ความคิดเห็นที่ 1 ส่วนคนที่คิดว่าไฟฟ้าในรถ นั้นได้มาฟรีๆ ผมมีตัวอย่างให้ดูครับ รอบเครื่องก่อนที่จะมีโหลดขนาด 110w แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 48 18:48:40 จากคุณ : ton99 - [ 13 ก.ค. 48 18:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 รอบเครื่องหลังจากมีโหลดขนาด 110w จากคุณ : ton99 - [ 13 ก.ค. 48 18:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม, รอบมันตกอ่ะ ครับ นึกว่า รอบ มัน จะเพิ่มขึ้น ซะอีก   แล้ว ถามอีกครั้ง นะครับ ไฟที่ติด ตรงกันชน เนี่ย มันไฟตัดหมอก จริงๆ อ๊ะ ปล่าว จากคุณ : tiger hello - [ 13 ก.ค. 48 19:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ถามด้วยคน ผมไปซื้อไอ้หัวนี่มา ใส่ B14 เเล้วไฟตรงกันชน มันเป็นไฟตัดหมอก หรือไฟธรรมดาครับ ตอนนี้ยังไม่ได้ต่อไฟเลยครับ จากคุณ : formula_first - [ 13 ก.ค. 48 20:00:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เหอะๆ... งั้นเปลี่ยนไปใส่ HID กันดีกว่า ประหยัดกันได้ 20 W (55-35W) / ข้างเลยนา.... เหอๆ... :-X จากคุณ : NCP42R - [ 13 ก.ค. 48 20:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มองต่างมุมครับ... เปิดไฟตัดหมอก หรือเปิดไฟหน้า โดยไม่สตาร์ทเครื่อง... ไฟทั้งคู่ก็ติดปกตินี่ครับ...แล้วจะเปลืองตรงไหนเหรอ.. ถ้าเปิดไฟหน้าหรือไฟอื่นๆ ในรถแล้วรอบเครื่องตก... ผมว่าไม่เกี่ยวกับน้ำมันมั้งครับ..คงระบบไฟในรถมากกว่า.. ไม่งั้นรถที่ติดเครื่องเสียง..สัก 1100 วัตต์...ก็เท่ากับเปิดไฟตัดหมอกรถ 10 คัน.. ..ก็เปลืองน้ำมันของชาติสิครับ..แบบนี้เล่นคนติดเครื่องเสียงไม่ดีกว่าเหรอครับ.. จากคุณ : TooN_TMS - [ 13 ก.ค. 48 20:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ซื้อมือถือรุ่นล่าสุด มาโทรคุยโทรศัพท์จิจ๋าไร้สาระ ลดการคุยหรือโพสกระทู้ไร้สาระ จะช่วยชาติประหยัดได้ จากคุณ : มากจริงๆ - [ 13 ก.ค. 48 21:03:41 A:221.128.97.79 X: TicketID:083281 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 13 ก.ค. 48 21:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 6 ครับ เพราะรถผมก็ทำเครื่องเสียงชุดใหญ่มาเหมือนกัน จากคุณ : R.Tiyanuch - [ 13 ก.ค. 48 21:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 48 21:09:31 จากคุณ : MagicMyth - [ 13 ก.ค. 48 21:08:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับ 8 ครับ ... เข้ามาดู จากคุณ : MagicMyth - [ 13 ก.ค. 48 21:09:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #3 รอบตก  ถูกต้องแล้วครับ เพราะเมื่อเปิดไฟ  ไดชาร์ทมันจะกินกำลังเครื่องมากขึ้น กลไลการทำงานของไดชาร์ท  เคยมีคนมาอธิบายไปแล้ว เดี๋ยวผมจะลองค้นๆมาให้ดู #4 ตามกฏหมายไทย  จะเรียกว่าไฟตัดหมอกครับ ถึงแม้มันจะตัดได้บ้างไม่ได้ข้างก็ตาม #5 กินไฟลดลง 40w แต่ต้นทุนชุด Xenon เถื่อน ก็ประมาณหมื่นนึง เปิดไปกี่วันถึงจะคุ้มทุน  ต้องลองไปคำนวณกันเอาเอง แต่ที่สำคัญ  มันแยงตาครับ   ที่ไม่แยงยังไม่เคยเห็น เห็นแต่รูป  มันบอกอะไรไม่ได้ครับ #6 ไม่ติดเครื่อง  แล้วไฟยังติดได้ เพราะใช้ไฟที่สำรองจาก แบตเตอร์รี่  เปิดได้ไม่นานไฟก็หมด ถ้าไม่มีระบบชดเชย  เวลาเปิดไฟแล้วไดชาร์ททำงาน รอบเครื่องจะต้องตกเสมอ   เพราะไดชาร์ทมันกินแรงมากขึ้น จะตกมากหรือน้อย  จะขึ้นอยู่กับกำลังของเครื่อง  และกำลังที่ไดชาร์ทต้องการ เครื่องเสียง 1100w มันไม่ได้กินไฟคงที่เท่าหลอดไฟ 1100w นะครับ เรืองเปลืองน้ำมัน  ผมว่าคนเล่นเครื่องเสียเขาคงรู้อยู่แล้ว  (หรือว่ามีคนที่ไม่รู้) แต่คนที่เปิดไฟตัดหมอกส่วนใหญ่ ไม่มีใครทราบว่ามันทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้น จากคุณ : ton99 - [ 13 ก.ค. 48 21:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยกับ 7 ครับ จากคุณ : บ้าเงินคุง - [ 13 ก.ค. 48 21:19:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับนายต้น ผมไม่เปิด ... เปิดไฟใหญ่พอละ ถ้ามันตกหนักสุดๆ ก็ขับช้าๆ ที่ไม่ไปเล่นพวกเครื่องเสียง เพราะว่า เปิดเพลงแล้วมันไม่มาแยงตาชาวบ้านเขาไงครับ จากคุณ : ถัง - [ 13 ก.ค. 48 21:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ในเรื่องนี้ครับท่าน Pout = Pin-Loss เสมอครับ เมื่อมีโหลดมากขึ้น เท่าที่อาจารย์สอนมา มันจะเกิดการดึงกระแสเพิ่มขึ้นครับ เป็นผลให้เกิดแรงต้านขึ้นใน อัลเทอเนเตอร์(เหมือนๆ การเหยียบเบรคครับ) เพื่อรักษาความสามารถในการจ่ายไฟให้ได้ อัลเทเนเตอร์ต้องใช้แรงมากขึ้นในการจ่ายกำลังงานไฟฟ้าให้กับหลอดไฟ แล้วกำลังงานที่ต้องใช้ก้ต้องมาจากเครื่องยนต์ไงครับ ซึ่งก็มาจากน้ำมันนั่นแหละ เหมือนๆกันกับการเปิดแอร์ครับ แต่อัลเทเนเตอร์เป็นระบบไฟฟ้าครับ แต่แอร์เป็นระบบ Mechanic ครับ การกินกำลังงานอาจจะน้อยกว่าแอร์นิดนึงครับ แต่ Confirm ได้ว่าทำให้กินน้ำมันเพิ่มขึ้นครับ อย่างที่พี่เค้าบอกครับต่อคันน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เอามารวมกันมันก็เยอะอย่างที่พี่เค้าบอกครับ รถผมเปิดบ้างเป็นบางครั้งครับ แต่ไม่บ่อย ช่วยชาติประหยัดครับ จากคุณ : ibomiN8iy[ - [ 13 ก.ค. 48 22:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ ton99 นี่เก่งจังเลยอะครับ ขอยกย่องจริงๆ... ..เข้าใจระบบไฟรถยนต์อย่างถ่องแท้.. น่าจะมีผู้ใหญ่มาทาบทามไปทำงานที่กระทรวงพลังงาน.. ช่วยกันร่างนโยบายช่วยชาติประหยัดน้ำมัน... เช่น..ให้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เฉพาะรุ่นที่ไม่มีระบบ electronic ใดๆ ที่กินแสไฟฟ้าในรถเกินความจำเป็นอะครับ.. อนาคตคุณ ton99 ไกลจริงๆ อะครับ...ซูฮกครับ.. จากคุณ : TooN_TMS - [ 13 ก.ค. 48 23:04:36 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จริงอย่างที่คุณต้นว่าครับ มันกินไฟมากขึ้นก็ต้องกินน้ำมันมากขึ้นเหมือนกัน เพราะตัวปั่นไฟมันก็จะหน่วงเครื่องลงไปอีก ส่วนที่ว่าเปิดไฟแล้วไม่ติดเครื่องมันไม่เปลีองน้ำมันก็ไม่จริงครับ เพราะถ้าเราใช้ไฟในแบตไปเท่าไร พอเราติดเครื่องมันก็จะถูกชาร์ตเข้าไปเท่านั้น ถ้าท่านใดใช้เครื่องความจุน้อยๆจะยิ่งเห็นผลครับ แรงตกกันเห็นๆเลยทีเดียว แต่ในความคิดผมนะ ถ้าฝนตกหนักๆแบบเมื่อเช้า การเปิดไฟตัดหมอกมันก็ค่อนข้างคุ้มครับ เพราะไฟตัดหมอกโรงงานจริงๆจะเน้นที่ส่องลงพื้นเพื่อให้เห็นเส้นถนนชัดๆ อย่างน้อยก็ประหยัดค่าซ่อมรถค่าอะไหล่ลงไปได้บ้างละนะ แต่สำหรับเวลาที่ปกติแล้วยังเปิดไฟตัดหมอกวิ่งนี่ก็ถือว่าสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นครับ จากคุณ : bigBird - [ 14 ก.ค. 48 01:11:59 A:210.86.136.4 X: TicketID:020924 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับ จขกท. ครับ จากคุณ : Shandy - [ 14 ก.ค. 48 01:52:28 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความปลอดภัยก็ต้องมีค่าใช้จ่ายครับ (เฉพาะที่เปิดยามจำเป็นจริงๆ) เช่น ทัศนวิสัยไม่ดี ขึ้นลงดอย ฝ่าสายหมอกยามเช้า หรือ เวลาโพล้เพล้ จะมืดก็ไม่มืด จะสว่างก็ไม่สว่าง นั่น ก็จำเป็นครับ ตามหลัก Defensive driving (ขออภัยหลักสูตรต่างประเทศยังหาคำแปลไทยไม่ได้) จากคุณ : ลุงเชย - [ 14 ก.ค. 48 07:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นเช่นนี้ รัฐบาลก็โง่และหลงทางมากเลย เพราะบังคับให้จักรยานยนต์ เปิดไฟหน้าวิ่งตลอดเวลา คิดดูแล้วกันมหาศาลกว่ารถยนต์อีกนะ เพราะรถยนต์ไม่เปิดทุกคัน และเปิดเฉพาะเวลากลางคืนอีกต่างหาก แล้วจำนวนรถจักรยานยนต์ ก็มากมายมหาศาลหลายล้านคันทั่วประเทศ แค่ยอดขายจักรยานยนต์ใหม่ก็ปีละล้านกว่าแล้ว คุณลองคำนวนความสิ้นเปลืองพลังงานดูซิครับมากกว่ารถยนต์อีกเป็นสิบเท่าเชียวนา จากคุณ : กะลา - [ 14 ก.ค. 48 08:50:03 A:192.168.1.220 X:202.143.148.106 TicketID:102237 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วความต่างที่ว่านั่งอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ครับ สมมติ เปิดไฟตัดหมอกนาน 1 ชั่วโมง กินไฟ 55 วัตต์ จะใช้การวัดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจากการติดเครื่องทิ้งไว้เฉย ๆ โดยคิดค่าน้ำมันจากที่เครื่องติด 1 ชั่วโมงไม่ได้ แต่ต้องคิดเปรียบเทียบการติดเครื่องทิ้งโดยไม่เปิดไฟตัดหมอก 1 ชั่วโมงกับการติดเครื่องโดยเปิดไฟตัดหมอก 1 ชั่วโมง หาความแตกต่างออกมาว่าต่างกันกี่มิลลิลิตรต่อชั่วโมง นั่นคือความแตกต่างที่เกิดขึ้นที่สามารถวัดได้ เมื่อได้ตัวเลขดังกล่าวมาจึงเอามาหาว่ามันมีความสำคัญมากพอจะคิดถึงหรือไม่ จากคุณ : หมูหวาน...น้ำตาลปึก - [ 14 ก.ค. 48 09:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถึงคุณกะลาครับ ที่ว่ารัฐบาลรณรงค์ให้มอเตอร์ไซด์เปิดไฟหน้ารถ ขณะวิ่งบนถนน จริง ๆ ไม่เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นมากมายอะไรหรอกครับ เหนืออื่นใดเลย ก็คือ ให้คนขับรถใหญ่สามารถมองเห็นเวลาขับรถสวนกัน เพราะธรรมชาติของคนที่ขับรถใหญ่ ช่วงเวลากลางวัน จะมองแต่ถนน และรถใหญ่ด้วยกัน เพราะสังเกตได้ง่าย แต่กับมอเตอร์ไซด์ จะสังเกตไม่ได้เลย หรือทำได้ก็ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้า ดังนั้น มอเตอร์ไซด์ต้องเปิดไฟหน้า เพื่อสร้างจุดสนใจให้คนขับรถใหญ่สามารถมองเห็นได้ในเวลากลางวันครับ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยครับ ที่มาเลเซียเขาออกเป็นกฏหมายบังคับใช้กันเลย และมีมานานแล้วด้วย จากคุณ : chankij - [ 14 ก.ค. 48 14:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กรณีที่บังคับมอเตอร์ไซด์เปิดไฟหน้า มันทำให้กินน้ำมันมากขึ้นก็จริง แต่ชีวิตคนมีค่ามากกว่าน้ำมันครับ ผมไม่ได้บอกว่าต้องปิดไฟตัดหมอกเพื่อชาตินะครับ แต่ผมจะบอกว่า  เปิดไฟตัดหมอกมันทำให้กินน้ำมันมากขึ้น คันเดียวอาจจะไม่เท่าไหร่  แต่หลายๆคันรวมกันมันมีค่ามหาศาลเหมือนกัน ไฟตัดหมอกควรเปิดเมื่อไหร่  กฏหมายเขียนเอาไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่ปฏิบัติกันคือ  เปิดกันตลอดเวลา โดยที่ไม่คิดอะไรกันเลย จากคุณ : ton99 - [ 14 ก.ค. 48 15:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คืนนี้ปิดไฟวิ่งครับ พี่น้อง ถ้าให้ดีควรเดินไป เพราะถ้าใช้จักรยาน มันจะเปลือง จารบี แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 48 01:53:49 จากคุณ : บ๊วยย่นจ้า - [ 14 ก.ค. 48 19:13:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ปิดแอร์ เปิดกระจกสิท่าน ประหยัดว่ามั๊ง คุณ ton99 ท่านลองทำนำร่องก่อนดีไม๊ จากคุณ : wasawath - [ 14 ก.ค. 48 21:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าโอกาสอำนวย ผมปิดแอร์ขับเสมอครับ จากคุณ : ton99 - [ 15 ก.ค. 48 05:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เอางี้ผมลองคำนวนให้ดูเล่นๆ นะครับ อย่าคิดมาก ค่าความร้อนน้ำมันเบนซิน ประมาณ 31.48 MJ/l เทียบเท่าพลังงานไฟฟ้า 8.74 kWh/l นั่นคือน้ำมันเบนซิน 1 ลิตร ใน 1 ชั่วโมงผลิต กำลังไฟฟ้าได้ 8.74 kW ค่าความร้อนน้ำมันดีเซล ประมาณ 36.42 MJ/l เทียบเท่าพลังงานไฟฟ้า 10.12 kWh/l นั่นคือน้ำมันดีเซล 1 ลิตร ใน 1 ชั่วโมงผลิต กำลังไฟฟ้าได้ 10.12 kW ทีนี้กำลังไฟฟ้าที่คุณต้นว่า 1100 kW (1.1 MW) หากใช้น้ำมันเบนซินต้องใช้ทั้งสิ้น 125.86 ลิตร หรือใช้น้ำมันดีเซลทั้งสิ้น 108.70 ลิตร ครับ อันนี้ไม่แนะนำให้ใช้อ้างอิงนะครับ จากคุณ : The City of Great - [ 15 ก.ค. 48 08:03:06 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่ิองของเขา ใครจะทำไรก็ช่างเขา เราประหยัดก็ได้เรา เฮ้อ.. จากคุณ : maxibon - [ 15 ก.ค. 48 09:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณที่คำนวณมาให้ดูกันเล่นๆ ส่วนของจริงผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะต้องคำนวณยังไง จากคุณ : ton99 - [ 15 ก.ค. 48 17:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นายton99 วัดตอนไหนเหรอ เขาวัดกันที่รอบเดินเบาปกติ ซึ่งก็คือประมาณ 700-850 รอบโดยประมาณ แต่ที่ถ่ายมามันอย่ที่กี่รอบ เล่นอะไรกันแน่ ลองติดเครื่องเดินเบาสิ แล้วเปิดไฟตัดหมอกแล้วลองวัดแรงดันที่แบตว่าตอนเปิดกับไม่เปิดแรงดันตกหรือไม่ แบบนี้เขาเรียกว่าทดลองแบบไม่ได้มาตรฐาน ถ้าลองแล้วยังสงสัยก็โพสท์ตั้งคำถามใหม่นะ ขี้เกียจวกกับมาตอบอ่ะ จากคุณ : REEF - [ 16 ก.ค. 48 01:19:57 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เปิดเมื่อจำเป็น อะไรจำเป็น ต้องเปิด อะไรไม่จำเป็น อย่างไฟตัดหมอก เปิดตอนอากาศดี คุณว่ามันจำเป็นไหมล่ะ? สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแท้ๆ มอเตอร์ไซค์เปิดไฟใหญ่ เปลือง แต่ปลอดภัย โอเค... ผมรับได้น่ะ โธ่ กลางวันแสกๆ เครื่องบินลง ยังต้องเปิด landing light เลยครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 48 03:52:31 จากคุณ : ถัง - [ 16 ก.ค. 48 03:51:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เดินเบารอบมันตกแวบเดียวแล้วจะถ่ายรูปมาให้เห็นได้ไง พูดอย่างกับไม่เคยรู้จัก  ตัวชดเชยรอบเดินเบา หรือว่าไม่รู้จักจริงๆ? จากคุณ : ton99 - [ 16 ก.ค. 48 03:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ก้อเห็นอยู่ว่ามันกินกำลังเครื่อง จะเถียงกันไปทำไม เนี่ย จากคุณ : Steve Davis - [ 16 ก.ค. 48 08:29:35 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #27 ครับ  ประสิทธิภาพเครื่องยนต์มันไม่เท่าไหร่เองเน้อ จากคุณ : อากง - [ 18 ก.ค. 48 00:27:22 ]

ความคิดเห็นที่ 35 วัดแรงดันไฟเทียบกันระหว่างเปิด กับไม่เปิดไฟตัดหมอกนี่ต้องการอะไรครับ อัลเตอร์เนเตอร์มันมีเรกกูเลเตอร์(เรียกคร่าวๆก็ไดโอด)ควบคุมแรงดันไฟอยู่แล้ว คุณไปวัดเทียบกันอย่างนั้นมันหลงทางครับ มันบอกผลของการกินน้ำมันไม่ได้เลย ...มั่นใจเกินร้อยอีกแล้ว ดีนะที่คราวนี้"ไม่มีด่า" และเห็นด้วยกับคุณอากง น้ำมันที่ถูกเผาไป ไม่ได้ให้ความร้อนเพื่อผลิตไฟโดยตรงครับ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 48 18:36:29 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 48 13:36:44 จากคุณ : Ontjung - [ 18 ก.ค. 48 13:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ 27 เขาคำนวณมาเล่นๆครับ อย่างข้างบนนี้เป็นตัวเลข 100% ประสิทธิภาพเครื่องรถยนต์ มีแค่ 20% ประสิทธิภาพของไดนาโม  มีอีก 80% กะมั่วๆแบบง่ายๆเลย จากความร้อนไปเป็นไฟฟ้า  อาจจะได้แค่ 10% ก็ต้องใช้น้ำมันประมาณพันลิตร จากคุณ : ton99 - [ 18 ก.ค. 48 18:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โห! เฮะ! สุดยอด เลยฟ่ะ เอิ้ก จากคุณ : REEF - [ 19 ก.ค. 48 04:47:17 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]