|
แต่ก่อน เคยเลือกรถที่สมรรถนะ ... แล้วก็เจ็บมากับทั้งราคาอะไหล่ และบริการหลังการขาย
ทุกวันนี้ เลือกรถที่บริการหลังการขาย และ ความทนทานครับ
-- ลองไล่กระทู้เก่าๆดูครับ ใครเจอปัญหามากกว่ากัน แล้วแต่ละค่ายแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างไร
-- ผมเลือก Civic แม้ภายในจะไม่เข้าตา บั้นท้ายก็ไม่โดนใจ (ข้างหน้า ดูบ่อยๆ พอไหวละ) เครื่องยนต์วิ่งดี ประหยัดสุดๆ เกียร์แสนรู้มั่กมาก
ที่เหลือเหรอ ...
1. เกาะห่วย .. TEIN SS + กันโคลงหลัง 19 ม.ม. + ค้ำหน้า + ยาง RE002 แค่นี้ก็เหลือเฟือละ
2. เบรคห่วย .. จานเบรค EBC + ผ้าเบรค EBC Yellow Stuff + ATE Super Blue Racing ก็จบ
ที่เหลือตอนใช้งานก็คือ ความสบายใจ ไม่อ้อน ศูนย์เอาอยู่ ปล่อยต่อ ก็ได้ราคาครับ
-- อย่างที่ยกตัวอย่างบ่อยๆ ...
1. Civic FD MC ออกรถปลายปี 08 รุ่น S A/T ราคา 789,000 บาท แต่งตามข้างบนแหละ ใช้มาเกือบ 3 ปี 60,000 กม. ปล่อยไป ปลายปี 11 ได้ราคา 620,000 บาท
2. Optra ตาตี่ LS A/T ปลายปี 07 ราคาแถวๆ 7 แสน ปล่อยไป ต้นปี 12 ด้วยราคา 290,000 บาท วิ่งไป 60,000 กม. เท่ากัน
-- ลองเทียบ % ดูครับ ยังไม่นับ ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะอีก
60,000 กม. Civic FD เสียไป 4 พันกว่าบาท (รวม Mobil 5W-30) 60,000 กม. Optra เสียไป หมื่นกว่าบาท (รวม Mobil 5W-30)
ทั้งสองคันนี้ เช็คตามรายการในคู่มือเป๊ะครับ
-- คนใช้ Civic เอาเงินมาดาวน์ CR-V แถมเหลือเงินอีก 100,000 บาท ไว้ใส่ชุดแต่ง กับ ล้อสวยๆ -- คนใช้ Optra ก้มหน้า ก้มตา ถอย Mazda 2 รุ่นถูกสุด เพราะเหลือเงินอยู่แค่นั้น
ประสบการณ์จริงครับ ... วันนั้น ถ้าผมไม่เชื่อแม่ ไปเอา New Lancer หรือ Optra วันนี้ ผมคงไม่ได้ใช้ CR-V ครับ (กำลังจะจอง New Lancer แม่ทักว่า "แกอยากได้ Civic ทำไมแกไม่ซื้อ Civic ละ แพงกว่าหน่อยเดียว แต่มันคุ้มกว่าไม่ใช่เหรอ")
จากคุณ |
:
เด็กบูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
1 พ.ย. 55 18:50:13
|
|
|
|
|