ความคิดเห็นที่ 1 เทียบกับกำไรของเค้าในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I12894728/I12894728.html จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 10:01:14

ความคิดเห็นที่ 2 ข่าวช้าไป ตอนนี้ภาคปิโตรเขาซื้อราคาตลาดโลกไปเรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 10:12:57

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เข้าใจ ว่า จขกท ต้องการสื่อ อะไร ช่วยขยายความหน่อยครับ จากคุณ : CELEBREX เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 10:31:49

ความคิดเห็นที่ 4 ^^^ จขกท.คงอยากให้เน้นอ่านที่บรรทัดสุดท้าย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ) ดูและราคาน้ำมัน ก๊าซของประเทศ และมีตำแหน่งใหญ่ด้านบริหารความเสี่ยงในปตท. ใช่มั้ย จากคุณ : Ok, boss เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 10:43:54

ความคิดเห็นที่ 5 ภาครัฐตั้งคนมาดูแลราคาพลังงาน แต่คนๆ นั้นมีส่วนได้เสียกับ ปตท แล้วราคาจะเป็นธรรมต่อประชาชนมั้ย จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:00:20

ความคิดเห็นที่ 6 มันไม่มีผลอะไรเลย หาก ธุรกิจยังวางไว้แบบนี้ ตราบใดก็ตาม ที่ รัฐไม่ได้ขายเองซะเลย แล้วก็ตั้งราคาจากต้นทุนจริงๆ ของ กิจการมัน ไม่ใช่ไปอนุมานเอาราคาที่อื่นมาตั้ง ว่าเป็นต้นทุน จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:09:38

ความคิดเห็นที่ 7 เพื่อนพ่อผมที่ โยธา มช     ยังไงช่วยอุ้ม LPG ต่อไปเรื่อยๆน่ะครับ   ยังเที่ยวไม่มันส์เลย จากคุณ : ใหม่รถถัง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:50:57

ความคิดเห็นที่ 8 อยู่ ปตท. ระวังจะได้เสียกับ ปตท. นะครับ จากคุณ : Groupใต้ดิน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 11:57:41

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่ให้ข้าราชการเข้าไปทำงาน บริหารความเสี่ยงแล้วเวลาน้ำมันขึ้นราคาช้ากว่าปั๊มต่างประเทศเพราะอะไรครับ ** หรือจะให้ มล.กรรมกร หรือ สว.แก่เข้าไปทำงานแทนดี ซึ่งเก่งแต่ใช้ปากว่าอย่างเดียว จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 12:03:42

ความคิดเห็นที่ 10 มันแปลกตรงไหนล่ะ ในเมื่อรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ในปตท. ก็ต้องเอาคนของรัฐบาลไปเป็นบอร์ดเพื่อกำหนดโยบายให้ปตท.ดำเนินงานตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด อันนี้มันคือผอ.สนพ ถูกส่งไปดูแลปตท.นะครับ ไม่ใช่เอาคนปตท.มาเป็น ผอ.สนพ. ไม่รู้คนที่เอามาเป็นประเด็นที่มันโง่หรือแกล้งโง่เพื่อหลอกจูงสายสนตะพายกันแน่ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 12:24:01

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าไม่นั่งอยู่ในบอร์ด ปตท แล้วจะเอาอำนาจอะไรไปสั่ง ปตท ละครับ จากคุณ : JieBoJai เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:31:32

ความคิดเห็นที่ 12 คห.10 ลาบราดอร์ฉลาดๆสีดำ ก็สมชื่อ login ครับ ระวังลิ้นเปื่อยด้วยนะครับ ผอ.สนพ. รับเงินเดือนจากรัฐ และก็รับเงินเดือน ปตท. มีได้โบนัสจาก ปตท.ด้วยแบบนี้ มันก็ไม่ต่างกับ ปตท. ยัดใต้โต๊ะหรอกรึ ยังงี้ไม่ต้องมีหรอกครับ สนพ. ยุบๆไปเถอะ เปลืองภาษี มันก็เท่ากับขึ้นราคาตามใจชอบแล้ว  จริยธรรมอยู่ที่ไหน และตำแหน่งคือ risk management ครับ ไม่ได้กำหนดนโยบาย จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:35:33

ความคิดเห็นที่ 13 คห.11 ปตท. ก็กำกับดูแลโดย กระทรวงพลังงานไงครับ ถ้าคิดแบบนั้น กระทรวงพาณิชย์ ไม่ต้องเอาคนเข้าไปทำงานบริหาร ทุกบริษัท เช่น น้ำปลา น้ำตาล ข้าว หมู ฯลฯ หรือ แบบนี้มันดูต่างตอบแทน จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:38:11

ความคิดเห็นที่ 14 ปตท. มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจนะครับ รัฐส่งคนไปกำกับดูแล ไม่ผิดตรงไหน คนจาก ก.คลังไปเป็นกรรมการก็มี จะไปหาว่าเขาเอื้อเอกชน ก็ต้องบอกให้ได้ว่าเขาเอื้อยังไง ทำผิดตรงไหน จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:40:32

ความคิดเห็นที่ 15 ตำแหน่งทางภาครัฐไงครับ เค้ากำกับดูแลราคาราคาพลังงาน ถ้า ปตท. กำไรมากขึ้น เงินเดือนเค้าจะได้มากขึ้นตาม โบนัสมากขึ้นตาม จริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับเงินใดๆ จาก ปตท. เลย ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:49:06

ความคิดเห็นที่ 16 คห 13 ถ้าทุกบริษัท เช่น น้ำปลา น้ำตาล ข้าว หมู ฯลฯ ที่ว่า รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ รัฐบาบก้อต้องเอาคนของรัฐเข้าไปทำงานบริหารด้วยในฐานะเจ้าของกิจการครับ กำกับดูแล กะเป็นเจ้าของ มันคนละความหมายกันครับ จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 13:49:45

ความคิดเห็นที่ 17 คห.16 ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ กระทรวงการคลัง 51.494% กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 7.686% กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 7.686% ถ้าแบบนั้น ควรจะนั่งในบอร์ดใหญ่นี้มั้ยครับ ไหนๆก็ถือหุ้นใหญ่ เจ้าของกิจการ ไม่ใช่ตำแหน่งนั้น และจริงๆ ควรจะเป็นคนที่มาจาก ก.การคลังหรือไม่ เพราะคลังถือหุ้นใหญ่ ทำไมเอาจาก ผอ.สนพ. จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:28:35

ความคิดเห็นที่ 18 ทั้งนี้ไม่ใช่อะไรครับ ผมก็แค่ ประชาชนคนนึงที่ไม่ชอบระบบต่างตอบแทนแบบนี้หรืออะไรก็ตาม เหมาะไม่เหมาะ มันก็น่าจะรู้สึกกันได้ จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:30:15

ความคิดเห็นที่ 19 เอ่อ!! คือธุรกิจกำไรแสนล้านอะไรที่บอกมันไม่ได้มาจากการค้าน้ำมันเพียงอย่างเดียวนะครับ ลองเข้าไปดูจะสังเกตุได้ว่าเค้ามีธุรกิจอยู่หลายประเภทเลยทีเดียว หรือว่าอิจฉาที่เค้าได้กำไรกันแน่ หรือถ้าคิดว่าเค้ากำไรเยอะจริง ระดมทุนกับพวก สว.แก่ กับ มล.กรรมกร แล้วเปิดปั๊มกับธุรกิจแข่งกันไปเลย จะได้กำไรงามๆ กับเค้าบ้าง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 14:49:59 จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 14:49:26

ความคิดเห็นที่ 20 คำถามแบบนี้จะกลับมาเรื่อยๆ ในช่วงนี้มีกระแสการต้องการเรียกร้อง และรวมกลุ่มเพื่อแก้ไข พรบ.ปิโตรเลียม ก็จะมีกระทู้ที่มี Hidden Agenda มาเรื่อยๆ ลองคิดแบบไม่มีอคตินะครับ ปตท.เป็นหน่วยงานที่อยู่ใต้การกำกับการดูแลของกระทรวงพลังงาน การที่ข้าราชการของกระทรวงพลังงานไปนั่งใน ปตท.เพื่อกำกับดูแลการทำงานของ ปตท. มันก็น่าจะสมเหตุสมผลแล้วนี่ครับ หรือว่า เจ้าของกระทู้จะให้หน่วยงานไหนเข้าไปนั่งกำกับดูแลถ้าไม่ใช่คนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับกิจการทางด้านพลังงาน หน่วยงานไหนดีครับ ที่มีความชำนาญด้านพลังงาน  เจ้าของกระทู้คิดว่าแบบนี้ไม่เหมาะสม ลองเสนอมาดูครับ ว่าแบบไหนถึงเหมาะสม แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 15:20:02 จากคุณ : ฤทธา เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:18:00

ความคิดเห็นที่ 21 ขออนุญาต  แสดงความเห็นต่อคุณ (เจ้าของกระทู้นี้) อย่างตรงไปตรงมา แล้วกันนะ (ถ้าอ่านแล้ว หงุดหงิด ก็จะหยุดอ่านตอนไหน ก็สิทธิ์ของคุณ เชิญตามสบาย) คุณมันก็แค่ คนโง่ๆ คนนึง  ที่กำลังถูกหลอก ให้เป็นควาย  /  เป็นเหยื่อ ของคน H-E-R-E ๆ กลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนึง 1. ปตท. เป็นกิจการของรัฐ  รัฐถือหุ้นทางตรง เกินครึ่งเล็กน้อย และยังถือหุ้นทางอ้อม ผ่านกองทุนอีก 2 กองทุน สรุปคือ รัฐถือหุ้น 6-70% อีก 3-40% แม้ว่าจะเป็นเอกชนถือ  แต่เค้าไม่ได้ห้ามให้ใครไม่ให้ถือ  ถ้าอยากถือ อยากได้  เอาเงินไปซื้อหุ้นในตลาดหุ้นได้เลย 2. คนทุกคนในประเทศไทยแห่งนี้  ถ้าจะซื้อ แก๊ส ซื้อน้ำมัน ไม่ว่าจะจากยี่ห้อไหนก็ตาม  ล้วนแล้วแต่ ซื้อด้วยราคาเดียวกันหมด ไม่ได้มีใคร มีอภิสิทธิ์ ซื้อได้ถูก หรือ แพงกว่าที่คนอื่นๆ เค้าซื้อ นั่นหมายความว่า  พวกปั๊ม / โรงกลั่นน้ำมัน ของต่างชาติ / ของเอกชนรายอื่นๆ  ก็ล้วนแล้วแต่ " ขาย " สินค้าอย่างเดียวกัน ในราคาที่เท่าๆ กัน ถ้าคุณไม่พอใจ ไม่อยากจะซื้อสินค้าของ ปตท.  คุณก็ไปเลือกซื้อของเจ้าอื่นๆ ได้  และที่ผมรู้  กำไรจากเจ้าอื่นๆ มันก็ไม่ได้มากกว่าที่ ปตท. กำไรเลย เหมือนกัน 3. ถ้างั้น  แล้ว พวกข้าราชการที่เข้าไปนั่งบริหาร ปตท. มีส่วนได้ส่วนเสียตรงไหน ??? เพราะถ้า ปตท. ขายของราคาแพง  รัฐได้กำไรจากการขายราคาแพงนั้น ไปมากกว่า ครึ่ง  นั่นหมายถึง ผลกำไรจากการทำธุรกิจ เป็นของคนไทยทั้งชาติด้วยเช่นกัน 4. ถ้าแบบนี้ ยังบอกว่า เลวววว  แล้ว ไอ้พวกที่ เอาแก๊สหุงต้ม ไปเติมใส่รถเก๋ง คันละ 5-6-7-8-9 แสน ถึง 2-3 ล้านบาท  มันเลวน้อยกว่ากันตรงไหนไม่ทราบ เพราะยังมีคนไทยจนๆ ที่ไม่มีปัญญาซื้อรถเก๋งขี่  ได้แค่ขี่มอเตอร์ไซค์ คันละไม่กี่หมื่นบาท  ต้องเติมเบนซิน ลิตรละ 31-40 บาท อยู่ทุกวัน 5. จงจำไว้ว่า  " ทุกอย่างบนโลกนี้ ล้วนมีอย่างน้อย 2 ด้านเสมอ " แม้แต่ " หู " คน หรือ " หูสัตว์ทุกชนิด " ธรรมชาติ ยังให้มา 2 ข้างเลย อ่านอะไรมา  ลองหาข้อมูลจากอีกด้านนึง ที่ตรงข้ามกัน  เอาไปชั่งน้ำหนัก เอาไปไตร่ตรอง เอาไปทบทวนบ้าง วันๆ นึงที่ผ่านๆ ไป  จะได้ " ฉลาดขึ้น ๆ " ทุกวัน   ถึงวันตาย จะได้ไม่โง่ เหมือนตอนเกิดมา ครับ ปล.1  ขอความกรุณาเพื่อนสมาชิก ไม่ต้องมาโหวตลบ ปล.2  ส่วนถ้าใครอยากจะเซฟเก็บข้อความนี้ของผมไว้  เอาไว้ประจานผมในภายหลัง  ก็ทำได้เลย เชิญตามสบาย จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 15:24:38

ความคิดเห็นที่ 22 P_Wut ถ้าตรรกคุณได้แค่นี้ นี่คือฉลาดแล้วเหรอครับ ข้อ.1-2 ไม่ได้เถียง และผมก็ไม่ได้กังขา ข้อ.3 มีส่วนได้เสียซิครับ ขายแพงขึ้น กำไรมากขึ้น เงินเดือน+โบนัสมันเพิ่มตามครับ หุ้นขึ้น(ถ้าเค้ามี) และเรื่องกำไรเข้ารัฐ สมมุติกำไร 2 บาท เข้ารัฐ 1 บาท อีก 1 บาท ก็นักลงทุนต่างๆ ถ้าคุณสงสารคนจนๆ ตามข้อ 4 ก็ไม่ต้องขึ้นราคาเอากำไรตรงนั้น อย่างน้อย 1 บาท ก็ไม่ต้องกระจายไปลงกระเป๋านักลงทุนที่รวยอยู่แล้ว ถึงคนจนมากกว่าครับ ข้อ.4 ทำไมตรรกะคุณ คิดว่าคนติดแก๊ซเลว ละ ลองไป link นี้ครับ http://www.eppo.go.th/info/cd-2011/index.html ด้านขวามือ ชื่อหัวข้อ 2.4 Demand and Supply of LPG, Propane and Butane ภาคปิโตรฯ อุตสาหกรรม ก็ใช้เยอะครับ เยอะกว่าขนส่ง ซึ่งรัฐก็อุ้ม ถามว่าภาคปิโตรฯ พลาสติก ก็ ปตท. ผลิตเอง ใช้เอง ซ้ำรัฐจ่ายชดเชยให้ด้วย ลองเปิดใจแล้วคิดดูครับ  กระทู้ผมมันไม่ได้ ด่า ปตท. ไม่ได้สนใจว่ามันกำไรอะไรยังไง ถ้าฉลาดอย่างที่ว่า...ก็คงเข้าใจ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 16:26:14 จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:19:47

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วน คห.19 ถ้าอ่านออกคงเข้าใจว่า กระทู้นี้ไม่ได้สนใจว่า ปตท. มันจะกำไรยังไง จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:21:31

ความคิดเห็นที่ 24 ก้อบอกให้รู้ว่าเค้าได้กำไรมาจากธุรกิจหลายประเภท ไม่จำเป็นต้องเอาเงินมาจ่ายใต้โต๊ะให้ใคร หรือให้โบนัสใครเป็นพิเศษหรอก และที่สำคัญ นี่ขนาดไม่ได้สนใจนะเนี่ย ถ้าสนใจคงเอาคลิปง้าวมาแปะแล้วบอกว่าประเทศไทยมีพลังงานอยู่เยอะแยะ ขุดใต้บ้านก้อเจอ จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:26:50

ความคิดเห็นที่ 25 ผมว่าเจ้าของกระทู้เข้าใจเกี่ยวกับราคา LPG ของภาคปิโตรเคมีผิดแล้วล่ะครับ  ราคา LPG ของภาคปิโตรเคมี เขามีวิธีการคิดแบบ Netback คือคิดจากผลผลิตย้อนกลับนะครับ คิดตามราคาเม็ดพลาสติกของตลาดโลกครับ แพงกว่าราคา LPG ที่ขายในบ้านเรา  และอีกเรื่องคือภาคปิโตรเคมีไม่เคย เน้นนะครับ ว่าไม่เคยใช้เงินกองทุนน้ำมันมาอุดหนุน มีแต่ปิโตรเคมีไปอุดหนุนกองทุนน้ำมัน จากคุณ : ฤทธา เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:30:09

ความคิดเห็นที่ 26 รัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ต้องมีคนของรัฐเข้าไปเป็น บอร์ด เสมอ คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ก็คือ บอร์ดชุดหนึ่ง งานในการบริหารความเสี่ยง ไม่น่าจะเกี่ยวกับการกำหนดราคาขาย ปลีกน้ำมัน หรือ ก๊าซธรรมชาติโดยตรง คนของรัฐที่เข้าไป ควรต้องมีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ความรู้ในธุรกิจนั้น ๆ พอสมควร ไม่งั้น ก็จะถูกชักจูงได้ง่ายโดยบริษัท หรือ รัฐวิสาหกิจแห่งนั้น ๆ การกำกับดูแลนโยบาย จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐ ปกติแล้ว บอร์ดจะไม่มีเงินเดือน ไม่มีโบนัส แต่จะได้ค่าตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยง เบี้ยประชุม จากคุณ : Minicoupe เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:33:27

ความคิดเห็นที่ 27 เอ่อ คห 17 ไม่รู้จริงๆ หรือครับว่า ดร.ไพรินทร์ CEO ของ ปตท. เป็นคนของใคร ดร.แกเซ็นสัญญาจ้างงานกะกระทรวงการคลังนะครับ ไม่ใช่อยู่ๆ ดร.แกเดินไปสมัครงานที่ ปตท. เฉยๆ แล้ว ปตท.เค้าก้อรับเข้าทำงาน จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:34:43

ความคิดเห็นที่ 28 อ่ะพอดีไปหาเจอมา ลองเบิกตาชมกว้างๆนะครับ จากเวป Eppo ผมว่าเวปมันเป็นภาษาไทยนะ แต่ว่าลืมไป คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่เกิน 8 บรรทัด คุณคงอยู่ในกลุ่มนั้น จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:40:13

ความคิดเห็นที่ 29 บริษัทที่ จขกท. กล่าวถึง ไม่ใช่ ปตท. นะ แต่เป็นบริษัท บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท. ธุรกิจที่ทำคือด้านการผลิต ไม่ได้เกี่ยวกับการขายแต่อย่างใด ดังนั้น คงไม่มีส่วนได้เสียกับการตั้งราคาขายปลีกของ ปตท. จากคุณ : Minicoupe เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 16:42:06

ความคิดเห็นที่ 30 จากรายงานประจำปี 2554 http://www.pttgcgroup.com/investor_th.php พบว่า - (หน้า 147) ในปี 2554 คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงมีการประชุม 1 ครั้ง - (หน้า 148) เบี้ยประชุมของกรรมการต่อครั้งเท่ากับ 40,000 บาท ดังนั้น ในปี 2554 บุคคลที่ จขกท. กล่าวถึงว่ามีส่วนได้เสีย ได้รับเงินตอบแทนจากบริษัท PTTGC จำนวน 40,000 บาทเท่านั้น จากคุณ : Minicoupe เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:00:26

ความคิดเห็นที่ 31 คห.25 หากผมเข้าใจผิด เรื่องราคา ขอโทษนะครับ แต่ รัฐ ก็มักอ้างว่าต้องนำเข้าก๊าซเยอะเพราะคนใช้เยอะขึ้น และจะโทษว่าภาคขนส่งอย่างเดียวมันไม่ถูกต้องนัก เพราะปิโตรก็เพิ่มตลอด คห.26 เพราะเหตุนี้ กฏหมายถึงห้ามคนมีอำนาจ เช่น นายกฯ เป็นลูกจ้าง บ.ใดๆ ไงครับ เพราะอาจมีส่วนได้เสีย คห.27 ครับ ถึงผมไม่รู้จักก็ตาม ไม่ได้อยู่แวดวงพลังงานเท่าไหร่ แต่จุดผมก็ยังกระทู้ คห.28 ขอ link หน่อยซิครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับกระทู้ผมละเนี่ย คห.29 ราคาหน้าโรงกลั่น เป็นส่วนหนึ่งต้นทุนครับ จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:05:24

ความคิดเห็นที่ 32 หาเอาดิครับ ข้อมูลอ่านหนังสือเยอะๆ จะได้ไม่ถูกจูงจมูก ในเวป www.eppo.go.th จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:07:06

ความคิดเห็นที่ 33 ตกลง จขกท. จะเน้นประเด็นไหนกันแน่ เรื่อง ส่วนได้ส่วนเสียของคณะกรรมการ  หรือ เรื่องต้นทุน ถ้าเรื่องต้นทุน เค้าคุยกันไปมากมายแล้ว ลอง search หาดู มีเยอะมาก จากคุณ : Minicoupe เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:07:57

ความคิดเห็นที่ 34 #22 โบนัสของรัฐวิสาหกิจถูกกำหนดไม่ให้เกิน 6 เดือนครับ ฉะนั้น ต่อให้กำไรล้านล้าน โบนัสก็ได้เท่าเดิมครับ แต่ถ้ากำไรเหลือ 5 หมื่นล้าน โบนัสอาจจะเหลือ 4 เดือน #31 รู้ไว้ด้วยนะ โรงแยกก๊าซน่ะ โรงหลังๆเค้ามีกำหนดเหตุผลการสร้างไว้แล้วว่า สนับสนุนธุรกิจปิโตรเคมี เพื่อเป็นสารตั้งต้นเอาไปผลิตเป็น Derivatives แล้วส่งออกเอาเงินเข้าประเทศ มันดีกว่าเอาไปเผาไฟปั่นล้อเป็นไหนๆ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:16:56 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 17:14:15 จากคุณ : coolknott เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 17:11:07

ความคิดเห็นที่ 35 โรงแยก ก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 1      เพื่อผลิตวัตถุตั้งต้นให้แก่อุตสาหกรรม ปิโตรเคมี และผลิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้มสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือน โรงแยก ก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 2 3 และ 4      เพื่อขยายตัวตามความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวก๊าซหุงต้มที่เพิ่มสูงขึ้น โรงแยก ก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 5      เพื่อรองรับการขยายตัวในการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีความต้องการก๊าซอีเทน ก๊าซโพรเพน และก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้มเป็นวัตถุดิบตั้งต้น พร้อมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงในด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ อ่านเยอะๆนะคะเจ้าของมู้ จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จากคุณ : ไม่รู้อะไร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:49:05

ความคิดเห็นที่ 36 32 เอารูปมาจากไหนละครับ ถึงหาไม่เจอเลยตอยแบยนี้ว่าอยู่ตรงไหน ผมหาไม่เจอครับคนฉลาด คุณ minicoupe ครับผม จริงๆ ผมไม่ได้อยากคุยเรื่องราคาหรอก ประเด็นผมมันเรื่อง ตำแหน่งจริงๆ  ผลประโยชน์ทับซ้อนรึเปล่าแค่นั้น เรื่องต้นทุนเถียงกันไม่มีจบหรอก เพราะมันคือผลประโยชน์ คนได้ก็เชียร์ คนเสียก็บ่น 34 ปล่อยเรื่องนี้ละกันครับ ผิดประเด็นผมมาไกลละ จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 18:57:27

ความคิดเห็นที่ 37 จริงๆ แล้ว คุณก็ไม่ได้ดูโง่นะ  แต่ทำไมมันเหมือน มุมมองมันแคบๆ จนบดบังความฉลาดในสมองที่มีอยู่ ยังไงก็ไม่รู้ ในตลาดหลักทรัพย์  มีบริษัทที่อยู่ในตลาด ทำกิจการเกี่ยวข้องโดยตรงกับน้ำมัน อยู่ 3 บริษัท คือ ปตท http://www.settrade.com/C04_03_stock_companyhighlight_p1.jsp?txtSymbol=PTT&selectPage=3 บางจาก http://www.settrade.com/C04_03_stock_companyhighlight_p1.jsp?txtSymbol=BCP&selectPage=3 ESSO http://www.settrade.com/C04_03_stock_companyhighlight_p1.jsp?txtSymbol=ESSO&selectPage=3 ถ้ากำไรมันมาจากธุรกิจน้ำมันจริงๆ  ทำไม บ.อื่นๆ ที่อยู่ในตลาดเดียวกัน ถึงกำไรต่างกันสุดกู่ ??? ถ้ากำไรมันมาจากธุรกิจก๊าซ  ทุกวันนี้ ราคาก๊าซมันยังแพงเหรอไง ??? ถ้ากำไรมันมาจากธุรกิจปิโตรเคมี / ธุรกิจอื่นๆ  มันเสียหายเหรอ ที่กำไรมันเยอะ ดูอย่างเครือซิเมนต์ไทย (SCC) ก็แล้วกัน  เริ่มต้นจากทำปูนซิเมนต์ / วัสดุก่อสร้างมาหลายสิบปี  เพิ่งจะมาทำปิโตรเคมีแค่ 25 ปี แต่ทุกวันนี้ รายได้จากธุรกิจสายปิโตร คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของรายได้รวม มีผลโดยตรงต่อกำไรรวม กลายมาเป็นธุรกิจหลักอันดับหนึ่งของเครือฯ ไปแล้ว จะคอยดูว่า จะตอบว่าอย่างไรต่อไป แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 55 20:34:02 จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 20:30:13

ความคิดเห็นที่ 38 ตกลง ปิโตรเคมี ของ ปตท.ซื้อ LPG ไปใช้ทำเม็ดพลาสติก ในราคาต่ำกว่า ราคาตลาดรึปล่าว ตอบมาตรงๆแค่นี้ก็พอ ถ้าใช่ ก็ออกมาจาก บ.มหาชนซะ ไปเป็นรัฐวิสาหกิจเต็มตัว เพราะต้องให้ประเทศไปอุ้ม จากคุณ : มากเรื่อง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 55 22:39:18 A:58.9.92.193 X: TicketID:365239

ความคิดเห็นที่ 39 เออ ดูแล้วท่าทางจะโง่จริง รู้จักบอร์ดบริหารไหมครับ ไอ้รูปในคคห. 17 นะมันเป็นแค่ลูกจ้าง บอร์ดคือตัวแทนผู้ถือหุ้นที่ส่งเข้าไปกำกับดูแล กำหนดนโยบายให้ ผู้บริหารที่เป็นลูกจ้างทำตาม ในเมื่อรัฐถือหุ้นใหญ่ในรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย รัฐบาลก็ส่งคนของตัวเอง(ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการระดับสูง) เข้าไปเป็นบอร์ด แล้วผอ.สนพ. จะไปเป็นบอร์ดในบริษัทลูกของปตท. ที่ทำธุรกิจด้านพลังงานมันแปลกตรงไหน ในเมื่อเขามีความเชี่ยวชาญในด้านนี้อยู่แล้ว แล้วบอร์ดได้ค่าตอบแทนก็แค่เงินประจำตำแหน่ง กับค่าเบี้ยประชุมแค่นั้นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับโบน้งโบนัสอะไรเลย แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 11:00:44 จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 10:51:21

ความคิดเห็นที่ 40 คห.35 ครับ ผมไม่ได้ติดการเมืองครับ พอดีอ่านข่าวเรื่องราคาน้ำมัน เห็นว่าหน่วยงานนี้เค้าดูแล เลยค้นดูว่าผู้บริหารคือใคร ทำอะไรบ้าง ก็เจอแล้วรู้สึก ว่ามันไม่ถูกจริยธรรมครับ และไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับที่คิด คห.37 เรื่องกำไร รวยจน ค่อยมีโอกาสกระทู้หน้าค่อยมาคุยนะครับ เพราะเรื่องพวกนี้ มีเถียงกันเยอะแล้ว อย่างว่าคนได้ประโยชน์ก็ว่าดี คนเสียก็ว่าแย่ เถียงไม่จบ คห.39 เออ ลาบราดอร์คนอวดฉลาดครับ และคงอวดรวยมากๆด้วย คุณคงรวยมาก ถึงมองว่า เงินหลายล้านเป็นเงินจำนวนน้อยๆ ผมเป็นคนธรรมดาครับ รายได้ต่อปีไม่ถึงล้าน การที่กลัวการฮั้วราคาของ บ.ใหญ่ ขึ้นราคาไม่เป็นธรรมส่งผลกับผมแน่นอน คำว่า "แค่" ของคุณ มูลค่ามันมากมายกับ ประชาชนอีก 60 ล้านครับ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ปี 2550 จ่ายบอร์ด กรรมการ 42 ล้าน http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=71742 http://thaipublica.org/2012/05/pilin-ceo-ptt/ ข้อมูลอื่นๆ nidambe11 http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2010q1/2010January14p2.htm เงินหลายล้านต่อปี มันก็มากพอที่จะทำให้คนทำผิดแล้วครับ กินปลาบ้างนะครับ แล้วลองมองประชาชนทั่วไปกินเงินเดือนด้วยครับ ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณ ท่านที่ตอบแบบมีหลักการ และเหตุผลครับ เช่น Minicoupe - ฤทธา เพราะท่านตอบมาแบบให้ผมไปหาดูอ่านอะไรเพิ่มขึ้นด้วย ก็ได้รู้เพิ่มขึ้น :D แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 55 14:03:52 จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 12:04:54

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนหนึ่งของ http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2010q1/2010January14p2.htm การที่ผู้บริหารของ ปตท.ไปนั่งเป็นกรรมการในบริษัทลูกคนละหลายๆ แห่ง และได้รับค่าตอบแทนที่สูงมากๆ อาทิเช่น ในปี 2551 ผู้บริหารสูงสุดของ ปตท.ได้รับโบนัสและเบี้ยประชุมต่างๆ รวม 22.7 ล้านบาท (ข้อมูลจากรายงานคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา) ไม่นับรวมเงินเดือนและผลประโยชน์ที่ได้รับในฐานะลูกจ้างเต็มเวลาของบริษัทของ ปตท.คาดกันว่าประมาณ 16.5 ล้านบาท (ข้อมูลจากรายงาน 56-1 ที่ ปตท.ส่งตลาดหลักทรัพย์โดยใช้สมมุติฐานว่าผู้บริหารสูงสุดได้มากกว่าผู้บริหารอื่น 60% ตามที่คนทั่วไปเข้าใจ) รวมเป็นรายได้ในปีนั้น 39.5 ล้านบาท แม้มีการอ้างถึงความเสี่ยงต่อการรับผิดตามกฎหมายของกรรมการ ก็สามารถซื้อประกันคุ้มครองความเสี่ยงนั้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำอยู่แล้ว ยกเว้นกรณีทุจริตหรือเกิดความละเลยอย่างมาก การที่บอร์ดอนุมัติให้ฝ่ายบริหารรับประโยชน์ที่ดูเหมือนจะสูงเกินควรเช่นนี้ ทำให้เกิดความเสี่ยงเรื่องการให้ต่างตอบแทนระหว่างผู้บริหารกับบอร์ด และซ้อนไปอีกชั้นหนึ่ง คือ ความเสี่ยงของการให้ต่างตอบแทนระหว่างเจ้ากระทรวงกับผู้บริหารโดยผ่านข้าราชการที่ถูกเลือกมานั่งในบอร์ด โดยเฉพาะกรณีที่การทำงานของข้าราชการใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้ากระทรวง ดังที่พูดกันแม้ในหมู่นักธุรกิจต่างชาติ ว่ากระทรวงที่กำกับรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่มักมีประชุมผู้บริหารที่บ้านของรัฐมนตรีในสมัยหนึ่ง เหล่านี้ไม่ได้เป็นการกล่าวหาว่าจะต้องมีการเอื้อประโยชน์พวกพ้องจริงหรือไม่มี แต่มันเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากความเร้นลับซับซ้อน ในประเทศฝรั่งเศสซึ่งคงจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วในโลกเสรีที่มีรัฐวิสาหกิจมากที่สุด ได้มีการรื้อโครงสร้างการกำกับดูแลใหม่ประมาณ 6 ปีมาแล้ว ให้ตัวแทนของรัฐในบอร์ดรัฐวิสาหกิจมีบทบาทเดียว คือ ในฐานะผู้ถือหุ้น และให้งานนี้บริหารโดยหน่วยงานเฉพาะ คือ French Government Shareholding Agency หรือ A.P.E. เขาแยกการกำกับดูแลอุตสาหกรรมนั้นๆ ออกมาจากรัฐวิสาหกิจอย่างเด็ดขาด ไม่มีข้าราชการจาก Regulator หรือหน่วยงานที่กำหนดนโยบายมานั่งในบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ทำให้เกิดโครงสร้างที่ความโปร่งใส และเป็นธรรมกับคู่แข่งในภาคเอกชนในอุตสาหกรรมนั้นๆ นอกจากนี้ ข้าราชการจาก A.P.E. ที่ไปนั่งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หรือบริษัทต่างๆ ที่รัฐถือหุ้น จะไม่รับเงินจากบริษัทนั้นๆ เลย เพราะถือว่าทำงานในหน้าที่ซึ่งมีค่าตอบแทนอยู่แล้ว แนวปฏิบัติเช่นนี้ก็ใช้ในหมู่บริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจในเมืองไทย อาทิเช่น เชลล์ เอสโซ่ หรือบริษัทจัดการกองทุน ระบบนี้ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมาก เพราะปัจจุบันรัฐวิสาหกิจทุกแห่งของฝรั่งเศสมีประสิทธิภาพและผลประกอบการที่ดี แม้แต่การรถไฟที่เคยเป็นปัญหามากก็สามารถจ่ายปันผลเข้ารัฐได้ จากคุณ : เบค่อนไข่ดาว เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 14:08:46

ความคิดเห็นที่ 42 #38 เขาจ่ายราคาตลาดโลกแล้ว จ่ายแพงที่สุดเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่นๆ หาอ่านข่าวเสียบ้าง จากคุณ : IHAYO เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 16:16:09

ความคิดเห็นที่ 43 คห.40 ไอ่เวปที่ให้เข้าไปดู ถ้าเป็นเวปที่สื่อเป็นกลางจะพอเชื่ออยู่นะ แต่เอามานี่ จากแป๊ะลิ้มทั้งนั้น  ดูแล้วก้อรู้ว่ามันมีจุดประสงค์อะไรซ่อนเร้น จากคุณ : pedquak เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 18:08:57

ความคิดเห็นที่ 44 ราคาต้นทุนน้ำมัน ที่เกิดขึ้นจริงจากการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ประกอบด้วย ราคาน้ำมันในตลาดจรที่สิงคโปร์ (FOB)   ค่าประกันภัยในการขนส่งน้ำมันมาทางเรือ ค่าความสูญหาย (Loss)  ค่าระวางหรือค่าขนส่ง (Freight)  ค่าจัดเก็บน้ำมัน   (Handling Cost)  และภาษีศุลกากรนำเข้าน้ำมัน (Import Duty)  ทั้งหมดนี้รวมกัน เป็นราคาต้นทุนในการนำน้ำมันเข้าจากต่างประเทศ            ราคาต้นทุน = ราคานำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป                              = ราคาน้ำมันในตลาดจรที่สิงคโปร์ + ค่าขนส่ง + ค่าประกันภัย + ค่าจัดเก็บน้ำมัน + ภาษีศุลกากรนำเข้า จากคุณ : ผู้ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 55 22:00:54

ความคิดเห็นที่ 45 กระทู้แบบนี้อธิบายไปก็ ไลฟ์บอย ครับพวกมันมีจุดประสงค์อย่างอื่นตะหาก เชื่อเหอะเดี๋ยวอีก 1-2 สัปดาห์มันก็เวียนมาอีก ผมเล่น พันทิบ มาเจอกระทู้แบบนี้มาเกิน 200 กระทู้แล้ว และมันจะแห่ไปตั้งกันทุกเวป เลยนะ ตอนนี้กำลังจุดกระแสเรื่องรัฐถังแตกไม่มีตังค์จ่ายคืนนโยบายรถคันแรกอยู่  กระทู้ ปตท.เลยซาๆไปหน่อย แต่พอหมดเรื่องเล่น มันก็จะวกเข้าหา ปตท.อีกถือเป็นอาหารหลัก ฮาฮา แปลกอยู่อย่างถ้าฝ่าย ปชป.ได้เป็นรัฐบาลปุ๊บ กระทู้ ปตท.จะถูกเสกให้หาย วับ ไปจาก internet เลย ง่ะ จากคุณ : CELEBREX เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 55 14:35:57

ความคิดเห็นที่ 46 นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัด ก.พลังงาน-ประธานกรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) (RATCH) รับซื้อเชื้อเพลิงโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติจาก ปตท. เพื่อผลิตไฟฟ้า- เตรียมเสนอเกาะสมุยเป็นต้นแบบ Low Carbon Society ของประเทศไทย จากคุณ : stargate-1 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 55 16:06:29 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017

ความคิดเห็นที่ 47 ^ แล้วไง จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 55 10:59:23

ความคิดเห็นที่ 48 นายคุรุจิต นาครทรรพ กรรมการอิสระ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จากคุณ : stargate-1 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 09:04:14 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017

ความคิดเห็นที่ 49 ^ แล้วไงล่ะ ??? คนที่เป็นถึง รองปลัดกระทรวงพลังงาน  แต่ไปเป็นกรรมการ - ใน บ.ผลิตไฟฟ้า - ใน บ.กลั่นน้ำมัน 1. เพิ่งมาเป็นเหรอ ??? 2. ถ้าเค้าเป็นมาก่อนนานแล้ว ทำไมถึงจะเพิ่งมาโวยเอาป่านนี้ ??? จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 12:17:51

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นด้วยกับคุณเบค่อนไข่ดาว ครับ ให้สิบอมยิ้มเลย สุดยอด จากคุณ : stargate-1 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 12:24:33 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017

ความคิดเห็นที่ 51 ข่าว 13 พ.ย.55 พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ได้เร่งรัดให้กรมธุรกิจพลังงาน กรมที่มีอธิบดีเป็นกรรมการบริษัท ปตทสผ. ได้รับเบี้ยประชุม เงินประจำเดือน รวมถึงโบนัส รวมปีละไม่น้อยกว่า 3.7 ล้านบาท ให้ไปทำแผนลงทุนโครงการท่อขนส่งน้ำมัน 2 เ้ส้นทาง ให้เสร็จภายใน 1 เดือน แบ่งเป็นเส้นสายเหนือ สระบุรี-พิษณุโลก-ลำปาง และสายอีสาน สระบุรี-โคราช-ขอนแก่น ใช้เงินลงทุนระบบท่อ 1.37 ล้านบาท และคลังจ่ายน้ำมัน 3,607 ล้านบาท รวมมูลค่า 1.73 หมื่นล้านบาท คำถามคือ... ใช้เงินใครลงทุน ? รัฐหรือ เอกชน ? จากคุณ : stargate-1 เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 55 12:57:02 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017

ความคิดเห็นที่ 52 คห.ที่ไม่ข้าราชการกระทรวงพลังงานเข้าไปกรรมการอิสระ หรืออะไรใดๆ ในบอร์ดบริหาร ถามหน่อยทำไมถึงเพิ่งมาเคลื่อนไหวเอาตอนนี้ เค้าเป็นบุคลากรที่อยู่ในแวดวงพลังงานมานาน หรือจะให้ สว.แก่ หรือ หม่อม กรรมกร มาทำงานแทน จากคุณ : kunimitsu69 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 11:24:49

ความคิดเห็นที่ 53 มาตรา ๗๖ ผู้รับสัมปทานต้องรายงานผลการประกอบกิจการปิโตรเลียม แผนงานและงบประมาณประจำปีตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่อธิบดีกำหนด ............. รายงานตามวรรคหนึ่งให้ถือเป็นความลับและมิให้เปิดเผยจนกว่าจะพ้นหนึ่งปี นับแต่วันที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ*ได้รับรายงานหรือพึงได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่ (๑) เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติราชการแก่ส่วนราชการหรือบุคคลซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการ (๒) เป็นการนำข้อสนเทศจากรายงานนั้นไปใช้ในการเรียบเรียงและเผยแพร่รายงานหรือบันทึกทางวิทยาศาสตร์ เทคนิคหรือสถิติ โดยได้รับอนุมัติจากอธิบดีแล้ว ทั้งนี้ ต้องหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อสนเทศด้านพาณิชย์ให้มากที่สุด หรือ (๓) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้รับสัมปทานให้เปิดเผยได้ แต่การให้หรือไม่ให้ความยินยอมของผู้รับสัมปทานต้องกระทำโดยไม่ชักช้า ...............ความในวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่รายงานเกี่ยวกับการผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ผลิตและรายงานเกี่ยวกับพื้นที่ที่ผู้รับสัมปทานได้คืนพื้นที่แล้วตามมาตรา ๓๖ หรือ ๓๗ เนื่องจากกมธ.พลังงานฯวุฒิสภา พบว่าปตท.มีเค้าในการทุจริตนำเข้าน้ำมันดิบมาจากตะวันออกกลาง แต่แท้จริงแล้วนำมาจากในอ่าวไทยนี้เอง โดยทำหลักฐานผ่านเทรดเดอร์ว่าซื้อมาจากตะวันออกกลาง รมว.คนใหม่จะยอมให้ปตท.ส่งสำเนาสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบที่ปตท.ทำกับตะวันออกกลางให้กมธ.พลังงานฯวุฒิสภาได้หรือไม่ การทำสัญญานี้จะถูกคุ้มครองตามมาตรา 76 หรือไม่ จากคุณ : stargate-1 เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 55 13:16:06 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017

ความคิดเห็นที่ 54 ^ เออ...รอดูอยู่เหมือนกัน แต่มีคำถามอยู่คำเดียว ถ้า นำเข้าจากตะวันออกกลางจริง  พวก สว.หญิงแก่ กับหม่อม กรรมกรนั่น มันจะไปผูกคอตายมั้ย ? หรือ พวกมันจะอ้างว่า  พวกชั้น เป็นนางเอก - พระเอก เป็นคนดีของสังคม สมควรจะได้รับเลือกตั้งให้เป็น สมาชิกวุฒิสภาไทย ไปทั้งชาตินี้ ??? จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 15:31:03

ความคิดเห็นที่ 55 สัญญาซื้อขายกับบ.ต้วแทนจากไหนไม่รู้แต่ส่งถึงปากอ่าว ทำสัญญาซื้อหน้าปากอ่าว คล้ายๆซื้อข้าวหน้าคลัง จังเลย เรือเอาน้ำมันมาส่งที่ปากอ่าวตามสัญญา เอามาจากแถวๆสี่จุดในคลปนี้มั่ง http://clip.thaipbs.or.th/home.php?vid จากคุณ : SG-1 เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 55 20:23:40 A:118.175.5.254 X: TicketID:380017