ความคิดเห็นที่ 1 คุณขับรถหรือขับเครืองยินเนี้ย แล้วจะเติมไปทำไมล่ะ จากคุณ : JHP - [ 13 ส.ค. 46 22:22:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เห็น F1 เขาใช้อยู่นะ ข้อดีคือมันไม่ระเบิด เมื่อเกิดความร้อนขณะใช้งาน จากคุณ : mn - [ 14 ส.ค. 46 05:21:06 A:203.147.28.123 X:203.147.28.22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มีน้าของเพื่อนผมลองแล้วเขาบอกว่า เติมแล้วจะขับนุ่มกว่าและยางซึมน้อยกว่า ผมก็ยังไม่เคยลองว่าจะจริงเท็จแค่ไหน ยังไงถ้าลองแล้ว ยางระเบิดจะมาเล่าให้ฟังครับ จากคุณ : @NokHook - [ 14 ส.ค. 46 05:23:08 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่จำเป็นเลยคับเติมลมธรรมดาเนี่ยแหละพอแล้ว แต่ผมสงสัยที่คุณพูดนะ ถ้าเติมด้วยแรงดันเท่ากันมันจะนิ่มกว่าได้งัย จากคุณ : Steve Davis - [ 14 ส.ค. 46 07:50:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 นิ่มกว่าแน่นอนครับ เพราะ ไนโตรเจน เวลาโดนความร้อนที่เกิดจากการวิ่งของรถบนถนนแล้ว.. จะเกิดการขยายตัวของก๊าซน้อยกว่าตัวอากาศปกติ จากคุณ : Saengthong - [ 14 ส.ค. 46 08:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถูกต้องครับ ตามคห.3 กับ 5 และอีกกรณีนึง การเติมลมธรรมดา เมื่อรถวิ่งไปและเกิดความร้อน อากาศที่อยู่ในยัง เมื่อเกิดความร้อน จะเกิดเป็นไอน้ำ หรือ หยดน้ำภายในยางครับผม แต่ไนโตรเจน ไม่เป็น และความดันลมยางไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อต้องวิ่งทางไกลๆ และเมื่อยางเกิดความร้อน เช่นเติมไว้ 30 ถ้าวิ่งทางไกลๆ แรงดัน ก็จะยังคงอยุ่ ระดับ 30 ต่างจากการเติมลมธรรมดา ที่เติมลม 30 เมื่อวิ่งทางไกลๆ ความดันอาจเปลี่ยนไปเป็น 32 หรือ 33 ครับผม จากคุณ : จิ๊บ - [ 14 ส.ค. 46 09:27:36 A:210.1.4.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นห่วงว่าเวลาต้องการเติมลม ต้องวิ่งหาอู่ที่มีไนโตรเจนจะ มีภาระเพิ่มอีก ขนาดซีตรองต้องเติมไนโตรเจนในตุ้มยังไม่อาจเติมได้ในทุกอู่ที่ซ่อมเลย จากคุณ : แจ้ (นายแจ้) - [ 14 ส.ค. 46 11:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามหลักฟิสิกส์ ปริมาตรแก๊สจะขยายตัวตามอุณหภูมิ เมื่ออุณภูมิมาก ก็จะมีปริมาตรมากขึ้น เป็นกฏตายตัวมากๆๆๆๆ ไม่เคยยกเว้นว่าเป็นแก๊สประเภทใด เพราะฉะนั้น เรื่องการขยายตัวมากน้อยนั้น น่าจะตัดไปได้ ตามหลักเคมี แก๊สไนโตรเจนเป็นแก๊สเฉื่อยกว่าอากาศทั่วไป (ที่มีไนโตรเจนเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว และออกซิเจนเล็กน้อย) ดังนั้นโอกาสที่จะทำปฏิกิริยากับโลหะ (ทำให้เกิดสนิม)ที่ล้อหรือยางก็น้อยลง ปกติเราก็ไม่เจอปัญหานี้อยู่แล้ว เพราะล้อสมัยนี้ไม่เกิดสนิมง่ายๆ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือ มันเป็นเรื่องของการตลาด ที่คนอยากขายสินค้าใหม่ และบอกว่าดีกว่า โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลที่ชัดเจน จะไปเทียบกับรถ F1 คงไม่ได้ เพราะรถที่ว่ามันแพง และเขาพยายามใช้สิ่งที่ดีที่สุด (เหมือนคนรวยที่ใช้นาฬิกาแพงๆและคิดว่ามันเดินตรงกว่านาฬิการาคาถูก) แต่ไม่หมายความว่าจะเห็นผลได้ในรถประเภทที่เราๆท่านๆใช้ จากคุณ : ชน - [ 14 ส.ค. 46 11:32:23 A:203.185.133.6 X:10.226.73.99 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เติมน้ำสิ จะได้ไม่ขยายตัว จากคุณ : หมูน่ารักจริงๆ - [ 14 ส.ค. 46 11:42:44 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เติมไนโตรเจน หลายคนสนใจ เพราะความเชื่อหรือโฆษณาว่า เติมไนโตรเจน 100% แทนลม (อากาศปกติ) แล้วแรงดันลมยางจะเปลี่ยนแปลงน้อยเมื่อยางร้อน ในความเป็นจริง อากาศก็มีไนโตรเจนผสมอยู่กว่า 75% อยู่แล้ว มีออกซิเจนกว่า 20% การขยายตัวของอากาศปกติกับไนโตรเจนล้วน ๆ เมื่อเกิดความร้อนขึ้น จึงไม่ต่างกันมาก ปัญหาที่สำคัญกว่าและถูกมองข้าม เป็นเรื่องของความชื้นหรือไอน้ำที่ผสมอยู่ในลมที่ถูกเติม เพราะปั๊มลมส่วนใหญ่มีการกรองเอาไอน้ำออกไม่หมด หรือไม่กรองเลย ซึ่งในการเติมลมยางตามสถานที่ทั่วไป จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงลมผสมไอน้ำได้ เพราะไม่สะดวกที่เราจะตรวจสอบเมื่อความชื้นกัลบกลายเป็นน้ำ แรงดันรวมของยางจะลดลง แต่เมื่อยางร้อน น้ำจะกลายเป็นก๊าซ แรงดันจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น การเติมลมด้วยไนโตรเจนล้วน ๆ จึงอาจจะดีในแง่ที่มีความชื้นปนอยู่น้อยมาก หากอยากเติม ก็ควรสะดวกทั้งในการเติมครั้งแรก และการเติมครั้งต่อ ๆ ไป ถ้าเติมได้แค่ครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปเติมด้วยลมธรรมดา (ที่มีไอน้ำปน) ประโยชน์ของไนโตรเจนก็จะลดลงไป เหตุผล และ หลักการ ประโยชน์ของการเติม N2 จะเห็นผลได้ชัดกับรถที่ ใช้ยางซีรี่ต่ำ หรือ บาง เปลี่ยนแมก ขนาดใหญ่ขึ้น รถที่ได้มีการปรับแต่งช่วงล่างให้แข็งขึ้น ข้อดี ลดโอกาสเสี่ยงยางระเบิดเมื่อขับขี่ เนื่องจากถ้าเติมลมธรรมดา วิ่งไปนานจะมีการขยายตัวขึ้นมาก แต่ N2 แทบไม่ขยายตัว การทำปฎิกริยากับ อ๊อกซิเจนมีน้อย ทำให้ความดันคงที่มากกว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจเช็คทุกเดือน การซึมหรือสูญเสียมีน้อย เติม N2 ควรตรวจเช็คประมาณ 3-4 เดือน ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เสียงของยางลดลงนิดหน่อย นิ่มขึ้น ข้อเสีย เสียตังค์ ถ้ายางแบน หรือ รั่วสามารถเติมลม ธรรมดาเข้าไปแทนที่ได้ทันที แต่เมื่อต้องการกลับมาเติม N2 ต้องเสียค่าไล่อากาศอีกครั้ง เสียค่าบริการอีก ร้าน N2 ควรจะอยู่ใกล้ๆบ้าน มิฉะนั้นจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จากคุณ : npunyo - [ 14 ส.ค. 46 13:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยังสงสัยอยู่ครับ ทำไมเติม N2 แล้วมันซึมน้อยกว่า ลมธรรมดา มันน่าจะอยู่ที่สภาพยางไม่ใช่เหรอคับ จากคุณ : Steve Davis - [ 14 ส.ค. 46 13:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องเติมไนโตรเจน สำหรับรถที่เราใช้ทั่วไปแทบจะไม่มีความจำเป็นเลยครับ ข้อดีของไนโตรเจนคือ เมื่อร้อนแล้วขยายตัวน้อยกว่าอากาศทั่วไป แรงดันจึงขื้นน้อยกว่าลมธรรมดาเวลายางร้อน แต่วิธีที่จะเติมไนโตรเจนแล้วได้ประโยชน์จริงๆ ต้องดูดลมออกจากยางให้หมด แวคจนยางแฟบติดกระทะครับจึงค่อยเติมไนโตรเจน ถ้าเติมด้วยเครื่องที่ใช้อยู่ตามร้านแทบจะไม่มีประโยชน์เลยครับเพราะไม่ได้เติมด้วยวิธีที่ถูกต้องเนื่องจากยุ่งยาก และเครื่องเติมที่ใช้นั้นก็ไม่ใช่ไนโตรเจนล้วนๆ เป็น Mix ระหว่าง ไนโตรเจน กับ ออกซิเจน ครับ (รับรองว่า Mix ครับ ไม่ใช่ไนโตรเจนล้วนๆ รุ่นพี่ผมมีอยู่เครื่องหนึ่งคู่มือยังอยู่กับผมเลยครับ) ผมเคยทดลองเติมไนโตรเจนจากเครื่องเติม แล้วใช้ยางอย่างโหดๆดูในสนามแข่ง เพื่อให้ความร้อนขึ้นสูงๆ แรงดันต่างกับใช้ลมธรรมดาเพียง 3-4 Psi เท่านั้นครับ เติมตอนยางเย็นที่ 30 Psi หลังขับ ลมธรรมดาขึ้นประมาณ 42 ส่วน ไนโตรเจนประมาณ 38-40 Psi น้อยกว่านิดเดียว ส่วนการใช้งานทั่วไปของเราๆ เติมลมจากอากาศธรรมดา ถึงแม้จะขับเร็วๆสัก 160 ลมยางก็ต่างจากลมยางตอนปกติอย่างมากที่สุดไม่เกิน 3-4 Psi เท่านั้น ยางไม่ได้ร้อนขึ้นมากมาย ยางจะร้อนขึ้นอย่างมหาศาลจนแรงดันขึ้นสูงมากๆก็ตอนเลี้ยวโค้งโหดๆ อย่างต่อเนื่องแบบรถแข่งครับ ถ้าวิ่งตรงๆ แม้จะเร็วยางก็ไม่ร้อนมากขึ้นมากนัก ไม่ต้องกลัวเรื่องยางระเบิดหรอกครับ ถ้ายางสมบูรณ์ดี แรงดันแค่นี้สบายมากครับ ดังนั้นการเติมไนโตรเจน โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เติมอย่างถูกวิธีแล้ว แทบจะไม่มีประโยชน์เลยครับ ก็ขนาดรถแข่งที่วิ่งอยู่ในสนามแข่งในบ้านเรายังไม่เติมกันเลยครับ เพราะถ้าจะทำอย่างถูกวิธีให้ได้ประโยชน์จริงๆนั้น มันวุ่นวาย ยุ่งยากครับ รุ่นพี่ผมคนหนึ่งซื้อเครื่องเติมไนโตรเจนมาเติมยางรถแข่งเครื่องละแสนกว่าบาท ใช้อยู่สนามเดียวก็กองไว้เฉยๆครับ เพราะแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ปล. ถ้าท่านใดทราบร้านที่รับเติม โดยมีการแวคคั่มจนยางแฟบก่อนเติม รบกวนช่วยบอกด้วยครับ ผมหาอยู่ แต่ไม่เคยเจอเลยครับ จากคุณ : Aey17 - [ 14 ส.ค. 46 21:20:05 A:203.113.34.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องของเรื่องก็คือ เสียเงินแพงขึ้นกว่าแน่นอน ถามว่า จำเป็นหรือไม่ คำตอบ ไม่จำเป็นเลย ถ้าคุณยังขับรถในวิสัยที่มนุษย์ปกติเขาทำกันอยู่ ถ้าคุณเป็นนักแข่ง ฟอร์มูล่า วัน ขับเฟอรารี่ สูตร 1 ในสนามแข่งก็เติมไปเถอะ สุดท้าย เจ้าของอู่ที่ขายลมไนโตรเจน จะรวยขึ้นเรื่อยๆเพราะความไม่รู้(ของคนขับรถ)นี่แหละ ข้อดี คือได้เกิดอุปทานความรู้สึกที่ดีในจิตใจคุณเอง ว่ารถฉันเติมไนโตรเจนนะ อ้อ แล้วยังได้คุยกับเพื่อนๆได้ด้วย ถ้าค่าเติมไนโตรเจน 4 ล้อคิดเหมารวมไม่เกินยี่สิบบาท ก็เติมไปเถอะครับ จากคุณ : Oxygen (AQUANAUTS) - [ 16 ส.ค. 46 09:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมก็จำได้เหมือนกันว่า ไม่ว่าก๊าซใด มันก็ขยายตัวเท่ากันทั้งนั้น เมื่อมันร้อนขึ้นเท่าๆกัน นอกเสียจากว่า มีการทำปฏิกิริยากับสารอื่น แล้วได้สารชนิดใหม่ แล้วทำให้จำนวนโมเลกุลรวมของก๊าซทั้งหมดเพิ่มขึ้น จากคุณ : Ont - [ 16 ส.ค. 46 16:02:33 A:210.86.197.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ยังไม่เข้าใจเลยว่าจะคืนทุนยังไงอะคะ ก็ เจ้าเครื่องนี่ราคาเป็นแสนแล้วเติมทีละ 300-400 บาท มีต้นทุนทั้ง ค่าเสื่อมเครื่องเติม ค่าmaintenanceเครื่อง ค่าก๊าซ ค่าคนงาน แล้วไหนจะประกันตลอดอายุยางอีก อิอิ จากคุณ : JoeTim+ - [ 16 ส.ค. 46 22:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขยายตัวมากหรือไม่มันอยู่ที่ ความชื้น เติม เข้าไปตอนที่ ยางเย็นๆ อากาศชื้น มันโดนความดันมากๆ ก็ควบแน่นเป็นน้ำ อยู่ในยาง เราก็ยิ่งเติมอีก จน ได้ความดันที่พอใจ แต่พอรถวิ่งแล้ว ยางร้อนขึ้น นี่ซิ น้ำที่มันโดนความดัน ควบแน่น เมื่อกี้ มันก็กลายเป็นไอน้ำ ทำให้ความดัน ตอนอุณหภูมิร้อน เพิ่มมากขึ้นพอควรเลย....... พอเย็นตัวมันก็ควบแน่นเป็นน้ำเหมือนเดิม.... คราวนี้มาในโตรเจ้น ถามว่าต่างจากก๊าซอื่นมั๊ย... คำตอบคือไม่ต่าง จะเลือกใช้ก๊าซอะไรที่ไม่มีความชื้นก็ให้ผลเหมือนกัน แต่ที่เลือกใช้เพราะมันไม่ติดไฟ และไม่ทำให้ไฟติดครับ แต่ก๊าซอื่นเช่น อ๊อกซิเจน หรือคารบอนไดอ๊อกไซด์นั้นช่วยให้ไฟติดและติดไฟ จึงไม่สมควรนำมาเติมอย่างยิ่ง ถามว่าก๊าซอื่นมีคุณสมบัติอย่างนี้มั๊ยที่ไม่ติดไฟ มีครับ เช่นฮีเลี่ยม อันนี้ถ้าหามาเติมได้ รถจะวิ่งเร็วขึ้นด้วย(จริงๆนะ 555) เพราะ ก๊าซมีน้ำหนักเบากว่าอากาศ(ช่วยยกรถขึ้นได้นิดหน่อยแต่ก็ไม่มีนัยยะสำคัญหรอก) และที่สำคัญไม่ติดไฟ (ก๊าซนี้นิยมใช้ในเรือเหาะสมัยก่อน) แต่ทำไมไม่ใช่นะ่หรอ...... เพราะมันแพงมากไงครับ บอกว่า เติมไนโตรเจนแล้วนิ่มไม่ค่อยรั่ว อันนั้นก็แน่นนอนครับ นิ่มเพราะว่าความดันเวลาร้อนไม่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไม่มีน้ำหรือความชื้นอยู่ รถอื่นความดันมากึ้น ยางแข็งขึ้น(เนื่องจากน้ำนั้นกลายเป็นไอน้ำ) จึงรู้สึกว่า เสียงดังขึ้นขับแล้วแข็งขึ้น ไม่ค่อยรั่วซึ่ม นั่นก็คือ มันไม่ได้มีแรงดันมากๆ ที่เกิดจากไอน้ำเวลาอุณหภูมิเพิ่มขึ้น เหมือนยางอื่นอื่น แถมความค่อนข้างดันคงที่อีก เพราะไม่มีความชื้น หรือมีความชื้นน้อยที่แปรผันตามอุณหภูมิ.... สรุป ก๊าซอะไรก็ได้ ถ้าแห้ง ใช้เติมลมได้ดีกว่าก๊าซเปียกทั้งนั้น ความคุ้มค่าที่ใช้ก๊าซพวกนี้เติม ไม่คุ่มค่าแม้แต่น้อย ยกเว้น รวยมาก ถ้ารวยมาก ไปหา ฮีเลี่ยม มาเติม รับรอง ดีกว่าไนโตรเจนชัวร์ จากคุณ : MESMERIC - [ 17 ส.ค. 46 03:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปั๊มออเร้นจ์ที่พระโขนง 200 แต่ไม่กล้าเติมครับ จากคุณ : ZooM116 - [ 17 ส.ค. 46 07:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเติมที่โตโยต้าพระราม9 150บาท5ล้อ ก็รู้สึกว่ากระด้างน้อยลง ไม่รู้อุปทานรึเปล่า จากคุณ : ิbed - [ 17 ส.ค. 46 13:59:39 A:203.170.154.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 เสียงเงียบและนิ่มกว่าครับ บังเอิญเติมฟรี ไม่เสียงตังค์ จากคุณ : ส (สายลมแสงแดด) - [ 17 ส.ค. 46 19:55:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 peugeot สุรวงศ์ก็มีครับ รถยังไม่หมดประกัน เลยเติมฟรี จากคุณ : moonrabbit - [ 18 ส.ค. 46 12:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เติมอยู่ ไม่รู้ว่าดีกว่าตรงไหนดดยรายละเอียด แต่ที่แน่ๆ ยางซึมน้อยมากๆ ทำให้การเติมลมไม่ต้องบ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อน ที่ต้องเติมทุกอาทิตย์สองอาทิตย์ เป็นเดือนละครั้งหรือสองเดือนครั้ง แต่ หมายเหตุ ควรตรวจแรงดันลมยางทุกครั้งที่เข้าเติมน้ำมัน จากคุณ : น้องมด - [ 18 ส.ค. 46 15:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #16 ฮีเลียมเป็นก๊าซที่ติดไฟได้นะครับ จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 ส.ค. 46 02:22:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ฮีเลียมไม่ติดไฟครับ มันเฉื่อยมาก จากคุณ : Ont - [ 22 ส.ค. 46 21:18:43 A:210.86.197.140 X: ]