CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    /*-*/*-*/*-*/ ทดลองขับ 2 รุ่น 2 คัน ราคาใกล้กัน Ford Escape 3.0 & EVEREST 2.5 4AT 4WD /*-*/*-*/*-*/

    ในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ ท่ามกลางงานการที่ยุ่งเหยิงจนบักโกรกยิ่ง
    ผมยังพอมีโอกาสได้ทดลองขับ ฟอร์ด ถึง 2 รุ่นรวด
    ซึ่งเท่ากับว่า ผมได้มีโอกาสทดลองขับรถฟอร์ด จนครบทุกไลน์ที่มีขายในไทย
    ช่วงนี้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งเลเซอร์ เทียร์รา 1.8
    และ เรนเจอร์ 2.5 เทอร์โบ
    (ส่วนรุ่นอื่นๆ ขับมาสด้าเอาก็พอจะรู้เหมือนกันครับ)

    จะยกเว้นก็แค่ เอ็กซ์พลอเรอร์ 4.0 เท่านั้นเอง

    ถึงแม้ว่าเก่าไปแล้ว แต่ก็คงจะเล่าแค่พอสรุป
    เอาไว้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ หากใครที่คิดจะเลือกซื้อรถในตระกูลฟอร์ด
    แล้วยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้อคันไหนดี ในเมื่อภาพรวมระดับราคาใกล้เคียงกัน
    (แม้จะห่างกัน 1 แสนบาทก็ตาม)

    ทั้งคู่ก็คือ
    Escape V6 3.0 ราคา 1,399,000 บาท
    Everest 2.5 Turbo 4WD 4AT ราคา 1,299,000 บาท

    ราคาที่โพสต์ให้นี้คือราคาของรุ่นที่ได้ลองขับ
    เพราะระดับราคาของเอสเคปนั้นอยู่ที่ 1,164,000 - 1,398,000 บาท
    ส่วนเอเวอร์เรสต์ ระดับราคาอยู่ที่ระะหว่าง 1,095,000 - 1,299,000 บาท
    ถือได้ว่าราคาขี่กันอยู่ไม่น้อย

    ผมลองขับ เอสเคป วี6 3.0 ก่อนครับ
    คืนวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยความอนุเคราะห์ของพี่สาวใจดีท่านหนึ่ง
    ผู้ซึ่งพึ่งถอยเจ้าเอสเคปสีดำนี้ออกมาจากโชว์รูมมาได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น
    ถึงแม้จะมิสมควรเปิดเผยว่าเธอผู้นี้เป็นใคร
    แต่ผมคงต้องระบุเธอผู้นี้เอาไว้ว่า เป็นผู้มีอันจะกินท่านหนึ่ง
    เพราะท่านพี่ผู้นี้ ไม่เพียงแต่จะมีอันจะกินทั้งทรัพย์สิน
    และอารมณ์ขันอย่างแรงแล้ว
    ยังกล้าหาญชาญชัยมาก
    มากพอจะให้ไอ้จิมยืมขับรถใหม่ป้ายแดงคันนี้
    ซึ่งก็ต้องขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

    สรุปให้สั้นๆเลยว่า
    จากที่ผมเคยลองขับฝาแฝดร่วมตระกูลอย่าง มาสด้า ทรีบิวต์ มาก่อนแล้ว
    และเคยให้ความเห็นไปว่า
    "ถ้าคุณเคยลองมาสด้า 323 โปรทีเจ แลนติส แอสทีนา บอกได้ว่า แฮนด์ลิง และการตอบสนองของระบบกันสะเทือนเหมือนกัน
    ต่างกันแค่ตำแหน่งเบาะที่สูงขึ้น และโครงสร้างรถมาในแบบ SUV ซึ่งจะทำให้ตัวรถมีคุณสมบัติทั้งด้านดีและไม่ดี
    ที่ยกมาจาก SUV ทั่วไป เสริมเข้าไปด้วย เท่านั้นเอง กำลังของเครื่องยนต์ วี6 DOHC 24 วาล์ว 3,000 ซีซี 201 แรงม้า (PS)
    ฉุดลากตัวรถได้อย่างเหมาะสม อัตราเร่งไม่อืดอาดเกินไป
    แต่ก็ไม่ถึงขั้นพุ่งปรู๊ดเป็นลูกธนู ถือว่าน่าประทับใจไม่เลวสำหรับ SUV " (3 มีนาคม 2003)

    เอาเข้าจริง เมื่อได้ลองขับโดยละเอียดแล้ว ความรู้สึกจากเครื่องยนต์ ก็ยังคงไม่แตกต่างกัน คืออัตราเร่ง
    ยังไม่ถึงกับพุ่งเป็นลูกธนุในช่วงออกตัว แต่พอเข้าช่วงรอบเครื่องยนต์ปานกลาง
    การทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะทำงานราบรื่นดี และช่วยเรียกอัตราเร่งขึ้นมา
    ได้ค่อนข้างไว

    ในช่วงที่ผมกำลังจะข้ามสะพานเหนือสี่แยกบางนา
    ผมเจอโคโรลล่าคันหนึ่ง ขับช้าแต่แล่นขวา โดยมี ไทเกอร์ D-4D X-tra cab สีทองโหลดนิดหน่อย
    ขับจ่ออยู่ ผมกดแตรพอให้โคโรลล่ารู้สึกตัว เพื่อหลบไป แต่ที่แย่คือ โคโรลล่าไม่หลบ แล้วเมื่อลงจากสะพาน
    เพื่อเข้าสู่สี่แยกบางนาแล้ว ผมตัดสินใจกดคันเร่งจนสุดแล้วฉีกแซง
    จากความเร็วปกติ 80-90 กม./ชม. เมื่ออยากเร่งแซง การกดคันเร่งจนสุด
    เพื่อคิกดาวน์ การตอบสนองทำได้ฉับไว และขึ้นนุ่มตามสไตล์ของเครื่อง วี6

    ดี 4 ดี คงเข้าใจผิด นึกว่าผมไปกดแตรไล่เขา ผมเองก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าท่าทางเขาคงจะโมโหนะ
    ผมพยายามจะบอกเขาว่า ผมไม่เเล่นนะ ด้วยการกดคันเร่งหนีไปให้ไกลไปชะลอ แล้วตบจากเลนขวาไปอยู่เลนกลาง
    แต่ ดี 4ดี ยังไม่เลิกตาม โอเค ผมตบซ้าย เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ปล่อยเขาแซงไป ผมไม่อยากเล่นต่อ
    เพราะแค่นี้ มันก็เพียงพอให้ผมได้ทราบแล้วว่า เครื่อง วี6 ตัวนี้ ตอบสนองในช่วงต้นไม่ถึงกับดี
    แต่ในช่วงรอบกลางขึ้นไปเรียกได้ว่า ทำได้ดีจนน่าประะทับใจ

    แต่ สิ่งที่ต้องระวังสักหน่อยคือ
    เมื่อคุณใช้ความเร็วสูง พึงระลึกไว้เสมอว่า
    ด้วยความที่เอสยูวี มักเป็นรถที่ออกแบบมาให้มีพื้นที่ใต้ท้องรถค่อนข้างสูง
    ดังนั้น ต้องระมัดระวังสักหน่อยนะครับ เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุ
    จากการเสียการทรงตัว ยังพอมีอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเอสยูวี
    อีกทั้งระบบกันสะเทือนของเอสเคป จะออกแบบมาเอาใจคนที่
    รักความนุ่มนวลในการขับขี่ มากกว่าเจ้าทรีบิวต์ ซึ่งจะเซ็ตให้แข็งกว่ากันนิดนึง

    เพราะเจ้าเอสเคปนี่ ก็ทำให้ผมมีเสียวเหมือนกันเมื่อใช้ความเร็วขึ้นไปถึง 140 กม./ชม.
    ผมตัดสินใจถอนเท้าขวาจากคันเร่งทันที ส่วนระบบเบรกและพวงมาลัย
    อยู่ในระดับที่สบายใจได้

    อีกทั้งสำหรับผมแล้วตำแหน่งขับของเอสเคป ถึงปรับจนใกล้เคียงกับตัวผม
    ที่สุดแล้ว บางจุด เช่นระยะห่างจากพวงมาลัยถึงตัวผม และตำแหน่งวางขา
    ยังไม่ถึงกับรู้สึกสบายหรือขับถนัดตามท่าขับปกติของผมนัก
    แต่ยังไม่มีปัญหาเรื่องนี้มากเท่าที่ผมเคยเจอในเชฟโรเลต ซาฟิรา
    ซึ่งสำหรับผม คิดว่าเป็นรถที่ออกแบบตำแหน่งคนนั่งขับไม่ดีเอาเสียเลย

    อีกเรื่องคือ คันเร่ง น้ำหนักคันเร่งนั้น ผมพยายามจะเลี้ยงในช่วงที่ขับช้าๆ
    แต่ พอพยายามจะกดปุ๊บ คันเร่งจะลงลึกกว่าที่ผมตั้งใจจะเหยียบอยู่สักนิด

    กล่าวโดยสรุปคือ
    ผมไม่แปลกใจเลยว่า อยู่ดีๆ ทำไมเอสเคปถึงมียอดขายแซงหน้า ซีอาร์-วี ขึ้นมาแล้ว
    ในเดือนมิถุนายน เพราะภาพรวมของรถทั้งการออกแบบ ไปจนถึงสมรรถนะของรถนั่นเอง
    ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเกือบสมบูรณ์แบบ
    ภาพรวม ต้องขอบอกว่า ฟอร์ดทำเอสเคปออกมาได้ค่อนข้างดี

    อย่างไรก็ตาม เอสเคปเอง อาจต้องปรับปรุงในเรื่องของคุณภาพการประกอบ
    จากฟิลิปินส์ในบางคันอยู่บ้าง
    แม้คันที่ผมลองขับนั้น อาจจะยังไม่พบปัญหาใดๆ ก็ตาม
    อีกทั้งการออกแบบรายละเอียดฟังก์ชันการใช้งานของห้องโดยสารในบางจุดนั้น
    ยังไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ขับเท่าไหร่ แถมด้วยระบบกันสะเทือนที่ค่อนข้างนุ่มไปสักนิด
    ซึ่งคงต้องรอการปรับปรุงในรุ่นเปลี่ยนโฉมซึ่ง
    ยังไม่รุ้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด?

    จะให้ดี ฟอร์ดน่าจะนำเข้า เอสเคป ไฮบริดมาขายด้วยน่าจะดี
    แต่รู้ละครับว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก
    เพราะตอนนี้รุ่นไฮบริดต้องประกอบในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
    การส่งลงเรือมาขายเมืองไทย คงต้องเจอภาระทางภาษีมากมายแน่นอน

    ------------------------------------------------------

    ส่วน เอเวอร์เรสต์ 2.5 เทอร์โบ รุ่นท็อป ขับสี่ล้อ
    ผมเพิ่งไปลองขับมา ก็เมื่อตอนที่ศูนย์ฟอร์ด สมุทรปราการ นำรถมาจอดโชว์
    ที่โลตัส สาขาหน้าบ้านผมเมื่อ 2 วันก่อนมานี่เอง
    นัยว่ากระตุ้นแคมเปญ Big biue ทดลองขับรับ 1  ล้าน
    ให้กระหึ่มไปด้วย

    แต่ขอโทษเถอะครับ ผมทดลองขับ โดยไม่มีการชิงโชคร่วมรายการดังกล่าวแต่อย่างใด
    เจ้าหน้าที่ฝึกหัดก้นำผมทดลองรถเลย วนเส้นเดิมที่ผมนิยมใช้ประจำ
    คือเส้นคู่ขนาน บางนา-บางปะกง

    พูดกันแบบตรงไปตรงมา
    เอเวอร์เรสต์ ถือได้ว่าตอบสนองอัตราเร่งในการขับขี่
    ดีกว่า มิตซูบิชิ จี-แวกอน เพราะได้เครื่อง WL-T 2.5 ลิตร
    ดีเซลเทอร์โบ มาช่วยสร้างพละกำลัง
    นั่นคือสิ่งที่น่าประทับใจของเอเวอร์เรสต์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
    (แน่นอนว่า จะไปสู้เครื่อง วี6 3.0 ลิตรของเอสเคป คงเป็นไปไม่ได้
    เพราะเป็นเครื่องที่มีพื้นฐานต่างกันโดยสิ้นเชิง)

    แต่...ต้องทำใจกับเสียงครางของเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มลอดเข้าห้องโดยสาร
    ในช่วงที่ต้องการเรียกพละกำลังทั้งเพื่ออกตัวและเร่งแซง
    อีกทั้งการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ที่ฟอร์ดพัฒนาร่วมกับ Prodrive
    อาจยังมีอาการกระตุกอ่อนๆอยู่บ้าง ไม่ถึงกับน่าตำหนินัก

    ไม่เพียงเท่านั้นแต่คงจะหาความคล่องตัวยาก
    เพราะเป็นรถที่สร้างขึ้นจากเฟรมแชสซีร่วมกับรถกระบะเรนเจอร์
    เพราะตัวรถค่อนข้างหนัก ตอนที่ขับอยู่ รู้สึกได้จากเบาะคนขับเลยว่า
    รถหนักไปทั้งคัน พวงมาลัยเองก็ตอบสนองได้ดีตามลักษณะของตัวรถ
    ระบบเบรก ยังถือว่า พอมีลุ้นอยู่บ้าง

    ขณะที่การเก็บเสียง ในช่วงความเร็วต่ำจนถึงปานกลาง ถือว่าเก็บเสียงได้ดี
    เงียบ และลดความตึงเครียดในการคุมบังคับรถลงไปส่วนหนึ่ง
    (แต่ยังคงรู้สึกได้ถึงความหนักของรถทั้งคันอยู่)
    ส่วนความเร็วที่สูงขึ้นก็ยังพอจะได้ยินเสียงลมเข้ามาบ้าง

    ถึงฟังดูจะมีจุดที่ควรปรับปรุงหลายอย่าง
    แต่ที่น่าชมเชยคือ การปรับแต่งระบบกันสะเทือนที่
    นุ่มนวลและหนักแน่นกว่าคู่แข่ง ทดลองขับเปลี่ยนเลนกระทันหัน
    และทดลองสลาลอมสั้นๆ ถ่ายน้ำหนักจากซ้ายไปขวา
    การตอบสนองถือว่า ดีกว่าที่คาดหมายไว้

    ------------------------------------------

    ทีนี้ คงต้องพูดกันตรงๆว่า
    รถคันไหน เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

    เอสเคปอาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ครอบคลุมได้มากกว่า
    ไม่ว่าคุณจะขับคนเดียว หรือมีคนในครอบครัว สมาชิก 4-5 คน
    ออกต่างจังหวัดแบบที่ไม่ลุยอะไรมากนัก

    แต่เอเวอร์เรสต์ จะรองรับการใช้งานของคนที่มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
    และใช้ชีวิตในต่างจังหวัดค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเหมาะกับการขับไปปิคนิก
    หรือตะลุยทางไกล และใช้ความเร็วเดินทางสบายๆมากกว่า

    จะชอบแบบไหน ก็เลือกกันตามสบายครับ

    เพราะถ้าเป็นผม 2 คันนี้ ให้เลือกกันจริงๆ
    ผมจเลือกเอสเคป และไม่เลือกเอเวอร์เรสต์
    เพราะมันไม่ได้เหมาะกับการใช้งานและรูปแบบชีวิตของผมเลย
    ก็เพียงเท่านั้น

    (และไม่ใช่ผมเท่านั้นที่คิดแบบนี้
    แต่น้องเซลส์ผู้หญิง ที่เพิ่งเข้ามาฝึกงานได้ไม่นานของโชว์รูมนี้
    ก็พยายามจะบอกผมในแบบเดียวกันนี้ตั้งแต่แรกที่เห็นผมเช่นกันครับ
    แหงละผมไม่ได้บอกเธอไปนี่ครับว่าผมทำงานอะไร วางฟอร์ม walk-in เข้าไป
    แบบนี้น่าจะเหมาะที่สุด)

    แต่เอเวอร์เรสต์ อาจจะตรงกับรูปแบบการใช้งานของคุณผู้อ่านท่านอื่นอีกก็ได้
    เพราะในเวลานี้ รถเอสยูวีดัดแปลงจากรถกระบะนั้น
    ที่ผมว่าน่าซื้อหามาใช้จริงๆ ก็คงมี 2 รุ่นเท่านั้น
    คือ เอเวอร์เรสต์ กับ จี-แวกอน นอกนั้น ผมไม่คิดจะแนะนำเลยแม้แต่น้อยครับ

    วันนี้ตรงไปหน่อย
    แต่หวังว่าคงได้สาระประโยชน์กันไปบ้างนะครับ

    แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 47 01:12:16

    จากคุณ : JIMMY - [ 23 ก.ค. 47 01:05:40 ]