เตือนภัยเช่นกัน วินมอไซค์หลังกรมขนส่ง ทำไมบังเอิญเจอเรื่องคล้ายๆกับกระทู้ข้างล่างหรือเป็นเรื่องไม่บังเอิญ กับนิสัยคนไทย [ย้ายจาก : รถ-ประดับยนต์]
|
|
พอดีไปเห็นกระทู้ด้านล่างเข้าเรื่องเตือนภัยวินมอไซค์ขนส่งหมอชิต เลยเข้าไปอ่านปรากฏว่าทำไมเจอมาคล้ายๆกันเลยครับ ก็เลยอยากมาเตือนเพื่อนๆครับ เรื่องมีอยู่ว่า
ผมจะนำรถมอไซค์ไปต่อพรบ. กับ ภาษีประจำปีที่กรมขนส่งครับ ก็ต้องไปเช็คสภาพก่อนเพราะรถ 7-8 ปีแล้ว พอเช็คสภาพเสร็จขี่กลับมาถึงประตูหลังขนส่ง รถดับ ครับพี่น้อง เลยจอดลงมาดูปรากฏว่าไฟมันเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง โทรถามช่างศูนย์ประจำรถแล้วบอกว่าสายไฟที่ต่อไปเข้าเรือนไมล์น่าจะขาดในหรือน้ำซึม (วันนั้นขี่ลุยฝนมาจากดินแดงซะด้วย) ก็เลยเข็นไปถามพี่ที่รักษาความปลอดภัยว่ามีอู่ซ่อมมอไซค์หรือป่าว พี่เขาก็แนะนำว่าให้ไปอีกหน่อยก็เจอ
ผมก็เลยเข็นรถไปถึงอู่ อู่มีช่างอยู่คนหรือสองคนไม่ทราบนอกนั้นเป็นวินมอไซค์นั่งกันอยู่ประมาณ 7-8 คนครับ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย ผมก็บอกอาการเขาไป ระหว่างนั้นมีพี่วินคนนึงพูดขึ้นมาว่า "รถรุ่น .... เว้ย" ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติเพราะรถผมหายากตามท้องถนน ช่างอู่ก็บอกว่า battery หมดให้เปลี่ยน ผมก็ยืนยันว่าไม่ได้หมดแต่สายไฟมีปัญหา ก็เถียงกันไปซักพักนึงจนผม test ให้เขาดูว่ารถผมมัน start ได้ แบตไม่ได้หมดแต่พอหักคอรถไปอีกทางมันจะดับ ช่างอู่ก็บอกว่ายังงี้ต้องไล่สายไฟใหม่ ต้องทิ้งรถไว้พรุ่งนี้มาเอา
ส่วนตัวผมไม่เคยทิ้งรถไว้ที่อู่ซักครั้งเพราะรถผมอู่ส่วนใหญ่ไม่มีอะไหล่และมักจะซ่อมไม่เป็นครับ ผมก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมค่อยๆหาทางกลับ ก็เข็นรถกลับมาจะต่อทะเบียนก่อนเรื่องรถค่อยว่ากัน
ระหว่างที่เข็นกลับจะถึงประตูหลังของกรมขนส่งฯ ก็มีพี่วินมอไซค์คันนึงขับมาเทียบแล้วถามว่าเป็นอะไร ก็เล่าไปเหมือนเดิม พี่เขาก็หยิบเครื่องมือออกมาจากกระเป๋าหลายชิ้นแล้วบอกผมว่า "เดี๋ยวพี่ดูให้ น้องน่าจะโดนพวกขโมยรถถอดสายไฟนะ" ผมก็บอกว่าไม่ใช่หรอกครับ
เถียงกันพักนึง ผมเริ่มเบื่อพร้อมกับเซ็งที่พี่เขาใช้ไขควงจัดการไขจนน๊อตยึดชุดสีรถผมพังไป 3 ตัว ผมก็เลยบอกว่า "พี่ครับไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะไปก่อนแล้ว" เพราะผมกลัวต่อทะเบียนไม่ทันรวมถึงกลัวรถผมจะพังมากกว่านี้ แต่พี่วินบอกว่า "ไม่เป็นไรน้อง พี่อยากช่วย คนไทยด้วยกัน" คำนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเพราะสัญชาตญาณหรืออย่างไรไม่ทราบ
ซ่อมอยู่นานมากเกือบชั่วโมงพี่ท่านก็เข้าใจว่าสายไฟมันขาดในจริงๆ เขาก็จัดสายไฟ จนรถผมสามารถพอขี่ได้ ก็บอกว่า "เดี๋ยวตามพี่มา ไปที่อู่กันคงต้องรื้อสายไฟ น้องน่าจะโดนพวกจะขโมยรถนะเนี่ย ถ้าจอดทิ้งไว้" ผมก็ขี้เกียจเถียงเลยถามว่า "อู่ตรงไหนครับ" ปรากฏว่าก็เป็นอู่เดิม ผมเลยบอกไปว่า "ผมไปมาแล้ว เขาให้ทิ้งรถไว้ ผมไม่เอา" พี่วินเลยบอกว่า "ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่คุยให้เอง จัดการได้"
ดูเหมือนจะดีใช่ไหมครับ พอไปถึงอู่ช่างเขาก็บอกเหมือนเดิมว่าต้องทิ้งรถไว้ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่เอา ไม่เป็นไร
ผมก็เลยยกมือไหว้พี่วินคนนั้น แล้วกล่าวขอบคุณพร้อมกับจะขี่รถออกมา ปรากฏว่าพี่วินคนนั้นเขายื่นมือมาขอเงินผมครับ แล้วบอกว่า "พี่ไม่เอามากหรอก จ่ายได้เท่าไหร่ก็จ่าย คนไทยด้วยกัน ของแค่นี้" ผมนี่อึ้งเลยเพราะผมเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องซ่อมตั้งแต่แรก และไม่มาอู่ สุดท้ายโชคดีที่ผมมีอยู่ทั้งตัว 20 กว่าบาท ก็เลยให้ไป 20 พี่วินก็ทำสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะผมไม่มีเงินจริงๆ
ตกลงผมโดนไถใช่ไหมครับเนี่ย
ผลสรุปของวันนั้น 1. ผมไปต่อทะเบียนไม่ทันเพราะปิดรับแล้ว เพราะความใจดีของพี่วิน (ลางานมาปล่าวๆ) 2. รถผมน๊อตพังไป 3 ตัว
เหตุการณ์ที่ 2 ออกจากขนส่งเจอมอไซค์คันนึงขับย้อนศรเกือบชน ผมหันไปมองหน้ามันเพราะผมก็เคืองนะครับ เกือบเจ็บตัวรถพัง ไอ้คนนั้นหันกลับมาตะคอกใส่ว่า "มรึงมองหน้า มีปัญหาอะไรวะ" ผมก็เตรียมถอดหมวกกันน๊อค กะว่าเข้ามาละก็ กรูถือว่าป้องกันตัว จะฟาดกับ HJC ทดสอบความแข็งกับหมวกไทยครึ่งใบซักหน่อย มันดันป๊อดหรือว่าดีแต่ปากไม่ทราบไปจอดตั้งไกล ก็เลยไม่ได้ทดสอบ มอก. ไทย ขี่กลับมาแบบเรื่อยๆ ถึงปากซอยบ้าน เจอ taxi ขับรถย้อนศรเกือบชนอีก
วันนี้ผมเดินก้าวท้าวผิดออกจากบ้านหรือป่าวเนี่ย ทำไมคนไทยสมัยนี้ถึงเป็นขนาดนี้ครับ
จากคุณ |
:
justiriuz
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ย. 55 13:46:47
|
|
|
|