|
#2 ขอบพระคุณมากครับ เดี๋ยวมี Content ดีๆ จะเอามาลงไว้ให้อ่านกันนะครับ
===========================
แหมะ ตอนแรกก็กะจะไม่เขียนต่อแล้วครับ แต่ขออีกนิดนึงแล้วกันเพื่อความเคลียร์
แล้วรถชนิดไหนใช้ได้บ้าง??? จากที่ผมศึกษามากับเจ้าตัวนี้เนี่ย จะสามารถใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ได้ทุกรุ่น เนื่องจากรถรุ่นใหม่จะมีพอร์ท OBD ที่กล่อง ECU อยู่แล้วนะครับ แต่สำหรับรถเก่านั้นจะใช้ได้เป็นบางรุ่น ซึ่งถ้าจำไม่ผิด(อันนี้เช็คอีกทีนะ) รถปี 96 ขึ้นไปสามารถใช้ได้ครับ ส่วนรถเก่ากว่านั้น อาจจะแบ่งได้เป็นสองเคสคือ
1. กล่องเดิม อันนี้น่าจะต้องใช้ อแดปเตอร์แปลงหัวเอาครับ จากพอร์ทเดิม(จำไม่ได้แระเค้าเรียกอะไร) มาเป็น OBD ครับ ซึ่งของพวกนี้ก็มีขายเหมือนกัน หาได้ตาม Ebay ครับ หรือไม่ก็ วรจักรหรือคลองถม
2. กล่องแต่ง สำหรับเคสนี้ เน้นไปถึง กล่อง Stand alone แล้วกันนะครับ เพราะกล่องพวกนี้จะทำหน้าที่ ใช้แทนของเดิมเลย ประมาณว่า ถอดกล่องเก่า แล้วใส่กล่องใหม่ สตาร์ทติดได้เลย (แต่ต้องจูนนะ) ส่วน Piggy bag หรือ กล่องพ่วงนั้น อันนี้ไม่เคยเล่นเลย เลยไม่ทราบว่าสามารถดึงค่าตรงนี้ได้มั๊ยครับ
ส่วนข้อเสียของเจ้าตัวนี้มันก็มีอยู่บ้างนะ เดี๋ยวอธิบายไว้แบบนี้แล้วกันครับ
จำได้มั๊ยที่ผมบอกว่า กล่องตัวนี้เค้าจะดึงค่าที่ ECU เรารับมา แล้วเจ้าพวกค่าที่ ECU ที่เรารับมานั้นจะได้มาจาก Sensor ในรถอีกที ซึ่งปัญหาจะอยู่ตรงนี้แหละครับว่า เซ็นเซอร์เราน่ะ มันดีแค่ไหน ถ้าเซ็นเซอร์เราดี มันก็จะวัดค่าได้แม่นยำตามจริง แต่ถ้าเซ็นเซอร์มันผุมันพังไปตามกาลเวลาแล้วล่ะก็ ค่าที่อ่านออกมา มันก็จะไม่ถูกต้องตามไปด้วยเช่นเดียวกันครับ
ข้อนี้สำคัญนะ เพราะว่าถ้าเซ็นเซอร์มันไม่ดีเนี่ย(เช่น O2,Temp,Pressure , Map เป็นต้น) ค่าที่ถูกส่งเข้าไปใน ECU ก็จะไม่ถูกต้อง และทำให้ ECU มันประมวลผลผิด ส่งผลให้ ฉีดน้ำมันหนา(หรือบาง)จนเกินไป ทอร์คหด แรงม้าหาย ประมาณนี้ได้ครับ
โอ้ว เขียนมาซะยาวเลย ไปจริงๆแล้วครับ ครั้งหน้าฟ้าใหม่ คงได้พบกันอีกครั้งครา
สำหรับวันนี้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
จากคุณ |
:
กยิราเจ กยิราเถนัง
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 55 00:51:36
|
|
|
|
|