ขอเรียกกว่าการทดสอบแบบไม่ได้ตั้งใจล่วงหน้าดีกว่าครับท่าน เรื่องของเรื่องก็คือ
เมื่อเย็นวันศุกร์ กระผมหิว จะออกไปหาอะไรกินกับร้านเดิมๆแถวบ้านสักหน่อยน่ะครับ
ผมออกจากบ้าน โดยชุด กางเกงขาสั้น เสื้อโปโล รองเท้าแตะ เพราะไม่คิดว่า
ผมจะไปไกลมากกว่านี้ น่ะครับ ออกจะบ้านมาไม่ถึงสิบนาที ก็แวะเติมน้ำมัน
ที่ปั้มเชล เพียวร่าดีเซล เต็มถัง 980 บาท ขณะจอดเติมนั้นเป็นเวลาเกือบสอง
ทุ่ม เย็นวันศุกร์ เห็นรถ หลายคันเข้ามาเทียบจอดเติม เป็นกะบะเปิดทั้าย
คนนั่งใส่เสื้อกันหนาว ... เอ เขาคงจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมัง ... เราไม่
ไปมั่งหว่า ... อิตรงนี้แหละครับ ที่ผมตัดสินใจ ..เห้ยไปมั่งดีกว่า.. โดยไม่
กลับเข้าบ้าน ออกจากปั๊มได้..บึ่งขึ้นสะพานลอยฟ้า บรมราชชนนี ข้ามพระราม8
ขึ้นทางด่วน ยมราช เป้าหมายของ เฒ่าทารก ปีศาจสุรา ผู้นี้คือ ภูเรือ จังหวัดเลย
ครับ ชำระค่าทางด่วน+โทเวย ตลอดเส้นทาง ลงอีกทีก็แยกบางปะอิน มุ่งหน้า
เข้าสระบุรี ครับ....................
ได้ทดสอบทางยาวๆ เสียที .. คิดในใจ .เข้าสระบุรีแล้ว แยกเข้า เพชรบูรณ์
โอ้ยแม่เจ้า กระจกมองหลัง ที่ผมไปติดครอบกระจกเดิม สร้างปัญหา ให้ผมแล้ว
ครับ เจอรถตามหลังนี่ไม่ตัดแสงเลย ไฟหน้าเขาสะท้อนเข้ากับสายตา เต็มๆ
ไม่ได้การล่ะ แวะ ถอดออกเพื่อใช้กระจกเดิมติดรถ ที่ปั๊ม พร้อมกับ ไปซื้อ
สบู่ยาสีฟัน และของใช้เล็กน้อย .. จากนั้นก็มุ่งสู่เมืองมะขามหวานเส้นทางเดิม
ก่อนออกสระบุรี มีหมอก + ฝุ่นจากโรงงานปูนหนามาก จึงได้ทดสอบ ไฟตัด
หมอก อืมม มันช่วยได้มากทีเดียว ถึง เพชรบูรณ์ เที่ยงคืนพอดี ครับท่าน
ต้องนอนที่นี่แล้วล่ะ ร่างกายของชายโสดวัยชรา และบ้าบิ่นเดินทางคน
เดียว รู้สึกจะไม่ไหวแล้ว เลยจอดแวะที่เซเว่น เปิดประตูรถออกมาสัมผัส
อากาศ ครั้งแรก เย็นยะเยือก คนแถวนั้นเขาสวมเสื้อกันหนาวกันแล้ว
มีผมคนเดียวนุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อโปโล เดินเข้า เซเว่น หากาแฟกิน
จากนั้นก็หาที่พักครับ 780 บาท เงินสดก้อนที่สองจากการบอก ของ
พีอาร์ โรงแรม (ก่อนออกจากรถ เดินไปเช็คอิน กลัวเขามองไม่ดี เลย
ต้องหารองเท้าผ้าใบในรถ ใส่แทนรองเท้าแตะ พร้อมกับ เดินไป
พร้อมกับกระเป๋า ใบเขื่อง ถุงกอบแก๊บ ที่ใส่ยาสีฟัน กับ สบู่ หิ้วเข้า
โรงแรม รปภ ก็ทำหน้า งงๆ รวมถึง พีอาร์ โรงแรม คงคิดว่าหมอนี่มันมาทำใมหว่า
ผมเลยชิงพูดเสียก่อน ผมมาเปิดห้องครับ เขาถึงได้แจ้งราคาผม
พร้อมกับบอกว่า พักได้คืนเดียวนะคะ พรุ่งนี้ต้อง เช็คเอาท์ เพราะ
เรา มีแขก และทัวร์ จองเต็ม สำหรับคืนพรุ่งนี่น่ะค่ะ พีอาร์ บอก กับผม
อย่างนี้ ครับ ผมก็เลยบอกไปว่า ครับๆๆ ผมพักคืนเดียว
เช้ามา ตื่น 7 โมงเช้า ทำธุระเสร็จ ก็เจ็ดโมงครึ่ง ก่อนออกจากโรง
แรมก็เปิดกระโปรงรถดู เช็คโน่นนี่ เล็กน้อย โอ้ว ยังอยู่ครบทุกส่วน
ก่อนมุ่งหน้าสู่ภูเรือ แวะเซเว่นร้านเดิมโด๊บกาแฟ พร้อมกับ กางแผนที่
ดู ว่าควรใช้ถนนเส้นทางไหน ครับ ... และแล้ว ผมวางแผนการเดิน
ทางกลับกรุงเทพ จากภูเรือ(ทั้งๆที่ยังไปไม่ถึง) ตรงหน้า ร้านเซเว่นนี้แหละครับ
จากแผนที่ประเทศไทย เมื่อย้อน กลับจากภูเรือ สัก 20 กม จะมีทาง
เชื่อมต่อ ไปถนน เลาะ ตะเข็บ ชายแดน ลาว ของจังหวัดเลย เลียบแม่น้ำโขง
ถึงนองคาย ได้ เอาล่ะว้า .... ทำไมไม่ข้ามไปลาวเสียเลยล่ะ? ถามตัวเองในใจ
ทั้งๆที่มีคำตอบอยู่แล้ว ว่าไปแน่ๆ
.... ออกจากเซเว่นที่เพชรบูรณ์ มุ่งหน้าสู่ ภูเรือ จังหวัดเลยครับ เส้นทางนี้
แหละจะเป็นตัวทดสอบการเกาะถนน ได้ดีเลย คดเคี้ยว ขึ้นเขาลงเขา เลาะเหว
ทั้งโค้งตัวยูตัวเอส มีหมด จนขับแบบมึนๆเลยครับท่าน .....เห็นอีสุ ทะเบียน
เลย เพชรบูรณ์ ที่ชำนาญทางแล้ว เข้าโค้งสาดโค้ง เยอะมาก แต่ผมขออนุญาต
ไม่ทดสอบมาก นะท่าน กลัวไปไม่ถึงซะก่อนน่ะครับ สรุปแล้ว ความหนึบ
ของ วีโก้ ดีทีเดียวครับ แม้รถจะสูงใหญ่ .. และผมก็ถึงทางขึ้นภูเรือ ตอนสิบโมง
ครับ ตอนนี่ต้องขับขึ้น อีก 5 กม เป็นทางชันและโค้งพองาม มีจุดตรวจสองจุด
เสียค่าเข้าชม 1 คน 1 รถ =50 บาท ที่ด่านแรก ตลอดทาง มีป้ายเตือน ให้ใช้
เกี่ยต่ำ ตลอด และห้ามลงโดยใช้เกียร์สูง เพื่อป้องกันเบรคไหม้
ความอึดและกำลังของรถ สมรรถนะต่างๆใช้ได้ดีทีเดียว บวกกับการขับสี่
ก็ ถึงยอดภูเรือครับ ท่าน ต้องจอดรถในที่ ที่ เขาจัดไว้ให้ และเดินสู่ยอดภูเรือ
อีก 900 เมตร ผมก็พักรถและเดินขึ้นถึงยอด อากาศค่อนข้างเย็น หนาว
แต่ไม่หนาวสุดๆเพราะผมมาถึง ก็ 11 โมงแล้ว สักพักก็ลง ครับ ทางลง
ก็ใช้เกียร์ต่ำ เหมือนเดิม มีป้ายเตือน แม้กระทั่งผู้ใช้รถยนต์เกียออโต้ด้วย
ว่าให้ใช้ D ไหนขับ ลงถึง ตีนดอย อีกครั้ง พักหาอะไรใส่ท้อง ที่หน้า สถต ถูเรือ
บังเอิญ วันนี้มีตลาดนัด พอดี เลยได้เสื้อกับกางเกงเพิ่มอย่างละตัว จากตรงนี้
แหละครับ กางเกง 180 เสื้อ 110 บาท ไม่ได้ซื้ออะไรมาก เพราะไม่หนาวจัด
จากนั้น ผมก็แวะป้อมตำรวจ ที่ท่ารถภูเรือ เอาแผนที่ผมติดมือไปด้วย
ไปถามท่าน ว่าผมจะไปหนองคาย สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวต่อ ท่านก็บอก
ให้ผมเข้าอุดร ก่อน แล้วไปไปได้ง่าย แต่ผม บอกว่า คือผมอยากไปเส้นทางนี้
ชี้ไปที่แผนที่ ถนน เลียบตะเข็บชายแดน ไป ได้ไหม? อ๋อ ! นี่เส้นทางยุธศาสตร์
ท่านก็ครุ่นคิดสักพัก แล้วมองมาที่รถ พร้อมกับถามว่า ไปคันนี้เหรอ อืมมได้ๆ
แต่มีบางช่วงเปลี่ยวและทางลาดยางเสีย เป็นหลุมบ่อ นะ ท่านให้บริการดีมาก
แนะนำผม อย่างดี ว่ามีจุดตรวจเป็นพักๆไม่ต้องกลัว ไปได้ๆ ผมก็ขอบคุณท่าน
และ ขับรถย้อนกลับทางเดิม สัก 20 กม เห็นจะได้ เพื่อเชื่อมเข้าเส้นทางยุทธศาตร์
ที่ว่านี้ ออกจาก ป้อมตำรวจ ภูเรือ เที่ยงตรง 12.00 พร้อมกับอากาศเย็ยๆสบาย
.. และแล้ว ผมก็ถึงเส้นทางยุทธศาตร์ โดยมีจุดตรวจทหาร จุดแรก ก่อนทางเข้า
ท่านก็ยกเหล็กให้ผ่านไป ผ่านจากจุดตรวจ แรกออกมาเรื่อยๆ โอ้วแม่เจ้า
ทั้งถนน มีผมคันเดียวหรือนี่ ถนน ลาดยางครับ แต่ผิวค่อนข้างเสีย ทางสูงต่ำ
โค้ง ลาดชัน เลาะเหว มีแมกไม้ สองข้างทางปกคลุม บางที่ใบไม้ร่วง บนพื้นถนน
จนทำให้ผมคิดว่า เห้ย นี่ผมใช้ถนนคนเดียวเลยหรือ น้ำมันจากกรุงเทพที่เติมมา
เหลือขีดกว่า จะย้อนกลับก็ใช่เรื่อง เลยต้องมุ่งหน้าต่อไป ซ้ายมือผม
คือแม่น้ำเหือง ที่เป็นพรมแดนกั้นไทยลาว ครับ น้ำใส และมีเกาะแก่งสวยงาม
ได้แค่มองไม่กล้าจอดลงไปถ่ายรูปหรอกครับ กลัวครับท่านๆ ก็มันไม่มีรถผ่าน
มาเลยนี่ครับ 10 กม แรกที่ผมสัมผัสทางสายนี้ เห็นแค่ชาวบ้านเลี้ยงวัว บ้านคน
ก็ไม่มี รถก็ไม่มีผ่านมา ใจก็เสีย เพราะผมมาคนเดียว ปวดท้องก็อั้นไว้
40 กม แรก มีรถสวนผมไม่ถึงห้าคัน ครับ ในการเลาะชายแดนแม้น้ำเหือง
ค่อยๆขับมาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ก็พอมีบ้านคน ให้ใจชื้นขึ้น จากแผนที่ กับน้ำมันขีดครึ่ง
ผมน่าจะถึง อ.ท่าลี่ ของจังหวัดเลย และมีอีกอำเภอ ก่อนจถึงที่ผมสามารถ เติมน้ำมันได้
เลยมุ่งหน้าเรื่อยๆๆ จน เจอรอยต่อแม่น้ำโขง ที่สำผัสแผ่นดินไทย ครั้งแรก
ใจชื้นขึ้นเยอะ เพราะมีด่าน ตรวจ พี่หารไทย เรา คิดว่ายังไงเสียผมจะไปถามเรื่อง
สภาพเส้นทางกับปั๊มน้ำมัน ว่าอยู่อีกไกลไหม ท่านก็ให้บริการดี ครับ
ผมก็ขับเรียบแม่น้ำโขงมาเรื่อยๆ โค้งซ้ายขวา ขึ้นเขาลงเนิน พัก กินต้มยำปลาแม่น้ำโขง
กะร้าน ริมโขง ร้านหนึ่ง แล้วก็เข้ามาตัวอำเภอ ... อ.ท่าลี่ มีปั๊ม ให้ผมเติมน้ำมัน
870 บาท ชำระค่าน้ำมัน รอบที่สอง มุ่งหน้าสู่ อ.เชียงคาน อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่
อ.ท่าลี่ ตรงนี้แหละท่าน สะพานมิตรภาพ ไทยลาว เลย- หลวงพระบางระยทาง 380 กว่ากม เพื่อเข้าลาว
หลวงพระบาง กำลังจะเปิด วันที่ 26 เดือนนี้ เป็นเส้นทางอีกเส้นทางที่น่าสนใจมากครับ
เมื่อถึง อ เชียงคาน ถนนดีขึ้นมากครับ ก็ยัง ขับเลียบชายแดนต่อไป
รวมระยะทาง ด่านแรก ของ เส้นทางยุทธศาสตร์ จนถึง หนองคาย ประมาณ 300 กม
ถ้าผมบวกไม่ผิดนะท่าน ผมมาถึงหนองคาย 6 โมงเย็นกว่าๆครับ ใช้เวลาเดินทาง 6 ชม
หาโรงแรมครับ เต็มหมด!!!!!!!!!!!!! เอาล่ะสิจะนอนไหนล่ะเมื่อยๆก็เมื่อย เลยต้อง
ขับย้อนเข้าอุดรธานีอีก 54 กม ครับ พักที่อุดรธานีคืนนี้
รุ่งเช้าวันเสาร์ ออกจากโรงแรมที่อุดรธานี ไปหนองคายอีกรอบ อยากจะข้ามไปลาว!ครับ
ถึงหนองคาย ที่สะพานมิตรภาพ แปดโมงกว่าๆ สอบถามเรื่องเอกสาร ค่อนข้างยุ่งยาก
หากจะนำรถข้ามไป อีกอย่างผมก็ปอดแหก ด้วยครับ เพราะไปคนเดียว เลยจอดรถ
ไว้ที่ ฝั่งไทย และติดต่อทำเอกสาร ข้ามแดน ชำระไป 150 บาท ก็ข้ามไปเวียงจันท์ ล่ะครับ
กว่าจะได้ข้ามก็เก้าโมงกว่า ไปฝั่งลาว จ้าง สกายแลปสามล้อ 400 บาท ให้พาทัวร์
และข้ามมาฝั่งไทย ก็ เกือบบ่ายสอง มุ่งหน้ากลับกรุงเทพ โดยทางหลวงหมายเลขสอง
หนองคาย-อุดร-ขอนแก่น-โคราช(แวะเติมน้ำมันหนที่ 3 =990 บาท )สระบุรี กรุงทพ-
วงแหวนตะวันตก-บางปะอิน-บางบัวทอง-บรมราชชนนี -ถึงบ้าน
เติมน้ำมันสามหน เท่าที่เล่าให้ท่านฟัง ตอนนี้เหลือน้ำมันเกือบเต็มถัง พร่องจากขีดบนสุด
มา 1 ขีดครับท่าน
รวมระยะทาง 1600 กว่า กทม. กับการฉายเดี่ยว ครั้งนี้
สรุปรถ - คะแนนเต็ม 5
ความหนึบในการเกาะถนน ดีกว่ารุ่นก่อน ครับ = 3
ความกระด้าง ตับไตไส้พุงโยก เมื่อลงหลุม = 3
ความแรง อัตราเร่ง รวมๆ ของเครื่องยนต์ = 5
อัตราสิ้นเปลือง = 4
ระบบเบรค = 5
ความเงียบภานในห้องผู้โดยสาร = 5
การคลานสี่ขา รวมทั้งการเปลี่ยน จากเดินสองขา เป็นคลานสี่ขา = 5
ประสบการณ์ ผู้ทดสอบ(ความรู้เท่าหางอึ่ง) ในรถขนาดหรือใกล้เคียงรุ่นเดียวกัน
ไม่เคยขับแต่ เชฟวี่ โคโรนาโด ยี่ห้อ รุ่นๆอื่นๆพอเคยลองผ่านมือมาเล็กๆน้อยๆครับ
แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 47 12:06:12
จากคุณ :
ปีศาจสุรา 
- [
25 ต.ค. 47 10:19:11
]
++ ทดสอบ Vigo 3.0G ขับสี่ กรุงเทพ-เพชรบูรณ์-ภูเรือ-เลย-เส้นทางยุทธศาตร์ เลาะตะเข็บชายแดน ไทย-ลาว++
