แล้ว คือรอสักพักหาคนมาหารค่ารถ แต่ก็ไม่มีนะคะ แต่เหลือบไปเห็น กะบะสีดำคันหนึ่ง จอดพักรถอยู่หน้าด่านทางเข้า อาศัยความหน้าด้านค่ะ เดินเข้าไปหาพี่เค้า พี่เค้าชื่อพี่อู๊ด อยู่ห้องกล้องนะถ้าจำไม่ผิด ก็ถามว่าพี่จะเข้าไปไหม รถพี่ 4x4 เข้าได้นะ พี่เค้าาก็ถามว่าข้างในมีอะไร? เราก็ตอบว่า โหยพี่ ดอกไม้สีชมพูไงที่เหมือนซากุระเต็มเขาเลยนะคะสวยมาก และกำลังจะโรยแล้วเพราะบานมานานแล้ว(หลอกล่อสุดๆ) พี่เค้าก็ หันไปถามแฟนที่มาด้วยกัน สักพักพี่เค้าก็โอเคเข้าไปและค้างคืนในนั้นด้วย เราก็ยิ้มเลย ตอนเช้าได้ออกไปด้วยกับพี่เค้า ^^ พี่อู๊ด ใจดีแบ่งอาหารให้กิน และถุงนอนอีก 1 ผืน ทั้งๆที่เราบอกว่าเรามีแล้วนะ พี่เค้ายังยัดเยียดให้มา แต่นั่นก็เป็นพระคุณมาก เพราะคืนนั้นมันหนาวจับใจ นอนคนเดียวในเต็นท์ที่เอาไปโล่งๆ โอ้วแม่เจ้ามันร้าวไปถึงหัวใจ ตอนนี้จำล็อคอินพี่เค้าไม่ได้ แต่จำหน้าพี่เค้าได้เสมอ ขอบคุณจริงๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 15:19:48 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 15:18:53 จากคุณ : Super เมีย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:17:13

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเรื่องของพี่ชายนะครับ พี่ผมเค้าไปเที่ยวทุ่งแสลงหลวงกับเพื่อน 5-6 คนนี่แหละ ขาไปลุงก็ไปส่ง แต่ขากลับพี่เค้าอยากลองโบกรถกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ โบกเท่าไหร่ก็ไม่มีคัยจอดรับ ซักพักก็มีรถตำรวจขับผ่าน โบกเลยครับ แต่พี่ท่านไม่จอดรับ แต่ก็ถอยหลังกลับมารับ พร้อมกับขับรถมาส่งแถวๆแยกเพชรบูรณ์ที่จะขึ้นเขาค้อหรือไงนี่แหละ ตำรวจดีดีก็มีนะครับ จากคุณ : ตาเฒ่าอมยิ้ม เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:18:04

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องสมัยเรียน ที่เชียงใหม่ นั่งดื่มบ้านเพื่อน พอดึกๆตอนประมาณตี 3 หิวกันอยากกินส้าดึก ขึ้นรถกันไปซื้อ เป็นรถเก๋งโตโยต้า โคโลน่ากึ่งเก่า ยัดกันไป 9 คน เพื่อไปซื้อเนื้อที่โรงเชือด เนื้อสดๆสั่นงุ่นๆ ไม่รู้ยัดกันไปได้อย่างไร ตอนนั้นชอบกินส้ามากแต่ไม่เคยทำ แต่พอคืนนั้นได้มีโอกาสไปซื้อเนื้อมาทำส้า ทำให้รู้ว่าน้ำเพลี้ยที่ใส่ในส้าสภาพมันเป็นไง หลังจากวันนั้นเลิกกินส้าดิบเลย แต่ลาบ ลู้ ยังกินอยู่ จากคุณ : konglha7 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:26:05

ความคิดเห็นที่ 18 อีกเรื่องเป็นเรื่องโบกรถอีก ^^เรื่องนี้นานมากแล้วก่อนเชียงคานจะดัง ลงมาจากภูเรือกับเพื่อน 6 คนค่ะ ทีแรกว่าจะนั่งรถโดยสารไปเชียงคาน แต่ทีนี้ เรารอรถอยู่ ก็เลยลองโบกรถเล่นๆ แต่รถกะบะสีขาวเก่าแล้วจอดจริง เราก็อ้าวเอาไง จอดแล้วก็ไป พี่เค้าว่าไปไม่ถึงเชียงคานแต่พี่เค้าจะเลี้ยวก่อนถึง ให้พวกเราไปลงตรงนั้นค่ะ  เราก็ไป นั่งหลังกะบะไปอีกอัดๆกัน หนาวก็หนาว แต่สนุกมาก พอไปถึงแค่ที่พี่เค้าไปได้ เราก็ลง แล้วก็โบกรถอีกคันต่อไป โบกไปเรื่อย ส่วนมากจะไม่จอด รถขนหมูก็เผลอโบกเพราะเราไม่เห็น จนมีกะบะใหม่เอี่ยม ขับมาลิบๆ เราก็โบกทันที ปรากฎว่าเค้าจอดค่ะ !! แต่ว่า หลังกะบะมีผู้โดยสารอยู่แล้วประมาณ 6 คน พี่คนขับบอกว่าไปได้ๆ พี่จะไปเชียงคานพอดี คนหลังรถก็พร้อมใจกันขยับให้เราทั้ง 6 ขึ้นไปนั่ง ทีแรกบอกว่า ไม่เป็นไรพี่ จะได้ไม่เบียดคนอื่น แต่ทุกคนบอกว่าไปได้ขึ้นมาเลย ไปนั่งเบียดเค้าไม่ว่า เค้าแบ่งของกินให้อีก ข้าวเหนียวกับไก่ทอด พี่คนขับพาเลยไปเที่ยวแก่งคุดคู้ก่อนด้วยอีก แล้วขากลับเราก็ไปเนียนๆ เดินเฉียดๆรถพี่เค้า พี่เค้าก็กำลังจะออกจากแก่งพอดี ก็เลยได้ติดมาลงเชียงคานอีกรอบ เป็นทริปที่ประทับใจมากค่ะ ขนาดรถเต็มแล้วพี่เค้ายังมีน้ำใจรับเราทั้ง 6 ขึ้นรถไปอีก ^^ จากคุณ : Super เมีย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:26:52

ความคิดเห็นที่ 19 ของผมคล้ายๆ คห.7 เลย เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่บ้านไปหาปู่ที่จ.ชุมพร ขากลับเดินลุยโคลนออกมา พอเปิดประตูรถผมก็เลยเคาะดินออก แล้วก็ลืมรองเท้าผ้าวางไว้ตรงบันไดข้าง หลังจากนั้นก็ขับจนถึง อ.บางสะพาน จอดแวะเข้าปั้มน้ำมันเปิดประตูกำลังจะเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ารองเท้าหาย ก็เลยเซงๆเดินเท้าเปล่าเข้าห้องน้ำ พอกลับมาที่รถเท่านั้นแหละรองเท้าเจ้ากรรมอยู่ดีกินดีไม่ตกไม่หล่น ยังวางอยู่สภาพเดิม ผมล่ะขำตัวเองจนถึงทุกวันนี้เลย น่าอายจริงๆ จากคุณ : Higher Education เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:33:14 A:202.44.139.173 X: TicketID:359870

ความคิดเห็นที่ 20 สมัยเรียน ป.ตรี เพื่อนคนนึงขอยืมรถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะไปทำธุระที่หลังมอ ผมก็ให้ยืมโดยไม่ว่าอะไร หลังจากนั้นสักพัก ผมเดินมาถึงตรงที่จอดรถก็พบว่ารถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองยังอยู่ที่เดิม แต่ข้างๆ กันนั้นมี นศ.หญิงต่างคณะสองคนกำลังยืนคุยโทรศัพท์สีหน้าเคร่งเครียด ยามคณะผมก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย ผมเดินไปคุยกับยามก็ได้ความว่ารถมอเตอร์ไซค์ของ นศ.หญิงต่างคณะโดนขโมย เรื่องเริ่มจะใหญ่โตแล้วเพราะไม่เคยมีเหตุการณ์ขโมยรถเกิดขึ้นใกล้ตัวขนาดนั้ คนเริ่มมามุง ข่าวเริ่มแพร่ ผมก็นึกเล่นๆ ว่าแปลกดีแฮะ รถของผมที่ไม่ควรจะอยู่ตรงนี้กลับยังอยู่ที่เดิม ส่วนรถของ นศ.หญิงนั้นควรจะอยู่ที่เดิมแต่กลับหายไปซะงั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ปรากฎว่าเพื่อนคนที่ยืมรถของผมโทรเข้ามา น้ำเสียงตกอกตกใจ บทสนทนาทำให้ผูกเรื่องทั้งหมดได้ทันที ราวว่า... เพื่อน : เฮ้ย! รถเมิงเป็นอะไรไม่รู้ จู่ๆ กรูก็ไขกุญแจไม่ได้ ผม : ...เอ่อ...รถกรูยังจอดอยู่ที่คณะเลยเนี่ย กรูก็ยืนอยู่ที่รถเนี่ย เมิงเอารถไปผิดคันแล้วล่ะ ตอนนี้เจ้าของรถที่เมิงเอาไปกำลังโทรแจ้งตำรวจพอดีเลย เพื่อน : ...(เงียบไป 3 วิ) กรูควรรีบเอารถกลับไปคืนเขาสินะ แต่มันไขกุญแจไม่ได้ว่ะ ทำไงดี? ผม : เมิงลองหมุนๆ ไขๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เมิงเคยทำสำเร็จไปรอบนึงละ พยายามเข้า เดี๋ยวกรูจัดการตรงนี้ให้ก่อน วางสายไป ผมก็ต้องเดินเข้าไปอธิบายให้เจ้าของรถที่เพื่อนผมขโมยไปว่าให้ใจเย็นๆ รถไม่ได้หายไปไหน แต่เพื่อนผมเอาไปเองแหล่ะ ฮ่าๆ (พยายามหัวเราะกลบเกลื่อน) สุดท้าย เพื่อนผมก็ไขกุญแจไม่สำเร็จ ผมก็ต้องเกณฑ์ไทยมุงรุ่นน้องไปช่วยกันขนรถขึ้นท้ายกระบะเอากลับมาคืนที่คณะ สองสาวนั้นไม่ว่าอะไรแต่ไทยมุงบ่นกันอุบอิบ นอกจากเรื่องจะโอละพ่อแล้ว ยังโดนเกณฑ์ไปใช้แรงงานกันถ้วนหน้า 55+ จากคุณ : กฤตวัฒนา เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:36:12

ความคิดเห็นที่ 21 555 เรื่องแรกของ จขกท อย่างฮา จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:40:10

ความคิดเห็นที่ 22 เอ่อ..คห.20 ครับ.. ทำไมไม่เอากุญแจของเจ้าของรถไปขับกลับมาที่เดิมละครับ .. จากคุณ : .. (อักษรไทย_นอ.หนู) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:48:31

ความคิดเห็นที่ 23 เรื่องตอนที่ผมเรียนมหาลัยปีสุดท้าย ฝึกงานอยู่ตรงอนุเสาวรีย์ชัย ขี่มอไซค์กลับบ้านที่สะพานใหม่ ขี่มาเส้นวิภาวดี ข้ามสะพานข้ามแยกสุทธิสารลงมาเจอท่านพี่ตำหนวดหมวกส้ม ยืนดักมอไซอยู่ 1 คน เราก็เฮ้ย! 6 โมงเย็นมาดักจับมอไซทำไมฟะ แถมมาคนเดียวโดดๆ แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันว่าไม่ได้ดักแจกใบสั่งแน่นอน ลงมาจอดรถ สวัสดีกันเรียบร้อย ผมก็เปิดกระเป๋าตังค์ วันนั้นเหลืออยู่ 120 บาท จะให้แบงค์ 20 ไปพี่เขาก็ทำเสียงกระแอม - -" ไอ้เราจะให้แบงค์ 100 ก็ยังไม่ได้เติมน้ำมัน เลยบอกที่เขาไปว่า "พี่ ผมยังไม่ได้เติมน้ำมัน จะหมดแล้วคับ" พี่แกก็บอกเอาแบงค์ 100 มา แล้วคุณพี่ก็ยื่นให้ผมมา 40 บาท พร้อมกับพูดว่า "อ่ะ แบ่งกันคนละครึ่ง" เออ เนอะ ตำรวจแบบนี้ก็มี - -" จากคุณ : it_killua เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:00:58

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องนี้เกิดบนรถตู้ อนุ-ธศ.รังสิต  ประมาณปี 2554 เวลาประมาเที่ยง ผมกำลังจะกลับมหาลัย   พอมาถึงคิวรถตู้  มองเข้าไปในกระจก  ก็ไม่เห็นมีใคร   นึกดีใจ  ไม่ต้องนั่งแถวหลังแล้ว   พี่โชเฟอร์ก็บอกขึ้นรถได้เลย  ไอน้อง ก็เปิดประตูขึ้นไปนั่งแถวหน้าเลยเพราะรถโล่งทั้งคัน อีกอย่างคือ  แอร์แถวหน้ามันเย็นหน่อย  (นาน ๆ จะได้นั่งแถวหน้า) นั่งซักพักนึกไงไม่รู้  หันกลับไปด้านหลัง   เฮ้ย  มีคนขึ้นมานั่งหลังเรา 4 คน  เมื่อไหร่ งงมาก   ไม่ได้งีบหลังแน่นอน เวลาก็ผ่านไปไม่ถึง 2 นาที   ไม่มีใครเปิดประตู้เพิ่มเข้ามา แล้วคนมันเข้ามาตอนไหน ถ้าเข้ามาก่อน  แล้วทำไม  ผมมองไม่เห็น ยังงงอยู่ทุกวันนี้ จากคุณ : apollo14 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:04:09

ความคิดเห็นที่ 25 #22 เออแฮะ เรียงเนื้อเรื่องผิดไปนิดครับ ตอนแรกๆ ผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตก็ไม่กล้าเข้าไปคุยตรงๆ น่ะครับ กลัวโดนด่า คิดแต่หาทางจะเอารถคันนั้นกลับมาก่อนที่จะเข้าไปคุยกับเจ้าของรถเท่านั้นเอง พอรุ่นน้องออกไปยกรถกันแล้วผมถึงค่อยเดินไปบอกความจริงน่ะครับ เพื่อนที่ขับกระบะไปช่วยขนก็บอกว่า ถ้าไม่กล้าพูดกับเจ้าของรถก็ยกกลับมาเลยก็แล้วกัน จากคุณ : กฤตวัฒนา เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:15:28

ความคิดเห็นที่ 26 ไปปายครั้งแรกเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ตอนนั้นยังไม่พัฒนาเหมือนตอนนี้ครับ นักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคนไทย การเดินทางก็ลำบากกว่าตอนนี้มาก ไปกับเพื่อนๆ 7-8 คนครับ นั่งบัสหวานเย็นจากเชียงใหม่ไป ไม่มีแอร์ นั่งเบาะหลังกันทั้งแถบ สูบบุหรี่ได้ด้วย ผมดันเกิดปวดฉี่สุดๆครับ แล้วแบบว่า ไม่กล้าบอกคนขับรถให้จอด เลยต้องฉี่ใส่ขวดน้ำที่กินหมดนั่นแหละครับ แอบๆฉี่ แล้วเก็บไว้ตลอดทาง ไปทิ้งตอนถึงปาย แบบว่า...สุดๆล่ะ จากคุณ : phoenixia เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:17:56

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ คห 24 แอบหลอนนะ จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:18:53

ความคิดเห็นที่ 28 ของผมไม่ฮาน่ะครับ แต่ตื่นเต้น 2อาทิตย์ที่แล้ว ผมนั่งรถทัวร์  กรุงเทพ ขอนแก่น  ไปขึ้นรถ ได้นั่งคู่กับสาวสวย ใส่ขาสั้น ไอย๊ะ ตลอดการเดินทางผมมีความสุขมากครับ^^ จากคุณ : Capt_Price เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:22:50

ความคิดเห็นที่ 29 เรากับเพื่อน 2 คน ขึ้นรถทัวร์ผิด ตั้งใจจะไปสังขละ กาญจนบุรี ดันซื้อตั๋วผิด ไปสังขะ ศรีษะเกศ  = =" โง่แท้หลา   วันที่ซื้อตั๋วต้องรีบไปทำงานต่อ  เลยโทรหาเพื่อนให้เปิดเน็ต เช็คช่องซื้อตั๋ว   เดินไปซื้ออย่างเร่งรีบไม่ได้ดูเลยว่าไปอีสาน 555 พอขึ้นรถได้ก็พากันหลับ ตื่นมาอีกที  ทำไมมันมาผ่านปราสาทเขาพนมรุ้ง กว่าจะรู้ตัวก็นั่งรถมาไกลแล้ว  ต้องนั่งกลับจากอีสานไปขึ้นรถที่หมอชิตใหม่อีกรอบ  แล้วหารถไปสังขละใหม่  รวมเวลาทั้งสิ้นเกือบ 20 ชม.  สามารถไปถึงอเมริกาได้สบาย 555   จากคุณ : BonuZzo เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:38:50

ความคิดเห็นที่ 30 ของเราไปเยี่ยมรุ่นพี่แฟนในที่พักของทหารไปกัน 4 คน พอคุยกับรุ่นพี่เสร็จก็ประมาณทุ่มกว่าๆได้ แฟนเราก็เลยจะขับกลับออกมาแต่ด้วยความขี้เกียจ เลยขับรถลงไปในสนามหญ้าเพื่อกลับรถ แต่ปรากฎว่ารถติดล่ม เพราะตอนนั้นเมื่อคืนฝนเพิ่งตก ทำให้มันเป็นโคลนด้วยความที่ไม่เห็นเลยลงไปช่วงหน้าของรถ พอลงมาก็ช่วยกันเข็นขึ้น 4 คนเข็นเท่าไรก็ไม่ขึ้น จนถอดใจนั่งกันริมถนนซักพัก มีพี่ผู้ชายคนนึงขับมอไซต์มาช่วย แต่พี่เค้าก็ยังเอาไม่ขึ้น แล้วซักพักพี่เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวมานะ เค้าไปตามลูกพี่ลูกน้องเค้ามาเพียบพร้อมกับรถกะบะอีก 1 คันเพื่อมาช่วยดึงขึ้น แต่ก็ดึงไม่ขึ้น สลิงขาด แต่พี่เค้าไม่ยอมแพ้ หายไปอีกซักพัก ไปเอาราวตากผ้าของแฟนเค้ามาคล้องแทน สุดท้ายรถก็ขึ้นมาจากล่ม เราประทับใจพี่เค้ามากกก เลยจะจ่ายค่าสลิงให้พี่ พี่เค้าก็ไม่เอา ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง เพื่อนเค้าบอกว่าเลี้ยงเหล้าพี่ดิน้อง พี่เค้าชอบกินเหล้า เราเลยจัดไปชุดใหญ่ แถมพี่เค้าชวนไปบ้านแกด้วยซึ่งอยู่ไม่ไกลมาก พอไปถึง แม่พี่เค้าก็เอาน้ำออกมาให้กินอีก แถมให้แฟนพี่เค้า ลูกพี่เค้าออกมาไหว้พวกเราอีก เพราะแฟนพี่เค้าอายุน้อยกว่าเรา พอพี่เค้าตั้งวงกินเหล้ากันก็เลยถามพี่เค้าว่า ทำไมพี่ถึงช่วยพวกหนูล่ะ พี่เค้าบอกว่า เมื่อก่อนพี่ก็เคยรถเสียตอนขึ้นไปเหนือ แล้วก็มีคนช่วยอย่างนี้แหละ พอพี่เห็นเราเดือดร้อนพี่ก็เลยคิดว่าตอนเราเดือดร้อนยังมีคนช่วยเราเลย ถ้ามีคนเดือดร้อนเราก็ควรช่วยเค้าเหมือนกัน เรางี้ประทับใจโคดๆ จนทุกวันนี้ถ้าเรากับแฟนเราเห็นรถใครเสียกลางทาง เราจะลงไปช่วยทุกครั้งค่ะ จากคุณ : ab_paradox เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:43:33

ความคิดเห็นที่ 31 คุณตำรวจคนนี้มึนได้ฮาดีครับ ๕๕๕ จากคุณ : สมัญตาชีวบุตร (omega_13) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:45:45

ความคิดเห็นที่ 32 คันนี้ครับ ขึ้นเชียงใหม่ เจอตำรวจเรียกที่ถนนศรีนครินทร์ เพระวิ่งขวายาว ปรากฎว่า ผมลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่บ้าน ไม่มีติดตัวซักบาท เอกสารก็ไม่มี ตำรวจถามว่า มาจากไหน จะไปไหน ผมบอกว่า มาจากชลบุรี จะไปเชียงใหม่ ท่านว่า เอาไปร้อยนึงกลับบ้านแล้ว อย่าลืมเอกสาร ผมยกมือไหว้ กลับบ้าน กะว่าคืนนั้นจะเอาเงินไปคืน ไม่เจอแล้วเสียดายจัง จากคุณ : คนผ่านมา (ผมมีแค่ร้อยทิป) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:47:41

ความคิดเห็นที่ 33 สมัย 30 ปีที่แล้ว สมัยคะนอง นุ่งขาสั้นเวลาดึกๆชอบเอารถสามล้อถีบ แบบที่สระบุรีมีเยอะๆสมัยก่อนออกไปปั่นเล่นกันกับเพื่อน นั่งอัดกันสี่ห้าคนปั่นรอบเมืองเลยขึ้นเนิน ขึ้นเขากันปั่นไม่มีเหนื่อย (ใช่สิเพื่อนมันปั่นผมนั่งเชียร์) กว่าจะกลับเข้าบ้านตีสาม ตีสี่ เหงื่อตกกีบเลย เฮฮากันน่าดู นึกถึงวันคืนที่ผ่านมานั่งอมยิ้มได้เชียวแหละ จากคุณ : hamich เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:52:00

ความคิดเห็นที่ 34 โดนตำรวจเรียกเพราะขับผิดเลน(ในกทม.เนี๊ยหละ) ไม่เสียค่าปรับนะแต่เสียเบอร์โทรแทน  55 จากคุณ : Rowan เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:53:15

ความคิดเห็นที่ 35 สมัยเรียนมหาลัย ส่วนมาจะใส่เสื้อช็อปกับกางเกงยีนส์ แล้วก็ปั่นจักรยาน นานๆจะใส่กระโปรงที แต่ใส่กระโปรงเราก็ปั่นจักรยานได้นะ ส่วนมากจะทรงบานๆ ยาวๆ วันนึงใส่กระโปรงพีท(กระโปรงจีบรอบคลุมข้อเท้า) เพื่อนลืมของไว้ที่หอ ชวนไปก็เลยซ้อนมันไป เราก็ก้าวพรึบแล้วก็นั่ง ระหว่างทางก็เม้าโน้น นี่ นั่น พอตอนลง เพื่อนจอดรถ มันก็งงว่าไมเราไม่ลง ไอ้เอ๋ : อ่าวเตี้ย...ไมไม่ลงอ่ะ เรา : โห่...แกลงไปก่อนดิชั้นลงไม่ได้ ไอ้เอ๋ : อ่าว...ไมวะ เรา : อ่าว...ไอ้แม้ว(เอ๋คนลำปางหน้าเหมือนแม้ว สูง 184) บอกให้ลงก็ลงดิ พอมันลงรถมันหันมาขำก๊ากเลย ไอ้เอ๋ : โธ่เตี้ยเอ้ย...! เราใส่กระโปรงพีทนั่งคร่อมมอไซค์อ่ะ ตอนจะลงจะยกขาข้ามกลับก็เกรงใจ กลางตลาดเลย จากคุณ : Joie_Girl เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:53:46

ความคิดเห็นที่ 36 เล่าแล้วอยากเล่าอีกครับ อันนี้เป็นเรื่องจักรยาน....(ถือว่าเกี่ยวนะ) ผมกับเพื่อนต้องไปกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน และก็จะนัดไปเจอกันหน้าหอหญิงเป็นประจำ วันนั้นเพื่อนผมคนนึงมันมาช้ามาก พวกผมยืนรอกัน 7-8 คน ยืนไปก็คุยกันไป สักพักเจ้าเพื่อนตัวดีก็ขี่จักรยานมา แฟนมันตัวเล็กๆ ไม่เคยนั่งค่อมจักรยานสักครั้ง จะนั่งเฉียงๆตลอด พอเจ้าเพื่อนผมมันพ้นโค้งออกมา ผมก็บอกทุกคนเลย "โน่น...มาสักที" ทุกคนก็หันไปมองพร้อมๆกัน เป็นภาพปรกติเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันแปลกๆ ตรงที่แฟนมันคึกมาก นั่งสับขาขึ้นลงแบบสนุกสนานมาก จนเพื่อนผมอีกคนถึงกับทักว่า "ทำไมวันนี้ ฟลุ๊คมันคึกนักวะ"  แล้วรถจักรยานคันนั้นก็เข้าใกล้มาขึ้นเรื่อยๆ ลืมบอกเวลาครับว่าประมาณทุ่มนึงเท่านั้นเอง จนในที่สุดรถจักรยานคันนั้นก็ วิ่งผ่านพวกผมไป ใช่ครับ ไม่ใช่เพื่อนผม ... แต่สิ่งที่ทำให้พวกผมต้องยืนสงบนิ่งกันแบบไม่ได้นัดหมาย ก็คือ มันไม่มีคนซ้อนท้าย เขาขี่มาคนเดียวครับ  วินาทีนั้นผมรู้ทันทีเลยว่า "สงสัยจะใช่"....... ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:04:23

ความคิดเห็นที่ 37 สมัยยังเป็นเด็กมัธยมต้น โดนแม่ตวาดเรื่องอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าโกรธแม่มาก เสียใจอ่ะ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะหนีออกจากบ้านแต่เช้ามืดไม่ให้ใครรู้เลย ดูซิจะตามหาเรามั๊ย ชิ... รุ่งขึ้น แอบย่องออกจากบ้านแต่เช้ามืด นั่งรถโดยสารเข้าตัวจังหวัดระยะทาง 100 กิโล ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก ติดบ้านมาก ไม่เคยไปไหนไกลเกิน 20 กิโล ก็เลยไม่ประสีประสาอะไร ขากลับดูเวลาเดินรถผิด ผลปรากฏว่า... "ตกรถเที่ยวสุดท้าย" (ฮาาาาาา...) ก็เลยโบกรถกลับ แต่ไม่มีใครจอดสักคัน ฟ้าก็เริ่มมืดลงทุกที ตัดสินใจโทรกลับให้ที่บ้านมารับ... "อ้าว แม่นึกว่าลูกยังไม่ตื่น" ... หน้าแตกซะไม่มี พ่อขับรถมากับน้องสาว พอน้องเห็นหน้าผมมันขำกร๊ากใหญ่เลย เสียฟอร์มหมด เชอะ... จากคุณ : Seabiscuit เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 17:37:00

ความคิดเห็นที่ 38 เคยจอดซื้อของ ตอนเดินกลับ เปิดประตูรถปุ๊บ เจอใครไม่รู้นั่งอยู่หลังแคป เค้าตกใจถามเราจะทำอะไร เราก็ตกใจ อ้าว...ไม่ใช่รถเรานี่หว่า จากคุณ : BKforever บีเค ฟอร์เอฟเวอร์ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:14:18

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่ได้เล่า แต่เห็นอันนี้ขำดี จากคุณ : au777 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:24:37

ความคิดเห็นที่ 40 ผมก็คล้ายๆ คห.7 กับ คห.19 แต่ไม่ลืมนะครับ พอดีผมกลับบ้านต่างจังหวัด ขากลับรีบไปหน่อย ขึ้นรถแล้วปวดท้อง ก่อนเข้าห้องน้ำ ถอดรองเท้าหล่อไว้หน้าบ้านแล้วยืมรองเท้าแตะพ่อเข้าห้องน้ำ พอทำธุระเสร็จก็มัวแต่สาละวน ลาญาติเดินทางกลับ ขับรถมาเกือบถึงบ้านไผ่อยู่แล้ว เอทำไมเท้ามันเบาๆเย็นๆวะ เหลือบไปมอง เอาเข้าแล้วเอารองเท้าแตะพ่อมาเที่ยวกรุงเทพ๚แล้ว โทรไปถามพี่สาว พี่สาวบอกรองเท้าหล่อผมจอดแบบโดนทิ้งอยู่หน้าบ้านพ่อ ปล.(บ้านผมอยู่ร้อยเอ็ดครับ) และก็รองเท้าพ่อจะมีเอกลักณ์แบบทำตำหนิไว้ ด้วยการบากขีดพื้นรองเท้าเป็นรูปเฉียงๆไว้ กลับบ้านอีกรอบจะถ่ายรูปมาโชว์ รอบที่แล้วกลับบ้านเอาไปคืนแล้ว จากคุณ : huatopmk (nco) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:31:28

ความคิดเห็นที่ 41 ผมก็คล้าย คคหที่ 20.    จำเรื่องราวไม่ค่อยได้ แต่ประมาณว่า ผมไปจอดรถไว้หน้าหอเพื่อน ก็เข้าไปหาเพื่อนในหอ ออกมา รถมอไซค์หาย (คิดในใจ ชิหาล่ะ รถตรูขนาดซาเล้งจะซื้อยังคิดมาก มันยังจะขโมยอีกหรือนี่) ก็ช่วยกันหารอบๆ บริวณนั้นกับเพื่อนสักพักใหญ่ก็ไม่เจอ ก็เลยไปแจ้งความ ที่นี้ ก็นั่งรถตำรวจมาที่เกิดเหตุหน้า มอ ระหว่างนั้นเพื่อนก็โทรมาบอก ว่าเจอรถเมิ...และนะ จอดอยู่หน้าร้านอาหารหน้ามอ มาดูเร็ว...    พอไปถึงปุบ ที่นี้คนก็มุงกันใหญ่เลยครับ เพราะนั่งรถลิมูซีนมาซะขนาดนั้น(รถกระบะตำรวจนี่แหละครับ) คงเข้าใจว่ามีคดีอะไรมาจับนักศึกษามั้งครับ?  พอลงจากรถเพื่อนก็เขามาชี้รถของผมจอดอยู่จริงๆ และสักพักหนึ่งก็มี ชาย หญิงคู่หนึ่งเดินมาที่รถ แล้วก็ทำหน้างงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น    ผมก็อธิบายไปว่านี่มันรถผมนะ ทะเบียนอะไร ก็ว่าไป 2คนนั้นก็ตกใจเขาบอกว่ารถเขาก็ทะเบียน(เลข)เหมือนกัน สีรถ ยี่ห้อรถ สภาพรถ คล้ายกัน และที่สำคัญ เขาก็โชว์ให้ดูว่ากุญแจมอเตอร์ไซค์เขา ก็ไขรถผมได้เช่นกัน     ที่นี่เล่นเอาฮาเลย ทั้งเพื่อน ผม เขาและคุณตำรวจ ใครจะไปคิดหล่ะครับ ว่าจะมีเหตุการณ์บังอิญได้ขนาดนี้     สุดท้ายก็แยกกันไป ก็ขอบคุณคุณตำรวจและเพื่อนๆ ที่ช่วยเหลือในเหตุการณ์นี้ครับผม (ส่วน 2คนนั้นไม่แน่ใจนะครับ ว่าไปไหนต่อ พอเรื่องเคลียร์แล้วก็แยกกันครับ ^_^) จากคุณ : รุ้หน้าไม่รู้ใจ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 18:33:35

ความคิดเห็นที่ 42 เคยสตาร์ทรถออกไปแล้ว ลืมทิ้งเมียไว้ที่เซ็นทรัล ดีที่เพื่อนๆทักว่า เมียยังไม่ขึ้นรถ 555555   จากคุณ : กล่องออมสิน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 19:03:48

ความคิดเห็นที่ 43 ของผมสมัยเรียน รด. ครฝึกจะมาฝึกที่โรงเรียน (บ้านนอกอ่ะครับ) แล้วเอา นศท โรงเรียนอื่นมาเข้าค่ายด้วยกันที่โรงเรียน เด็กนักเรียนก็ขับมอร์ไซค์กันมาซะส่วนใหญ่ แต่วันนั้นวันซวยของผมและเพื่อน เพราะอารมณ์ัวัยรุ่นขับเร็วๆ ปาดไปปาดมาแข่งกัน มาถึงที่เกิดเหตุ ขับมาลงแอ่งน้ำฝนตามถนนข้างทาง สาดเข้าเต็มๆใส่หัวหน้าครูฝึก ไอ้เราก็ไม่ร้ว่าครูฝึกแกแวะซื้อข้าวที่ตลาดแถวนั้น ไม่เห็นแกด้วย แต่มาร้ทีหลังว่าเพื่อนมันเห็น แต่มันไม่บอก พอตอนเรียกรวมพล หัวหน้าครูฝึกประกาศหาเจ้าของรถมอร์ไซค์ของผม วิ่งเหยาะๆ ไปเจอแก แกให้ไปเอามอร์ไซค์มาให้เพื่อนอีก 5-6 คนมาแบกรอบค่ายฝึก อายก็อาย หนักๆก็หนัก ครูแกคงแค้นมาก อายต่อหน้าแม่ค้า... จากคุณ : ผมล๊อกอินน้องมาใช้นะ (เทียมฟ้าหน้าใส) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 19:54:15

ความคิดเห็นที่ 44 นั่งรถมากับแม่และน้องสาว แม่เป็นคนขับ เกิดนึกสนุก แม่บอกเห็นปิ๊กอัพคันนู้นนนนนป่ะ (แบบว่าไกล เห็นลิบๆ) ที่มีตู้เตี้ยๆสีขาวอ่ะแม่จะตามให้ทันเลย เอาซิ เชียร์เลย เอาเลยแม่ !! เร็วๆแม่ !!แซงเลยแม่ !!จะถึงแล้วๆ!! พอถึงมาจ่อท้ายละ เฮ้ย!!!!  โลงศพ !!! มีกระถางธูปกะธูปที่จุดไว้ด้วย จ๊ากกกก ให้เค้าไปก่อนเหอะแม่ เราขับช้าก็ได้ ไม่อยากกลับกะพี่เค้า จากคุณ : *แอ๊ปเปิ้ล รสพีช* เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:07:39

ความคิดเห็นที่ 45 หลายๆคอมเมนต์ ฮาจริง ซึ้งจริง ตื่นเต้นจริงๆ ใครมีประสบการณ์ยังไงบ้าง มาแชร์กันอีกเยอะๆครับ จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:12:32

ความคิดเห็นที่ 46 ต่ออีกเรื่องคล้ายๆกัน แบบว่าบ้านอยู่ติดมิตรภาพ ไอ้เจอ รถเสีย ยางแตก ยางระเบิดนี่บ่อย ล้อหลุดก็เคยเจอสองสามที  แต่คันนี้วิ่งๆมาเกือบถึงหน้าบ้านเราแระ ล้อหลุด ดีไม่คว่ำ จอดได้ หยุดหน้าบ้านเราเลย พี่แกก็โทรๆตามคนมาช่วย รอช่างก็มาไม่ถึงซักที พอพี่แกเดินมาซื้อน้ำ ก็ถามไถ่ ไปไงมาไง อะไรอย่างเงี๊ยะ "พี่จะไปไหนอ่ะ" "ไปปากช่อง พี่จะรีบ" "เหรอ แล้วพี่ขนอะไรมาด้วยอ่ะ " "แม่พี่เอง แกเพิ่งเสียเมื่อคืน อะไรจะซวยซับซวยซ้อน แม่ก็มาตายกระทันหัน จะเอาแม่ไปวัด ล้อรถยังมาหลุดอีก" ว่าแล้วพี่แกก็ทำหน้าจะร้อง ส่วนเรา เหวอ ก็เหวอ สงสารก็สงสารอ่ะ แล้วถ้ารกแกคว่ำ คิดดู ศพแม่พี่เค้าคง..... จากคุณ : *แอ๊ปเปิ้ล รสพีช* เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:15:51

ความคิดเห็นที่ 47 เพื่อนโคตรมึน 4 คนไปเที่ยวกับเพื่อนที่พัทยาเอารถปิกอัพไป คนขับเมาง่าย เลยหลับไปก่อน ประมาณตี4ตี-ตี5 เลยจะกลับกรุงเทพกัน เลยปลุกมันให้มาขับรถพากลับ พอดีน้ำมันจะหมด แวะปั๊มเติมน้ำมัน พวกผมก็ลงไปเข้าห้องน้ำ กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ มันขับรถออกไปเลย หัวจ่ายน้ำมัน ยังไม่ชักออกเลย เงินก็ยังไม่จ่าย ยังดีที่เติมตามราคา น้ำมันเลยไม่พุ่งออก ขอโทดเป็นการใหญ่ คนขับมันยังไม่รู้เรื่องอะไรอีก โชเฟอร์มึน คนนั่งเมา โชคดีที่กลับมาปลอดภัย จากคุณ : เด็กบ่อน้ำร้อน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:19:28

ความคิดเห็นที่ 48 มีหลายเรื่อง ล่าสุด โดนแม่ทิ้งไว้ที่ทางด่วน คือพอเข้าด่านจ่ายเงินแล้วเราขอแวะปั๊มจิ๋ว(ตรงทางด่วนดาวคะนองน่ะค่ะ) ไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่เรากำลังเดินออกมา แม่เราก็เลื่อนรถออกไปแล้ว เราก็คิดว่า อ้อ สงสัยเลื่อนมารอ พอเราออกมาจะได้ออกรถเลย ที่ไหนได้ รถค่อยๆเคลื่อนออกไปแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรอ โชคดีว่ารถติดและเป็นคนเดินเร็ว (เห็นกลมๆอย่างนี้ก็เถอะ) วิ่งปรู๊ดไปเปิดประตูรถเลยค่ะ (ดีนะว่าไม่ได้ล็อก) แม่(และคนอื่นๆ) หันมาถามว่า อ้าว ไปไหนมา คิดว่าขึ้นรถแล้ว ดีนะว่าเราไม่ได้แผนว่าจะไปซื้อของกินต่อ ไม่งั้นเฟ้งฟ้างแน่ๆ เพราะเงินก็ไม่มี โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอา แถมแต่ละคนดูไม่ได้รับรู้ถึงการไม่มีตัวตนบนรถของลูกสาวตัวอ้วนกลมคนนี้เลย - -" ถ้าช้ากว่านิดอีกนิดเดียวนะ เราร้องไห้กลางทางด่วนแน่ๆ ดูทรงแล้วขึ้นสะพานพระรามเก้าโน่นแน่ะคงจะเริ่มรู้ตัว (เผลอๆถึงหอน้องอาจจะเพิ่งรู้ตัวก็ได้) อีกเรื่องก็ตอนไปรับน้อง สังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้ (ก็ปีสามแล้ว ฟรีๆ ไม่ต้องอะไรมาก) ด้วยความที่สังสรรค์เพลินไปหน่อย ปวดฉี่ แทบจะราด ไอ้พวกผู้ชายมันก็ถ่ายเทลงขวดได้ แต่ผู้หญิงอย่างเดี๊ยนจะทำไง ปั๊มถนนสายนั้นก็ไม่มี รู้สึกเหมือนกระเพาะเย่จะแตกมากๆ แล้วคนขับรถก็เลี้ยวเข้าถนนอีกเส้นหนึ่ง เราเห็นปั๊มไกลๆและ หัวใจพองโตด้วยความหวัง เอาตัวมาสแตนบายตรงประตูเลย เราต้องเป็นคนแรกที่ได้เหยียบแผ่นดินปั๊ม (อารมณ์นีล อาร์มสตรองเลย) แถมรถเราเป็นคันแรกด้วย เสร็จตู และแล้วก็มาถึงปั๊มที่หมายตาแล้ว แต่พอแล่นเข้าไปไกล เม็ดแน่...ปั๊มปิดปรับปรุง อารมณ์ประหนึ่งลุ้นรางวัลที่หนึ่งที่เลขเหมือนกันไปห้าตัวแล้วแต่ตัวสุดท้ายดันหลุดโผไปไกลอ่ะ...แต่เหมือนฟ้ามีตา อีกประเดี๋ยวก็มีอีกปั๊ม...รถยังไม่ทันจอดดีเราวิ่งลงคนแรก วิ่งเร็วที่สุดในชีวิตไปยังห้องน้ำเลย เป็นคนแรกที่ได้เหยียบพื้นปั๊ม แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง...ห้องน้ำมีสี่ห้อง ล็อกไว้หนึ่งห้อง...อีกสามห้อง เต็ม... มีคนเข้าอยู่ คนเคยปวดฉี่หรืออึมากๆจะเข้าใจว่า ยามเหมือนเข้าใกล้ที่ปลดปล่อยมันจะยิ่งคุมไม่อยู่ คือห้องน้ำมันอยู่แค่เอื้อม... เราก็บ่นว่า เข้านานจังวะ จะราดอยู่แล้ว ซักพักก็มีป้าเดิมยิ้มๆออกมา เราก็ เอ่อ หน้าม้าน สงสัยได้ยินว่ะ เลยยิ้มแห้งๆให้ทีนึงแล้วก็เข้าไปปลดปล่อย เข้าใจลึกซึ้งก็วันนั้นแหละทำไมห้องส้วมเรียกสุขา มันสุโขสุขีที่ได้ปลดปล่อยเสียที หลังจากสุขกายสบายใจแล้วออกมาด้านนอก โหย คนรอเยอะมว๊าก บางคนก็ปวดมาก ได้แต่ดิ้นๆๆว่าปวดฉี่ๆ (ประคองตัวเองยังไม่อยู่เลย) ก็เลยเหน็บไปว่า รู้ว่าปวดทำไมไม่เตรียมตัววะ คนอื่นก็ปวดจะมาลัดคิวไม่ได้หรอก (นิสัยเสียเนอะ) สุดท้ายก็ต้องไปเข้าห้องน้ำชาย จบและ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 21:55:34 จากคุณ : แม่นางคำ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:42:45

ความคิดเห็นที่ 49 บอกตรงๆนะ ยิ่งอ่านยิ้งเปลือง กิ๊ฟ จากคุณ : ดราม่ากันเข้าไป เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:44:56

ความคิดเห็นที่ 50 ของผมมีเรื่องของพ่อตา เมื่อประมากลางปี53 ช่วงหน้าฝน พ่อ(อายุใกล้เกษียณล่ะ)ไปรับน้องกลับบ้าน จากมหา'ลัย ศิลปากร  ชะอำ ขับรถ ไปกับแม่ยาย พี่สาว และน้องสาว รวม 4 คน ขากลับมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ เลยหาดชะอำมานิดหนึ่ง รถยางแตกกกก ช่วงนั้นฝนตกด้วย พ่อก็เลยลงรถมาเพื่อเปลี่ยนยาง 3 สาวก็ออกจากรถลงมาให้กำลังใจ ก็อย่างที่ว่า ช่วงนั้นฝนตก จะทำอะไรก็ค่อนข้างลำบาก รถก็ขับผ่านไปหลายคัน ไม่มีลงมาช่วยคน(แก่) เลย คิดแล้วเศร้าใจ ผ่านไปซักพัก ฮีโร่ตัวจริง ก็มา คนขับรถดูดสิ่งปฏิกูล(ผมขอเรียกว่า รถดูดส้วมล่ะกัน) แก่มากับเมียและลูกน้อยอายุประมาณ 2-3 ขวบ พอรถจอด พี่คนขับ ก็ถามเลย ลุงรถเป็นอะไร ยางแตกเหรอ มาเดิ๋ยวผมช่วย แล้วแก่ก็ไปเอาแม่แรงจากรถแก่มาช่วย ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็เปลี่ยนล้อเสร็จ พ่อขอบใจยกใหญ่ 3สาวก็ดีอกดีใจกันถ้วนหน้า แล้วพ่อก็ยื่นตังค์ให้พี่เค้า 500 บาทเพื่อตอบแทนที่มีน้ำใจมาช่วย แต่พี่แก่ไม่รับและพูดออกมาว่า "คนไทยด้วยกัน ช่วยกันได้เสมอ" พ่อก็ไม่รู้จะยังไง ก็เลยเอาขนมหม้อแกงที่ซื้อมา ให้พี่เค้าไป ขยั้นขยอ อยู่นานกว่าพี่แก่จะรับไป เรื่องนี้มันทำให้ผมรู้ว่า น้ำใจของคนเรา ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเป็นใคร หรือทำอาชีพอะไร ขอบคุณพี่คนขับรถดูดส้วมอีกครั้งครับบบบ จากคุณ : จ้าวแห่งการซุ่มยิง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:51:19

ความคิดเห็นที่ 51 คห 34 หลังจากนั้นไงต่อหว่าครับ  อิอิ จากคุณ : ดราม่ากันเข้าไป เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:52:42

ความคิดเห็นที่ 52 เคยเอารถไปล้างที่ปั๊มน้ำมัน ตอนนั้นมึนมาก เหนื่อยงาน พอครบชั่วโมงก็กลับมารับรถ ปรากฎว่าเปลี่ยนเกียร์แล้วรถไม่ออกตัว สลับเกียร์ไปมา เช็คหน้าปัด เช็คทุกอย่าง ในใจก็คิด โดนแล้วกรู เอามาล้างแปบเดียว รถกรูเสียเลย ปั๊มเวรนี่ แล้วหันไปบอกเด็กปั๊มแบบพยายามเก็บอาการ น้องคะ รถพี่เป็นอะไร ทำไมมันไม่เขยื้อน เด็กปั๊มก็ตกใจกันใหญ่ คงนึกในใจ อย่ามาเสียตรงปั๊มกรูนะ ซักพักพี่อีกคนเดินมา บอกเรา น้อง ลงรถแปบ พี่ดูให้ แล้วเค้าก็บิดกุญแจรถ เท้าเร่งเครื่องดังบรืนๆ "น้องลืมสตาร์ทรถ" เงิบค่ะ เงิบโคตรๆๆ 55555555 กับอีกเรื่อง ตอนสมัยเรียนไปเที่ยวปายกับเพื่อน เจอเจ้าของโรงแรมชื่อ พี่ปื๊ด แกเป็นเด็กช่าง เหมือนเมาอยู่ตลอดเวลา ตกลงเรื่องห้อง ค้างสองคืน วันจันทร์ถึงวันพุธ โรงแรมแกมีน้องหมาชื่อครัวซอง พันธุ์ดัลเมเชี่ยน ตัวใหญ่มาก ตอนค่ำก็ไปนั่งกินเหล้ากับแก ฟังแกเล่าเรื่องอดีต ก่อนที่แกจะบอกว่า พรุ่งนี้พี่จะเข้าเมือง กลับอีกทีพฤหัสนะ พวกเราก็โอเค แล้วค่าห้อง กุญแจห้องจะให้พี่ยังไง พี่ปื๊ดบอกสั้นๆ ไม่รู้ว่ะ แล้วตอนเช้าแกก็เข้าเมืองด้วยรถเที่ยวแรก ไอ้ค่าห้องนี่ไม่เท่าไหร่ กะเสียบไว้ผ่านบานประตู กุญแจก็โยนเข้าในบ้านอีกหลังที่เป็นแค่ประตูเฟี๊ยมปิด แต่ไอ้ที่เป็นปัญหาคือแกดันทิ้งหมาไว้ด้วย สรุปคือต้องเลี้ยงหมาแทนพี่เค้า ตอนเดินไปเที่ยวในปาย หมาก็เดินตามตลอดเวลา ลองนึกสภาพดู หมาตัวใหญ่ๆเดินตามเรา พอรถขับมาเราต้องหันไปบอก ครัวซอง มาหลบรถก่อน เดี๋ยวรถเสย ไอ้ครัวซองก็เหมือนฟังออก เดินมายืนข้างๆเรา ตอนนอนก็ให้นอนหน้าบ้านพัก ให้ข้าวกิน ซัดโฮกๆเหมือนหิวมาก แต่คิดว่าพี่เค้าเลี้ยงดีมากอยู่แล้ว เพราะอ้วนตุ้บตั้บ วันกลับจะร้องไห้ พี่ปื๊ดยังไม่กลับมา ครัวซองก็จะเดินขึ้นรถกระป๋องตามเรากับเพื่อน ต้องหลอกให้เดินไปทางอื่นแล้วรีบวิ่งขึ้นรถ พี่ปื๊ดนะพี่ปื๊ด ไม่สงสารครัวซองเลยนะพี่ T____T จากคุณ : ด๋อยด๋อย เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 22:01:00

ความคิดเห็นที่ 53 ของเราเป็นเรื่องมอเตอร์ไซต์หายคล้ายๆ คห ข้างบน เราจอดรถไว้ที่ข้างห้องสมุด ทำธุระเสร็จจะกลับ มอเตอร์ไซต์หาย งงมาก เพราะรถก็เก่า  ยังจะมีคนมาขโมยอีก ไม่รุ้จะทำไง กลับไปไหนก็ไม่ได้ เลยนั่งจ๋อมอยู่แถวนั้นสักพัก แล้วจู่ๆก็มีรุ่นพี่ในคณะ ขีมอไซต์เรามาจอดที่เดิม แล้วก็เดินเข้าห้องสมุดไป งงเลย..จะตามไปถามเค้าก็ไม่กล้า เราเลยรีบขี่รถกลับ เล่าให้เพื่อนฟัง มันบอกเรื่องปกติ ยิ่งรถเก่าๆ เค้าจะเอาเหรียญบาทมาไขแทนกุญแจ สตาร์ทได้สบาย คือยืมขับไปนั่นนี่แป็บๆ แต่ไม่หายหรอก -*- จากคุณ : BCS เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 22:03:52

ความคิดเห็นที่ 54 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รุ่นพี่เล่าให้ฟังค่ะ คือเมื่อก่อนพี่เค้าจะมีรถเก่าๆคันนึงมันจะดังทุกอย่างยกเว้นแตร แอร์ก็ร้อน เปิดหน้าต่างยังเย็นกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่เค้าขับรถขึ้นทางด่วนด้วยความที่รถแกไม่สามารถขับเร็วได้อยู่แล้ว ขับๆอยู่ก็เห็นล้อรถใครไม่รู้กลิ้งนำวิ่งนำหน้ารถพี่เค้าไป พี่เค้าก็คิดในใจ ใครว่ะแม่มโคดโ ง่ เลยขับรถยังไงให้ล้อหลุด ซักพักก็เห็นอีกล้อ วิ่งแซงล้ออันแรกไปอีก ก่อนที่พี่เค้าจะคิดอะไรต่อ รถพี่เค้าเอียงค่ะ สรุปแล้วไปล้อ 2 ล้อนั่นอ่ะ ของพี่เค้าเอง แล้วพี่ก็บังคับรถไม่อยู่ไปชนกะที่ข้างทางด่วน เข้าโรงบาล ขาหัก แขนหัก ทุกวันนี้ใส่เหล็กค่ะ แล้วเรื่องนี้จะเป็นที่ฮามากเวลาพี่แกมาเล่าให้ฟัง แกเล่าไปขำไปไม่คิดว่าใครมันจะขับรถแล้วให้ล้อหลุดได้ 55 จากคุณ : ab_paradox เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 22:17:12

ความคิดเห็นที่ 55 ความภูมิใจเล็กๆ..... เคยช่วยเหลือคนที่ถูกรถชนไปส่งโรงพยาบาลค่ะ.. มีอยู่วันหนึ่งขณะกลับรถจะเข้าบ้านเห็นสองพ่อลูกปั่นจักรยานออกกำลังกายแล้วถูกรถฟอจูนเนอร์พุ่งชนและทับคันที่เป็นของลูกสาว คนพ่อพยายามอุ้มลูกสาววิ่งหารถเพื่อไปโรงพยาบาล แต่ตอนนั้นมันไม่เราผ่านพอดีเลยถอยรถกลับไปรับพาไปส่ง...และเด็กก็ปลอดภัย.   จากคุณ : sakulna เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 22:23:09

ความคิดเห็นที่ 56 ต่างคนต่างรอ วันนั้นจะไปห้างกับเพื่อนตอนดึกเเล้วเพื่อนแวะเติมน้ำมัน หลังจากออกจากปั้มผมก็ขับนำผมขับเร็ว100 นิดๆ  ถึงหน้าห้างผมก็มองกนะจกหลังไม่เห็นมีเพื่อนตามมาผมก็รอ จนรอไม่ไหวขับย้อนสอนไปดูเพื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่เจอเลยไปรอในห้างดีกว่าถึงที่จอดรถเท่านนั้นเเละเจอเพื่อน ต่างคนต่างรอ สุดเหตุเกิดจากเด็กแว้นขับเพื่อนเลยควบตามไปเลน4ออกขวาอย่างเร็วโดยที่ผมไม่รู้(ปกติมันขับตามผมตลอด )  เลยถึงห้างก่อนผมและมันกำลังขับออกไปดูว่าเกิดอุบัติเหตุไรกับผมมั๊ย ปล. ตอนนั้นโทรศัพมีทำไม่ไม่โทรก็ไม่รู้ จากคุณ : โซโซเมก เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 23:06:12

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไปขับรถเที่ยวกับเพื่อนครับ  ผมอยู่หาดใหญ่ ขับไปนาหม่อม ขับไปในหมู่บ้าน จะถึงนาหม่อมอยุ๋แล้ว  รถเพื่อนผมยางรั่ว  เอาหละสิ ตอนนั้นไม่มีใครผ่านมาเลยและไม่รุ้ว่าร้านอยู่ไหนทำไรไม่ได้  เลยตัดสินใจโทร  191   ปรากฏว่า พี่ตำรวจมาจริงๆครับ ลงทุนขับรถมาจาก  ประตู 108 [มอ.]    มาหาแล้วยกรถใส่กระบะแล้วพาไปหาร้านให้ครับ โหย  พวกผมเลยเลี้ยงข้าวแกมื้อนึง    ตำรวจดีดีก็มีเหมือนกันนะ ! จากคุณ : เฮียม๊าเรียก เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 01:45:22

ความคิดเห็นที่ 58 ของผมนี่คล้ายๆกับคห.ด้านบนเลย สมัยเรียน วันนั้นต้องไปเอาของอยู่หอพัก เลยขอยืมรถมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปเอาของ ไปเอาของแล้วขับกลับมาจอดที่เดิม จอดเสร็จแล้วก็เห็นว่ารถเพื่อนจอดอยู่ข้างๆ สรุปว่าเราเอารถใครไปก็ไม่รู้ ดรีมแดงเหมือนกัน ทะเบียนก็คล้ายกัน กุญแจดันไขได้อีก โชคดี เจ้าของเค้ายังไม่มา ไม่งั้นท่าทางจะเป็นเรื่อง 555 จากคุณ : พ่อมหา สายตาสั้น เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 02:05:29

ความคิดเห็นที่ 59 จอดรถติดไฟแดงอยู่ดี ๆ นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ นู่นนี่นั่นไปเรื่อย รู้สึกเหมือนว่ารถตัวเองไหลถอยหลังพอดีเป็นเนินด้วย เหยียบเบรกเท่าไรรถก็ไม่หยุดไหล  ตกใจมากหลับหูหลับตากระทืบเบรก  พร้อมตะโกนว่า "แม่............  เบรกแตก ....." แม่กับพี่ชาย ที่นั่งมาด้วยหันมามองแบบงง ๆ เป็นไรอะ  ไอ้นี่นับวันยิ่งจะเพี้ยน คือเลนเราจะเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยก  แต่เลนข้าง ๆ เค้าตรงไปไฟเขียวก่อน เลยได้ไปก่อน  ไอ้เราเห็นจากหางตาเลยนึกว่ารถตัวเองไหลถอยหลัง 5555555555 ทุกวันนี้พี่ชายยังล้ออยู่เลย  ไอซ์ซี่ หลอน/เบรก/แตก    (- -") จากคุณ : eissee เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 03:21:43

ความคิดเห็นที่ 60 อ่านกระทู้นี้แล้วยิ้มเลยค่ะ ขอเล่ามั่ง เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว เราทำงานที่อำเภอใกล้ชายแดนแห่งหนึ่ง ทางภาคอิสาน ช่วงหน้าฝนถนนลูกรังดินแดง ก็จะเละเทะ ถนนขาด มีน้ำขังเป็นบางช่วง วันหนึ่ง หลังจากเลิกงานก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับกับพี่ที่ทำงาน ด้วยกัน พอถึงช่วงที่ถนนน้ำขังไปลำบาก ก็จอดให้พี่แกลงเดินเลี่ยง ริมทาง เราก็ขับไปจอดรอพี่แก จากนั้นก็ขับต่อไปจนถึงบ้านพัก ของพี่เค้าเราก็จอดให้พี่ลง แล้วก็ขับกลับบ้านตัวเอง ตอนเช้า ก็มารับพี่เค้าที่บ้านพักตามปกติ(เนื่องจากบ้านอยู่ทางเดียวกัน และ ก็ทำงานที่เดียวกัน)  มาถึงบ้านพี่เค้า ถึงได้รู้ว่าเมื่อวานเราทิ้งพี่ ไว้ที่ตรงให้แกลงเดิน ตรงช่วงถนนมีน้ำขัง ตอนที่จอดรอเราคิดว่า พี่มาขึ้นรถแล้ว เลยขับไป ประกอบกับใส่หมวกกันน็อคเลยไม่ได้ ยินเสียงพี่แกเรียกตาม  โทรศัพท์ก็ไม่มี โชคดีที่มีชาวบ้านผ่านมา เลยพาพี่แกมาส่งถึงบ้าน พี่แกถามว่า ตลอดทางเกือบ 15 กิโลที่ขับรถ กลับเนี่ย ไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างเลยเหรอว่ารถมันเบา ไม่มีคน นั่งอยู่ข้างหลัง ยิ่งกว่านั้นบรรดาเพื่อนร่วมงานที่รู้เรื่อง ยังขำว่า ตลอดทางที่ขับรถกลับเนี่ย ไม่ได้คุย ไม่ได้พูดอะไรกันเลยเหรอ มิหนำซ้ำตอนที่เราจอดส่งพี่เค้าที่บ้าน เราไม่ได้หันมาดู หรือไม่ แปลกใจบ้างเลยเหรอ ที่พี่เค้าไม่เอ่ยคำขอบคุณหรือพูดอะไรเลย เราได้แต่ขำ 555 คุณพี่ หนูขอโทษ จากคุณ : zapatero เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 03:26:34

ความคิดเห็นที่ 61 ไปเรียนมหาวิทยาลัยภาคค่ำ พอเรียนเสร็จก็มาที่รถ กดรีโมตแล้วก็รีบขึ้นเพราะมันมืดมาก เข้าไปนั่งกำลังจะสตาร์ท ก็งงว่าพระที่เราแขวนไว้ที่หน้ารถหายไปไหน เอ๊ะของที่วางไว้ในรถไปไหน ข้าวของเปลี่ยนไปหมด ก็เลยลงมาจากรถ สรุปว่ารถสีเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แต่เป็นรถใครก็ไม่รู้ เปิดประตูได้อีกต่างหาก รีบลงอย่างไว สรุปแล้วรถเราจอดอยู่ใกล้ๆกับคันนี้ ดีนะเนียไม่โดนข้อหาขโมยรถ จากคุณ : SF Girl เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 05:34:42

ความคิดเห็นที่ 62 ฮาดีครับ มานั่งรอชมอีก จากคุณ : JIRATH เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 07:33:27

ความคิดเห็นที่ 63 กระทู้ F5 จากคุณ : สมัญตาชีวบุตร (omega_13) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:30:14

ความคิดเห็นที่ 64 เพิ่งจะนึกเรื่องของตัวเองออก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้ขับเข้าไปในเขตทหารตรงรามอินทรากม.2 ช่วงประมาณเกือบๆสองทุ่ม มาถึงหน้าป้อม เลยเปิดกระจกถามพี่ทหารว่าศูนย์กีฬาไปทางไหน เค้าก็บอกมาเสร็จสรรพ ประโยคสุดท้าย แกพูดมา ช่วยหรี่ไฟหน้าด้วยนะครับ ตอนนั้นแคมรี่ไฮบริดไฟซีนอน ผมคงคิดว่าเออคงแสบตาเค้ามั้ง ขับไปเรื่อยๆ นั่งคุยกับเพื่อน เค้าให้เราปิดไฟทำไมวะ.... ทางในนั้นมืดมาก แทบจะคลานกันเลยทีเดียว ไฟหน้ารถก็ไม่กล้าเปิด มองเห็นคันหลัง เอ เค้าก็เปิดไฟวิ่งมานี่หว่า ทำไมเราเปิดไม่ได้ ทนขับไปถึงศูนย์กีฬา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ................ ขาออกอีกประตูนึง เห็นรถเข้ามาทุกคันที่ผ่านป้อม ทุกคันหรี่ไฟหน้ากันหมด ผมเลยนึกอ๋อออออออออออ สงสัยให้หรี่ไฟก่อนเข้า พอเข้าปุ๊บ เปิดไฟหน้าได้ หันบอกกับเพื่อน แล้วนั่งฮากัน โง่แท้เหลา ขับมืดๆมาตั้งนาน จากคุณ : JIRATH เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:37:36

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งจะถอยมอไซค์มาคันนึง  วันนั้นไปซื้อของร้านเพื่อน เอารถยนต์ไป เพื่อนก็ถาม "เฮ้ย เอ็งถอย ER มาหรอ ว่างๆเด๋วกรูสอนแบนโค้ง " ผมก็เอ่อ เข้าโค้งเอียงๆเหมือน ฟิล์ม รัฐภาคอ่ะนะ ไม่เอาดีกว่าแต่ก็ เออๆๆไป 3วันต่อมา ไปซื้อของร้านมันอีก เอ้าพันขา แขนหัก เลยถามไป "ไปโดนไรมาเนี่ย " มันบอก "สไลด์มาว่ะ" เลยบอกมันขำๆไป "แล้วจะได้สอนแบนโค้งกรูเมื่อไหร่เนี่ย เอ้อสไลด์นี่ไม่เอานะ" จากคุณ : PaoChelsea เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:41:39

ความคิดเห็นที่ 66 เหตุการณ์นี้นานมากๆ แล้วค่ะ  จำได้ไม่ลืมเลย ตอนนั้นเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง แล้วเห็นชัดในประเทศไทย พ่อเราขับรถพาเด็กๆ ลูกหลาน ไปเต็มคันรถ (แม่ไม่ได้ไปด้วย) จะไปดูสุริยุปราคาที่เขื่อนซึ่งอยู่ต่างอำเภอ ไปได้สักพักนึง  ระยะทางห่างจากบ้านประมาณ 60 กิโล พ่อแวะปั๊ม เด็กๆ ลงจากรถไปซื้อขนมรวมทั้งเราด้วย เลือกขนมนานไปหน่อย เดินมาที่รถ อ้าว!!! รถไปไหน แล้วพ่อชั้นล่ะ??? ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก หันซ้ายหันขวา ตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วย ถามเด็กปั๊มว่า เห็นรถแบบนี้ สีนี้ไหม  เด็กปั๊มบอกว่าออกไปแล้ว มองไปเจอวินมอเตอร์ไซด์อยู่ไม่ไกล เลยเดินไปหาเค้า บอกว่าโดนทิ้งจะตามไปเขื่อน ลุงมอเตอร์ไซด์ก็พาซิ่งเลย  ขับได้สักพัก บังเอิญไปทันกับรถของน้าเรา (ใครๆ ก็ไปกัน) เราเลยโบกให้จอด จ่ายเงินค่ามอเตอร์ไซด์ไป 60 บาท (ยังจำได้) ก็ติดรถไปกับน้าทั้งวัน จนตอนเย็น น้าไปส่งที่บ้าน ปรากฎว่ากลับถึงบ้านก่อนพ่อ ส่วนพ่อเรา พอไปถึงเขื่อน ถึงได้รู้ว่าลืมลูกสาวไว้ที่ปั๊ม 555 พ่อก็วนรถกลับมาหา (ประมาณ 30 กิโล) หาไม่เจอ ก็กลับไปที่เขื่อนอีก ก็ไม่เจอ พยายามเดินหาที่เขื่อนทั้งวัน คนเยอะมากๆ วันนั้น เหมือนมีงานเทศกาลเลย พอพ่อกลับมาถึงบ้าน ก็โดนแม่บ่นจนหูชาตามระเบียบ 555 จากคุณ : koy_orca เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:51:05

ความคิดเห็นที่ 67 กรูทู้น่ารัก น่ารักอ่ะ จากคุณ : SniperEak เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:53:41

ความคิดเห็นที่ 68 ปรกติที่บ้านใช้รถปิคอัพ อีซุซุ ดราก้อนอาย เติมน้ำมันทีไร เราก็เข้าเติมดัานขวาของตู้ (ที่เติมอยูด้านขวา) ขับอยูหลายปี สมาชิกเพิ่ม ขยับขยายเป็น โตโยต้าวิช ยันแรกที่เติมน้ำมัน ด้วยความคุ้นเคย ไปรอคิวอยู่กึ่งกลาง เด็กปั้มก็โบกให้ไปซ้ายๆๆ ผมก็โครตโง่ ผมก็ชี้ขวาๆๆๆ พอถึงคิวเติมน้ำมัน ด้วยความมั่นใจ ขวาโลดๆๆๆ เด็กปั้มถอนหายใจด้วยความเพลีย เบื่อไอ้โครตโง่คนนี้ ซักพักเด็กปั้มยังไม่เติมให้ เอ๊ะมันหายไปไหนว่ะ ช้าชิบ_าย ปรากฏว่า...... เด็กปั้มต้องเรียกเพื่อนอีก สองคน มาช่วยยกสายน้ำมันข้ามรถผม จากข้างขวามาเติมข้างซ้าย ก่อนไปน้องๆ สามคน เช็ดกระจกให้ เลยทิปซะคนละยี่สิบ แก้อาย อายสุดๆ ไม่ได้ไปปั้มนี้ประมาณ สามเดือน ให้น้องๆเค้าลืมหน้าผมก่อน 5555 จากคุณ : kittyducati เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 08:54:54

ความคิดเห็นที่ 69 ผมจะเอาเรื่องไหนก่อนดีละเนี้ย มีเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Mr.Chiw เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:03:36

ความคิดเห็นที่ 70 ไถเงินตำรวจ นานละ สมัยก่อนบ้านอยู่ซอยอ่อนนุช เพื่อนๆนึกออกใช่ปะ จะมีป้อมตำรวจอยู่ปากซอย วันนั้น ผมลืมเอากระเป๋าสตางค์ไป ออกไปเรียนปรกติ ในกระเป๋ากางเกงมีแบงค์ 20 อยู่ 1 ใบ กับเศษเหรียญนิดหน่อย ก็ไปเรียนตามปรกติ ขากลับจ่ายค่ารถเมล์ไป ลงปากซอย เหลือตังค์ในกระเป๋า 2 บาท เววรรรรร....... ละ สามทุ่มละ สองแถวหมด บ้านอยู่ในซอย ลึกเข้าไปก็หลายกิโลอยู่ หาตู้โทรสาธารณะ (ช่วงนั้น เป็นยุคของเพจเจอร์ คิดดูละกัน นานแค่ใหน) โทรเข้าบ้าน หาน้อง หวังจะให้เอารถมอเตอร์"ชด์ออกมารับ เวววรรรรรรร..........รอบสอบ ตู้โทรฯ แดรกตังค์ตรูซะงั๊น ตัดสินใจ เดินเข้าป้อมตำรวจ เจอนายดาบคนนึง ผมก็ขอตังค์ดื่อๆละ "พี่ๆ ขอยืมตังค์ 50 ครับ ผมลืมเอากระเป่ษตังค์มา" พี่เค้าก็ควักให้แบบงง ก็เลยเรียกแท๊กซี่เข้าบ้าน (ลืมไปว่าทำใมตรูไม่เรียกตั่งแต่แรก แล้วไปเอาตังค์ในบ้านให้แท๊กซี่ฟระ) วันต่อมา ผมแวะไปที่ป้อมนั้นอีก ไม่เคยเจอพี่นายดาบคนนั้นอีกเลย นับแต่นั้นมา จากคุณ : ps2001 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:10:42

ความคิดเห็นที่ 71 ตอนสมัยเป็นนศ. ไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อน 3 คน ตอนแรกก็ไปแค่หัวหิน แต่ยังไม่อยากกลับ แล้วก็ไม่รู้จะไปไหนกันต่อดี เพื่อนคนนึง ก็ออกไอเดียว่า ไปน้ำตกป่าละอูไง เขาว่าสวย แต่ต้องเข้าไปในป่าเลยนะ ทำไงดี รถก็ไม่มี ข้อมูลก็ไม่ได้หามา ทางก็ไม่รู้จัก...ก็เลยโบกรถไปกันเรื่อยๆ ก็ไปกันตุเลงๆ มั่วๆ ไม่รู้ทาง ไม่มีข้อมูล... จนไปถึงทางแยกก่อนเข้าทางเข้าน้ำตก ตอนนั้น เย็นมากแล้ว และเหมือนว่าเขากำลังจะปิดไม่ให้ขึ้น รถก็ไม่ค่อยมีผ่านมาเลย...ถ้าไม่ได้ขึ้นไป คงต้องนอนกันตรงศาลารอรถตรงนั้นแล้วล่ะ เพราะรถลงไปก็ไม่มี...คือตอนนั้น ไม่รู้เลยว่าอยู่ส่วนไหนของโลก...โทรศัพท์มือถือก็ยังไม่มีกัน (คือเป็นยุคของเพจเจอร์อะนะครับ) ... แผนที่ก็ไม่มี...ตังค์ก็ไม่มี...อาหารน้ำก็ไม่มี...มีแต่เต็นท์ที่แบกกันไปเผื่อๆไว้ จนในที่สุด เกือบ 5 โมงเย็นเห็นจะได้ ก็มีรถกระบะ ปิด carryboy ขับมา...เอาสิต้องโบกให้ได้แล้วล่ะ...จอดครับ พี่เขาจะเข้าน้ำตกพอดี แต่มาเย็นมากแล้ว คงไปไม่ถึงน้ำตก คงได้แค่กางเต็นท์นอนตรงริมน้ำสักที่นึง...กระโดดขึ้นไปกันเลย...ปรากฏว่า มีคนใน carryboy อีกราวๆ 3-4 คน จำไม่ได้ชัดครับ...ไม่ได้แล้ว ยังไงก็ต้องไปด้วยแล้ว ไม่งั้นต้องแก่วตรงนี้แน่ๆ ...สรุป คืนนั้น นอนตรงริมห้วยสักที่นึง กางเต็นท์ที่เอาไปกัน แล้วก็...เดินไปหน้าด้านขอข้าวเขากินด้วยครับ 555 เป็นเด็กทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด เหอๆ... ตอนเช้าก็ลงมาพร้อมกับพวกพี่ๆเขา ก็บอกว่าพี่ส่งแค่ทางจะเข้าหัวหินก็ได้...แต่ปรากฏว่า...พวกพี่ๆเขา พาพวกผม 3 คนมาส่งกันถึงกรุงเทพฯเลยครับ เหอๆ สุดยอดมากๆ นึกย้อนกลับไปแล้วก็...ทำไปได้ไงวะนี่ ...ทางก็ไม่รู้จัก...รถก็ไม่มี...เสบียงก็ไม่มี...โทรศัพท์ติดต่อก็ไม่มี...ยังกล้าคิดจะเข้าไปน้ำตกในป่า ห่างจากหัวหินไปอีกหลายสิบกิโล...วัยรุ่นนี่ ทำอะไรก็ได้จริงๆ จากคุณ : jeafish เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:11:21

ความคิดเห็นที่ 72 ของผมเหมือน #60 คือลืมคน ลืมไว้ 3 ชม. กลับห้องอาบน้ำเรียบร้อยพึ่งนึกออก วนรถกลับไปหา แกยังยืนรออยู่ที่เดิม.... รู้สึกผิดมากๆ จากคุณ : คนมาบแค เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:16:14

ความคิดเห็นที่ 73 มีมาอีกเรื่อง ^^ ไปออกค่ายที่แม่ฮ่องสอน ขากลับก็แวะเที่ยวออบหลวงกันมันก็เป็นเวลาบ่ายเกือบเย็นแล้วค่ะ ไปรถบัส สองคันซึ่งคนขับไม่รู้มันจะรีบไปไหนขึ้นรถกันหมดรถออกทันที ยังไม่ถามเลยว่ามาครบไหมด้วยซ้ำ แต่ปรากฎว่ามีเพื่อนคนหนึ่งยังไม่ขึ้นมา เราก็ "เห้ยไอ้ปุ้ยหละ?" มีเสียงตะโกนมาจากด้านหลังว่า "มันอยู่อีกคันหนึ่ง มันไปหลีหมอสาวๆ" พยายามโทรหามันแล้วนะคะ แต่ว่ามันใช้ทรูมูฟ ซึ่งบอดสัญญาณสนิท พอไปถึงจุดพักรถที่หนึ่ง ก็ได้รู้ว่า ไอ้ปุ้ย ไม่ได้ขึ้นรถมาด้วยกันแค่มันคนเดียว ! อ้าว ฉิบละสิ !! กว่าจะติดต่อมันได้ เราก็มาไกลออบหลวงมากๆแล้วค่ะ มันขอติดรถนักท่องเที่ยวมาด้วย จุดนัดพบที่เถิน กว่าจะได้เจอกันอีกทีก็ดึกดื่น ถามมันว่าเข็ดไหม มันก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ อยากชอบสลับรถดีนักสม เพราะแรกๆมันสลับนั่งรถไปๆมาๆ เพราะไปหลีหมอนั่นหละ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 09:26:34 จากคุณ : Super เมีย เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:25:44

ความคิดเห็นที่ 74 กิฟ จขกท ใกล้จะหมดละ อ่านเพลินดีเหลือเกินครับ อ่าวแล้วยิ้มอะแต่ละเรื่องราว จัดมาๆ อีก จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:46:39

ความคิดเห็นที่ 75 ผมนั่งเครื่องบินกี่ครั้งๆก็ไม่เคยเข้าใจว่ากัปตันเขาพูดอะไร ผมก็เรียนอินเตอร์มา ทักษะภาษาอังกฤษก็คงพอใช้ได้อยู่ จับใจความได้เเค่คำเดียว !@#$%^ยลาๆๆ take off! - - จะบ้าตาย จากคุณ : Wc09 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:08:23

ความคิดเห็นที่ 76 ตลาดวาย รึยังเนี่ย..... เรื่องของผมมีอยู่ว่า เมื่อก่อนผมทำงานอยู่บนดอย จะต้องขับรถ ขึ้น-ลง ดอย ทุกวันและตอนลงเนี่ย จะต้องผ่านหมู่บ้านชาวจีน ที่อยู่บริเวณโค้ง ซึ่งทุกคนในพื้นที่จะรู้ดี ว่า ต้องบีบแตรให้สัญญาณกับรถที่วิ่งสวนขึ้นมาเพื่อจะเข้าหมู่บ้าน ไม่งั้นอาจจะประสานงากันได้ เพราะทางเข้าหมู่บ้านอยู่ตรงหัวโค้งพอดี วันที่เกิดเหตุ คือวันนั้นเพื่อนผมจาก ต่างจังหวัด มาเที่ยวและก็นั่งรถผมเพื่อจะเข้าไปเที่ยวในเมือง พอถึงโค้งที่ว่า ผมก็กดแตรให้สัญญาณ เพื่อนผม : (หันไปทางซ้ายมือทันที เห็นป้ายหมู่บ้านเป็นภาษาจีน) ยกมือขึ้นไหว้ ผม :        เฮ้ย..มรึงไหว้ไรวะ เพื่อนผม : ไหว้ศาลเจ้าไง มรึงกดแตรตรงศาลเจ้าจีนไม่ใช่เหรอ ผม :      ศาลเจ้าบ้านมรึงเดะ นั่นมันป้ายทางเข้าหมู่บ้าน ______________________________ แล้วก็ฮากันสนุกสนาน อำกันจนมาถึงทุกวันนี้ จากคุณ : ViRus Loaded!! เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:13:44

ความคิดเห็นที่ 77 เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ตอนนั้นผมยังขับรถไม่เป็น มีเคยหัดออกตัวด้วยรถกะบะที่บ้านบ้าง เดินหน้าถอยหลังเล่นในซอย แต่ไม่เคยขับออกถนนสักที จนไปเรียนมหาลัย....แล้วครั้งแรกก็มาถึง วันนั้น....เพื่อนผมมันขาพลิกเข้าเฝือก ต้องไปให้หมอตรวจที่โรงบาลชลบุรี มันหาคนพามันไป.... แน่นอนครับจะเหลือใครล่ะเพราะแฟนมันก็ขับไม่เป็น ดังนั้นก็ต้องเป็นผม มันถามผมก่อนเลย ขับได้ป่าว ....ได้ดิ รถนิสสันเซนทร่าตัวเก่าๆ ครั๊ชนิ่มมากๆ ออกตัวครั้งแรกดับ! ครั้งที่สองดับ!....ฮ่าๆๆ มันจะยากอะไร(นึกในใจ) เพื่อนมันก็ถามอีก ขับได้แน่นะ....ได้ดิ แต่ไม่ได้ขับนานแล้ว(ตอบมันไปด้านๆ) คราวนี้ไม่ดับครับ ออกตัวไปแบบกระตุก กระตุก ....แล้วก็ไปได้ ขับแบบซ้ายสุด โดนสิบล้อไล่ บีบแตรใส่  แต่ก็ไปถึงโรงบาลครับ สุดยอด(นึกในใจ) ทีนี้ขากลับ มันไม่ให้ผมขับแล้ว มันบอกเดี๋ยวขับเองดีกว่า แต่เราไปแวะฟอรั่ม หาไรกินก่อน ใครเคยไปฟอรั่มชลบุรีน่าจะนึกออกครับว่า ทางขึ้นลงที่จอดรถมันแคบมาก ก็มีรถกระบะคันนึงกำลังตีโค้งลง รถผมขับตามหลัง เห็นชัดๆเลยครับว่า มันเข้าโค้งแคบเกินไป รถแทบจะเบียดผนังอยู่แล้วห่างแค่ไม่กี่เซ็น!!!!! คนขับกระบะคันนั้นจอดรถครับ แล้วก็ไปลงประตูอีกข้างเพราะประตูด้านคนขับ มันเปิดไม่ได้แล้ว เขาเดินวนไปวนมา เกาหัว ท่าทางจะเครียดมาก ถ้าคนที่ขับรถเป็นน่าจะนึกออกครับว่ารถมันลงเนินไปแล้ว จอดค้างอยู่อย่างนั้น มันใกล้จะเบียดแล้วด้วย ดังนั้นไม่ใช่งานง่ายๆแน่ๆครับ ในที่สุดพี่คนขับคนนั้นก็เดินมาที่รถเพื่อนผมครับ เขาพูดประมาณนี้ "พี่ครับ ช่วยผมหน่อยเถอะครับ ผมไม่รู้จะทำไงต่อแล้ว" "พี่ช่วยไปขับให้ผมหน่อยครับ ถ้ามันเป็นรอยอะไร ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าผมขับเอง มันเบียดแน่ๆ ไม่ต้องกลัวครับ พี่ขับได้เลย มันเบียดก็ช่างมัน แต่ผมเชื่อฝีมือพี่ครับ ผมมั่นใจว่าพี่ช่วยผมได้"........ เรื่องตลกก็คือ สายตาของเขาตอนที่เห็นเพื่อนผมมันดึงไม้เท้าลงจากรถมันมา พร้อมกับขาที่เข้าเฝือกอยู่ เดินกระเผลกๆ แบบเขย่งๆ ค่อยๆไปที่รถของเขา ฮ่าๆๆ ผมยังจำภาพนั้นได้ติดตาเลย เขาอ้ำๆอึ้งๆ เออ...อืมมม..เออ...จะพูดอะไรก็ไม่พูด ผมได้แต่นั่งหัวเราะกับแฟนเพื่อนอยู่ในรถ มองดูเพื่อนผมมันค่อยๆกระดืบๆ เขาประตูอีกด้าน แล้วค่อยๆปีนข้ามไปนั่งยังที่นั่งคนขับ....ฮ่าๆๆๆ ปล.... เพื่อนผมมันเข้าเกียร์ถอยหลัง ถอยปรืดเดียวก็เสร็จ ตีโค้งอีกนิดชับลงไปได้แบบสบายๆครับ เคร่...... ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:26:02

ความคิดเห็นที่ 78 ยังไม่วายครับยังไม่วายคุณ ViRus Loaded!! จากคุณ : dokya_pladuk เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:34:34

ความคิดเห็นที่ 80 อยากเล่า ไม่เอากิ๊ฟ เมื่อ 20กว่าปีก่อน ไปเที่ยวเชียงใหม่กับพี่สาว-พี่เขย พี่เขยเอารถอัลฟ่า จูเลียสต้าไป ขากลับผมขับ รถมันแรง ขับอย่างมันส์ มาโดนตำรวจทางหลวงเรียกจับความเร็วแถวนครสวรรค์ ผมก็ลงไปเจรจาตามระเบียบ พี่แกไม่พูดมาก บู้ยใบ้ให้เอาเงินไปใส่ท้ายรถทางหลวงที่เปิดรอรับทรัพย์อยู่ ผมก็หยิบกระเป๋าตังส์เปิดหยิบเงิน 100บาท เดินตามพี่คนนึงที่กำลังเดินไปเหมือนกัน เห็นพี่เขาเอาเงินใส่ในกระจาดที่มีเงินอยู่บ้างแล้ว ผมแกล้งพูดเล่นเล่นๆกับพี่เขาว่า ไม่รู้:-)ให้มาวางเงินหรือหยิบเงิน พี่เขายิ้มๆแล้วก็หยิบเงินคืนแถมติดมือไปอีก 200-300บาท ผมเลยเอาบ้าง เดินคุยกับพี่เขานิดหน่อยแล้วแยกกันขึ้นรถ ขับรถออกมาได้ผมก็เล่าให้พี่สาว-พี่เขยฟัง เลยนั่งหัวเราะกันตลอดทาง จากคุณ : รถกระป๋อง (pikenu) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 11:20:21

ความคิดเห็นที่ 81 ตอนมหาลัย นั่งรถทัวร์กลับบ้านประมาณ 750 กิโล ข้างหน้าต่างเป็นสาวงาม นั่งข้าง ดีใจสุดขีด แอบแกลังนั่งซบไหล่สาวทั้งคืน หลับลืม จนเช้ามืดกลายเป็นสาวซบไหล่ผมครับ ตื่นเต้นลลลลลลลลมาก ตอนลงพร้อมกัน ต่างคนไม่มองหน้ากัน รีบหยิบกระเป๋าเดินไปคนละทางไม่มองกันเลย อิอิ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 11:35:38

ความคิดเห็นที่ 82 ผมเป็นคนแปลกคับเวลาเห็นคนขี่มอไซค์ลืมเอาขาตั้งขึ้นจะขี่ไปบอก มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีเวฟร้อยคันหนึ่งขี่แซงผมไปโดยไม่เอาขาตั้งขึ้น ผมขี่แอร์เบรดด้วยความหวังดีก็บิดตาม พยายามบีบแตรบอก พี่เขาคงคิดว่าผมอยากเทส ก็บิดใหญ่ ผมก็บิดตามรถผมมันก็วิ่งได้  100 เดียว กว่าจะตามไปบอกทัน เล่นเอาหลายกิโลเหมือนกัน จากคุณ : ยิ้ม บางขุนเทียน เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:06:42

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อก่อนน้ำท่วม กำลังล้างรถอยู่เมียใช้ให้ไปซื้อกาแฟสดหน้าปากซอย  เราก็ขับไปซื้อให้ สั่งไป 2 แก้วรวมของตัวเอง ถือกลับมา 2 มือ เปิดประตูรถไม่ได้เลยวางไว้บนหลังคารถแก้วหนึ่งก่อน แล้วก็เปิิดประตูเข้ารถสตาร์ทเครื่องถอยออกจากร้าน น้องแม่ค้ากาแฟคนสวยก็ออกมาโบกไม้โบกมือให้เราใหญ่เลย ไอ้เราก็นึกว่าสวยแล้วยังบริการดีขนาดหนักมีมาโบกมือลาลูกค้าด้วย นั่งขับรถกลับซัดกาแฟของตัวเองหมดแก้วเลย มาถึงบ้านถึงรู้ว่าลืมกาแฟไว้บนหลังคารถ โดนเมียบ่นแถมต้องล้างรถใหม่อีกรอบ เซ็งเลย     จากนั้นไม่กล้าไปซื้อกาแฟร้านน้องคนสวยอีกเลย กลัวเค้าจำได้ จนหลังน้ำท่วมน้องเค้าก็ปิดกิจการไป ทุกวันนี้ขับรถผ่านก็ยังนึกขำตัวเองอยู่เลย จากคุณ : อุ่นสบาย เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:35:58

ความคิดเห็นที่ 84 มีน้องผู้หญิงคนนึงนั่งรถโดยสารไปลาว (อุดร-เวียงจันทน์) ซื้อตั๋วเสร็จก็นั่งรถไป พอใกล้ถึงหนองคาย พนักงานบนรถเดินมาสะกิด "เอื้อยๆ ขอปี้แแน..." พอได้ยิน ทั้งหูชาทั้งหน้าแดง กำลังจะตะโกนด่ากลับไป ยังดีที่คนข้างๆบอกว่า "เค้าขอดูตั๋วหน่อย" ปี้ ในภาษาลาวคือ ตั๋วหรือบัตรนั่นเอง เกือบได้อายไปกว่านี้ซะแล้ว... 555 จากคุณ : fanclub เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:36:05

ความคิดเห็นที่ 85 ตอนน้ำท่วมใหญ่ปีที่แล้ว ผมอยู่คลองรังสิต ต้องหนีน้ำไปบ้านแฟนที่อีสาน เดินลุยน้ำออกมาหน้าหมู่บ้าน โบกรถบรรทุกสูงๆ ที่ขับลุยน้ำออกมา ออกไปถนนใหญ่รังสิต - นครนายก แล้วก็ลงไปขึ้นรถทหารต่อ เพื่อไปแถววัดมูลจินดามณี เพราะแถวนั้นจะมีรถบัสต่างจังหวัดใช้ทางนี้ผ่านไปขึ้นมอเตอร์เวย์ โบกรถบัสคันนึง ขึ้นไปกัน 4 คน เราก็เอ๊ นั่งไปจะถึงหมอชิตอยู่แล้ว ทำไมแำกไม่เก็บตังค์ซักที พอลงรถ จะเอาตังค์ไปให้พี่แก ถามว่าเท่าไรครับพี่ เค้าบอก ไม่เอาหรอก น้ำท่วม ช่วยๆกัน ก็เลยมานั่งนึก เออ ยามคนไทยเดือดร้อน คนไทยด้วยกัน ย่อมช่วยกันเสมอ มันอยู่ในสายเลือดพวกเรานะ มันจะออกมาเอง เวลามีเหตุการณ์ที่ต้องลำบากร่วมกัน ขอบคุณน้ำใจมากๆครับ จากคุณ : ilee เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:38:27

ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อน โดยขับรถกันไปเอง และเป็นทริปแรกที่ขับรถกันไปต่างจังหวัด ตอนแรกก็ขับตามเพื่อน ... สักพักหลงกับรถเพื่อน ก็เลยลงมติกันว่าไปเจอกันที่บ้านพักที่ปราณฯ จากแผนที่ที่ปริ้นมาก็ดูกันไม่ค่อยรู้เรื่อง .... เลยใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ นั่นคือ Maps ในมือถือ หลังจากที่ต่อเน็ต ก็พิมพ์เลย ... ชื่อบ้านพัก เจ้าแผนที่ก็ฉลาด มีเส้นไกด์นำทางให้ด้วย .... อ่ะ เราก็ขีบตามเส้นทางไป ขับไปสักพักเริ่มตะหงิดๆ จากถนนปูน กลับกลายมาเป็นถนนดิน .... แต่ในใจคิดว่า อ้อ มันคงเป็นทางลัดแหละ .... หลังจากที่ขับบนถนนดินสักพัก ชมสานสับปะรดกันไป .... ก็เริ่มตะหงิดอีกล่ะ ถนนเริ่มแคบ และเริ่มกลายเป็นถนนหิน .... ไอ้เจ้าแผนที่มันพามาทางคนเดิน - -* ที่รถไม่สามารถข้ามสะพานเล็กๆนั้นได้ เคืองมาก ... เลยวนออกทางเดิม แล้วใช้ระบบแมนนวลคลำเส้นทางกันไปเอง พอถึงถนนใหญ่สักแห่งนึง ... ก็โทรถามเพื่อนว่าถึงไหนแล้ว สักพักคนขับ(แฟน) ก็บอกว่า จะโทรทำไม รถเพื่อนวิ่งข้างหน้านั่นไง =...= เออ โก๊ะได้อีก ขากลับบ้าน .... หลงเส้น ถ.กาญจนา เพื่อที่จะกลับเข้า ถ.วงแหวน เลยยาวไปเกือบถึงเซ็นทรัลพระราม 2 - -* หลังจากกลับจากทริปนี้ เพื่อนที่มารถคันเดียวกันบอกว่า .... จากที่เห็น มุงสมควรไปหา gps มาติดรถซะนะ ทริปนี้ไปกันเอง ฮามากๆค่ะ ... ใช้กูเกิลแมพนำทางหลงกัน (ไอ้คันเพื่อนก็หลงเพราะแมพเหมือนกัน 555+) จากคุณ : นู๋ว๋าน เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:47:02

ความคิดเห็นที่ 87 ผมเป็นคนที่ชอบขี่มอเตอร์ไซด์ท่องเที่ยวครับ กับกลุ่มเพื่อนๆ เพียงแค่ได้สัมผัสสายลม แสงแดด และสายฝนพร่ำๆก็มี ความสุขละครับ..... เออนอกเรื่องไปหน่อยขอกลับเข้าเรื่องละกัน มันเป็นทริปที่พวกเราออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่เข้าใหญ่กันครับ เราเลยไปเที่ยวที่ ปาลิโอ กันครับ นั่งจิ๊บกาแฟ ถ่ายรูปสนุกสนานกัน หลังจากนั้นเลยตกลงกันว่าจะไปกินแฮมเบอร์เกอร์ที่ ฟาร์มโชคชัย ขณะที่ไปถึงที่ฟาร์มโชคชัยก็สั่งแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่มากมากินคนละชิ้น แต่พี่ใหญ่ของกลุ่มเราสั่งสองชิ้น...คงไม่ต้องบรรยายไซส์ของพี่เค้านะครับ เอาเป็นว่าขี่ Big bike นึกว่าขี่ Wave เลยครับ.... ขณะที่กินกันอย่างเอร็ดอร่อย พี่ใหญ่เราก็เข้าห้องน้ำก่อนเดินทางกลับ กทม. สักพักแกก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำ แล้วโวยวายใหญ่ พวกเราด้วยความเป็นห่วงก็ถามพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกผม : พี่ๆเกิดอะไรขึ้นครับโวยวายทำไม พี่ : ก็เมื่อกี้ผมยืนฉี่อยู่ใช่ม่ะก็มีคนฉี่ข้างๆผมด้วย พวกผม : แล้วทำไมครับพี่...เค้าแอบดูของพี่หรอ หรือว่า..... พี่ : เอ้ยๆๆ ไม่ใช่ๆ คือพอผมยืนฉี่อยู่แล้ว ตด ดัง "ปร๊าดดดดดด" พวกผม : โหพี่แล้วคนข้างๆพี่เค้าทำยังไง พี่ : เค้าหันมามองผมด้วยสายตา...... ผมก็เลยถามกลับไปตรงๆ "ขอโทดนะครับ ที่นี้ห้องน้ำครับ ถ้าพี่ไม่ให้ผมตดตรงนี้แล้วจให้ผมไปตดที่ไหนครับ" หลังจากนั้นพวกผมก็กลั้นที่จะหัวเราะไม่ไหวครับ สรุปที่โวยวายมาคือเรื่องโดนคนมองด้วยสายตาขยะแขยงนั้นเองครับ จากคุณ : ตดมหาประลัย (ผู้ชายพเนจร) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:49:51

ความคิดเห็นที่ 88 กลับมาเล่าอีกรอบ วันนึงนั่งรถปิ๊กอัพไปตลาด เลยนั่งหลัง กินลมชมวิว เรานั่งบนซุ้มล้อ ไอ้ดุ๋ยนั่งตัก แฟนนั่งกับพื้นกระบะถัดไปทางฝาท้าย นั่งไปชิวๆ แฟนบอก เฮ้ย ฝนตกหรือเนี๊ยะ  เราก็เฮ้ย ไม่นะ ไหนะอ่ะ แฟนบอกเนี๊ยะ น้ำเปียกหน้าเลยเนี๊ยะ น้ำฝนอ่ะดิ ดูซิ ลูบหน้า แล้วแบมือให้ดู เออ เปียกจริงหว่ะ ไม่ไม่เห็นเปียกเค้าเลยอ่ะ แหงนหน้า มองขวา มองซ้าย อั๊ยย่ะ ไอ้ดุ๋ย ยื่นหน้าหลับตาพริ้ม อ้าปากน้อยๆ ลมตีริมฝีปากสบัดพั่บๆ น้ำลายไหลเป็นสาย กระจายตามแรงลม ไอ้ดุ๋ย มันเป็นลูกครึ่ง ลูกครึ่งพุดเดิ้ล กะค๊อกเกอร์  รักผมต้องรักน้ำลายผมด้วยนะเจ้านายยยย จากคุณ : *แอ๊ปเปิ้ล รสพีช* เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:59:20

ความคิดเห็นที่ 89 เหตุเกิดที่ระยองค่ะ เรากะแฟนไปทำธุระในตัวเมือง โดยขี่มอเตอร์ไซค์ไปค่ะ ที่บ้านมีหมวกกันน๊อค 1 ใบ อีกใบก็มัวแต่ เดี๋ยวค่อยซื้อๆ จนแล้วจนรอด ก็ไม่ได้ซื้อซักที และด้วยความขี้เกียจ เลยไม่ได้ไปยืมของเพื่อนมา นึกย้อนกลับไป น่าเขกกะโหลกตัวเองมาก วันนั้นรู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเจอคุณตำรวจ บอกแฟน เดี๋ยวเราไปอีกทาง ไม่ต้องผ่านเส้นในตัวเมือง ซึ่ง..เป็นการคาดการณ์ที่ผิดมหันต์จริงๆ เพราะไปป๊ะกันกะคุณพี่ที่แยกบ้านแลง เห็นแล้วแว้บๆ ระหว่างรถติดไฟแดง เราลงจากรถมอไซค์ซะงั้น เพราะคิดเองว่า ต้องโดนจับแน่ๆที่ไม่ใส่หมวกกันน๊อคทั้งคนขี่และคนซ้อน แฟนบอกเฮ้ยขึ้นมา โดนปรับไม่เป็นไร แต่เราดันเลือกลงมาเดินข้างถนนซะงั้น เดินผ่านคุณพี่ไปกะเนียนเข้าห้องน้ำปั๊มทางซ้ายมือ ทำตัวลีบเล็กที่สุด ...มาจากไหนเนี่ยคนเนี๊ยะ... ว๊ากกก เห็นเราแล้วววว ...แหะๆ หนูจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ ปวดมาก.. ตอบได้โคตรตรงคำถามเลย - -* ...จริงเร้ออ เราลงมาจากคันไหนเนี่ย.. เวรกรรม ทำหน้ายังไงดีวะตู ...ไม่ไหวแล้วค่ะ ขอไปห้องน้ำก่อน...แน๊ ยังกล้าแถอีกนะ เดินเกือบพ้นเหล่าคุณพี่แล้วเชียว ทันใดนั้น . . ...แฟนของครายยยย มอเตอร์ไซค์ ทำหล่นนนนน..พร้อมยิ้มหวาน ตึงโป๊ะ!!คุณพี่ร้องเพลงให้เราค่ะ โอ๊ยยยยย โคตรอายเลยคุณเอ๊ยยยย ........... เราหน้าหดเหลือ 2 นิ้ว ใจเต้นตึกตัก หันไปยิ้มแหยๆ ทีนึง แล้ววิ่งปรู๊ดไปห้องน้ำเลย จากนั้น เราใส่หมวกกันน๊อคทั้งคู่ทุกครั้งที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปข้างนอกค่ะ อย่าคิดว่ามันจะไม่มีอะไร หรือคิดว่าคงไม่เป็นไรนะคะ ปลอดภัยไว้ก่อนทั้งอุบัติเหตุและจากคุณพี่ค่ะ !!! ปล.แก้ไขคำผิดจ้ะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 14:26:05 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 14:16:25 จากคุณ : วันนี้วันสุข เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:12:00

ความคิดเห็นที่ 90 กระทู้เรียกรอยยิ้มจริงๆค่ะ เล่าอีกเรื่อง ไม่ทราบว่าในนี้ นอกจากเป็นสิงห์มอเตอร์ไซค์ แล้วใครขี้เมาบ้างเอ่ย แต่ไม่ใช่ว่าเมาแล้วไปแว๊น รบกวนชาวบ้านนะคะ สมัยก่อนเวลาไปกินเหล้าเมาแล้วขับรถกลับบ้าน(ยืนยันว่าสนับสนุน โครงการเมาไม่ขับอยู่เน้อ) ต่างจังหวัดบ้านนอก 10 กว่าปีที่แล้วรถไม่เยอะ ไม่ค่อยจะน่ากลัวเท่าไร ระหว่างทางขับรถก็ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีปัญหา แต่ไม่รู้เป็นไรถึงบ้านพักจอดรถทีไร ล้มทุกที หรือระหว่างทาง ถ้ามีเหตุต้องจอดรถ ก็จะล้มทุกทีไป ไม่รู้มีใครเป็นแบบนี้บ้าง 555 จากคุณ : zapatero เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:25:59

ความคิดเห็นที่ 91 **** สมัยเป็นเซลล์ต้องไปตามโรงพยาบาลต่างอำเภอที่เชียงใหม่ ได้ไปโรงพยาบาลเวียงแหง โห..เกิดมาไม่เคยไป แล้วก็ไกลปืนเที่ยงติดพม่านู้น ขับรถกระบะเก่าๆ(ไมตี้x) ไต่ปลายยอดภูเขา เป็นแบบนั้นจริงๆผมสาบานได้ ความรู้สึกในตอนนั้นนี่เราอยู่ในหนังLord of the ring ชัดๆ มีหมอกบางๆเห็นทางไปภูเขาลูกต่อไปไม่ชัีดนัก สักพักก็ผ่านหมู่บ้านชาวเขา เขาก็ขายของข้างทางคือทางแดบๆ ปูเสื่อเอาพวกผัก ผลไม้ วางขายกันริมถนนแบบนั้นเลยสองข้างทาง ต้องขับช้าๆกลัวฝุ่นหินอะไรไปกระเด็นโดนเขา ทีนี้่หมาของชาวเขาเดินตัดหน้ารถเรา เราขับช้ามากราวๆ20 นะค่อยๆไป ปกติหมาในเมืองพอรถพุ่งมามันจะหลบ แต่หมาแม๊วไม่ยอมหลบ เวงกรรมขับ20เองนะ ทับเข้าให้ ร้องเอ๋งๆดังมาก คนมองทั้งตลาด ซวยละกุจะโดนแม๊วรุมประชาทันรึป่าว ทีนี้เหยียบมิดเลยฝุ่นตลบกลัวเขาตาม-*- ปรากฏว่าไม่ตามแฮะ หมาตัวนั้นคงกลายเป็นมื้อเย็นแก้หนาวไปแระ พี่ขอโทษด้วยนะน้องหมา-*- แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 14:36:53 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 14:35:27 จากคุณ : Alice in sin city เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:33:51

ความคิดเห็นที่ 92 คุณ eissee ครับ ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกครับ แฟนผมก็เป็น กรี๊ดลั่นรถเลย -*- จากคุณ : Seabiscuit เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 14:59:12

ความคิดเห็นที่ 93 เล่าเรื่องของแม่ได้ไหมคะ เมื่อป้าบีเด็ก ๆ ราว ๆ ซัก 8 ขวบ  แม่ป้าบีอกหักเลยมีสังสรรค์บ้าง   ช่วงนั้นทางเข้าบ้านจะต้องผ่านโรงเรียนซึ่งมีคำร่ำลือว่าผีชุมสุด ๆ  และทางตรงนั้นเขาสร้างถนนคอนกรีตกัน  หลังเลิกงานตอนเย็นก็ตั้งรถผสมปูนเล็ก ๆ ไว้เกือบกลางถนน .....ช่วงพลบค่ำ  แม่ถีบจักรยานกลับบ้าน  ด้วยความที่กลัวผีและกรึ่ม ๆ ก็รีบปั่น ๆ  ระหว่างนั้น  แกเหลือบไปเห็นเงาสีขาวโพลนอยู่กลางถนน  (เอาเข้าแล้ว)   แม่ตกใจมากคิดว่าคืนนี้  "เมิงเอากรุแน่"  แม่เลยตัดสินใจปั่นจักรยานสุดแรงเกิด  พุ่งเข้าชนผีตนนั้นให้วิญญาณสลาย ผ่างงงงง.......ง...งงงง  วิิญญาณที่คิด  แทนที่จะสลาย  กลับยืนตระหง่านกลางถนน  :-)งมาก  สงสัยว่าทำไมวิญญาณไม่สลายเหมือนในหนัง  ใช้มือคลำ ๆ พบว่าเป็น  "รถผสมปูน"   ล้อจักรยานเป็นเลขแปด  พร้อมกับหัวของแม่โนเป็นลูกมะกรูด  กร๊ากกกกก  นึกแล้วขำ จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 15:03:20

ความคิดเห็นที่ 94 กระทู้ดูดกิ๊ฟอ่ะ จากคุณ : บ้านสวนริมกรุง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 15:56:49

ความคิดเห็นที่ 95 ของเราเป็นบนรถไฟ สมัยเรียนนั่งรถไฟ ไป-กลับจังหวัดใกล้ ๆ เพื่อไปเรียนพิเศษ ขากลับง่วงมาก นั่งเบาะริมนั่งแบบไม่เต็มก้น ก็นอนหลับไป ซักพักรถไฟเข้าโค้ง.....หล่นจากเบาะ หลังจากนั้นก็ไม่หลับอีกเลย เจ็บและอายในคราวเดียว - -" จากคุณ : ขนมปังกรอบกะเจ้าเหมียว เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:05:24

ความคิดเห็นที่ 96 ประทับใจสุดๆก้อสมัยเด็กๆเรียนม.ต้น เพิ่งขับรถเป็นหมาดๆโดยพ่อไม่รู้ เผอิญ ลูกชายของหน้าบ้านอายุได้ซัก3เดือนเกิดไม่สบาย เหลือแต่คนเลี้ยงเด็ก มาขอให้ ช่วยพาเด็กไปหาหมอหน่อย ที่บ้านวันนั้นก้อดันไม่มีใครอยู่ซะด้วย เลยต้องเป็น ฮีโร่จำเป็นอายุ12ได้มั้ง ขับรถจากโชคชัย4พาไปหาหมอเด็กตรงลาดพร้าว เกือบ ถึงโรงเรียนปานะพันธุ์ มือเหนียวเลยเพิ่งขับออกถนนใหญ่ไม่เกิน5ครั้งเอง พ่อเด็ก เอาชีสเค็กมาบรรณาการถึงบ้านเลย (สมัยก่อนชีสเค็กเมืองไทยยังไม่มีใครทำ ขายเลย)และเรื่องที่ขับรถเป็นเลยแดง แต่เตี่ยไม่ว่าอะไร จากคุณ : ซาสิ้ว เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:09:18

ความคิดเห็นที่ 97 เมื่อเช้านี้เอง ขับรถอยู่แล้วเห็นเต่ากำลังเดินข้ามถนนอยู่ เลยจอดรถวิ่งไปอุ้มเต่าข้ามไปอีกฝั่งนึง จากคุณ : Sweety Peacock เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:10:56

ความคิดเห็นที่ 98 ขับรถไปเที่ยวน้ำตกนครนายก กินเหล้ากับเพื่อนหลังรถกระบะ เหล้าหมดเพื่อนโชว์พาว ขอเปิดขวดใหม่เอง ก่อนเปิดใช้ศอกตอกก้นขวด กลัวแอลกอฮอล์นอนก้น อากาศร้อนบวกเมา เพล้ง! ขวดแตก   แต่เอ๊ะ!ทำไมเหล้าสีแดง สรุปขวดบาดแขน ได้ไปเล่นน้ำเกลือที่โรงพยาบาลแทน กรรม! จากคุณ : แสงส่องถึง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:04:14

ความคิดเห็นที่ 99 เล่าบ้าง เป็นความรู้สึกที่ดีมาก และไม่มีวันลืมเลยจริงๆ . . . . . เส้นทางไปหัวหินของผม ในวันนั้น ฝนตกหนักมาก ... รถมาเสียที่ปั้มพอดี ตรงจังหวัด เพชรบุรี ... ซึ่งตรงนั้น ไม่มีอู่ซ่อมรถ เลยถามหาเด็กปั้มว่า แถวนี้อู่ซ่อมใกล้ๆอยู่ตรงไหนบ้าง ได้ความมาว่า เลี้ยวออกจากปั้ม ขับไปไม่ถึง 20 เมตรก็เจอเลย พอขับไปถึง ก็บังเอิญซวยที่ฝนตกหนักมากขณะนั้น เลยไม่เห็น ซากปูนก้อนใหญ่ที่เกิดจากการมักง่ายของผู้รับเหมาทำถนนทางหลวงทิ้งไว้ ทำเอากันชนรถคันเดินแตกเป็นชิ้นๆอีกรอบ! ทริปเที่ยวของผมวันนี้ดูไม่สนุกเสียแล้ว … หลังจากให้ช่างคนดังกล่าวดูรถอยู่ได้สักพัก ก็เห็นอาการ … พัดลมระบายอากาศเกิดเสีย ต้องขับไปหาอะไหล่มาเปลี่ยน … เขาใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงในการขับรถไปหาให้ โดยไม่รู้ว่าไปไกลถึงไหน แต่เขาเต็มที่จริงๆ!! มิหน่ำซ้ำหลังจากขับรถกลับมาก็บอกว่า คงซ่อมไม่เสร็จทันคืนนี้แน่ๆ ( เวลาขณะนั้น 20.00 นแล้ว ) เขาเลยบอกมาเอางี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง … ผมและเพื่อนๆ ถึงกับตกใจ!!! ตกใจในน้ำใจของเขาอย่างสุดซึ้ง!!! เพราะระยะทางจากอู่ซ่อมรถ ถึงปลายทาง อยู่ที่ประมาณ 40 กิโลเมตร … เขาขับไปส่งพวกเรา โดยที่ไม่เรียกร้องค่ารถใดๆทั้งสิ้น ( แม้ผมจะให้ค่าน้ำมัน/แก๊ส ที่เขาเติมก่อนออกมาส่งครบทุกบาทก็ตาม) … - ผมไม่อยากจะเชื่อว่า เขาจะกล้าให้เราได้มากถึงขนาดนี้ - ผมไม่อยากจะเชื่อว่า เขาจะให้เราทิ้งรถแล้วบอกว่า ไปเที่ยวให้สนุกเถอะน้อง รถทิ้งไว้นี้พี่จัดการให้ - ผมไม่อยากจะเชื่อว่า เขาทำแบบนี้บ่อยๆกับรถของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะไทยหรือเทศ สุดท้ายผมอยากจะบอกพี่ว่า พี่เจ๋งมาก ผมจำชื่อไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ประเทศไทย ถ้าผมมีโอกาสไปอีก ผมจะแวะเอาของฝากไปให้นะครับ ท้ายสุด อยากจะบอกว่า “หัวใจพี่ หล่อมาก” !! ( แม้หน้าพี่จะโหดมากก็ตาม ) ปล, พี่ที่ผมว่า เป็นคนเพชรบุรีครับ .. อยู่ระหว่างเส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน จำได้แค่นี้จริงๆ ครับ ปล, 40 กิโลเมตรตามถนนหนทางของต่างจังหวัด อาจจะดูไม่มาก .. แต่สำหรับคนเมืองอย่างผม ยอมรับตามตรงว่ามากๆๆๆเลยทีเดียว จากคุณ : immarch เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:11:47

ความคิดเห็นที่ 100 เคยขับรถไปกับแฟน ตอนตี 3 ห็นจะได้ ต่างจังหวัดดึกๆถนนมันโล่งมากไม่มีรถวิ่งสักคัน ผมก็ขับไปถึงแยกไฟแดงแห่งนึง พอดีเจอไฟแดงเลยชะลอรถจะจอด แฟนบอกไปเลยๆไม่ต้องจอด ไม่มีรถสักคันจะจอดทำไม(จริงๆแล้วเขากลัวว่าจอดที่เปลี่ยวๆจะโดนจี้น่ะ - -') ผมก็หันมามองแฟนแล้วนึกไงไม่รู้เหยียบเบรคจอดคือไม่เชื่อฟังคำสั่งแฟน(วอนตายซะแล้ว) แล้วอีกแป๊บนึงก็มีรถอีกคันแซงซ้ายฝ่าไปแดงไป ทันทีที่พ้นแยกคุณตำรวจโผล่จากที่ซุ่มออกมาโบกไฟฉายเรียกเข้าข้างทางไปเลยส่วนผมได้ไฟเขียวก็ขับไปอย่างเรียบๆร้อยๆ หลังจากนั้นแฟนก็ไม่เคยบอกให้ผมฝ่าไฟแดงเวลาขับรถอีกเลย ฮ่าๆ จากคุณ : อ๊อดน้อยใส่แว่น เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:36:43

ความคิดเห็นที่ 101 เล่าด้วยเกิดไม่นานมานี้ขับรถไปเที่ยวกับญาติๆช่วงเทศกาล ไปกันสามคัน ขับมาแถวๆประจวบฯ แวะปั๊มเข้าห้องน้ำป้าผมเอาชิวาว่ามาด้วยเลยเอาไปผูกที่ต้นไม้ในปั๊มเผอิญช่วงเทศกาลคนเยอะมากแล้วหมาของรถคันอื่นเค้าก็เอาลงมาฉี่แถวนั้นด้วยด้วยการที่ป้าผมไว้ใจว่าหมาผูกไว้แล้วป้าจึงไปเข้าห้องน้ำ  ผมอยู่ในรถผมฟังเพลงในรถไปเรื่อยคนอื่นๆเข้าห้องน้ำ ไปซื้อของเซเว่น พอซักพักนึงป้าผมกลับมาหัวเราะอะไรไม่รู้ ผมลงไปดูปรากฏว่าไอเจ้าชิวาว่าได้เมียเรียบร้อย -*- พันธุ์เดียวกันเลย เจ้าของหมาตัวเมียดึงให้แยกกันใหญ่เลย ฮากระจายท่ามกลางผู้คน จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:40:41

ความคิดเห็นที่ 102 มีอีกเรื่องตอนวัยรุ่น พวกผมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ชอบบิดมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกัน วันนั้นตกลงว่าจะไปบ้านเพื่อนที่ต่างอำเภอ ก็ห่างจากบ้านผมสัก 25 โลเห็นจะได้ มีคันนึงในกลุ่มรถแรงเพิ่งไปแต่งมา บิดออกหน้าอย่างเร็วหายไปเลยส่วนพวกผมก็ค่อยๆขี่ไปเรื่อยๆไม่เร็วมากเพราะรถบางคันในกลุ่มมันก็เก่ามากแล้วไปไวไม่ได้ สักพักมีรถปิ๊คอัพวิ่งสวนมาอย่างเร็ว พวกผมชะเง้อดูเพราะสังหรณ์อะไรบางอย่าง ซึ่งก็จริงตามคาด เพื่อนที่มันบิดออกหน้าไปก่อนแหกโค้งคว่ำไปเรียบร้อย พอดีได้พี่ปิ๊คอัพใจดีช่วยพาส่งโรงพยาบาล พวกผมเลยวิ่งกลับมาโรงพยาบาลแทน ส่วนเพื่อนนั้นนอนโรงบาลเป็นเดือนดีที่ีไม่ถึงตาย จากคุณ : อ๊อดน้อยใส่แว่น เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 17:43:03

ความคิดเห็นที่ 103 ประมาณ 4 ปีที่แล้วค่ะ เรากับเพื่อนสาวอีก 2 คน เดินทางไปเที่ยว น่าน - เชียงราย  กัน ตอนนั้นเราเดินทางไปถึง ภูชี้ฟ้า ที่เชียงราย แล้วกางเต้นท์บริเวณทางที่จะขึ้นไปภูชี้ฟ้า ตอนั้นเป็นช่วงเวลาบ่าย เราตกลงกันว่าจะเดินขึ้นไป เพราะคิดว่า ระทางแค่ 2-3 กิโลน่าจะเอาอยู่ ปรากฏว่า ผิดคาดเพระาทางค่อนข้างชันทำให้เหนื่อยเร็ว ขณะที่พวกเรากำลังคิดจะ เดินกลับลงไปเพื่อเรีบกใช้บริการวินมอไซต์ ปรากฏว่า จู่ๆ ก็มีรถกระบะ อีซูซุ สีบอร์นทองคันนึง ขับพ้นโค้งออกมา พวกเรายกมือโบกทั้งกระโดโลดเต้นด้วยความดีใจ แน่นอนค่ะ พี่คนขับใจดี จอดรับพวกเราทั้งสามให้กระโดดขึ้นท้ายรถกระบะด้วย จนไปถึงบริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้า ปรากฏว่า แฮ่ม! พี่คนนี้เป็นชายหนุ่ม หล่อ (โสด 5555555) ขับรถมาจากเชียงใหม่คนเดียวค่ะ แล้วก็บังเอิญมาก ที่พี่เค้ากับพวกเราชอบถ่ายรูปเหมือนกัน ระหว่างทางเดินขึ้นภูชี้ฟ้า เลยได้คุยกันไป ถ่ายรูปไป ถึงได้รู้ว่าพี่เค้ากำลังเรียน ป.เอก อยู่ มช แต่ก็มีงานเสริมเป็นช่างภาพ (เพิ่งเปิดสตูดิโอเป็นของตัวเอง ในตอนนั้น) กว่าที่จะถ่ายรูปกันจนเป็นที่พอใจ ก็ปรากฏว่าค่ำมืดแล้ว พวกเราเป็นกลุ่มคนสุดท้ายที่ลงมาจากภูชี้ฟ้าในวันนั้น พอกลับลงมา พอดีว่าพี่เค้ายังไม่ได้หาที่พัก ยังไม่มีที่กางเต้นท์ พวกเราก็เลยชวนพี่เค้ามากางเต้นท์ในจุดที่ทางเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ให้ด้วยกัน คืนนั้น เราเลยได้กินข้าวด้วยกัน คุยกันเรื่องสัพเพเหระ และที่สำคัญพี่เค้าสอนพวกเราดูดาวด้วย แบบว่าพี่เค้านอกจากจะเป็นนักกีฬายิงปืนแล้ว ยังเป็นหัวหน้าชมรมดาราศาสตร์ในคณะด้วย เลยได้ดูดาวกันเพิลนเลยค่ะ คืนนั้น แล้วเราก็ถามพี่เค้าจะไปไหนต่อมั้ย หรือกลับเชียงใหม่ พี่เค้าเลยบอกว่า เค้าจะไปที่ดอยแม่สลองต่อ!! เสร็จโจรค่ะ พวกเราเลยขอพี่เค้าไปด้วย พี่เค้าก็ยิ้มรับ แล้วมีการนัดแนะพูดคุยถึงทริปครั้งต่อไปอีกด้วยแหนะ  55555555555 ตื่นเช้าวันนั้น พวกเราเลยได้เก็บของขึ้นรถ แล้วก็ไปเที่ยวต่อกับคนแปลกหน้าเฉยเลย แล้วก็ค้างคืนที่ดอยแม่สลองอีกคืน  พอเช้าอีกวันก็ถึงกลับมาที่เชียงใหม่ แล้วก็ร่ำลากันด้วยความประทับใจทั้งสองฝ่าย อันนี้มั่นใจมาก เพราะแก๊งพวกเรา เป็นสาวที่ไม่เรื่องมาก ลุยไหนลุยนั่น ไปไหนไปกัน สนุกได้กับทุกที่ที่ไป พี่เค้าเองก็คงสนุกที่ได้ พวกเราร่วมทางไปด้วย 5555555555 แล้วหลังจากกลับจากทริปนั้น พี่เค้าก็บินไปทำวิจัยต่อที่นิวซีแลนด์  1 ปี แต่พวกเราก็ยังติดต่อกันอยู่ค่ะ ยังคุย MSN (ตอนนั้นเฟสบุ๊คยังไม่ฮิต) กันตลอดจนพี่เค้าทำวิจัยเสร็จ แล้วส่วนตัว เราไปเที่ยวเชียงใหม่ทุกปีค่ะ ปีละ ครั้งสองครั้ง แน่นอนว่าก็แวะไปหาพี่เค้าทุกครั้ง แถมยังพาเราไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ของพี่เค้าอีกตะหาก จนตอนนี้ สนิทกับพี่บ้านพี่เค้าทุกคนแล่วค่ะ  55555555 เพราะไปนอนพักที่บ้านของพีเค้าทุกที (อันนี้พี่เค้า กับแม่ ชวนเราเองเลยค่ะ พอเราบอกว่าจะไปนอนโรงแรมก็โดนดุว่า "ไปนอนโรงแรมให้เสียตังทำไมบ้านก็มี >*<) พ่อแม่ก็น่ารัก ใจดีมากๆๆๆ เอ็นดูเอื้อเฟื้อเด็กตาดำๆ เราตลอด   ทุกวันนี้พวกเราสามคนที่ไปเที่ยวด้วยกันวันนั้น ก็ยังพูดถึงทริปนั้นอยู่ตลอด เป็นทริปในความทรงจำที่มีความสุขและสนุกมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ขอบคุณถนนเส้นนั้นจริงๆ ที่ทำให้เราได้พบกัน และขอบคุณกระบะอีซูซุ คันนั้นด้วยที่ทำให้พวกเราร่วมเดินทางไปด้วยกัน จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 18:05:39

ความคิดเห็นที่ 104 ผมไม่เคยโบกแฮะ โดนโบกซะเอง เคยแต่มีคนโบก ผมขับมอเตอร์ไซค์ ป้าเค้าบอกช่วยป้าหน่อย ป้ากลัวตกรถ ผมไม่ได้ผ่านก็ขับไปส่งครับ กลัวป้าเค้า ไปโบกคันอื่นไม่ได้แล้วจะตกรถเอา ปล.3ครั้งแล้ว :) จากคุณ : Prarinya_Amrsk เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 19:21:44

ความคิดเห็นที่ 105 พี่ที่รู้จักกัน ไปกินเลี้ยงที่ในกทม.นี่แหละ กินกันจนกรึ่มได้ที่ก็ถึงเวลากลับ พี่เอแกกะจะไปกินกันต่อที่บ้านพี่บี แต่เอารถมากันคนละคัน ก็เลยตกลงกันว่าจะขับรถตามๆกันไป ไอพี่เอเนี่ยขับซีวิค ส่วนพี่บีเนี่ยขับอัลติส ตกลงกันเสร็จก็ขับตามกันมาออกจากร้านกันก็มากลับรถเพื่อขึ้นทางด่วน ก็ต่อแถวเข้ากันคนละช่อง ทีนี้ ตอนที่พี่เอกำลังควักหาเงินอยู่ พลันก็เห็นอัลติสสีบรอนซ์ทอง ขับออกไปจากช่องจ่ายเงิน แกก็เลยรีบเลยทีนี้ เพราะกลัวจะตามพี่บีไม่ทันเพราะไม่รู้จักบ้านพี่บี พี่เอแกก็ขับตามอัลติสคันนั้นไปเรื่อย จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นเป็นเบอร์พี่บีโทรมา พี่เอ : ฮัลโหล ว่างัยวะบี พี่บี : ไอเอ เมิงขับรถไปไหนวะน่ะ พี่เอ : ก็กูก็ขับตามรถเมิงอยู่เนี่ย อยู่ข้างหลังเลย พี่บี : ตามบ้าไรล่ะ กรูเพิ่งจ่ายตังเสร็จ กรูก็เห็นเมิงเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปละ พี่เอ : ชิหายแล้ว แล้วที่ฮากว่าคือ พี่เอแกบอกว่าจะวนรถกลับไปใหม่ แต่เดี๋ยวแกขอลงทางด่วนไปกลับรถก่อน ปรากฏว่าพอลงทางด่วนไป ดันเจอด่านเป่าอีก แล้วมาสภาพนั้นก็โดนจับไปตามระเบียบ เดือดร้อนพี่บีต้องตามไปประกันตัวอีก กว่าจะเสร็จเรื่องหายอยากกันพอดีครับ จากคุณ : กวีเหนือ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 20:19:03

ความคิดเห็นที่ 106 เล่าบ้าง เรื่องนี้ประมาณ 6 ปีที่แล้วได้ ย้ายบ้านจากนนทบุรี ไปอยู่แถวๆลาดกระบัง ออกไปทางหลวงแพ่งครับ พ่อไปซื้อบ้านอยู่แถวนั้นเพราะที่ทำงานย้าย(ผมก็ทำงานที่เดียวกับพ่อ) ปรากฏว่าวันหนึ่งเลิกงานดึกครับประมาณ 20.30 น. แถวนั้นมืดยังกะ ห้าทุ่มเที่ยงคืน รถแทบไม่มีผ่านแล้วเพราะเป็นชานเมือง แล้วเจ้ามอไซค์เจ้ากรรมผมดันน้ำมันหมดระหว่างทาง เข็นสิครับ ทั้งมืดทั้งกลัว เข็นไปร่วม 2 กิโลได้ มีมอไซค์ 2T ใจดีผ่านมาแกเทน้ำมันให้ครึ่งขวดน้ำคริสตัลขวดเล็ก ซึ้งและดีใจมากเลยครับ คนไทยที่ดีๆยังมีอยู่ครับ ขอบคุณน้าคนนั้นด้วยครับทำให้ผมมีน้ำมันไปเติมต่อได้ที่ปั๊ม ส่วนเรื่องที่ 2 นี่ประมาณ 2 เดือนที่แล้วเอง (ตอนนี้ย้ายมาอยู่กับแฟนนครปฐมแล้ว) ผมเข้าไปทำงานที่พาณิชย์จังหวัดสมุทรสงคราม แล้วพอดีมีเหตุฉุกเฉินเอกสารทำมาผิด ขับรถหาร้านพิมพ์งาน เจอร้านถ่ายเอกสาร ชื่อร้านอะไรจำไม่ได้ (อยู่ฝั่งตรงข้ามพาณิชเยื้องมาเยอะๆ) ผมก็เข้าไปอธิบายพี่แกก็เปิดคอมในบ้านพร้อมเครื่องปริ๊นให้นั่งทำงานเลย (ทั้งที่เป็นร้านถ่ายเอกสารอย่างเดียวนะ)เปิดเน็ตให้ผมดาวน์โหลดฟอร์มจาก DBD แถมบริการผมดีมากรวมถึงผมถามทางบอกละเอียดทั้งเขียนแผนที่ให้อีก(จะไปหาลูกค้า) แล้วยังคิดเงินค่าปริ๊นเอกสารผมแค่ 3 บาท บอกให้คิดเยอะๆ ก็ไม่เอา ผมนี่ทั้งไหว้แล้วไหว้อีก ขอบคุณพี่คนนั้นอีกทีนะครับ ผมชอบอันนี้มากคิดถึงทีไรก็รู้สึกดีตลอดเลย คนสมุทรสงครามน่ารักมากเลยครับ ^^ (เรื่อง 2 ไม่น่าเกี่ยวกับรถเนอะแต่ก็ขับรถหาอยู่ อิอิ) จากคุณ : nokAroy เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:35:03

ความคิดเห็นที่ 107 รถของเรา คือ มิร่า สีชมพู ติดคิตตี้เต็มรถ ใช้ตอนเรียนมหาลัย เรื่องแรก ปกติเวลาเราไปเรียน เราจะไปตอนใกล้ถึงเวลาเรียน ไม่ค่อยไปก่อนเวลา ขี้เกียจรอ แต่มีวันนึง เราออกไปแต่เช้า แล้วก็เข้าไปใน ม. พอจอดรถเสร็จ ก็เอาชีท เอาหนังสือวางไว้บนหลังคารถ แล้วก็ยืนใส่เข็มขัด เปลี่ยนรองเท้า ที่นี้ อยากกินกาแฟ ก็เลยขับไปที่ร้านกาแฟ ระหว่างที่ขับรถไป เราสังเกตว่า มีคนมองเรา ไม่ว่าจะเป็นพี่ยาม คนเดินผ่าน คนขี่มอไซด์ แม่บ้าน และทุกคนที่เห็นรถเรา ตอนนั้น มีคนมองเยอะ เราก็แบบว่า เค้ามองไรว่ะ สงสัยชอบรถเรามั้ง รถเราคงแต่งน่ารัก ไม่งั้นก็คงมองเรามั้ง คิดเข้าข้างตัวเองนะ 55 พอถึงร้านกาแฟ ไม่มีที่จอดรถ เลยไม่ซื้อ ก็เลยขับรถกลับไปจอดที่เดิม ไปถึงที่จอดรถที่เดิมเมื่อกี้ ก็เห็นชีทตกเกลื่อนเลย ยังคิดอยู่เลย ว่าของใครว่ะ พอลงจากรถปุ๊บ สายตาก็สะดุดกับหนังสือเล่มโต ที่อยู่บนหลังคารถ แล้วก็วิ่งไปหยิบชีทขึ้นมา โอ้วววว ของชั้นเองหรอเนี่ย เกลื่อนถนนเลย มิน่าล่ะ วันนี้คนถึงมองเราเยอะเป็นพิเศษ เรื่องที่สอง วันนั้นเป็นวันสอบ ด้วยความรีบ ขับรถออกบ้านไป นึกขึ้นได้ว่าลืมบัตรนักศึกษา เลยวนรถกลับไปที่บ้าน เปิดประตูรถได้ ก็วิ่งสี่คูณร้อยขึ้นไปเอาบัตรนักศึกษา แล้วก็มานั่งในรถ รีบขับไปสอบอย่างไว พอเลี้ยวเข้าประตูมหาลัยเท่านั้นแหละ ไอ้โอ่ง หมาที่เลี้ยงไว้ มันมาโผล่หน้าข้างๆเรา เราก็ เฮ้ยยยย ไอ้โอ่ง ขึ้นมาตอนไหนเนี่ยยยยย จะวนรถกลับไปส่งที่บ้านคงจะมาสอบไม่ทันแน่ๆ ก็เลยต้องเอาเจ้าโอ่งไปฝากไว้ที่บ้านเช่าของเพื่อน เรื่องที่สาม ขับรถอยู่ดีๆ สักพักได้ยินเสียง โคร่งๆๆ โคร่งๆๆๆๆ ตลอดเลย ยิ่งเร่งเครื่องยิ่งได้ยิน เราก็แบบว่า มันเสียงอะไรฟร่ะ? ยิ่งขับเสียงยิ่งดัง ก็เลยจำเป็นต้องเลี้ยวเข้าร้านซ่อมรถ บอกช่างว่า เวลาขับมันเสียงดังโคร่งๆๆๆ ตลอดเลย ช่างก็เช็คให้ แล้วบอกว่า โหววว น้อง ขับมาได้ไงเนี่ย  ท่อไอเสียจะหลุดอยู่แล้ว ถ้าขับไปอีกหน่อย หลุดแน่ๆ ช่างก็เลยเชื่อมให้ พอขับอีกครั้ง ก็ไม่มีเสียงเลย อิๆๆ ช่างใจดีเชื่อมฟรีอีกด้วย เรื่องที่สี่ วันนั้นขี่มอไซด์จะไปตลาด เจอเพื่อนข้างทาง ก็เลยหันหน้าไปทัก พอทักเสร็จ ก็หันหน้ากลับมามองถนนพร้อมทั้งชนจักรยานข้างหน้าล้ม เราก็เลยจอดไปช่วย ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก เรื่องที่ห้า กำลังขับรถไปหาเพื่อนที่หอ ซอยหน้าหอเพื่อน มันเป็นหลุมทรุดตรงกลางถนน กว้างประมาณฟุตนึง ลึกไม่มาก เพื่อนที่นั่งมาด้วยก็บอกว่า จอดไว้หน้าซอยแล้วเดินเข้าไปมั้ย เราก็เลยบอกว่า ไม่ต้อง...ระดับเราแล้ว แค่นี้ ชิวๆๆ พอเลี้ยวเข้าไป สองล้อหน้าผ่าน แต่...ล้อหลังฝั่งซ้ายตกหลุมนั่น โอ้วววว งานเข้า เอาไงล่ะนี่ เพื่อนนั่งมาด้วย หัวเราะใหญ่เลย ยังจะถามอีกนะ ว่าจะให้โทรหาใครระหว่างตำรวจหรือกู้ภัย เราระหว่างที่กำลังหาเบอร์โทรอยู่นั้น ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย เป็นน้องเด็กเทคนิค 3 คน ที่นั่งกินข้าวอยู่ร้านค้าตรงข้าม เข้ามาช่วยเข็น น้องคนนึง บอกว่า ผมเห็นพี่ตั้งแต่แรกล่ะ ผมยังคุยกับเพื่อนอยู่ว่า พี่เค้าจะขับรถผ่านหลุมนั้นได้มั้ย 555 โชคดีที่ได้น้องกลุ่มนั้นมาช่วยเข็น ไม่งั้นคงได้เรียกตำรวจหรือกู้ภัยแน่ๆ นึกได้แค่นี้ นึกอะไรได้อีกจะมาเล่าให้ฟังนะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 23:24:37 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 23:21:17 จากคุณ : PinkDressRoom เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 23:17:52

ความคิดเห็นที่ 108 ขอเล่าเรื่องเพื่อนมั้ง เพื่อนมาจาก กท จะมาลงอุตรดิตถ์ นั่งรถทัวร์ สาย กท - เชียงราย แต่รถคันนี้เข้าไปส่งที่ขนส่งอุตรดิตถ์ เพื่อนของเราก็นั่งหลับมาตลอดทาง สักพักได้ยินเสียงผู้ชายบอกว่า พิจิตรครับพิจิตร เพื่อนก็ไม่สนใจหลับต่อ ตื่นอีกที ถึงเชียงรายแล้ว มันก็ไปโวยว่าทำไมถึงอุตรดิตถ์แล้วไม่บอก ผู้ชายที่เป็นกระเป๋าบอกว่า ผมบอกแล้วครับ อุดดิตครับอุดดิต เพื่อนเราก็เถียงไปว่า ไม่ได้ยินเลย ได้ยินแค่พิจิตร น้องกระเป๋าบอกว่า รถเราไม่จอดที่พิจิตรครับพี่ เพื่อนเราก็เลยต้องนั่งรถทัวร์ย้อนกลับมาลงอุตรดิตถ์ สงสัยมันนอนจนมึน ฟังไม่รู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 55 05:27:34 จากคุณ : PinkDressRoom เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 23:36:13