ความคิดเห็นที่ 1 "ให้กำลังเครื่องได้มากที่สุด" ก็ Valvoline นั่นล่ะครับ หรือ ยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ ลงท้ายด้วย w30 (กินแรงปั้มน้ำมันเครื่องน้อย) เกรด SL ขึ้นไป จากคุณ : ถัง - [ 10 พ.ค. 48 23:02:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากครับคุณถัง แล้วตอนนี้คุณถังใช้รุ่นไหนอยู่หรอครับ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ (deric) - [ 11 พ.ค. 48 01:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วแต่ละยี่ห้อข้างบนนี่มันต่างกันยังไงครับ แบบว่ามีจุดเด่นยังไงบ้าง จากคุณ : นู๋มาลีมีลูกแมวเหมียว - [ 11 พ.ค. 48 02:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าที่ตัวน้ำมันอย่างเดียว 0w-40 เจ๋งกว่า 5w-30 ครับ เพราะมีค่า Viscosity index สูงกว่า แต่ถ้าจะเอาไปใส่ในรถต้องถามผู้ผลิตเครื่องเอาว่าใช้เบอร์ไหนดีกว่า เครื่องแต่ละรุ่น แต่ละที่สภาวะอุณหภูมิ  จะใช้น้ำมันเครื่องที่มีเบอร์แตกต่างกันออกไป ใช้เบอร์ไหนดี  ดูในคู่มือรถเอาครับ จากคุณ : ton99 - [ 11 พ.ค. 48 02:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 0w-40 ตาม spec แล้วเหนือกว่า 5w-30 คะ. ทำไม? 0 ตัวหน้า=ค่าความหนืดคะ เปรียบเทียบกับน้ำเปล่าคะ 0=หนืดเท่าน้ำเปล่าคะ คุณ Deric ลองเขย่าเปรียบเทียบกันได้คะ ระหว่าง0W-20W จะรู้สึกเเตกต่างคะ ส่วนเลขตัวหลังเเนะนำ ให้ใช้ 40+ คะ. ทำไม เลขตัวหลัง=ค่าการทนความร้อนของน้ำมันคะ ยิ่งมากก็ยิ่งทนความร้อนได้สูงคะ สำหรับเกรดต่ำกว่า 40 คิดว่าไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยคะ เลือกใช้น้ามันเครื่องก็ควรเลือก ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ สภาพอากาศ รวมถึงเงินในกระเป๋าด้วยคะ นี่เอาเเบบย่อและเข้าใจง่ายนะคะ ส่วนตัวใช Castrol Magnetic 10w-40คะ อาศัยเปลี่ยนบ่อยๆคะ ลองเทียบราคานะคะ 10w-40 550b/Gallon change every5000km 0w-40 1600b/Gallon change every 10000 km ส่วนตัวคิดว่าเอาสดดีกว่าคะเปล่ยน 2 ครั้งถูกกว่าแล้วกรองก็เปลี่ยนทุก 10000 โลคะ คุณ Ceric ลองดูแล้วตัดสินใจนะคะ จากคุณ : Oat - [ 11 พ.ค. 48 03:01:13 A:58.9.142.91 X: TicketID:097624 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้ไม่เกี่ยวกับกระทู้แต่อย่างใด ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้อย่างแรง คุณ Oat คะ คำว่า "คะ" ไม่ได้ใช้ได้ในทุกประโยคนะคะ บางประโยคก็ต้อง "ค่ะ" ด้วยค่ะ ตัวอย่างครับ แค่อยากบอกครับ ไม่สนใจว่าหญิงจริงหรือปลอม จากคุณ : คนควน - [ 11 พ.ค. 48 07:46:35 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างความเห็น 5 พูดมาน่าจะไม่ถูกทั้งหมด ไม่ใช่เบอร์ 40 จะดีกว่าเบอร์ 30 ในทุกกรณี ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถที่ยังวิ่งไม่เกิน 50,000 ก.ม. ใช้เบอร์ 30 น่าจะดีกว่าเบอร์ 40 เพราะความหนืดใสกว่า ทำให้ไปเคลือบเครื่องยนต์ได้เร็วกว่า แต่ถ้ารถใช้งานมามาก น่าจะใช้เบอร์ 40 และถ้าใช้งานเป็นสิบปี น่าจะใช้เบอร์ 50 ความเห็นผมเท่าที่ทราบมีเท่านี้แหละครับไว้รอยท่านอื่นๆ ให้มาช่วยตอบอีก จากคุณ : Twister - [ 11 พ.ค. 48 08:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เดิมใช้แบบสังเคราะห์ 100 % ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้แบบกึ่งสังเคราะห์แล้วล่ะ เพราะรถเก่า 8 ปี 250000 กม. แล้ว ใช้ของดักแฮม กึ่งสังเคราะห์ 10W-40 ราคา 440 บาท/4ลิตร ประหยัดเงินดีด้วย จากคุณ : tem - [ 11 พ.ค. 48 10:25:14 A:203.150.101.84 X: TicketID:095877 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่มเติมครับ เปลี่ยนทุกๆ 10000 กม. ครับ จากคุณ : tem - [ 11 พ.ค. 48 10:27:29 A:203.150.101.84 X: TicketID:095877 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ดูตามคู่มือดีที่สุดครับ  แต่ตอนนี้ผมลองของ ptt synetic sm อยู่  ใช้ดีครับ  อุดหนุนคนไทย  เงินทองไม่รั่วไหล จากคุณ : ตี๋วี (ตี๋วี) - [ 11 พ.ค. 48 10:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตั้งแต่มี 4 ล้อใช้ ก่ไม่เคยใช้ ซินเทติคกับมันเลย ใช้แต่ semisynthetic ของปตท. ก่ไม่ได้ว่าดี แต่ก่ไม่แย่ และสนับสนุนไทยอ่ะนะ ตอนใช้ มอร์ไซด์ใหญ่ 650 cc  ( พวกบิกไบค์ บิดที รอบก่ขึ้นเหยียบหมื่นอ่ะนะ ).. ก่ได้ใช้ synthetic ของ Mobil1 บ่อยที่สุด อีกตัวก่ Motul ส่วน Castrol Caltex ไม่ไหว ใช้แล้วสงสารรถ.. ไม่มีกำลังอัดเลย (จากประสบการณ์ส่วนตัวคับ) จากคุณ : redEvil5599 - [ 11 พ.ค. 48 13:17:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกท่านมากๆคับ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ (deric) - [ 11 พ.ค. 48 14:57:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 11 พ.ค. 48 20:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ #2 เดิมใช้ Mobil1 Delvac 5w40 CI-4 ตอนนี้ใช้ บางจาก D3 Gold 5w30 CI-4 เร่งลื่นขึ้นเห็นๆครับ ต้น99 0w40 มี Viscosity index สูงกว่า สูงกว่ายังไง ? มันไปขาดทุน (หนืด) ในช่วงอุณหภูมิสูงกว่าไม่ใช่ ฤ? จากคุณ : ถัง - [ 12 พ.ค. 48 03:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณถัง นอนดึกจัง เลือกไม่ถูกซะที วันนี้เลยตัดสินใจไปซื้อ Mobil 0w-40 ขวดทอง ซะเลย ได้ยินหลายเชียร์กันจัง จากคุณ : เจ้าของกระทู้ (deric) - [ 12 พ.ค. 48 03:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้ว Mobil xx-w50 มันมีป่ะครับ แล้วใส่กับรถใหม่ เพิ่งพ้นรันอิน มันจะเป็นไรป่าวเนี่ย เห็นคำแนะนำของ #7 แล้ว ให้ใช้ เลขน้อย ๆ กับรถใหม่ จากคุณ : กลัวเลือกผิด.. - [ 12 พ.ค. 48 08:38:16 A:203.170.228.229 X: TicketID:085451 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คาสตอลตัดได้เลยครับ ไม่เท่าไหร่ พึ่งเปลี่ยนวาโวลีนมารู้สึกว่าวิ่งลื่นขี้นมากครับ เร่งก็ดี เครื่องเดินเงียบขึ้น โมบิลก็ดีอยู่แล้วเลื่อให้เหมาะกะรถแต่ละประเภทแล้วกัน แต่โมบิลติดที่แพงไปหน่อย จากคุณ : ในธรรม - [ 12 พ.ค. 48 22:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 18 0w-40 มันรักษาความข้น-ใส ได้ดีกว่า ตอนเย็นก็ข้นไม่มาก ตอนร้อนก็ใสไม่มากค่า Viscosity index จึงสูงกว่า รายละเอียดลึกๆต้องถามท่านที่รู้จริงๆเอาครับ ผมก็รู้แค่งูๆปลาๆ ถ้าว่าที่ตัวน้ำมัน 0w-40 ดีกว่า แต่ถ้าเอามาใส่ Civic ผม  ผมเลือก 5w-30 จากคุณ : ton99 - [ 13 พ.ค. 48 17:22:31 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มาตรฐานของน้ำมันเครื่องที่เรารู้จักกันก็มาจาก 2-3 หน่วยงานส่วนใหญ่เป็นของสหรัฐ ก็คือ SAE : Society of Automotive Engineer API:  American Petroleum Institute ACEA: European body for oil specifications คราวนี้ ค่าที่ใช้มันปนกันอยู่ครับ คือของ API จะบอกเกรดหรือ Performance classes ของน้ำมันเครื่อง ที่เห็นกันอยู่บ่อยๆก็คือ S (spark Ignition) = gasoline engines C (compression Ignition) = Diesel engines เช่น SL, SM, CH, CI ตามแบบของเครื่องยนต์ ส่วนของ SAE จะบอกค่าความหนืด Viscosity Index  ณ อุณหภูมิที่ -18 C (มี W กำกับไว้) และ +100 C เช่น 10W-40 Viscosity   =   flow property of liquids Viscosity index (VI) =   measures the flow behaviour at different temperatures น้ำมันเครื่องที่ใช้ควรดูว่าทำมาจากน้ำมันพื้นฐานอะไรด้วย เช่น Mineral Oil, SemiSynthetic, Hydrocrack และ Fully Synthetic Oil ซึ่งจุดวิกฤตที่ใช้วัดคุณลักษณะของน้ำมันเครื่องก็คือความสามารถ(เวลา)ในการไหลไปสู่จุดที่ไกลที่สุดที่ต้องหล่อลื่น จากก้นอ่าง ซึ่งน้ำมัน Synthetic ใช้เวลาสั้นที่สุด ความสึกหรอของเครื่องยนต์ก็น้อยกว่าด้วยครับ จากคุณ : FlyingThunder - [ 17 พ.ค. 48 08:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รูปแสดงค่าดัชนีความหนืด จากคุณ : FlyingThunder - [ 17 พ.ค. 48 08:49:00 ]