ความคิดเห็นที่ 7
ลูกปืนล้อ Jeep Cherokee คู่หน้า ข้างละเกือบ 8000 จริงๆ ครับ แต่ว่าที่ผมใช้มาวิ่งไปแสนกว่า ของคนในชมรมใช้ไป เกือบสองแสน บางคันใช้ไปเกือบสามแสนแล้วไม่เห็นเสียเลยครับ ขนาดใส่ยาง 31" และเที่ยวออฟโรดกันด้วย
เรื่องกินน้ำมันนี่ยอมรับว่ากินจริงๆ ครับ 4.0L ในเมืองเฉลี่ย 5 - 6 กม/ลิตร แล้วคุณจะเทียบกับรถอะไรดีหล่ะ ผมเห็น VOLVO 940 ,BMW 525i ,ISUZU TROOPER ก็กินน้ำมันเฉลี่ยประมาณนี้เหมือนกัน ทั้งที่เครื่องยนต์เล็กกว่าตั้งเยอะ อย่าเอารถเครื่องเบนซินไปเปรียบกับรถปิคอัพเลยขอร้อง เครื่องคนละชนิดกัน
ส่วนเรื่องราคานี่ผมเห็นด้วยว่าถ้าไม่เสียดายเงินจริง ซื้อมือหนึ่งได้ แต่ถ้าเสียดายเงินหามือสองใช้ดีกว่าคุ้มค่าดี(ราคาหล่นเยอะ) ตอนนี้ผมก็กำลังเก็บเงินไว้ซื้อ Grand Cherokee โฉมใหม่มือสองอยู่ ส่วน Jeep Cherokee เก็บไว้แต่งลุย ไว้เที่ยวออฟโรดไปเลย
ราคาอะไหล่ถ้ารู้แหล่งซื้อไม่แพงเลยครับ เว้นบางอย่างแพงจริงๆ ขอยอมรับ(แต่ไม่ได้เปลี่ยนประจำนี่นา) แต่ถ้าอะไหล่เปลี่ยนตามระยะนี่ไม่แพงกว่ารถยุโรปหรอกครับ อย่าเอารถออฟโรดอเมริกัน ไปเทียบกับรถปิคอัพ 4*4 ญี่ปุ่นเลย คนละคลาสกันครับทั้งเรื่องออฟชั่น และลักษณะการใช้งาน
ส่วนใหญ่ที่ซื้อ Jeep Cherokee ใช้กันไม่ได้ใช้สมรรถนะของรถจริงๆกันเลย ผมเห็นใช้วิ่งในเมืองกันส่วนใหญ่ ไม่เคยได้ลองใช้ในทางออฟโรดกัน ถ้าใช้ในเมืองและใช้รถประจำทุกวัน วันละร่วมร้อยกิโลหรือมากกว่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้ Jeep ครับ กลัวจะบ่นเรื่องค่าน้ำมัน เก็บไว้เที่ยวต่างจังหวัดหรือออฟโรดจะดีกว่า แนะนำให้เป็นรถสำรองสำหรับเที่ยวครับ และใช้ในเมืองบ้างสลับกันไป จะได้ไม่บ่นเรื่องค่าน้ำมันครับ
ผมดีใจที่เมืองไทย มือสองรถ Jeep ราคาหล่นเยอะทำให้ผมได้ใช้รถดี ราคาถูก ถ้าเทียบความคิดผมแล้วถ้าผมไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถเพื่อบรรทุกสิ่งของเป็นประจำ ผมเลือก Jeep Cherokee ครับ ได้รถอเนกประสงค์ ขับเที่ยวได้ ลุยได้ และดูเป็นรถตรวจการณ์ คุ้มค่าเงินที่ซื้อครับ(มือสองนะ) อัตราเร่งมาทันใจ เกาะถนนมากๆ
จากคุณ :
Unknown00
- [
13 ก.ย. 46 16:57:33
]
|
|
|