ความคิดเห็นที่ 1 จาเหมือน E-plus ไหม?????? จากคุณ : Klaa - [ วันปิยมหาราช 12:28:39 A:210.203.181.143 X: TicketID:064155 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่เหมือนแน่นอนค่ะ ต้องแวะไปชมค่ะ จากคุณ : oxy_admin - [ วันปิยมหาราช 13:10:54 A:203.147.13.80 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บอกหลักการคร่าวๆ หน่อยสิครับ จากคุณ : CEDRIC - [ วันปิยมหาราช 13:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อุปกรณ์นี้ติดเข้าไปตรงช่วงไหนครับ ผมดูจากรายการ สงสัยว่ารถที่ใช้แอร์โฟลว์มิเตอร์วัดปริมาณอากาศ มันมิวัดผิดไปหมดเหรอ จากคุณ : อากง - [ วันปิยมหาราช 14:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เดินไปเดินมา ไปเจอป้ายเขียน 'Oxy-Plus.. ประหยัดน้ำมัน ทั้งดีเซลและเบนซิน ฯลฯ...' ผมเดินไปทางอื่นเลยครับ เหอๆ จากคุณ : ตื้อหมิงเศร้า - [ วันปิยมหาราช 23:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หลักการก็คือ นำเอาโมเลกุลออกซิเจน จากน้ำยาที่อยู่ในขวดที่เห็น เข้าไปสู่ระบบเผาไหม้ โดยผ่านทางท่อไอดี (ย้ำ ทางท่อไอดีเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์) ส่วนรถที่ใช้แอร์โฟลว์มิเตอร์วัดปริมาณอากาศ ก็จะคำนวณจากปริมาณอากาศที่เติมด้วยออกซิเจนไปแล้ว ก็จะทำให้ปล่อยน้ำมันออกมาสัมพันธ์กันพอดีค่ะ คือถ้ามีออกซิเจนในระบบเผาไหม้เพียงพอ ก็จะทำให้การสันดาปนั้นสมบูรณ์ไงคะ ผลที่ตามมาคือไม่เหลือกากตกค้าง(ควันดำ), ลดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้, ภายในห้องเผาไหม้สะอาด ไม่มีเขม่าจับที่ยอดลูกสูบ เป็นหลักการที่ง่ายๆนะคะ จากคุณ : oxy_admin - [ 24 ต.ค. 47 00:50:59 A:203.172.59.126 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มัน จะใช่หรือครับ ที่บอกว่า ถ้า โมเลกุลของออกซิเจน เปลี่ยน แล้ว แอร์โฟลว์มิเตอร์วัดปริมาณอากาศ ก็จะคำนวณจากปริมาณอากาศที่เติมด้วยออกซิเจนก็จะทำให้ปล่อยน้ำมันออกมาสัมพันธ์กันพอดี เพราะว่า แอร์โฟลว์มิเตอร์นั้นใช้ วัดปริมาณวัดปริมาณอากาศ ที่ใหลเข้าท่อ ไอดี ไม่ใช่ตัววัดปริมาณของ ออกซิเจนในอากาศ มันจะรู้ได้อย่างไรครับ ว่า ปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น (ถ้า ผลิตภัณท์ oxyplus สามารถเพิ่ม ปริมาณออกซิเจนได้จใหลเข้าท่อ ไอดียังมีเท่าเดิมจริง) ในเมื่อ ปริมาณของอากาศที่ใหลเข้าท่อ ไอดียังมีเท่าเดิม รบกวนจากคุณ : oxy_admin ช่วย อธิบายด้วยครับ จากคุณ : [PeTeR] ([PeTeR]) - [ 24 ต.ค. 47 12:36:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วอย่างนี้มันจะต่างจาก อีพลัสตรงไหนละครับ? ต่างกันแค่ อีพลัส เอาสายไฟจ่อท่อไอดี ส่วนอ็อกซีพลัส เพิ่มขวดน้ำยา? จากคุณ : JIMMY - [ 24 ต.ค. 47 15:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ ขอตัวเลขอ้างอิงยืนยันการทดสอบ จากห้องแล็บปฏิบัติการณ์ที่มีความน่าเชื่อถือมาประกอบการพิจารณาด้วยนะครับ จากคุณ : JIMMY - [ 24 ต.ค. 47 15:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ JIMMY พูดถูกครับ แล้วอย่างนี้มันจะต่างจาก อีพลัสตรงไหนละครับ? ต่างกันแค่ อีพลัส เอาสายไฟจ่อท่อไอดี ส่วนอ็อกซีพลัส เพิ่มขวดน้ำยา? จากคุณ : ปากหวาน - [ 24 ต.ค. 47 20:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าเพิ่งแจ้งลบนะครับ ขอฟังคำตอบก่อน ขอถามเรื่องปริมาณน้ำมันที่ประหยัดได้ด้วย ว่าได้เท่าไหร่ กี่บาทต่อกิโลเมตร ราคาเครื่องเท่าไหร่ ใช้กี่กิโลกว่าจะประหยัดน้ำมันได้คุ้มเงินค่าเครื่อง มีการทดสอบจากสถาบันไหนหรือยัง จากคุณ : ลุงหนอนกับน้องเปอร์โยต์ - [ 24 ต.ค. 47 23:30:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอตอบเรื่องความแตกต่างกับอีพลัสก่อนนะคะ สำหรับอีพลัสนั้นการทำงานก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนออกซีพลัสเนี่ย ไอ้ขวดน้ำยานี่ล่ะค่ะสำคัญเพราะในนั้นเป็นสารประกอบพิเศษที่มีออกซิเจนอยู่ไงคะ เปรียบเทียบง่ายๆก็คือการกรอกออกซิเจนเข้าปากอ่ะค่ะ แทนที่จะเก็บกากสกปรกออกแต่ปริมาณออกซิเจนเท่าเดิม แต่ว่านี่กรอกออกซิเจนเข้าไปเลยคุณคิดว่าอันใหนจะได้ประโยชน์มากกว่ากันล่ะคะ แค่ถ้าจะถามต่อว่าไอ้น้ำยาเนี่ยมีอะไรบ้างก็คงตอบไม่ได้นะคะเพราะเป็น know how ค่ะ ส่วนเรื่องตัวเลขยืนยันการรับรองจากแล็บมาตรฐานนะคะ รอสักครู่นะเนื่องจากตัวนี้เป็นการคิดค้นและประดิษฐ์จากประชาชนธรรมดา ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเสียค่าแล็บแพงแพงเป็นหลักแสนแบบนั้นหรอกค่ะ แต่ที่ง่ายๆที่สุดก็นี่เลยค่ะ ตรอ. ก่อนติดตั้งและหลังติดตั้ง วัดค่าคาร์บอนมอนออกไซ กับไฮโดรคาร์บอน กันได้เลยค่ะ จะลดลงเห็นๆ ตอนนี้เราใช้การรับรองจากผู้ใช้ที่ติดตั้งไปก่อนแล้วประมาณ 400 คันค่ะ ส่วนในเรื่องของการประหยัดก็สอบถามกับทางพิธีกรของรายการเลดี้โซน แล้วกันนะคะ แต่ทั้งนี้อัตราการประหยัดก็ขึ้นอยู่กับสภาพของเครื่องยนต์ ด้วยค่ะ แต่ว่าอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 10% จากคุณ : oxy_adin - [ 24 ต.ค. 47 23:52:53 A:203.147.13.24 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมบอกเลยนะครับ อุปกรณ์ประหยัดเชื้อเพลิงอะไรก็ตาม ถ้าแค่ยุ่งอยู่กับท่อไอดี ไม่ได้ไปยุ่งกับระบบควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิง ถึงแม้จะได้ผลดีขึ้น แต่ผลลัพธที่ได้ ก็จะไม่มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญ อีกนัยนึงคือ มันจะมีผลเหมือนกันแหละ แต่จะไม่คุ้มค่าเงินเอานั่นละครับ ผมบอกเลยนะครับ พิธกรรายการเลดีโซน ของทางกันตนาหนะผมไม่สนใจหรอก ทำไมเหรอ คุณคิดว่าสื่อ ทีวี นี่มันน่าเชื่อถือมากเลยหรืออย่างไร? อะไรก็ตามที่ออกทีวีในบ้านเรา แค่คุณมีเงิน จ้าง ขอออกรายการ หรือว่า ไม่ต้องจ่าย แต่แค่ทำจดหมายแนะนำอะไรสักอย่าง ทำตัวให้ดูน่าสนใจ ส่งให้ผู้ผลิตรายการทีวี ขี้คร่าน ครีเอทีฟ เขาก็จะรีบเผ่นแผ็วออกจากออฟฟิศ เอาไมโครโฟนไปจ่อกลอ้ง อัดเทปมาออกรายการให้คุณฟรีๆแล้ว พวกเขากระหายวัตถุดิบมาออกรายการ มากเสียจนลืมว่า ข้อมุลที่นำเสนอออกไปนั้น มันถูกต้องหรือเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน? ผมเลิกเชื่อถือสื่อใดๆของทั้งไทย ทั้งฝรั่งหัวทองๆ มาตั้งนานแล้วละครับ เพราะต่อให้เอาคุณไตรภพ คุณวิทวัส หรือล่อกันถึงระดับ "โอปรา วินฟรีย์" มาฃ่วยยืนยันให้คุณก็ตาม ผมก็ยืนยันคนนึงละครับว่า วิธีการนี้ ไม่น่าจะได้ผลที่สร้างความแตกต่างจนเห็นได้ชัด ถ้าหลักการทำงาน มันแทบไม่ต่างกับอีพลัส แบบนี้ แล้วไอ้ตัวเลข 10% นี่ คุณช่วยไปหาตัวเลขข้อมูลยืนยันมาให้พวกเราได้อ่านกันทีเถอะ ว่าใครทดลอง อย่าเอาตัวเลขมายกมั่วๆกันแบบนี้เลยครับ คนที่นี่ ไม่โง่ครับ จากคุณ : JIMMY - [ 25 ต.ค. 47 01:13:42 ]

ความคิดเห็นที่ 14 และตัวเลข 400 คนที่ติดตั้งไปนั้น เอามาจากไหน ขอข้อมูลยืนยันด้วยครับ พร้อมเบอร์ติดต่อกลับด้วย เพราะผมจะโทรไปสอบถามพวกเขาเหล่านั้นเอง ถ้าคิดว่า พร้อมจะถูกตรวจสอบจากสังคม และพิสูจน์ เพื่อการยอมรับอย่างแท้จริง ส่งมาเลยครับ โพสต์มาเลยครับ จากคุณ : JIMMY - [ 25 ต.ค. 47 01:17:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไอ้เรื่องตรวจสอบน่ะ พร้อมอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าไม่เชื่ออะไรง่ายๆเหมือนกัน ข้อมูลยืนยัน 400 คนน่ะมีอยู่แล้วแต่คงไม่สามารถโพสต์ให้คุณลงบนกระทู้ตอนนี้ได้ เนื่องจากต้องสอบถามเจ้าของรถก่อนว่าจะให้ลงเบอร์โทรฯหรือเปล่า และอีกอย่างถ้าลงให้คุณก็หาว่าเป็นหน้าม้าอีก คือแบบว่ายังไม่ได้พิสูจน์ให้รู้จริงก็พูดไปเรื่อยแล้ว ปิดหูปิดตา เชื่อแต่ตัวเองก็คงไม่รู้จริงๆซักทีนะ เลิกซะทีเหอะค่ะ โลกนี้มันกว้างนะคะ อย่าอยู่แต่กับตัวเองเลย แล้วไอ้มาตรฐานจากสถาบันเนี่ย สมัยนี้เค้าใช้เงินซื้อกันนะคะ แต่มาตรฐานของความพอใจและความศรัทธาของคนเนี่ยซื้อกันไม่ได้นะคะ จากคุณ : oxy_admin - [ 25 ต.ค. 47 07:27:50 A:203.147.13.25 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มีที่ใหนล่ะคะ ที่ตอบรับความพอใจของลูกค้าด้วยการให้ทดลองใช้ 30 วันถ้าไม่พอใจยินดีคืนเงิน เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ การตอบโต้กันแบบนี้คงไม่สนุกนัก และอธิบายได้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณหรือใครๆต้องการคำตอบที่ชัดเจนก็โทรฯติดต่อมาจะดีกว่านะคะ ที่ 01-4878016 หรือ e-mail : oxyplus_th@yahoo.com อย่ามาท้าทายกันแบบนี้เลยค่ะ อ้อ แล้วก็ไอ้รายการต่างๆที่ไปออกน่ะ เค้าเชิญมาค่ะ แล้วก็ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นอะไร เพราะถ้าทำตัวโดดเด่น ก็คงเห็นเราออกมาทางสื่อก่อนหน้า e-plus แล้วค่ะ แต่เพราะเราไม่มีทุน และไม่ได้ขอความช่วยเหลือใครจึงทำกันมาแบบเงียบๆนี่ล่ะ จากคุณ : oxy_admin - [ 25 ต.ค. 47 07:35:56 A:203.147.13.25 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ของทุกอย่าง อย่าขายแค่หลักการครับ มันเป็น วิทยาศาตร์ เมื่อมีสมมติฐานแล้ว ก็ต้องทำการทดลอง ถ้าได้ผลจริง ต้องสามารถให้ผลลัพธ์แบบเดิมได้ทุกครั้งแล้วถึงนำมาใช้กับการใช้งานในสภาวะจริงๆ และดูถึงผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น(ไม่เหมือนพวกในวงเล็บตัวเล็กๆ ทดสอบโดยทีมวิจัยของวิศวะกร JIS ที่อุณหภูมิ 15 องศา ความเร็วคงที่ 60 กมต่อชม ) รายการทีวีตอนเช้าๆเดี่ยวนี้ถูกพวกการค้าแบบนี้มาครอบงำแทบจะทุกรายการแล้ว เชิญดารา มาขายของขายเครื่องอะไรกันอยู่ได้ทุกวัน สคบ น่าจะมีตรวจสอบบ้าง วันๆไม่เห็นทำอะไร จากคุณ : Banx - [ 25 ต.ค. 47 09:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไปพิสูจน์ก่อน แล้วค่อยไปด่าเขา ไม่เชื่อก็เก็บไว้ในใจก่อน อย่าพึ่งรีบพูกรีบดูถูก ผลออกมาไม่ได้เรื่องจริง ค่อยไปด่ากัน อย่าพึ่งรีบอคติกับประสบกาณณืที่เจอมา มารีบตัดสินผลงานเขาครับ ถ้าเกิดเขาทำได้จริงขึ้นมา จะกลายเป็นถูกด่าฟรี ว่าเป็นจอมลวงโลกไปอีก ยังไม่ได้เห็นของเขา หรือทดลองของเขา ไม่ต้องรีบด่าก็ได้ เวลาให้ด่ายังมีเยอะครับ --------------------------- ผมไม่ได้จะมาสนับสนุนปกป้อง เจ้า OxyPlus นี่หรอกนะ แต่การที่ไปโจมตีของเขาโดยยังไม่เห็นอะไรเลย มันไม่ยุติธรรมครับ คือ ผมชอบคนที่คิดประดิษฐ์ ค้นคว้า ครับ ได้เรื่องบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง เพ้อเจ้อบ้าง เป็นธรรมดา แต่ถ้าคิดอะไรออกมาแล้วออกมานำเสนอ เจอแต่การคัดค้าน ใครจะมีอารมณ์อยากคิดประดิษฐ์อะไรครับ ให้โอกาสเขาก่อน คนที่คิดอะไรใหม่ๆได้ส่วนมากคือคนที่มองเรื่องเดียวกันไม่เหมือนคนอื่น เบื้องตัน ต้นแบบอาจยังไม่เวิร์คเท่าไร แต่ถ้าหลัการดี มีทุนวิจัย ผลงานอาจจะค่อยๆดีขึ้นก็ได้ อย่างน้อยผมชอบคนที่ชอบคิดชอบประดิษฐ์ครับ ความคิดแรกอาจดูซื่อบื้อ แต่บางคนไปเห็นก็เก็บเอาความซื่อบื้อนั้นไปคิดต่อ กลายเป็นความสำเร็จมาก็มาก จากแรกเริ่มที่ใครก็ส่ายหน้า ตาสีตาสา บางทีทำผลงานแปลกๆออกมา ชนิดนักวิทยาศาสตร์หรือวิศวกร ยังต้องยอมรับว่า เออ..มันคิดได้ยังไงวะ อย่าพึ่งรีปคิดในแง่ลบครับ เขาอาจเป็น จอมลวงโลก หรือเป็น เพชรในโคลน ก็เป็นได้ทั้ง 2 ทางครับ จากคุณ : A-Z - [ 25 ต.ค. 47 11:29:13 A:202.176.107.249 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเองบอกตรงๆ ว่าไม่เชื่อ คือผมเห็นด้วยกับความเห็นที่ 7 ว่าแอร์โฟลว์มันวัด "มวล" ของอากาศที่ผ่าน ไม่ว่าอากาศมันจะเป็นอากาศธรรมดา เป็นไนโตรเจน 100% เป็นออกซิเจน 100% หรือเป็นกลิ่นตด 100% มันก็วัดได้เท่ากันหมด อีกอย่าง ปัจจัยสำคัญที่กำหนดปริมาณน้ำมันที่จะฉีดออกมา คือองศาการเปิดปิดลิ้นปีกผีเสื้อครับ เปิดแค่ไหน อากาศก็ไหลผ่านเข้าไปได้แค่นั้น แอร์โฟลว์มิเตอร์ก็วัดตามปริมาณอากาศที่ไหลผ่าน จะเห็นว่าไอระเหยไม่ได้ไปกระทบปัจจัยอะไรที่ทำให้ระบบจ่ายเชื้อเพลิง สั่งฉีดน้ำมันน้อยลงเลย ดังนั้นไม่น่าจะช่วยให้ประหยัดได้ ----------------------------------------------------------------- ขอร้องบางท่านข้างบนนิดนึง อย่าเพิ่งไปเถียงกับเขาเรื่องเชื่อได้หรือไม่ได้ หลอกลวงหรือไม่ เลยครับ ขอด้านเทคนิคก่อนดีมั้ย จากคุณ : อากง - [ 25 ต.ค. 47 14:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หรือจะเป็นส่วนผสมพวกไนตรัส ???? จากคุณ : ตี๋บางนา - [ 25 ต.ค. 47 17:07:10 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอถามคุณ oxy_adin หน่อยครับ ไอ้ขวดน้ำยาที่คุณว่านี่มันเป็นสารเคมีพวก Potassium chlorate หรือ Sodium chlorate ใช่หรือเปล่าครับ จากคุณ : A-Z - [ 25 ต.ค. 47 18:44:35 A:202.176.107.249 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณอากง ครับ ผมขอออกความเห็นหน่อยนะครับ คือ แอร์โฟลว์มันวัดมวลจริงครับ แต่สิ่งที่มันนำไปใช้ในเบื้องหลังนั้นคือ มันพยายามแปลงว่ามีออกซิเจนเท่าไรในอากาศนั้น ถ้า (ถ้านะครับ) ไอ้เครื่องตัวนี้มันสามารถผลิตออกซิเจนในปริมาณที่มากพอที่เครื่องจะนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง มันก็น่าจะมีผลในทางประหยัดขึ้นได้บ้างนะครับ การที่เราเปิดลิ้นปีกผีเสื้อเพิ่ม จริงๆแล้วเราไม่ได้ต้องการปริมาณอากาศ แต่เราต้องการปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้นเพื่อช่วยในการเผาไหม้กับน้ำมัน ออกซิเจนมากขึ้น กำลังมากขึ้น เราจึงสามารถเปิดลิ้นน้อยลงได้ > เปิดลิ้นน้อยลง เซนเซอร์สั่งให้ฉีดน้ำมันน้อยลงได้ เหมือนเราขับรถบนเขาสูงครับ แต่ทางเรียบนะครับ อากาศบาง ออกซิเจนน้อย ขับรถที่รอบเท่ากันแต่ต้องเปิดลิ้นมากกว่า ก็กินน่ำมันกว่าครับ และถ้าคิดในการขับรถทั่วไปที่เร่งๆ หยุดๆอยู่เรื่อยๆ ผมมองว่าออกซิเจนส่วนเพิ่มช่วยได้จริง เพราะขณะที่เครื่องมีการเร่ง อัตราส่วนผสมหนากว่า 14.7 อยู่แล้ว การมี O2เพิ่มจะช่วยได้ชัดเจนขึ้น ผมไม่ค่อยสงสัยว่าการมีออกซิเจนเพิ่มจะทำให้เกิดผลทางบวกกับเครื่องยนต์โดยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะถ้ารถที่ตอนนี้ส่วนผสมค่อนข้างหนา การมีออกซิเจนเพิ่มช่วยได้จริงครับ ------------------------ ที่ผมยังสงสัยคือ เครื่อง Oxyplus นี่มันจะผลิตออกซิเจนที่มีปริมาณที่มีประโยชน์พอต่อเครื่องยนต์ได้จริงหรือเปล่า และถ้าผลิตได้มากพอจริง การควบคุมปริมาณที่จะจ่ายให้เครื่องยนต์ตามความต้องการในแต่ละรอบอย่างไรมากกว่า เพราะถ้ามากเหลือล้นเกินไปใช้เผาไหม่ไม่หมด เหลือทิ้งออกมา ออกซิเจนเซนเซอร์ก็บอกว่า O2 เหลือ กลายเป็นน้ำมันบางไปอีกแล้วมันก็กลับไปสั่งให้จ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก และอีอย่างที่สงสัยคือ ต้นทุนของการได้มาซึ่ง O2 นั้น มันคุ้มกับการลดลงของค่าน้ำมันมากน้อยเพียงใด ----------------------- คือโดยหลัการเพิ่ม O2 แล้วดีขึ้นนี่ผมไม่ค่อยคัดค้าน แต่ O2 generator แบบไหนละที่เวิร์คและไม่แพง อย่าง OxyPlus นี่ก็คงใช้เคมีในการเปลี่ยนเป็น O2 ซึ่งเราก็คงต้องมีการซื้อไอ้น้ำยามาเติมอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็เพิ่มต้นทุนให้เราอีกและต้องคอยตรวจสอบว่าหมดหรือเปล่า และอย่าง E-Plus นั้น วิธีได้มาซึ่ง O2 มันค่อนข้างเลื่อนลอยเท่านั้นเอง แต่ถ้าวิธีไหนเพิ่มได้จริงผมก็อยากลองครับ จากคุณ : A-Z - [ 25 ต.ค. 47 20:23:39 A:202.176.107.249 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สำหรับคำถามที่รอคำตอบ ไว้วันนี้ตอนค่ำๆจะมาตอบให้นะคะ พอดีมีเวลาน้อยไปนิด จากคุณ : oxy_admin - [ 26 ต.ค. 47 07:10:54 A:203.172.59.94 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จะเพิ่ม O2 ได้กี่เปอร์เซ็น เครื่องเบลซิล ถ้า O2 เหลือเยอะ อ็อกซิเจนเซนเซ่อร์ ตรวจจับเจอ ก็ จะสั่งฉีดน้ำมันเพิ่ม เครื่องเบลซิล ปกติ เป็น ลีนเบิน เอ็นจิ้นอยู่แล้ว หมายความว่า อ็อกซิเจน เหลือจากการเผาไหม่ปกติอยู่แล้ว ถึงแม้นดีจริง ค่าน้ำยาอาจจะแพง จน ไม่คุ้ม รึป่าวครับ จากคุณ : ท่านอ๋อง - [ 26 ต.ค. 47 10:39:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้ บางยี่ห้อ ถึง ขนาดเอาผู้อำนวยการ โรงพยาบาล มารับรอง ลงในใบปลิวโฆษณา จากคุณ : ท่านอ๋อง - [ 26 ต.ค. 47 10:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาสนับสนุนความคิดเห็นที่ 18 ครับ ดีใจที่เห็นการคิดประดิษฐิ์สิ่งใหม่ๆออกมา จะได้ผลจริงหรือไม่ได้ผลหรือลวงโลก ก็พิสูจน์กันไปครับ จากคุณ : s7014249 - [ 26 ต.ค. 47 18:01:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ผมยินดีให้ใช้ไดโนผม ผมอยากให้เลิกโฆษนาด้วยวิธีอ้างคนน่าเชื่อถือต่างๆ เอามาวัดที่ไดโนเถอะครับ ถ้าดีจริงผมจะประกาศให้ทราบไปเลย อยากให้มีตัวเลขทางวิทยาศาสตร์ออกมาก่อนที่จะทำการขายนะครับ ใช้ไม่ได้ผลจะได้ไม่ต้องไปหลอกใคร ที่สำคัญไม่ต้องหลอกตัวเองด้วย สนใจลองก็ติดต่อมาเลยครับ จากคุณ : Flatnose - [ 26 ต.ค. 47 22:02:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณคุณ Flatnose มากๆค่ะ ที่ให้ใช้ไดโนได้ เพราะเคยติดต่อไปหลายๆสถาบันเหมือนกันค่ะ แต่แพงจังเลย แล้วจะให้ติดต่อไงล่ะคะ จากคุณ : oxy_admin - [ 26 ต.ค. 47 23:14:11 A:203.147.13.39 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โถ ยังไม่ทดอสบบนไดโน หรือสนามปิดเลย ผมยินดีที่จะเจออะไรใหม่ๆ แต่การทดสอบ ต้องลดตัวแปร ไม่ใช่แบบที่ทำตามที่บอก คือ คนใช้ทั่วไปครับ ผมว่าถ้าดีจริง เสนอขายบริษัทรถเลยครับ รวยเละ ถ้าดีจริง ดีไม่ดี เขาขอซื้อลิขสิทธิ์ด้วย อะไรที่ดีจริง บ.รถสนแน่ ดีไม่ดี คุณไม่ต้องเสนอหรอกครับ เขาขอซื้อถึงบ้าน แต่นี่ ต้องมาขายปลีก บ. รถไม่สนจะซื้อ ขายโตโยต้า หรืออีซุ ยี่ห้อเดียวก็ทำไม่ทันแล้ว ทำไมต้องมีหลอกขายปลีก เอ้ย ไม่ใช่ ทำไมต้องมาขายปลีก จากคุณ : CEDRIC - [ 27 ต.ค. 47 23:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แบบว่าน่าเบื่อมากๆเลยค่ะ ต้องตอบคำถามคนที่มีความคิดติดลบ ดูถูกคนไทยด้วยกัน เห็นก็ยังไม่เคยเห็น ก็ว่าแล้ว จะบอกว่าคนที่คิดน่ะ ความรู้แค่ ป.4 เองนะ แต่คิดได้ขนาดนี้น่ะ คิดต่อเองแล้วกัน ส่วนไอ้ที่ทำได้จริงหรือไม่น่ะก็รอดูไปแล้วกัน โลกเค้าก้าวหน้าไปถึงใหนแล้วค่อยรู้ก็แล้วกันนะ คนคิดเค้ายังไม่ท้อหรอกค่ะ ฝากขอบคุณกำลังใจที่ช่วยด้วยล่ะค่ะ อีกไม่นานเกินรอ เราจะไปพิสูจน์ให้พวกคุณรู้ว่าทำได้จริง จากคุณ : oxy_admin - [ วันออกพรรษา 01:22:28 A:203.147.13.25 X: TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 31 จ้องจับผิดก็ทำไปซิ เขามีเบอร์ให้ติดต่อ ให้ไปพิสูจน์ก็ไปจับผิดซะซิคุณ ขยันจริงๆ เรื่องดูถูกคนอื่น เขาทำไม่ได้จริงค่อยด่าก็ได้ มีข่าวให้เขียนอีกไง ว่ามีจอมลวงโลกยี่ห้อใหม่โผล่มาอีกแล้ว คุณไปรู้ได้ไงว่าเขาเป็นนักหลอกลวง คนที่คิดเขาก็คงต้องพยายามคิดบ้างแล้วหละ แต่จะดีตามหลักวิทยาศาสตร์ไหมก็ไปลองก่อน การไปด่าเขาโดยไม่เห็นของ ไม่เคยทดลอง มันก็ผิดหลักวิทยาศาสตร์เหมือนกันครับ นั่งเทียนด่า หน้าที่สื่อคือ ไปทดลองแล้วเอามาตีแผ่ ดี-เลว ก็เอามานำเสนอ ในใจผมก็ตั้งคำถามไว้เหมือนกันว่า จะทำได้จริงเหรอ แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไรก็เก็บไว้ในใจก่อน โดยส่วนตัวผมก็ไม่คิดเช่นกันว่าเครื่องนี้มันจะได้ผลมากมาย แต่ผมคิดว่าคนทำไอ้เครื่องตัวนี้ ไม่น่าจะมีเจตนาหลอกลวง เพียงแต่ผลงานที่ได้อาจไม่เลิศเลอดังที่คาดหวังไว้ ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ขอบอกตรงๆครับ อ่านแล้วเสียศรัทธา เสียอารมณ์ อย่างแรงกับสื่อที่ผมยังคิดว่าเป็นน้ำดี จากคุณ : A-Z - [ วันออกพรรษา 02:25:27 A:202.176.107.200 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อืมม ยังมองไม่ออกเลยว่ามันจะประหยัดน้ำมันขึ้นได้ยังไง ดูๆแล้วน่าจะทำให้ไอเสียสะอาดขึ้นมากกว่า จากคุณ : S(2) - [ วันออกพรรษา 06:33:57 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ A-Z การผลิตอะไรออกมาขาย ในทางวิศวกรรม คนขาย มีหน้าที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ นั่นหมายถึง การลดตัวแปรในการทดสอบ ในเหลือน้อยที่สุด และทำซ้ำๆ จนแน่นใจว่าได้ผล แล้วถึงจะนำเสนอออกขาย คุณเข้าใจหน้าที่สื่อฯ ผิดไปแล้ว ถ้างั้นมีใครทำอะไรออกมา ไม่ต้องพิสูจน์เอง กล่าวอ้างลอยๆ แล้วสื่อก็ต้องวิ่งไปทดสอบ ใช่ครับ สื่อ มีควรจะไปตรวจสอบ แต่เจ้าของสินค้าต้องตรวจสอบตัวเองในระดับที่ดีมาก่อนแล้ว คุณเข้าใจหน้าที่สื่อผิดหรือเปล่า แล้ว สคบ. ล่ะ คนคิดมีหน้าที่พิสูจน์ โดยสรุป ก่อนนำออกขาย ไม่ใช่ขายก่อน แล้วค่อย หาคนพิสูจน์ หรือบอกว่าไดโนแพง โถ่ไม่กี่พันบาท ไม่ต้องทดสอบที่ปตท. เป็นแสนบาทก็ได้ รวมถึง เอารถทำถังแยก เช่าสนามทดสอบ หรือวิ่งทางตรงยาว ความเร็วนิ่งๆ นี่คุณ A-Z กลับบอกว่า เฮ้ย สงสัยก็ไปทดสอบสิ ไม่ใช่หน้าที่ของสื่อ แต่เป็น หน้าที่ของ เจ้าของสินค้า สคบ. และท้ายสุดคือ สื่อ ไม่ใช่ทำอะไรมามั่วๆ ขนาดตนเองยังไม่ได้ทดสอบ แล้วจะให้สื่อ โร่เข้าไปตรวจสอบ ถ้านำเสนอออกมาขายจริง แต่เจ้าของสินค้า ยังไม่ได้ทดสอบทางวิทย์ฯ (เน้น ทางวิทย์) ผมก็ต้องบอกว่า มีสิทธิ์มั่ว อ้าวของมันไม่ได้ทดสอบในวิธีที่ควรจะเป็น มันไม่ใช่เรื่องครับ ที่จะทำข้ามขั้นตอน ไม่งั้นคนทำออกมา ร้อย อย่าง ไม่ได้ทดสอบเอง แต่เอาออกมาขาย สื่อก็ต้องโร่ไปทดสอบสิ ตายพอดี ส่วนคุณจะศรัทธาใครไม่ศรัทธาใคร เรื่องส่วนตัวของคุณ เชิญ ผมว่าคุณเรี่มเกลียดผม ซึ่ง มันก็เรื่องของคุณ แต่เมื่อกลายเป็นอคคติ ตาคุณจะมืดมัว ด่าไปเปะปะ ไม่มีเหตุผล ด่าเอามันส์ เรื่องนี้ คุณฉุกคิดก่อนอีกครั้ง ว่า สมควรจะด่าผมไหม ทำไมเจ้าของสินค้า ไม่ได้ทดสอบเอง ทั้งยังอ้างว่าค่าไดโนแพง หรือไม่ได้ทดสอบด้วยความเร็วคงที่ ใช้ถังแยก แต่เอาออกขาย การที่สื่อไม่โร่ เข้าไปตรวจสอบ ผิดด้วยเหรอ เจ้าของยังไม่ตั้งใจที่จะทำเลย ถ้าใจอคติ การด่าจะง่ายมาก แต่สมควรจะด่าหรือไม่ ไม่ทราบ จากคุณ : CEDRIC - [ วันออกพรรษา 10:13:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ A-Z แล้วเรือ่งที่ผมบอกว่า ถ้าดีจริง ขายบ. รถสิ นั่นคือ เรื่องจริง และคือ บทสรปุแล้วครับ ไม่ต้องเสียเวลาทดสอบ คุณขายเปิดเผย แต่ไม่มีบ. รถสนใจ อย่าคิดว่าเขาจะมองข้ามถ้าดีจริง บ. รถพยายามลดการกินน้ำมันทุก 0.1 กม. ต่อลิตร ใช้เงินเป็นร้อยล้าน ถ้ามีใครคิดอะไรที่ประหยัดได้เป็นเปอร์เซ็นต์ๆ เขาซื้อแน่ครับ ดีไม่ดี นอนอยู่บ้านเขายังมาขอซื้อเองเลยครับ ดีไม่ดี ขอซื้อลิขสิทธิ์ด้วย ไม่ใช่แค่บ. ในไทย เขาต้องการมากที่จะเจอเทคโนอะไรที่ช่วยประหยัด แต่คุณเคยเห็นอุปกรณ์พวกนี้ ขายเข้าบ. รถได้ไหม บางอย่างไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์หรอกครับ สื่อก็มีงานอื่นต้องทำ ไม่ใช่ใครคิดอะไรออกมา ไม่ได้ทดสอบที่ดี แต่อ้างว่าดี สื่อก็ต้องโร่ไปทดสอบ ถ้าเอาอคติออกจากใจ ก็จะรู้ว่าควรด่าใคร ไม่ใช่เกลียดแล้ว คราวนี้ จ้องจะด่าทันทีที่มีช่องโหว่ คุณจะเลิกศรัทธาใครก็เชิญ ผมมีคนรักผมมากมายเกินพอในชีวิตผม คนดีคนเลวอีกสักคนที่จะเลิกศรัทธาผม ผมไม่แคร์ แต่ถ้าจะด่า ก็ด่าในสิ่งที่ควรจะด่าหน่อย ไม่ใช่ด่าเพราะแค่ กุจะด่ามิง จากคุณ : CEDRIC - [ วันออกพรรษา 10:20:38 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ออกพรรษาแล้ว เชิญด่ากันได้ ผมว่า เจ้าของกระทู้ทุนน้อย ก็ควรหาผู้ที่สนใจในสินค้าของคุณ ให้ออกทุนทำการทดสอบ จะวิธีไหนก็แล้วแต่ เรื่องการประหยัดพลังงาน มีคนสนใจไม่น้อยหรอกครับ น่าจะหาได้ง่ายนะ ผมว่า จากคุณ : สาธุคุณ - [ วันออกพรรษา 12:18:17 A:203.113.37.10 X:203.150.217.120 TicketID:002755 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มายกมือเห็นด้วยกับคุณ A - Z ครับ เรามีสิทธิ์ไม่เชื่อได้ แต่ก่อนที่จะด่าว่า "หลอกลวง" ควรพิสูจน์ก่อน ขอเน้นว่า "ข้าไม่เชื่อ" กับ "เอ็งหลอกลวง" นี่มันต่างกันเยอะนะครับ จากคุณ : อากง - [ วันออกพรรษา 14:08:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ติดตามมาพอสมควร ตั้งแต่ E plus และอื่นๆ ครั้งนี้ทนไม่ได้จริงๆ ขอแสดงความคิดเห็นบ้าง หลักการและทฤษฎี ของเครื่องนี้มีความน่าจะเป็นไปได้ ในส่วนได้มากหรือได้น้อยนั้นอีกเรื่องนึง ผมเป็นคนหนึ่ง ในประเทศไทยที่อยากเห็นประเทศไทยทัดเทียมชาติอื่น คุณเชื่อไหมว่านักวิทยาศาสตร์ที่เค้าค้นพบหรือประดิษฐ์กรรมใหม่ๆ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคทั้งภายในและภายนอกกว่าจะประสบความสำเร็จเป็น หลอดไฟ TV เครื่องบิน ตู้เย็น และอื่นๆอีกมากมาย..ที่พวกเราได้ใช้อยู่ทุกวันนี้ ขอเพียงให้มีกลุ่มคนซักกลุ่มที่กล้าจุดประกายความคิดของตัวเอง ศึกษา พัฒนา นำเสนอ ต่อสาธารณชน และนำผลมาพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น พวกเราควรจะรุมด่าๆๆๆๆให้คนกลุ่มนี้จมดินหายไป หรือจะรอดูเค้าสักนิดตามวิถี.. หลอกลวงหรือไม่ มันอยู่ที่เจตนา ผมว่าผู้ซื้อสินค้าเหล่านี้ไม่มีไครโง่หรอกครับ คงจะคิดก่อนซื้อ ในประเทศนี้มีพรบ.คุ้มครองผู้บริโภค และหน่วยงานอื่น เหมือนกับประเทศที่เจริญแล้ว ไม่มีไครหลอกไครง่ายๆ หรอกครับ ผมว่าคุณJIMMY และ คุณ CEDRIC อคติหรือเปล่า ในแง่ของสื่อมวลชนควรมีความคิดที่เปิดกว้าง ไม่นำเสนอในแนวทางที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวมากเกินไป ผมเคยชื่นชมในSTYLE แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกหนักไปทางความคิดส่วนตัว ด้วยความชื่นชมและเป็นห่วงอย่างจริงใจ ขอเอาใจช่วยคุณOXYและคุณA_Z ขอให้มีคนอย่างพวกคุณเยอะๆ จากคุณ : คนใช้รถ (คนใช้รถ) - [ วันออกพรรษา 14:17:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นที่ 3 บอกหลักการคร่าวๆ หน่อยสิครับ จากคุณ : CEDRIC ความคิดเห็นที่ 29 โถ ยังไม่ทดอสบบนไดโน หรือสนามปิดเลย ผมยินดีที่จะเจออะไรใหม่ๆ แต่การทดสอบ ต้องลดตัวแปร ไม่ใช่แบบที่ทำตามที่บอก คือ คนใช้ทั่วไปครับ ผมว่าถ้าดีจริง เสนอขายบริษัทรถเลยครับ รวยเละ ถ้าดีจริง ดีไม่ดี เขาขอซื้อลิขสิทธิ์ด้วย อะไรที่ดีจริง บ.รถสนแน่ ดีไม่ดี คุณไม่ต้องเสนอหรอกครับ เขาขอซื้อถึงบ้าน แต่นี่ ต้องมาขายปลีก บ. รถไม่สนจะซื้อ ขายโตโยต้า หรืออีซุ ยี่ห้อเดียวก็ทำไม่ทันแล้ว ทำไมต้องมีหลอกขายปลีก เอ้ย ไม่ใช่ ทำไมต้องมาขายปลีก จากคุณ : CEDRIC ++++++++++ ผมแสดงความคิดเห็นไปแล้ว อ่านดูแล้ว ก็ไม่ได้ติดลบอะไรนี่ครับ ผมยกมา ใครจะด่า เพราะเกลียด เพระอคติ มีช่องโหว่ เมือ่ไร หาเรื่องหลอกด่าผม เชิญครับ ++++ ทำไมไม่มองความจริงแบบนี้ว่า ถ้ามีใครคิดอะไรขึ้นมา คนที่คิดต้องทดลองทางวิทย์ฯ เน้นทางวิทย์ จนที่เป็นที่น่าพอใจ แล้วจึงนำเสนอออกมา ไม่ใช่ทดลองแบบมีสารพัดตัวแปรแล้วเอามาอ้าง ยกมา ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็น วิทยาศาตร์ เมื่อมีสมมติฐานแล้ว ก็ต้องทำการทดลอง ถ้าได้ผลจริง ต้องสามารถให้ผลลัพธ์แบบเดิมได้ทุกครั้งแล้วถึงนำมาใช้กับการใช้งานในสภาวะจริงๆ และดูถึงผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น ++++++ ถ้าใครในเสนออะไรออกมา ถ้าไม่มีการทดสอบทางวิทย์ บอกอะไรที่เลื่อนลอย แทนที่จะด่าคนคิด กลับมาบอกว่า เฮ้ย ทำไม สื่อไม่ทดสอบ ทำไมสคบ.ไม่สน แล้วทำไมไม่ด่าคนคิด ล่ะครับ ถ้ามีอะไรเสนอออกมา แต่ไม่มีผลทางวิทย์ ทั้งในฐานะคนไทย หรือสื่อ ก็ต้องขวางไว้ก่อนแหละครับ จะบอกโอ้โห โคตรดีเลย ได้ไง ยังไงต้องสงสัยว่าจะหลอกก่อนนี่ครับ ในเมื่อไม่มีอะไรอ้างอิงเลย จะมาบอก ไม่สนับสนุนคนไทยได้ไง อ้าว ทำไมไม่ทดสอบให้เจ๋งก่อนค่อยนำเสนอ งั้นอีกหน่อยผมคิดอะไรออกมา ผมรีบนำเสนอ ลองดู ถ้าดีก็ดัง ไม่ดีก็คิดใหม่ ไม่เหนื่อยมาก ไม่ต้องทดสอบอะไรมาก รีบเอาออกมาขาย ใครด่าผมว่าโกหก ผมรีบสวนเลยว่า ยังไม่พิสุจน์เลย ทำไมรีบด่า อ้าว แล้วคนคิดทำไมไม่ทดสอบให้เจ๋งก่อน ในเมื่อออกมาลอยๆ ก็ต้องสงสัยไว้ก่อนสิครับว่าโกหก ไม่มีอะไรยืนยันได้ (พวกการทดสอบแบบมีตัวแปรผมไม่เชือ่ถือ) จะด่าผม ก็มองโลกกว้างๆ ยกอคติออกจากใจก่อนละกัน อีกเรื่อง ผมเองได้คลุกคลีกับอาร์แอนด์ กับบ. รถเยอะ เขาใช้เงินนับสิบนับร้อยล้าน ในการลดความสิ้นเปลืองทุก 0.1 เปอร์เซนต์ ทีมใหญ่ ทำงานกันหนัก ผมไม่ไดบอกว่าคนไทยตัวเล็ก จะคิดไม่ได้ แต่กำลังจะบอกว่า บ. รถอยากได้อะไรที่เป็นปาฎิหารย์ในการลดความสิ้นเปลืองครับ ถ้าทำได้จริง บ. รถก็ไม่เคยดูถูกใครนอกบ. ว่าจะทำไม่ได้ เขารับซื้อแน่ และดีไม่ดี มาเคาะประตูบ้านซื้อแน่อย่ามาอ้างว่า ไม่เคยเสนอเข้าบ.รถเลยขายไม่ได้ บ.รถเขาหูไวตาไว มีคนสอดส่องซือ้เทคโนดีๆ เสมอครับ แต่ผมไม่เคยเห็น บ. รถซื้อเทคโนใหม่ๆ ในลักษณะที่กล่าอ้างนี้เลย ถ้าทำได้ดีจริง ทำไมบ. รถไม่รับซื้อ ทำไมขายบ.รถไม่ได้ ขายแค่อีซุ โตโย ฮอนด้า ปีละสามแสนคัน เฉพาะขายในไทย รวยเละครับ ถ้าดีจริง ไม่ต้องขายปลีกหรอกครับ ทำไม่ทันแน่ ถ้าบ.รถซื้อ ลองเสนอขายเขาดูสิครับ ขายปีละสามแสนชุด สบายกว่าเยอะ จากคุณ : CEDRIC - [ วันออกพรรษา 22:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ท่านทั้งหลาย ติดตามกันต่อไปแล้วกันนะคะ การทดสอบโดยที่ไม่มีตัวผันแปรน่ะ เร็วๆนี้ล่ะ แต่ช่วงนี้ก็คอยติดตามการทดสอบโดยมีตัวผันแปรเยอะแยะ ตามปัญญาชาวบ้านนี่ล่ะค่ะ เห็นได้ชัดเจนดี ชาวบ้านธรรมดาก็รู้ได้ ไม่ต้องคอยมาอ่านมาแปรค่าตัวเลขให้ปวดหัว แต่เราจะทำให้เห็นแน่นอนค่ะ รับรอง จากคุณ : oxy_admin - [ วันออกพรรษา 22:48:21 A:127.0.0.1 X:203.130.158.9 TicketID:076842 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ผมแนะนำก่อนเลยครับ ถังน้ำมันที่ใช้ ในการทดสอบแบบนี้ ต้องทำถังแยกครับ ขับด้วยความเร็วคงที่ เส้นทางที่ทำได้ น่าจะแถวๆสุพรรณ ระยะทางไม่ต่ำกว่าร้อยกม. นิ่ง ต้องนิ่งจริงๆ นะครับ สมมุตต้องการทดสอบที่ความเร็วคงที่ หกสิบ กม. ต่อชม. ถ้าระยะทางร้อยยยี่สิบกิโล ต้องใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง ห้านาที ทดสอบ โดยใช้น้ำยานี้กับไม่ใช้ เวลาต่อเนื่องกัน ที่แน่ๆ คือ ต้องใช้ถังเล็กๆ แยก ไม่ใช่เติมแค่เต็มถังติดรถเท่านั้นครับ ขึ้นไดโน ก็ไม่กี่พันครับ เพาเวอร์แล็บ คณเกรก ไม่แพงครับ ถ้าประหยัดขึ้น ก็ต้องแรงขึ้นด้วยครับ ความจริงแล้ว ต้องทดลองจพอใจก่อนเปิดตัวครับ ====== ยกมา ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็น วิทยาศาตร์ เมื่อมีสมมติฐานแล้ว ก็ต้องทำการทดลอง ถ้าได้ผลจริง ต้องสามารถให้ผลลัพธ์แบบเดิมได้ทุกครั้งแล้วถึงนำมาใช้กับการใช้งานในสภาวะจริงๆ และดูถึงผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น จากคุณ : CEDRIC - [ วันออกพรรษา 23:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมมีศรัทธาลดลงจริง แต่ไม่ได้เกลียดชัง และก็ยังยืนยันว่าไม่เคยจะด่าใครแบบสนุกปากครับ รวมถึงคุณด้วย ถ้าจะว่าอะไรต้องมีประเด็นครับ ถึงผมจะชอบหรือไม่ชอบคุณหรือใครอยู่บ้าง ก็ไม่เคยด่าเอามันส์ด่าใครเอาเสียหายครับ และไม่เคยคิดอคติกับใครชนิดที่เจอเป็นจ้องเล่นงานหาเรื่อง ยืนยันว่าไม่มี เพียงแต่คุณอาจจะพึ่งเจอกับผมไปไม่นานเลยคิดว่าผมมาคอยจ้องคุณ . . . ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งครับว่า ไม่เคยคิดเช่นนั้น จริงๆแล้วผมอ่านเห็นชื่อคุณในหลายกระทู้ซึ่งผมเห็นในทางที่ไม่เหมือนกับคุณ บางทีอยากจะพูด แต่ก็คิดว่าอย่าดีกว่า เดี๋ยวจะคิดว่าผมมาชวนทะเลาะอีก ผมก็ขออ่านเฉยๆ ไม่อยากกลายเป็นขาประจำไป ถ้าเพียงแต่คุณไม่ใช้คำว่า " ทำไมต้องมีหลอกขายปลีก " ผมจะขอเป็นผู้อ่านจริงๆ เพราะผมก็ระวังอยู่พอสมควรว่า ถ้าผมพูดออกไปกับคุณ ก็จะกลายเป็นตามมาทะเละอีก ซึ่งไม่อยากจะเป็นเช่นนั้น คุณมีความรู้กว้างขวาง คุณบอกได้หนิ ว่าจะทำให้ถูกควรทำยังไง ถ้าหวังดีก็แนะนำกันได้หนิครับ คนที่ทำขึ้นมา ณ วันนี้ เขาก็อาจจะรู้แค่นี้ ทำได้แค่นี้ มีทุนแค่นี้ คนคลุกคลีกับรถมานานๆมีอาชีพเรื่องรถด้วย บางคนเขายังไม่รู้เลยว่า ไดโน คืออะไร มีไว้ทำอะไร หรือทำประโยชน์อะไรได้บ้าง แม้แต่บนไดโนเอง ถ้าตั้งใจจะหลอกลวงกัน ไม่มีผู้ไปร่วมพิสูจน์ ทำกันเอง ผลของไดโนมันจะปั้นแต่งยังไงก็ได้อีกแหละครับ และผมก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องตามไปพิสูจน์อะไรทุกอย่าง แต่สิ่งนี้คุณไม่เชื่อก็ไปพิสูจน์ ถ้าไม่อยากพิสูจน์ก็ไม่ต้องว่าเขาหลอกลวง คุณว่าสิ่งที่ผมคิดนี่ยุติธรรมพอไหม หรือยังคิดว่าผมจ้องหาเรื่องคุณอยู่ ผมอยากมีเพื่อนครับไม่ใช่มีศัตรู มีแล้วชีวิตไม่มีความสุขตรงไหน ขอให้เข้าใจว่า ผมไม่เคยคิดจะด่าว่าคุณเพราะเป็นคุณ ผมด่าที่คำพูดของคุณ เป็นใครพูดคำนี้ผมก็ด่าเหมือนกัน นอกเสียจากว่าได้ไปเห็นมาแล้ว รู้ค่อนข้างแน่แล้วว่าไม่ได้เรื่องแน่ๆ ค่อยว่ากัน แต่ที่พูดๆอยู่นี่ยังไม่มีใครเคยเห็นเลย และถ้าหลังจากนี้ ถ้าบังอิญว่าผมกับคุณต้องไปเจอกันที่กระทู้ไหนอีก ก็เข้าใจไว้เลยว่าผมไม่ได้ต้องการเป็นขาประจำของคุณ จริงๆพอเจอกะคุณเข้าไปนี่ทำให้ผมต้องพยายามงดออกเสียงในหลายๆเรื่องในกระทู้อื่นๆที่บังเอิญมีชื่อคุณร่วมวงอยู่ด้วย เพราะขี้เกียจเข้าใจผิดกับคุณ เลี่ยงได้เลี่ยง ไม่ไหวจริงๆถึงพูด ผมไม่ใช่เด็กๆที่ด่าใครชนะแล้วมันส์ ผมยังยืนอยู่บนเหตุผล ตรงไม่ตรงกันก็ว่ากันตามเนื้อหา ถ้าคิดว่าผมคิดอะไรผิดไป ก็บอกมา แต่คำๆนี้มันเกินไปจริงๆครับ และผมไม่รู้สึกผิดอย่างใดกับสิ่งที่ผมกล่าวว่าไป อย่างเรื่องยาง F1 ในใจผมยังอยากรู้คำตอบอยู่เลย ที่คุณบอกจะไปหามาให้ ผมเคยคิดจะเขียนถามหลายหนแล้ว แต่ก็คิดว่าอย่าดีกว่า เดี๋ยวคิดว่าผมหาเรื่องอีก ก็เลยเฉยๆไป ปล. กระทู้อีสุ เป็นอะไรไปอะครับ โหลดแล้วมันน็อคอยูที่ #44 เอง ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า ยังติดตามอยู่ครับ จากคุณ : A-Z - [ วันออกพรรษา 23:24:48 A:202.176.107.86 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมยืนยันทุกอย่างในกระทุ้นี้ ว่าตั้งใจพิมพ์ อย่างมีสติครับ ผมสรุปสั้นๆ อีกทีว่า ไม่ว่าใครจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ถ้าไม่ใช่วัตถุทางไสยศาสตร์ แต่เป็นวิทย์ เช่นเกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าคนคิดจะเป็นดอกเตอร์ หรือจบป. สี่ มีสิทธิ์คิดได้เท่ากัน แต่ ===== ยกมา ความคิดเห็นที่ 17 มันเป็น วิทยาศาตร์ เมื่อมีสมมติฐานแล้ว ก็ต้องทำการทดลอง ถ้าได้ผลจริง ต้องสามารถให้ผลลัพธ์แบบเดิมได้ทุกครั้งแล้วถึงนำมาใช้กับการใช้งานในสภาวะจริงๆ และดูถึงผลดีผลเสียที่เกิดขึ้น ===== นั่นคือ สิ่งที่คนคิด ต้องทำ ก่อนเสนอขาย ไม่ใช่ทดสอบแบบมีตัวแปรเพียบ แล้วมาเสนอขาย ท้าพิสุจน์ ให้ทดลองใช้ อ้างว่าคืนเงินได้ ถ้าเป็นสินค้าทางวิทย์ แต่ไม่ทดสอบทางวิทย์ ก่อนขาย ยังไงก็เชื่อทันทีไม่ได้ แต่ผมว่าไม่ใช่หน้าที่ของสื่อ หรือคนซื้อต้องพิสุจน์ หน้าที่แต่ละสเต็ปของคนพิสุจน์ มันต้องไล่กันมาครับ และที่แน่ๆ คือ คนขาย ต้องทำก่อน ไม่ใช่พอคนขายไม่ทำ ก็มาด่าว่า ทำไมสื่อไม่ทำ อ้าว ทำไมไม่ด่าคนขายล่ะครับว่า ทำไมไม่ทำ และผมเน้นเรื่อง บ. รถ กับการขอซื้อเทคโน หรืออุปกรณ์ช่วยประหยัดมากครับ พอดีผมคลุกคลีกับอาร์แอนด์ดีของบ. รถบ่อยมาก และสารพัดยี่ห้อ เขาต้องการลดความสิ้นเปลืองของรถทุกวินาที และต้องการปาฎิหารย์ ครับ แม้แต่เกิดขึ้นโดยคนนอกบ. เขาก็เอา ไม่ถือว่าเสียหน้า ถ้าจะขอซื้อหากดีจริง พูดง่ายๆ ว่า ไม่ต้องเสนอขาย ถ้าดีจริง บ. รถมาเคาะประตูบ้านขอซื้อแน่ ดังนั้น ถ้าผมเจออุปกรณ์ใด อ้างว่าดี ขายมานานพอควรแล้ว แต่ไม่มีการทดสอบเป็นวิทย์ก่อนขาย (ผมไม่ได้บอกว่าต้องไปถึงแลป ปตท. วังน้อยที่เสียเงินสองแสนนะครับ) และที่สำคัญ คือ คนที่หูไวตาไวกว่าผม คือ บ. รถ ไม่ติดต่อซื้อ ผมก็ต้องแทบจะสรุปได้ว่า โกหกไว้ก่อนครับ จมูกไวอย่างบ. รถสารพัดยี่ห้อ ยังเฉย อ้อ เรื่อง ยางเอฟวัน ผมถามอง และนำเสนอไปนานแล้วนะครับ เรื่องปูยางใช่ไหมครับ อ.บอกว่า ไม่มีความแน่นอน ในชั้นที่ปูว่าจะวืดออกเมื่อไร อาจจะเกาะขึ้น แต่ใครจะบอกได้ว่า หาเกินกี่มม. แล้วจะแพร่ด สมมุติ ปู หนึ่งมิลดี พอมิลห้าแล้วเริ่มแพร่ด พอสามมิลแล้วพรื่ด จากคุณ : ๆ (CEDRIC) - [ วันออกพรรษา 23:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมยังยืนยันเสมอว่า อะไรที่เปิดตัวมานานนับเดือนหรือหลายเดือนแล้ว บ. รถยนต์ไม่นิ่งแน่ครับ ถ้าดีจริง ยกมา ขายโตโยต้า หรืออีซุ ยี่ห้อเดียวก็ทำไม่ทันแล้ว ทำไมต้องมาหลอกขายปลีก เอ้ย ไม่ใช่ ทำไมต้องมาขายปลีก ===== ลองเปลี่ยนเป็น ถ้าดีจริง ขายโตโยต้า หรืออีซุ ยี่ห้อเดียวก็ทำไม่ทันแล้ว ทำไมต้องมาขายปลีก ++++ อาจจะมีความดุดันต่างกัน แต่ความหมายเดียวกัน ผมเน้นครับว่า เวลามีคนคิดอะไรทางวิทย์ได้ ผู้ขาย มีหน้าที่ทดสอบทางวิทย์ ถ้าไม่มี นั่นคือ ผิดที่ผู้ขาย ถ้าใครไม่เชื่อ คนไม่เชื่อมีหน้าที่รองที่จะพิสุจน์ และไม่จำเป็นต้องพิสุจน์ คนขาย มีหน้าที่พิสูจน์เป็นหลัก และต้องทำด้วยวิทางวิทย์ คุณ A-Z ครับ ถ้ามีคนเสนอขายของทางวิทย์ แต่รีบขาย ไม่ทดสอบทางวิทย์ก่อน ขายมาพกใหญ่ แล้วอ้างสารพัดว่า ไม่รู้จะทดสอบยังไง พอนำเสนอออกมา คนทั่วไปแย้งว่า โกหกหรือเปล่า คนที่ผิด คือ คนขายของครับ ที่ไม่พิสูจน์ก่อนขาย ไม่ใช่คนที่สงสัยหรือสื่อที่ไม่ยอมพิสุจน์ คนขายคือเป้าหมายหลักที่จะปิดก่อนเลยครับ ในเมื่อไม่พิสุจน์ออกมา คนทั่วไปจะเชื่อได้ไง คุณกลับบอกว่า ถ้าไม่เชื่อ ก็เชญพิสุจน์เอง อ้าว คนขายยังไม่ทำเลย คนซื้อต้องเหนื่อยเหรอเนี่ย จริงๆ แล้วคนขายต้องทดสอบและนำเสนอออกมา ถ้าคนอื่นไม่มั่นใจ ค่อยหาทางทดสอบซ้ำ ไม่ใช่มาด่าคนทั่วไปว่า เฮ้ย ถ้าไม่เชื่อก็เชิญทดสอบสิ ในขณะที่คนขายเองยังไม่ได้ทำ ผมว่าคุณA-Z ต้องลำดับความสำคัญหรือหน้าที่ให้ถูกต้องก่อนจะด่าครับ จากคุณ : CEDRIC - [ 29 ต.ค. 47 00:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณทีมงานที่นำเสนอสินค้านี้ ผมแนะนำ (ไม่ได้ประชดนะครับ) สมมุติว่าบ. รถหลุดรอดสายตาสินค้าของคุณ ถ้ามั่นใจว่าดีคุ้มและไม่มีผลเสีย คุณเสนอให้บ. รถดังๆ เลยครับ เข้าไปได้เลย เขายินดี ยกให้เขาทดสอบฟรีก็ได้ ขายแค่โตโย อีซุ ฮอนด้า สามยี่ห้อพอแล้ว แค่ขายในไทย ปีละสามแสนคันได้ รวยเละ ทำเยอะๆ เวลามาขายปลีก คุณจะได้ขายได้ราคาถูก คนไทยจะได้ประโยชน์มากครับ มัวแต่ขายปลีก ได้เงินช้า น้อย และทำให้แพงครับ บ.รถไม่รังเกียจเทคโนหรือสินค้าอะไรที่ดีจริงแน่ครับ จากคุณ : CEDRIC - [ 29 ต.ค. 47 00:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมอ่านและเข้าใจลำดับขั้นดีครับ และผมก็ไม่เคยพูดสักคำว่า ลำดับขั้นที่เขาทำคือสิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งที่คุณเสนอมาคือสิ่งที่ผิด การทดสอบทางวิทย์ ผมเห็นด้วยว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ได้หมายความว่าเขามีเจตนาจะ หลอก อย่างที่คุณกล่าวหาไว้ ที่ผมบอกว่าไม่เชื่อก็ไปพิสูจน์ ผมหมายถึงถ้าจะด่าว่าเขา "หลอกขาย" คุณไปพิสูจน์หรือยัง ไม่เชื่อก็เรื่องไม่เชื่อ แต่จะด่าว่าหลอกได้เต็มปาก มันก็ต้องมีผลพิสูจน์เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับคุณว่าวิธีทางวิทยาศตร์ต่างๆที่คุณแนะนำเป็นสิ่งที่ควรทำ ผมไม่เคยคัดค้าน แต่การที่เขาทำไม่ครบขั้นตอน หรือ ทำผิดขั้นตอนที่ควรทำ นี่มันผิดขนาดยัดข้อหา หลอกลวง เลยหรือ ไอ้คนที่ทำไม่ครบขั้นตอนที่ควรทำนี่มันเลวขนาดนั้นเหรอ . . . นี่คือประเด็นคำถาม(คำด่า)ของผม ผิดที่ไม่ทดสอบให้เรียบร้อยก็เรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้แปลว่ามีเจตนา หลอกลวง และเขาก็บอกอยู่นี่ไงว่าจะทดสอบให้ดู ถ้าบังเอิญมันเกิดได้ผลขึ้นมาหละ ไอ้คำพิพากษาที่คุณว่าเขา หลอกลวง นี่คุณจะทำยังไงกับมัน สินค้ายังไม่มีความน่าเชื่อถือ กับ สินค้าหลอกลวง นี่มันคนละอย่างนะคุณ หรือคุณมองว่าเหมือนๆกัน อย่างยางประหยัดน้ำมัน ผมใช้อยู่ก็ไม่เห็นมันจะประหยัดยังไง แต่ผมไม่ได้ใช้เพราะคิดว่ามันประหยัดหรอก สมมุติพิสูจน์ทางวิทยาสตร์แล้ว ประหยัดขึ้น 1% ไม่โกหก แต่แบบนี้ผมก็คิดว่าหลอกลวง โฆษณาโครมๆ เอาแบบนี้ไหมครับ ทดสอบก่อนขายได้ผลถูกต้องประหยัด 1% ไอ้อย่างนี้สิน่าด่า จริงๆแล้ว ก่อนจะมาถึงบรรทัดสุดท้าย ผมก็เห็นด้วยกับคุณแทบทุกประการ ถ้าเพียงคุณประหยัดคำพูดในการดูถูกคนลงบ้าง ไม่มีคำว่าหลอกลวง ในบรรทัดสุดท้ายผมก็คงจะไม่ได้คุยกับคุณยาวๆหรอก สิ่งที่ผมกล่าวว่าคุณไป ถ้าคุณยังมองว่าผมจ้องหาเรื่องคุณ ก็แล้วแต่คุณจะคิดแล้วหละ ผมคิดว่าผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดหมดแล้ว ถ้ายังคิดว่าผมมีอคติอยากด่าคุณนะ ทำไมผมถึงต้องรอมาที่กระทู้นี้ด้วย กระทู้อื่นๆที่คนเขาร่วมลุยคุณนะ ผมคงไปร่วมวงสันทนาการด้วยแล้ว มีแนวร่วมเยอะด้วย มาเถียงกันโดดเดี่ยวอย่างนี้ทำไม สวัสดีครับ จากคุณ : A-Z - [ 29 ต.ค. 47 02:10:02 A:202.176.107.86 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ก็ยังดีที่คุณ A-Z เข้าใจลำดับหรือขั้นตอนดี ตอนแรกผมนึกว่าคุณไม่ทราบ หรือมองข้าม การนำเสนอทางวิทย์ ทั้งในทางวิชการหรือธุรกิจ ถ้าผู้ค้นคิดไม่ทำการพิสูจน์เป็นลำดับแรก ผมถือว่า ไม่ถูกต้อง และไม่มีน้ำหนักพอครับ ผิดที่ไม่ทดสอบ แต่เจตนา นั้นไม่ทราบและไม่ใช่สิ่งที่พิสูจน์ได้ การที่นำเสนอสินค้าหรือทฤษฎีทางวิทย์ใหม่ใดๆ ที่คนคิดปราศจาการทดสอบที่ดีพอสมควร หรือดีมาก ในทางวิทย์ไม่เกี่ยวกับเจตนา แต่นั่นหมายความว่า ความมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมีน้อยมาก หรือแทบไม่มี จากคุณ : CEDRIC - [ 29 ต.ค. 47 02:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ยกมาตอบดีกว่าจะได้ชัดเจน ผมบอกตามตรงนะครับ ผมอยู่ในโลกของวิทย์ เรียนมาก็ทางวิทย์โดยตรง ไม่กลัวการถกทางวิชาการ และการถูกด่า คนที่หลอกด่าผมในเนตแบบลอยๆ เช่น คล้ายๆ กับว่า ด่าว่าเอ็งมันเลว แต่พอย้อนถามว่าเลวไงบอกมาสิ ก็จะได้รับคำตอบว่า เฮ้ย ไม่ต้องเถียง ไม่ต้องถาม ข้าบอกว่าเอ็งมันเลวก็แล้วกัน 555555555 เพราะในทางวิทย์ แม้แต่การล้มล้างทฤษฎีเก่า ซึ่งคนทั่วไปบอกว่าฉีกหน้ากัน คนในทางวิทย์ยังเฉยๆ ยกมา ความคิดเห็นที่ 45 ผมอ่านและเข้าใจลำดับขั้นดีครับ และผมก็ไม่เคยพูดสักคำว่า ลำดับขั้นที่เขาทำคือสิ่งที่ถูกต้อง และสิ่งที่คุณเสนอมาคือสิ่งที่ผิด ... นั่นคือสิ่งสำคัญในเรื่องนี้ครับ ลำดับขั้น คนขายของทางวิทย์ ไม่พิสูจน์ แล้วมาท้าให้คนซื้อพิสูจน์ แม้จะพร้อมคืนเงินก็เถอะ มันผิดลำดับ การทดสอบทางวิทย์ ผมเห็นด้วยว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ได้หมายความว่าเขามีเจตนาจะ หลอก อย่างที่คุณกล่าวหาไว้ ... ใช่ครับ เจตนาเป็นไงไม่ทราบ แม้แต่มีการทดลองทางวิทย์ หากจะทำให้ดูแล้วได้ผลจริงในด้านที่ต้องการ เพราะมีเจตนาหลอกก็ยังทำได้ ถ้าจะเถียงเรื่องเจตนา คงไม่จบ เพราะเจตนาไม่เกี่ยวกับผลทางวิทย์ ที่ผมบอกว่าไม่เชื่อก็ไปพิสูจน์ ผมหมายถึงถ้าจะด่าว่าเขา "หลอกขาย" คุณไปพิสูจน์หรือยัง ไม่เชื่อก็เรื่องไม่เชื่อ แต่จะด่าว่าหลอกได้เต็มปาก มันก็ต้องมีผลพิสูจน์เหมือนกัน ..อ้าวไหนว่า คุณรุ้ลำดับขั้นตอนไง คนขายยังไม่พิสูจน์เลย คนซื้อหรือสื่อจะเสียเวลาไปพิสุจน์ทำไม เหนื่อยแย่ จะข้ามขั้นตอนทำไม รอให้เขาทำตามขั้นที่ควรจะเป็นก่อน ถ้าน่าสนหรือมีลุ้น เราค่อยลงมือพิสูจน์ จะไปข้ามขั้นทำไม งั้นผมคิดอะไรขึ้นมา ไม่รู้มีเจตนาอะไร ไม่ได้พิสูจน์ แต่เอามาเปิดตัว พร้อมท้าว่าใครไม่เชื่อ เชิญพิสุจน์ ผมว่ามันผิดขั้นตอน ผิดก็คือผิด ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยกับคุณว่าวิธีทางวิทยาศตร์ต่างๆที่คุณแนะนำเป็นสิ่งที่ควรทำ ผมไม่เคยคัดค้าน แต่การที่เขาทำไม่ครบขั้นตอน หรือ ทำผิดขั้นตอนที่ควรทำ นี่มันผิดขนาดยัดข้อหา หลอกลวง เลยหรือ ไอ้คนที่ทำไม่ครบขั้นตอนที่ควรทำนี่มันเลวขนาดนั้นเหรอ . . . นี่คือประเด็นคำถาม(คำด่า)ของผม .... ผิดร้ายแรงสิครับ โดยเฉพาะการขายของ รับเงินไปก่อน คนที่จ่ายเงิน จ่ายเพราะอะไรครับ ก็เพราะเชื่อกล่าวอ้างถึงผลที่ได้ (ผลที่ไม่ได้ ได้จากการทดลองทางวิทย์) เอาเงินคนอื่น ไม่ทดสอบด้วยวิธีที่ดี กล่าวอ้างสารพัด แต่ขายรับเงินไปก่อน ในโลกการขายของโลกธุรกิจ คุณว่าไม่ผิดหรือผิดนิดเดียวเหรอครับ ในเมื่อจุดเด่นในการขาย แรงจูงใจในการซื้อ คือ ตัวเลขหรือผล ความประหยัดหรืออื่นๆ ที่อ้างขึ้น แต่ตัวเลขนั้นจริงหรือเปล่าไม่ทราบ (เพราะไม่ได้ทดสอบทางวิทย์) ขายของที่ยังไม่ทราบผลจริง แต่บอกผลที่ตนเองอยากบอก รับเงินแล้ว ผมบอกว่าผมวิ่งร้อยเมตรได้ในเก้าวินาที แต่ผมเคยทดสอบแค่วิงห้าสิบเมตร แล้วผมเหมาโมเมต่อไปว่า ในการแข่งร้อยเมตร ผมกล้าบอกว่าจะวิ่งได้เก้าวิแน่ๆ (ไม่ใช่บอกว่าในวันแข่งจริงจะได้เก้าวิ แต่บอกชัดเจนเลยว่าวิ่งร้อยเมตร ผมได้เก้าวิ) เดินไปหาสปอนเซอร์ ขอตังค์ รับเงินก่อน อย่างนี้ผมหลอกไหมครับ เจตนาก็ไม่ได้หลอก เพราะเชื่อมั่นว่าทำได้เก้าวิจริง และการบอกก็บอกว่าเคยได้เก้าวิ (เน้นว่าเคยได้เก้าวิ ไม่ใช่ว่าหวังว่าจะได้) มันก็เหมือนขายของที่ไม่ได้พิสุจน์ทางวิทย์ แล้วบอกว่า ถ้าพี่ซื้อไปแล้ว ใส่แล้วจะประหยัดได้สิบเปอร์เซนต์ อย่างนี้หลอกลวงไหม ผมว่าผิดร้ายแรงในการขายของทางวิทย์ครับ ถ้าทำไมครบขั้นตอน คือ ทำแต่ไม่ครบ ก็พอรับได้ครับ แต่นี่ข้ามหรือไม่ทำขั้นตอนที่สำคัญที่สุดทางวิทย์ ก่อนเปิดเผยหรือขาย ผมว่าผิดเต็มที่ครับ การเอาของที่ไม่ได้พิสูจน์ว่าได้ผลจริงในทางวิทย์ มาบอกว่าได้ผล ถึงไม่มีเจตนาหลอกลวง ผมว่าคนขายมีแต่เจ๊งกับเจ๊า คือ ถ้าได้ผล ก็แค่เป็นไปตามคำกล่าวอ้าง ถ้าไม่ได้ผล ถึงจะเจตนาไม่อยากหลอกลวง แต่ในเมื่อบอกว่าได้ผล แต่ใช้ไม่ได้ผล นั่นก็คือหลอกลวงไงครับ ผิดที่ไม่ทดสอบให้เรียบร้อยก็เรื่องหนึ่ง แต่ไม่ได้แปลว่ามีเจตนา หลอกลวง ... ผิดครับ ผิดร้ายแรงซะด้วย เพราะสมมุติบอกว่าได้ผล สิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าทดสอบออกมาได้สิบจริง ก็เจ๊า ตรงตามการโฆษณา แต่ถ้าไม่ได้ผลเลยหรือได้แค่เก้า หลอกลงไหมครับ ? และเขาก็บอกอยู่นี่ไงว่าจะทดสอบให้ดู ถ้าบังเอิญมันเกิดได้ผลขึ้นมาหละ ไอ้คำพิพากษาที่คุณว่าเขา หลอกลวง นี่คุณจะทำยังไงกับมัน .... งั้นผมถามย้อนมาบ้าง ถ้าไม่ได้ผลตามการอ้างล่ะครับ เขาจะทำไงกับมัน มันเหมือนที่บอกไว้ข้างต้นไงครับ การอ้างผลทางวิทย์ เช่นยกตัวเลขสิบเปอร์เซ้นต์มา โดยไม่ได้ทดสอบ ถ้าผลออกมาเป็นจริง ก็แค่เสมอตัวนะครับ แต่ถ้าได้แค่เก้าหรือไม่ได้เลย ถือว่าหลอกลวงไหม (ผมไม่ได้บอกว่าเจตนาหลอกไหม เพราะถึงไม่เจตนา แต่ผลที่ได้ ถ้าไม่ตรงกับการอ้าง ก็คือหลอกลวงนั่นเอง) สินค้ายังไม่มีความน่าเชื่อถือ กับ สินค้าหลอกลวง นี่มันคนละอย่างนะคุณ หรือคุณมองว่าเหมือนๆกัน ...ใช่ครับต่างกัน ... สินค้ายังไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่สังเกตุไหมครับ มีการอ้างผลเป็นตัวเลข ตรงนี้สำคัญครับ คือ มีแต่เจ๊ากับเจ๊งเป็นส่วนใหญ่ อย่างยางประหยัดน้ำมัน ผมใช้อยู่ก็ไม่เห็นมันจะประหยัดยังไง แต่ผมไม่ได้ใช้เพราะคิดว่ามันประหยัดหรอก สมมุติพิสูจน์ทางวิทยาสตร์แล้ว ประหยัดขึ้น 1% ไม่โกหก แต่แบบนี้ผมก็คิดว่าหลอกลวง โฆษณาโครมๆ เอาแบบนี้ไหมครับ ... ถาบอกว่า สิบ แต่ผลได้หนึ่ง ถือว่าหลอกครับ ทดสอบก่อนขายได้ผลถูกต้องประหยัด 1% ไอ้อย่างนี้สิน่าด่า จริงๆแล้ว ก่อนจะมาถึงบรรทัดสุดท้าย ผมก็เห็นด้วยกับคุณแทบทุกประการ ถ้าเพียงคุณประหยัดคำพูดในการดูถูกคนลงบ้าง ไม่มีคำว่าหลอกลวง ในบรรทัดสุดท้ายผมก็คงจะไม่ได้คุยกับคุณยาวๆหรอก สิ่งที่ผมกล่าวว่าคุณไป ถ้าคุณยังมองว่าผมจ้องหาเรื่องคุณ ก็แล้วแต่คุณจะคิดแล้วหละ ผมคิดว่าผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดหมดแล้ว ถ้ายังคิดว่าผมมีอคติอยากด่าคุณนะ ทำไมผมถึงต้องรอมาที่กระทู้นี้ด้วย กระทู้อื่นๆที่คนเขาร่วมลุยคุณนะ ผมคงไปร่วมวงสันทนาการด้วยแล้ว มีแนวร่วมเยอะด้วย มาเถียงกันโดดเดี่ยวอย่างนี้ทำไม ====== คุยกับคุณในกระทู้นี้ ชักมึนๆ เพราะเรื่องที่อยากฮะบายมันเรียบเรียงเป็นประโยคแล้วตัวเองยังงง เอาเป็นว่า จะด่าผมยังไงก็ตามสะดวก เร่มต้นใหม่เลยสั้นๆ มีคนเสนอขายและขายไปแล้วกับสินค้าทางวิทย์ มีตัวเลขผลดี เป็นเปอร์เซ็นต์ชัดเจน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้ทดลองทางวิทย์ ตัวเลขนั้นได้มาอย่างเลื่อนลอย (เจตนาหลอกไหม ไม่ทราบ) ไม่มีการพิสูจน์ทางวิทย์ก่อนขาย ผิดไหม ผิดเต็มที่ครับ ผิดก็คือ ผิด เรื่องเจตนาไม่เกี่ยวกับวิทย์ แต่ถ้าวิเคราะห์ถึงเจตนา การขายของทางวิทย์ แต่ไม่ผ่านการทดสอบทางวิทย์ก่อน ถ้ามองกลางๆ ก็ต้องว่าเจตนาไม่ค่อยสวย (ถ้าเป็นดอกเตอร์ละเจตนาชั่วแน่ แต่ถ้าจบป. สี่ ก็พอทน แต่ทนได้ไม่มาก เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนขายหรือใครต้องทราบว่า ขายของทีอ้างผล ก็ต้องพิสูจน์ว่าผลที่ได้นั้น จริง ใครเอาไปใช้ก็ต้องจริง) คนขายไม่พิสุจน์ ไม่ทดสอบที่ดี ข้ามขั้นตอน สำคัญมากๆ อย่ามาเฉไฉว่า เฮ้ย ถ้าใครไม่เชื่อ เชิญพิสูจน์ ไม่จำเป็นต้องทำครับ ถ้าคนขายยังไม่ทำ มันข้ามขั้นตอน ถ้าคนขายทำอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว คนซื้อหรือสื่อค่อยลงมือ คุณเข้าใจคำว่าขั้นตอนในสังคมในหลายเรื่องดีนะครับ คุณตั้งคำถามว่า ถ้าทดสอบแล้วเขาได้ผลจริง จากที่ผมด่า ผมจะทำไง ผมเน้นว่า ต้องใจผลดีจริงตามที่บอกเป๊ะๆ นะครับไม่ใช่บอกสิบ แล้วได้ผลแค่หกเปอร์เซ็นต์ (จริงๆ แล้วเก้า ยังรับไม่ได้เลย เพราะการทดลงอหรือการอ้างลักษณะนี้ต้องเอาผลด้านต่ำสุดมาคุย) คุณจะด่าเขาไหมว่าหลอกลวง ถ้าผลมันไม่ได้ตามที่บอกไว้ตอนแรก ดันมาถามผมว่าจะทำไงถ้าเขาดีจริง ผมก็เลยต้องถามคุณบ้างว่า ถ้าไม่ดีจริง คุณว่าเขาหลอกลวงไหม (ไม่ได้ถามว่ามีเจตนาไหม) สวัสดีครับ .... บอกตนงๆ พิมพ์ตอบในความเห็นอันท้ายนี้ งงครับ ผมอยากจะบอกอะไรให้คุณเข้าใจ แต่ยิ่งพิมพ์ยิ่งงง พยายามอ่านหน่อยครับ จากคุณ : CEDRIC - [ 29 ต.ค. 47 03:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48 บอกตรงๆ ในความเห็นอันท้ายนี้ งงครับ ผมอยากจะบอกอะไรให้คุณเข้าใจ แต่ยิ่งพิมพ์ยิ่งงง พยายามอ่านหน่อยครับ ===== ช่วงนี้มาตอบบ่อยนิด เพราะหาข้อมูล เรื่องคอมมอนเรลใหม่ๆ ในเนตอยู่ที่น่าสนใจมาก ตามที่ผมเคยบอก (เน้นว่า ไม่เกี่ยวกับสองยี่ห้อ และไม่เกี่ยวกับงานด้วยครับ) ไล่หาอ่านเพราะชอบ และทึ่งกับความก้าวหน้าด้านนี้ ระหว่างล่น หรือรอโหลดอะไรๆ ก็เลยแว่บมาตอบ มาถก มาถูกกัดในกระทู้บ้าง ปกติก็ไม่ได้หาอะไรในเนตเพียบๆ และต่อเนื่องแบบนี้ อย่างมากวันละสามชั่วโมงค่ำๆ เท่านั้น อ้อ ชื่อเซดดริค ยืมเขามานะครับ และกลุ่มคนที่ใช้ร่วมกันสักสิบคน ก็ดันไม่รู้จักกันซะอีก (ผมรู้จักคนเดียวที่ให้ยืม) ดังนั้น อีกหน่อยเจอชื่อนี้อย่ารีบด่า และไม่ต้องเสียเวลาสงสัยว่าใช่ผมไหม การเล่นเวบบอร์ด ในเมื่อทุกคนเป็นผี ผีก็อย่าเดาว่าผีอีกตนเป็นใคร สนใจข้อความเป็นสำคัญ นั่นคือสเน่ห์ของเวบบอร์ด คุยกันโดยสนใจเนื้อหา มากกว่าว่าใครพูดหรือใครบอก แต่คนไทยกลับไม่เข้าใจ ดันจะไปสนว่าใครเป็นใคร ทั้งที่ตนเองก็เป็นผี (อย่างอ้างว่ามีล็อกอิน) ปกติก็ไม่ได้หาอ สวัสดีครับ นอนดีกว่า จากคุณ : CEDRIC - [ 29 ต.ค. 47 03:24:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49 บอกตรงๆ ครับคุณ A-Z ผมมึนกับตัวเองในการพยายามจะบอกคุณในครั้งนี้เป็นปรโยค กรุณาพยายามอ่านหน่อยนะครับ อ้อ อีกเรื่องที่พอจะบอกได้สั้นๆ ว่า สมมุติ มีคนขายของในทางวิทย์ แต่ไม่ได้ทดสอบในทางวิทย์ตามที่ควรจะเป็น จะด้วยความตั้งใจไม่ทดสอบ หรือไม่มีความรู้พอ หรอืไม่มีเงิน ไม่ทราบ แต่ประกาศผลดีออกมาเป็นตัวเลข เพื่อชักจูงให้คนซื้อ ถูกต้องไหม และถือว่าหลอกไหม ในเมื่อไม่ได้ทดสอบ แต่บอกผลที่จะแจ้ง เพื่อให้คนล้วงกระเป๋าซื้อ (ผมไม่ได้ถามว่ามีเจตนาหลอกไหม?) จากคุณ : CEDRIC - [ 30 ต.ค. 47 11:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ว่าแต่ว่า ผมว่ากระทู้นี้ โฆษณาขายของทางหน้ารัชดา ถึงจะเป็นของคนไทย แต่หน้านี้ ห้ามขายของนี่ครับ จากคุณ : CEDRIC - [ 30 ต.ค. 47 13:06:54 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ยิ่งอ่าน ยิ่งเห็นพฤติกรรม มากขึ้น ************************** ไครที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับ คุณ CEDRIC น่ากลัวจะแย่ ผมผิดหวังกับสื่อมวลชน ที่ทำตัวเป็นน้ำดีแต่จริงๆเน่าสุดๆมาก หลักการยืดยาวที่ คุณ CEDRIC สาธยายมายืดยาว ไครๆก็รู้ วิทยาศาสตร์ ต้องมีคำตอบ และต้องสามารถพิสูจน์ได้ ข้อสำคัญต้องให้โอกาสและเวลารอคอยบ้าง ถ้าหวังดีควรให้คำแนะนำ ไม่ใช้ด่าและไม่เห็นด้วยตั้งแต่เริ่ม ****อย่าลืมว่าคุณเป็นสื่อน้ำดีนะครับ**** ผมขอเป็นขาประจำ อีกคนแล้วกัน คุณ A_Z ผมยินดีในความคิดคุณ... คุณ OXY ถ้าอยากขายรีบทำผลTESTออกมาเร็วๆนะครับ จากคุณ : คนใช้รถ (คนใช้รถ) - [ 1 พ.ย. 47 13:15:33 ]