ซื้อมาติดตั้งตั้งแต่กันยายน 2000 เนื่องจากเห็นว่าน่าจะประหยัดไฟ ซึ่งตอนติดใหม่ๆ ยอมรับครับว่า เย็น เงียบ และประหยัดไฟมาก..... แต่ทว่า....
ตอนนั้นซื้อชนิด 9000 BTU มา 2 ตัว ติดไว้ในห้องนอนที่มีลักษณะยาว (เป็นเหตุให้ต้องติด 2 ตัวเพราะคิดว่าน่าจะไม่กินกำลังเครื่องและกระจายความเย็นทั่วถึง ห้องขนาด 3.5 X 8 เมตร)
ปรากฎว่าเมื่อช่วงเดือนมีนาคม เมษายน 2003 เจอค่าไฟมากผิดปกติ ปกติเปิดแอร์พร้อมกันทั้ง 2 ตัวประมาณสี่ทุ่มถึงแปดโมงเช้า ค่าไฟอย่างมากก็เก้าร้อยบาท ... เรื่องจริงครับ คราวนเดือนกุมภาค่าไฟ 1300 ี้เดือนมีนาขึ้นเป็น 1500 เอ.. สงสัยมันร้อนมั้ง พอเดือนเมษาคราวนี้ 1300 แถมแอร์ไม่ค่อยเย็น เลยเอามือไปอังทำไมมีแต่ลมหว่า อีกตัวเย็นเจี๊ยบ แต่สังเกตว่าก่อนหน้านี้แอร์ตัวที่เสียมันไม่ค่อยเย็นแล้วมีเสียงฟู่ๆซี่ๆ (ไม่รู้จะเรียกอย่างไร) ที่คอยล์เย็น แล้วก็เงียบไป ตอนแรกเรียกช่างมาล้างแอร์ช่างก็บอกว่ามันเย็นน้อยกว่า จะมาเช็คให้ก็เงียบหาย (ช่างชุดที่มาติดตั้ง) เลยโทรไปที่กรุงไทยการไฟฟ้า ก็จัดแจงส่งช่างจาก Hello Service (คิดว่าเป็น Subcontract) ผลก็คือน้ำยาหมด คอมพ์เสีย ต้องเปลี่ยน....
อา... ทำไมมันพังง่ายจัง แต่ไม่เป็นไรรับประกัน 5 ปี พอต้นเดือนพฤษภา ส่งช่างมาเปลี่ยนเรียบร้อย คิดค่าน้ำยา + ค่าล้างแอร์ 1500 (1200 + 300) เอ.. ทำไมต้องคิดค่าล้าง ไม่เห็นล้างอะไรอีก ก็เพิ่งล้างไป ผล... แอร์เย็นเหมือนเดิม ค่าไฟลดมาที่ 800 มั่ง เจ็ดร้อยมั่ง.
มาเมื่อคืน มันมาอีกแล้ว.. เสียงซี่ๆๆๆๆ มันจะพังอีกได้ไงหว่า เพิ่งทำไปแค่ 3 เดือน วันนี้เที่ยง 555555 มันเดี่ยงอีกแล้ว มีแต่ลมเย็นน้อยๆ สักพักก็มีแต่พัดลม ขนาดเปิด full power ยังไม่เย็น ส่วนตัวที่ไม่เคยเสียก็เย็นฉ่ำเหมือนเดิม เอ.. ไหงงี้ ทำไงดี เรียกช่างอีกรอบจะมาวันจันทร์ เลยสงสัยว่าถ้ามันพังแบบเดิมจะขอเปลี่ยนเครื่องได้ไหม เรียกว่าขายคืนเพิ่มเงินเอาตัวใหม่ก็ได้ มันเบื่อน่ะครับ เรียกช่างมาทีก็ 535 บาท แล้วถ้าเขาไม่ยอมจะต้องให้ตรวจอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
จากคุณ :
ดุ่ย
- [
16 ส.ค. 46 17:29:18
]