ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ควรชดเชยครับ ใครใช้มากก็ต้องจ่ายมาก มัน basic ง่าย ๆ อยู่แล้วครับ ชดเชยแบบนี้ ผมคงออกพวกรถหรู ๆ แต่ใช้เครื่องดีเซลดีกว่า เพราะยังไงก็มีคนชดเชยให้ สบาย ๆ ล้มบนฟูกอีกแล้วครับท่าน แล้วถ้าอย่างนี้ในอนาคต พวกรถจากค่ายต่าง ๆ หันไปคบกับเครื่อง ดีเซลหมด ทีนี้รัฐจะทำอย่างไรล่ะ ชดเชยต่อไปหรือ รถยนจากค่าย ต่าง ๆ น่ะ ตอนนี้มีรุ่นที่ลงเครื่องดีเซลแล้วนะครับ เพียงแต่บริษัท รถในบ้านเราไม่ยอมเอาเข้ามาจำหน่าย แล้วถ้าเขาเอาเข้ามาจำหน่าย แล้วคุณคิดว่าคนจะแห่ไปซื้อรถเครื่องดีเซลกันไหมล่ะ ไม่ต้องชดเชย เราจะได้รู้จักประหยัดกันครับ ไม่อย่างนั้นก็ ผลาญน้ำมันกันเล่นไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ใครจ่ายได้ก็จ่าย แต่ใคร คิดว่าทนจ่ายแบบนี้ต่อไปไม่ไหว ก็ต้อง manage ตัวเองแล้ว ว่าจะต้องทำอย่างไร ถึงจะรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมัน จะขึ้นรถเมล์ จะเดินไปทำงาน จะขึ้น BTS จะดำดิน(รถไฟใต้ดิน) กันก็แล้วแต่ ที่พวกคุณกล่าวว่าขึ้นรถสาธารณะแล้วค่าใช้จ่ายสูงกว่า ใช้รถส่วนตัว นั่นก็จริงครับ ผมเองก็ยอมรับ เพียงแต่ว่ามันคุ้มค่า กว่าในแง่การผลาญทรัพยากรครับ เพราะน้ำมันที่เสียไปนั้นมัน เป็นการผลาญน้ำมันแบบส่วนรวม ไม่ใช่ส่วนตัว ผมถึงบอกว่าเราควร ปล่อยให้ราคาน้ำมันมันลอยตัวจริง ๆ ซะที มันจะเป็นการกระตุ้น ให้คนมีสำนึก (หรือถ้าไม่มีสำนึกก็ต้องควักมากกว่าเดิม) นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 19:48:21 จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ส.ค. 47 19:36:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อก่อนตอนน้ำท่วมกรุงเทพฯ เขาก็กั้นเขื่อนแล้วดูดน้ำออกด้านนอก คนอยู่ด้านในก็สบายเพราะน้ำไม่ท่วม แต่คนนอกเขื่อน น้ำก็ท่วมสูง แล้วยังสูบน้ำมาใส่เรื่อยๆอีก แล้วเมื่อไหร่บ้านเราจะหายท่วม แรกๆก็พอทนได้ นานๆหลายวันเข้าก็ชักจะไม่ไหว สุดท้ายก็แอบทำลายเขื่อน น้ำนอกเขื่อนก็ลดไปนิดนึงจะได้ลำบากเหมือนๆกัน ตอนนี้ผมใช้เบนซินอยู่ก็ชักคิดแบบคนนอกเขื่อนแล้วครับ วันนี้ก็เห็นรถกระบะขับแข่งกันอีก ไม่คิดจะประหยัดกันบ้างเลย เฮ้อ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 47 20:18:17 จากคุณ : ss2498 - [ 11 ส.ค. 47 19:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมไม่เคยสนใจเลขว่าดีเซลมันจะราคาเท่าไหร่(ผมไม่ได้ใช้ดีเซล) เลยคิดว่าควรจะชดเชย เพราะราคาสินค้ามันจะได้ทรงๆไว้ คนส่วนใหญ่ก็น่าจะได้ประโยชน์ เพราะราคาสินค้ามักขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่พอราคาน้ำมันลง ราคาสินค้ามักไม่ค่อยลง หรือลงก็เป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่า แต่วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ เขาทำกราฟให้ดู เลยเห็นว่า ราคาดีเซลนี่ถูกตรึงไว้ที่ 14 บาทกว่าตั้งกะต้นปี ผมเลยเห็นว่า มันชักจะมากไปแล้วแฮะ การอุ้มราคาน้ำมัน มันต้องมีขอบเขต(ขึ้นกะอะไรผมไม่รู้หรอก) ตอนนี้ผมเห็นว่าไม่ควรตรึงราคาแล้วล่ะ อิ อิ จากคุณ : Ont - [ 11 ส.ค. 47 19:57:07 A:61.90.28.190 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่อยากให้ตรึงครับ ถึงแม้ราคาสินค้าจะขึ้นก็คงต้องยอมรับกัน เป็นการรับสภาพโดยถ้วนหน้าไง ไม่งั้นก็จะมีคนกลุ่มนึงได้ อีก กลุ่มนึงเสีย หรือรัฐบาลจะกั๊กเอาไว้ขึ้นหลังเลือกตั้งเสร็จป่าวหว่า จากคุณ : เด็กรับรถ - [ 11 ส.ค. 47 20:11:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในอดีต ผมเห็นด้วยที่จะมีมาตรการตึงราคาน้ำมัน แต่การอุดหนุนมันต้องมีกรอบ มีเพดานที่ชัดเจน ตอนนี้ การอุดหนุนเพื่อคุมต้นทุนค่าขนส่ง เพื่อสกัดไม่ให้ราคาสินค้านั้นไม่น่าจะใช้เหตุผลหลักแล้ว ต้นทุนสินค้าเป็นเท่าไรก็ปล่อยไปตามกลไกตลาดเถิด แต่ให้มีระยะเวลาการปรับตัวสัก 12 เดือน ผู้บริโภคจะได้ปรับตัวตาม ต้นทุนการขนส่งจัดการด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพด้านลอจิสติกส์ดีกว่าครับ และการสร้างโครงการการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลถนัดอยู่แล้วเรื่องอัดเงินมหาศาลมาสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทำเลยครับ การอุดหนุนมันเป็นเรื่องการเมืองมากขึ้นทุกวัน เพราะรัฐต้องการตัวเลขงามๆเอาไว้พยุงตลาดหุ้น สร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพื่อให้มีการใช้จ่าย ฯลฯ แต่มันบิดเบือนประชาชนรู้สึกมั่นใจใน "เศรษฐกิจเสมือนจริง" ที่ท่านป้อนให้เขาเห็น เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือ จากคุณ : Double07 - [ 11 ส.ค. 47 20:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมมีทั้งรถดีเซล และรถเบนซิน ผมจอดรถเบนซินไว้บ้าน ขับดีเซล ลากเกียรด้วย สะใจ น้ำมันมันถูก 21บาทแล้วที่เชียงใหม่ จากคุณ : โลหการ4 - [ 11 ส.ค. 47 20:28:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ออกตัวก่อนนะผมใช้ทั้งดีเซล และเบนซิน ผมไม่เห็นด้วยกับการตรึงราคาเฉพาะดีเซล จริงอยู่ที่การปล่อยให้ดีเซลลอยตัว จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและผู้บริโภค แต่ทุกวันนี้ก็เหมือนกับการโยนภาระให้ผู้บริโภคอยู่แล้วล่ะ อีกอย่างกองทุนก็เป็นกองทุนเดียวกัน เมื่อมีการเก็บรายได้คืน ผู้บริโภคกลุ่มเดิมก็โดนผลกระทบอีก เพราะในเมื่อรัฐจะรณรงค์การประหยัดพลังงาน ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ ก็จะยังไม่ให้ความสำคัญ และตระหนักในเรื่องนี้หรอก จนกว่าจะได้รับผลกระทบจริง อย่าลืมการอุ้มตอนนี้ผู้ที่รับประโยชน์โดยตรงก็คือผู้ประกอบการ แต่ถ้ารัฐจะอุ้มจริงๆ ก็ควรอุ้มเฉพาะดีเซลที่ใช้ในอุตสาหกรรมมากกว่า ส่วนดีเซลหมุนเร็วปล่อยให้ลอยตัวดีกว่า เพราะค่าขนส่งถ้าคิดเป็นต่อหน่วยของสินค้าคงขึ้นไม่มาก ไม่อยากให้เกิดอาการที่รัฐเอาเงินออกมาอุ้ม แล้วเงินหมดเศรษฐกิจอีกครั้ง อีกนิดถามหน่อยเถอะ เมื่อราคาน้ำมันลดลง ราคาสินค้าเคยลดตามด้วยหรือไม่ ทุกวันนี้ผู้ประกอบการบางรายก็ได้กำไรอย่างมากอยู่แล้ว จากคุณ : ABBA-fc - [ 11 ส.ค. 47 20:53:50 A:161.246.51.138 X:161.246.1.32 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดีเซลใช้กับ กิจการหลายๆ อย่างนะครับ อาทิ เกษตร หรือ ประมง .. ถ้ารัฐจะอุ้ม ..ก็น่าจะแยก เป้น ดีเซล ไฮเกรด กะ โลว์เกรด ..สำหรับ ใส่รถ..ดีเซล ที่ ใช้งาน .. กับดีเซลที่ใช้กับเครื่องจักร หรือ เพื่ออุตสาหกรรมเกษตร .. เพื่อบรรเทา ความเดือดร้อนจากการ ..ขึ้นราคาครับ ถ้าขึ้นดีเซล สินค้าทุกประเภท ต้องขึ้นราคาแน่นอน แล้วตอนนั้น รับรองได้ มานั่ง ด่ารัดบาลกันแน่ครับ.. ว่าทำไมไม่คุมราคาสินค้า จากคุณ : หมอดู แม่นๆ - [ 11 ส.ค. 47 21:09:40 A:203.113.50.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้ามูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงกว่าวงเงินที่ใช้ตรึงล่ะครับทำไมจะไม่ตรึงไว้ล่ะท่าน ชาวนาชาวบ้านมีรายได้เท่าชาวกรุงขี่เก๋งก็คงไม่ต้องแคร์หรอก ตรึงไว้ใช่อุดหนุนซะหน่อย เพราะต้องใช้คืนอยู่แล้ว จริงมั้ยครับ จากคุณ : แมน - [ 11 ส.ค. 47 21:14:49 A:203.155.227.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องชดเชยต่อไปครับ เพราะหากไม่ชดเชยสินค้าพาเหรดขึ้นราคาแน่ เพราะอ้างค่าขนส่งแพงขึ้น ต้องเข้าใจว่าสินค้าต่างๆที่เราใช้อยู่ หรือซื้อกิน ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดต้องขนส่งด้วยรถที่ใช้ดีเซล หากดีเซลปล่อยลอยตัวจะตกเกือบๆลิตรละ 20 บาท ของทุกอย่างก็จะแพงขึ้นทันที ยกตัวอย่างง่ายๆ ตอนนี้เราซื้อก๋วยเตี๋ยวชามละ 20-30 บาท หากน้ำมันดีเซลลอยตัวอาจจะปรับราคาขึ้นไปเป็น 30-40 บาท เราจะทำอย่างไร อย่าลืมว่าน้ำมันมีขึ้นมีลงนะครับ ตอนนี้มันขึ้นเพราะปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะปัญหาอิรัก หากแก้ตรงนั้นได้ราคาน้ำมันจะลดลง แต่ขอโทษราคาสินค้าบ้านเราหรือทั่วโลกขึ้นแล้วขึ้นเลยไม่มีลงครับ หากปล่อยดีเซลลอยตัวแล้วราคาสินค้าขึ้น อีก 1-2 ปีข้างหน้าราคาน้ำมันลดลงเหลือลิตรละ 10-12 บาท คุณที่ขอให้ปล่อยดีเซลลอยตัวตอนนี้ คิดว่าราคาสินค้าที่ขึ้นไปแล้วจะลงตามมาหรือไม่?? แน่นอนว่าการตรึงดีเซลเอาไว้อาจจะมีบางคนมองว่าไม่เป็นธรรม แต่ก็จะเดือนร้อนเฉพาะกลุ่ม แต่หากปล่อยให้ราคาสินค้าขึ้นจะเดือนร้อนทั่วประเทศ รวมทั้งคนที่ใช้เบนซินที่นอกจากต้องจ่ายค่าน้ำมันแพงเหมือนปกติแล้ว ยังต้องจ่ายค่าสินค้าอื่นๆแพงขึ้นอีก เหมือนกับโดน 2 เด้งเลยนะ จากคุณ : เอ็กซ์คาลิเบอร์ - [ 11 ส.ค. 47 21:21:22 A:172.16.23.131 X:203.150.202.226 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าจะอุ้มไว้ งั้นก็ได้ครับ ไม่เห็นเป็นไร ใครมีตังก็ถอยรถดีเซลมาดีกว่า ยังไงก็มีคนอุ้มค่าน้ำมันให้เราใช้กัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า สบายใจ ก็คล้าย ๆ กับที่คุณ "โลหการ4" ว่าไว้ล่ะครับ ใครมีเงินหน่อยก็มีรถมันซะ 2 ประเภท เบนซิน กับ ดีเซล ตอนนี้เบนซินแพงก็ขับดีเซล เคยมีคนคิดไว้อยู่ช่วงนึงแต่ก่อนว่าจะให้คนสลับกันอนุญาติ ให้รถทะเบียนคู่วิ่งวันคู่ รถทะเบียนคี่วิ่งวันคี่ โอ๊ย... ได้ยินแล้วขำจะไปยากอะไรกัน ก็หารถอีกคันให้มันครบ ทั้งวันคู่วันคี่ไปเลย 5 5 5 ไม่เดือดร้อนอีกแล้วครับท่าน จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 ส.ค. 47 21:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันมองกันได้หลายแง่มุมครับ........ถ้าไม่อุ้มดีเซล คนไทยทุกคนไม่ว่าจนหรือรวยใช้รถหรือไม่ใช้ถูกผลกระทบทันทีอย่างถ้วนหน้าครับเพราะของทุกอย่างทุกชนิดต้องขึ้นราคาแน่นอน......ถ้าอุ้มอยู่ในขณะนี้ผลเสียก็จำนวนเงินที่มาอุ้มอยู่จะเอาที่ไหนมาชดใช้คืนภายหลัง แต่ในตอนนี้คิดว่าเงินที่เอามาอุ้มรัฐยังคงรับมือได้แต่ต้องมีขีดจำกัดไม่ใช่ปล่อยจนรัฐรับไม่ไหวเพียงเพื่อคะแนนเสียงความนิยมอย่างนี้มันก็ไม่ถูกต้อง ครับ......อุ้มไม่อุ้มรัฐรู้ดีที่สุดแต่รัฐมีเหตุผลอื่นๆอีกนี่ครับ จากคุณ : 13 - [ 11 ส.ค. 47 22:08:44 A:61.90.58.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ครับท่าน ผู้มีอันจะกิน กระผมใช้ดีเซลสูบเดียว ไปทำงานทีได้นั่งเป็นสิบคน พวกผมทำงานถ้าคิดเป็นรายได้ก็วันละร้อยกว่าบาทต่อคน ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างที่ คห#10 ว่าพวกผมนี่จะแย่มากครับ ถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวเบิ้ลสักสองชามนี่คงต้องคิดนานหลายวันเลย แทนที่เราจะปล่อยให้ดีเซลลอยตัว เรามาปลูกจิตสำนึกของคนให้จริงจังกว่านี้สักหน่อยไม่ดีกว่าหรือ ถึงจะเป็นไปได้น้อยก็ยังดีกว่าปล่อยให้และแทะแล้วไม่ทำอะไร ผมไม่ค่อยรู้ชีวิตในเมืองหรอกครับ เท่าที่ผมรู้ คือผมจะต้องใช้น้ำมันได้อย่างคุ้มค่าที่สุด รถผมแม้มันจะไม่เร็ว ไม่นิ่ม แต่มันขนคนได้เยอะ ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั่วประเทศได้ครับ ถ้าลองให้คนกรุงมาใช้คูโบต้า เหมือนผมดูดิ เรื่องน้ำมันนี่เป็นปัญหาเล็กไปเลย จากคุณ : pok_dinpong - [ 11 ส.ค. 47 22:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่น่าจะพยุงต่อไปครับ ความจริงก็คือความจรงอยู่ดี ถึงตอนนี้ก็น่าจะค่อยๆปรับขึ้นแบบเบนซินได้แล้วแต่อาจจะช้าๆหน่อยจะไรบกันได้ ผมว่าสินค้าจะขึ้นก็ขึ้นก็ประหยัดกิน-ใช้อย่างอื่นไปด้วย แล้วก็หาทางแก้กันไป จะเป็น ไบโอดีเซล,ก๊าซโซลฮอล ก็เร่งมือจริงจังกันซะที แต่ที่รู้สึกว่าน่าจะทำก็เมื่อไหร่จะ งดภาษีสำหรับพวกรถไฮบริดจ์ซะที จากคุณ : AFman - [ 11 ส.ค. 47 23:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอพูดตรงๆ 1.เวลาที่น้ำมันราคายังไม่สูงนัก ไม่มีใครบ่น พอเวลาน้ำมันแพงขึ้นทีไร ค่อยมารณรงค์ประหยัดพลังงานกันที ลูบหน้าปะจมูกอย่างนี้กันเรื่อยมา พยายามจะคิดสร้างค่านิยมใหม่ขึ้นมา แต่ก็ออกมาเหมือนเกมหม้อข้าวหม้อแกงที่เล่นกันพักๆก็เลิกไป 2.ผมว่า พระเจ้าทรงคิดทั้งถูกและผิด ที่ดลบันดาลให้ มีน้ำมันเกิดขึ้นอยู่ในเขตอาหรับเป็นหลัก...... แต่เอาเถอะครับ เรามาแก้ปัญหากันดีกว่า เรื่องนั้นมันกลายเป็นประวัติศาสตร์เกินจะย้อนไปแก้เสียแล้ว ------------------------------------------ 3. ผมว่าได้เวลาแล้วที่จะต้องค่อยๆขยักราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปอีกไม่เกิน 2-2.50 บาท เพราะการที่รัฐต้องกู้เงินมาอุ้มกันอย่างต่อเนื่องแบบนี้ มันก็ส่อแววให้เห็นชัดเลยว่า หากเป็นอย่างนี้เรื่อยไป ไม่แคล้ว รัฐก็ยิ่งก่อหนี้เพิ่มขึ้น และยิ่ง ศก.ทั่วโลกมันจะยัง ฝืดเคืองอย่างนี้เพราะฝีมือโจรบ้าห้าร้อยแถวตะวันออกกลางที่มันไม่เคยคิดยี่หระเรื่องน้ำมันอยู่แล้ว (เพราะมันเหลือกินเหลือใช้) ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเรา จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะนำไปสู่ปัญหา ศก. ระลอกใหม่อีกครั้ง.... 4.ผมมองว่า ช่วงนี้คือช่วงแรกที่ราคาน้ำมันจะเริ่ม ขยับเพดานขึ้น จากระดับที่เคยเป็น การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน สอดคล้องกับปริมาณน้ำมันของโลกที่นับวันจะร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ จากคุณ : JIMMY - [ 11 ส.ค. 47 23:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ 14 ครับ ภาษีรถไฮบริด เขาลดให้แล้วนะครับ จากคุณ : JIMMY - [ 11 ส.ค. 47 23:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อันที่จริงเบนซินนี่ไม่น่าตรึง ควรปล่อยลอยตัวตั้งแต่แรก ส่วนดีเซลควรค่อยๆขยับราคา(คล้ายก๊าซหุงต้ม) หรือมีมาตรการเป็นรายๆไป แต่เกมส์ที่อ่านผิดนี่ เขาจะหาทางลงยังไงเพราะเงินก็หมดแล้ว ทางที่ดีคงต้องยอมค่อยๆเจ็บตัว เสียหน้านิดหน่อยดีกว่าจะเสียระยะยาวนะครับ จากคุณ : U D (U D kk) - [ วันแม่แห่งชาติ 01:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับคุณ JIMMY ค่ะ ที่จะให้ค่อย ๆ ขยักราคาน้ำมัน ดีเซลขึ้นสัก 2 - 3 บาท เพราะถ้าปล่อยราคาน้ำมันลอยตัว อย่างที่เราทราบ ๆ กันคือ ราคาสินค้าจะพุ่งขึ้น แต่ถ้าถามว่า ถ้าราคาน้ำมันลดลง ราคาสินค้าตย่อมไม่ลดตามอยู่แล้ว แล้วผู้ประกอบการจะได้กำไรนั้น ก็ไม่เสมอไปค่ะ เพราะเนื่องจากการปรับราคาของ "วัตถุดิบ" ที่จะขยับสูงขึ้น ก่อนเป็นสำคัญ เมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคาสินค้าก็ต้อง สูงขึ้นอยู่แล้ว ในขณะที่พนักงานกินเงินเดือน สิ้นปีเงินเดือน ปรับทีละประมาณ 10% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อราว ๆ 5% บวกกับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอีกราว ๆ 10 - 15 % ถามว่า คุณยังจะคิดว่าเงินเดือนของคุณได้เพิ่มหรือไม่ มันน่าจะ กลายเป็นว่าค่าจ้างที่แท้จริงของคุณน้อยกว่าความเป็นจริง มากกว่ามั่งคะ แล้วชาวไร่ ชาวนา ชาวประมงหล่ะคะ นอกจากเขาจะไม่ได้เงินเดือน แต่เขากลับต้องมารับภาระ สินค้าที่สูงขึ้นตามหรือคะ ... ปล. คาดว่าหลังจากเลือกตั้งผู้ว่า ฯ กรุงเทพหนนี้คงจะได้ เห็นว่าราคาน้ำมันดีเซลน่าจะขึ้นนะคะ จากคุณ : คะน้าแปดกลีบ - [ วันแม่แห่งชาติ 02:05:54 A:203.148.176.20 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก็ไม่ควรจะตรึงราคาแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่จะให้ปล่อยลอยตัวเลยก็อาจจะไม่ดี ดังนั้นคิดว่าให้มีราคาห่างจากเบนซิลซัก 2 - 3 บาท น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะประชาชนควรจะได้รับรู้ถึงสภาวะที่แท้จริง ไม่ยังงั้นเดี่ยวฟองสบู่ก็แตกอีกรอบ รอบนี้สงสัยเงินหมดคลังแน่นอน จากคุณ : SUPERGUMP - [ วันแม่แห่งชาติ 02:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าไม่ตรึงราคารับลอง10000000000%ของใช้ทุกอย่างขึ้นอีกเท่าตัวไม่ว่ารถประจำทางของกินของใช้ ค่าไฟ ค่าน้ำ อีกเพียบเพราะระบบการขนส่งยังใช้ดีเซล คนที่ไม่ตรึงราคาส่วนมากใช้แต่เบนซิน ควรมองคนที่ไม่มีรถและคนจน แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 05:07:27 จากคุณ : byy - [ วันแม่แห่งชาติ 05:05:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณคิดว่าการที่คุณไม่ต้องแบกรับภาระจากปล่อยค่าราคาดีเซล ที่จะเป็นสาเหตุของสินค้าขึ้นราคา เป็นเรื่องที่ควรแล้ว ลองเปิดมุมมองให้กว้างไกลหน่อย และคิดให้ดีๆนะ ตรึงไว้จนเงินกองทุนหมด แล้วกู้ยืมมาชดเชยให้ต่อ เป็นทางออกที่ดีแล้วหรือ ลืมไปแล้วใช่หรือไม่กับเหตุการณ์ที่รัฐต้องแบกรับภาระหนี้ จนเศรษฐกิจเกือบล้มหนะ แล้วภาวะขาดดุลเงินสะพัดขณะนี้เกิดจากอะไรบ้าง คงไม่ต้องบอกนะ ไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นอีก ระวังให้ดีปลายอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิด และไม่สนใจในขณะนี้ เกิดซ้ำอีกครั้ง การชะลอตัวต่างๆ กำลังจะเกิดขึ้น ลองสังเกตจากภาคอุตสาหกรรมกันเอาเอง อย่ามองในมุมที่คุณไม่เดือดร้อนคุณถึงจะพอใจ จากคุณ : มุมหนึ่งในสังคม - [ วันแม่แห่งชาติ 09:03:34 A:203.172.70.28 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 อีกนิดนะ อย่าตื่นตระหนกกับอะไรจนเกินไป กล้าเผชิญกับความเป็นจริงกันหน่อย อย่าอยู่กับการสร้างภาพ หากนึกไม่ออกลองศึกษาจากประเทศเปรูเอานะ การชะลอตัวที่อาจจะเกิดขึ้น เกิดขึ้นทั้งโลกนะไม่ใช่เฉพาะในประเทศ เตรียมรับมือ เตรียมเก็บออมไว้ล่วงหน้าก็ดี จากคุณ : มองอยู่ - [ วันแม่แห่งชาติ 09:12:28 A:203.172.70.28 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 เอาแบบพอประมาณ ให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้โดยไม่กระทบต่อทุกสิ่ง **โปรดช่วยกันประหยัดพลังงานครับ** จากคุณ : oxygen (ฮ พอตเตอร์+กริฟฟินดอร์) - [ วันแม่แห่งชาติ 09:44:44 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เนื่องจาก ผมเดินทาง ด้วย ระบบ ขนส่งมากกว่า ที่จะนำรถไปเอง ผมเห็นว่า น่าจะตรึงราคาเอาไว้ก่อน เพราะ รถโดยสารเอย (พวก มินิบัส ก็ฮื่มๆ จะขึ้นอยู่) เมื่อ ดีเซลแพง สิ่งต่างๆ ก็จะแพงขึ้นมาด้วย เช่น ค่าไฟ (บางแห่ง ก็ยังต้องให้น้ำมันดีเซลในการผลิต) ค่าเดินทาง ค่าอาหาร เพราะ มันเกี่ยวเนื่องกับ ค่าขนส่ง แค่ธรรมดา ดีเซลไม่ขึ้น พ่อค้า ก็หาเรื่องจะขึ้นราคา สินค้าแล้ว ตอนนี้ ถ้าจะมองในแง่ ที่ว่า คนที่ไม่ต้องการให้ตรึง ส่วนมาก จะใช้ เบนซิน ผมว่าก็ถูกนะครับ เพราะอะไรหรือ คนเราไงครับ มักจะไม่ยอมเสียเปรียบ กัน ถ้าพวกคนพวกนั้นใช้ดีเซลอยู่ ก็จะเงียบ ทำใมไม่คิด ถึง คนอื่นๆที่ยังต้องเดินทางด้วย ระบบขนส่ง ล่ะครับพวกเขาไม่ได้มีเงินเดือนมากมาย ที่จะสามารถ รับภาระในการเดินทางนะครับ แค่จะกินเขาก็ยังต้องขนมากินเอง จะกินอะไรก็ต้องเลือกแบบ ราคาถูกไว้ก่อน อร่อยหรือไม่ ไม่ต้องคิด เอา อิ่มท้อง ทำงานได้ต่อ   ผมลงไปเจอมาหมดครับ ตั้งแต่ คนงาน ยัน ระดับสูง กินอาหาร จานล่ะ 10 บาท มี เนื้อนิดหน่อย  จนถึง ก้ามปู อันล่ะ 500 (อาจจะไม่สูงสำหรับคนบางคน แต่มันก็สูงแล้วสำหรับผม) มันต่างกันมาก สงสาร คนที่ยังต้องพึ่งพา ระบบขนส่งบ้างครับ รถที่ผมมีอยู่ ก็ ดีเซล แต่ผม ก็ใช้น้อยมากๆ (ถึงขึ้นก็ไม่กระทบกับผมมากนัก)เพราะไปทำงานในเมือง ใช้ระบบขนส่งดีกว่า นั่ง รถประจำทาง ลงเรือ ทำใม คนที่ใช้เบนซิน ถึงไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง มาใช้ระบบขนส่งบ้างล่ะครับ น้ำมันแพง ก็ขึ้นระบบขนส่งสิครับ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 47 10:36:25 จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ วันแม่แห่งชาติ 10:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ว่าดีเชลหรือเบนชินขึ้น ราคาสินค้าก็ขึ้นตามทุกครั้ง ไม่รู้มันเกี่ยวกันตรงไหน ถ้าไม่เชื่อไปเดินดูราคาสินค้าดูซิ จากคุณ : รับกรรม - [ วันแม่แห่งชาติ 10:54:49 A:10.107.253.225 X:202.47.247.130 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณรับกรรม ครับ..ราคาสินค้าบางชนิดจำเป้นต้องขึ้น ..เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้น ถึงรัฐจะอุ้มราคาน้ำมันใน ประเทศ ..แต่ราคาในต่างประเทศที่ลอยตัวน้ำมัน ..มีผล ให้..วัตถุดิบที่ต้องนำเข้าปรับราคาสูง ขึ้นนะครับ จากคุณ : หมอดู แม่นๆ - [ วันแม่แห่งชาติ 11:19:02 A:203.113.50.139 X:203.150.217.116 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ30ปีที่แล้วดีเซลลิตรละ2บาทกว่า ถัดมาอีก10ปีเพิ่มเป็นลิตรละ4-5บาท และเมื่อสิบปีที่แล้วลิตรละ8-9บาท ปัจจุบัน14.5บาทกว่า การตรึงราคามันควรมีขอบเขต และข้อกำหนดที่สมเหตุผลเพราะที่รัฐตรึงดีเซลก็เพื่อพยุงเศรษฐกิจ กลัวเกิดเงินเฟ้อในเงินฝืด และที่สำคัญก็คือใกล้เลือกตั้งใหญ่เข้ามาทุกที ดังนั้นผมฟันธงได้เลยว่ารัฐต้องกัดฟันเชือนเนื้อหนูไปปะเนื้อช้างตรึงต่อไปจนพ้นการเลือกตั้งแน่นอน หลังเลือกตั้งดีเซลถึงจะขยับขึ้นราคา ดูจากสถานการณ์ทั่วไปแล้วเชื่อแน่ว่าคงหาน้ำมันราคา12-14บาทไม่ได้แล้ว เราคงต้องทำใจยอมรับราคาน้ำมันที่20บาทขึ้นไปในอนาคตจึงอยากเสนอแนวทางการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้พิจารณา(ไม่รู้ว่าเพื่อนสมาชิกจะเห็นด้วยมั้ย) คือ 1.ดีเซลเพื่อการผลิตไฟฟ้า,กำเนิดพลังงานในระบบอุตสาหกรรม (น้ำมันเตา) ควรขึ้นแบบมีขอบเขตเพื่อการพยุงเศรษฐกิจ คือรัฐจะอุดหนุนบ้างก็ไม่น่าเกลียด แล้วค่อยๆหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อขยับราคาเข้าใกล้กับราคาจริงมากที่สุดจนสามารถตั้งเกินราคาจริงเพื่อหาเงินคืนให้รัฐ 2.น้ำมันดีเซลที่ใช้กันทั่วไปหาเติมได้ตามปั๊มน้ำมันควรขึ้นตามราคาจริงเช่นเดียวกับเบนซิน แต่มีข้อแม้การอุดหนุนชดเชยสำหรับกิจการรถขนส่งสาธารณะ,ขนส่งเอกชน,การเกษตร,รถบรรทุกสินค้าเพิ่อการค้าจริงๆ,รถปิคอัพที่ใช้บรรทุกจริงๆ โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งและการค้าและเกษตรกรนำหลักฐานพร้อมนำรถมาตรวจสภาพว่าใช้งานจริงมาลงทะเบียน เหมือนกับที่รัฐประกาศให้ลงทะเบียนคนจนนั่นแหละ เพื่อมาซื้อคูปองเติมน้ำมันจากรัฐ ขั้นตอนนี้รัฐก็สามารถสแกนได้ว่ารถใครใช่งานจริงไม่ได้เป็นรถหรูที่ใช้ดีเซล เพราะสามารถให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบได้ ใครไม่มาลงทะเบียนก็แสดงว่าไม่เดือดร้อนต้องเติมดีเซลในราคาตลาดปกติ และวิธีนี้รัฐก็สามารถขยับราคาขึ้นได้ตามจังหวะเวลาที่เห็นว่าเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ จนกระทั่งสามารถเลิกจำหน่ายคูปองได้ แต่ที่สำคัญต้องวางมาตรการป้องกันการทุจริตไว้ให้รัดกุมล่วงหน้าด้วย สรุปว่าผมเห็นว่ารัฐควรปรับขึ้นราคาดีเซลให้ลอยตัวแบบมีเงื่อนไข เพราะทุกวันนี้เห็นท่านๆขับปิคอัพที่หรูพอๆกะรถเก๋งกันเต็มบ้านเต็มเมือง ขึ้นราคาดีเซลไปท่านก็ไม่รู้สึกหรอกก็คนมีตังค์น่ะ สงสารคนมีรถมอไซค์เก่าๆขี่นี่ซิแย่เหมือนกันนะ จากคุณ : ลุงดี (Mr5OBL) - [ วันแม่แห่งชาติ 11:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ครับ คุณ jimmy ที่ลดภาษีให้แต่ผมว่ามันก็ยังไม่พอ ผมมีความรู้สึกว่าเราน่าจะ ยกเว้นและสนับสนุนเรื่องนี้ให้มากที่สุดครับ ถ้าราคารถไฮบริดจ์ สัก7-8แสนผมจะซื้อครับ รัฐน่าจะเอาจริงมากกว่านี้ครับ อีกอย่างอยากขอความรู้จาก ผู้ที่เข้ามาอ่านครับ ว่าทำไมเราถึงผสมแอลกอฮอล์ ในน้ำมันเบนซินได้เพียง10 เปอร์เซน ถ้ามากกว่านี้ เช่น มากกว่า50เปอร์เซน จะมีผลอย่างไร หรือการออกแบบเครื่องยนต์ต้องเป็นย่างไร เคยเห็นรถแข่งบางประเภทในอเมริกา ก็ใช้เอธานอลนิครับ ขอเป็นความรู้หน่อยครับ ถ้าทำได้เราก็น่าจะกำหนดเป็นม่ตราฐานของเรา อย่างน้อยก็ยังซื้อของที่ผลิตในประเทศได้ เกษตรกร จะได้เป็นเกษตรอุตสาหกรรมซะที จากคุณ : AFman - [ วันแม่แห่งชาติ 11:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ต้องเอาปัจจัยร่วมอื่นๆที่มีผลกระทบที่เป็นตัวเลขที่แท้จริงมาวิเคราะห์ร่วมกันจึงจะบอกได้ว่า ตอนนี้ต้องอุ้มหรือไม่อุ้มแต่แนวคิดเรื่องอุ้มนั้นเบื้องต้นนั้นถูกต้องแล้ว เราอย่าเอาการผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรี เกินไป มาทำลายความมั่นคง(ที่อ่อนไหวเพราะเรายังเป็นประเทศที่เช่าจมูกเขาอยู่)ทางพลังงานของเรา ไปผูกติดไว้กับระบบผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรีจนเกินไป ผมเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่าได้ทำลายระบบป้องกันแบบฝ๋าย ป.ต.ท ด้วยการให้มีการผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรีเกินไป แล้วกับนโยบายกระสอบทรายกันน้ำ(อุ้มราคา) ( (คุณ ความคิดเห็นที่สองกำลังจะหาว่าผมก็อป เปล่าครั้บมุขนี้ผมใช้มานานแล้วถ้าบังเอิญเหมือน ก็เชคได้) นโยบายกระสอบทรายกันน้ำท่วมพันปีนี้ ผมบอกตั้งแต่ต้นว่า สถานการณ์โลกแบบนี้ มันไปหวังอะไร?ไม่ได้ในทั้งภาพรวม เอาอยู่ยากกระสอบทรายมันจะเอาอะไรมายั่งยืนได้หล่ะ? แต่ผมคิดว่าในเมื่อคนที่อยู่ริมแม่น้ำนั้นเอาไม่อยู่จริง ทำไปก็ตายเปล่า แต่ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญกว่า คือไร่นาสวนผสม ของผู้คนอีกกี่ล้านปาก ตรงนั้นต่างหากที่ตั้งเอาให้อยู่(มิติที่จะมีผลกระทบรุนแรง) ผมจึงไม่ฟันธงว่าอุ้มไม่อุ้มขนาดไหน?ภาคไหนบ้างเพราะไม่มีข้อมูลในมือ เพราะภาพรวมของความเป็นหนึ่งในนั้น มันมีทั้งปัจจัยมันละเอียดอ่อนมาก เช่นไปแล้วเอากลับยาก ทั้งที่ควรกลับ แม้แต่จะใช้มาตรการจนถึงคำว่าต้องบังคับเอากลับเอากลับ แบบจับปูใส่กระด้งนั้นยากกว่าการป้องกัน มิตินี้ละเอียดอ่อนกว่าภาพเศรษฐกิจ เพราะภาพเศรษฐกิจนั้นจะต้องสะท้อนภาพที่เป็นจริง ต้องสมดุล ไม่ใช่แกล้งให้สมดุล หลอกตัวเองไม่ได้หรอกคนอื่นด้วยเดี๋ยวมันก็โผล่ ? ผมจึงเห็นว่าในแม้กระสอบทราบเอาไม่อยู่ ในรัสมีนั้น เราก็ยังมีเวลาในการสร้างแนวป้องกันส่วนอื่นในภาพรวมที่จะเสียหายเยอะมากกว่านั้นไปอีก ดังนั้นกระสอบทรายยังมีประโยชน์(อุ้ม)ในบางมิติบางส่วนต่อภาคธุรกิจหรือในอีกชุมชนอื่นๆ ไม่ควรยกเลิกอย่างสิ้นเชิง นั้นคือมาตรการเฉพาะหน้า และต่อมาผมเห็นว่า เราเลิกให้คนไทยใช้น้ำมันผ่านนายหน้า หลายต่อได้ใหม่?ตัดต้นทุนที่ไม่จำเป็นที่เป็นภาระแก่คนไทยคือนายหน้า เท่าที่ทำได้(นี่แหล่ะที่ผมบอกว่าเราเอาจมูกของเราไปเช่าผ่านการผูกขาดด้วยระบบทุนนิยมอย่างเสรีในการสร้างผลต่างตอบแทน เฉพาะบางกลุ่มทุน เป็นการรักษาผลประโยชน์กลุ่มทุน ไม่ใช่ประชาชน) เช่นยกเลิกอ้างอิงสิงคโปร หรือซื้อผ่านนายหน้าสิงคโปร แล้วหันไปซื้อตรงผ่านการขายแบบต่างตอบแทนระหว่างนโยบายประเทศต่อประเทศ (อันนี้อาจจะได้หรือไม่ได้ในรายละเอียดข้อมูล) แต่การยกเลิกผุกขาดนายหน้าถ้าทำได้ต้องทำต้องเอาประเทศก่อนกลุ่มทุน เท่าที่พอมีข้อมูลรู้สึกเราจะทำได้เลย ถ้าไม่กลัวว่าผลต่างตอบแทนระหว่างบริษัท?ต่อ บริษัท(ป.ต.ท)ตอนนี้เราต้องเอาประชาชนจริงแล้วหล่ะ เพราะถ้าไม่รอด ป.ต.ท ก็ไม่รอดไม่ใช่อุ้มเฉพาะใคร?มันเป็นวาระแห่งชาติแล้ว และหาการค้าต่างตอบแทนกับประเทศผู้ค้าน้ำมันในแบบอื่นๆที่ไม่ผ่านระบบตลาดรวม กับการซื้อขายดั่งเดิมคือเอาของไปแลกของ เพราะของบางอย่างมันมีค่าด้านความสัมพันธ์และการเจรจามากกว่ามูลค่าจริงๆของของนั้น แล้วมาตรการระดับเร่งด่วนรองลงมาพลังงานทดแทนนั้น ทั้งที่โดยศักยภาพ ผมโพสและ พูดไว้หลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนมีสเตอร์เอธานอล(อลงกรฯอีก) ว่า เมืองไทยถ้าจับจุดให้ได้ให้ดี ถึงขนาดจะเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันทดแทนแบบใหม่ของโลก? ผมตั้งกระทู้ไว้หลายเว็ปท์อื่นๆและก่อนจะรู้จักพันทิพย์ด้วยซ้ำแม้จะใส่จินตนาการใส่สีสัน(โม้ถึงส่งออก)ลงไปบ้าง แต่ทั้งหมดมีความเป็นไปได้ แต่เวลาไหน?แค่นั้นเอง และความจำเป็นตามเหตุปัจจัยไหน?ด้วย ที่สำคัญเอาจริงเมื่อไหร่? ผมเห็นแต่พูดทีเปลี่ยนรัฐบาลเก็บพับไว้ ไม่มีรัฐบาลไหน?ไม่มีรัฐบาลไหน?เป็นรูปธรรมตามแบบที่ผมคาดหวังเลยแม้รัฐบาลนี้จะมารื้อใหม่พูดใหม่ผมก็ยังไม่มั่นใจ? ว่าจะเอาชนะการผูกขาดด้วยกลุ่มทุนนิยมอย่างเสรีได้หรือไม่? แนวคิดเรื่องน้ำมันทดแทนนี้แหล่ะคือต้องใช้แนวคิดแบบกบกระโดดที่แท้จริงๆ นั้นคือการร่วมมือดึงศักยภาพแบบมืออาชีพ เช่น บราซิลหรือใครอีกที่เขาหรือเราไม่ต้องไปลองผิดลองถูก แต่การลองถูกแบบก้าวกระโดดจะต้องเกิดขึ้นได้ เพราะเรามีฐาน การเกษตรรองรับทั้งเราและภูมิภาค การผลิต เอทธานอลหรือไบโอฯ ได้ยินว่าเรื่องนี้รัฐกำลังจะทำอยู่และผมสนับสนุนอย่างยิ่ง แต่ที่ผมอยากเห็นคือรูปธรรม ผมจำได้ว่าเรื่องนี้ถูกคิดถูกนำเสนอมาหลายครั้งหลายรัฐบาล แต่ไม่มีใครเอาจริงสักทีจนสามารถดึงเอาศักยภาพจริงๆของเราออกมาใช้ได้ แล้วแผนการใช้พลังงานทดแทนอันเดิม ที่วางไว้กับมิติการคิดแบบอนาล็อกของคอมรุ่น 8บริดสมัยเก่านั้น แผนนั้นเอาไปเผาซะ? ถ้าเขียนไม่ได้ไม่เป็นไร?รอๆผมนั่งทางในใช้หมองฯแบบอิกคิวฯก่อนให้เข้าที่ก่อนจะมาร่างให้ใหม่ให้ดู(แอบเข้ามาบ่อยๆแล้วกัน เพราะผมขยันไล่แจกจริงๆไล่แจกมานานหลายปีแล้วก็เหมือนเดิม) แหะๆใครอย่าอ้วก กับอารมย์โมโหจนโม้เป็นการส่วนตัว และเรื่องนี้ทุกคนรู้แต่ขาดคนทำ?ให้ฟรีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ศักยภาพตรงนี้มันเป็นจริงมานนานแล้วแต่เราไม่หยิบออกมาใช้เสียที ไม่ต้องกลัวแล้วและกับข้ออ้างเรื่องอะไร? ความมั่นคงพลังงานโลกจะเป็นอย่างไร? เอาตัวจมูกเราให้เป็นเราก่อนวิกฤตพลังงานโลกจะร้อนยังงัย เอาให้เราสร้างได้ปลูกได้ แต่ของเขามีมากหรือน้อยจริงแต่มีแบบมีหมด(พลังงานฟอสซิล) และพลังทดแทนตัวอื่นอีกนาน(ถ้ามองที่ความคุ้มทุนกับระยะยาวและกว่าจะข้ามผ่าน เรื่องนี้เราก็ไปถึงไหน?หรือมีจมูกหายใจแล้ว การสร้างจะมูกหายใจนี้จึงเป็นวาระแห่งชาติ ที่ไม่ใช่แค่ชาติเราชาติเดียวการแสวงหาทางรอดแบบก้าวกระโดดนี้ เห็นญี่ปุ่นมันสร้างสะพาน ตอนสงครามไหม? แม้นั้นคือการรุกรานแต่นี่คือความอยู่รอด? จากคุณ : ตอม - [ วันแม่แห่งชาติ 11:50:38 A:61.90.55.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 อ้อเดี๋ยวใครจะกล่าวหา ว่าผมไปว่ารัฐฯเขาแบบไม่เป็นธรรม หาว่ารักษาหรือเข้าข้างกลุ่มทุนบ.น้ำมัน แล้วที่เขาเอาเงินอุดหนุนราคาน้ำมันนี้หล่ะ? เหอะเหอะ ผมว่าอัถยายซื้อขนมยายมากกว่า ง่ายๆคือเมื่อระบบมันทำให้มีการจ่ายเงินซื้อ มาแพง คนใช้ก็แพง แม้จะอุ้มให้เห็นภาพเหมือนแฟร์ แต่เงินภาษีประชาชนต่างหากจ่ายส่วนที่เหลือทางอ้อม เพราะระบบเริ่มต้นที่แพงมาแล้ว จะเคลื่อนกายย้ายจุดเอาอัถยายไปซื้อขนมยาย ยังงัยก็คือเงินยาย(ภาษี) แถมจะเอายายแก่ๆเป็นโรคหอบเพราะยังไม่ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจ(ยืมจมูกเขาหายใจทางพลังงาน)ไปอุ้มนายทุน เหนื่อยแทนยายจริงๆ จากคุณ : ตอม - [ วันแม่แห่งชาติ 12:17:14 A:61.90.55.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ้อเอายายแก่ๆ ไปอุ้มนายทุน แถมพ่วงเด็กๆที่เล่นซนตามธรรมชาติ ปะสาเด็ก(ใช้น้ำมันกันไม่ประหยัดบังคับเขาจริงๆไม่ได้หรอก)คนไทยจ่ายดี ต่างชาติใครๆก็รู้ จริงๆเขาพูดคำว่าใจดีได้แต่ เขาเข้าใจคำว่าจ่ายดีกว่าโดยเฉพาะนายหน้า คอรัปชั่น นิสัยฟุ้งเฟ้อของเราก็ด้วย อย่าพึ่งไล่ผมไปอยู่ประเทศอื่นหล่ะ เพราะเป็นห่วงเพราะรักดอกจึงพูดถึงถ้าไม่รักไม่สนใจ เฉยๆสบายๆเหนื่อยน้อยกว่าด้วย จากคุณ : ตอม - [ วันแม่แห่งชาติ 12:24:54 A:61.90.55.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 โอ้โห!!!!!!!คิดกันได้ไง ผมว่าปล่อยลอยตัวดีกว่า อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดดีกว่านะ มันอาจจะช่วยให้คนไทยรู้จักประหยัดมากขึ้นก็ได้ จากคุณ : winnin_07 (winnin_07) - [ วันแม่แห่งชาติ 12:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เบนซินให้ปล่อยเลยครับ แต่ตรึงราคาดีเซล ไว้ก่อน เพื่อคนส่วนใหญ่ ครับ จากคุณ : แหง่ว - [ วันแม่แห่งชาติ 12:39:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องประหยัด มันมี Limit แล้วครับ คือผมว่าตอนนี้ทุกคนที่ใช้รถเบนซินเค้าก็คงพยายามประหยัดกันอยู่ เช่นขับไม่เกิน 90 เสาร์อาทิตย์ไม่ไปไหนอยู่กลับบ้าน ขับรถไปทำงานอย่างเดียวกันอยู่แล้ว แต่ที่รัฐออกมาบอกว่าเมื่อสามเดือนก่อน มีการใช้น้ำมันลดลง 5% แต่ปัจจุบัน 3% แสดงว่าประชาชนเริ่มไม่ประหยัดแล้ว ผมว่าไม่ถูกนะ ผมว่าไอ้คนมีแล้วแล้วนะมันประหยัดกันถึงที่สุดแล้วจนไม่มีทางประหยัดได้กว่านี้แล้วครับ แต่ที่เพิ่มนะผมว่าน่าจะเป็นพวกคนขับรถหน้าใหม่มากกว่า ก็สังเกตุได้ว่า รถใหม่ออกมาเพียบ (ไม่ได้ว่าพวกออกรถไหมไม่ประหยัดนะครับ แต่หมายถึงจำนวนรถเพิ่มขึ้น น้ำมันที่ใช้ก็จะเพิ่มขึ้นด้วยครับ) แล้วยิ่งภาษีรถถูกลงอีก นี่ยิ่งไปกันใหญ่ ผมว่าผมคงจะไปแก็ส LPG แทนแล้วครับ อย่างน้อยยังไงก็ประหยัดกว่า ดีเซล และเบนซีนแน่นอน จากคุณ : slamdunk - [ วันแม่แห่งชาติ 13:15:56 A:202.183.237.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 เอาเงินหลวงที่ควรใช้พัฒนาประเทศไปอุดรูโหว่สร้างภาพให้ทีมบริหารประเทศ หลอกกันไปเรื่อยๆว่า ศก.ดี ไม่รู้คิดได้ไง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกโลกอย่างน้อยเราก็ไม่เจ็บไปมากกว่าคนอื่นเท่าไรหรอกครับ ท่านๆทั้งหลาย จากคุณ : ชายน้อยมองเหม่อนั่งเอ๋อริมถนน - [ วันแม่แห่งชาติ 13:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง เชิญ ไปที่ห้องอื่นเลยครับ ตอนนี้ กระทู้ พูดเรื่อง "สมควรหรือไม่สมควร" ไม่ใช่ "ตรึงราคาไว้เพื่อผล.... " หรือเปล่า -------------------------- ถ้าของขึ้นราคา แล้ว ไม่ลงนะครับ อย่างลืมข้อนี้ ปรกติ คุณได้เงินเดือน 20,000 บาท กินข้าวกลางวัน ก๋วยเตี๋ยว ชาม ล่ะ 25-30 ปล่อยลอยตัว เงินเดือน 20,000 บาท กินข้าวกลางวัน ก๋วยเตี๋ยว ชาม ล่ะ 30-35 กว่าเงินเดือนคุณ จะขึ้นก็ปีหน้าล่ะครับ แล้ว พวกที่เงินเดือนน้อยกว่านี้ล่ะครับ ข้าวของ ขึ้น แต่เงินเดือนเขาไม่ขึ้นตามราคาข้าวของนะครับ ตอนนี้ ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ขึ้นราคา ก็บ่นๆกันแล้ว ยิ่ง ดีเซล ขึ้นอีก ค่าแก๊ส หาเรื่องขึ้นราคาอีกแน่ๆ ทุกอย่าง มันต้องขนส่งนะครับ ไม่ใช่ไม่ขน ไม่ใช่ ผลิตหลังบ้านเสร็จ แล้ว ขายหน้าบ้านเลย คุณเป็นผู้บริโภค วิ่งไปซื้อเอง ถ้าเป็นเช่นนั้น ล่ะก็ ขึ้นไปเถอะครับ แต่นี้ คุณต้องการความสะดวกสบายกัน เขาก็ต้องขนเข้ามาขาย ให้คุณได้ไปซื้ออย่างสะดวกสบายไงครับ จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ วันแม่แห่งชาติ 17:06:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าเรามีเงินมากพอจะฝืนกระแสรมันก็พอจะถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ แต่ความเป็นจริงเรามีเงินไม่มากขนาดนั้น และนี่ก็ใกล้หน้าหนาวซึ่งปรกติน้ำมันดิบต้องขึ้นราคาอีกระลอก ทีนี้ถ้ายังคงนโยบายนี้อยู่ และรัฐยังคงใช้เงินจากกองทุนน้ำมันแหล่งเดียว ถ้าโชคดีน้ำมันดิบลดราคาที่ร้อนหน้า แต่น้ำมันเบนซินต้องยืนราคา20บาท 1-2ปี แต่ถ้าเอาเงินมาโปะจากแหล่งอื่น ก็จำเป็นต้องหารายได้จากทางอื่นเช่นขึ้นภาษีแวต ทีนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ลามไปใหญ่โตกว่าราคาน้ำมันล่ะครับ หรืออาจต้องลดรายจ่ายภาคอื่นๆมาโปะเช่นการศึกษาหรือสาธารณสุข ทางออกที่ดีผมเห็นด้วยกับแนวคิด คห.27 รวมถึงเรื่องพลังงานทดแทน ผลกระทบต้องเกิดขึ้นแน่ ผมเองก็เน้นรถดีเซลมากกว่า ก็ต้องยอมรับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น และคงต้องปรับตัวให้กระเทือนให้น้อยที่สุด วางแผนงานให้ดีขึ้น สุดท้ายได้แต่ภาวนาให้ทั้งโลกผ่านภาวะแบบนี้ไปด้วยดีนะครับ จากคุณ : U D (U D kk) - [ วันแม่แห่งชาติ 17:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ควร อย่างน้อยถึงสิ้นปี เพื่อ ให้ภาพรวมทั้งปีดูใช้ได้ ( ในปีที่โชคไม่ดีนัก ในเรื่องสองหวัด ภาคใต้ ... จนถึงกระแสคนเมืองหลวง ที่ว่า ด่ารัฐบาลแล้วดูดี ดูฉลาดทันคน ชื่นชมหรือเฉยๆกับรัฐบาลแล้ว ดูบ้านๆ ดูจริงใจ ซื่อๆ ... เลือกตั้งใหม่แล้ว กระแสนี้คงหายไปซักปีสองปี ... ) คิดว่า เรื่องการจัดการราคาน้ำมัน มันคล้ายๆกับการจัดการน้ำ ด้วยเขื่อน ด้วยคลองชลประทาน ( บังคับฝนตกไม่ได้ อยากมีน้ำไว้ดื่มกิน ก็ต้องมีตุ่ม กลัวน้ำท่วม ก็ต้องสร้างบ้านให้มีใต้ถุนสูง... มันต้องจัดการ ) หรือคล้ายๆกับการจัดการหน่วยความจำ ในคอมพิวเตอร์ พวก Buffer Cache อะไรพวกนี้... แน่นอน การจัดการก็ต้องอ้างอิงแนวโน้มราคาตลาดโลกด้วย คนจัดการเก่ง วางแผนเก่ง ต้องมีการคาดการณ์ ที่ดี การติดตามที่ดีด้วย เรียกว่าต้องจ้อง ต้องเก็ง ต้องคิดทางเป็นไปได้ หาช่องตลอดเวลา จนเมื่อถึง เวลาต้องขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ก็ควรมีการควบคุม การวิเคราะห์ราคาต้นทุนค่าขนส่งที่เปลี่ยนแปลงไป ... จนถึงราคาสิ้นค้าที่เหมาะสม เป็นธรรมกับทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค ถ้าให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด เจ้าของตลาดก็สบาย กลไกตลาดมันต้องตลาดที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ ประเทศไทยยังไม่ถึงเวลาเรื่องตลาดเสรี100% มันต้องเสรีแบบมีการจัดการ ถึงจะเหมาะสมเป็นธรรมกับ คนทั้งประเทศ ( คนอ่อนแอกว่าต้องต่อแต้ม แต่ต้องไม่ต่อกันตลอดไป ต้องเรียนรู้จนเข้มแข็งด้วย... ) ที่ยากน่าจะเป็นว่า คนที่มาจัดการต้องมีความสามารถพอ และ มันเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อย น่าหนักใจทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับการลอยตัว ( คือการเข้าไปแทรกแซงอะไรก็แล้วแต่ มันคล้ายเป็นการฝืนกฎ(ธรรมชาติ) ใน บางแง่มุม (ฝืน=เหนื่อย) - ถ้าจะเรียกว่า การที่ฝนตกแล้วกางร่ม เป็นการฝืนธรรมชาติ ก็ร่มนี่คนสร้างขึ้นมา มันไม่ใช่ธรรมชาตินี่ ตามธรรมชาติจริงๆ ฝนตก ต้องเปียก !!! ) สรุปว่า ควรตรึง โดยที่คนตรึงอย่าโง่ อย่าเผลอ และ อย่าโกง ( อันสุดท้ายนี่...มาตามกระแส ) จากคุณ : รัก(ของ)แม่เหมือนแช่แป้ง - [ วันแม่แห่งชาติ 19:05:53 A:140.83.144.41 X:203.127.99.53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ควรตรึงครับ แต่กับสถานการณ์ในปัจจุบันผมเห็นว่าควรขึ้นไปอีก 2-3 บาท แล้วตรึงไว้ที่ระดับนั้น ส่วนเบนซินปล่อยลอยตัวไปเลยครับ เพราะคิดว่าตอนนี้กองทุนน้ำมันที่ต้องหาเงินมาชดเชยในส่วนที่ตรึงราคาดีเซลมีสูงเกินไป ควรลดภาระลงโดยเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลอีกนิด แล้วก็ไปตรึงไว้ระดับนั้นยันสิ้นปี ถ้าไม่ส่อแววว่าราคาจะลงมา ส่วนน้ำมันเบนซินปล่อยลอยตัวไปเลย 22-25บาทก็ไม่หวันต่อลิตร เพราะคนขับรถเบนซินส่วนใหญ่มีกำลังจ่ายอยู่แล้ว แล้วไม่ค่อยมีผลกระทบต่อราคาสินค้าโดยรวมมาก ไม่อยากให้รัฐบาลสร้างหนีมากไปกว่านี้ แต่สินค้าทั่วไปบางอย่างก็หาเรื่องขึ้นราคาทั้งๆที่ราน้ำมันดีเซลตอนนี้ยังไม่ขึ้น เช่นข้าวราดแกง ปรกติขายอยู่จาน20บาท อยู่ดีๆก็ขอขึ้นเป็น 25-30บาทเฉยเลยเห็นบางร้านนะ บางน้ำมันแพงขึ้น ยังงงมันเกี่ยวตรงไหนหว่า ขึ้นมาแพงกว่าค่าน้ำมันอีก จากคุณ : panumas05 - [ วันแม่แห่งชาติ 19:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สมควรขึ้นเพราะผมกลัวว่าถ้าน้ำมันโลกลงแล้ว เราต้องใช้ น้ำมันแพงไปอีกนาน ส่วนเรื่องอาหารที่บอกว่าขึ้นราคาเพราะ น้ำมันแพงนะ เขาขาย 20 บาทมาตั่งแต่น้ำมันราคา 9บาทกว่า ตอนนี้ 20บาทกว่าแล้ว ยังมาหาว่าเขาเอเปรียบอีก แกสจากถังื 48กก. ถังละ 505 บาท ตอนนี้ 800 บาท ตรองดูหน่อย จากคุณ : ouobo - [ วันแม่แห่งชาติ 21:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมว่าควรตรึงนะ ..แต่ต้องตรึงแบบขู่..ๆ ประมาณว่า ให้เงินอุดหนุน จน ถึง 4 หมื่นล้าน เลิกอุ้ม.. และประกาศตัวเลข ผ่านทาง ทีวี หนังสือพิมพ์ ทุกวัน.. ให้คนเริ่มรู้สึกว่า..เฮ๊ยๆๆ จวนแล้วๆๆ จะได้เริ่ม รู้สึกว่าต้องประหยัดกัน.. จากคุณ : หมอดุแม่นๆ - [ วันแม่แห่งชาติ 21:37:00 A:203.113.50.12 X:203.150.217.113 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับหลายความเห็นนะครับ ที่กล่าวถึงรัฐบาล เพราะนี่เรากำลังพูดถึงสิ่งที่รัฐบาล ซึ่งเราหลายๆคนเป็นคนเลือกเขาเข้าไปบริหารประเทศนี้แทนเรา เขาต้องตัดสินใจ ยากจะปฏิเสธว่า รัฐบาลพยายามทำให้ตัวเลขศก. ยังดีอยู่ เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มเม็ดเงินเข้าประเทศมากขึ้น มันเป็นนโยบายที่แทบทุกรัฐบาลก็พยายามทำ เพราะคิดกันไปเองว่ามันคือวิธีเดียวที่จะดึงเงินจากนอกเข้าไทยได้เร็ว โธ่ถัง.... --------------------- ผมเห็นด้วยกับคุณหมอดูแม่นๆนะคราวนี้ และยังยืนยันความเห็นเดิมว่า ควรตรึง แต่ควรเพิ่มเพดานขึ้นไปอีกสัก 2-2.50 บาทได้แล้ว จะตรึงไปแบบนี้ เงินท้องพระคลังก็ร่อยหรอ แล้วแถมด้วยเงินที่เรายังต้องไปกู้เขามา เพื่อพยุงนี่อีกละ? แล้วนี่ ยังมีประเด็น ศก.จีน ที่ใกล้ฟองสบู่แตกเข้าไปทุกที อีกด้วย.... โอเปคเพิ่งออกมาบอกว่า กำลังผลิตใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว (ผมไม่เชื่อ มันเป็นเรื่องนโยบายป้องกันตัวเองของ ชาติสมาชิก ท่ามกลางเวทีการเมืองระหว่างประเทศล้วนๆ) สรุป เรามาใช้ให้มันประหยัด และใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆเถอะ ทั้งหมดนี้ แทนที่จะไปผลักภาระให้รัฐ ก็ต้องย้อนกลับมาดูตัวเองกันบ้าง นอกเรื่องนิดนึง เรื่องขับเร็วไม่เกิน 90 นั้น ผมอยากจะบอกจังเลยว่า ใครอยากขับขนาดนั้น ขับไป ไม่มีใครว่าครับ แต่โปรดแล่นซ้าย หรือเลนกลาง ไว้เถอะ การจราจรที่มันติดขัดอยู่นี้ ต้องยอมรับความจริงกันแล้วนะครับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกคุณนะครับ เพราะสุดท้าย หลายๆคน ที่รีบจะเซฟเวลา ซึ่งส่วนต่างของเวลา ช่วยให้เขาทำกิจกรรมทาง ศกเพิ่มขึ้นได้อีก 1-2 อย่าง ซึ่งอาจจะช่วยให้ชาติเราประหยัดกันได้มากขึ้น กลับจะต้องใช้เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำมันที่เขาจ่ายไป เท่าๆเดิม พอๆกับเดิมต่างกันนิดหน่อย เวลาที่เสียไป มันก็คือ การสูญเสียทาง ศก อยู่ดีอีกเช่นกันครับ และเราทุกคนบนท้องถนนก็สูญเสียกันทุกฝ่าย ใจเขาใจเรากันหน่อยครับ คนไทยทั้งหลาย จากคุณ : JIMMY - [ วันแม่แห่งชาติ 23:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คิดว่าไม่ควรตรึงทั้งเบนซินและดีเซล ข้าวของแพงขึ้นก็ลำบากกันถ้วนหน้า ..แต่ก็น่าจะยอมรับความจริง และช่วยๆกันประหยัดทั้งน้ำ ไฟ แก๊ส และอื่นๆ ..รวมทั้งจริงจังเรื่องพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ถ้าตรึงราคาด้วยความหวังว่าวันหนึ่ง ราคามันจะลดลง ก็น่าตรึง แต่ตอนนี้ดูไร้แววว่าราคาน้ำมันจะลง...จะตรึงไปตลอดก็ไม่ได้ ปล่อยลอยตัว..แล้วหาทางเอาเงินมาช่วยกลุ่มที่เดือดร้อนมากๆ เช่น เกษตรกร ชาวประมง กิจการขนส่ง ก็น่าจะดีนะ จากคุณ : แค่ความเห็นส่วนตัวอ่ะนะ (mallikaui) - [ วันแม่แห่งชาติ 23:29:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอแสดงความเห็นส่วนตัว แบบขัดหูหน่อยเหอะ กระทู้นี้ มันบอกอะไรรู้ไหม? บอกว่า คนที่เข้าเล่น net หลายๆคน มองโลกค่อนข้างจะ -แคบมากๆๆๆๆๆ - ควรนึกให้บ่อยๆว่า กรุงเทพ ไม่ใช่ประเทศไทย ประเทศไทย ไม่ใช่มีแต่ คนกรุงเทพ มีแต่คนรวยๆ คนชนบทก็ยังเป็นคนไทยเหมือนกัน คนไทย ไม่ใช่แค่ คนในเนต และญาติมิตรเพื่อนสหายคนรู้จักรอบตัว ไม่กี่ร้อยกี่พันคน แต่ยังมีคนนอกเนต อีกนับเป็นสิบๆล้านคน ตรึงราคาน้ำมันดีเซลนั้น ไม่ใช่เพื่อรถเก๋ง หรือ ปิ๊คอัพแต่งซิ่งฉุยฉายๆ ไม่กี่หมื่นคัน แต่เพื่อยานพาหนะ ที่ใช้ในเศรษฐกิจพื้นฐาน ซึ่งมีเป็นล้านๆ คัน/ลำ ใช้น้ำมันดีเซลเกือบ 100% ถ้าดีเซลขึ้นราคาเมื่อไหร่ .. คนชนบท คนต่างจังหวัด คนไทยกว่า 70% ซึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 10,000 บาท จะเป็นพวกแรก ที่ร่อแร่เพราะสินค้าทุกอย่างขึ้นราคา ในขณะที่ผลผลิตถูกกดราคาลง (พ่อค้าเขาไม่ยอมขาดทุนหรอก) อีกไม่นาน ความเดือดร้อนพวกนี้ ก็จะลามเข้ามากรุงเทพ รัฐบาลชุดพ่อค้าไฮเทค ชุดนี้ ถึงเขาจะไม่ค่อยแคร์กับความเดือดร้อนของประชาชน แต่พวกเขาก็ยังไม่กล้า/ไม่พร้อม ที่จะสร้างความทุกข์ขนาดนั้น ให้คนจำนวนมากของประเทศ ขณะที่พวกเราพิโอดพิโอยกันว่า ประหยัดน้ำมัน ประหยัดการใช้รถ ฯลฯ กันแทบแย่ จนไม่รู้จะประหยัดอย่างไรแล้ว .. พวกเขา ... แรงจะโวย ยังแทบไม่มีเหลือ .. ประหยัดกระทั่งการหายใจแล้วมั้ง? ผมอยากจะให้รัฐบาลเก็บภาษีน้ำมันเบนซิน 95 มากกว่านี้ด้วยซ้ำ .. ราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าความจริงกี่บาทต่อลิตร ก็เอาไปบวกเข้ากับราคาน้ำมัน 95 เท่านั้น ถ้าจะบอกว่า งั้นพวกเศรษฐี ก็ถอยรถดีเซลออกมาใช้กันสบายหละสิ ให้นึกไว้ก่อนว่า ประชาชนชาวไทยของประเทศ เป็นสิบๆล้าน กำลังเดือดร้อน หากค่าน้ำมันดีเซลที่ขึ้นราคา อย่าเอาการทำไม่ดีของคนเล็กน้อย(มาก) มาเป็นแนวทางในการสร้างกฏขึ้นมาเพื่อทำอะไรให้คนจำนวนมาก(ๆๆๆ) เดือดร้อน ผมสนับสนุนเต็มที่ให้ตรึงราคาดีเซล และขึ้นภาษีน้ำมัน 95 (ถ้าทำอย่างเดียว ผมไม่สนับสนุน) จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 13 ส.ค. 47 06:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ต้องตรึงครับ แต่ขอให้ทบทวนภาษีบ้าๆบอๆ เก็บซ้ำๆซากๆ ครับ ตัดออกบ้าง บางรายการ กองทุนน้ำมันไม่พร่องหลอกครับ จากคุณ : Alibaba7227 - [ 13 ส.ค. 47 07:26:19 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อืมม ผมเห็นด้วยกะคุณแมวเหมียวพุงป่องแฮะ ขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินไปโปะดีเซล ด้วยเหตุผลที่คุณบอกมาก็เยี่ยมครับ...ดีครับดี ผมเองไม่มีรถดีเซลหรอกครับ ที่มีอยู่เป็นของพ่อตา ซึ่งผมแทบไม่ยุ่งกับมันเลย เบนซิน 25 บาท ผมก็ยังจ่ายได้ครับ เพียงแต่คงขับรถฉุยฉายน้อยลง และอาศัยวิธีประหยัดอย่างอื่นเข้าช่วยด้วยเท่านั้นเอง(รวมถึงเอาเจ้าน้องนุชมิร่าไปใช้บ่อยขึ้นด้วย) จากคุณ : Ont - [ 13 ส.ค. 47 08:31:02 A:61.90.28.19 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 ถูกต้องเลย ถ้า ดีเซลมีการปรับขึ้นราคา ของทุกอย่างก็ ต้องขึ้น ราคาไม่วาสจะเป็นค่าโดยสาร รถ บขส. ค่ารถไฟ ค่าขนส่งสินค้าจริงแล้ว รัฐบาล น่าจะมีการสนันสนุนเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ดีเซลมากกว่านี้ ผมพบว่าตามต่างประเทศ เค้าใช่ เครื่องดีเซลกันมาก แต่ไม่เห็น ควันดำมากๆ แบบบ้านเราเลย โดยเฉพาะ รถกระบะบางค่าย ออกมาป้ายแดงควันก็ ดำแล้ว จากคุณ : k1. - [ 13 ส.ค. 47 09:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ผมว่าตรึงไว้ก่อนดีกว่าในส่วนของดีเซลเพราะมันเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ในสังคม แต่มีอยู่เรื่องที่อยากจะขอร้องตอนนี้รถเก๋งวิ่งต่างจังหวัดกลายเป็นอยู่เลนส์กลางส่วนกระบะควันโขมงโฉงเฉงกลายเป็นอยู่เลนส์ขวาซะนี่ ยังไงก็อยากให้ชิดซ้ายนะครับสำหรับรถที่วิ่งช้ากว่า มันเปลืองน้ำมันตอนเบรคแล้วก็เร่งเครื่องขึ้นไปใหม่น่ะครับเบนซินยิ่งแพงๆอยู่ จากคุณ : bomz - [ 13 ส.ค. 47 11:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เฮ้อ อยาก รู้ ว่า สิ้นปีนี้ บริษัท พลังงาน มหาชน ยักใหญ่ของไทยจะ แจกโบนัสกัน กี่เดือน ตังแต่ เป็น มหาชนนี่ ไม่เห็น ออกมามีนโยบาย ช่วยชาติเลยนะ หรือวามี แต่ผมไม่รู้ นะ จากคุณ : ก้นกบ - [ 13 ส.ค. 47 12:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมว่า อย่าคิด ในแง่ ของรถอย่างเดียวเลยคับ เพราะถ้าดีเซล ขึ้น เศรษฐกิจ แย่ ลงอย่างมาก แน่นอน จากคุณ : mx-junior (MX-junior) - [ 13 ส.ค. 47 13:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่ต้องตรึงแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดจะดีกว่า ขัดหลักการทางด้านเศรษฐกิจอันจะนำมาสู่ความฉิบ...ต่อไปในอนาคต จากคุณ : อัลฟ่าบราโว่ - [ 13 ส.ค. 47 13:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่ต้องชดเชย และไม่ควรปล่อยเป็นกลไกตลาดอีกต่อไป ทางที่ดีควรเก็บภาษีเพิ่มไปเลยครับ เอาให้ราคาน้ำมันเป็นลิตรละ 30 บาท เพื่อให้คนเห็นความจำเป็นในการประหยัดจริงๆครับ ผมมองแนวโน้มแล้ว อย่างไรอีกภายใน 2-3 ปีราคาน้ำมันน่าจะถึง 30 บาทอยู่แล้ว แล้วจะรอมันทำไมครับ ขึ้นราคาดักหน้าไปเลย ภาษีที่เก็บได้ตอนนี้รีบเอาไปลงทุนพัฒนาพลังงานทดแทนครับ ดีกว่าเป็นสุนัขเดินดมตูดพวกอาหรับ ในยุโรปลิตรละกว่า 50 บาท มันก็หาทางอยู่กันได้ครับ และเป็นการกระตุ้นให้คนประหยัดจริงจัง รถในยุโรปคันกระติ๊ดเดียว กินน้ำมันน้อย ระบบขนส่งมวลชนก็ดีครับ ถ้าน้ำมันถูกเราก็พัฒนาระบบขนส่งมวลชนไม่ได้ดีครับ เพราะทำแล้วไม่มีคนใช้ ไม่คุ้มทุน รัฐบาลควรมองยาวๆครับ อย่าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ จากคุณ : John Luc - [ 13 ส.ค. 47 14:13:19 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นใจพวกพ่อค้าแม่ค้าบ้างเถิด แล้วก็พวกคนจนๆง่ะ หากขึ้นดีเซลแล้วของทุกอย่างแพงขึ้นแน่ๆ เมื่อของทุกอย่างแพงขึ้นคนจนก็ลำบากขึ้น โจรก็จะมากขึ้นเป็นเงา(เพราะคนจนๆไม่มีจะกินเลยต้องมาเป็นโจรหรือขโมย เรื่องจริงนะ..) ครอบครัวพี่น้องของคุณก็จะต้องระวังตัวมากขึ้น... มีผลไปทั่วเลยครับ คิดกันดีๆก่อนจะตอบอะไรนะครับ สำหรับผมแล้วไม่เดือดร้อนหรอก.. แต่อยากให้มองคนจนเป็นหลักครับ จากคุณ : Jakaman - [ 13 ส.ค. 47 14:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่าหาทางขึ้นราคาสินค้าที่เราส่งออก เพื่อนำเงินเข้าประเทศให้มากกว่านี้ แล้วนำเงินที่ได้มาสนับสนุนขนส่งมวลชนทั้งระบบดีกว่า ผมว่าถ้าทั่วกรุงและปริมณฑลมีรถไฟฟ้าครบวงจรก็คงไม่มีใครอยากจะใช้รถส่วนตัวหรอกครับ ถ้ามีก็เหลือน้อยมาก ๆ งบประมาณเรามี ล้าน ๆ บาท ถ้าปีนี้ตัดมาทำขนส่งมวลชนสักสองแสนล้าน ผมว่าน่าจะคุ้มว่าเอาไปทำอะไรไร้สาระอย่างอุ้มค่าน้ำมันอีกนะครับ ถ้าคนกรุงหันมาใช้ขนส่งกันหมดหรือเกือบหมด ไอ้เงินแค่ สองแสนล้านแป๊บเดียวก็ได้คืนแล้ว จากคุณ : เห็นแก่บ้านเมืองซะทีนะ รัฐบาล (กาเฉม) - [ 13 ส.ค. 47 16:33:39 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขึ้นไม่ได้ครับ เพราะ -ผมใช้ดีเซลอยู่ -ชองบางอย่างจะแพงขึ้นมาก เช่นพวกผลไม้ หรือ ข้าว หมู ไข่ ซึ่งไข่เนี้ย ต้นทุนของสินค้าอยู่ที่ค่าขนส่ง เข้าไป 30-50 % แล้วมั้งครับ -แล้วถ้า ของมันขึ้นแล้วมันจะลงไม่ได้นะครับ แต่น้ำมัน ลงได้นะครับ จากคุณ : ืหนุ่ย (comzone) - [ 13 ส.ค. 47 16:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่น่ารีบตรึงดีเซลที่ 14.59 ตั้งแต่ต้นแหละ น่าจะเริ่มตรึงที่ประมาณ 16 บาท กำลังดี สิ้นปีถ้าเอาไม่อยู่ก็ขยับเป็น 18 ละกันเบนซินก็เป็นไปตามกลไกตลาดละกัน บีบเครื่องดีเซลให้ใช้มาตรฐาน Euro4 ไปเลย จะได้มีเครื่องประหยัดและสะอาดมากขึ้น บนทางด่วนไม่น่าจะกำหนดที่ 110 เพราะขึ้นทั้งทีขอซื้อเวลาหน่อยจะได้มีเวลาทำอย่างอื่นอีก ไป ตจว ก็ขอซัก 120 ละกัน แบบว่า 90 กว่าจะถึงที่หมาย และประหยัดกว่านิดนึง แต่โดยรวมแล้วเสียเวลาเป็นชั่วโมง ส่วนพวกขับช้ากว่าชิดซ้ายไปเลย ตอนนี้ไปแถวๆบ้าน ก็ปั่นจักรยานแทนละ จากคุณ : MitsuGrandis - [ 13 ส.ค. 47 16:53:31 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นด้วยกับ #44 ครับ เก็บภาษีเบนซิน 95 ให้เยอะกว่านี้แล้วมาช่วยโปะดีเซล ถือว่าช่วยๆกัน จากคุณ : Mr.Submarine - [ 13 ส.ค. 47 17:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าราคาโซล่าจริง 25 แล้วรัฐอุดหนุน 10 คงราคาไว้ที่ 15 จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ใครที่ทำรกิจจะทราบว่าตอนนี้สรรพากรออกไปตรวจสอบบัญชีตามบริษัทต่างๆถี่กว่าที่เคยเห็น ทางที่ดีควรออกกฏหมายห้ามบุคคลธรรมดาซื้อรถกระบะที่ใช้ดีเซล ต้องเป็นนิติบุคคล และเกษตรกรที่จดทะเบียนกับกระทรวงเกษตรเท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้ และกำหนดจำนวนรถที่จะซื้อให้เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ ที่นี้การอุดหนุนก็จะตรงเป้าหมายไม่ใช่ซื้อมาขับเข้าไปทำงานใน กทม. ปล่อยควันเหม็นไปวันๆ แต่ไม่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ประเทศ จากคุณ : Jeab1967 (Jeab1967) - [ 13 ส.ค. 47 18:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่สมควรเลยที่จะมีการตรึงราคาอีก ควรให้เป็นไปตามกลไกตลาดอะไรถูกแพงมันมีอยู่แล้วรัฐบาลไม่สามารถจะควบคุมได้สักที อาหารการกินตามตรอกซอกซอยถ้าจะขึ้นราคาไม่เคยเห็นใครช่วยได้จะซื้อก็ซื้อไม่ซื้อไม่ว่าข้าจะขายเท่านี้ เพราะฉะนั้นเอาเงินไปพัฒนาอย่างอื่นเถอะ มันต้องมีความเท่าเทียมกันไปช่วยพ่อค้านักธุรกิจแต่กลับมาซ้ำเติมคนใช้รถใช้ถนนที่วันๆก็ต้องกินต้องซื้อของแพงอยู่แล้วทำไม จากคุณ : ฮอลิค (ฮอลิค) - [ 13 ส.ค. 47 19:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตรึงอะ ยังไงก็ต้องตรึง จากคุณ : kfc_m - [ 13 ส.ค. 47 22:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยกับ #44 ครับ เก็บภาษีเบนซิน 95 ให้เยอะกว่านี้แล้วมาช่วยโปะดีเซล ถือว่าช่วยๆกัน จากคุณ : Mr.Submarine - [ 13 ส.ค. 47 17:32:03 ] ****************************** ไม่ได้หรอกครับ เพราะว่า จะทำให้คนใช้รถหรูเครื่องดีเซลมากขึ้น คือราคาห่างมากๆ ยอมครับ ขายรถเบนซิลทิ้งเลย ทีนี้ ก็จะต้องไปอุ้มดีเซลหนักกว่าเดิมเพราะคนแห่มาใช้มากขึ้น จากคุณ : โลหการ4 - [ 14 ส.ค. 47 05:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ยังหวังว่าราคาดีเซลมันยังจะลงอีกหรือครับ ราคาตลาดโลกมันขึ้นไปถึงขนาดนั้นแล้ว ที่อุ้มเอาไว้เพราะอ้างว่าสินค้าราคาขึ้นแล้วไม่ลง แต่น้ำมันขึ้นแล้วลงได้ ฟังไม่ขึ้นเลยครับ เพราะตอนนี้ดีเซลในตลาดโลกไม่มีทางกลับมาที่ 14.59 ได้แล้ว เหตุผลเดียวที่อุ้มไว้ตอนนี้ คือพยายามถ่วงเวลาไปจนหลังเลือกตั้งครับ อย่างนี้เรียกว่าประเทศชาติ...หายไม่ว่า ขอพรรคข้ามาก่อน จากคุณ : John (John Luc) - [ 14 ส.ค. 47 06:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ยังไงก็ต้องตรึงไว้ ไม่งั้นถ้า TRT ไม่ได้ 400 ที่นั่ง ใครจะรับผิดชอบ!! จากคุณ : MaSaChi - [ 14 ส.ค. 47 15:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่าถ้ากองทุนเงินโลกเฮดจ์ฟันด์ มันยังเดินเกมปั่นราคาและเก็งกำไรน้ำมันในตลาดล่วงหน้าให้สูงขึ้นโดยไม่เห็นความเดือดร้อนของประเทศชาติต่างๆและประชาชนในโลกนี้ ประเทศชาติต่างๆทั่วโลกก็สมควรโต้ตอบบ้างคือการยอมให้มีน้ำมันเถื่อนขึ้นเพื่อตัดทอนราคาน้ำมันที่แพงขึ้นจากการปั่นสร้างราคาน้ำมันของกองทุนเงินโลก จะทำให้ลดปัญหาต้นทุนต่างๆได้ ไม่มากก็น้อย ดีกว่ายอมรับการปั่นราคาน้ำมันของกองทุนเงินโลก และในระยะกลางน้ำมันเถื่อนยิ่งมากยิ่งกดดันบีบแก้แค้นให้กองทุนเงินโลกเฮดจ์ฟันด์ประสบความล้มเหลวและขาดทุนได้ ไอ้กองทุนหน้าเลือดมันจะได้จำไว้เป็นบทเรียนในการปั่นราคาน้ำมันอย่างเห็นแก่ตัว วิธีนี้ทำให้รัฐไม่ต้องจ่ายชดเชยน้ำมันมาก เงินเฟ้อยิ่งไม่มี และไม่ต้องใช้เงินสู้ราคาน้ำมัน ผมอยากแก้แค้นไอ้กองทุนเงินโลกเฮดจ์ฟันด์จอมหน้าเลือดมากกว่า และเห็นผลทันตา ในระยะกลางยาวว่า ไอ้กองทุนหน้าเลือดมันจะยังปั่นเก็งกำไรน้ำมันไหวไหมถ้าระยะกลางยาวน้ำมันเถื่อนยิ่งมากออกมาแข่งนะครับ จากคุณ : zeng - [ 14 ส.ค. 47 15:22:54 A:203.156.47.11 X: TicketID:070223 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ********************************************** เราว่าทางที่ดีที่สุด.. คือ เร่งหาพลังงานทดแทน และทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะทำให้ปริมาณการใช้พลังงานจากน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เป็นหนทางที่ถูกต้องที่สุด สำหรับระยะนี้นั้น ถ้าจะตรึงราคาดีเซล ก็ตรึงไป (แต่เราไม่เห็นด้วย) ********************************************** จากคุณ : disappear.. - [ 14 ส.ค. 47 16:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เมื่อไหร่จะจัดการกับราคาหน้าโรงกลั่นสักทีผลประโยชน์มันมากเลยไม่กล้าแตะกันปล่อยให้ประชาชนรับกรรมไปแต่อย่างว่าละนะน้ำมันไม่แพงก็ไม่รู้ประหยัดกัน จากคุณ : ddr (DDRW) - [ 14 ส.ค. 47 17:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ดีเซล น้ำมันตัวแปรเศรษฐกิจ ใครก็รู้ มีน้อย% นัก รถใช้ดีเซล พวกกระบะ จะแอบยิ้ม เบนซิน มันใช้รถเก๋ง ฟุ่มเฟือย การที่เห็นช่วยดีเซล แล้วพวกเบนซินไม่พอใจ หาว่าเอาเงินไปอุ้มดีเซล เลยต้องการให้ลอยตัวเสียบ้าง มันก็เห็นแก่ตัวอยู่นะครับ คนไม่มีรถ ไม่ได้เิติมเบนซิน ดีเซล ต้องมาโดนหางเลขจากดีเซลขึ้น มันก็ไม่ยุติธรรมอยู่ดี หน่วยงานรัฐ เขามีการคิด คำนวณ พิจารณากันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปกดดันอะไรให้เขาขึ้นหรอก ช่วยกันประหยัดน้ำมันในทุกๆทางดีกว่า จากคุณ : นั่งดูรถติดบนถนน - [ 14 ส.ค. 47 22:32:27 A:10.21.3.63 X:202.44.14.194 TicketID:063856 ]

ความคิดเห็นที่ 68 โถ...คนที่ใช้รถเล็กดีเซลที่แท้ก็เห็นแก่ตัว กลัวว่าราคาดีเซลที่ตัวเองใช้จะขึ้น อ้างเหตุผลสารพัด ถ้าคนที่ไม่มีรถเค้าคงไม่อ้างเหตุผลอย่างนี้หรอก คิดแต่ว่าคนอื่นเดือดร้อนไม่เป็นไร แต่อย่าให้ฉันเดือดร้อนก็แล้วกันเป็นพอ มีอย่างหรือ คิดเอาแต่ตัวเอง เศรษฐกิจประเทศจะล้มไม่ใส่ใจ แล้วใช้เหตุการณ์อื่นมาอ้างประกอบ จริงๆพวกคุณควรที่จะโดนขึ้นราคามากกว่าซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะพวกรถเล็กรถกระบะทั้งหลายน่ะ เห็นวิ่งกันโครมๆ ขณะที่รถเก๋งเค้าวิ่งกันเนิบๆประหยัด สักพักจะเห็นพวกกระบะบ้าพลังวิ่งแซงขึ้นไปอย่างกับพายุ คะนองมาก ไม่เชื่อคุณลองสังเกตดูสิ โอ้โห...อะไรมันจะดีปานนั้น รถก็แรงม้าก็เยอะ แถมน้ำมันก็ไม่ขึ้นราคา มีคนอุ้มๆสบายโลด จากคุณ : อร - [ 15 ส.ค. 47 08:33:46 A:161.246.51.157 X:161.246.1.32 TicketID:068832 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าจะใช้ค่าชดเชยกลับมาเมื่อราคาน้ำมันถูกลง ขอถามรัฐบาลว่า เอาค่าชดเชยจากดีเซลหรือเอาจากเบนซิน ถ้าเอาจากดีเซล ราคาดีเซลก็จะแพงต่อไปขณะที่ราคาตลาดโลกถูกลงแล้วจริงไหม แต่ถ้าจะมั่วเอาจากเบนซิน ถามว่ายุติธรรมหรือไม่ ใครจะยอม อีกอย่างนึง ราคาน้ำมันอาจจะไม่ถูกลงไปกว่านี้มากนัก แล้วจะไปเอาคืนจากไหน ราคาสินค้าไม่ได้มาจากค่าขนส่งอย่างเคียว ต้นทุนจากต่างประเทศก็เป็นส่วนหนึ่ง ถามว่าจะห้ามไม่ให้สินค้าขึนราคาได้อย่างไร ดีไม่ดีแอบบวกเผื่อค่าน้ำมันไว้แล้วด้วยซ้ำไป จากคุณ : หน่อมแน้ม - [ 15 ส.ค. 47 09:36:20 A:203.113.66.8 X: TicketID:070289 ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณzeng พูดไว้น่าสนใจ(ผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ทั้งตัวเลขและรายละเอียดการตั้งกองทุนนี้ในมือ)เลยไม่กล้าลงลึก แต่ผมเห็นว่ามันสอดคล้อง กับความคิดเห็นที่ 29,30,31ของผม เรื่องที่ผมเสนอว่าเราอย่าเอาจมูกเราที่เช่ายังเช่าเขาผูกติดเขาผ่าน "ระบบผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรี" เกินไป อธิบายง่ายๆว่าเราอย่าเช่าหรือซื้อผ่านนายหน้า หรือระบบทุน กลุ่มทุนก็คืออย่าเอาความมั่นคง(ที่อ่อนไหว)ทางพลังงาน ของเรา ไปผูกติดไว้กับ "การผุกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรี" เกินไป เช่นเรื่องที่คุณว่ามา แต่ที่ใกล้ตัวและมีผลกับเรากับต้นทุนราคาเรามาก ก็คือ การเช่าผ่านนายหน้าสิงคโปร ด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ดีระหว่างกลุ่มทุนกับกลุ่มทุน การเช่า,ซื้อผ่านนายหน้าหลายต่อนั้นมันเป็นผลต่างตอบแทนกันระหว่างนายหน้าต่อนายหน้า กลุ่มทุนต่อกลุ่มทุน ก่อนจะตกถึงท้องประชาชนคนใช้ ก้อนราคามันจึงกลิ้งทับประชาชน ราคามันจึงเป็นอย่างที่เห็นข้อสำคัญมิติทางพลังงานเราจะอ่อนไหวตามกระแสโลกมาก เช่น อเมริกากับอิรัค ตดใส่กัน เราเป็นประเทศที่เช่าจมูกเขาหายใจ(น้ำมันจากตะวันออกกลางผ่านทุนนิยมโลกาภิวัฒน์สุดขั่ว) ชาวบ้านชาวเมืองเขาไม่ผูกติดหรือมีนโยบายทางพลังงานที่หลากหลาย ไม่ขึ้นตรงหรือผูกติดกับทุนนิยมโลกจนเกินไป ถึงมีแต่ก็มีทางเลือกที่หลากหลายกว่า ผุกไว้กับบ.ป.ต.ทจนเขาทนกลิ่น ตดรสช็อคโกแล็ต ,หนมปัง,(กันฯ)หมักรวมกันกับเนยโรตี (ตะวันออกกลาง) แค่นี้จมูกที่แสนไวแสนอ่อนไหวเรา โดนเข้าถึงสลบ เราจึงต้องเร่งสร้างความหลากหลายกับนโยบายทางพลังงาน เช่นการเร่งสร้างนโยบายซื้อขายตรงที่เป็นการค้าต่างตอบแทนระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล(แลกของมูลค่ามันอาจจะขึ้นกันการเจรจาและความสัมพันธ์และความต้องการที่ต่างกัน) เพื่อลดต้นทุนที่สูงแบบนายหน้าผ่านนายหน้า โดยเฉพาะนายหน้าที่เขาเรียกเราว่าทาสอย่างสิงคโปร รวมหัวกับกลุ่มทุนในประเทศ เร่งด่วนตอนนี้ต้องพยายามตัดประเด็นนายหน้าหลายชั้นนี้ให้ออกเท่าที่ทำได้ และดำเนินโยบายไม่ไปผูกติดกับโลกาภิวัฒน์ของระบบทุนนิยมโลก สร้างความหลากหลายในตัวนโยบายเอง เช่นพลังงานทดแทนที่ผมว่าไว้ข้างบน เป็นมาตรการระยกลางหรือต่อไป แลนด์บริดฯ ที่รัฐกำลังชูประเด็นอยู่ก็ใช่ นั้นคือหนึ่งในวิธีสร้างความหลากหลายหรือสร้างทางเลือกสำรอง ให้จมูกเราเคยชินกับหลายๆกลิ่น จนสามารถมีจมูกถาวรเป็นของตัวเอง จากคุณ : ตอม - [ 15 ส.ค. 47 13:25:10 A:61.90.55.36 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 71 น้ำมันดีเซล ใช้กับรถบรรทุก ขน สินค้ามาขาย การตรึง น้ำมันดีเซลทำให้ รัฐบาลมีนโยบาย ห้ามพ่อค้า ขึ้นราคาสินค้า ได้อย่างมีเหตุมีผล จากคุณ : ควร อย่างยิ่ง (SP_A) - [ 16 ส.ค. 47 11:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ค่อยๆลด การชดเชย ก็ดีครับ... จากคุณ : monkeynumber4 - [ 16 ส.ค. 47 15:01:28 ]

ความคิดเห็นที่ 73 การตรึงราคามันควรมีขอบเขต และข้อกำหนดที่สมเหตุผลเพราะที่รัฐตรึงดีเซลก็เพื่อพยุงเศรษฐกิจ กลัวเกิดเงินเฟ้อในเงินฝืด และที่สำคัญก็คือใกล้เลือกตั้งใหญ่เข้ามาทุกที ดังนั้นผมฟันธงได้เลยว่ารัฐต้องกัดฟันเชือนเนื้อหนูไปปะเนื้อช้างตรึงต่อไปจนพ้นการเลือกตั้งแน่นอน หลังเลือกตั้งดีเซลถึงจะขยับขึ้นราคา ดูจากสถานการณ์ทั่วไปแล้วเชื่อแน่ว่าคงหาน้ำมันราคา12-14บาทไม่ได้แล้ว เราคงต้องทำใจยอมรับราคาน้ำมันที่20บาทขึ้นไปในอนาคตจึงอยากเสนอแนวทางการขึ้นราคาน้ำมันดีเซลไว้ให้พิจารณา(ไม่รู้ว่าเพื่อนสมาชิกจะเห็นด้วยมั้ย) คือ 1.ดีเซลเพื่อการผลิตไฟฟ้า,กำเนิดพลังงานในระบบอุตสาหกรรม (น้ำมันเตา) ควรขึ้นแบบมีขอบเขตเพื่อการพยุงเศรษฐกิจ คือรัฐจะอุดหนุนบ้างก็ไม่น่าเกลียด แล้วค่อยๆหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อขยับราคาเข้าใกล้กับราคาจริงมากที่สุดจนสามารถตั้งเกินราคาจริงเพื่อหาเงินคืนให้รัฐ 2.น้ำมันดีเซลที่ใช้กันทั่วไปหาเติมได้ตามปั๊มน้ำมันควรขึ้นตามราคาจริงเช่นเดียวกับเบนซิน แต่มีข้อแม้การอุดหนุนชดเชยสำหรับกิจการรถขนส่งสาธารณะ,ขนส่งเอกชน,การเกษตร,รถบรรทุกสินค้าเพิ่อการค้าจริงๆ,รถปิคอัพที่ใช้บรรทุกจริงๆ โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งและการค้าและเกษตรกรนำหลักฐานพร้อมนำรถมาตรวจสภาพว่าใช้งานจริงมาลงทะเบียน เหมือนกับที่รัฐประกาศให้ลงทะเบียนคนจนนั่นแหละ เพื่อมาซื้อคูปองเติมน้ำมันจากรัฐ ขั้นตอนนี้รัฐก็สามารถสแกนได้ว่ารถใครใช่งานจริงไม่ได้เป็นรถหรูที่ใช้ดีเซล เพราะสามารถให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบได้ ใครไม่มาลงทะเบียนก็แสดงว่าไม่เดือดร้อนต้องเติมดีเซลในราคาตลาดปกติ และวิธีนี้รัฐก็สามารถขยับราคาขึ้นได้ตามจังหวะเวลาที่เห็นว่าเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ จนกระทั่งสามารถเลิกจำหน่ายคูปองได้ แต่ที่สำคัญต้องวางมาตรการป้องกันการทุจริตไว้ให้รัดกุมล่วงหน้าด้วย สรุปว่าผมเห็นว่ารัฐควรปรับขึ้นราคาดีเซลให้ลอยตัวแบบมีเงื่อนไข เพราะทุกวันนี้เห็นท่านๆขับปิคอัพที่หรูพอๆกะรถเก๋งกันเต็มบ้านเต็มเมือง ขึ้นราคาดีเซลไปท่านก็ไม่รู้สึกหรอกก็คนมีตังค์น่ะ สงสารคนมีรถมอไซค์เก่าๆขี่นี่ซิแย่เหมือนกันนะ จากคุณ : ลุงดี (Mr5OBL) - [ 16 ส.ค. 47 15:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 74 นโยบายของ กระทรวงต่างๆขัดแย้งกัน โดย กระทรวงพลังงาน รณรงค์ให้หยุดรถซดน้ำมัน แต่ทำไม กรมสรรพพากร ลดภาษี รถเก๋งไม่เกิน2000cc ทำให้ป้ายแดงออกมาเต็มถนนไปหมดซดน้ำมันกันใหญ่ เรื่องมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลเห็นว่าควรตรึงให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถึงแม้จะมีผู้ได้ประโยชน์จากดีเซลราคาถูกมาเติมรถหรู แต่ก็เป็นคนส่วนน้อย~~~คนส่วนใหญ่จะต้องมีค่าครองชีพสูงขึ้นมากถ้าหากไม่ตรึงราคาดีเซล จากคุณ : Narak-Man - [ 16 ส.ค. 47 22:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อยากให้ปรับภาษีรถในอัตราสูงขึ้นทั้งหมด+เพิ่มค่าบำรุงถนนหลวง+ผู้ซื้อรถตอ้งมีที่หลักฐานว่ามีที่จอดมาแสดง+รถคันที่2เสียภาษีในอัตราสูงึ้น+ ถ้าจะลดภาษีจริงๆขอให้เลือกรถที่ใช้พลังงานสะอาดหรือพลังอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันลดแบบ 0% ไปเลย จากคุณ : Narak-Man - [ 16 ส.ค. 47 22:45:21 ]

ความคิดเห็นที่ 76 จะหันมาขี่จักรยานไปทำงานอยู่แล้ว 10 กิโล น่ะขี่ไหว แต่กลัวรถจะชนตายก่อน มาช่วยกันประหยัดพลังงานเถอะ เริ่มที่ตัวเราก่อน เลิกเหยียบคันเร่งเร็วๆ ตรวจลมยาง เอาของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ ทางเดียวกันไปด้วยกัน ถ้าไปไหนใกล้ๆ ก็เดิน ขี่จักรยาน หรือใช้ระบบขนส่งมวลชน ทุกคนช่วยกันก็ช่วยชาติได้ ทุกวันนี้เรานำเข้าน้ำมันเยอะมาก ภาคขนส่งเป็นภาคที่ใช้สูงสุด รองลงมาก็คืออุตสาหกรรม ถ้ายังใช้กันอยู่อย่างนี้ น้ำมันคงถึงลิตรละ 30 บาท แต่เอ๊ะ...ก็ดีเหมือนกัน ถ้าราคายังสูงอย่างนี้ การผลิตพลังงานอย่างอื่นจะได้มีโอกาสเกิดบ้าง เพราะพวกนี้ต้นทุนต่อหน่วยยังสูง แต่ถ้าน้ำมันยังยืนราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เราคงมีโอกาสได้ใช้พลังงานทางเลือกใหม่ เพราะจ่ายเท่าๆ กัน ว้า ดีหรือปล่าวเนี่ย เพราะยังไงก็กระเป๋าแฟ่บอยู่ดี จากคุณ : น้อง (sspd) - [ 16 ส.ค. 47 23:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขึ้นดีเซล ไปเถอะครับ จากคุณ : VVT-i Super Turbo - [ 17 ส.ค. 47 09:21:43 A:210.1.5.200 X: TicketID:001754 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ถ้าขึ้นราคาดีเซล ราคาของอุปโภคและบริโภคจะขึ้นตามไปด้วยซึ่งแทนที่จะเสียส่วนน้อยกลับเสียมากคือทั้งราคาของและน้ำมันราคาสูงขึ้นคนที่ไม่มีทั้งรถดีเซลหรือเบนซิลก็ซวยไปด้วยไอพวกที่รวยๆก็สบาย ถ้ารวยจริงจะร้องทำไมดีแต่ชื้อรถเก๋งพอเกิดเรื่องก็เห่าเป็นหมาเลยครับ จากคุณ : โหน่ง (kkitti91) - [ 17 ส.ค. 47 15:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ยังไงต้องตรึงราคาน้ำมันดีเซลครับ ถ้าไม่ตรึงราคาไว้เดี๋ยวราคาสินค้าขึ้นประชาชนจะเดือดร้อน ( สินค้าขึ้นตามราคาน้ำมัน แต่ทำไมเวลาน้ำมันลงราคาสินค้าไม่ลงด้วยล่ะครับ ) จากคุณ : tachikawa - [ 17 ส.ค. 47 17:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ควรตรึงครับ 1. รัฐบาลยังมีเงินภาษีอยู่ สามารถนำมาโป๊ะกองทุนได้ คนรวยทำไงก็ไม่น่าเกลียด แต่ถ้าทำแล้วเศรษ{กิจพังก็ไม่น่าทำ 2. ถ้าไม่ตรึงราคาป่านนี้สินค้าขึ้นราคาไปแล้ว ไม่เคยมีเหตุการณ์ว่าสินค้าขึ้นราคาแล้วจะลดลง ดังนั้นรํฐบาลตรึงไ นานเท่าไรก็จะยักย้ายผลประโยชน์สู่ประชาชนมากเท่านั้น แต่ถ้าขึ้นราคาดีเซลผู้ผลิตก็ขึ้นราคาสินค้าเวลาน้ำมันลงผู้ผลิตก็ไม่ลงราคาหรอก จากคุณ : ลุงซัน (ลุงซัน) - [ 18 ส.ค. 47 11:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้าน้ำมันราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ อนาคตคงจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้ใช้กันเพราะต้นทุนในการผลิตคงไม่ต่างกันมาก และอาจจะเห็นรถไฟฟ้าใช้พลังงานแสงอาทิตย์วิ่งบนท้องถนน แถมยังไม่มีมลพิษอีกด้วย จากคุณ : KoNaMi - [ 18 ส.ค. 47 16:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ผมมีเพื่อนทำขนส่งอยู่ เพื่อนบอกว่าขณะนี้ในกลุ่มสมาคมขนส่งกำลังเตรียมขึ้นราคาแน่นอนครับถ้าน้ำมันดีเซลขึ้นราคา แล้วราคาสินค้าต้องต้องขึ้น 1000% จากคุณ : ตรึงไว้เหอะ - [ 18 ส.ค. 47 23:56:53 A:61.90.35.46 X: TicketID:064726 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ถ้าขึ้นนะ เจ็บกันถ้วนหน้า จากคุณ : ทายาท - [ 19 ส.ค. 47 06:33:13 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ควรปล่อยไปตามภาวะกาลปัจจุบันได้แล้วละครับ ประชาชนจะได้มีการประหยัดกันซะที ภาครัฐไม่ควรเอาภาษีส่วนรวมของคนทั้งชาติมาแบกรับภาระอยู่ ตอนนี้ต้องใช้ Car Pool กันแล้วละ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 47 10:39:02 จากคุณ : chaiwatc - [ 19 ส.ค. 47 10:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ควรยกเลิกได้แล้วละ ครับ ตอบ คห ที่ 49 ************ . ปีที่แล้ว สผ ได้โบนัส 6 เดือน ส่วน ปตท ได้ 3-4 เดือน ส่วนผมได้ 3 เดือน ดังนั้นขอเดาเอาคร่าวๆว่าปีนี้น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 4 เดือน สำหรับ PTT ส่วน PTTEP นั้น 6 - 9 เดือน แน่นอน ครับ เชื่อหรือไม่ลองดูตาม IP .. จากคุณ : Eied - [ 19 ส.ค. 47 13:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ส่วนตัวแล้วใช้เบนซิน 95 แต่คิดว่าน่าจะอุ้มไว้ก่อนนะดีเซลเนี่ยเพราะไม่อยากเห็นสินค้าแพงกว่านี้(ทั้งๆที่แอบขึ้นหลายอย่าง) แต่มีประเด็นหนึ่งที่ผมคิดไว้นานแล้วแต่ยังไม่มีใครตอบได้ว่าทำไมในกรุงเทพใช้ในมันถูกว่าต่างจังหวัดทั้งๆที่กรุงเทพก็กลั่นน้ำมันไม่ได้ และก็มีค่าขนส่งเหมือนกันแต่ต่างจังหวัดใช้น้ำมันแพง และสาธารณูปโภคก็เฮโลกันไปที่กรุงเทพ แล้วอย่างนี้เหรอจะมีการกระจายการลงทุน อีกอย่างเรื่องค่าโทรศัพท์คนต่างจังหวัดน่าจะมีอัตราค่าโทรถูกว่าในกรุงเทพ....เฮ่อ จากคุณ : ภูเหนือ - [ 19 ส.ค. 47 13:59:07 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ผมจ่ายค่าน้ำมันเบนซินไม่ไหวแล้วครับ วันละสองร้อยสี่สิบบาท มีเงินก็เติมน้ำมันหมด เหลือใช้กินเดือนละสามพันเอง คงต้องหางานใหม่แล้วหละ หรือไม่ก็ต้องเปลี่ยนรถ ไม่งั้นก็ย้ายบ้านมาอยู่ข้างบริษัท ผมเป็นเซล ไม่มีค่าน้ำมัน จากคุณ : ต้อม WhiteAccorD - [ 19 ส.ค. 47 16:17:08 A:203.209.24.87 X: TicketID:065504 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คนที่ใช้เบนซินไม่ต้องประหยัดและจำกัดความเร็วหรอกเพราะรัฐบาลไม่ได้จ่าย แต่ไอ้พวกใช้ ดีเซล แล้วมาทะลึ่งบอกว่าน้ำมันถูกเหยียบให้สะใจ...ไอ้พวกนี้สิไม่ตักน้ำใส่กะโหลกดูว่ารัฐบาลน่ะเอาเงินในอนาคตมาจ่ายให้พวกเอ็งไปเหยียบเล่นกัน !? หัดคิดซะบ้าง จากคุณ : ต้องเข้าใจ (EE100Furious) - [ 19 ส.ค. 47 18:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 89 รัฐจะตึงถึงเดือนเมษาหน้าครับ จากคุณ : arokya - [ 19 ส.ค. 47 18:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คิดว่าควรตรึงต่อไป แต่ให้เพิ่มราคาขึ้นจากนี้ อีกนิดหน่อยก็ได้ค่ะ จากคุณ : น้องมังคุด - [ 19 ส.ค. 47 20:05:18 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เศร้าใจครับผมดูท่าทีของรัฐกับมาตรการตอนนี้ของรัฐฯ หลายอย่างถูกต้องเหมาะสม แต่โดยภาพรวมที่ผมใช้คำว่าเศร้าใจครับ? เพราะตอนนี้สถานการณ์มันวิกฤติขนาดนี้ นโยบายภาพรวมตอนนี้ ยัง แคร์กลุ่มทุนมากกว่าประชาชน เพราะผมเชื่อว่าณ.ตอนนี้รัฐฯมีข้อมูลเยอะและเพียงพอในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาคือจะเลือกใคร? ระหว่างประชาชนกับกลุ่มทุน น่าสงสารประชาชนที่เขาเลือกกลุ่มทุนโดยเฉพาะ ??? ผมไม่ฟันธงแต่ขอให้เราคิดร่วมกันและดูแลชะตากรรมคนไทยส่วนใหญ่ด้วยกันดีกว่า เพราะถ้าจะว่ากันตอนนี้ ทั้งที่ความจริงมันมีอยู่ แต่ถูกผิดดีชั่ว ใครจะหาข้อแก้ตัวให้ความจริงเดียวกันได้ดีกว่ากัน ผมจึงฝากไว้ที่เจตนาและความจริงใจดีกว่า? ว่าคุณแคร์กลุ่มทุน,พวกในพรรค, หรือความยั่งยืนแบบประชาชน จากคุณ : ตอม - [ 19 ส.ค. 47 21:03:38 A:61.90.55.35 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ตั้งใจจะมาโพสอะไร?ต่อแต่พอเห็นท่าทีของรัฐบาลแบบนี้ ผมพุดตรงๆว่าหมดศรัทธาและหมดอารมณ์ พูดไปก็ไล้บอย ไม่รู้เป็นงัยแต่รู้สึกสงสาร ,สมเพส ความคิดตัวเอง??? จากคุณ : ตอม - [ 19 ส.ค. 47 22:22:55 A:61.90.55.35 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง เชิญ ไปที่ห้องอื่นเลยครับ -------------- ขออีกที เริ่มไปเรื่องการเมืองแล้ว จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ 20 ส.ค. 47 00:52:24 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ความจริงก็คือความจริง แต่มีบางคนพยายามบิดเบือนความจริงด้วยการอ้างเหตุผลต่างๆนาๆเข้าข้างตัวเอง สุดท้ายก็จะหนีความจริงไปไม่พ้น แล้วเวลาที่ผ่านไปพร้อมกับการบิดเบือนล่ะ...ใครรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อส่วนรวม จากคุณ : อัลฟ่าบราโว่ - [ 20 ส.ค. 47 09:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่ควร คับ มันเป็นวิกฤต ของโลกฉะนั้น จะตรึงไว้ก่อตรึงได้ไม่นาน สู้ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก จะดีกว่าน่ะ จากคุณ : .. - [ 20 ส.ค. 47 12:35:50 A:168.120.13.74 X: TicketID:064037 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมก็ยังเห็นว่า ควรตรึงราคาน้ำมันต่อไป เพื่อดึงค่าครองชึพไม่ให้สูงเร็วเกินไป เรื่องกองทุนน้ำมันเป็นเพียงการแยกระบบบัญชีของรัฐเท่านั้น ไม่ได้ทำให้รัฐก่อหนี้สาธารณะแต่อย่างใด เหมือนกระเป๋าขวา กระเป๋าซ้ายเท่านั้น ราคาขายน้ำมันปกติที่ใช้อยู่ จะเป็นภาษีเสียครึ่งหนึ่ง ดังนั้นถึงจะตรึงอย่างไร ถ้าใช้การหักกลบตัวเลขภาษีกับกองทุนชดเชยแล้ว การเก็บภาษ๊ยังคงได้อยู่ สรุปว่า ตรึงราคาต่อไป ตามคติ กันไว้ (ค่าครองชีพพุ่งสูงเร็ว) ดีกว่า แก้ จากคุณ : ยุทธ - [ 20 ส.ค. 47 13:07:35 A:202.133.176.107 X: TicketID:070109 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ส่วนตัวมีรถ ใช้ดีเซล กะ เบนซิน ในปริมาณ ใกลัเคียงกัน.. แต่ที่..ผมเสนอให้ ตรึง ราคา ..เพราะราคาสินค้าทุกชนิด..รอปรับราคาอยู่แล้ว.. ถึงตอนนี้ ก็ ปรับกันไป ส่วนหนึ่งแล้ว.. ยิ่งเป้นพวก เคมี.. พลาสติค ให้อยู่วงการนี้ ตอนนี้ก็น่าจะรู้ว่า ปั่นป่วน แค่ไหน.. และถ้าสินค้า อุปโภค บริโภค ขึ้นราคาทุกชนิด.. คนจน คงประหยัดลงไปได้ไม่มากกว่านี้..แต่ลำบากมากขึ้น อีกมาก แน่ๆ ส่วนคนมี ตัง.. ต่อให้สินค้าขึ้นไปมากกว่านี้..ก็คงไม่ประหยัดไปกว่านี้ เพราะไม่เดือดร้อน... ผมว่าอยู่ที่จิตสำนึก กันมากกว่าครับ ว่าจะประหยัดหรือไม่ประหยัด.. แบบน้ำมันเบนซิล ราคาแพงๆ แต่รถป้ายแดงก็ออกทุกวัน ..รถบนถนนก็ติด โครตๆ ทุกวัน ไม่เห็นมีใครประหยัดกันสักคน.. อุ้มดีเซล ไว้เถอะครับ ผมว่าถัวเฉลี่ย แล้ว ..เสียเงิน สัก 4-5 หมื่น ล้าน ..(โดนอาจจะหาทาง อื่น เรียก เงินคืนเข้ากองทุน..คืน ดีกว่าปล่อยให้ เศรษฐกิจ ให้ได้รับผลกระทบนะครับ... ตอนนี้ ..ใครว่าเศรษฐกิจดี..ผมว่ามันเหมือน คน อมโรค มีโรค แอบๆๆ ซ่อนๆ อยู่..อย่าให้เจอ ไวรัส.น้ำมัน เข้าแทรกแทรง...ถ้า โดนคราวนี้ ล้ม แล้ว ลุกไม่ได้ อีกนานนะครับ.. จากคุณ : หมอดู แม่นๆ - [ 20 ส.ค. 47 14:00:45 A:202.183.174.164 X: TicketID:002560 ]

ความคิดเห็นที่ 98 อะไรก็ไม่สำคัญเท่าประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับส่วนรวม ส่วนรวมต้องมาก่อนเสมอ ไม่ใช่อุดมการณ์นะ...เรื่องจริง นอกจากนั้น เรื่องพลังงานทดแทน หรือปลูกฝังจิตสำนึกการประหยัดพลังงาน อะไรที่จะทำให้ดีขึ้นก็ต้องทำ จากคุณ : ส่วนรวมมาก่อน - [ 20 ส.ค. 47 15:02:31 A:10.15.51.70 X:202.176.106.229 TicketID:034208 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ไม่เห็นด้วยกับการตรึงราคา กลับไปทบทวนภาษีน้ำมันเตาดีกว่า ทำไมไม่ปรับภาษีให้สูงหน่อย ไหนว่าจะผลักดันออกไปประเทศด้อยพัฒนา ส่งออกไปเลย เก็บภาษีแพงๆไปเลย แล้วเอาเงินที่เราส่งออกได้มาสนับสนุนพลังงานทดแทนดีกว่า เป็นแก๊ซ LPG NG อะไรก็ว่าไป จากคุณ : รองเท้าเปื้อนฝุ่น (dirty shoe) - [ 20 ส.ค. 47 15:26:24 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง เชิญ ไปที่ห้องอื่นเลยครับ -------------- ขออีกที เริ่มไปเรื่องการเมืองแล้ว จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ 20 ส.ค. 47 00:52:24 ] เห็นด้วยมากๆ จากคุณ : หลิงน้อย - [ 20 ส.ค. 47 16:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ปล่อยให้ลอยตัวไปเรยค่ะ..จะตรึงไปทำไม ใครอยากหมดตัวก็ให้คนนั้นมางผลาญใช้น้ำมันให้กระเป๋าตังค์มางทะลุไปคนเดียวสิ อย่าเอากระเป๋าตังค์คนทั้งชาติไปเกี่ยวด้วยอ่ะ..ฉานก็เสียภาษีแยะน๊าขอบอก แต่รู้จักใช้ชีวิตไม่ให้มางสิ้นเปลืองมาก..และก็ไม่อยากทำร้ายคนในชาติส่วนใหญ่ที่ยังเป็นตาสีตาสาที่น่าสงสาร ขนาดที่ผ่านมาน้ำมันมางตรึงราคา ราคาสินค้า ข้าวราดแกงก็อัพอาวๆๆ ไม่เห็นจาอัพแอนด์ดาวน์ เรยอ่ะ เซ็งอ่ะ จากคุณ : หนูเพ็ญ - [ 20 ส.ค. 47 21:29:47 A:203.118.117.106 X: TicketID:070865 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ตอบคุณ 93 และ 100 ครับ เพราะการเมืองมีส่วนอย่างมากและแน่นอนในการกำหนดนโยบาย ต่างๆ ทำให้เกิดผลคือทุกคนประสบกรรมร่วมกันเดียวกัน ภายใต้เงื่อนไขการตัดสินใจในเชิงนโยนบายผ่านมิติทางการเมือง เดียวกัน? มันไม่เกี่ยวข้องอะไร?กันเลยใช่ไหม? แต่ราคาน้ำมันที่คุณควักจ่ายนั้น คุณคงปฎิเสธไม่ได้ว่ามันได้ผ่านกระบวนการคิดกระบวนการตัดสินใจผ่าน นโยบายทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย ที่จริงๆก็คือรัฐบาล ที่มันไม่เกี่ยวเนื่องอะไรเลยเหรอกับคนที่ฟันธงกำหนดลงไปเลยว่าน้ำมันต่อลิตรต้องจ่ายในราคาเท่าไหร่? ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการเมืองมันไปเกี่ยวอะไรกับฐานเสียงการหาเสียงมันเกี่ยวเนื่องยังงัยกับราคาน้ำมัน และผมกำลังจะตั้งข้อสังเกตุต่อไปว่า การตัดสินใจเป็นผลลัพธ์ของราคาแบบนี้เขาให้ความสำคัญกับใครมากกว่าระหว่าง การเมืองภาคประชาชน(คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน) หรือเพื่อรักษา,ช่วงชิงจังหว่ะ หาคะแนน จากการเมืองภาคประชาชน เพื่อรักษาจังหว่ะความได้เปรียบกับการเมืองเวทีใหญ่ที่เป็นตัวแปรว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล จนเขาสรุปมาว่าโครงสร้างของกลุ่มทุนต่างหากที่จะตอบโจทย์การเป็นรัฐบาลสมัยหน้าว่าเป็นใคร?มากกว่าคะแนนบริสุทธิของประชาชนบนกติกาที่ตกลงไว้ร่วมกันประชาชนหน้าโง่,การเมืองภาคประชาชนตอนนี้ยังตามตูดเขาอีหลายกิโลแม้ว? จากคุณ : ตอม - [ 20 ส.ค. 47 23:28:00 A:61.90.55.152 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ความคิดเห็นที่ 102 ผมหมายความว่า กระทู้นี้แค่ถามว่า "คุณคิดว่า รัฐบาลไทยยังควรใช้มาตรการตรึงราน้ำมันดีเซลต่อไปอีกหรือไม่?" เท่านั้น ไม่ใช่ ให้มาคุยกันเรื่องการเมือง ไม่ใช่ให้มาบ่นๆกันว่า ทำไปเพื่อ หาเสียงหรือว่าอย่างไร ถ้าคิดว่า เขาหาเสียง ก็อยากจะเชิญ ไปที่ห้องที่เขาคุยเรื่องการเมือง กันจะดีกว่าครับ เพราะอ่านๆ ที่คุณๆ เขียนๆมาเนี่ย การเมือง เห็นๆ อยากจะถามคุณว่า คุณ ได้ตอบคำถามของ กระทู้นี้แล้วหรือยัง ครับ เพราะที่อ่านมา(คร่าวๆ ไม่เจอคำตอบเลย ว่า สมควรตรึงหรือว่าไม่ตรึง ถ้าตอบแล้วก็ขออภัย เนื่องจาก คุณเขียนเรื่องการเมือง ผมเลยไม่อยากอ่าน) จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ 21 ส.ค. 47 00:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ดีเซล เป็นนำมันเศษฐกิจ จากคุณ : เล็ก ศิริถาวร - [ 21 ส.ค. 47 06:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เคยได้ยินมาว่า ราคาน้ำมันที่เราซื้อมาจากทางตะวันออกกลาง อยู่ประมาณ 39 เหรียญ ทำให้ต้นทุนจริงๆของเบนซินที่หน้าโรงกลั่นอยู่ที่ประมาณ 11 บาท บวกสารพัดภาษีอีกประมาณ 5 บาทกว่า ราคาขายจริงๆ ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 16 บาทกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องชดเชยเบนซิน สามารถนำเงินกองทุนไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ แต่ตอนนี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมเราต้องไปอ้างอิงราคาที่ตลาดนิวยอร์กเหมือนสิงคโปร์ที่ประมาณ 49 เหรียญ ต่างกัน 10 เหรียญเพราะเราซื้อได้โดยตรงจากตะวันออกกลาง ส่วนต่าง 5 บาทต่อลิตร มันไม่ได้ประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ของประเทศเลย ถ้าน้ำมันอิงที่ต้นทุนจริง ราคาจะลดลงมาก ย่อมจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติ แล้วทำไมไม่ทำกัน ทั้งๆที่ข้อมูลพวกนี้ใครๆก็รู้ จากคุณ : วิดสะวะ - [ 21 ส.ค. 47 10:40:54 A:202.133.167.129 X: TicketID:070907 ]

ความคิดเห็นที่ 106 อ้อ ต่อนะครับ ดังนั้นผมเห็นควรให้ลอยตัวน้ำมันเบนซินตามต้นทุนจริงที่ 16 บาทแล้วตึงราคาดีเซลพร้อมนำเงินบางส่วนมาชดเชยเพื่อให้ราคาดีเซลต่ำกว่า 14.59 บาทครับ จากคุณ : วิดสะวะ - [ 21 ส.ค. 47 10:43:43 A:202.133.167.129 X: TicketID:070907 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เห็นด้วยกับ105ครับ นั้นคือสิ่งที่ผมกำลังพูดถึงและนำเสนอปัญหาที่ว่าเราเอาความอ่อนไหว เซ็นซิทีฟทางพลังงานเราเอาไปผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรีเกินไป อย่างที่ผมนำเสนอข้างบน กับตัวอย่างที่ว่า อเมริกาตดใส่อิรัค ประเทศเราลงไปชักดิ้นชักงอ เพราะจมูกไวและเช็นซิทีฟมาก เพราะเราเช่าจมูกเขาไปโยงกับปัจจัยที่อ่อนไหวหลายอย่างมาก กับทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ สุดขั่วแบบไม่มีวัคซีนการสร้างภูมิคุ้มกันภัย,ป้องกันตัวเอง ด้วยนโยบายทางเลือกที่มากกว่านั้น ให้เราหลุดออกมาจากพันธนาการของการผูกขาดด้วยทุนนิยมอย่างเสรีเกินไป? ส่วนคุณDIMMER ครับผมเข้ากระทู้นี้ผ่านการแนะนำบนบอร์ดหน้าห้องแนะนำ และเชื่อว่าคงไปแปะอยู่ทุกห้อง ประเด็นมันจึงต้องมีความหลากหลายไปตามความต่างของแต่ละห้อง และมันเป็นที่สาธารณะที่เปิดกว้างทางความคิด และสิทธิในการนำเสนอความคิดเห็นหรือแตกประเด็นประกอบความคิดเห็นมันจึงต้องมีลำดับที่มาที่ไป ส่วนที่บอกว่าผมนอกประเด็น ผมก็กำลังชี้แจงอยู่นี่งัย ถ้าคุณอ่านก็จะรู้ว่าผมตอบต่อประเด็นของกระทู้มาก่อนเลย ในความคิดเห็นแรก(29) และได้อธิบายที่มาที่ไปว่าทำไมผมจึงให้ทรรศนะต่อกระทู้ไปแบบนั้น ผมอาจจะแตกประเด็นเพื่อหาเหตุผลหาข้อสรุปสนับสนุนข้อคิดเห็นต่อประเด็นว่าเรื่องนี้ต้องใช้การพิจารณาร่วมกับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งการนำเสนอทางออกในวิธีแก้ และเป็นนิสัยผมที่ไม่ค่อยชอบวิธีนำเสนอแต่ปัญหากล่าวหาคนอื่น แต่เราควรจะชี้ให้เห็นด้วยเหตุด้วยผลว่าไม่เห็นด้วยอย่างไร?และควรเป็นอย่างไร? อย่างน้อย ได้ผลสรุปของความคิดต่างไม่ใช่ไปตีหัว(ใคร)แล้ววิ่งหนีเข้าบ้าน ผมเรียกการวิจารณ์ที่นำเสนอแต่ปัญหานั้นว่าว่าคือ"อันธพาลทางความคิด" ผมคงไม่รับพิจารณาคำเชิญไปที่อื่นของคุณ เพราะคุณไม่ได้มีสิทธิโดยหน้าที่ตรงนั้น และที่ผมเข้ามาเพราะ เมื่อเห็นว่ามีคนชงประเด็น แล้วชวนทุกคนลงมาเล่นแบบไม่เลือกชั้นวรรณ แต่มีกติกาควบคุมบ้าง ผมแคร์ตรงกติกามากกว่าคำขู่ตะคอก ที่บอกถึงมาตรฐานหลายๆอย่างในตัวคุณ ถ้าผมผิดข้อบังคับในกติกาชัดเจนคนดูที่เขามีสิทธิในหน้าที่โดยตรง ของเขาถ้าผมผิดข้อบังคับเขาเชิญให้ใบแดงผมแน่ผมเคารพตรงนี้มากกว่าครับไม่ใช่แบบนั้นของคุณ? เอาเป็นว่าผมชี้แจงด้วยเหตุด้วยผลในสิ่งที่คุณอาจจะไม่เข้าใจไม่ได้เจตนาจะวิวาทะกับใคร? และจะยุติการสนทนาประเด็นนี้กับคุณยกเว้นว่ายังมีสิ่งที่จะต้องชี้แจงสำคัญๆเพราะจะให้ตามตอบทุกเรื่องก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่เรื่องแบบนี้ถือว่าธรรมดามากผมเห็นมาเยอะแต่พึ่งจะโดนเองจากคุณ? จากคุณ : ตอม - [ 21 ส.ค. 47 12:34:43 A:61.90.55.212 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ถ้าจะตรึงราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นดีเซล หรือ เบนซิน สักระยะหนึ่ง และรู้ว่าอนาคตอันใกล้จะลดลงมาปกติ หรือ ใกล้เคียง ก็สมควรจะตรึงราคาไว้ เพื่อประคับประคอง ราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค...... แต่หากตรึงไว้ไม่มีกำหนด หรือ ระยะยาวไป จะเป็นผลเสียแก่เศรษฐกิจและความรับผิดชอบของประชาชน ที่ไม่ได้สำนึกถึงราคาน้ำมันที่แท้จริง....... ในกรณีประเทศไทยนั้น รัฐบาลตรึงราคาด้วย"การชดเชย" เมื่อราคาตลาดโลก ลดลงมา ราคาน้ำมันประเทศอื่นๆ จะลดลงตามภาวะตลาด แต่ราคาน้ำมันในประเทศไทย จะมี"ราคาตรึง" นั้นต่อไป จนกว่าจะใช้หนี้ในกองทุนหมดสิ้น ซึ่งจะเป็นผลเสียแก่เศรษฐกิจ มากกว่า....... การอ้างว่า ปล่อยให้ราคาสินค้าขึ้นตามราคาน้ำมันเท่าใด เมื่อราคาน้ำมันลดลง ราคาสิ้นค้าจะไม่ลดลงตามนั้น ผมว่าพิจารณาได้ 2 ประการ..... 1. ประสิทธิภาพของข้าราชการในการดูแลผลประโยชน์ของผู้บริโภค ....เช่น กรมการค้าภายใน และ คณะรัฐมนตรี....... 2. ถ้าข้าราชการมีประสิทธิภาพในการทำงาน + กลไกตลาดจะเป็นตัวกำหนด ราคาที่แท้จริง ให้ได้เหมาะสม......... จากคุณ : ปุถุชน - [ 21 ส.ค. 47 13:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ที่ให้ตรึงราคาน้ำมันไม่เห็นออกความเห็นเลยว่าจะให้เอาเงินส่วนไหนมาใช้ หรือจะขอรับบริจาคจากประชาชนหรือขึ้นภาษี จากคุณ : ยอดฟ้า - [ 21 ส.ค. 47 13:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ความคิดเห็นที่ 107 ใช่ครับแปะไว้ทุกห้อง แต่ กรุณาอ่าน กระทู้ให้ดีๆก่อน เขาถามว่าอย่างไร และความเห็นอื่นๆ ผมอ่านแล้ว ก็ไม่เห็นเขาจะเอ่ยถึงการเมืองมากเหมือนคุณ และกระทู้นี้ ก็ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย ใช่ครับผมไม่มีสิทธิ จะไม่ให้คุณมาออกความคิดเห็นในกระทู้นี้แล้วโยงไปเรื่องการเมือง ผมบอกว่า "คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง เชิญ ไปที่ห้องอื่นเลยครับ" ใช่ครับ แต่ผมไม่ได้ไล่คุณ ผมบอกว่า "เชิญ" คุณไม่ไปก็เรื่องของคุณ ผมมาอ่านเจอ ผมก็บอกว่า "เชิญ" มันก็เรื่องของผม ที่จะ "เชิญ" เหมือนกับ "เชิญ" คุณเข้าบ้าน คุณ บอกว่า ไม่เข้า ก็เรื่องของคุณ ผมไม่ได้บังคับ เอาปืน มาจ่อหัวคุณเสียหน่อย เพียงแต่ว่า ผมก็อยากจะ"เชิญ" ไปเรื่อยๆ ถ้า อ่านแล้วมันจะโยงไปทางการเมือง ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำผิดกฏกติกาของ pantip เช่นกัน ------------- "ผมเรียกการวิจารณ์ที่นำเสนอแต่ปัญหานั้นว่าว่าคือ"อันธพาลทางความคิด" ผมคงไม่รับพิจารณาคำเชิญไปที่อื่นของคุณ เพราะคุณไม่ได้มีสิทธิโดยหน้าที่ตรงนั้น และที่ผมเข้ามาเพราะ เมื่อเห็นว่ามีคนชงประเด็น แล้วชวนทุกคนลงมาเล่นแบบไม่เลือกชั้นวรรณ แต่มีกติกาควบคุมบ้าง ผมแคร์ตรงกติกามากกว่าคำขู่ตะคอก ที่บอกถึงมาตรฐานหลายๆอย่างในตัวคุณ ---------- ผมว่า มาตรฐาน ในตัวคุณคงจะไม่ต่างจากผมล่ะกระมังครับ ถ้าคุณ อ่านประโยค "คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง เชิญ ไปที่ห้องอื่นเลยครับ " แล้วตีความหมายเป็นคำว่า ขู่หรือว่าตะคอก ผมว่าก็คงบอกมาตรฐานหลายๆอย่างในตัวคุณได้หลายๆอย่างเช่นกัน เพราะผมไม่ได้บอกคุณ ว่า "คือว่า ถ้าจะเอามาโยงไปเรื่อง การเมือง ไปที่ห้องอื่นเลยครับ" ผมขออภัยแล้วกัน ที่ถามว่า "คุณ ได้ตอบคำถามของ กระทู้นี้แล้วหรือยัง ครับ " เพราะผมเข้ามาอ่านกระทู้นี้ เพื่ออยากทราบความเห็นคนอื่นๆ ว่า สมควรตรึงหรือว่า ไม่สมควรตรึง ไม่ใช่อยากเข้ามาอ่านแล้วมาเจอเรื่องการเมือง ถ้าผมอยากอ่านเรื่องการเมือง ผมก็จะเข้าไปห้องการเมืองเองครับ หรือว่า ถ้าคุณอยากโยงไปทางการเมือง ผมว่า คุณตั้งกระทู้ ใหม่ ที่ห้องการเมือง แล้ว เอา ลิงค์ มาแปะไว้ที่นี่ ก็ได้ คนที่อยากอ่านเขาก็จะตามไปอ่านเอง ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะแยกห้องเอาไว้หลายๆห้องทำอะไรหรือครับ อย่าลืมครับว่า ในpantip ก็มีห้องที่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าอยากจะโยงไปหาการเมือง ก็ไปที่ห้องการเมืองดีกว่า จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ 21 ส.ค. 47 14:48:02 ]

ความคิดเห็นที่ 111 อ้อ จริงๆแล้ว ผมก็ไม่ได้ต้องการจะสนทนาประเด็นนี้กับคุณนะ คุณ "ตอม" แต่คุณเอ่ยถึงผมก่อน --- กระทู้นี้ผ่านการแนะนำบนบอร์ดหน้าห้องแนะนำ และเชื่อว่าคงไปแปะอยู่ทุกห้อง ประเด็นมันจึงต้องมีความหลากหลายไปตามความต่างของแต่ละห้อง และมันเป็นที่สาธารณะที่เปิดกว้างทางความคิด ---- ใช่ครับเปิดกว้างทางความคิด แต่ขอให้อยู่ในหัวข้อกระทู้ ได้หรือเปล่า ครับ เขาถามว่า "คุณคิดว่า รัฐบาลไทยยังควรใช้มาตรการตรึงราน้ำมันดีเซลต่อไปอีกหรือไม่?" ตอบว่า ควรหรือว่าไม่ควร เพราะอะไร ยกเหตุผลที่เกี่ยวข้องกันมา ไม่ใช่ ว่าตอบเสร็จแล้ว โยงไปเรื่องอื่น ไม่อย่างนั้น ผมตอบเสร็จ ผมก็โยง ไปเรื่องข้าวหมกไก่ คนอื่นโยงไปหมูผัดพริกขิง อีกคนโยงไปเที่ยวดูดอกกระเจียว มันส์กันล่ะงานนี้ ถ้าจะบอกว่า เป็นกระทู้แนะนำ แล้ว สามารถออกความเห็นได้หลายหลากก็ใช่ครับ แต่ว่า ควรจะอยู่ใน ประเดนของกระทู้ มิใช่ โยงไปเรื่องอื่นๆ เพราะอ่านของคุณอย่างไง มันก็ การเมืองล่ะครับ สุดท้ายล่ะครับ ผมอ่าน ประโยคนี้ของคุณ "ที่บอกถึงมาตรฐานหลายๆอย่างในตัวคุณ" แล้วผมรู้สึกว่า คุณ เป็นคนที่ ไม่น่าคบด้วยอย่างมาก เพราะผมคิดว่าคนที่น่าคบด้วย ไม่ควรจะให้วาจา ประมาณประโยค นั้น ท้ายนี้อยากจะบอกว่า "มาตรฐานของคุณ มันแคบอยู่แค่ของคุณเท่านั้นล่ะครับ" ผมไม่ใส่ใจกับคนอย่างคุณแล้วล่ะครับ เพราะมาตรฐานหลายๆอย่างในตัวคุณ ไม่น่าคบไม่น่าคุยด้วย จากคุณ : เห่อๆๆ (DIMMER) - [ 21 ส.ค. 47 16:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 112 รร แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 47 17:25:58 จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 21 ส.ค. 47 17:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 113 คนโง่เท่านั้น ที่คิดว่า ทุกอย่างควรปล่อยเสรี คนที่โง่กว่า คือ คนที่คิดว่า ปล่อยเสรีไม่ได้ต้องควบคุม โดยไม่รู้ เงื่อนไข และ ปัจจัยของการควบคุม ในโลกทุนนิยม การควบคุมนั้น เค้าทำกันตรงส่วนที่คิดว่า ราคาของมันจะ กระชากขึ้นกระชากลง แล้วจะมีคนมาหาประโยชน์ตรงนั้น นั่นคือ คนควบคุม ต้องรู้เงื่อนไขของตลาดมากพอควร ไม่ใช่ควบคุมส่งเดช พูดแค่นี้แหละ หมู่นี้ไม่ค่อยมีเวลา จากคุณ : โต - [ 21 ส.ค. 47 17:28:17 A:202.133.154.132 X: TicketID:004821 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ครับคุณเห่อๆๆ (DIMMER) ครับถ้าเข้าใจชัดเจนแบบนั้นก็ดีแล้วครับ ผมประจำอยู่ห้องการเมือง(ราชดำเนิน)ครับ คงไม่ต้องถามต่อว่า เกี่ยวยังงัยกับแนวคิดแบบการเมือง และกระทู้นี้ตั้งหราอยู่หน้าบ้านหน้าห้อง(ราชดำเนิน) ถ้าผมไม่มองก็เดินชน และก่อนที่ผมจะเดินชนบังเอิญเห็นก่อนเลยเข้ามาทักทาย เอาเป็นว่าถ้าติงเรื่องผมลากกระทู้ไปยาว ก็ต้องน้อมรับล่ะครับนั้นอาจจะเป็นความบกพร่องหรือโดยสุจจริตใจโดยความตั้งใจในสไตส์ผมมันอาจจะใช้พื้นที่รัสมีทำการไกลจนไปโดนต่อม(หมั่นไส้)อะไร?ของใคร ก็ขอโทษจริงๆรับทราบครับ? จากคุณ : ตอม - [ 22 ส.ค. 47 06:17:41 A:61.90.55.185 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 115 เอาหล่ะครับผมพอเข้าใจคุณแล้วครับขนาดผมเองยังไม่รู้ว่าคุณคุยมาจากห้องไหน? แต่ที่แน่ๆผมคุยมาจากห้องการเมือง(ราชดำเนิน) แต่บังเอิญเขาเอาไปแปะไว้ในทุกๆหน้าห้อง บังเอิญว่าคุณกำลังเล่นหมากเก็บหรือขี้ม้าส่งเมืองหรือใช้สมาธิกับการเล่นเปตองหรือจากห้องไหนทผมก้ไม่ทราบ? บังเอิญว่าศูนย์อำนวยการกลางในงานวัดลาดวัดเขาใช้เสียงประกาศให้ทุกคนในงานทราบทั่วกัน บังเอิญมันไปรบกวนสมาธิคุณและ เพราะรสนิยมมันต่างกัน แต่ต้องมาฟังเรื่องเดียวกันที่มันจึงเป็นเหตุแห่งความรำคาญส่วนตัวคุณจนได้ ถ้าต้นเหตุมันมาจากผมจนคุณระบุชื่อมาขนาดนั้นเอาเป็นว่าผมเข้าใจคุณ และรู้สาเหตุแล้วครับว่ามันเกิดอะไร?ขึ้นแต่คงจะต้องรักษาสิทธิในความเป็นตัวเองของผมเช่นกัน(สำหรับคุณเห่อๆๆ (DIMMER)ยิ้มให้ครับ แต่คงต้องขอโทษไปยังคนอื่นที่บังเอิญเข้ามาเจอเรื่องน่ารำคาญแบบนี้แล้วกันครับถ้าเรื่องนี้ต้นเหตุมาจากผม จากคุณ : ตอม - [ 22 ส.ค. 47 06:39:27 A:61.90.55.185 X: TicketID:001922 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ไม่รำคาญหรอก คุณคอม ปล่อยพวกที่ไม่ค่อยยอมฟังคนอื่น ฟังแต่เสียงตัวเองเค้ารำคาญไปเถอะ เราอยากฟังความเห็นหลายๆมุม จะได้รู้ว่าโลกข้างนอกเค้าเป็นอย่างไร คิดอย่างไรกัน ไม่อยากอยู่ในห้องแคบๆ เราคิดว่าตัวเองเจ๋งพอ จากคุณ : วรวรรณ - [ 22 ส.ค. 47 13:05:58 A:161.246.51.149 X: TicketID:068832 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ขอแก้ไขข้อความหน่อย จากคำว่า"เรา" เปลี่ยนเป็นคำว่า"แล้ว" ไม่อยากอยู่ในห้องแคบๆ แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งพอ จากคุณ : วรวรรณ - [ 22 ส.ค. 47 15:05:20 A:161.246.51.197 X:161.246.1.35 TicketID:068832 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ตรึงไว้ได้ไม่นานหรอกครับ แล้วมันก็จะแตก ทีนี้เศรษฐกิจจะเป็นยังไงละเนี่ย กลัวจริงๆ ทุกวันนี้ผมหันมาใช้จักรยานช่วยชาติประหยัดครับ อยากจะให้ทุกคนหันมาใช้จักรยานกันครับเวลาไปไหนมาไหนที่มันไม่ไกลมาก แล้วหันมาใช้บริการรถไฟฟ้า รถบริการแทนครับ ประหยัดนำมันได้เยอะเหมือนเมืองนอกที่ผมเคยไปอยู่ เขาทำกันแบบนี้ครับดูแล้วคนในชาติมีจิตสำนึกดีครับ ชอบมากครับทำให้ตัวเมืองมีระเบียบ ที่สำคัญแก้ปัญหาจราจรได้ดีครับ จากคุณ : อะนะ (MAGABOY) - [ 22 ส.ค. 47 16:12:01 ]

ความคิดเห็นที่ 119 อิฉันขอแจมด้วยน๊าค๊าว่าเห็นด้วยกะคุณ DIMMER จิงๆค่ะว่า..กระทู้เค๊าว่าไงก็ตอบๆเค๊าไปเหอะ..ถ้าไม่อยากตอบตามหัวข้อกระทู้ก็อ่านๆอย่างเดียวก็พอ แต่ถ้าจะจาบจ้วงล้วงละเมิดไปเรื่องอื่นอ่ะก้อ ต้องไปหากระทู้เรื่องนั้นเอาเอง มีอีกตั้งหลายกระทู้อ่ะที่ให้ด่ารัฐบาล กระทู้นี้เค๊าแค่ถามเรื่องน้ำมันก็ตอบๆไปจิ ไม่อยากตอบเรื่องน้ำมันก็ไปตั้งหัวข้อกระทู้ด่ารัฐบาลเอาจิ.. เขียนกันยาวๆอ่ะ เครื่องคอมคนอื่นเค๊าเสียเวลาโหลดอ่ะ เอาแต่เนื้อๆก็พอมั๊งค๊ะ ว่ามั๊ย !! ว่าแต่อิฉันเขีนยแบบนี้ จาโดนใครอัดมั่งป่าวเนี่ย แหะๆ จากคุณ : หนูเพ็ญ - [ 22 ส.ค. 47 16:18:15 A:203.118.117.171 X: TicketID:070865 ]

ความคิดเห็นที่ 120 อ้อ..ลืมไปว่าอ้างอิงกะความคิดเห็นของคุณ DIMMER ที่ #103 #110 #111 ค่ะ ส่วนอิฉันตอบปัยแล้วในหัวข้อที่ 101 อ่ะค่ะ จากคุณ : หนูเพ็ญ - [ 22 ส.ค. 47 16:26:50 A:203.118.117.171 X: TicketID:070865 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ความคิดเห็นที่ 114 ครับ ไม่ได้โดนต่อม(หมั่นไส้)อะไร? ของใครหรอกครับ เพียงแต่ว่า ผมว่าไม่น่าโยงเข้าเรื่องการเมืองเท่านั้นล่ะครับ ส่วนมากผมอยู่ ห้อง รัชดา ครับ เรื่องการเมืองผมก็สนใจครับ แต่ ไม่อยากออกความเห็นน่ะครับ ยินดีที่ได้คุยด้วยครับ จากคุณ : DIMMER - [ 22 ส.ค. 47 18:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ถ้าปล่อยลอยตัวข้าวของก็จะแพงขึ้น แต่ตอนนี้กำลังกลัวว่าพอไม่มีเงินพอปุ๊บมันจะปล่อยลอยตัว งานนี้ไม่ต้องของขึ้นหรอกคะ รถก็จอดไว้เฉยๆ เหอะ..... ทางที่ดีน่าจะให้ขึ้นทีละนิดๆ น่าจะดีกว่านะคะ ------------------------------------ เกาะติดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ http://www.digimc.net จากคุณ : สิงห์ใต้เงาจันทร์ (ise...) - [ 22 ส.ค. 47 21:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ขอตรึงราคาน้ำมันดีเซลถึงก.พ.ปีหน้าเพราะหมดฤดูหนาวเป็นเพียงข้ออ้าง จริงๆแล้วเพราะเลือกตั้งเสร็จแล้วต่างหาก http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9470000039470 ทั้งนี้ มาตรการประหยัดพลังงาน ประกอบด้วย การปิดห้างสรรพสินค้าเวลา 20.00 น. ไฟป้ายโฆษณาเวลา 22.00 น. ปิดสถานีบริการน้ำมันเวลา 24.00 น. และที่ประชุมเห็นด้วยให้เร่งก่อสร้างที่จอดรถสาธารณะเพื่อต่อรถขนส่งมวลชน ที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ซึ่งรองรับรถยนต์ได้ถึง 1,500 คัน สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ 1,000 คัน โดยทหารอากาศจะเริ่มเข้ามาก่อสร้างได้ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ และให้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดตั้งศูนย์ลดจำนวนรถบรรทุกเที่ยวเปล่า โดยเบื้องต้นคาดว่าจะลดมูลค่าการใช้น้ำมันได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมว่ามาตรการบังคับที่จะนำมาใช้โดยเฉพาะเรื่อง การปิดห้างสรรพสินค้าช่วงเวลา 20.00 น. นั้น อาจจะใช้ไปถึงประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ หลังจากนั้นอาจจะยกเลิก เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ ประชาชนจะออกมาจับจ่ายใช้สอย แต่มาตรการนี้ไม่ได้รวมไปถึงร้านค้าสะดวกซื้อที่เปิดขาย 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด และยืนยันว่าการกำหนดระยะเวลาการตรึงดีเซลไปจนถึงสิ้นหน้าหนาวไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด เพราะการตรึงราคาได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ที่นำมาใช้จนถึงสิ้นหน้าหนาว เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าขยับขึ้นและประชาชนจะเดือดร้อน ทั้งนี้ แม้ว่าการตรึงราคาน้ำมันอาจจะใช้เงินถึงประมาณ 50,000 ล้านบาท แต่รัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งจะใช้เงินพิเศษมาดำเนินการ โดยจะเห็นได้ว่าการตรึงราคาทำให้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ คาดว่าตัวเลขจีดีพีปีนี้และปีหน้าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6 การจัดเก็บภาษีสามารถจัดเก็บได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่ใช้เงินภาษีหรือเงินงบประมาณมาชดเชยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่จะใช้เงินงบประมาณมาดำเนินการสำหรับการจ่ายอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ไปยืมเงินเพื่อตรึงราคาน้ำมัน และหลังจากสิ้นฤดูหนาวไปแล้วการจะประกาศปรับขึ้นน้ำมันดีเซลจะเป็นเท่าใด หรือเป็นลักษณะทยอยปรับก็จะดูความเหมาะสมต่อไป -------------------------------------------------------------------------------------------------------- ถ้าหากการตรึงราคาน้ำมันเป็นสิ่งดีทำให้เศรษฐกิจเติบโต ทำไมไม่ตรึงไปตลอดกาล ทำไมถึงจะตรึงไปถึงแค่ก.พ.ปีหน้า ถ้าอ้างว่าตรึงไปถึงฤดูหนาว ทำไมรัฐบาลก็เรื่มตรึงมาตั้งแต่ฤดูหนาวปี 47 แล้วทำไมต้องมาเลิกตรึงฤดูหนาวปี 48 เป็นข้ออ้างที่ไร้เหตุผลสิ้นเชิง จริงๆแล้วก็คือการใช้เงินของชาติ 50,000 ล้านบาทซื้อคะแนนเสียงพอพ้นเลือกตั้ง ค่อยมาว่ากันนั่นเอง เพราะถ้าจริงใจก็บอกแล้วว่าพอเดือนก.พ. จะขยับขึ้นน้ำมันดีเซลไปที่ 18 บาท ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียคะแนนเสียง ใช้เงินชาติซื้อคะแนนเสียงบรรทัดฐานใหม่ของสังคมไทย เพราะทำแบบนี้ยังมีคนเลือกเข้ามาอีก ต่อไปนี่คือบรรทัดฐานใหม่ของนักการเมืองไทย จากคุณ : south - [ 23 ส.ค. 47 08:45:18 A:211.30.40.103 X: TicketID:067185 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ขอโทษนะครับ ชดเชยไปเรื่อยๆแล้วจะรอให้ระเบิดตูมทีเดียวคนปรับตัวไม่ทัน ตอนนั้นจะยิ่งเข้าไปใหญ่ ขอให้ลอยตัวด่วน จากคุณ : ชัฏ - [ 23 ส.ค. 47 13:21:43 A:202.47.247.130 X: TicketID:043818 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เหอะๆ พวกที่บอกว่าอย่าตรึงเพราะไม่เท่าเทียมหรืออะไรก็แล้วแต่ อยากจะบอกว่า เด๋วก็รู้สึกเอง เมื่อดีเซลขึ้น คราวนี้แหละ เท่าเทียมของจริง พวกเราจะได้ซื้อของแพงๆเหมือนกันไงล่ะ ลองคิดดูละกัน . จากคุณ : Harsun - [ 23 ส.ค. 47 14:10:21 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ดีเซลก็ตรึงกันไป แต่ช่วยลดการได้เปรียบของคนขับรถดีเซลส่วนบุคคลลงหน่อย เพราะคนพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขนส่งที่มีผลต่อเศรษฐกิจ แต่กลับยิ่งใช้น้ำมันสิ้นเปลืองมากขึ้น เนื่องจากน้ำมันถูก โดยการเสียภาษีให้หนักแล้วเอาภาษีส่วนที่ต้องเสียเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อลดภาระของคนทั้งประเทศลงด้วย ยังเป็นการลดการใช้ดีเซลในส่วนที่ไม่ถูกต้องลงไปด้วย การบริโภคน้ำมันโดยรวมก็ลดลงโดยธรรมชาติ จากคุณ : วิดสะวะ - [ 23 ส.ค. 47 16:32:04 A:202.133.167.201 X: TicketID:070907 ]