ประกันชั้น3 ดูแลลูกค้าดีมาก!! แต่........
|
|
เมื่อวานช่วงบ่ายๆ ผมได้ไปซื้อของที่ BigC สาขารามอินทรา , จอดรถที่บริเวณลานจอด ด้านหน้าห้าง ขณะที่ขับออกมา ผมใจลอยไปหน่อย หันไปมองด้านข้าง...แว๊ปปปเดียว รถคันที่อยู่ข้างหน้าเบรคกระทันหัน (ไม่ได้ใช้ความเร็วอะไร ค่อยๆไหลตามกันไป แต่ผมดันไปจี้ตูดรถของเขาเอง) ผมตกใจเบรคตัวโก่งเลย....
ไม่ทันเสียแล้ว....โครม ไม่ดังมาก แต่มันก็รู้สึกได้ว่า....น่าจะเสียหายพอควร , ขับรถมา ยี่สิบกว่าปี นี่คือ อุบัติเหตุครั้งแรก ที่ไปทำรถคนอื่นเสียหาย จากความประมาทของเราเอง...รถผม เก่าแล้วครับ สิบกว่าปี แต่มีประกันชั้น 3 อยู่ครับ
ผมรีบจอดรถ ลงไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งของผม และของ คู่กรณี, รถผมไม่เป็นไรมาก อาจเพราะเป็นรถฝรั่ง กันชนหน้า แตกร้าวนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะครับ รอยเพี๊ยบอยู่แล้ว เพราะกันชนหน้ามันต่ำ ขูดกับพื้นต่างระดับอยู่บ่อยๆ ว่าจะรอซ่อมทีเดียว , แต่รถของคู่กรณี เป็นรถญี่ปุ่น สภาพความเก่าใหม่ ก็น่าจะพอๆกับรถผม สิบกว่าปี....กันชนบุบครับ บุบเข้าไปลึกพอสมควร พื้นที่ ที่เสียหาย น่าจะประมาณ 40% ของกันชนหลัง
พอเห็นความเสียหาย...จังหวะนั้น คู่กรณี ก็เปิดประตูลงรถ เพื่อที่จะมาดูความเสียหาย...ผมก็รีบ ยกมือไหว้ขอโทษ คู่กรณีทั้งสองคน (มาเป็นครอบครัว พ่อแม่ลูก) เพราะรู้ตัวเองว่า เป็นฝ่ายผิดเต็มๆ...คู่กรณี ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังใจดี ท่าทางเป็นมิตรมากๆ บอกให้ผมใจเย็นๆไม่ต้องตกใจ แล้วถามผมว่า รถผมมีประกันหรือเปล่า ผมก็ตอบแกว่า มีชั้น 3 ครับ, แกก็บอกไม่เป็นไร มีประกัน ไม่ต้องซีเรียส เดี๋ยวประกัน ก็จะมาเคลมให้เอง , แต่ส่วนตัว ยังไงก็รู้สึกแย่อยู่ดี เพราะทำคนอื่นเสียเวลาอ่ะครับ
ผมก็เลยโทรไปที่ ศูนย์รับแจ้งอุบัติเหตุ ของ บ.ประกันที่ผมทำอยู่ ตามเบอร์โทรศัพท์ ที่แจ้งไว้ตรงสติ๊กเกอร์ประกันภัย ติดบนกระจกหน้ารถ.....ใช้เวลาประมาณ เกือบ ครึ่งชั่วโมง โทรไป 3-4 ครั้ง แต่ละครั้ง เข้าเครื่องตอบรับอัตโนมัติ...ให้กดต่อ "แจ้งอุบัติเหตุ"...กดไปแล้ว มีแต่เสียงเพลงรอสาย สลับ กับ "เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานกับลูกค้าท่านอื่นอยู่ กรุณารอสักครู่".....ผมเองก็รู้สึกเกรงใจคู่กรณี (ต่อไป ขออนุญาตแทนคู่กรณี ว่า คุณ A นะครับ) เป็นอย่างมาก เพราะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเสียเวลาสำหรับ อีกฝ่ายอยู่แล้ว นี่....ยิ่งจะช้าเข้าไปกันใหญ่ , ผมก็เลยโทรหา ตัวแทนคนที่ขายประกันให้กับผม ซึ่งเป็นเพื่อนผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็ทำประกัน กับบริษัทนี้มาหลายปีแล้ว กับเพื่อนคนนี้แหละครับ (ชั้น 3 ), เพื่อนผม ก็บริการให้อย่างรวดเร็ว เขาโทรติดต่อที่บริษัท จน เจ้าหน้าที่รับแจ้ง ผมก็บอกรายละเอียดไป ประมาณ 30 นาทีต่อมา เซอเวย์(ตัวแทน บริษัทประกัน ที่มาเคลียร์ ณ. จุดเกิดเหตุ) ก็มาถึง (ระหว่างที่รอเซอเวย์ ผมกับคุณ A ก็ได้มีการสนทนาเรื่องส่วนตัว ทำความรู้จักกันเล็กน้อย)
ได้มีการทำตามขั้นตอนการเคลม....สำหรับผมเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกัน เป็นตัวแทนรับผิดชอบต่อคู่กรณีให้ แต่สำหรับคุณ A ไม่มีประกันภัย (ฝ่ายที่เสียหาย ต้องได้รับการเคลมจาก บ.ประกัน ของผม) สรุปว่า รถผมผมซ่อมเอง อันนี้เข้าใจโดยระดับชั้นของการทำประกันอยู่แล้ว แต่ที่ผมแปลกใจคือ...
สุดท้าย บ.ประกัน บอก กับ คุณ A ว่า จะต้องมาร่วมรับผิดชอบ ค่าซ่อมรถของ คุณ A ครึ่งหนึ่ง โดย บริษัท ประกัน จะจ่ายให้คุณ A เพียงครึ่งเดียว โดยให้เหตุผลที่ว่า รถของคุณ A เก่าแล้ว และมีรอยเก่าๆ (ผมดูแล้ว รอยเก่าๆที่ว่า มันก็คือ รอยข่วน เป็นขีด ยาวประมาณ 6 นิ้ว ไม่มีรอยบุบ และ เนื่องจากเป็นรถเก่า สีรถเริ่มมีการแตกลายงา แต่พอรถผม กระแทกเข้าไป เลยทำให้ กันชน เผยอ เลยทำให้ขอบกันชน สีแตกกระเทาะออก เป็นริ้วๆ)....ผมก็นิ่งเงียบฟังตัวแทนของผม คุยเรื่องนี้กับคุณ A อยู่ครู่หนึ่ง...เลยตัดสินใจบอก คุณ A ไปว่า เดี๋ยวผมรับผิดชอบเองครับ ค่าซ่อมแซม ที่ต้องจ่ายร่วมกับ บริษัทประกัน.....
เนื่องจาก...ส่วนตัวคิดว่า คุณ A ไม่ได้ผิดอะไร ขับอยู่ดีๆ ถูกรถผมชนท้าย...ผมเป็นฝ่ายผิด , ผมทำให้คุณ A เสียเวลากับเรื่องนี้มามากพอแล้ว และนี่....ยังจะต้องเสียเงินเพื่อซ่อมรถตัวเองอีกหรือ??? ทั้งที่ไม่ได้ผิดอะไร , หากมองในแง่ลูกค้าบริษัทประกัน เขา รับผิดชอบต่อลูกค้าดีมากครับ ผมไม่เสียอะไรเลย แค่ซ่อมรถของตัวเอง ตามเงื่อนไขประกันภัย....แต่เรื่องนี้ ยังไง ผมว่ามันไม่แฟร์ กับ คนที่ไม่ผิดอ่ะครับ......
หลังจากนั้น เซอเวย์ ก็ขอตัวกลับไป เพราะได้ทำหน้าที่ตัวเองเสร็จสมบูรณ์แล้ว ออกใบซ่อมเคลมให้คุณ A (โดยคุณ A จะต้องจ่ายค่าซ่อม ครึ่งหนึ่ง ซึ่งส่วนนี้ผมบอกคุณ A ขอรับผิดชอบเอง)...ผมก็ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ คุณA ไว้เพื่อ เมื่อรถซ่อมเสร็จแล้ว จะได้แจ้งราคาค่าซ่อมที่คุณ A ต้องจ่าย และผมจะโอนเข้า บัญชีให้...ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้น มีแม่ค้าขายล๊อตเตอรี่ เดินมาเร่ขายพอดี , คุณ A ได้ซื้อมา 1 ชุด (ประมาณ 4-5 ใบ) โดยเลือกเลขทะเบียนรถของผม(xyz) แต่ไม่มี มีเลขกลับ(zyx) พอจ่ายเงินแม่ค้าขายล๊อตเตอรี่เสร็จ แกก็ดึงแบ่งมาให้ผม 2 ใบ , แกบอกผมว่า "อย่าเห็นเป็นเรื่องซีเรียส เห็นเป็นเรื่องสนุกๆ ได้เพื่อนได้มิตรเพิ่มขึ้นอีกคนดีกว่า"....จากนั้น ก็ลากัน และแยกย้ายกันกลับ...ความรู้สึกส่วนตัวของผม มันคือ "มิตรภาพ"
เมื่อคืนประมาณ สี่ทุ่ม คุณA โทรกลับมาหาผม และได้บอกกับผมเกี่ยวกับ ค่าซ่อมอีกครึ่ง ที่ผมจะรับผิดชอบแทนคุณA , แกบอกผมว่า...เรื่องนี้ไม่ซีเรียส แกจะหาอู่ที่รู้จักกันซ่อมได้ในราคาทุน โดยที่ค่าซ่อมทั้งชิ้นที่แกต้องจ่าย อาจน้อยกว่า ครึ่งหนึ่งของ ค่าซ่อมที่อู่ของบริษัทประกัน....หรือไม่เป็นแบบนั้น ก็ไม่เป็นไร ซึ่งแกขอเป็นคนรับผิดชอบกับเรื่องค่าซ่อมนี้เอง เพราะ ประทับใจในน้ำใจของผม......ผมอยากจะขอบคุณในความมีน้ำใจของคุณ A ณ.ตรงนี้อีกครั้งครับว่า "ขอบคุณมากๆ ครับพี่"
เรื่องนี้......ที่เอามาแชร์สู่กันฟังก็คือ นี่คือประสบการณ์ ตรง....เกี่ยวกับ บริษัทประกัน ในกรณีแบบนี้ที่เกิดขึ้นกับผม วันนี้สายๆ ผมก็โทรถามเพื่อนผม ที่เป็นตัวแทน ขายประกันให้กับผม....เขาบอกว่า ทั่วๆ ไป บริษัทอื่น หากเป็นกรณีนี้รถเก่า ก็น่าจะเป็น แบบเดียวกัน (คนเสียหาย ที่เป็นฝ่ายถูก จะต้องรับผิดชอบร่วมกับ บริษัทประกัน)
อือ....ได้ยินแล้ว มันรู้สึกว่า....ไม่แฟร์หว่ะ
คนที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา...???
วิธีการของ บริษัทประกันภัย ในสังคม มันเป็นแบบนี้เหรอครับ ?
| จากคุณ |
:
HBO9  
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 55 17:54:24
|
|
|
|
