ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มี ข้อมูลแรงบิดใช่มั้ยครับ งั้นพิจารณาแค่แรงม้าอย่างเดียวนะครับ จริงๆแล้วถ้ามีกราฟแรงม้ากับแรงบิด ร่วมด้วยจะดีมากครับ ความเห็นของผมครับ 1. กรณีแรก เครื่องทั้ง 2 ตัวสามารถสร้างแรงม้า ได้ที่รอบที่เท่ากัน จะมองแรงเท่ากันก็ย่อมได้ แต่เครื่อง 3200 อาจกินน้ำมันมากกว่าครับ เพราะมีปริมาตรกระบอกสูบใหญ่กว่า 2. กรณีที่ 2 เครื่อง 3200 น่าจะใช้งานได้ง่ายกว่า เพราะแรงม้าสูงสุดมาในรอบต่ำกว่า พูดง่ายคือมาเร็วกว่า นั้นละครับ และในรอบที่เท่ากัน แต่ไม่เกิน 5500 rpm เครื่อง 3200 น่าจะมีแรงม้ามากกว่าด้วยครับแต่กินน้ำมันมากกว่าเครื่อง 3000 ครับ 3.กรณีที่3 เครื่องที่แรงม้า มากกว่า น่าจะแรงกว่าในทุกรอบเครื่อง ครับ 4. กรณีที่4 กรณีนี้ คล้ายกับ กรณีที่ 2 แต่การกินน้ำมันของ 2 เครื่องยนต์ไม่ต่างกันมากครับ จากคุณ : Godzela - [ 13 ส.ค. 47 20:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แรงม้า กับแรงบิด  จริงๆแล้วมันก็คือตัวเดียวกัน รู้แค่(กราฟ)แรงม้าหรือแรงบิดอย่างใดอย่างหนึ่งก็เพียงพอครับ ผมจะพิจารณาจากค่าแรงม้าสูงสุดที่ให้มาเท่านั้น เพราะว่าไม่มีกราฟมาให้ดูเลยไม่รู้ว่าที่รอบเครื่องอื่นๆนั้นเป็นยังไง กรณีแรก เครื่องทั้งสองตัวแรงเท่ากัน  แต่เครื่อง 3000cc จะมีประสิทธิ์ภาพสูงกว่า เลือกตัว 3000cc เท่านั้นไม่ว่าจะเอาไปใส่ในรถแข่งหรือรถบ้าน กรณีที่สอง เครื่องทั้งสองตัวแรงเท่ากัน ถ้าเอาไปใส่รถแข่งให้เลือก 3000cc   แต่ถ้าเอาไปใส่ในรถบ้านให้เลือกตัว 3200cc กรณีที่สาม เครื่องตัวบนแรงกว่า  และมีประสิทธิ์ภาพสูงกว่า ให้เลือกเครื่องตัวบนสำหรับทุกกรณี กรณีที่สี่ เครื่องทั้งสองตัวแรงเท่ากัน   เครื่องตัวบนรอบจัดกว่า ถ้าเอาไปใส่รถแข่งให้เลือกตัวบน แต่ถ้าเอาไปใส่ในรถบ้านให้เลือกตัวล่าง แก้ไขเมื่อ 13 ส.ค. 47 22:11:28 จากคุณ : ton99 - [ 13 ส.ค. 47 22:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แรงม้า กับแรงบิด power กับ torq คนละตัวกันครับ รถแรงม้าเท่ากันก็ไม่จำเป็นต้องมีแรงบิกเท่ากัน รถที่มีแรงบิกเท่ากันก็ไม่จำเป็นต้องมีแรงม้าเท่ากันเช่นกัน ตัวอย่างง่ายๆ รถดีเซลแรงม้าน้อยกว่ารถเบนซิลแต่แรงบิดมักจะมากกว่ารถเบนซิลด้วยซํ้า จากคุณ : t-re - [ 13 ส.ค. 47 22:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เหมือนกัน แรงม้าเป็นการวัดงานที่ได้ต้อหนึ่งหน่วยเวลา แรงบิดคือการวัดความสามารถ,ความพยายามในการหมุน แรงบิดเป็นตัวดึงไปหาแรงม้า จากคุณ : วิน MTC#24 - [ 14 ส.ค. 47 00:57:59 A:202.80.225.72 X: TicketID:049110 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่รู้นะครับ แรงบิดสูงสุดไม่ควรอยู่ที่รอบต่ำเกินไป(ต่ำ-ม้าตีนต้น,สูง-อืด) แรงม้าสูงสุดไม่ควรอยู่ที่รอบสูงเกินไป(ต่ำ-ความเร็วก็ต่ำ, สูง-ม้าที่ไปไม่ถึง) เครื่องใหญ่ไม่จำเป็นต้องแรงกว่า เครื่องเล็กไม่จำเป็นต้องประหยัดน้ำมันมากกว่า ขนาดของเครื่องต้องสัมพันธ์กับขนาดของรถ ทั้งหมดนี้ต้องดูการใช้งานของคุณประกอบด้วย เช่น ใช้ในเมือง ต่างจังหวัด ขึ้นเขาหรือเปล่า นิสัยการขับรถก็มีส่วนนะครับ เครื่องที่ดีที่สุดคือเครื่องที่คุณใช้แล้วพอใจที่สุดครับ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 08:11:29 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 08:06:31 จากคุณ : Gome - [ 14 ส.ค. 47 07:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แรงม้า คือ แรงบิด x รอบ x ค่าคงที่ เครื่องไดโนทั้งหลายวัดแรงบิดเพียงอย่างเดียว แล้วจึงมาคำนวณหาเป็นแรงม้าอีกที แรงม้า กับแรงบิด จริงๆมันก็คือสิ่งเดียวกัน ที่มันต่างกันก็คือ มุมมองเท่าเราไปมองมัน จึงทำให้เห็นมันไม่เหมือนกัน จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 11:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าแรงบิด กับ แรงม้า คือสิ่งเดียวกัน แล้วทำไมเรียกไม่เหมือนกันอ่ะครับ ค่าก็ไม่เท่ากัน ก็คงเป็นอย่างที่คุณ ton99 คิดน่ะในมุมมองของคุณครับ จริง ๆ มันเป็นคนละตัวครับ แต่มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น จนคุณมองมันว่าเป็นตัวเดียวกัน เอาง่าย ๆ นะครับ ถ้ามันเป็นตัวเดียวกัน แล้วทำไม ต้องมีคำว่า แรงบิด & แรงม้า หนังสือรถต่างประเทศเวลาที่เค้าทดสอบรถนะครับ เค้าค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับแรงบิดมากเลยล่ะครับ Power กับ Torque คนละตัวกันครับ จากคุณ : beatitude - [ 14 ส.ค. 47 11:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ามันจะมองเป็นสิ่งเดียวกันก็คือมันเป็นการวัดกำลังเหมือนกัน อย่างที่บอกแรงม้ามีเวลามาเกี่ยวข้อง แต่แรงบิดไม่มี 1แรงม้าก็คืองานที่เกิดจากการยกน้ำหนัก 550ปอนด์ได้สูงหนึ่งฟุตในหนึ่งวินาที(HP) แรงบิดคือความพยายามที่จะหมุนน้ำหนักหนึ่งๆที่รัศมีหนึ่ง ถ้ามันตัวเดียวกันจริงๆ ทำไมกราฟแรงบิดกับแรงม้าจึงไม่เท่ากัน อย่างที่บอกมันคือกำลังเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตัวเดียวกัน จากคุณ : วิน MTC#24 - [ 14 ส.ค. 47 12:42:11 A:202.80.225.72 X: TicketID:049110 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เหมือนหรอกครับ ขอลอกคุณวิน MTC#24 -นะครับ "1แรงม้าก็คืองานที่เกิดจากการยกน้ำหนัก 550ปอนด์ได้สูงหนึ่งฟุตในหนึ่งวินาที(HP) แรงบิดคือความพยายามที่จะหมุนน้ำหนักหนึ่งๆที่รัศมีหนึ่ง" สูตรนะครับ กำลังสูงสุด(แรงม้า) ( กิโลวัตถ์ / รอบต่อนาที ) = kW/rpm (1แรงม้าไม่ได้เท่ากับ1kWนะครับ) แรงบิดสูงสุด ( กก.-ม. / รอบต่อนาที ) = kgm /rpm แรงม้า เป็น พลังงาน แรงบิดสูงสุด เป็น กำลังต่อระยะ(แถมเป็นระยะเชิงมุมด้วย) ตัวคูณไม่เหมือนกันทำให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน แถมเป็นระยะในคนละมิติด้วย ตัวนึงเป็นพลังงานที่ยกน้ำหนักขึ้น(แกน y) แต่ตัวนึงเป็นระยะทาง(แกน x) ถ้าเคยเรียนฟิสิกมาจะรู้ว่าได้งานต่างกันนะครับ หมายความว่าถึงจะเป็นแรงเหมือนกันแต่วัดกันคนละอย่างครับ ถึงจะแปลงไปหากันได้แต่เมื่อวัดกันจริงๆค่าที่ได้สูงสุดกลับอยู่กันที่คนละรอบ เครื่อง 2 เครื่องที่รอบเท่ากันที่แรงม้าเท่ากันไม่ได้มีแรงบิดเท่ากันนะครับ เหมือน 12 กับ 9 มี ครน.ที่ 36 มี 3 เป็นตัวประกอบเหมือนกัน แต่ 9 กับ 12 ก็ไม่ใช่ตัวเดียวกันไม่สามารถใช้แทนกันได้ อย่าให้ตัวเลขมาทำให้เข้าใจผิดครับ เคยได้ยินไหม ที่เขาถามว่า มีแขกเข้าพักโรงแรม 3 คน ค่าเช่าห้อง 30 บาท เขา 3 คนจึงจ่ายเงินคนละ 10 บาท เข้าของโรงแรมลดให้ 5 บาท ค่าห้องจึงเท่ากับ 25 บาท บ๋อยแอบเก็บเงินไว้ 2 บาท จ่ายคืนให้แขกคนละบาท แขกจึงจ่ายเงินคนละ 9 บาท แต่ แขก 3 คน คนละ 9 บาท (9*3) เป็นเงิน 27 บาท กับ เงินที่บ๋อยแอบเก็บไว้ 2 บาท (27+2) รวม 29 บาท หายไปไหน 1 บาท ขออภัยที่นอกเรื่องไปเยอะ แต่มีหลายคนที่เห็นตัวเลขแล้วเข้าใจตัวเลขผิดๆ แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 14:43:52 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 47 14:34:59 จากคุณ : Gome - [ 14 ส.ค. 47 14:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วที่ คุณton99 บอกว่าให้เอาเครื่องไปใส่รถแข่งหรือรถบ้านผมว่าไม่อธิบายได้ไม่ชัดเจนนะครับและไม่ได้อธิบายถึงข้อดีข้อเสียในแต่ละแรงม้าในแต่ละรอบเครื่องด้วย เท่าที่อ่านผมเห็นแค่คุณบอกว่าตัวไหนแรงกว่าเท่านั้นซึ่งความแรงอาจเป็นได้ทั้งข้อดีข้อเสียครับ เอ....หรือผมจะมีความรู้น้อยไปอ่านอะไรเข้าใจยากไปต้องไปศึกษามาใหม่ก่อนที่จะเข้ามาตอบอย่างนั้นหรือเปล่าครับ จากคุณ : Gome - [ 14 ส.ค. 47 14:55:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 6 ผมเคยเขียนเรื่องแรงม้า แรงบิด ลงไว้ใรกระทู้ที่นี่ เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน ตอนนี้หาไม่เจอแล้ว ไม่รู้หายไปไหน อาจโดนแจ้งลบไป หรืออย่างไรไม่ทราบ (สงสัยไปเหยียบเท้าใครเข้า) เจ้าของกระทู้ที่ถามมา รีบอ่านก็แล้วกันครับ แต่ถ้าอ่านไม่ทัน ก็เอาไว้รออ่านจากนิตยสารได้ครับ ส่วนที่คุณถามอยู่ในตัวอย่างนะครับ คุณ Ton99 ก็ตอบได้เห็นภาพชัดเจนดี --------------------------------- แรงม้า กะ แรงบิด ของเครื่องยนต์ ผมจะขอใช้แรงคันที่มี เขียนถึงเรื่อง แรงบิด แรงม้า อัตราทดเกียร์ อัตราเร่ง และ ความเร็วของรถยนต์ โดยจะให้มันเป็นบทความอ้างอิงที่ครบถ้วนที่สุด มีรายละเอียด และ น้ำหนักเพียงพอสำหรับครอบคลุมผู้อ่านได้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการขจัดความมั่วในวงจรอุบาทว์ให้หมดไป และเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็จะใช้การยกตัวอย่างเสริม และก็จะไม่ลงลึกในทางทฤษฎีมากนัก แรงบิดคืออะไร? แรงบิดคือ แรงบิดตัวของแกนหมุนใดๆ มีหน่วยวัดได้หลายแบบ แต่ที่นิยมก็มี 3 แบบ คือ ฟุต-ปอนด์ : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นความยาวของรัศมีการหมุน ที่มีแรงผลัก 1 ปอนด์ นิวตัน-เมตร : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นแรงผลักในหน่วย นิวตัน ที่รัศมีการหมุน 1 เมตร กิโลกรัม-เมตร : โดยตัวเลขที่บอกจะเป็นแรงผลักในหน่วย กิโลกรัม ที่รัศมีการหมุน 1 เมตร ทั้งสามระบบการวัดแรงบิด มีความสัมพันธ์กันดังนี้ .. 1 ฟุต-ปอนด์ = 0.737265 นิวตัน-เมตร 1 กิโลกรัม-เมตร = 9.8 นิวตัน-เมตร อยากจะเปลี่ยนอะไรเป็นอะไรก็ คูณหารกันเข้าไปกันเองนะครับ ตัวอย่าง – เครื่องยนต์ A มีแรงบิดสูงสุด = 20.0 กิโลกรัม-เมตร = 196 นิวตัน-เมตร = 144.5 ฟุต-ปอนด์ แรงม้าคืออะไร? แรงม้าคือ หน่วยวัด “พลัง” ของเครื่องยนต์ที่ได้จากการทำงานของ “แรงบิด” ที่ความเร็วรอบใดๆ ต่อหน่วยเวลา มีรากเง้าการคำนวณมาจากสูตร “งาน” (จูล) = “แรง” คูณด้วย “ระยะทาง” >>> W = F x S และ “พลังงาน” P คือ “งานต่อหน่วยเวลา” มีชื่อว่าเรียกว่า วัตต์ (Watt) หรือ จูลต่อวินาที >>> P = W/วินาที หรือเท่ากับ “’งาน” คูณด้วย “ความเร็วเมตรต่อวินาที" >>> P = W x v โดยที่ . 1 แรงม้า = 746 วัตต์ ความสัมพันธ์ระหว่าง แรงม้า กะ แรงบิด เราสามารถคำนวณหา “แรงม้า” จาก “แรงบิด” หรือ คำนวณ “แรงบิด” จาก “แรงม้า” ได้เสมอ ถ้าเรารู้ค่าของตัวใดตัวหนึ่ง ที่ความเร็วรอบเครื่องขณะใดขณะหนึ่ง ด้วยสูตรการคำนวณค่าแรงม้าที่ให้มาข้างต้น เราสามารถสร้างสูตรสำเร็จในการคำนวณหาความสัมพันธ์ระหว่าง แรงม้า และ แรงบิด ได้ดังนี้ (ค่าแรงบิดที่ใช้สูตรการคำนวณมีหน่วยเป็น กิโลกรัม-เมตร.) คำนวณ แรงม้า จาก แรงบิด : แรงม้า = รอบต่อนาที X แรงบิด X 0.001376 คำนวณ แรงบิด จาก แรงม้า : แรงบิด = แรงม้า / (รอบต่อนาที X 0.001376) ดังนั้น จากข้อมูลของเครื่องยนต์ที่เรามักจะเห็นจากสเป็คในโบชัวร์โฆษณารถ เราก็จะสามารถคำนวณต่อได้ว่า ที่แรงบิดสูงสุดนั้น มีกี่แรงม้า หรือ ที่แรงม้าสูงสุดนั้น มีแรงบิดเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถคำนวณหาค่าอัตราทดเกียร์ เฟืองท้าย และ ขนาดล้อ ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รถที่มีสมรรถนะตามต้องการ ทั้ง อัตราเร่ง และ ความเร็วสูงสุด ทั้งนี้เราจะต้องรู้น้ำหนักรถ และ ค่าอากาศพลศาสตร์ ของรถด้วยนะครับ ตัวอย่างการคำนวณ ตัวอย่างที่ 1 เครื่องยนต์ A มีแรงบิดสูงสุด 20.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3,600 รอบต่อนาที มีแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที คำนวณหา แรงม้า ที่แรงบิดสูงสุด ได้จาก : 3,600 X 20.0 X 0.001376 = 99.072 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที คำนวณหา แรงบิด ที่แรงม้าสูงสุด ได้จาก : 150 / (6,000 X 0.001376) = 18.168 กิโลกรัม-เมตร ที่ 6,000 รอบต่อนาที ตัวอย่างที่ 2 เครื่องยนต์ B มีแรงบิดสูงสุด 20.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที มีแรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที คำนวณหา แรงม้า ที่แรงบิดสูงสุด ได้จาก : 4,500 X 20.0 X 0.001376 = 123.84 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที คำนวณหา แรงบิด ที่แรงม้าสูงสุด ได้จาก : 150 / (6,500 X 0.001376) = 16.771 กิโลกรัม-เมตร ที่ 6,500 รอบต่อนาที จากตัวอย่างการคำนวณของ เครื่องยนต์ A และ B เราจะเห็นได้ว่า แม้ทั้งคู่จะมี “แรงบิด” และ “แรงม้า” สูงสุด เท่ากัน แต่เครื่องยนต์ A จะได้อัตราเร่งที่ดีกว่าทั้งต้นและปลาย ที่อัตราทดของระบบการส่งกำลังเดียวกัน และ ถ้าจะให้เครื่องยนต์ B มีสมรรถนะเท่ากับเครื่อง A บนตัวถังเดียวกัน อาจจำเป็นต้องใช้ชุดเกียร์ที่มีอัตราทดชิดกันมากกว่า และอาจต้องมีจำนวนเกียร์มากกว่าด้วย นอกจากนี้ เครื่องยนต์ A ก็มีโอกาสประหยัดน้ำมันกว่า ถ้ามีความจุของเครื่องยนต์เท่าๆ กัน เพราะว่า เครื่องยนต์ A ดูจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์ B จากลักษณะ แรงบิด และ แรงม้า ที่เครื่อง A ได้มาอยู่ในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า ทั้งนี้ก็ไม่เสมอไปนะครับ แต่มีโอกาสเป็นไปตามนี้สูงมาก จากคุณ : ม้านิลมังกร - [ 19 มิ.ย. 46 07:44:33 A:202.28.84.50 X:192.168.11.79 ] จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 16:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 7 ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ต่อจากตรงนี้ครับ ---------------------------------------------------------- อีกซักตัวอย่างนะครับ เพราะได้ยินมามากเลยที่พูดกันว่า แรงบิด เอาไว้ บรรทุก แรงม้าเอาไว้ทำความเร็ว จริงๆ ถ้าเข้าใจที่มาของการคำนวณ ก็จะเข้าใจดีขึ้นว่า ที่เชื่อกันมานั้น ไม่ถูกทั้งหมด สมมุติว่าเครื่องยนต์สองเครื่อง ดีเซล X เทอร์โบขนาด 3000 ซีซี แรงบิด 35 กก-เมตร ที่ 2,000 รอบ 140 แรงม้าที่ 3,400 รอบ และ เบนซิน Y ขนาด 2000 ซีซี แรงบิด 19 กก-เมตร ที่ 4,000 รอบ 150 แรงม้าที่ 6,800 รอบ ตามความเชื่อเดิมก็จะแปลได้ว่า เครื่องดีเซล X มีกำลังฉุดลากมากกว่าเพราะว่ามีแรงบิดมากกว่า เบนซิน Y เยอะ ควรนำ ดีเซล X มาใส่ในรถบรรทุกเล็ก ส่วนเครื่อง เบนซิน Y ก็ควรอยู่ในรถเก๋ง เพื่อไว้ขับเร็วๆ ได้ แถมยังอาจแปลได้ว่า เครื่องดีเซล X ไต่เขาได้ดีกว่า จริงๆ แล้ว ถ้าจับเครื่องเบนซิน Yมาทดรอบลงครึ่งหนึ่ง ก็จะได้แรงบิดถึง 38 กก-เมตรที่ 2,000 รอบ และ 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ ซึ่งมากกว่าเครื่องดีเซล X ทั้งบนและล่าง และเครื่องเบนซิน Y ที่มีขนาดเพียง 2000 ซีซี ก็อาจประหยัดน้ำมันกว่า เครื่องดีเซล X เทอร์โบที่มีขนาดใหญ่ถึง 3000 ซีซี อีกด้วย ถ้านำมาลงในตัวถังเดียวกัน ซึ่งจากในตัวอย่างนี้ คุณอยากจะแปลว่า เครื่องยนต์เบนซิน Y มีประสิทธิภาพดี หรือ ดีเซล X :-) ล้าสมัย หละครับ ลองสังเกตตัวเลขในตัวอย่างอีกที ก็จะพบว่า ใกล้เคียงกับสเป๊คเครื่องยนต์ทั้งสองแบบของบ้านเราในปัจจุบันมาก หรือจะว่าไป ผมก็ได้พยายามสร้างตัวเลขให้ลำเอียงไปข้างหนึ่งเต็มที่แล้ว ทีนี่คุณก็ไปคิดเอาเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นในการตลาดรถยนต์ของบ้านเรา เมื่อคุณจะต้องเลือกรถซักคัน ถ้าชนิดของเครื่องยนต์ จะมีส่วนในการตัดสินใจ ก็ให้คิดกันให้ครบถ้วน ให้เหมาะกับความต้องการของเราจริงๆ และต้องไม่ลืมนึกถึง เรื่องการบำรุงรักษา คุณลักษณะเฉพาะของเครื่องที่เราสนใจเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เครื่องดีเซลที่ดีๆ ก็จะมีประสิทธิภาพสูงได้ เงียบได้ ประหยัดได้ แรงได้ พอๆ กับ เครื่องเบนซิน ก็มีใช้กันอยู่ทั่วโลก แต่เครื่องดีเซลที่ล้าหลังสุดๆ ก็มี ทั้ง แรงน้อย เสียงดัง ประสิทธิภาพต่ำ เปลืองน้ำมัน แถมควันดำ ซึ่งยังมีเห็นอยู่เกลื่อนประเทศเรา อยากเปรียบเทียบว่าเครื่องยนต์ตัวไหนมรประสิทธิภาพอย่างไร ก็ลองใช้สูตรที่ผมให้มานี้เทียบดูได้ครับ รับรองว่าตัวเลขมันโกหกคุณไม่ได้แน่ ที่มาของสูตรการคำนวณ (สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรู้ ก็ข้ามส่วนนี้ไปได้เลยครับ) ทำ รอบต่อนาที ให้เป็น รอบต่อวินาที จากการหารด้วย 60 วินาที ทำ รอบต่อวินาที ให้เป็นความเร็ว แบบ เมตรต่อวินาที จากการคูณด้วย (2 X Pi X R) หรือ (2 X 3.14 X 1) = 6.28 ทำ วัตต์ ให้เป็น แรงม้า จากการหารด้วย 746 วัตต์ ทำแรงบิด จาก กิโลกรัม เป็น นิวตัน จากการคูณด้วย 9.8 เมตรต่อวินาทีกำลังสอง ดังนั้น จึงได้สูตรรวมการคำนวณแรงม้าจากแรงบิด เป็น (รอบ X แรงบิด X 6.28 X 9.8) / (60 X 746) = รอบต่อนาที X แรงบิด X 0.001376 การทดเกียร์ในรถยนต์ทำเพื่ออะไร? การทดเกียร์มีจุดประสงค์ 2 ประการคือ หนึ่ง เพื่อให้สามารถควบคุมความเร็วรถได้อย่างเหมะสมตามรอบเครื่องยนต์ สอง เพื่อให้สามารถสร้างอัตตราเร่งของรถได้ด้วยการทำให้แรงบิดของเพลาขับสูงกว่าแรงที่รถต้องการในแต่ละช่วงความเร็ว ประการที่หนึ่ง นั้นคงไม่ต้องอธิบายมาก แต่อยากจะบอกให้หายสงสัยว่า ทำไมรถที่เครื่องแรงมากๆๆๆๆๆ เช่น รถสปอร์ต 300-500 แรงม้า ยังคงต้องมีเกียร์ หนึ่ง ที่มีอัตราทดพอๆ กับรถจ่ายตลาดที่มีแรงม้าแค่ปริ่มๆ 100 แรงม้า ถามว่ารถที่แรงมากๆ ออกเกียร์ สอง ได้มั๊ย ก็ตอบว่า อาจได้ครับ แต่ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร รถยนต์ต้องออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง เสมอไม่ว่าจะเป็นคันไหน และถ้าไม่มีครัช เครื่องยนต์ก็ต้องเริ่มหมุนจาก 0 รอบต่อนาทีเหมือนกัน และไม่ว่าเครื่องจะมีแรงเท่าไหร่ ถ้าเครื่องหมุน 0 รอบต่อนาที ก็มีแรงเท่ากับ 0 เหมือนกันทุกเครื่องยนต์ ดังนั้น คุณต้องการเกียร์ หนึ่ง ที่มีอัตราทดมาก ไม่ได้ไว้เพื่อให้มีแรงอย่างเดียว แต่เพื่อความเหมาะสมต่อการเลี้ยงรอบเครื่องในการออกตัว ส่วนการทดในเกียร์ต่อๆ ไปก็เพื่อให้เครื่องได้ทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองเหมาะสมต่อการใช้งานที่ดีที่สุดนั่นเอง ประการที่สอง อันนี้สำคัญ เพราะว่าการที่รถจะมีความเร็วคงที่อยู่ได้ หรือสามารถเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นได้นั้น แรงบิดที่เพลาขับต้องมีเหลือมากกว่าแรงที่รถต้องการ ยิ่งความแตกต่างของแรงบิดที่เพลาขับมากกว่าแรงบิดที่รถต้องการมากเท่าใด รถก็จะยิ่งมีอัตราเร่งสูงขึ้นเท่านั้น แต่แรงที่รถต้องการเมื่อความเร็วสูงขึ้นเรื่อยๆ คือแรงต้านของอากาศที่มีสมการอยู่ในรูปของ ความเร็วยกกำลังสอง ทำให้แรงต้านนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการเพิ่มของความเร็วของรถ และบังเอิญว่า แรงบิด ของรถก็มักจะลดลงเมื่อรอบเครื่องยนต์พ้นรอบแรงบิดสูงสุดไป การทดเกียร์ จึงเป็นการเพิ่มแรงบิดของเพลาขับให้มากกว่าแรงที่รถต้องการตลอดช่วงการไต่หาความเร็วสูงสุด การทดเกียร์นี้จะเพิ่มเฉพาะ แรงบิด โดยที่ แรงม้า จะยังคงเท่าเดิมเสมอ ตัวอย่างการทดเกียร์ที่อัตรา 2 : 1 ของเครื่องยนต์ A ในตัวอย่างที่ 1 เมื่อเครื่องยนต์หมุนที่ 3,600 รอบต่อนาที เพลาจะหมุน 1,800 รอบต่อนาที แต่เพลาจะมีแรงบิดเป็น 40.0 กิโลกรัม-เมตร และเมื่อคำนวณแรงม้าของแรงบิด 40.0 กิโลกรัม-เมตร ที่ 1,800 รอบต่อนาที ก็จะได้ 99.072 แรงม้าเท่าเดิม ถ้าเราไม่ทดเกียร์เลย ปล่อยให้เพลาขับหมุนเท่าข้อเหวี่ยง เมื่อเพลาขับหมุน 1,800 รอบต่อนาที ก็จะมีแรงบิดน้อยกว่า 20 กิโลกรัม-เมตร เสียอีก ซึ่งถ้าสมมุตว่า ความเร็วรถขณะที่เพลาหมุน 1,800 รอบนั้นต้องการ แรงบิด 20 กิโลกรัมเมตร รถคันนี้ก็จะไม่สามารถเร่งให้เร็วขึ้นได้ และจะลดความเร็วลงด้วย ถึงตรงนี้ คงพอเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วนะครับ ว่า อัตราทดเกียร์นั้น สำคัญต่ออัตราเร่ง และ ความเร็วสูงสุด อย่างไร ซึ่งทำให้เราจะสามารถเปลี่ยนอัตราทดระหว่าง เครื่องยนต์ กับ ตัวถัง ให้เหมาะสมกันได้อย่างไร เมื่อมีการวางเครื่องใหม่ให้กับรถของคุณ และต้องการความเร็วที่ดีที่สุดที่ควรทำได้จริงๆ เครื่องยนต์ที่ดีควรเป็นอย่างไร? อันดับแรกเลยก็คือ ต้องมีประสิทธิภาพ ในการเปลี่ยนน้ำมันออกมาเป็นแรงม้าให้ได้มากที่สุด ตรงนี้เราไม่ต้องสนใจเรื่องแรงบิด เพราะเราใช้การทดเกียร์เพิ่มแรงบิดได้ แต่เราไม่สามารถทดเกียร์ใดๆ เพื่อเพิ่มแรงม้าได้ ตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์ X กับเครื่องยนต์ Y มีขนาดความจุและแรงม้าเท่ากัน วางอยู่บนรถคันเดียวกัน ทุกอย่างเหมือนกัน เราก็ยังไม่สามารถบอกได้เลยครับว่า เครื่องไหน ประหยัดกว่า เพราะว่าเรามันรู้ถึงอัตราการบริโภคน้ำมัน ดังนั้นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ตรงนี้ เป็นสิ่งที่คุณจะหาไม่ได้ใน สเป็ค จากโบชัวร์ ใดๆ และคงไม่มีบริษัทใดกล้าให้ข้อมูลตรงนี้แก่ลูกค้า หรือแม้กระทั่ง ตัวแทนจำหน่ายรถ เพราะว่าถ้าหากมีข้อมูลตรงนี้ อาจทำให้การแข่งขันในตลาดรถวุ่นวายกว่านี้ได้ หลายๆ คนไปผูก อัตราการกินน้ำมัน กับ ขนาดความจุของเครื่องยนต์ ซึ่งเสี่ยงต่อความผิดพลาดในการตัดสินใจเลือกขนาดเครื่องยนต์เพื่อความประหยัด (ขนาดและน้ำหนักรถ แน่นอนกว่า รถยิ่งหนักยิ่งเปลือง) แต่ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องยนต์ความจุมากรุ่นใหม่ๆ และมีเทคโนโลยีสูง มักมีประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์เล็กๆ แต่มีเทคโนโลยีต่ำกว่า ซึ่งถ้าจะคิดถึงอัตราสิ้นเปลืองเพื่อการเปรียบเทียบกันจริงๆ แล้ว ข้อมูลเพียงแค่ ขนาดความจุ แรงม้าสูงสุด หรือ แรงบิดสูงสุด ของเครื่องยนต์ นั้น ไม่เพียงพอต่อการฟันธง ดังนั้นส่วนใหญ่ก็ได้แต่เดาๆ เอา ไม่ว่าจะเป็นเซียนใดๆ ก็ต้องนั่งเทียนเอาถ้ามีข้อมูลเพียงเท่านี้ สิ่งที่ผมคิดว่า น่าจะเป็นประโยชน์กว่า การให้ตัวเลข แรงม้า และ แรงบิดสูงสุด ก็คือ กราฟที่แสดงค่าแรงม้า และ/หรือ แรงบิด ของเครื่องยนต์ ตลอดช่วงรอบการทำงาน ที่เราไม่จำเป็นต้องได้กราฟของ ทั้งคู่ เพราะว่า เราสามารถคำนวณได้เองจากข้อมูลอันใดอันหนึ่ง จากกราฟ เราก็อาจจะพอบอกได้คร่าวๆ ว่า เครื่องยนต์ตัวไหนดี กว่า ตัวไหน ซึ่งสิ่งที่เราต้องการก็คือ ค่าแรงบิดที่ได้ออกมามากที่รอบต่ำ และมีช่วงห่างของรอบแรงบิดสูงสุดกับแรงม้าสูงสุดมากๆ เข้าไว้ เพื่อเป็นการบอกว่า เครื่องยนต์มีแรงบิดออกมาให้ใช้งานได้ในรอบความเร็วที่กว้าง ไม่ใช่ ขึ้นเร็วลงเร็ว ซึ่งจากความรู้ในเรื่อง แรงม้า และ แรงบิด เราก็พอจะสรุปได้คร่าวๆ ว่า เครื่องยนต์ A ในตัวอย่างที่ 1 อาจมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องยนต์ B เพราะว่าทำงานที่รอบต่ำกว่า และมีช่วงแรงบิดในการใช้งานกว้างกว่า (แสดงว่าเครื่องยนต์สามารถทำงานในสภาวะที่สมบูรณ์ครอบคลุมในย่านรอบความเร็วที่กว้างกว่า มีพื้นที่ใต้กราฟที่มากกว่า) อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ที่มีแรงม้ามากกว่าเครื่องอื่นๆ ในขนาดความจุเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ กับ ไม่โบ ที่ความจุเดียวกัน เครื่องเทอร์โบมักให้แรงมากกว่าทั้งนี้เพราะว่า เผาน้ำมันไปมากกว่า ซึ่งการได้แรงม้าเพิ่มขึ้นมาอีก 50% อาจต้องเผาน้ำมันมากขึ้นเกินกว่า 50% ซึ่งก็แปลว่าเครื่องมีประสิทธิภาพต่ำลง อย่างไรก็ตาม การรีดแรงม้า จากความจุน้อยๆ ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่สำหรับการแข่งขันระดับ F1 นั้น การเพิ่มแรงม้าขึ้นด้วยการกินน้ำมันเท่าเดิม ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายกว่า อยู่ที่ว่าคุณต้องการ “ประหยัด” หรือ “แรง” หรือ ทั้งสองอย่าง ในที่นี้ทำให้ “แรง” ง่ายที่สุด ยากขึ้นอีกหน่อยก็เรื่อง “ความประหยัด” ยากที่สุดก็คือ “ประหยัดด้วย แรงด้วย” นี่แหละครับ จากคุณ : ม้านิลมังกร - [ 19 มิ.ย. 46 07:45:37 A:202.28.84.50 X:192.168.11.79 ] จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 17:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ฮัลโหลๆ คุณต้นก๊าบ แล้วทำไมเครื่อง B18C 96 spec กับ 98 spec ที่รอบเท่ากัน แรงม้าเท่ากัน แต่แรงบิดไม่เท่ากันล่ะครับ ช่วยแสดงวิธีคำนวณหาให้ผมหน่อยสิ รู้ครับว่าเครื่อง 98 spec ดีกว่าแน่ๆ แต่อยากทราบเหตุผลที่มันแตกต่างกันก๊าบบ 96 spec แรงม้า 200/8000 แรงบิด 18.5/7500 98 spec แรงม้า 200/8000 แรงบิด 19.0/6200 จากคุณ : หืม - [ 14 ส.ค. 47 20:44:13 A:202.28.21.6 X: TicketID:031385 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไอ้เรื่องสูตรคำนวณไม่จำเป็นต้องบอกหรอกครับ ไม่น่าแปลกใจ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน คุณ ton99 อธิบายให้ผมฟังหน่อยสิว่าทำไมดริฟท์แมชชีนของ hks S15 2.2ลิตร มีม้า 480 ตัวที่ 6500 รอบ แต่ทำไมมีแรงบิดตั้ง 66 kg ล่ะ มากกว่าเครื่อง RB 26 ที่ม้าและรอบเท่ากันซะอีก จากคุณ : Black Monkey - [ 14 ส.ค. 47 21:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 15 //// ทำไมดริฟท์แมชชีนของ hks S15 2.2ลิตร มีม้า 480 ตัวที่ 6500 รอบ แต่ทำไมมีแรงบิดตั้ง 66 kg ล่ะ มากกว่าเครื่อง RB 26 ที่ม้าและรอบเท่ากันซะอีก //// ผมไม่รู้ว่าคุณจะให้ผมอธิบายเรื่องอะไรนะครับ ส่วนเครื่องที่คุณยกมา ผมก็ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดปกติ แต่ทางที่ดีบอกรายละเอียดของเครื่องให้มากกว่านี้ก็จะดีครับ จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 22:00:41 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คคหที่ 13 ก๊าบ ก็แรงบิดมันไม่เท่ากันจะไปคำนวณหาทำไมละก๊าบ ที่แรงบิดมันไม่เท่ากันนั้นนะก๊าบ  มันก็มาจากหลายปัจจัยก๊าบ เช่น องศาและลิฟท์ของแคม, ท่อไอดี-ไอเสีย และ ฯลฯ ก๊าบ แถมท้ายอีกนิดนะก๊าบ ที่ 8000rpm เครื่องทั้งสองตัวมีแรงบิดเท่ากันนะก๊าบ ถ้าอยากรู้อะไรที่ละเอียดกว่านี้แนะนำให้หากราฟแรงม้าหรือแรงบิดมาดูก๊าบ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 47 00:28:35 จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 22:25:21 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องแรงม้ากับแรงบิดนะครับ แต่จากความเห็นที่ 9 ที่ว่า "เคยได้ยินไหม ที่เขาถามว่า มีแขกเข้าพักโรงแรม 3 คน ค่าเช่าห้อง 30 บาท เขา 3 คนจึงจ่ายเงินคนละ 10 บาท เข้าของโรงแรมลดให้ 5 บาท ค่าห้องจึงเท่ากับ 25 บาท บ๋อยแอบเก็บเงินไว้ 2 บาท จ่ายคืนให้แขกคนละบาท แขกจึงจ่ายเงินคนละ 9 บาท แต่ แขก 3 คน คนละ 9 บาท (9*3) เป็นเงิน 27 บาท กับ เงินที่บ๋อยแอบเก็บไว้ 2 บาท (27+2) รวม 29 บาท หายไปไหน 1 บาท" ถ้าเอาค่าห้องที่แขกออกเงิน 3 คนๆ ละ 9 บาท (9*3) เป็นเงิน 27 บาท ลบกับค่าห้องที่ต้องจ่ายจริง 25 บาท ก็จะเหลือ 2 บาทที่บ๋อยแอบเก็บไว้พอดี ที่สงสัยว่าเงิน 1 บาทนั้นหายไปไหน แท้จริงแล้วเงิน 1 บาทนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก เนื่องจากสภาพสมการที่จะเกิดขึ้นจริงคือการที่ต้องนำเงินที่แขกรวมได้ (27 บาท) มาจ่ายค่าห้อง (25 บาท) ก่อน แล้วจึงจะเหลือเงิน 2 บาทที่บ๋อยแอบเก็บไว้ ไม่ใช่นำเงิน 27 บาทมารวมกับเงิน 2 บาทเพื่อให้ได้ 30 บาทครับ อย่างที่กล่าวไว้ตั้งแต่แรกครับว่าอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องแรงม้ากับแรงบิดนะครับ แต่เผื่อมีใครสงสัยและอยากได้ความเห็นที่พอจะช่วยคลายความสงสัยลงได้บ้าง จากคุณ : รบกวนด้วยครับ - [ 14 ส.ค. 47 22:29:12 ]

ความคิดเห็นที่ 18 โจทย์เลขที่ว่านี้ คนตั้งโจทย์แกล้งบวกเลขผิดเพื่อให้สับสนครับ ความจริงมันต้อง 27-2 = 25 แต่ดันบอกว่าเป็น 27+2 = 29 แล้วหายไป 1 จากคุณ : ton99 - [ 14 ส.ค. 47 23:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ก็บอกเองไม่ใช่เหรอครับว่ารู้แค่แรงม้าก็สามารถหาค่าแรงบิดได้ แถมบอกว่าแรงม้ากับแรงบิดเป็นตัวเดียวกันซะอีก ก็ลองคำนวณดูสิครับว่าสูตรที่คุณใช้มันได้ไหม ลองใช้สูตรที่ว่ามาสิครับ SR20DET กับม้า 480 ตัวที่ 6500 รอบ จะได้แรงบิดเท่าไหร่ ก็อย่างที่ว่าไปครับ เครื่องตัวนี้มีแรงบิดมากว่าเครื่องตัวอื่นๆที่แรงม้าและรอบเท่าๆกัน ผมก็เลยสงสัยไงว่าทำไมมันถึงมีแรงบิดมาก อธิบายให้ฟังได้ไหมล่ะว่าต้องทำยังไงกับเครื่องถึงจะสามารถเพิ่มแรงบิดได้สูงเกินหน้าเกินตาแรงม้าอย่างนี้ ของสำนัก sunline auto เครื่อง 2.2l 550 ม้ามีแรงบิด 60 kg เองน้อยกว่าของ hks อีก ลองไปดูสเปคเครื่องของสำนักแต่ง ATTKD ก็ได้ S14 ของสำนักแต่งนี้แค่ 400 ม้า แต่แรงบิด 70 kg จากคุณ : Black Monkey - [ 14 ส.ค. 47 23:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 20 //// ทำไมดริฟท์แมชชีนของ hks S15 2.2ลิตร มีม้า 480 ตัวที่ 6500 รอบ แต่ทำไมมีแรงบิดตั้ง 66 kg ล่ะ มากกว่าเครื่อง RB 26 ที่ม้าและรอบเท่ากันซะอีก //// ผมไม่รู้ว่าคุณจะให้ผมอธิบายเรื่องอะไรนะครับ ส่วนเครื่องที่คุณยกมา ผมก็ไม่เห็นมีอะไรที่ผิดปกติ แต่ทางที่ดีบอกรายละเอียดของเครื่องให้มากกว่านี้ก็จะดีครับ /// ผมว่า...คุณต้นยังมึนไรอยู่ป่าวหว่าเนี่ย...เห็นสเปคเครื่องแบบนี้แล้วบอกว่าปกติเหรอ...ผมว่าคุณต้นนี่...เหอะๆๆ...ช่างเหอะ ก็อย่างว่า...ต่อให้บอกรายละเอียดเครื่องมากไปกว่านี้...มันก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก...ก็ในเมื่อคุณไม่รู้เรื่องอ่ะนะ...แต่ผมก็รอคุณมาตอบอยู่นะว่าทำไมเครื่องตัวนี้มีแรงบิดมาก...ต้องทำไง...ผมจะได้ไปทำมั่งไง จากคุณ : หุหุหุ - [ 14 ส.ค. 47 23:47:21 A:203.172.44.70 X: TicketID:070268 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มันใช่สูตรของผมที่ไหนครับ ตำราเขาก็เขียนไว้แบบนี้ ผมก็แค่ยกมาให้ดู เครื่องคิดเลขที่บ้านมีก็กดเอาเองสิครับ แรงบิดแค่นี้ไม่เห็นมีอะไรน่าตกใจเลย เครื่อง 1KD ใน D4D มีม้าแค่ 125ตัว แรงบิดยังได้ 30กว่า kg-m เลย เครื่องหัวลาก มีแรงม้า 250ตัว ยังมีแรงบิด 100กว่า kg-m อย่างนี้ไม่น่าตกใจกว่าหรือ? ผมอาจจะไม่เก่งเรื่องเครื่อง Turbo แต่ก็พอจะบอกคุณได้ว่ามันทำไง แต่จะให้ผมบอกอะไรที่ละเอียดกว่านี้ ก็ช่วยทำตัวให้มันน่ารักกว่านี้ซะหน่อย พูดจาอย่างนี้คงไม่มีใครให้ความรู้อะไรคุณง่ายๆหรอก ที่บอกว่าจะไปทำบ้าง ผมขอถามหน่อยเถอะว่ามีเงินพอที่จะทำแบบนั้นหรือเปล่า? จากคุณ : ton99 - [ 15 ส.ค. 47 00:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็คุณอ้างอิงว่าเป็นตัวเดียวกัน ทั้งแรงม้าและแรงบิด งั้นม้าเท่ากันที่ รอบเท่ากัน แรงบิดก็ต้องเท่ากันสิ ก็คุณอ้างสูตรตามนี้มาคุณก็ลองแก้ตามสูตรสิครับ ถ้ามันไม่ใช้ก็สรุปง่ายๆว่าสูตรคุณมันมั่ว แล้วยกมาจากหนังสือเล่มไหนหละอยากรู้เฉยๆจะได้ไม่หามาอ่าน จากคุณ : t-re - [ 15 ส.ค. 47 00:36:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สรุปว่าไม่รู้ก็บอกไม่รู้ครับ ไม่ต้องเถียงข้างๆคูๆก็ได้มั๊ง คุณก็อ่านของคนอื่นๆแล้วก็จำๆมาเท่านั้นเอง พอเถอะครับ ไม่อายบ้างรึไง ไอ้ประโยคนี้นี่ ผมล่ะเชื่อจริงๆ "ที่บอกว่าจะไปทำบ้าง ผมขอถามหน่อยเถอะว่ามีเงินพอที่จะทำแบบนั้นหรือเปล่า?" จากคุณ : ทุเรศเกินบรรยาย (Johnny Rotten) - [ 15 ส.ค. 47 01:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เอ้า...บอกมาเลยครับว่าทำยังไง...ไม่เป็นไรผมรอได้...ไปหาข้อมูลจากหนังสือก่อนก็ได้นะ...กั๊กๆๆ...บอกยี่ห้อของแต่งด้วยก็ดีนะครับ...ฝาดำหลังหักนะครับ...ก๊ากกกก เฮ้อ ผมไม่อะไรกับคุณหรอกนะ ไม่โกรธด้วยที่คุณพิมพ์แบบดูถูกผมมา เพราะผมรู้ดีว่าผมมีอะไร คุณมีอะไรแค่ไหน ก๊ากกก จากคุณ : สวะเอ๊ยยย - [ 15 ส.ค. 47 01:17:26 A:203.172.44.70 X: TicketID:070268 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องสูตรผมเข้าใจดี Tunerชื่อดังท่านนึงสอนผมมาแบบละเอียดยิบ แต่ประเด็นคือมันคือตัวเดียวกันหรือเปล่า?? ถ้าเป็นตัวเดียวกัน ทำไมต้องคูณนู่นคูณนี่ เพราะมันเป็นคนละตัวมันเลยต้องแปลงเพื่อจะหาอีกตัวไงครับ ถูกไหมครับ? แรงม้ากับแรงบิดเป็นแรงเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตัวเดียวกัน มีความสัมพันธ์ที่จะสามารถใช้สูตรมาหากันได้ อย่างที่ยกตัวอย่างมา จากคุณ : วิน MTC#24 - [ 15 ส.ค. 47 01:46:57 A:202.80.225.72 X: TicketID:049110 ]

ความคิดเห็นที่ 26 k. Ton krub, ที่บอกว่าจะไปทำบ้าง ผมขอถามหน่อยเถอะว่ามีเงินพอที่จะทำแบบนั้นหรือเปล่า? the fact that you don't have enough budget doesn't mean that the other wouldn't have enough neither... จากคุณ : FYI - [ 15 ส.ค. 47 08:33:22 A:192.129.26.240 X: TicketID:018321 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แรงม้ากับแรงบิดมันคนละตัวแต่ใช้ความสัมพันธ์ แปลงหากันได้ ของคุณวิน พูดถูกแล้วครับ การจะดูเครื่องไหนแรงกว่ากัน ต้องดูกราฟ แรงม้าแรงบิดด้วยครับ เพราะว่า แต่ละช่วงรอบมันไม่เท่ากัน แม้ว่าspec จะบอกว่าปลายสูงสุดได้เท่ากันหมด ทั้งแรงม้าแรงบิดสูงสุด แต่ตรงกลางก่อนที่จะถึงสูงสุดล่ะครับ คันนึงอาจจะขึ้นชันมากๆ เร่งดีสุดๆตอนบูสมาปลายๆ แต่รอบต้นๆ ไม่มีเลย อีกคันนึงอาจจะขึ้นสม่ำเสมอ แล้วไปสูงสุดที่ปลายเท่ากัน อันนี้เป็นลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์แต่ละแบบด้วย โดยแบบ Turbo มักจะเป็นแบบแรก และ NA มักจะเป็นแบบหลัง และการที่ความจุมากกว่า ก็มีแนวโน้มสูงที่ Torque จะมาเร็วกว่าครับ อย่างกรณีที่ 1 ถ้าบอกข้อมูลมาเท่านี้ แต่แนวโน้มที่เครื่อง 3200cc จะมีแรงบิดมาเร็วกว่าเครื่อง 3000 เยอะเลยล่ะครับ [อันนี้คือแนวโน้มนะครับ แต่ข้อมูลจริงๆของเครื่องอาจไม่ใช่ก็ได้] จากคุณ : ....4จุด - [ 15 ส.ค. 47 12:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่ากลับไปอ่านที่ผมพิมพ์เอาไว้ใหม่จะดีกว่า ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ มันก็เรื่องของพวกคุณ แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะว่าเรื่องของคนบางคนนั้นคือการหาเรื่องผมเท่านั้น จริงไหม? ////////////// คุณก็อ่านของคนอื่นๆแล้วก็จำๆมาเท่านั้นเอง ///////////// ใช้ครับพวกทฤษฎีต่างๆผมก็อ่านจาก text ,ตำรา , magazine และก็ตามที่ที่มีคนเขียนเอาไว้ให้อ่าน แล้วก็จำๆมาอย่างที่คุณบอกนั้นแหละครับ จากคุณ : ton99 - [ 15 ส.ค. 47 15:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 29 //////////// ก็คุณอ้างอิงว่าเป็นตัวเดียวกัน ทั้งแรงม้าและแรงบิด งั้นม้าเท่ากันที่ รอบเท่ากัน แรงบิดก็ต้องเท่ากันสิ //////////// ใช่ แรงบิดมันเท่ากันที่รอบที่มีแรงม้าเท่ากัน ผมหลับตาตอบได้เลย ไม่ต้องไปกดเครื่องคิดเลขให้เสียเวลา ที่สำคัญคือ ผมไม่เคยบอกว่า  แรงม้า = แรงบิด แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 47 15:44:50 จากคุณ : ton99 - [ 15 ส.ค. 47 15:44:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ม้าเท่ากัน รอบเดียวกัน แรงบิดต้องเท่า ใครๆก็รู้ครับ แต่มีหลายคนไม่รู้แฮะ ผมเห็นด้วยกับคุณต้น และคุณวิน และอีกหลายท่าน แต่เรื่องม้ากะบิดเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า สำหรับผมต้องอาศัยการตีความแฮะ...อิ อิ แต่พอจะรู้ว่าจะเอาสองตัวนี้ไปใช้อย่างไรบ้างเท่านั้นเอง จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 16:46:13 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 31 /// ใช่ แรงบิดมันเท่ากันที่รอบที่มีแรงม้าเท่ากัน ผมหลับตาตอบได้เลย ไม่ต้องไปกดเครื่องคิดเลขให้เสียเวลา ที่สำคัญคือ ผมไม่เคยบอกว่า แรงม้า = แรงบิด /// ไอ้ต้นเนี่ยมันปานยาอ่อนป่าววะเนี่ย มั่วดีอิ๊บอ๋าย ก็เค้าก็ถามอยู่ว่าทำไม sr20 hks ที่มีแรงม้าเท่ากันและรอบเครื่องเท่ากันกับ rb26 ทำไมแรงบิดของ sr20 hks มากกว่า rb26 ยังตอบออกมาง่าวๆอีก จะให้พูดไงดีวะเนี่ย ไม่รู้แม่งก็บอกดิว่าไม่รู้ หน้าตัวเมียว่ะ ลาก่อนก๊าบบบ จากคุณ : พักเห๊อะทั่น - [ 15 ส.ค. 47 16:59:33 A:202.28.21.6 X: TicketID:031385 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กรณีแรก ทั้งสองเครื่องแรงม้าสูงสุดเท่ากัน ที่รอบเดียวกัน แต่เป็นไปได้ว่า เครื่องที่ 2 ที่มีความจุมากกว่า จะมีแรงบิดมากกว่าเครื่องที่ 1 ที่รอบต่ำ ประมาทเครื่องสองไม่ได้ครับ นอกนั้น เห็นเหมือนคุณต้น 99 คุณ"พักเห๊อะทั่น" ครับ แรงบิด 66 Kg-m มันเป็นแรงบิดสูงสุดของเครื่องตัวที่อ้างครับ แต่ที่ 6500 rpm จะมีแรงบิดเท่ากับ RB26 ที่มีม้าเท่ากัน รอบเดียวกันครับ ต้องมั่นใจมากเลยนะครับ ถึงได้ด่าไปให้ความเห็นไปได้ด้วยเนี่ย จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 17:55:45 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 33 โห กลับไปอ่านละเอียด ด่ากันไฟแลบแปล๊บๆ... แหะๆ...สรุปว่า คนด่า ที่ใช้คำพูดหยาบคายทุกคนกลับ"ไม่รู้เรื่องอะไรเลย" และหลงไปหมด จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 18:20:30 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอเพิ่มข้อจำกัดเป็นเครื่องรุ่นเดียวกันคือ 3000 เท่ากันแต่ตัวที่สองขยายความจุเอานะครับ จะได้ลดตัวแปรในเรื่องอื่นๆอีก กรณีแรก ม้าเท่ากัน แต่ความจุต่างกัน รอบเท่ากัน เครื่องที่1 3000cc - 240bhp at 6000rpm เครื่องที่2 3200cc - 240bhp at 6000rpm - เครื่องแรก จะมีแรงบิดน้อยกว่า ช่วงกำลังแคบกว่า ขับในเมืองตัวที่สองจะขับง่ายกว่า กรณีที่สอง ม้าเท่ากัน ความจุเท่ากัน รอบต่างกัน เครื่องที่1 3000cc - 240bhp at 6000rpm เครื่องที่2 3200cc - 240bhp at 5500rpm - เครื่องสองตัวนี้ ไม่แตกต่างกันครับ กรณีที่สาม ม้าต่างกัน ความจุเท่ากัน รอบเท่ากัน เครื่องที่1 3000cc - 255bhp at 6000rpm เครื่องที่2 3000cc - 219bhp at 6000rpm - ถ้าตามเงื่อนไขที่ผมเพิ่มเข้ามา คือเป็นเครื่องรุ่นเดียวกันแต่คราวนี้ไม่ขยายความจุ จะสมมุติให้เห็นภาพพจน์นะครับตัวแรกคือ 2JZ-GE ตัวที่2คือ2JZ-FE (มีป่าวเนี่ย) อะไรประมาณนี้แหละครับ ตัวแรกจะขับมันส์ ลากมันส์ กินน้ำมันเยอะ ตัวที่2จะเน้นประหยัด ขับสบายครับ กรณีที่สี่ ม้าเท่ากัน ความจุเท่ากัน รอบต่างกัน เครื่องที่1 3000cc - 240bhp at 6000rpm เครื่องที่2 3000cc - 240bhp at 5500rpm - เครื่องที่2 โมดิฟายมาเบาๆครับ ใส่เฮดเดอร์ 4-2-1 โมฯกล่อง ตัดแคตฯ เปลี่ยนหม้อพัก เปลี่ยนปั๊มติ๊ก ฯลฯ อะไรซักอย่างสองอย่างเนี่ยแหละครับ ข้อมูลน้อยไปหน่อยนะครับ แถมสเปคก็ใกล้เคียงกันมากไปจนทำให้เครื่องทั้ง2 ไม่มีความโดดเด่นจนทำให้รู้สึกว่าใช้อันไหนก็พอๆกันแหละครับ ที่ต่างกันมากก็ตัวอย่างที่3 ครับ ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่เกียร์ เฟืองท้าย ล้อ ยาง นน.รถ ฯลฯ อ่านแล้วลองคิดเอาเองแล้วกันครับว่าสัมพันธ์กันยังไง ผมอธิบายไม่ค่อยเป็น(ถ้าเป็นครูก็สอนได้แต่ปฎิบัติ ลูกศิษย์จำๆเอาเอง เกลียดคำนวณด้วย) เลยยกตัวอย่างให้ดู จากคุณ : penn's - [ 15 ส.ค. 47 19:19:55 A:210.86.223.25 X: TicketID:009109 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมว่ามันไม่จำเป็นนะที่จะมีแรงบิดเท่ากันอ่ะ มันขึ้นอยู่กับอัตราทดเกียร์ด้วยไม่ใช่เหรอ การวัดแรงบิดมันวัดหลังจากการถ่ายกำลังแล้วใช่ป่าวอ่ะ ถ้าอย่างนั้นไอ้แรงบิด 66 kg นี่มันจะมาที่รอบเท่าไหร่เหรอ ก็ในเมื่อมันมีแค่ 480 ม้า 6500 รอบ แล้วอย่างนี้ล่ะ 96 spec แรงม้า 200/8000 แรงบิด 18.5/7500 98 spec แรงม้า 200/8000 แรงบิด 19.0/6200 คุณบอกว่าที่รอบเท่ากันม้าเท่ากัน แรงบิดจะเท่ากัน แต่ตัวนี้แรงบิดยังไม่เท่ากันเลยนี่ มาสูงสุดที่รอบต่างกันด้วย แล้วเครื่องสองตัวนี้ก็มีอัตราทดเกียร์ต่างกันด้วย มันขึ้นอยู่กับอย่างอื่นเยอะเลยนะ ผมว่าจะมาอ้างว่าม้าเท่ากันที่รอบเท่ากันจะมีแรงบิดเท่ากันมันเป็นไปไม่ได้อ่ะนะ เห็นออกบ่อยที่แรงม้าเท่ากันรอบเท่ากัน แรงบิดก็ไม่เห็นเท่ากันเลย และอีกอย่างนึงแรงม้ากับแรงบิดมันก็คนละตัวกันด้วยทำไมคุณ ton ถึงบอกมันเป็นตัวเดียวกัน จากคุณ : ตรงๆเลย (Too Much Junkie Business) - [ 15 ส.ค. 47 19:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถึงแรงม้าเท่ากันที่รอบเท่ากัน แรงบิดไม่จำเป็นต้องเท่ากันครับ สูตรที่ว่ามามันก็แค่คร่าวๆเท่านั้นเองใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้มากหรอครับ เพราะคำนวณออกมาแล้วมันก็เป็นแค่ค่าที่ใกล้เคียงแค่นั้นเอง ลองคำนวณดูก็ได้ มันขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่างครับ ไม่ได้วัดกันแค่ตัวเครื่องอย่างเดียว แต่ผมไม่ชอบเลยที่คุณบอกว่า "ผมอาจจะไม่เก่งเรื่องเครื่อง Turbo แต่ก็พอจะบอกคุณได้ว่ามันทำไง" และผมก็ไม่เห็นคุณจะออกมาบอกอะไร ก็แน่นอนล่ะคุณไม่รู้เรื่องนี่นาว่ามันทำยังไง "แต่จะให้ผมบอกอะไรที่ละเอียดกว่านี้ ก็ช่วยทำตัวให้มันน่ารักกว่านี้ซะหน่อย พูดจาอย่างนี้คงไม่มีใครให้ความรู้อะไรคุณง่ายๆหรอก" นี่มันก็เป็นแค่ข้ออ้างเนื่องจากคุณตอบไม่ได้นั่นแหละ และผมว่าเค้าไม่ได้ต้องการความรู้จากคุณเลยนะ เพียงแต่เค้ารอดูว่าคุณจะออกมาโม้ มาอ้างว่าอะไรต่อเท่านั้นเอง "ที่บอกว่าจะไปทำบ้าง ผมขอถามหน่อยเถอะว่ามีเงินพอที่จะทำแบบนั้นหรือเปล่า?" อันนี้หลือเชื่อมากๆ คุณก็น่าจะรู้ตัวดีอยู่นะว่าคุณเองมีปัญญาแค่ไหน คุณมีอะไรบ้าง ยังกล้าพิมพ์มาแบบนี้อีก ผมไม่อยากดูถูกคุณนะ แต่คุณคิดว่าคนอื่นเค้าจะกระจอกเหมือนคุณทุกคนเหรอ เหอะ...เซ็งเลย จากคุณ : ไม่อยากตอบเลย - [ 15 ส.ค. 47 19:51:35 A:61.19.208.46 X:202.47.247.130 TicketID:070342 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ 35 ครับ เมื่อก่อนผมเคยงงกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่จะลองว่าไปตามผมเข้าใจนะครับ เครื่องทั้งสองตัวนั้นมีแรงม้าสูงสุดเท่ากัน คือ 200 ที่ แปดพันรอบ แต่มี "แรงบิดสูงสุด" ต่างกัน ถ้าพลอทกราฟ เส้นแรงบิดของตัวที่สองน่าจะสูงกว่าไปเกือบตลอด แต่ที่แปดพันรอบ จุดที่มีแรงม้าสูงสุดเท่ากันสองร้อยม้านั้น เครื่องทั้งสองตัวจะมีแรงบิดเท่ากันครับ แต่ไม่ใช่แรงบิดสูงสุดเท่ากัน คือหลังจาก 7500 รอบ เครื่องตัวแรกจะไม่มีแรงบิดเพิ่มขึ้นแล้ว จะคงที่หรือตกลงก็แล้วแต่ และตัวที่สองก็จะไม่มีแรงบิดเพิ่มขึ้น หลัง 6200 รอบ และที่แปดพันรอบที่เครื่องทั้งสองมีแรงม้าเท่ากัน แรงบิดจะเท่ากันครับ แต่ไม่จำเป็นต้องมีแรงบิดสูงสุดเท่ากัน สองเครื่องที่ยกมาก็เห้นชัดเจน ว่าแรงบิดสูงสุดมันไม่เท่ากัน และผ่านไปแล้ว ตั้งแต่ 7500 กับ 6200 รอบ -------- อาจะเหลือแค่ 13 KG/M เท่ากันก็ได้ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 47 20:07:29 จากคุณ : tarm - [ 15 ส.ค. 47 20:01:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ผมไม่ใช่องครักษ์พิทักษ์ต้น แต่ผมบอกคุณ"ไม่อยากตอบเลย"ได้ว่า คุณต้นโดนก่อน แกก็โต้กลับเท่านั้นเอง...ลองกลับไปอ่านดูแล้วกันครับ ถ้าแรงม้าได้มาจากไดโนที่วัดจากแรงบิด(ซึ่งน่าจะเป็นไดโนส่วนใหญ่)...ยังไงแรงบิดของสองเครื่องที่มีแรงม้าเท่ากันที่รอบเท่ากัน ก็ต้องเท่ากันอยู่ดีแหละครับ(อย่าไปเล่นสำนวนเรื่องวัดคนละที คนละไดโนเลยนะ ขอร้อง) เรื่องอัตราทดเกียร์ ไดโนมันก็ compensate ไปแล้ว(กรณีวัดที่ล้อ) ถ้าป้อนข้อมูลถูกต้อง มันก็ไม่พลาดดอก เฮ้ เจอคุณ tarm อีกแล้ว...นานๆเจอกันทีนะครับ จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 21:03:45 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แรงบิดที่รอบแรงม้าสูงสุดนะครับ ไม่ใช่แรงบิดสูงสุด แต่ที่รอบไหนก็ไม่รู้ จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 21:07:34 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีเช่นกันครับ คุณ Ont   ช่วงนี้เรียนหนักน่ะครับ เลยหนักไปทางอ่านซะเยอะ กำลังทำวิทยานิพนธ์อยู่ เป็นเรื่อง Airbus กับ Boeing ซะด้วย ไว้จะแวะมารบกวนขอความเห็นคุณ Ont บ้างนะครับ 5 5 5 แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 47 21:21:46 จากคุณ : tarm - [ 15 ส.ค. 47 21:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 41 555 ฟันธง Airbus คุ้มค่ากว่า เหมือน Mazda แต่ Boeing ดีกว่า เหมือน Benz (แต่แพงหูตูบ) จากคุณ : Ont - [ 15 ส.ค. 47 21:52:08 A:61.90.86.34 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมโดนพาดพิงที่คห.29 ผมก็ไม่ได้บอกเหมือนกันนะว่าคุณบอก  แรงม้า = แรงบิด //////////// ก็คุณอ้างอิงว่าเป็นตัวเดียวกัน ทั้งแรงม้าและแรงบิด งั้นม้าเท่ากันที่ รอบเท่ากัน แรงบิดก็ต้องเท่ากันสิ //////////// คำพูดนี้ไปตีความมาใหม่นะ ทุกคห.ที่ผมโพสท์ ผมไม่เคยแก้ไขนะ ของคุณผมไม่รู้แก้ไขอะไรไปมั่ง ทำไมแก้ไขแยอะจัง ที่ผมหมายถึง คำพูดที่คุณว่า "แรงม้า กับแรงบิด  จริงๆแล้วมันก็คือตัวเดียวกัน" ในคห. 2 ที่ คห.ที่3 ผมแย้งคุณว่า "คนละตัวกันครับ" จะกลืนนํ้าลายก็รีบกลืนซะนะ ถ้าผมผิดผมคงยอมรับไปนานแล้วหละ ผิดแล้วรู้ มันก็ไม่น่าเกลียดหรอก จะให้ช่วยแจ้งลบกระทู้นี้ให้ไหม จากคุณ : อายเขา!!! (t-re) - [ 16 ส.ค. 47 00:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หัวข้อคำถามกว้างแบบมหาสมุทรแต่ดันมีข้อมูลน้อยเกินไป ตัดสินไม่ได้ ข้อมูลพื้นๆแค่จะเครื่องพวกนี้ไปวิ่งทดสอบสภาพถนนแบบไหน เช่นแข่ง _F1 หรือแข่งแรลลี่ เพราะทั้งสองอย่างใช้เครื่องที่แตกต่างกันแม้จะกำหนดว่าให้เอาแรงม้าที่เท่ากัน หรือวิ่งทั่วไปแบบชาวบ้านใช้ จากคุณ : ... - [ 16 ส.ค. 47 07:28:22 A:210.1.34.226 X: TicketID:040071 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อิ อิ ด่ากัน ทำให้มีการหาความรู้ต่อยอดได้เหมือนกันแฮะ ไปนั่งคิดดูว่าจะมีกรณีไหน ที่จะไม่เป็นไปตามสูตรความสัมพันธ์ระหว่างแรงบิดกับแรงม้า ยังหาไม่เจอเลยครับ แม้ว่า ค่าแรงม้าจะวัดจากการทำงาน ยกน้ำหนักไประยะทางค่านึง ในเวลาค่านึงก็ตาม เมื่อ covert ไปเป็นแรงบิด มันก็เป็นไปตามสูตรนั้นอยู่ดี ไม่ใช่ว่าได้ค่าที่ใกล้เคียงเท่านั้นนะครับ คุณ"ไม่อยากตอบเลย" จากคุณ : Ont - [ 16 ส.ค. 47 08:43:25 A:61.90.28.85 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 45 /////////// แรงม้า กับแรงบิด power กับ torq คนละตัวกันครับ รถแรงม้าเท่ากันก็ไม่จำเป็นต้องมีแรงบิกเท่ากัน รถที่มีแรงบิกเท่ากันก็ไม่จำเป็นต้องมีแรงม้าเท่ากันเช่นกัน //////////// แรงม้าเท่ากัน ต้องมีแรงบิดเท่ากัน แรงบิดเท่ากัน ต้องมีแรงม้าเท่ากัน ที่สำคัญต้องพิจารณาที่รอบเดียวกันด้วย ช่วยกลับไปดูเวลาที่ผม post กับที่เวลาผมแก้ ก่อนที่จะหาเรื่องผมด้วย ผมไม่เคยกลับไปแก้ mening ของผมอยู่แล้ว ที่ผมแก้ไขมีเพียงแค่แก้ไขคำผิดที่ผมพิมพ์ผิดไปเท่านั้น คุณจะคิดยังไงมันก็เรื่องของคุณครับ ผมขอบอกว่าผมไม่เคยคิดอะไรแย่ๆแบบที่คุณคิดละกัน คนบางคนอ่านภาษาไทยไม่ขาด และคนบางคนก็ไม่เข้าใจฟิสิกส์ แต่ไม่เป็นไรผมจะสอนอะไรง่ายๆให้ละกัน เงินสด กับ เช็ค หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นคนละตัวกัน แต่จริงๆแล้วมันก็คือตัวเดียวกัน เพราะว่ามันเอาไปใช้ซื้อของได้เหมือนกัน และเงินสดกับเช็ค ก็สามารถแปลงกลับไปกลับมาได้ จากคุณ : ton99 - [ 16 ส.ค. 47 10:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยิ่งอ่านยิ่งงงอ่ะผมว่าคุณต้น ตอบพอเข้าทางนะ จากคุณ : 79/1 - [ 16 ส.ค. 47 10:59:23 A:202.133.167.242 X: TicketID:055926 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Ont เข้ามาในนี้ไม่กลัวลูกหลงบ้างหรือครับ? คนแถวนี้ใจร้อนกันทั้งนั้น เวลาไม่ถูกใจอะไรก็สอยเอาดื้อๆเลยนะ ไม่เหมือนผมกับคุณ Ont ที่อดทนถกเถียงกันได้เป็นอาทิตย์ๆจนกระทู้หมดอายุไปเอง จากคุณ : ton99 - [ 16 ส.ค. 47 11:08:21 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สูตร ที่ให้มา มันเป็นการคำนวนหาความสัมพันธ์ของแรงม้ากะแรงบิด ถูกต้องแล้วครับ แต่... มันคำนวนว่า 1 ที่แรงม้าสูงสุด จะมีแรงบิดเท่าไหร่ 2 ที่แรงบิดสูงสุด จะมีแรงม้าเท่าไหร่ และจากโจทย์ที่ให้มา ก็ไม่ได้บอกว่าแรงบิดเท่าไหร่ ดังนั้น จากโจทย์ จึงคำนวนได้เฉพาะ แรงบิด ที่ม้าสูงสุด ได้=xxx (ไม่ใช่แรงบิดสูงสุด) เพราะฉะนั้น แรงม้า กับ แรงบิด มันเป็นคนละตัว ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงจะหา แรงบิดสูงสุดได้ และไม่ว่าจะมองมุมไหน มันก็คือคนละตัวอยู่ดี เพียงแค่มีความสัมพันธ์กันเท่านั้น จากคุณ : ยอมเถอะ หลายเรื่องแล้ว - [ 16 ส.ค. 47 16:25:42 A:203.113.36.6 X:203.150.217.116 TicketID:002755 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่ได้ มาชวนทะเลาะ ครับ ผมมาดี แต่แค่จะเข้ามาบอกว่า ขอบคำตอบ ใน คห. 2 ของคุณ ton99 มาก แต่มีนิดเดียว ที่เห็นขัดแย้ง ขอออกความเห็นนิดนึง ถ้าไม่นำเรื่องการกินเชื้อเพลิง และประสิทธิภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นรถแข่ง ผมเลือก เครื่องที่ 2 ซึ่ง น่าจะให้ (เน้นว่า น่าจะให้) power band ที่จัดจ้านกว่า (ไม่ได้บอกว่ากว้างกว่า แต่บอกว่าจัดจ้านกว่า) จากคุณ : Mr.Moon - [ 16 ส.ค. 47 18:12:40 A:202.44.4.24 X: TicketID:002682 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ท่าน Mr.Moon หมายถึงเครื่องยนต์สองในกรณีไหนน่ะ กรณีที่ 1 ใช่ไหม ผมเห็นด้วยครับ อิ อิ เสียดายที่เด็กๆทะเลาะกันเสียมาก ไม่งั้นคุณ Mr.Moon ของมีความเห็นดีๆให้อ่านกันมันๆอีก คุณต้น ผมสงสัยมากว่า ทำไมพวกเขาถึงได้เล่นคุณแรงอย่างนั้น นี่ผมยังนึกว่าพวกเขารู้จัก(ไม่ชอบ)คุณเป็นการส่วนตัวเลยนะ ความจริงคุณต้นเป็นคนที่รู้ และมีเซ้นส์เรื่องยานยนต์นี้อยู่มากทีเดียว แต่ตอนอธิบายน่ะ คงจะนึกว่าคนอื่นเขาคงมีเซ้นส์เรื่องนี้เหมือนตัวเอง เลยละไว้ในฐานที่เข้าใจเสียมาก พวกเขาเลยไม่เข้าใจ... ผมว่าอย่างนี้แหงๆเลย จากคุณ : Ont - [ 16 ส.ค. 47 19:38:44 A:61.90.28.39 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 51 I do agree with K ton in the second reply krub. I guess he meant the whole graph krub... if one knows the torque graph, he can plot the power graph too. if it is true that พวกเขารู้จัก(ไม่ชอบ)คุณเป็นการส่วนตัว I guess it is from the following krub, K Ton is the one who claimed that Civic has better performance than BMW. As far as I understood, he didn't honor the invitation from BMW Society to prove his words at Pera curcuit last month krub. จากคุณ : BBC - [ 16 ส.ค. 47 22:28:57 A:192.129.26.240 X: TicketID:018321 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอชี้แจงสักนิดนะครับ ผมไม่เคยรู้จักกับคนจาก BMW Society เลยสักคนเดียว และที่ผ่านมาก็ไม่มีคนจาก BMW Society มาติดต่อผมเลยแม้สักคนเดียว จะมีก็มีเพียงแค่คนที่เข้ามา post ลอยๆประมาณว่า วันอาทิตย์นี้ชาว BWM มีนัด Meeting ที่พีระ แล้วให้ผมเอารถไปลองกับรถของชาว BMW ที่นั่น ส่วนคนที่คอยตามมาด่าว่าผมอยู่เรื่อยๆนั้น ที่ผมจำได้หลักๆก็มีอยู่ 3 คน มีทั้งแก่ทั้งหนุ่มครับ ผมก็ไม่ทราบว่าผมเคยไปทำอะไรเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงต้องตามมาราวีผมอยู่เรื่อยไป กระทู้แรกๆที่มีคนเข้ามาด่าว่าผม เท่าที่ผมจำได้นั้นคงเป็นกระทู้ ที่ผมถามหาคนที่ขับ Civic Lxi ได้ 215km/h เมื่อ พ.ค. ปี 44 หลังจากนั้นก็เป็นกระทู้ที่มีคนมาถามว่า ทำไม "318i ทำไมปลายไหลกว่า civic" เมื่อ ต.ค. 44 ซึ่งกระทู้อันหลังนี้คุยกันยืดยาวกันจน 6 ภาค ซึ่งผมก็โดนด่าทั้ง 6 ภาคเช่นกัน ความจริงกระทู้นี้ผมพลาดเอง ตอนแรกผมก็จะรอคุณ Mr.Moon , A-Z หรืออีกท่านนึง มาตอบให้เหมือนกัน แต่พักหลังๆนี้ไม่เห็น 3 ท่านนี้เลย ก็ผมเลยพิพม์สั้นๆตอบไป ไม่งั้นก็คงได้อ่านอะไรดีๆมากกว่านี้ จากคุณ : ton99 - [ 17 ส.ค. 47 10:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เอ้อ ใช่ ๆ ๆ ผมลืมครับ สงสัยเมื่อวาน จะเบลอ ใช่เลยครับ เครื่องยนต์ 2 ของ กรณีหนึ่ง ครับ ขอบคุณ คุณ Ont มากครับ คุณ ton99 จะรอผมตอบเลยหรือครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก แต่ ผมไม่ได้เก่งกาจ หรือ มีเกียรติอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ผมคนเล่นเน็ตธรรมดา เท่าที่ผมอ่านผมว่าคุณ ton99 ก็ไม่ได้พลาดอะไรนี่ครับ เพราะผมว่ามันก็ถูกทั้ง 2 ด้านอะ แล้วแต่จะมองด้านไหน เพราะต่างก็เข้าใจบนพื้นฐานเดียวกัน แค่ technical term เล็กน้อย ๆ เท่านั้นเอง มีประเด็นอื่นๆ ที่น่าถกกันอีกตั้งแยะ และอีกอย่าง ผมไม่ได้หายไปไหนครับ ผมเข้ามาอ่านเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้ออกความคิดเห็นอะไร หรือก็แค่ความเห็นสั้น ๆ จากคุณ : Mr.Moon - [ 17 ส.ค. 47 17:51:13 A:202.44.4.24 X: TicketID:002682 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตกลงมันเป็นฟิสิกส์หรือ ไม่ใช่ไดนามิกส์หรือ ผมไม่เคยพกเช็คไปซื้อก๊วยเตี๋ยวนะ จากคุณ : t-re - [ 17 ส.ค. 47 22:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 55 งั้นช่วยหานี่ให้หน่อย 4g18 max power 79kw/6000 rpm max torque 141 N-m/2750 rpm ช่วยหา torque ที่ 6000 rpm ให้ผมหน่อยสิ เพราะค่านี้ให้แรงม้าสูงสุดตั้ง 79 kw สงสัน torque มันจะต้องเพิ่มจาก 141 N-m แน่เลย กับอีกอันหนึ่ง 4g93 max power 91kw/6000 max torque 161 N-m/4500 ช่วยหา torque ที่ 6000 rpm ให้หน่อยสิครับ ผมว่ามันน่าจะได้มากกว่า 161 N-m นะ เพราะ 161 N-m มันใช้รอบแค่ 4500 แต่เครื่องนี้มันวิ้งได้ตั้งมากกว่า 6000 rpm แน่ะ ลืมบอกไป torque กับ power plot โดยใช้รอบเครื่องเป็นแกน X มันไม่ยักกะเป็นเส้นตรงแฮะ ลืมบอกไปอีกเหมือนกัน ว่าช่วงหนึ่งชีวิตนักศึกษาผมเรียน major phisics แหละ pure ด้วย จากคุณ : t-re - [ 17 ส.ค. 47 22:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ล้วนเป็นฟิสิกส์ทั้งหมดครับ! 79kw@6000rpm = 12.8kg-m@6000rpm ยังน้อยกว่า 141N-m 91kw@6000rpm = 14.8kg-m@6000rpm และก็ยังน้อยกว่า 161N-m อยู่ดีครับ จากคุณ : ton99 - [ 18 ส.ค. 47 00:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คุณ t-re ครับ ลองไปหากราฟแรงม้า แรงบิดมาดูนะครับ ทั้งสองตัวนี้ ถ้ามันขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว มันก็ตกลงมานะครับ ตกมากตกน้อยนี่อีกเรื่องนึง คำว่า max torque คือ torque สูงสุดที่รอบเครื่องนั้น แล้วทำไม torque มันไปเพิ่มที่รอบเครื่องอื่นได้ยังไงครับ คุณ t-re พูดถูกแล้ว กราฟแรงม้าแรงบิด ไม่ได้เป็นกราฟเส้นตรง แล้วมันพิสูจน์อะไรหรือครับ ผมตามไม่ทันครับ จากคุณ : Ont - [ 18 ส.ค. 47 07:14:13 A:61.90.28.96 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 58 มาช่วยยืนยันอีกคนครับ ว่า แรงม้า กับแรงบิดคือเรื่องเดียวกัน อย่างที่คุณต้นบอกไว้ มองภาพรวมเลย คือ ... แรงม้า = แรงบิด x รอบ ..... (x ค่าคงที่อื่นๆ (ซึ่ง คร่าวๆ ก็คือไม่ต้องคูณก็ได้ ตัวเลขต่างกันนิดหน่อย แต่กราฟยังรูปเดิม)) ที่รอบเดียวกัน ถ้าแรงม้าเท่ากัน แรงบิดต้องเท่ากันครับ ถ้ามองที่รอบที่ได้ม้าสูงสุด ถ้ารอบเท่ากัน แรงม้าเท่ากัน แรงบิดที่รอบนั้นก็ต้องเท่ากันครับ แต่ไม่จำเป็นว่าแรงบิดสูงสุดจะต้องเท่ากัน เพราะแรงบิดสูงสุดจะมาก่อนเสมอ ก๋อนรอบที่แรงม้าสูงสุด แรงบิด 2 เครื่องนี้อาจต่างกัน หรือถ้ามองกลับกัน ถ้าที่จุดไหนของเครื่องมีแรงบิดเท่ากันที่รอบเดียวกัน แรงม้า ณ จุดนั้นก็เท่ากันด้วย ถึงแม้แรงบิดสูงสุดจะต่างกันก็ตาม(ที่รอบอื่นๆ) จุดที่มองว่าเครื่อง 2 เครื่องอาจมีนิสัยต่างกันคือ ก่อนที่จะมาถึงจุดสูงสุดของแรม้านั้น กราฟมันมีหน้าตาอยางไร ก่อนที่จะพูดว่าเครื่องตัวไหนวิ่งกว่ากัน อย่าเอาตัวเลขแรงม้า หรือแรงบิดสูงสุดมาพูด ถ้าไกล้เคียงกันที่รอบไกล้เคียงกัน ยังไงก็พูดยากครับ ความสำคัญคือก่อนที่จะถึงจุดสูงสุดที่เราพูดนั้น ก่อนหน้านั้นตัวเลขมันเป็นยังไง ถ้าเห็นกราฟของการเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของแรงม้า หรือแรงบิดก็ได้ เด็กอนุบาลยังแทบกล้าจะฟันธงได้เลยครับ ว่าเครื่องไหน วิ่งกว่ากัน เอาตามตัวอย่าง#35 เครื่อง 96 - 98 ที่ 8000 รอบมีแรงบิดเหลือเท่ากัน สมมุติเหลืออยู่ 17 แต่เครื่อง 98 มีแนวไน้มขับง่ายกว่า เพราะแรงบิดจาก 19@6200 ตกลงเหลือ 17@8000 มันมีความชันติดลบ น้อยกว่า 18.5@7500 > 17@8000 ครับ จริงๆแล้ว เรื่องแรงม้า กับแรงบิดนี่ ถ้าท่านที่เห็นว่าไม่เหมือนกันนั้น มาอธิบายด้วยตัวหนังสือแบบนี้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง อ่านทวนไปทวนมากว่าจะจับสิ่งที่ต้องการบอกได้ สำหรับท่านที่เห็นว่าแรงม้า กับ แรงบิด ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ลองไปถามตาม Shop ที่เขามี Dyno ดูก็ได้ครับ ว่าที่ลูกกลิ้งมันมี Sensor กี่ตัว มันมี Sensor จับแรงม้า กับSensor จับแรงบิดหรือเปล่า มันมีอย่างเดียวครับ คือจับแรงบิด สิ่งที่เราสามารถวัดได้มีอย่างเดียวคือแรงบิด ที่ใช้ในการสู้โหลดครับ ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีเครื่องวัดแรงม้าครับ ถ้าลองตัดเรื่องหน้าจอที่เราเห็นเป็น แรงม้า+แรงบิดออกไปครับ แล้วไปขอเขาดู Raw Output ที่ออกมาจากแท่นวัดจริงๆแล้ว ก่อนผ่านสูตรใดมันมีอยุ่ตัวเลขเดียวครับคือแรงบิด แรงม้าที่เราเห็นก็คำนวนมาครับ ไม่มีแท่นยี่ห้อไหนในโลกครับที่วัด Raw Output ออกมาเป็นแรงม้าได้เลย เพราะแรงม้าเป็นตัวเลขใน Theory เป็น Ideal Number จากคุณ : A-Z - [ 20 ส.ค. 47 13:30:13 A:203.113.35.12 X:203.150.217.117 TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 59 มาดูที่ความเห็นที่ 55 หน่วยเป็นอะไรก็ได้ไม่ต้องสน เพราะผมไม่ใช่นักฟิสิกส์ ไม่เคยนั่งแปลงหน่วย ซึ่งแรงม้าแรงบิดหน่วยแบบไหนก็ได้ ถ้าดูความสัมพันธ์ของมันออก มองเป็นภาพรวม ถ้าคุณเชื่อในสูตร แรงม้า = แรงบิด x รอบ (ซึ่งจริงๆแล้วก็ต้องเชื่อครับ เพราะที่ไหนในโลกก็ใช้สูตรนี้ครับ ทุกโรงงานในโลกก็ใช้สูตรนี้) ตัวเลขเครื่อง 4G18 มันก็บอกอยู่แล้วครับ ด้วยคำว่า Max Power & Max Torque คือเกิน 2750 รอบไปแล้ว แรงบิดมีแต่ลดลง มันจะเพิ่มอย่างคุณถามมาได้ยังไง ด้วยเหตุผลอะไร ถ้าคุณคิดว่าแรงม้าเพิ่มจนถึง 6000 รอบ แรงบิดมันก็ต้องมากขึ้นด้วย ก็ผิดอย่างแรง แรงม้า-แรงบิดเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องวิ่งคู่ขนานกันไปตลอดเส้นครับ ถ้าถามว่าแล้วแรงม้ามันเพิ่มขึ้นได้ยังไง ในเมื่อแรงบิดลดลงแล้ว ก็ตอบว่าแรงม้าเพิ่มมาด้วยตัวแปรของ รอบ ไงครับ คือแรงม้ายังเพิ่มได้ เพราะการตกลงของแรงบิด มันน้อยกว่าการเพิ่มของรอบ ไปจนถึงจุดที่ได้แรงม้าสูงสุดก็คือ จุดที่อัตราการตกของแรงบิดมีสูง จนรอบเครื่องที่ทำได้มากขึ้นก็ไม่สามารถทำม้าไปมากกว่านั้นแล้ว คือสัดส่วนการขึ้นของรอบ เริ่มสู้สัดส่วนการตกของแรงบิดไม่ได้แล้ว ทั้งแรงม้าและแรงบิดก็เริ่มตกลงทั้งคู่ คือเครื่องอาจหมุนได้ยัน 8000 รอบ แต่ไม่มีแรงบิดแล้ว เวลาเจอโหลดก็เริ่มเหนื่อย กัดฟันแล้วยังเบ่งไม่ไป เพราะมันหมดแล้วทั้งแรงและแรงบิด เหลือแต่รอบ รอบปราศจากแรงบิด ก็ไม่มีแรงม้า = แรงบิดปราศจากรอบ ก็ไม่มีแรงม้าอีกเช่นกัน รอบปราศจากแรงบิด ก็คือพวกเครื่องที่วาล์วใหญ่ แคมสูง แต่มี VE ต่ำสูดอากาศไม่ค่อยเต็มปอด ทำรอบได้เยอะแต่ไม่มีแรง แรงบิดปราศจากรอบ ก็พวกเครื่องดีเซลไงครับ แรงบิดเพียบ แรงม้าไม่เท่าไร เพราะไม่มีรอบจะสร้างแรงม้า ถ้ามองสูตรแรงม้าออก มันก็ Correlation พื้นๆ ที่คณิตศาสตร์ธรรมดาก็อธิบายได้แล้วครับ ไม่ต้องพึ่งสูตรฟิสิกส์ชั้นสูงใดๆ ถ้าคุณเชื่อสูตรนี้ คุณก็คงไม่แกล้งถามมาหรอกว่า torque มันจะต้องเพิ่มจาก 141 ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าคุณเชื่อสูตรนี้รึเปล่า ซึ่งสมมุติว่าถ้าไม่เชื่อ ผมว่าก็ไม่รู้จะคุยต่อกันยังไง เอา Case แค่ตัวเลข Max HP & Torque มาคุยอย่างเดียว คุยให้ตายก็ไม่รู้เรื่อง มันพูดคนละจุดกัน ถ้าคุณมีโอกาส ลองหาดูกราฟ HP vs Torque เยอะๆ แล้วลองหา Correlation ของเส้น 2 เส้นนี้ดูครับ ว่ามันเกี่ยวกับสูตรนี้ยังไง หรือว่ามันค้านกับสูตรนี้ตรงไหน คนที่มี้นฐานฟิสิกส์ดีๆอย่างคุณ มองแป๋บเดียวก็ร้อง อ๋อแล้วครับ เอามาลองคิดใน Spreadsheet ดูก็ได้ครับ ง่ายดี จากคุณ : A-Z - [ 20 ส.ค. 47 13:43:12 A:203.113.35.12 X:203.150.217.117 TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ A-Z เจอกระทู้นี้ได้ไงครับเนี่ย จากคุณ : ton99 - [ 20 ส.ค. 47 21:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 61 พอดีผมไม่หากราฟไม่เจอน่ะครับ แต่เท่าที่จำได้ จุดเริ่มหักโค้งมันเริ่มที่ไม่เท่ากันครับ คนละจุดเลย ไงใครว่างลองตัดกราฟมาดูหน่อยสิ ผมไม่มีกราฟนั้นในมือ หากมีจะ scan มาให้ดู ลองพิจารณาประโยคนี้ที่คุณเขียนดูนะครับ "้ามองที่รอบที่ได้ม้าสูงสุด ถ้ารอบเท่ากัน แรงม้าเท่ากัน แรงบิดที่รอบนั้นก็ต้องเท่ากันครับ แต่ไม่จำเป็นว่าแรงบิดสูงสุดจะต้องเท่ากัน" จากคุณ : t-re - [ 21 ส.ค. 47 00:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 62 คุณต้นครับ พอดีไม่ได้เข้ามาหลายวัน จริงๆเคยเปิดมาอ่านตอนแรกแล้วครับ ตั้งแต่ยังไม่มีใครตอบ แต่ตามโจทย์ บอกแต่จุดสูงสุดของแต่ละเครื่องเลยไม่รู้จะตอบอะไรดี เพราะตอบไปก้คือเดาเอาครับ พอดีผ่านไปหลายวัน เห็นหัวข้ออีกทีมีตั้ง 50 กว่าความเห็น เลยลองเข้ามาอ่านดู ไปๆมาๆ เลยกลายเป็นกระทู้ของคุณไปเลยตั้งแต่ความเห็น 2 ผมมองว่าคุณเผลอใช้คำพูดผิดไปนิดเดียวเอง ที่ไปพูดว่า "แรงม้ากับแรงบิดเป็นตัวเดียวกัน" จะมองว่าเป็นตัวเดียวกันก็ถูกสำหรับคนที่มองเป็น แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น "แรงม้ากับแรงบิดคือเรื่องเดียวกัน" ท่านอื่นๆอาจจะไม่ขัดแย้งคุณเท่านี้ครับ ----------------------------------------------------------------------------------- มาต่อที่#61 ที่ผมพูดว่า " ถ้ามองที่รอบที่ได้ม้าสูงสุด ถ้ารอบเท่ากัน แรงม้าเท่ากัน แรงบิดที่รอบนั้นก็ต้องเท่ากันครับ แต่ไม่จำเป็นว่าแรงบิดสูงสุดจะต้องเท่ากัน " ขอเพิ่มคำว่า "แต่ไม่จำเป็นว่าแรงบิดสูงสุดจะต้องเท่ากัน ที่รอบอื่นๆก่อนหน้านี้" อันนี้ขอเพิ่มกันการอ่านแล้วอาจจะงงในประโยค เพราะแรงบิดสูงสุดกับแรงม้าสุงสุดไม่ได้อยู่ที่รอบเดียวกันเสมอ ผมก็ยังยืนยันตามคำพูดนี้ครับ เท่าที่ผมอ่าความเห็นของคุณ t-Re มา ผมสังเกตุเอาเองว่าคุณ ดูจะไม่ได้ให้ความสำคัญของตัวแปร "รอบ" เลย ผมหมายถึงรอบในความหมายของ รอบที่เป็นที่มาของแรงม้า ไม่ใช่แรงม้าที่รอบเท่าไร จากที่คุณพูดว่าจุดหักลงของกราฟหักลงที่คนละจุด ก็ถูกต้องแล้วหนิครับ เพราะถ้าจะหักลงพร้อมกันที่รอบเดียวกันมีกรณีเดียวคือพ้นจากรอบที่ให้แรงบิดสูงสุดเสร็จ หลังจากนั้นแรงบิดเป็น 0 อย่างนี้แรงม้าสูงสุดจะอยุ่ที่รอบเดียวกับแรงบิดสูงสุด แต่ในความเป็นจริงที่ใครก็รู้คือ ในรอบที่ถัดจากแรงบิดสูงสุด แรงบิดตกลงจริง แต่ค่อยๆตกไม่ได้ดิ่งลงเหวในทันที แต่การที่มีรอบเพิ่มขึ้น มันจึงทำให้ยังมีแรงม้าเพิ่มมขึ้นไปได้เรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง ที่เมื่อเอาแรงบิดมาคูนรอบแล้วมันได้ค่าสูงสุด จากนั้นแรงบิดที่ลดลงเริ่มมีสัดส่วนลดลงมากกว่ารอบเครื่องที่ได้เพิ่มขึ้น แรงม้าก็จะเริ่มไต่ลงอีกที จากคุณ : A-Z - [ 21 ส.ค. 47 05:54:28 A:203.113.34.10 X:203.150.217.27 TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ผมว่าลองมามองว่าตัวเลขแรงม้ามาได้ยังไงดีกว่า มองดูเครื่องยนต์ให้เหมือนภาพทีละช๊อตขณะที่มันหมุนอยู่ มองเป็น Snap Shot แรงบิด เป็นค่าที่เกิดขึ้นมาในแต่ละรอบเครื่อง สมมุติที่ 3000 รอบ การหมุนแต่ละรอบก็มีแรงบิดเท่ากันแต่เกิดอย่างต่อเนื่อง 3000 ครั้งต่อนาที ส่วนแรงม้า เป็นเสมือนลูกของแรงบิดครับ แรงม้าไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีแรงบิด เพราะแรงม้าเป็นผลลัพธ์ของแรงบิด เอาแรงบิดค่านั้น มาทำซ้ำๆกัน 3000 ครั้งต่อนาทีก็จะเกิดเป็นค่าของแรงม้า ถ้าเราสามรถรักษาค่าแรงบิดนี้ให้คงที่ได้ตลอด เอามาทำซ้ำกัน 4000 หนต่อนาที เราก็ได้งานมากขึ้น ก็คือแรงม้ามากขึ้นเป็นสัดส่วนตรงไปตลอด ถ้าหมุนไปยัน 6000 รอบ 8000 รอบ โดยแรงบิดยังไม่ตก แรงม้าก็เพิ่มขึ้นไม่รู้จบ แต่ในความเป็นจริงเราไม่สามารถรักษาแรงบิดนั้นไว้ได้ตลอด เพราะที่รอบเพิ่มขึ้นมากๆ ความสามารถในการดูดอากาศในแต่ละรอบเครื่องเริ่มลดลง แรงบิดก็เริ่มตก แต่ไม่ได้เป็น 0 สมมุติว่าแรงบิดสูงสุดเป็น 10 หน่วยที่ 3000 รอบ ที่ 3500 รอบเหลือ 9.8 แรงบิดลดลง 2% แต่รอบเพิ่มขึ้น 16% เมื่อนำมาคูณกัน แรงม้าก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่ ที่ 4000 รอบ แรงบิดเหลือ 9.5 ลอลงไปอีกประมาณ 3% แต่รอบเครื่องยังขึ้นอีก 16% แรงม้าก็ยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนกระทั่ง สัดส่วนการตกลงของแรงบิด เท่ากับรอบเครื่องที่เพิ่มขึ้น แรงม้าสูงสุดก็อยู่ตรงนั้น พ้นจากจุดนี้ไปแรงบิดตกเร็วกว่ารอบเครื่องที่เพิ่มขึ้น แรงม้าก็จะตกลงไปเรื่อยๆ ถ้าอ่านตรงนี้แล้วเข้าใจไม่งง คุณก็จะรู้ว่าทำไมแรงบิดกับแรงม้ามันมีจุดสูงสุดอยู่คนละที่กัน และถ้าที่รอบเท่ากันเมื่อมีแรงม้าเท่ากัน ที่รอบนั้นๆจะมีแรงบิดเท่ากัน ถึงแม้ว่าแรงบิดสูงสุดที่เกิดมาก่อนหน้านี้จะไม่เท่ากันก็ตาม สรุปก็คือ แรงม้าไม่สามารถมีตัวตนได้ ถ้าไม่มีแรงบิดมาทำซ้ำๆกัน แรงบิดเกิดได้จาการหมุนรอบเดียว เมื่อเอาแรงบิดมาทำซ้ำๆกัน 4 พันครั้ง 6 พันครั้งในแต่ละนาที ก็เอาผลที่ได้มาเรียกว่าแรงม้าครับ มองภาพนิ่งทีละ Stroke ก็เป็นแรงบิด มองเป็นภาพต่อเนื่องก็เป็นแรงม้า นั่นคือ แรงม้าเป็นตัวเลขสมมุติ เป็นภาพเสมือน ของการสร้างแรงบิดแบบต่อเนื่องครับ เป็นหน่วยที่สร้างขึ้นมาให้คนส่วนใหญ่เห็นภาพได้ง่าย คุยกันง่ายขึ้น แต่จุดกำเนิดที่มาของแรงม้าก็เป็นไปตามที่กล่าวไว้ คือ .... แรงม้า = แรงบิด x รอบ (x ค่าคงที่ที่ใช้ในการเปลี่ยนหน่วย(ไม่ต้องสนใจได้ครับ ไม่มีความหมายมากนัก)) ไม่รู้อ่านแล้วงงหรือเปล่า ถ้างงก็ค่อยๆอ่านครับ ผมเรียบเรียงคำพูดไม่เก่ง แต่ยังยืนยันว่ามันเป็นไปตามนั้นครับ สิ่งที่ผม คุณTon99 คุณOnt คุณMr.Moon พูดกันมาเหมือนๆกัน มันไม่ได้เป็นสิ่งที่คิดหรือจินตนาการขึ้นเองครับ ไม่ได้คิดเหมือนกันโดยบังเอิญ มันเป็นศาสตร์จริงๆที่เขาใช้กันอยู่ทั่วโลก เป็นเรื่องทั่วไปที่ใครศึกษาหาเจอก็จะได้คำตอบแบบเดียวกัน เพียงแต่แต่ละคนก็พยายามอธิบายในคำพูดที่ต่างกันไปตามแต่ว่าท่านใดจะนึกตัวอย่างออกมาได้แบบไหน ที่คิดว่าอธิบายแล้วเห็นภาพที่สุด แต่ Bottom line คือเรื่องเดียวกัน ที่จะพูดว่า xxxx แรงม้ากับแรงบิด คือเรื่องเดียวกัน แค่มองไปคนละแบบ ถ้ารู้ตัวหนึ่งก็บอกได้ว่าอีกตัวหนึ่งจะเป็นเท่าใด ในแต่ละรอบเครื่อง xxxx ถ้าคุณ t-re คิดว่ามันไม่ถูกต้อง จะลองไปศึกษาค้นคว้าดูด้วยตัวเองก็ได้ครับ แต่ในที่สุดคุณก็จะได้คำตอบเดียวกับที่ผมพูดกันอยู่ครับ เพราะมันเป็น Fact พื้นฐานทั่วไป ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วเอามาพูด ถ้ามาเถียงกันว่าทำอย่างนี้ แรงกว่าอย่างนั้น อย่างนี้คือต่างคนต่างคิด เอามาถกกันได้ แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะเถียงกัน มันเป้นเรื่องที่เขาแค่เอาความรู้พื้นฐานที่มา มาเล่าให้ฟังกัน แบ่งปันความรู้กันครับ และเรื่องแรงม้าแรงบืดนี่ ไม่ใช่เรื่องที่ใครรู้ใครพูดแล้วเก่งครับ เพราะไม่ได้คิดค้นขึ้นมา แค่รู้ก่อนเท่านั้นเอง ผมว่าไม่ต้องไปหมั่นใส้ใครจนทำให้เกิดอคติกับเรื่องที่เขาพูด มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใครศึกษาก็จะรู้เหมือนๆกัน เหมือนกับ 1+1 = 2 จะใครเป็นคนพูดก็ตาม 1+1 ก็ยังเท่ากับ 2 เสมอ เพียงแต่ท่านที่ไม่เห็นด้วยก็คือยังไม่ได้ลองศึกษาเรื่องนี้ดูเท่านั้นเอง ถ้าลองศึกษาดูก็จะรู้ว่า 1+1 มันก็เท่ากับ 2 เหมือนๆกันครับ ถ้าจะบอกว่าเก่งก็คือทำยังไงคุณถึงจะสร้างแรงบืดเพิ่มขึ้นได้ ถ้าทำ 1+1=3ได้ อ้นนี้ซิเก่งเอามาโม้ได้ครับ ----------------------------------------------------------------------------------- ปล. ที่คุณ t-re ขอเรืองกราฟไว้ ผมลองทำกราฟสมมุติให้ดูใน Excel ไว้ พร้อมตัวเลข ให้เห็นภาพง่ายขึ้น แต่พอดีผมไม่ได้เป็นสมาชิกเลยโพสต์รูปไม่ได้ ถ้าท่านใดจะให้ผม Mail ไปให้แล้วจะช่วยโพสต์ให้แทนก็รบกวนเอาบอก E-Mail ไว้ให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : A-Z - [ 21 ส.ค. 47 06:28:35 A:203.113.34.10 X:203.150.217.27 TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ผมมีกราฟมาให้เล็งครับ อันนี้เป็นของวีโก จากคุณ : ton99 - [ 21 ส.ค. 47 11:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณคุณ A-Z แทนคุณ t-re ด้วยครับ ที่อุตส่าห์เสียสละเวลาพิมพ์ยาวเหยียดให้ความรู้แก่เขา จากคุณ : Ont - [ 22 ส.ค. 47 20:43:35 A:61.90.122.220 X: TicketID:001332 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมอ่านแล้ว มีจุดหนึ่งที่น่าคิดมากๆ จริงๆเครื่องยนต์ คือเครื่องจักรที่ใช้แปลงพลังงานเคมี -> พลังงานกล (คิดเป็นหน่วย แรงม้า Hp ละกัน) แล้วเพลาข้อเหวี่ยงเปลี่ยนแรงม้าเป็นแรงบิด และจำนวนรอบที่หมุนได้ แต่เวลาเราวัดกัน เนื่องจากเราต้องวัดจากผลของเครื่องยนต์ที่ทำได้คือแรงบิด แล้วค่อยคำนวณกลับเป็นพลังงาน แรงม้า ฉนั้นบางความเห็นจะเหมือนกับ คห 17 ที่ทำให้ไขว้เขว่ จากคุณ : ตี๋บางนา - [ 26 ส.ค. 47 16:35:05 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณตี๋บางนาครับ ผมขอแก้ให้นะครับ ที่เข้าใจว่า "แล้วเพลาข้อเหวี่ยงเปลี่ยนแรงม้าเป็นแรงบิด " ไม่ใช่นะครับ เพลาข้อเหวี่ยง เปลี่ยนแรงดันจากลูกสูบที่ส่งผ่านก้านสูบกลายเป็นแรงบิดครับ ส่วนแรงม้าได้จากการเอาแรงบิดจากเพลาข้อเหวี่ยง มาคำนวนร่วมความเร็วรอบ เป็นกำลังงาน(วัตต์) แล้วเปลี่ยนกำลังวัตต์เป็นกำลังม้าครับ จากคุณ : Craftsman - [ 27 ส.ค. 47 05:41:12 ]

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ t-re ความคิดเห็นที่ 55 ครับ // งั้นช่วยหานี่ให้หน่อย 4g18 max power 79kw/6000 rpm max torque 141 N-m/2750 rpm ช่วยหา torque ที่ 6000 rpm ให้ผมหน่อยสิ เพราะค่านี้ให้แรงม้าสูงสุดตั้ง 79 kw สงสัน torque มันจะต้องเพิ่มจาก 141 N-m แน่เลย กับอีกอันหนึ่ง 4g93 max power 91kw/6000 max torque 161 N-m/4500 ช่วยหา torque ที่ 6000 rpm ให้หน่อยสิครับ ผมว่ามันน่าจะได้มากกว่า 161 N-m นะ เพราะ 161 N-m มันใช้รอบแค่ 4500 แต่เครื่องนี้มันวิ้งได้ตั้งมากกว่า 6000 rpm แน่ะ // พอดีมีเวลา ผมเลยลองคำนวณแรงบิดที่ max power ที่ 6000 rpm ได้ค่าดังรูปครับ ซึ่งก็ต่ำกว่าแรงบิดสูงสุดทั้งสองเครื่องครับ ผมเลยไม่แน่ใว่าผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ จากคุณ : Craftsman - [ 28 ส.ค. 47 11:16:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69 กราฟทีคุณ A-Z ว่าไว้ ในความคิดเห็นที่ 63 ผมโพสให้ครับ // ตัวเลขไม่ใช่ตัวเลขจริงนะครับ ผมสมมุติตัวเลขแรงบิดให้เป็นเลขเต็มที่ 100 มันง่ายดี ส่วนตัวเลขที่เป็นค่าคงที่ก็สมมุติเอาเพื่อให้ตัวเลขอ่านง่ายหน่อย แค่สมมุติขึ้นมาให้เห็นความสัมพันธ์ของจุดที่เกิดแรงบิดสูงสุด กับแรงม้าสูงสุด ว่ามันเดินแบบไหน ลองเปลี่ยนตัวเลขดูก็ได้ครับ // จากคุณ : Craftsman - [ 28 ส.ค. 47 20:14:46 ]