ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ปรากฎว่าได้รับการคัดค้านจากปลัดกระทรวง และผู้ดำเนินงานมาแต่ต้นอย่างหนัก เพราะถือว่าผิดหลักการ หรือกรอบที่วางไว้ในเรื่องของความคล่องตัว และแก้ไขปัญหาจราจร ในที่สุดสเปกอีโคคาร์ใหม่จึงออกมาในรูปแบบแบบประณีประนอมแทน             “ขณะนี้ได้สรุปสเปกรถยนต์เล็กประหลัดพลังงาน (ACES CAR) หรืออีโคคาร์เดิม โดยมีความกว้างที่ 1.63 เมตร ยาว 3.6 เมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร มาตรฐานมลพิษระดับ 4 และมาตรฐานความปลอดภัยเช่นเดียวกับยุโรป ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.5-4.0 แสนบาท” รัฐมนตรีฯ อุตสาหกรรมกล่าว       จะเห็นว่าสเปกอีโคคาร์ หรือชื่อใหม่ ACES CAR ได้มีการเพิ่มขนาดความกว้างของตัวถังออกไปอีก 30 มม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงจากเดิม 5.6 ลิตร ต่อ 100 กม. เหลือเพียง 5 ลิตรเท่านั้น ขณะที่ราคายังคงยืนอยู่ในระดับกว่า 3-4 แสนบาท ซึ่งน่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด (ดูตารางประกอบ) จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หมายเหตุ : ยังไม่เป็นทางการ       อย่างไรก็ตาม สเปกดังกล่าวยังไม่ถือว่าได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตราบใดที่ผลประโยชน์ของบริษัทรถยนต์แต่ละรายยังไม่ลงตัว และจุดยืนของรัฐบาลไม่มีความชัดเจน แต่หากยึดเอากรอบสเปกใหม่นี้เป็นมาตรฐาน ก็พอทำให้สามารถโฟกัสรถยนต์รุ่นต่างๆ ของแต่ยี่ห้อ ที่เปิดเผยถึงความสนใจเข้าร่วมโครงการได้มากพอสมควร             เริ่มกันที่ค่าย “เกีย” ซึ่งหงายไพ่ชัดเจนตั้งแต่แรกว่า หากรัฐสนับสนุนโครงการรถขนาดเล็กประหยัดพลังงาน พร้อมที่จะส่งรถยนต์ซิตี้คาร์ เกีย พิแคนโต (Picanto) เครื่องยนต์เบนซิน รหัส SA มีขนาดความจุ 1086 ซีซี 4 สูบ 64 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 26.2 กม./ลิตร ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. สำหรับเกียร์ธรรมดา และ 24.9 กม./ลิตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ภายใต้มิติตัวถังความกว้าง 1.595 เมตร ความยาว 3.495 เมตร ลงทำตลาดในไทยทันที ด้วยราคาเคาะไม่เกิน 4 แสนบาท เรียกว่าผ่านข้อกำหนดของ ACES CAR ทุกข้อ จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมาด้วยค่าย “ซูซูกิ” ที่นับวันรอเวลารัฐบาลเคาะสเปกอย่างใจจดใจจ่อ และเห็นว่าซูซูกิมีรถเล็กหลากหลายรุ่นที่เหมาะทำตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็นรุ่น IGNIS หรือ WAGON R+ หรืออาจจะร่วมมือกับจีเอ็ม (ผู้ถือหุ้นในซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น) เพื่อทำการผลิตรถเล็ก โดยใช้แพลทฟอร์มเดียวกัน แต่แยกแบรนด์กันทำ       เมื่อลงมาสำรวจดูรถที่ถูกเอ่ยอ้างมา ดูเหมือนว่ารุ่น IGNIS เครื่องยนต์ 1300 ซีซี 83 แรงม้า จะมีความยาวของตัวถังเกินไป 15 มม. ส่วนเรื่องอื่นๆ ล้วนผ่านหมด หากซูซูกิสนใจจะทำรุ่นนี้จริงคงต้องมีการปรับแก้ไขพอสมควร แต่ก็มีโอกาสทำได้ เพราะกว่าโครงการนี้จะเริ่มดำเนินงานจริงในปี 2549-2550 รถรุ่นนี้ตลอดจนถึง WAGON R+ อาจจะมีการปรับโฉมใหม่แล้ว เพราะทั้งสองรุ่นล้วนทำตลาดมานานพอสมควร             ซูซูกิ WAGON R+ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ 1000 ซีซี 53 แรงม้า และ 1300 ซีซี 76 แรงม้า ล้วนติดตั้งอยู่บนตัวถังแบบ 5 ประตู ด้วยความยาว 3.50 เมตร และกว้าง 1.62 เมตร ซึ่งเป็นมิติตัวถังที่สอบผ่านได้อย่างสบายๆ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นรถรุ่นนี้ เพราะผู้บริหารของซูซูกิในไทยพูดถึงบ่อยมาก ส่วนรถที่จะทำร่วมกับจีเอ็มยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับรถเล็กแต่อย่างใด จะมีแห่งเดียวก็ที่อเมริกาแต่ก็เป็นรถยนต์ซีดานเท่านั้น จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:34:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาที่จีเอ็ม ประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “เชฟโรเลต” ที่มีข่าวว่าได้แจ้งให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ทราบถึงแผนการผลิตแล้ว ซึ่งแน่นอนก็คงเป็นรถยนต์ที่ร่วมมือกับแดวูพัฒนา เช่นเดียวกับ เชฟโรเลต ออพตร้า หรือเชฟโรเลต เอวิโอ ซึ่งรถเล็กที่มีความเป็นไปได้ และเข้ากรอบสเปกใหม่มากที่สุด เห็นจะเป็น เชฟโรเลต มาทิซ เอ็ม3เอ็กซ์ (M3X) ซึ่งเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของ แดวู มาทิซ ที่ทางเชฟโรเลตชิงนำมาเปิดตัว ภายใต้แบรนด์ของตัวเองในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2547 ที่ผ่านมา โดยจะเริ่มจำหน่ายในเกาหลีใต้ และยุโรปช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2549 ก่อนขยายตัวออกสู่ตลาดภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ในช่วงปลายปี 2548-2549             เชฟโรเลต เอ็ม3เอ็กซ์ มากับตัวถังแฮทช์แบ็กท้ายตัด 5 ประตู ขนาดกะทัดรัดตัวถังมีความยาว 3.5 เมตร และกว้าง 1.5 เมตร ส่วนระยะฐานล้ออยู่ที่ 2.35 เมตร สำหรับเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดมีหลายรุ่นแต่ที่น่าสนใจ คือ เครื่องยนต์ 4 สูบ 1000 ซีซี 64 แรงม้า ซึ่งให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม. จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ค่ายที่ซุ่มเงียบพัฒนาและมีแผนผลิตรถเล็กในไทยก่อนใครอย่าง “ฮอนด้า” กลับปิดข่าวเงียบสนิท นับตั้งแต่ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” รายงานไปเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวคราวอีกทีเมื่อปลายปีที่แล้ว จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ นิฮง เค ไซ ชิมบุ สื่อแดนประปลาดิบว่า......             “ฮอนด้า มอเตอร์ มีแผนรุกตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในตลาดทั่วโลก และประเทศไทยเป็นตัวเลือกสำคัญในการเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกรถเล็กรุ่นนี้ เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังพิจารณาแผนการลดภาษี เพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ หรืออีโคคาร์” สำหรับรถขนาดเล็กนี้จะพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับรุ่น LIFE ซึ่งเป็นเค-คาร์ที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่น ใช้เครื่องยนต์ขนาด 660 ซีซี แต่รถรุ่นใหม่นี้จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1000 ซีซี และคาดว่าสามารถวิ่งได้ระยะทางอย่างน้อย 20 กม. ต่อน้ำมันเบนซิน 1 ลิตร โดยฮอนด้าวางแผนจะบุกตลาดยุโรปประมาณปี 2008             ชัดเจนมากสำหรับ 4 ยี่ห้อดังกล่าว แต่ดูสวนทางกับโตโยต้า ซึ่งพยายามขัดขวางการกำหนดสเปกอีโคคาร์มาตลอด ว่ากันว่าสาเหตุมาจากโตโยต้าไม่มีแผนทำตลาดรถเล็กในไทย ส่วนที่มีข่าวก็เป็นรถแฮ็ทช์แบ็ก 5 ประตู ในชื่อรุ่น YARIS ที่จะออกมาท้าชน ฮอนด้า แจ๊ซ เหตุนี้โตโยต้าจึงต้องการนำรถรุ่นนี้เข้าไปอยู่ในกรอบของอีโคคาร์ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางการตลาด แต่หลายฝ่ายไม่ยอมเพราะผิดวัตถุประสงค์ แต่เพื่อไม่ให้ขัดใจยักษ์ใหญ่ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงประณีประนอม ด้วยการกำหนดสเปกที่โตโยต้ามีรถบางรุ่นทำตลาดอยู่             นั่นก็คือ AYGO ซึ่งเป็นรถที่เกิดจากความร่วมมือกับกลุ่ม PSA (ซีตรอง และเปอโยต์) เพื่อผลิตรถขึ้นมาทำตลาดในยุโรป แต่ไม่เคยมีข่าวว่าจะทำตลาดในภูมิภาคอื่นทั่วโลก โดยรถรุ่นนี้มีความยาว 3.405 เมตร กว้าง 1.615 เมตร ติดตั้งเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 67 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 16.5 กม./ลิตร ถือว่าผ่านสเปก ACES CAR สบายๆ จึงอยู่ที่ว่าโตโยต้าจะมีแผนผลิตรถรุ่นนี้ในไทยหรือไม่เท่านั้น จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ล่าสุด “ฟอร์ด” เป็นอีกค่ายที่ประกาศสนใจร่วมโครงการ ACES CAR โดยจะใช้เทคโนโลยีร่วมทั่วโลก (Global Shared Technologies – GST) ของฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีพื้นฐานของรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ในเครือฟอร์ด พัฒนาให้เป็นรถยนต์ประเภทต่างๆ ที่สอดคล้องกับตลาดแต่ละแห่งของตนทั่วโลก             เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในการพัฒนารถเล็กของฟอร์ด ได้มีการเปิดเผยจาก ฟอร์ด มอเตอร์ สหรัฐอเมริกาว่า ขณะนี้กำลังพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัด เพื่อที่จะเปิดตัวทำตลาดภายในปี 2005 นี้ โดยจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้อยู่ที่ราคาไม่แพง แต่มีรูปลักษณ์ที่โดนใจลูกค้าวัยรุ่น เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้สามารถตั้งราคาขายได้น่าสนใจ เนื่องจากมีการนำพื้นตัวถัง หรือแพลทฟอร์มรถยนต์รุ่นใหม่ของมาสด้ามาใช้ในการพัฒนา             โดยมีการเปิดเผยว่าพื้นตัวถังใหม่รถเล็กนี้ จะถูกใช้ในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในเครือฟอร์ด ทั้งเก๋งขนาดเล็กรุ่นกา โฉมใหม่ , ฟิวชัน รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก และเฟียสตา ใหม่ รวมถึงมาสด้า 2 ซึ่งจะมาทำตลาดแทนรุ่นเดมิโอ ในเวอร์ชั่นโมเดลเชนจ์อีกด้วย และทั้งหมดจะเป็นการใช้พื้นตัวถังร่วมกัน สำหรับผลิตรถยนต์ราคาประหยัด จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจาก 6 ค่ายที่กล่าวมาแล้ว “นิสสัน” เป็นอีกยี่ห้อที่สนใจจะผลิตรถขนาดเล็กในไทย แม้จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่นิสสันก็เป็นอีกค่ายที่มีรถขนาดเล็กอยู่ในมือมาก อาทิ MICRA, TUBE หรือ NOTE เป็นต้น  ดังนั้นแม้จะมีค่ายรถบางยี่ห้อ ไม่สนับสนุนรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน แต่หากรัฐบาลมีความชัดเจนในนโยบาย เชื่อว่ายังมีอีกหลายยี่ห้อที่พร้อมจะใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถประเภทนี้ จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9480000072648 จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แหม โตโยต้า จะกล้าเอา AYGO มาประกอบไทย? ซูซูกิ คงต้องรอ แวกอนอาร์พลัส ตัวใหม่มากกว่านะ ส่วนนิสสันนี่ไม่เข้าข่ายเลยสักรุ่น จากคุณ : HOMY DEMIO sport mpv - [ 1 มิ.ย. 48 19:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไหงขยับฐานราคาขึ้นเกือบเท่าพวก sub compact car แล้วล่ะ ไม่ถูกแล้วแบบนี้ จากคุณ : ....4จุด - [ 1 มิ.ย. 48 19:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 11 นิสสันน่าจะคิดทำอยู่นะ ฟอร์ด? หึหึหึ มิตซู? สงสัยลืมไปแล้วมั้ง โตโยต้า ผมไม่มองไอโก้เท่าไหร่ทั้งที่เป็นรถที่ดีและเหมาะสมกับราคาเลยทีเดียว เพราะคิดอยู่ว่ามันน่าจะมีอะไรสืบกันเล่นๆแถวๆไดฮัทสุมากกว่า ฮอนด้า นี่แหละ รถเล็ก 1.0 ลิตร ปิดเงียบตามเคย แต่ดีแล้วที่ปิดเงียบ เพราะยังไม่ใช่เวลาที่จะต้องพูดถึงรถคันนี้เท่าใดนัก จากคุณ : JIMMY - [ 1 มิ.ย. 48 19:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าดูถูกม้ามืดอย่าง ซูซูกิ  เพราะเขาถนัดด้านนี้อยู่แล้ว   และอีกอย่างกระแสตอนนี้ค่อนข้างเป็นที่กล่าวถึงเยอะ จากคุณ : กาแลนท์เขียวเมืองนนท์ - [ 1 มิ.ย. 48 20:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหอะๆ โตโยต้า ฟอร์ทูนเนอร์อย่างเดียวยังไม่พออีกเหรอ ชอบกำหนดเสป็คเข้าข้างตัวเอง แล้วให้คนอื่นตาม ไม่เห็นจะแฟร์เลย จากคุณ : joy_teiy - [ 1 มิ.ย. 48 21:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมชอบ EVO มากกว่า ECO นะ จากคุณ : REX-REX - [ 1 มิ.ย. 48 21:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตอกย้ำ // “โตโยต้า” ที่เคลื่อนไหวขัดขวางโครงการมาตลอด // // แต่ดูสวนทางกับโตโยต้า ซึ่งพยายามขัดขวางการกำหนดสเปกอีโคคาร์มาตลอด ว่ากันว่าสาเหตุมาจากโตโยต้าไม่มีแผนทำตลาดรถเล็กในไทย // จากคุณ : ton99 - [ 1 มิ.ย. 48 21:30:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เชื่อเถอะต้น ท้ายที่สุด เดี๋ยวโตโยต้าเค้าก็ต้องมีรถเล็กกว่ายาริส ในไทย อยู่ดี จากคุณ : JIMMY - [ 1 มิ.ย. 48 21:50:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วย ขัดขวางไว้ก่อน ไม่ได้แล้วก็ลงเล่น แต่ผมคิดแบบเดียวกับ Jimmy ครับว่าเอา Daihatsu มาเพราะมันคุ้มกว่าแยะ จากคุณ : K.Senior - [ 1 มิ.ย. 48 22:53:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่า อ่านแล้ว อยากซื้อมาใช้อีกคัน จะได้ช่วยกันสูบน้ำมันมากกว่าเดิม เพราะมี sedan 1 + eco car 1 จากคุณ : Vancin - [ 1 มิ.ย. 48 22:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความคล่องตัวเกิดจาก ผู้ใช้รถมีมารยาทและน้ำใจในการใช้ถนน ไม่ได้เกิดจาก รถที่มันยาวเกิน 4-5 เมตร ข้อสรุปของรถประเภทนี้น่าจะ ทนทาน ไม่ซับซ้อน ราคาอะไหล่ถูก และประหยัดน้ำมัน จากคุณ : ธนูไฟ - [ 2 มิ.ย. 48 00:44:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยกมา "นั่นก็คือ AYGO ซึ่งเป็นรถที่เกิดจากความร่วมมือกับกลุ่ม PSA (ซีตรอง และเปอโยต์) เพื่อผลิตรถขึ้นมาทำตลาดในยุโรป แต่ไม่เคยมีข่าวว่าจะทำตลาดในภูมิภาคอื่นทั่วโลก โดยรถรุ่นนี้มีความยาว 3.405 เมตร กว้าง 1.615 เมตร ติดตั้งเครื่องยนต์ 1000 ซีซี 67 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 16.5 กม./ลิตร ถือว่าผ่านสเปก ACES CAR สบายๆ จึงอยู่ที่ว่าโตโยต้าจะมีแผนผลิตรถรุ่นนี้ในไทยหรือไม่เท่านั้น" 26.5kmL ฤ ปล่าวครับคุณโฮมี่? เครื่องแค่ลิตรเดียว เดี๋ยวสอบไม่ผ่านนะครับ? อื้ม .. ผมอยากให้กำหนดราคาตัวท็อบ ห้ามเกินเท่านั้นเท่านี้ มากกว่าน่ะท่าน?? มีสักกี่คนที่ซื้อตัวเบส? มีแต่นิติบุคคลทั้งนั้น?? ไม่มีพาวเวอร์ กระจกหมุน ไม่มีแอร์แบค ผมขับในเมืองไม่ได้แน่? ไม่มี ABS, ซทล. ไม่เป็นไร เหมือนอะไรน้า? เริ่มที่ห้าแสนทอนพัน ตัวท็อบโปะอีกสองแสน .. เหมือนไม่แพง แต่แพง? เป็นค่าแอร์แถวสุดท้ายกับอิเลคโทรนิคส์ในรถ แล้วก็ที่ท่านบอกว่าจิบ 5L/100km (20km/L) วัดอย่างไรครับ? บ้านเราไม่ได้กำหนดเป็นทางการเช่นแบบ 10-15mode ของยุ่นเขา หากซื้อมาใช้ดันได้ไม่ถึงที่ว่าจะมีการฟ้องร้องไหม? อย่างไร? ที่เขียนมาเนี่ย หมายความว่าหากรถอีโคตัวท็อบแพง คุณ ๆ ที่คลิกเข้ามาก็จะต้องคอยตอบปัญหาเหล่านี้ในอนาคต "เทียบอีโคกับ Vios Turbo มือสอง เอาไรดี?" "เทียบอีโคกับ ซีวิค ได VTEC ปี 02 เอาไรดี?" อีกเยอะแยะครับ ยอดขายจะตามเป้า หากราคาไม่เบียดมือสองขนาดกลางเขามากนัก หรือตอนนั้นอาจมีข่าว รถแห่งชาติ (อ่ะ อ่ะ) ราคาถูกกว่าเจ้าพวกนี้ออกมาพอดี?? อิ อิ จะได้ขับไป ภูมิใจไป จากคุณ : Shandy - [ 2 มิ.ย. 48 00:53:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเห็นด้วยกับโตโยต้าที่ไม่ควรให้มิติรถเป็นข้อจำกัด แต่ให้กำหนดจากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง จากคุณ : กระเพราเป็ด - [ 2 มิ.ย. 48 07:32:54 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมสงสัยเรื่องมาตรฐานการวัดการสื้นเปลืองเช่นกันครับ ถ้าวัดที่ 60km/h คงที่ ก็มีคำถามอีกล่ะว่าใครจะทดสอบ เริ่มวัดตั้งแต่ตอนรถออกตัว หรือวัดเครื่องเปล่า หรือวัดตอนรถมีความเร็ว 60km/h แล้ว ใช้เวลากี่ชม. นาที ระยะทางกี่ กม. เอามาตรฐานตรงนี้ให้ชัดก่อนนะครับ Wagon R+ น่าสนครับ จากคุณ : Thongchai - [ 2 มิ.ย. 48 07:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สงสัยได้ sirion แปะป้ายพี่โตซะล่ะมั้ง จากคุณ : หมอเถื่อน - [ 2 มิ.ย. 48 15:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แล้วมิตซูหายไปไหนล่ะครับ รอตัวนี้อยู่อ่ะ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : love EVO - [ 2 มิ.ย. 48 16:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเป็นไปตามข่าวจริง โตโยต้าทำตัวน่าเบื่อมาก จากคุณ : วณิพก - [ 2 มิ.ย. 48 23:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอนนี้ คงไม่มีรถค่ายไหนคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าคู่แข่ง อย่างโตโยต้าเองก็ใช่ว่าจะแบเบอร์นอนมาอย่างที่เคยคาดกันไว้ ยังต้องเหนื่อยอีกหลาบรอบแน่ เพราะแนวคิดของวัฒนานั้น "เท่าที่ทราบ" คือ จะต้องการผลักดันรถ เอ คาร์ ไม่ใช่บี คาร์ อย่างเดียว (ข้อสรุป ต้องไปถามท่านเอง นักข่าวยังสับสน)โดยมุ่งหวังจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ภายในประเทศ ที่มีรายได้ 2 หมื่นบาทต่อเดือน รถจะมีเสปคอย่างที่ว่ากัน แต่ราคาจะอยู่ไม่น่าจะเกิน 4.5 แสนบาท ตรงนี้แหละที่ว่ากันว่าค่ายรถค่อนข้างปวดหัว เพราะถ้ามองในแง่ของการประหยัดจากขนาดการผลิต และโอกาสทางการตลาดแล้ว เขาต้องมองตลาดที่กว้างกว่านี้ และโอกาสในการส่งออกด้วย ท้ายสุด ค่ายไหนจะมีภาษีดีกว่ากัน ผมว่าน่าจะอยู่ที่ค่ายไหนมีความอ่อนตัวในการตอบสนองต่อ "ดำริ" ของนักการเมืองของไทยมากกว่ากัน รวมทั้ง ความรวดเร็วในการที่จะตอบสนองทั้ง เอ คาร์ หรือ บี คาร์ อะไรก็แล้วแต่ที่ท่านจะเลือก นโยบายของรัฐบาลไทยนั้นมันโลเลครับ ออกมาเป็นตัวหนังสือ เป็นทางการแล้วก็ไม่สามารถยึดเป็นหลักเป็นเกณฑ์อะไรได้ คงจะมีแต่ประเทศอดีตสหภาพโซเวียต กับประเทศที่ล้าหลังมากๆในแอฟริกากับอเมริกากลางเท่านั้นที่เจอแบบนี้ ตรงนี้แหละที่จะเป็นปัจจัยที่กำหนดว่าค่ายไหนจะเป็นผู้ชนะในบั้นปลาย ค่ายไหนที่ฝ่ายรัฐกิจเจ๋ง "กระสุน" เยอะ "วิ่ง" เป็น โอกาสก็มากกว่า เดาเองละกัน เห็นๆอยู่ แต่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายรถราคาประหยัด เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มจำนวนรถยนต์บนท้องถนน คราวนี้จะไม่เพียงแต่เมืองใหญ่ แต่จะทั่วไป และน่าจะมีโปรแกรมผ่อนพิเศษสำหรับข้าราชการแถมมาด้วย ตกลงการขนส่งคนของไทยนี้จะไปทางไหนครับ จะขนคน หรือจะเป็นที่จอดรถดีครับ เห็นว่าภายในเดือนมิ.ย.นี่แหละ จะมีความชัดเจนออกมา แต่จะชัดประเภทร้อง "เฮ้ย" กันหรือเปล่า นี่ไม่รู้นะ ค่ายรถที่ไม่แน่ใจว่าจะเอาด้วยหรือเปล่า อย่างที่ Jimmy ตั้งคำถาม ผมว่าอย่างน้อย 1 ค่ายเขาเอาด้วยนะ แต่ว่าจะได้เอาหรือเปล่าเท่านั้นแหละ เอิ๊กๆ จากคุณ : Double07 - [ 3 มิ.ย. 48 09:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คิดแบบเดียวกับ คุณหมอเถื่อน #23 เลยครับ ถ้าเค้าไม่มำ AYGO ก้อใช้ toyota passo/daihatsu boon(sirion) ซะเลย แต่มันกว้างเกินอ่ะครับ 1665 mm อันนี้ข้อมูลจาก http://www.daihatsu.co.uk Sirion 1.0 SE - Specifications Wheels & Tyres Tyres 175/65 R14 Dimensions Overall Length 3600 mm Overall Width 1665 mm Overall Height 1550 mm Wheelbase 2430 mm Min. Road Clearance 150 mm Min Turning Circle 9.4 m Gross Vehicle Weight 1390 kg Fuel Tank Capacity 40 Litres Payload 500 kg Towing Capacity Braked 750 kg Unbraked 350 kg Suspension Front Macpherson struts with coil springs Rear Semi independent torsion axle beam with coil springs Performance 0-62mph (man) 13.9 secs Max Speed (man) 99 mph Environmental Information Carbon Dioxide Emmisions (man) 118 g/km Noise Level Moving (man) 70 dB (A) Fuel Consumption Urban mpg (man) 46.3 mpg Urban (man) 6.1 L/100km Extra Urban mpg (man) 64.2 mpg Extra Urban (man) 4.4 L/100km Combined mpg (man) 56.5 mpg Combined (man) 5.0 L/100km Engine And Transmission Engine Type 3 cy DOHC with DVVT Bore & Stroke 71 x 84 mm Displacement 998 cc Maximum Output 68 bhp @ 6000 rpm Maximum Torque 94 Nm @ 3600 rpm Steering Type Power assisted rack & pinion Brakes Front disc - Rear drum Road Fund Licence (Manual) AA จากคุณ : - - [ 3 มิ.ย. 48 12:41:00 A:61.19.59.206 X: TicketID:071944 ]

ความคิดเห็นที่ 28 แต่ toyota passo มันมีขนาดใกล้เคียง vitz/yaris มากเกินไปอ่ะ ต้องเป็น Aygo ถึงจะเหมาะสมที่สุด ถ้า daihatsu จะมาไทยอีกครั้ง เอา mira มาอีกน่าจะขายได้อยู่นะครับ mira gino ก้อดูเท่ห์ไม่เบา ส่วน NISSAN ให้ suzuki ผลิต MR WAGON ติดตรา MOCO มาขายสิครับ ผมว่าเมืองไทย ยังไงก้อหาศูนย์บริการ nissan ได้มากกว่า suzuki แน่ๆ ถ้า suzuki เค้ายอม จากคุณ : - - [ 3 มิ.ย. 48 13:19:06 A:61.19.59.206 X: TicketID:071944 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ให้พวก K Car มาขายก็เหลือเฟือละ จากคุณ : MitsuGrandis - [ 4 มิ.ย. 48 01:43:50 ]