ความคิดเห็นที่ 1 โดย Buick ได้หวนกลับมาใช้เครื่องยนต์ V8 อีกครั้ง โดยมีให้เลือกทั้งรุ่น V8 ขนาด 4.6 ลิตร DOHC 32 วาล์ว (LD8) ให้แรงม้าสูงสุดถึง 275 แรงม้า/5600 รตน. และให้แรงบิดสูงสุดที่ 407 นิวตันเมตร/4400 รตน.   และเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.8 ซีรีส์ III 12 วาล์ว (L26) ที่ประจำอยู่ในลูมิน่าในบ้านเรา โดยให้แรงม้าสูงสุดเพียงแค่ 195 แรงม้า/5200 รตน. ให้แรงบิดสูงสุดที่ 305 นิวตันเมตร/4000 รตน. เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นใช้น้ำมันแบบ Regular (ออกเทน 87) ที่สำคัญ รถรุ่นนี้ใช้การขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า!!! โดยจะขึ้นไลน์ประกอบกันที่ Detroit Hamtramck Assembly, Detroit จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โดยระบบช่วงล่างด้านหน้ายังใช้แบบแมคเพอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังใช้แบบมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง โดยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันค่อนข้างไม่(ประหยัด)นัก โดยวิ่งในเมืองและนอกเมืองใช้น้ำมันถึง 20/29/25.3(Combined) สำหรับรุ่น 3.8 ลิตร และ 17/26/23.5Z(Combined) สำหรับรุ่น V8 4.6 ลิตร ในระยะทางไมล์ต่อแกลลอน ต่อน้ำมันเต็มถัง 18.5 แกลลอน (70 ลิตร) จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ภายใน สำหรับรุ่น V6 เน้นความเรียบง่าน ส่วนรุ่น V8 นั้นเน้นความหรูหรา อลังการ ตามสไตล์พวก Yankee โดยภายในห้องโดยสารนั้นให้ความสะดวกสบาย และลูกเล่นต่างๆมากมายทั้ง ระบบ DVD วิทยุแบบ XM แซทเทิลไลท์ ซั่งสามารถเล่นได้ทั้ง CD,MP3 และ XM (SDARS) reception capability. โดยระบบ XM มีความพิเศษตรงที่... XM delivers 100 channels of music, news, sports and children's programming in a digital format via satellite, providing coast-to-coast coverage. Thirty-six presets are available with the selection of XM Satellite Radio, และระบบนำทางของ GM (Onstar) พร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:29:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ช่องระบานความร้อนซึ่งนำความคิดมาจาก Buick Roadmaster ในช่วงยุค 50'S จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การดีไซน์ (ขี้เกียจแปล) "Our design goal was to create a new look and vision for Buick design – one that evokes an elegant, contemporary statement for a premium sedan,” said Design Director John Manoogian. “Proportion and stance were the building blocks that enabled the design process. Lucerne is instantly recognizable as a Buick, in a clean, taut package." จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กระจังหน้าแบบ Waterfall (ไม่สวยเลย ผมว่า) กันชนใช้แบบโพลีคาร์บอนเนต มาคูกับไฟตัดหมอกคาดโครเมียม โดยรูปทรงที่เพรียวลม คู่กับตัวถังที่ยาวถึง 204 นิ้ว ( 5,182 มม.) ซึ่งการขับขี่การออกตัวในรุ่น V6 อาจจะดูอืดไปบ้าง ส่วนล้อแม็กมีทั้งแบบ 16,17 นิ้วและ 18 นิ้ว(แบบชุบโครเมียม) แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 48 23:53:35 จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฐานล้อยาวถึง 2934 มม. น้ำหนักในรุ่น CX, 1707 กก. CXL, 1800 กก. CXS, 1820 กก. โดยในขณะนี้ราคาไม่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย และกำหนดการขายในช่วง Fall รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.buick.com/lucerne/ (ขอบคุณครับที่ติดตามเยี่ยมชมบทความของผม ซึ่งอาจจะดูแปลแบบลวกๆไปบ้างซึ่งก็ต้องขออภัยด้วยเพราะผมแปลกันแบบสดๆเลยไม่ได้เตรียมข้อมูลมาเขียนไว้ก่อน) Copyright all, 2005 MOTORCAR BY MR.RUNABOUT จากคุณ : MR.Runabout - [ 25 ก.พ. 48 23:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ไฟหน้ากับกระจังหน้า ทำไมดีไซน์ยังงี้หว่า จากคุณ : Niceguy_C - [ 26 ก.พ. 48 00:14:24 A:61.90.49.95 X: TicketID:004452 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าเป็นความรู้สึกของผมนะ  คือผมไม่ได้รู้ว่าคนอเมริกันเค้ามีความชอบแบบไหน แต่บอกตามความรู้สึกของผม  ที่อยู่เมืองไทย ผทว่า ตัวนี้ น่าจะหนาวมากกว่า ข้างในก็ไม่สวย กระจังหน้าสุดเห่ย ไฟท้ายไม่มีเอกลักษณ์ นึกว่า 3   แมกซิมา สวยกว่าเพียบ อวาลอนก็ยังสวยกว่าอีก จากคุณ : mm_takky - [ 26 ก.พ. 48 00:16:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10 1. รถรุ่นนี้ จริงๆแล้วต้องอ่านว่า ลูเซิร์น จ้ะ 2. บอกพี่ทีเถอะว่านี่ไม่ใช่ พัสสาทโมเดลเชนจ์ เปลี่ยนโลโก? บั้นท้ายนี่อย่างกับแกะโคลนนิง! มันไม่มีเอกลักษณ์ของตัวเองเลย เสียดายเจ้าพาร์ค อเวจี เอ้ย อเวนิว แล้ว็เจ้าเซ็นจูรี/รีกัล ซีดาน ที่จากไป.... 3. เรื่องบทความ เป็นการเริ่มต้นที่ดีนะ แต่ยังต้องฝึกอีกเยอะ!! มันเหมือนอ่านงานเขียนของพี่เอง เมื่อตอนเริ่มต้นใหม่ๆเลยหวะ! จากคุณ : JIMMY - [ 26 ก.พ. 48 01:19:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11 รู้สึกเหมือนกันครับว่าพักหลัง รถในเครือ GM ออกแบบ มาไม่โดนใจ(คนไทย)ถึงผมจะมีรสนิยมมะกันอยู่หน่อยๆ แต่เท่าที่ดูระยะหลังๆนี้รถมะกันยุคใหม่ๆ ดูมันมั่วๆ แต่เท่าที่เห็นแล้วคิดว่าสวยนี่ก็คงจะเป็น G6 ของพอนทิเอค และ 300C ของเครือไครสเลอร์ครับ ปล. Park Avenue สวยกว่าอีก ถ้าจะให้พูดถึง Park Avenue ก็อาจจะต้องร่ายยาว พูดถึง บิวอิค(Buick)กันคร่าวๆก็แล้วกัน ถ้าจะพูดถึงบิวอิค เอกลักษณ์ของรถยี่ห้อนี้จริงๆเลยก็จะมี กระจังหน้าทรง Water Fall กับรูระบายความร้อนเครื่อง ตรงด้านข้างฝากระโปรง เน้นว่าต้อง 4 รูนะ บิวอิคคือรถแบรนระดับหรูของยักษ์ใหญ่ GM เป็นรองแค่ แคดดิเเลค(Cadillac) จุดกำเนิดเริ่มต้นก็นมนานกาเลย้อน ไปยุค 20 ปลาย - 30's นู่นแนะที่มาของชื่อยี่ห้อผมยัง ทราบไม่ชัด แต่ พอนทิแอคนี่เป็ยหัวหน้าชนเผ่าอินเดียน แดง พาร์คอเนนูว ที่จริงแล้วเป็นรุ่นย่อยของรุ่น อิเลคตร้า อีกที แล้วก็แยกออกมาเป็น บิวดิค พาร์ค อเวนูวเฉยๆ เพื่อที่จะ ยุบรุ่น อิเลคตร้า คาดว่าเพราะเป็นชื่อรุ่นที่ไม่ได้รับความ สนใจแล้ว ต่อมา พาร์ค อเวนูว ก็คงจะไม่ได้รับความสนใจ เท่าที่ควรเหมือนกัน จึงจะยุบเพื่อเพิ่มรุ่นใหม่ๆ หรือปรับ เปลี่ยน Section (แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนนิหว่า) แต่เท่าที่ดูก็คาดว่าคงจะเป็นรุ่น Top line ของ Buick อยู่ดี เพราะ อิเลคตร้า ก็เป็นรถระดับ Full Size Sedan อยู่แล้ว (รูป 2001 Buick Park Avenure ดูสวยสุดแล้วล่ะ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 48 01:33:00 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 48 01:30:52 จากคุณ : Bombe - [ 26 ก.พ. 48 01:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ่อลืมไปว่ามัน Minnor Change แล้วในปี 2002 เลยเอาไอ่นี่มาให้ชมอีกที 2002 Buick Park Avenue จากคุณ : Bombe - [ 26 ก.พ. 48 01:37:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วก็นั่งย้อนอดีตต่อไปถึง 80's Buick Electra Park Avenue (ชื่อยาวชิปเลย) จากคุณ : Bombe - [ 26 ก.พ. 48 01:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เอ่อ.....  ผมรู้สึกไปเองคนเดียวรึเปล่าครับ มองผ่านๆ นึกว่า ALTIS MINORCHANGE จากคุณ : วาบหนึ่ง - [ 26 ก.พ. 48 11:15:29 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องทำใจกับวิศวกรรมของGMครับ ดูเครื่องของCorvetteสิ ตัว ZR-1 ใช้เครื่อง DOHCทันสมัยสุดๆ(ในสมัยนั้น ที่อุตส่าห์พัฒนาร่วมกับโลตัส) แต่พอตกรุ่น กลับไปใช้เครื่องOHVห่วยๆเหมือนเดิมอีกละ และ ดูเหมือนGMจะวิ่งตามตูดชาวบ้านเขาไปตลอด ทั้งที่ชาวโลก แคมกระดิกกันหมดแล้ว แต่GMยังไม่มี และ เครื่องดีเซลของGM ยังขับแคมฯด้วยโซ่+เฟือง และ กดวาล์วด้วยกระเดื่องอยู่เลย แถมยังต้องซื้อหัวฉีดของชาวบ้านมาใช้อีก ถ้ารถอเมริกัน ขายไม่ค่อยออก อย่าโทษรถญี่ปุ่น+เกาหลี ที่ไปตีตลาด แต่ต้องโทษตัวเอง ที่ออกแบบรถได้ห่วยเอง จากคุณ : เรารักบัตรผ่าน - [ 26 ก.พ. 48 12:43:23 A:203.130.133.210 X: TicketID:006959 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ช่ายยย คิดเหมือนพี่จิมมี่เลย เหมือน Passat 2005 เด้ะๆ แต่ก็เอาเต๊อะ ถ้าคิดจะพัฒนาดีไซน์ รุ่นนี้ก็ถือว่า พัฒนาได้มากทีเดียว ไม่เชื่อก็ลองย้อนไปดูรูป Elactra Park Avenue ปี 80 จิ โห โคดสงสารคนที่ถูกรถคันนี้ชนเลย เจ็บหน้าดู เหลี่ยมซะ จากคุณ : [JUSTIN] - [ 26 ก.พ. 48 13:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวยนะ แต่ออกแนวเทอะทะตามสไตล์จีเอ็มเรยล่ะ -*- จากคุณ : WaTeRz - [ 26 ก.พ. 48 16:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบพี่จิมก่อน 1.ผมเปิดใน Dictionary ไทย-ฝรั่งเศส เขาอ่านออกเสียงแบบนี้จริงๆนะครับ 2. ผมก็ว่างั้นแหละ เหมือนโฟลค์กลายๆเลย... (ผมชอบพาร์ค อเวนูว รุ่นเก่ากับเจ้ารีกัลตัว MY2004 นะ ดูสวยกว่าเยอะ) 3.อันนี้ มันก็ไม่เชิงบทความครับ เพราะผมต้องรีบพิมพ์แข่งกับเวลาครับผม เลยดูออกมาแล้วภาษาไมค่อยสละสลวยเท่าไหร่ครับ ก็จริงครับที่ผมยังต้องฝึกอีกเยอะ... คห.11 Bombe บูอิค ผู้ก่อตั้งคือ David Danber Buick (1854-1929) ผู้อพยพจาก Scotland มาก่อตั้งบริษิทรถยนต์ในปี 1902 แต่ธุรกิจเจ๊งกอขายรถคันแรกได้ เขาเสียชีวิตขณะเป็นเสมียนในโรงเรียนช่างฝืมือแห่งหนึ่งใน Detroit ส่วนของปอนติแอค เข้าใจถูกแล้วครับ คห.15 พวกมะกันไม่นิยม DOHC ครับ เพราะเขาคิดว่า OHV มันบำรุงรักษาง่ายกว่าครับ และที่สำคัญพวกมะกันมัน "บ้าพลัง" เอามากๆ ซึ่งผิดกับพวกยุโรป ทั้งๆที่พวกนี้ส้วนมากก็อพยพมาจากยุโรปทั้งนั้น... แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 48 23:51:16 จากคุณ : MR.Runabout - [ 26 ก.พ. 48 23:47:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนื่องจากรถรุ่นนี้ เป็นรถอเมริกัน ดังนั้น พี่เลือกจะอ่านออกเสียงตามฝั่งอเมริกาครับ การจะอ่านออกเสียงตามภาษานั้น บางครั้งเราต้องดูด้วย ว่ารถเปิดตัว ที่ประเทศใด รถสัญชาติใด จากคุณ : JIMMY - [ 27 ก.พ. 48 01:19:46 ]