เอามาลงอย่างนี้บางคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าเรียกได้ทุกกรณี และที่สำคัญเราไม่อาจรู้เลยว่าเรามีสิทธิจริงๆหรือไม่ หากประกันไม่จ่ายให้เรา
คำว่าค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เอารถไปทำมาหากิน เช่น รถใช้ขายผัก ขายของตามตลาดนัด หรือ เอารถไปหาเิงนโดยตรง อย่างเช่นมีรถเอาไว้เร่ขายของ หรือ ให้เช่าทำมาหากิน ตรงนี้คือประโยชน์ที่ได้จากรถโดยตรง..
หากรถถูกชน เมื่อขึ้นศาลหรือเรียกร้องค่าเสียหายส่วนนี้ ศาลจะกำหนดให้ครับ เช่น เราใช้รถขายของได้กำไรวันละ ๒๐๐๐ บาท เงินจำนวน ๒๐๐๐ บาทนี้ คือประโยชน์ที่ได้จากรถโดยตรง ตรงนี้ย่อมเรียกได้
และที่เรียกได้อีกกรณีคือ ค่าโดยสารที่เราต้องเสียไปในระหว่างที่ไม่ได้ใช้รถ เช่นค่าแท็กซี่ เป็นต้น กรณีที่ จขกท นำมาลงให้นั้น เข้าใจว่าเป็นค่าโดยสารหรือค่าแท็กซี่ ที่ต้องจ่ายไปในแต่ละวันที่ไม่ได้ใช้รถ มันไม่เรียกว่าค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ แต่มันคือค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป ที่ไม่ได้ใช้รถต่างหาก (ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตาม)
เรื่องค่าโดยสารหรือค่าแท็กซี่พวกนี้บางบริษัทประกันไม่ยอมจ่ายให้ง่ายๆ แต่ประกันบางทีก็เหมาจ่ายให้ก็มี แต่สำหรับค่าขาดประโยชน์จากการที่ไม่ได้ใช้รถนั้น ส่วนใหญ่ถ้าไม่ชัดเจน บริษัทประกันจะไม่จ่าย และที่สำคัญ ถ้าคุณอยากได้ส่วนนี้คุณต้องไปฟ้องศาลเอง และพิสูจน์ให้ศาลเห็นให้ได้ว่า ใช้รถทำมาหากินได้กำไรวันละ ๒๐๐๐ บาท... นั่นเอง
จากคุณ |
:
น้าออด
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 08:43:51
|
|
|
|