ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยๆพวกนี้ต้องเจอก้อนหินถึงรู้สึก จากคุณ : 55555 - [ 23 ก.พ. 48 03:02:19 A:61.90.23.191 X: TicketID:087386 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตำรวจวิ่งตามไม่ทันเลยไม่จับ จากคุณ : taxi y2k - [ 23 ก.พ. 48 06:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รถกระบะตัวดีเลย แยงตามากๆ จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง - [ 23 ก.พ. 48 06:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าน่ะถ้าเป็นไฟที่ติดมาจาก โรงงานเลยจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแยงตาแต่ส่วนมากที่แยงตาจะเป็นพวกติดเพิ่มเองซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบสปอร์ทไลท์มากกว่าน่ะ จากคุณ : Puchaitanu - [ 23 ก.พ. 48 07:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เจอพวก เปิดแค่ไฟหรี่ แต่เปิดไฟหมอก ซิครับ ให้ตายเถอะ จอร์จ.... จากคุณ : ถัง - [ 23 ก.พ. 48 07:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคุณถังครับ... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเท่ห์ ตรงไหนกับไอ้การเปิดไฟหรี่หน้าแล้วก็เปิดไฟตัดหมอก ในเวลากลางคืนเนี่ยะ.. ผมเคยลองเปิดดูแล้วไม่เห็นมันจะ สว่างเลย ระยะไฟส่องสว่างที่พุ่งไปข้างหน้าเป็นระยะสั้น นิดเดียว อันตรายกับตัวเองซะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ที่ผมเกลียดที่สุดคือไอ้พวกเปิดไฟตัดหมอกท้าย เมื่อก่อนยังมีน้อยนะเพราะจะมีแค่ในรถยุโรปรุ่นแพงๆ แต่เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นยี่ห้อยอดนิยมเขาติดมาเป็นอุปกรณ์ มาตรฐานโรงงานโดยไม่ได้มีคำแนะนำการใช้ที่ถูกต้อง ให้กับผู้ซื้อรถเลย คนซื้อรถบางคนเขาไม่ได้ศึกษา การใช้ให้ละเอียดก็เปิดใช้กันโดยไม่รู้ตัว แต่ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนเปิดใช้โดยตั้งใจเพราะเคยได้ ยินผู้ใช้รถบางคนที่เปิดไฟตัดหมอกท้าย (ที่ผมลงไปเคาะ กระจกบอกเขาให้ปิดไฟตัดหมอกท้ายขณะรถติดไฟ แดงอยู่ข้างหน้ารถผม) ให้เหตุผลว่าเพื่อความปลอดภัย สำหรับรถที่ตามมาข้างหลังจะได้เห็นรถเขา (ทั้งๆที่ขับรถ กลางคืนในสภาพอากาศปกติ) ! ผมเคยคุยกับน้าชายที่เพิ่งซื้อ Altis มาใหม่ๆ เขายังไม่รู้ เลยด้วยซ้ำว่ามีไฟตัดหมอกท้ายติดรถมาด้วย แถมยังไม่รู้ เลยด้วยซ้ำว่ามันควรใช้ในโอกาสไหน เฮ้อ.. ไม่รู้จะโทษผู้ใช้รถหรือว่าผู้ผลิตล่ะครับเนี่ยะ ? จากคุณ : SCTL - [ 23 ก.พ. 48 08:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในคู่มือ มีชัวร์ครับ เขียนวิธีใช้ไว้ทุกยี่ห้อ เราไม่อ่านกันเอง จากคุณ : เจงๆ - [ 23 ก.พ. 48 09:00:59 A:128.193.54.135 X: TicketID:039212 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อวานเจออยู่คันนึง มันขับตามหลังมา ตอนนั้นก็มืดพอสมควรแล้วนะ แถวชานเมืองรังสิต เปิดไฟหรี่ กับเจาะหมอก.... สงสัยเค้าจะไม่เคยเข้ามาใน รัชดา ของเราเลยอิอิ ....................... จากคุณ : ensim - [ 23 ก.พ. 48 09:08:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ใช่แล้วเดี๋ยวนี้เจอบ่อยมาก พวกชอบเปิดแต่ไฟหรี่ ปิดไฟใหญ่ เปิดไฟตัดหมอก คงคิดว่าเท่ ที่เห็นบ่อยๆก็ อีผุผุ vios และที่ตามมาก็ vigo ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกรถที่มีติดไฟมาจากโรงงาน พวกเปิดที่ทั้งหมดก็เหมือนกันแสบตา รำคาญ รถเราก็มีแต่ไม่เคยเปิดทิ้งเปิดขว้างเลย บ้านนอกจริงๆเลยพวกนี้ ไร้รสนิยม (ขออภัยไม่อยากdiscriminateพวกท่านๆหรอกนะเพราะมันก็เป็นindividualน่ะ) จากคุณ : ฟ้า (แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน) - [ 23 ก.พ. 48 09:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เดี๋ญวนี้ขับกลางคืนผมเปิดครับ โดยเฉพาะถ้าขับบนวิภาวดี เลนขวา เพราะมันเห็นขอบถนนที่เป็นแผงกั้นชัดเจนดี ไม่เสียว จากคุณ : <> - [ 23 ก.พ. 48 09:38:47 A:61.90.121.81 X: TicketID:067954 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แย้งเลยว่า เปิดไฟตัดหมอกโดยตั้งใจมากกว่า ไม่ตั้งใจ ไฟตัดหมอกท้ายจะมีสวิชต์ต่างหาก ตอนนี้ จะเห็นพวกที่ชอบเปิดกันมาก ๆ จะมี วีออส แคมรี่ และบีเอ็ม ส่วนสวิชต์ไฟตัดหมอกหน้าจะอยู่ที่ชุดโคมไฟหน้า ดังนั้น ไฟตัดหมอกหลังจะเปิดก็ต้องกดสวิชต์เปิดเป็นเรื่องเป็นราว ถึงจะเปิดได้ ที่เห็นมาอัลติส มักไม่ค่อยเปิดนะครับ สงสัยมันไม่เท่ห์ เหมือนข้างต้นที่มีไฟตัดหมอกทั้งสองข้าง จากคุณ : hing-hoy - [ 23 ก.พ. 48 09:43:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นส่วนใหญ่เป็นพวกเพิ่งจะมีรถขับอะครับ ประเภทคันแรกก็มีไฟตัดหมอกเลย ก็เปิดแม ม่ ทุกดวงเลย เลยไม่รู้ว่า ปิดไฟตัดหมอกแล้วมันเห็นได้ไกลกว่า พวกไฟหรี่กะตัดหมอกก็เยอะมาก เห็นแล้วก็สงสารว่า มันจะเห็นอะไรมั้ย จากคุณ : DEANN - [ 23 ก.พ. 48 10:11:22 A:203.156.25.210 X: TicketID:068391 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ไฟตัดหมอกหน้า ไม่ค่อยเท่าไหร่ ไปตัดหมอกหลังดิ อย่างเซ็ง จากคุณ : O-Omega - [ 23 ก.พ. 48 10:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านไปอ่านมา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องถามคุณต้นซะที ดูคุณเป็นเดือดเป็นแค้นกับพวกไฟตัดหมอก กับ ไฟเลี้ยวแดง เหลือเกิน บอกให้ตำรวจจับกันโครม ๆ แต่อีกกระทู้นึงคุณ[vdให้คนอื่นขับแช่ที่ 200 ซึ่งผมว่ามันอันตรายกว่าไฟตัดหมอกไม่รู้กี่สิบเท่าเลยนะครับ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3311543/V3311543.html ผมไม่ได้ป่วนนะครับ แต่ผมก็ไม่เข้าใจเอาเลย ว่าการทำผิดกฏหมายจราจรในสายตาของเรา ๆ นี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่ กลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านมองว่าการขับรถเร็วไม่ผิด พากันไปชื่นชมกัน ไม่มีใครสักคนในกระทู้เรื่องความเร็วสูงสุดที่จะ แย้งว่า โอ้โห คุณทำผิดกฏจราจรกันนะนั่น แต่กับเรื่องหยุม ๆ หยิม ๆ กันอย่างไฟตัดหมอก นี่กลับกลายป็นเรื่องร้ายแรงกันแทน เรื่องกรณีไฟตัดหมอก ผมเองก็ไม่ได้วัดที่ว่าจะเปิดหรือไม่เปิดเท่านั้น ผมมองว่าถ้ามันไม่แยงตาก็น่าจะโอเค การเปิดไฟตัดหมอก (ส่วนมากจะเป็นไฟสปอตไลท์มากกว่า เพราะไฟตัดหมอกแท้ ๆ ต้องสีเหลือง) มันก็มักจะช่วยให้มุมมองด้านหน้ารถและด้านข้างชัดขึ้นเยอะเหมือนกัน และรถหลาย ๆ คันที่เปิดไฟตัดหมอกเองก็ไมได้แยงตาอะไรไรเลย เพราะมันก็กองอยุ่หน้ากันชนนั่นแหละ อาจจะแย่น้อยกว่าพวกตั้งไฟไม่ดีด้วยซ้ำ อย่างแคมรี่หรือแอลติส ผมก็เห็นไฟมันกองอยู่หน้ารถแค่นั้นเองนี่ครับ อย่าไปตัดสินกันแค่ว่าเปิดหรือไม่เปิดเลยครับ เจตนาของผู้ขับนี่แหละ คือความอันตรายที่แท้จริง ถ้ารู้ว่าไฟรถตัวเองแยงตาแล้วยังเปิดนี่ซิ ที่น่ากลัวกว่า ส่วนพวกเปิดแต่ไฟหรี่กับตัดหมอกนี่ผมเห็นด้วย ว่ามันจะมองเห็นอะไรหว่า จากคุณ : ไม่เข้าใจ - [ 23 ก.พ. 48 12:23:31 A:61.91.186.38 X: TicketID:069571 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จริงๆแล้วคนไทยยังค่อนข้างสับสนระหว่าง Driving Light และ Fog Light เวลาเห็นโคมไฟหลอดเล็กที่ติดข้างใต้ HeadLamp ก็มักจะเรียกมันว่า FogLight(ไฟตัดหมอก) ซะหมด FogLight นั้นไม่ควรเปิดในเวลาขับในตัวเมืองหรือเวลาที่ไม่มีหมอกเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันออกแบบมาให้ส่องสว่างอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัย โดยไม่คำนึงถึงว่ามันจะไปเข้าต่รถที่สวนมา หรืออยู่ข้างหน้าหรือไม่ เพราะมันออกแบบมาให้เปิดตอนที่ทัศนวิสัยไม่ดี สำหรับ DrivingLight นั้นมันออกแบบมาให้ช่วยส่องสว่าง Main Lamp(HeadLamp) ดังนั้นถ้าเป็นตัวที่ออกแบบมาจากโรงงานมันจะไม่ไปแยงตาคนอื่น ผมก็ชอบเปิดไฟ Driving Light รถผมครับ มันเห็นถนนชัดดี ปลอดภัยดีครับ จากคุณ : Kasteo - [ 23 ก.พ. 48 12:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเห็นด้วยกับคุณ คห 15 ครับ ผมใช้อัลติสแล้วก็จะเปิดสวิทช์ไว้ที่โหมดออโตครับ  เวลาแสงสว่างน้อย ไฟก็จะติดทำให้ไม่ลืมเปิดไฟด้วยครับ แล้วก็ขอยืนยันว่าทำให้มองเห็นทางได้ชัดเจนขึ้นครับ โดยไม่แยงตารถที่สวนทางด้วยครับ (อัลติสนะครับ ไม่ได้รวมทุกรุ่น) แต่ถ้าหมายถึงฟอคแลมพ์หรือสปอตไลท์ ผมก็ไม่ชอบครับ จากคุณ : bingbong - [ 23 ก.พ. 48 13:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ช่ายๆ คือ มันสะท้อน ให้เห็นเหมือนกับว่า พวกนี้อ่านภาษาไม่ออกหรืออย่างไร เปิดไฟตัดหมอก====>แต่ไม่เปิดไฟหน้า ใช้ไฟหรี่ ตลกมากเลยครับ ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกันหรอก อย่าคิดว่าเท่ห์เลยนะ เพราะมันดู เห่ย อย่างแรง คือ ของมันมีมาก็ไม่ว่าอะไรครับ(ซึ่งหลายคนชอบ เพราะเวลาดูรถแล้วรถจะสวยขึ้น ผมก็ชอบ) จะเปิดก็ได้ถ้ามันจำเป็น ซึ่ง ลำดับการเปิดไฟ ควรเป็น 1. เริ่มค่ำ===> ไฟหรี่ 2. ค่ำแล้ว===> ไฟหน้า 3. ค่ำ+ทัศนวิสัยไม่ดี===> ไฟหน้า+ไฟตัดหมอก แต่พวกนี้ เปิดไฟหรี่ กับไฟตัดหมอก เหอะ เหอะ เลิกซะเถอะครับคนที่ทำ ผมเชื่อนะว่าชาวรัชดาคงไม่ทำอะไรพวกนี้หรอก หลายๆคนก็มีความรู้ดีออก ส่วนตัดหมอกหลังเนี่ยหลายคนไม่รู้จริงๆ เห็นปุ่มเปิดไฟ ก็เปิดมันหมดทุกปุ่มแหละ สว่างดี กรรมเจงๆ จากคุณ : =Ci= - [ 23 ก.พ. 48 16:34:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แถวบ้านผมก็มีครับ ออก Accord 3.0 V6 ตัวใหม่มา แต่ขอโทษ...มีแต่เงินแต่สมองไม่ค่อยจะมี สงสัยจะอ่านคู่มือไม่ออก เห็นออกจากบ้านกลางคืนทีไร เปิดไฟหรี่พร้อมไฟตัดหมอกออกไปทุกที ให้ตายเถอะ รถผมก็มีติดมาจากโรงงานครับ แต่ถึงทุกวันนี้ผมยังไม่เคยเปิดใช้เลย ก็มันไม่มีหมอกลงให้ใช้นี่หว่า จะเปิดใช้ไปทำไม ส่วนที่บอกว่าที่ติดมาจากโรงงานไม่แยงตาน่ะครับ ก็อาจจะใช่ แต่ว่ามันรบกวนการมองครับเวลามองรถจากกระจกหลัง ไม่จำเป็นอย่าเปิดใช้เถอะครับ ผมขับกลางคืนมืดๆ ไม่มีไฟริมถนนในต่างจังหวัด ใช้ไฟสูงตอนไม่มีรถสลับกับไฟใหญ่ยังเหลือแหล่เลยครับ จากคุณ : VeryBadman - [ 23 ก.พ. 48 17:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความจริงแค่ชื่อก็บอกถึงการใช้อยู่แล้ว ไฟต้ดหมอกก็มีไว้ใช้ตอนทัศนวิสัยที่มีหมอกหรือสภาพอากศใกล้เคียงกัน แต่คนส่วนใหญ่มักใช้กันผิดๆ ผู้ที่เห็นด้วยว่ามไยงตาก็คงว่าไม่ได้ครับเพราะความสามารถของสายตาไม่เหมือนกันหรือบางคนใช้กระบะสูง รถคันหลังเปิดไฟตัดหมอกคงไม่รู้ศึกมาก แต่ผมเป็นคนเริ่มมีอายุแล้วครับ สายตาก็เริ่มแย่ลงพอเจอรถตามหลังที่เปิดไฟตัดหมอก ทำเอาตาพล่าไปเหมือนกัน จะบอกว่าก็อย่ามองกระจกหลังซิก็ไม่ได้อีก ยิ่งถนนรถสวนยิ่งไปกันใหญ่ ความคอผมว่าไม่ควรเปิดพร่ำเพรื่อครับ ถึงแม้จะขับตามหลังเพราะคันหน้าก็เปิดไฟอยู่แล้วเราก็สามารถใช่ไฟจากรถคันหน้าเราเป็นไกด์ก็ได้ โอ้ย...พิมพ์เหนื่อย จากคุณ : loomlim - [ 23 ก.พ. 48 17:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตัดหมอกหน้าไม่เท่าไหร่ ตัดหมอกหลังนี่เดะ ใครเปิด พ่อยิงไฟสูงเข้าใส่เลย แลกหมัดกัน และใครที่รถตาเหล่ นี่น่าเศร้าจิงๆ จากคุณ : จอมยุทธ์กระบี่เพลงกระบี่ไหมฟ้า - [ 23 ก.พ. 48 18:46:37 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แยงตา ไม่แยงตา  เอาอะไรมาวัดครับ คุณบอกว่าไม่แยง  คนอื่นๆที่ขับสวนมาเขาอาจจะบอกว่าแยงก็ได้ จากคุณ : ton99 - [ 23 ก.พ. 48 20:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ต้องกันไปดูว่า คันที่แยงมันก็มี คันที่ไม่แยงมันก็เยอะ ถ้ามันแยงและเดือดร้อนกันจริงทั่วหน้าแบบดรากอนอายส์นั่นอีกเรื่อง นั่นคือความผิดพลาดของผู้ผลิต ที่ตั้งแนวไฟต่ำมาสูงไป แต่ไอ้ไฟที่ติดมาใต้แนวกันชนจากโรงงาน ส่วนมากเวลาเปิด มันก็กอง ๆ อยู่หน้ากันชนแค่นั้นแหละ ไม่ได้แยงอะไรมากมายนักหรอก คุณอาจจะตั้งใจจับผิดหรืออคติมากไปหรือเปล่า แต่สำหรับพวกที่พวกเปิดไฟตัดหมอกเหลืองหน้า แดงหลัง มาเลยนี่ผมไม่เห็นด้วยเต็มที่ครับ ส่วนไอ้ไฟตัดหมอกพวกสีเหลือง ๆ น่ะมันอีกเรื่อง ไม่ควรเปิดอย่างยิ่งด้วยประการทั้งปวง แต่พูดแบบนี้มันก็ย้อนกันไปมาแหละครับ ว่าคุณเอาอะไรมาวัดว่าแยงตาล่ะ มันก็ไม่จบซะที คนที่ว่าแยง อาจจะตะโกนอยู่คนเดียวก็ได้ มันเป็นอะไรที่วัดไม่ง่ายนัก ผมก็ยังมองว่า การเปิดไฟใต้กันชน (ที่ไม่ใช่ไฟตัดหมอกเหลือง ๆ) อาจจะไม่ถูกนัด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอันตรายเท่าไรนักหรอก เพราะดูมาเยอะแล้ว เห็นแนวแสงมันไปได้ไม่เท่าไรนักเลย และก็อันตรายน้อยกว่า ขับรถเร็ว ขับรถขณะมึนเมา ขับรถไม่เป็น เยอะครับ เพราะบางคนอาจะมั่นใจว่า ขับรถเร็วมันไม่อันตราย เพราะมั่นใจรถตัวเองและฝีมือตัวเอง แต่บนถนนนั้น ไม่ได้มีคุณคนเดียวนะครับ คนอื่นอาจจะขับหรือกะระยะไม่เป็นก็ได้ อยากฝากตรงนี้ไว้มากกว่า ไม่อยากให้การขับเร็วมาก ๆ มันกลายเป็นเรื่องเท่ ในขณะที่ความผิดหยุมๆ หยิมๆ แบบนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายครับ มันเป็นค่านิยมที่ไม่น่าจะดีเลย จากคุณ : ไม่เข้าใจ - [ 23 ก.พ. 48 20:32:41 A:61.91.185.178 X: TicketID:069571 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รถผมก็มี เจ้าไฟตัดหมอกเนี่ย ติดมาจากโรงงาน แต่ปกติแล้วไม่เคยเปิด เพราะรับรองได้ว่า ในสภาพถนน ปกติแล้ว โคมไฟธรรมดาที่ระดับติดตั้งอยู่สูงกว่าไฟตัด หมอก และสามารถออกแบบรูปร่างดวงโคมได้อิสระกว่า สามารถส่องสว่างให้ทัศนวิสัยดีกว่าไฟตัดหมอกอย่างเทียบ กันไม่ได้ เรื่องนี้ ใครเคยขับเจ้า ซูซูกิ คาริเบียน จะรู้ดี ทั้งที่ดวงโคม เป็น Seal Beam ธรรมดา แต่ว่าอยู่สูง สามารถส่องได้เห็น ดีจริงๆ โดยส่วนตัว ผมเลยไม่ค่อยใช้ไฟตัดหมอก เพราะมันสู้ โคมไฟหน้าธรรมดาๆ ไม่ได้เลย ผมจะเปิดไฟตัดหมอกต่อเมื่อ: ๑) หมอกลง ๒) ฝนตกหนัก ๓) ติดไฟแดง แล้วคันหน้าเป็นรถกระบะ ติดกันชน โครเมียมวาวๆ ผมรำคาญ ก็จะปิดไฟหน้า เปิดเจ้าไฟ ตัดหมอกแทน พอรถห่างกัน ผมก็ปิดไฟตัดหมอก เปิดไฟ หน้าขับต่อไป เพราะสว่างกว่า จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 23 ก.พ. 48 21:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเคยบอกไปหลายทีแล้ว เรื่องแสงไฟรบกวนการมองเห็น  ผมว่าคุณจะเคยได้อ่านไปหลายรอบแล้ว ใครอยากเปิดก็เปิดไปครับ ผมไปบังคับไม่ได้ แต่ระวังเอาไว้หน่อยเถอะ  อย่าให้คนในครอบครัวไปเดินข้ามถนนหลังรถประเภทนี้ เพราะผมเคยเห็นรถชนคนลอยขึ้นฟ้ามาแล้ว คิดว่าคงเข้าใจ ส่วนเรื่องผมขับรถเร็ว  ผมยอมรับว่าเร็วจริง  แต่ผมไม่ได้ขับเร็วอย่างนั้นทุกวัน และถนนที่ผมขับ  มันก็มีอยู่เส้นเดียวในเมืองไทย ถ้าผมขับคนเดียวบนถนน  ถามหน่อยนะครับว่าผมจะไปชนกับใคร ส่วนที่บอกมาว่า " คนอื่นอาจจะขับหรือกะระยะไม่เป็นก็ได้ " ถามจริงๆเถอะนะครับว่ามันเป็นความผิดใคร คุณขับ 120km/h ก็เจอคนแบบนี้ได้เหมือนกัน กฏก็คือกฏครับ  มีกฏก็ต้องบังคับใช้ ไฟตัดหมอก ไม่มีหมอกก็ห้ามเปิด  ใครเปิดก็โดนจับ ขับเร็วก็ผิดกฏ  ซึ่งถ้าผมโดนจับผมก็ยอมรับ เข้าใจอะไรให้มันง่ายๆหน่อยก็จะดีนะครับ จากคุณ : ton99 - [ 23 ก.พ. 48 22:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้ามองถึงเรื่อง กฏ แน่นอนมัน ผิด อันนี้ทุกคนรู้ มีสิทธิจับ แต่ผมอยากจะลองแชร์ไอเดียดูบ้างในเรื่องของการแยงตา ซึ่งผมก็คิดเอาตามมุมมองของผมว่า รถที่มีไฟใต้กันชน( บางคันไม่ใช่ไฟตัดหมอก) มันก็ไมได้แยงตาทุกคันแค่นั้นเอง และหลายคนก็เปิดโดยที่คงไม่ได้คิดเรื่องแยงตาเท่าไรไรนักหรอก เห็นสว่างก็เปิดกัน ส่วนเรื่องขับเร็ว ถ้าคุณคิดได้แบบนั้น ผมก็ชื่นชมครับ เพราะหลายครั้งที่อ่าน ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าคุณดูจะภูมิใจกับการขับเร็ว ๆ แบบนั้นเหลือเกิน แค่นั้นเอง เพราะเป็นผม ไม่กล้าเอามาลงเวบสาธารณะแบบนี้แน่นอน ส่วนเรื่องความสามารถของผู้ร่วมถนนท่านอื่น ผมตระหนักเสมอครับ เพราะผมเองเกือบแย่ กับพวกที่กะระยะApproaching Speed ของรถเลนขวาไม่เป็นมาหลายครั้งแล้ว เคยอัดเลนขวามาเต็ม ๆ พวกบางคันขับเลนกลางเห็นว่าเรายังอยู่ไกล ก็เลยเบี่ยงออกมาขวา แต่หารู้ไหมว่าที่ความเร็วขนาดนั้น อีกแป๊บเดียว ผมก็มาถึงรถคันนั้นแล้ว แต่ถ้าคุณคิดว่าบนถนนเส้นนั้น มันมีแต่คุณอยู่คนเดียวทุกครั้งที่ใช้ความเร็วระดับนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ผมแค่มาเตือนตามประสาคนที่เคยเจอมาและอยากให้คนอื่นตระหนักแบบผมบ้างแค่นั้นเอง มันไม่ใช่ความผิดเราหรอกครับ ที่ความเร็ว 120 จะเจอคนแบบนี้ได้ด้วยก็จริง แต่ที่ 120 กับที่ 200 อย่างไหน จะแก้ไขสถานการณ์ได้ง่ายกว่ากันล่ะครับ หวังว่าคงเข้าใจนะครับ จากคุณ : ไม่เข้าใจ - [ 23 ก.พ. 48 23:29:13 A:61.91.185.178 X: TicketID:069571 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อีกสาเหตุที่ผมยกประเด็นขับรถเร็วนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่า ทุกครั้งที่ผมเห็นว่าคุณนำเรื่องความเร็วสูงสุดมาพูด พร้อมกับ ถ่ายรูปมาลงในเวบ ผมก็เห็นเป็นตอนกลางวัน (ที่น่าจะมีเพื่อนร่วมถนนเยอะ) ทุกครั้ง และยังใช้อีกมือถ่ายรูปหน้าปัดมาได้ด้วย ก็เลยคิดว่ามันน่าจะไม่ปลอดภัยนักไงครับ หรือถ้าพูดตรง ๆ ก็คือ สำหรับผมแล้ว เป็นการกระทำที่น่ากลัวมาก ๆ ครับ จากคุณ : ไม่เข้าใจ - [ 23 ก.พ. 48 23:34:05 A:61.91.185.178 X: TicketID:069571 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับผม 200 ก็ไม่ถือว่าเร็วอะไรเลย  บางคนอาจจะบอกว่าช้าไปซะด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องไฟตัดหมอก คุณอาจจะสนใจแค่แยงตาหรือไม่เท่านั้น ผมอยากจะบอกว่า  ถึงจะไม่แยงแต่มันก็รบกวนการมองเห็นครับ คนหลายคนสนใจแค่ความปลอดภัยของตัวเอง  คนอื่นจะอันตรายขึ้นก็ช่างหัวมัน คุณเป็นคนอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า  ช่วยตอบผมทีครับ ความจริงกระทู้นี้มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับขับรถเร็วเลย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะยกมันเข้ามาเกี่ยวข้องทำไม หรือว่าคุณต้องการแค่เพียงจะบอกว่า  ผมขับรถเร็วไม่มีสิทธิ์จะมาพูดเรื่องความปลอดภัย อย่างนั้นหรือ?? จากคุณ : ton99 - [ 23 ก.พ. 48 23:52:56 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องไฟตัดหมอกนี่ เอาเป็นว่า อยากก็จับกันไปละกัน ยังไงมันก็คือกฏ เพียงแต่อยากจะลองขยายความดูบ้างว่า มันแยงตาและรบกวนสายตาทุกคันจริงหรือไม่ เพราะผมว่าก็มีหลายคนที่คิดเหมือนผม เลยลองยกประเด็นขึ้นมา ถ้าผมไม่สนใจความปลอดภัยคนอื่น ผมไม่มาเตือนให้เมื่อยมือหรอกครับ เพราะผมรู้สึกว่าเวลาที่คุณขับรถเร็วแล้วถ่ายรูปมันอาจจะเป็นอันตราย (กับเพื่อนร่วมถนนคนอื่น ซึ่งอาจจะรวมถึง ผม หรือ คนที่ผมรู้จัก ) ก็ขอโทษที่ยกมาพูดในกระทู้ไฟตัดหมอก ไม่ได้คิดเรื่องอะไรลึกซึ้งขนาดที่ว่ามีขับรถเร็วไม่มีสิทธิอะไรขนาดนั้นหรอก ผมมองว่ามันเกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่อง ของการทำผิดกฏหมาย และ เรื่อง ความอันตราย ทั้งสองประเด็น และเห็นว่าเรื่องการขับรถเร็ว ไม่ค่อยมีคนสนใจกันเท่าไรนัก เอาเป็นว่าจบเรื่องความเร็วไว้แค่นี้ละกัน เชิญเพื่อน ๆ สนทนาเรื่องไฟตัดหมอกกันต่อตามสบายครับ ส่วนเรื่องคุณขับเร็วหรือไม่ยังไง ผมขอหยุดแล้วครับ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะมาป่วนต่อนะครับ เพราะตอนนี้ผมเข้าใจความคิดคุณแล้ว ก็ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปละกันครับ จากคุณ : ไม่เข้าใจ - [ 24 ก.พ. 48 00:07:01 A:61.91.185.178 X: TicketID:069571 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อุบัติเหตุ ร้ายแรงที่เกิดขึ้นอยู่ประจำ ผมยังไม่เคยอ่าน เจอเลยว่าเกิดจากเปิดไฟตัดหมอกหรือตัดถนนที่แล้วแต่ ใครจะว่ามันเป็นไฟอะไร ส่วนใหญ่ก็เห็นแต่เมา หรือไม่ก็หักหลบเพราะทิ้งระยะไม่พอ หรือขับเร็วเกินแหกโค้ง หลับใน หลบหมาแมว ผมว่าถ้าเราประมาทในการใช้ชีวิต เมื่อไหร่ต่อให้ขับรถ เก่งอย่างไรก็ไปวัดอยู่ดี หรือรถดีแค่ไหนก็เหมือนกัน ดูคุณ นีโน่ สิ ประมาณในการใช้ชีวิตดีที่ไม่ทำให้ใครเดือด ร้อนในคราวนี้แต่ถ้าสมมุติว่ามีล่ะก็ อนาคตก็หมดเหมือนกัน สรุปว่าทำอะไรก็ไม่ควรประมาทไม่ใช่แค่เรื่องขับรถ หรอกครับ เอาง่ายสุขภาพตัวเองเนี่ย เทียบกับรถที่คุณรักเนี่ยคุณนับไมล์เพื่อจะเปลี่ยนโน่นถ่ายนี่ แต่ตัวเราเนี่ยง่ายๆ เลยใน6เดือนที่ผ่านมา ใครไปหาหมอฟันเพื่อเช็คฟันมาบ้าง ผมว่าเกินครึ่งทั้งหมดในกระทู้อ่ะที่ไม่ได้ไป หรือเรายอมจ่ายประกันรถทุกปี(เหตุผลไม่ได้ห่วงคนอื่นแต่ห่วงรถตัวเอง) แต่เราไม่ยอมจ่ายประกันสุขภาพให้ตัวเองบ้าง จากคุณ : kv ([kv]) - [ 24 ก.พ. 48 00:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ที่เปิดๆกันก็มีตั้งแต่พวก "หมอกหงอย" ยัน "หมอกไม่หงอย" หละครับ จากคุณ : โลหการ4 - [ 24 ก.พ. 48 00:52:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เปลี่ยประเด็นเป็นพวกไฟท้ายเสีย หรือฟิวไฟท้ายขาดแล้ว ไม่ซ่อมดีกว่ามั๊ยครับ ทุกวันนี้เยอะเหลือเกิน จากคุณ : hing-hoy - [ 24 ก.พ. 48 08:08:03 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ พวกรถแต่ง รถโหลดอะไรก็ทำไมไม่จับให้หมด  ดัดแปลงกันทั้งนั้น ถ้ามันเป็นอุปกรณ์มาจากโรงงานมันยังไม่เท่าไหร่หรอก   แต่พวกไปคิดเอง   พวกเปลี่ยนหลอกเพิ่ม watt  นี่  มันน่า..มาก จากคุณ : ม่อน - [ 24 ก.พ. 48 11:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมอยู่บ้านนอกครับ มีใครเหมือนผมบ้างเอ่ย จากคุณ : คนไม่แก่ - [ 24 ก.พ. 48 21:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่กล้าพูดฮะ บางทีผมก็เปิด เอาสวย จากคุณ : นายเอก - [ 24 ก.พ. 48 21:31:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 สวย ? คิดไปเองหรือเปล่าครับ ? ด้วยความเคารพอย่างสูง... ผมว่าไม่เข้าท่าครับ... เห็นใครทำแล้วรู้สึกสังเวชใจไงไม่รู้... สว่างก็ไม่สว่าง... มองเห็นถนนออกไปแค่ไม่กี่เมตรเอง... อันตรายต่อคนขับเองนั่นแหละ... จากคุณ : SCTL - [ 25 ก.พ. 48 07:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 36 พูดถึงไฟตัดหมอกท้าย ก็ยังงงกับ vios ครับมีที่ฉีดน้ำอันเดียวแต่มีไฟตัดหมอกท้ายมาสองอันไม่รู้จะมีทำไม แต่ผมเห็นตอน vios เปิดแล้วมันสว่างมากกับไฟท้ายแบบนี้ อีกคันเคยเจอ bmw เปิดไฟหน้าปกติแต่ไฟท้ายเป็นไฟตัดหมอกครับสงสัยไฟท้ายจะขาดทั้งสองข้างตามประสา bm ขับตามนี่ต้องหลบครับโดยเฉพาะตอนเค้าเหยียบเบรคมันติดพร้อมกันหมด ขับหลบเปลี่ยนเลนซะก็หมดเรื่องไม่เสียอารมณ์ เลยอยากถามว่าไฟเบรคกับไฟตัดหมอก วัตต์เท่ากันเปล่าครับ จากคุณ : ping - [ 25 ก.พ. 48 08:20:24 A:210.1.44.253 X: TicketID:006630 ]