ความคิดเห็นที่ 1 กระแสไฟฟ้าในรถ จะเริ่มจากไดชาร์ท จ่ายกระแสไฟบวกผ่านสายไฟ ไปยังขั้วบวกของแบตและไปยังบริเวณกล่องฟิวส์หลัก ส่วนกระแสไฟลบ  ก็จะวิ่งผ่านตัวถังขอไดชาร์ท  ผ่านตัวถังของเครื่องยนต์ ผ่านสายเชื่อม ground ไปยังตัวถังรถ ถ้าเป็นจังหวะที่ชาร์ทไฟเข้าแบต  กระแสไฟลบนี้ก็จะวิ่งจากตัวถังผ่านสายไฟไปยังขั้วลบของแบตอีกที อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดอยู่บนเครื่องยนต์  ก็จะดึงกระแสไฟบวกมาจากกล่องฟิวส์หลักผ่านสายไฟบวก แล้วมาลง ground ที่ตัวมันเอง  แต่ยกเว้นอุปกรณ์บางตัว ที่ตัวมันไม่ได้เป็น ground เดียวกับเครื่อง แต่มีสาย ground ต่อย้อนกลับไฟลงที่ตัวถัง   แบบนี้กระแสไฟก็จะวิ่งกลับไปยัง ground ตัวถัง แล้วถึงย้อนกลับมาที่ ground ของเครื่องอีกที พวกอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนตัวถังรถ  ก็จะดึงกระแสไฟบวกมาจากกล่องฟิวส์หลักผ่านสายไฟบวก มาผ่านที่ตัวมัน  แล้วก็วิ่งผ่านสายไฟไปลงที่ ground ตัวถังรถ  แล้วจึงวิ่งไปที่ ground เครื่องอีกที ในกรณีที่กำลัง start เครื่อง กระแสไฟบวกจะเริ่มจากขั้วบวกของแบต  วิ่งไปยังมอเตอร์(ไดสตาร์ท) แล้วลง ground ตัวเครื่อง แล้วจึงมาลง ground ตัวถัง แล้วจึงวิ่งกลับเข้าไปที่ขั้วลบของแบตเตอร์รี่อีกที ในกรณีที่ดับเครื่องแล้วเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสไฟบวกจะวิ่งจากขั้วบวกของแบต  ไปยังอุปกรณ์นั้นๆ  แล้วลง ground ตัวถังรถ แล้วจึงวิ่งกลับมาที่ขั้วลบของแบตอีกที จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ค. 48 20:02:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สาย ground ที่สำคัญกับรถคือเส้นที่เชื่อมกับ ground เครื่อง เข้ากับ ground ตัวถัง และจาก ground ตัวถังไฟยังขั้วลบของแบต ถ้าสายสองเส้นนี้มีขนาดและตำแหน่งติดตั้งที่ถูกต้องแล้ว การติดสาย Ground Wire จะไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้นเลย การที่มีบางคนติดสายไฟโยงจากบริเวณต่างๆมาต่อกับขั้วลบของแบต โดยอ้างว่าเป็นการเพิ่ม ground ให้กับอุปกรณ์นั้นๆ  นั้นเป็นความรู้และความเชื่อที่ผิด เพราะ ground ของอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนเครื่องก็อยู่ที่ตัวเครื่อง   ไม่ได้อยู่ที่ตัวถังหรือขั้วลบของแบต การต่อสาย ground wire ไม่ได้เป็นการเพิ่มไฟอะไรเลยทั้งสิ้น บางคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมบางคันติดแล้วมันถึงดีขึ้น ที่ติดแล้วดีขึ้นก็เพราะ สาย ground สองจุดที่ผมบอกไว้ข้างบนมันบกพร่อง พอติดสายไฟพวกนี้เพิ่ม  ระบบไฟโดยรวมจึงกลับเข้ามาสู่สถานปกติ โดยไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์บนตัวเครื่องนั้นก็มีค่าไม่มากกว่าเดิม (เผลอๆอาจจะลดลง) แต่ไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์บนตัวรถจะมีค่าสูงขึ้นตามที่ควรจะเป็น อย่างในกรณีที่เป็นกล่อง ECU  กล่องก็จะทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น คำบางคำอาจจะไม่ถูกต้องตามหลักการ  แต่ผมขอยกเอามาใช้เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ค. 48 20:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คราวนี้มาดูผลการวัด ground ของผมบ้าง ครั้งแรก  ติดเครื่องเดินเบา เปิดวิทยุ วัดคร่อมที่ขั้วแบตได้  14.31 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ หัวต่อที่ขั้วลบของแบต ได้ 14.32 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ จุด ground ตัวถังตรงแบต ได้ 14.32 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ จุด ground เครื่องตรงไดชาร์ท 14.32 V ครั้งที่สอง  ติดเครื่องเดินเบา เปิดวิทยุ เปิดไฟหน้า วัดคร่อมที่ขั้วแบตได้  14.16 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ หัวต่อที่ขั้วลบของแบต ได้ 14.16 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ จุด ground ตัวถังตรงแบต ได้ 14.16 V วัดคร่อมระหว่างขั้วบวก กับ จุด ground เครื่องตรงไดชาร์ท 14.18 V ครั้งที่สาม  ติดเครื่องเดินเบา เปิดวิทยุ เปิดไฟหน้า เปิดแอร์ แต่ค่าความต่างศักย์ที่อ่านได้มันสวิงไปมาจนอ่านไม่ได้ ผมจึงไม่ได้ทำการวัด จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ค. 48 20:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต่างกันระดับ 0.02 V ผมไม่ถือว่าระบบไฟมีปัญหา เลยไม่จำเป็นต้องเสียสตางค์ จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ค. 48 20:10:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 17 ก.ค. 48 20:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 "บางคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมบางคันติดแล้วมันถึงดีขึ้น ที่ติดแล้วดีขึ้นก็เพราะ สาย ground สองจุดที่ผมบอกไว้ข้างบนมันบกพร่อง พอติดสายไฟพวกนี้เพิ่ม  ระบบไฟโดยรวมจึงกลับเข้ามาสู่สถานปกติ โดยไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์บนตัวเครื่องนั้นก็มีค่าไม่มากกว่าเดิม (เผลอๆอาจจะลดลง) แต่ไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์บนตัวรถจะมีค่าสูงขึ้นตามที่ควรจะเป็น อย่างในกรณีที่เป็นกล่อง ECU  กล่องก็จะทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น" เพราะฉะนั้น กับงบแค่ 450 บาท ติด Grown Wire ให้รถคุณเถอะ จากคุณ : หมาป่าเขี้ยวยาว - [ 17 ก.ค. 48 20:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่ามันไม่ได้แยกกัน เพียงแต่ว่า เนื่องด้วยจุดยึดต่างๆ ของเครื่อง ต้องอยู่บนลูกยาง ชิ้นส่วนต่างๆ บนเครื่อง บนเกียร์ บางชิ้นก็มีปะเก็นคั่นอีก ชิ้นส่วนบนเครื่อง ตัวเครื่อง และตัวถังรถ เลยอาจจะมีศักย์ไฟฟ้าไม่เท่ากันได้ ทำให้เมื่อเทียบกับขั้วบวก ความต่างศักย์ในบางจุด จึงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น มิใช่ตั้งใจออกแบบมาให้แยกกันแต่อย่างใด ----------------------------------------------------------------------------------- ในส่วนตรงนี้ ผมไม่แน่ใจ แต่อ่านแล้วแปลกๆ (ใครแม่นช่วยทีครับ ผมอาจจะผิดก็ได้) "ส่วนกระแสไฟลบ ก็จะวิ่งผ่านตัวถังขอไดชาร์ท ผ่านตัวถังของเครื่องยนต์ ผ่านสายเชื่อม ground ไปยังตัวถังรถ" จากคุณ : อ (อากง) - [ 17 ก.ค. 48 21:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ อากงเข้าใจถูกแล้ว ผมเปิดมาเห็นหัวข้อที่ตั้งก็เดาได้เลยว่าคนตั้งคือ ton99 และพอมองไปดูชื่อก็ใช่จริงๆเสียด้วย อ่านลงไปในกระทุ้กรุ้ว่า ton99 ไม่ได้จบมาทางสายไฟฟ้าหรือ อิเลคโดทรนิคส์ หรือ แมคคานิคส์เลย แต่ชอบยกข้อมูลทางเทคนิคมาอ้าง ก็มีพูดถูกบ้างผิดบ้าง คือถ้าพูดแบบชาวบ้านธรรมดา บอกเล่าเก้าสิบนี่ก็ไม่ว่ากัน แต่รุ้สึกว่าทำตัวเหมือนผุ้รุ้มากเกินเหต เลยหมั่นไส้ นิดๆ แต่ไม่ได้เกลียดนะตัวเอง...ถือว่ารักดอกเลยหยอกเล่น อิอิ เหน็บบ้าง จากคุณ : REEF - [ 17 ก.ค. 48 22:27:19 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาก็ดีแล้ว http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3608830/V3608830.html จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ค. 48 22:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เชิญคุณ Reef ที่กระทู้ไฟฉุกเฉินอีกทีด้วยครับ จากคุณ : อากง - [ 17 ก.ค. 48 23:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมจบอิเลคมาผมว่า คุณ ton ก็มีเหตุผลใช้ได้นะ เอา Ground 3 จุดมาลงที่จุดเดียวกันที่ตัวถัง ใช้สายไฟดีดีหน่อยก็ Ok เคยประกอบ เครื่องขยายเสียงไหม  Same ๆ ไม่ต้องคิดมาก จากคุณ : โคโด (โคโด) - [ 18 ก.ค. 48 15:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ในงานของผมมีระบบหนึ่งมีปัญหาคาดว่าน่าจะเกิดจาก ground weak ก้อใช้ digital multimeter check ก้อไม่ลง ground จนต้องเอา mega checker มาวัดดู ปรากฏว่าสายมีปัญหาครับ ground weak จริงๆ ต้อง wiring ใหม่ ถ้าไม่ได้มันเครื่องคงบินไม่ได้ เพราะปัญหามันเกิดที่ landing gear system สำหรับงานผมแล้ว ground นี่เป็นอะไรที่ละเลยไม่ได้จริงๆ ck2 ของผมก้อทำ ground wiring ใหม่ (ทำเองนะ)สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือรอบเดินเบาสูงขึ้นมา 200 รอบ ต้องปรับรอบเดินเบาใหม่ คาดว่าน่าจะประหยัดน้ำมันขึ้น ใครมีคำแนะนำหรือประสบการณ์จริงมาแบ่งปันกันนะครับ จากคุณ : enstrome - [ 18 ก.ค. 48 19:42:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาแน่นๆ คงต้องถามพวกวิดวะเครื่องกล...ผมพวกเอกสื่อสารฯ ไม่ขอขัดแย้ง.... ------------------------------------------------------------ ยกมา "ส่วนกระแสไฟลบ ก็จะวิ่งผ่านตัวถังขอไดชาร์ท ผ่านตัวถังของเครื่องยนต์ ผ่านสายเชื่อม ground ไปยังตัวถังรถ" จากคุณ : อ (อากง)   - [ 17 ก.ค. 48 21:57:34 ] ตอบ ถูกแล้วครับ การมองระบบ Ground ต้องมองว่า มันคือ ไฟลบ คิดง่ายๆ คือ มันมีทิศทางตรงข้ามกับไฟบวก ------------------------------------------------------------ เท่าที่อ่านของคุณต้น ผมว่าก็ไม่มีอะไรแปลก เพราะ ในระบบใดระบบหนึ่ง อาจจะมี Ground ได้มากกว่า 1 จุด ของคุณต้นมองว่า มี Ground 2 จุด คือ กราด์วเครื่องยนต์ กับ กราด์วตัวถัง แต่สุดท้าย มันก็ไปรวมกันที่ ไฟลบแบตเตอรี่ ส่วนพวกเดิน Ground Wire ใหม่ เค้าใช้ระบบ กราด์วเดี่ยว คือ ทุกจุดมารวมที่ ไฟลบแบตเตอรี่ แนะนำให้คุณต้น วัดค่าความต้านทานของสายดีกว่าครับ วัดโวลท์มันไม่ชัวร์หรอก แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 48 20:44:10 จากคุณ : nuinonthaburi - [ 18 ก.ค. 48 20:40:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามหลักการที่คุณ  ton99  ว่ามาก็ ok แล้วนี่ครับ อ่านให้เข้าใจใช้ได้เลย ของคนอื่นก็ใช้ได้ ไม่ผิด แต่ใช้คนละวิธี เลือกซะ เอาวิธีที่ตัวเห็นว่าถูก รถมันวิ่งได้ ไม่ดับก็ใช้ได้ จากคุณ : เกาต้วยเต็ก - [ 18 ก.ค. 48 22:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วัดแค่นั้นพอหรือเปล่า เวลากระแสไฟวิ่งมากๆความต้านทานมันเพิ่มขึ้นหรือเปล่า เคยเห็นขั้วแบตไม่แน่นมั้ย วัด voltage ได้เท่ากันแต่สตาร์ทแล้วไม่ติดแม้กระทั่งไดสตาร์ทน่ะ จากคุณ : S(2) - [ 18 ก.ค. 48 22:42:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ในกรณีที่กำลัง start เครื่อง กระแสไฟบวกจะเริ่มจากขั้วบวกของแบต วิ่งไปยังมอเตอร์(ไดสตาร์ท) แล้วลง ground ตัวเครื่อง แล้วจึงมาลง ground ตัวถัง แล้วจึงวิ่งกลับเข้าไปที่ขั้วลบของแบตเตอร์รี่อีกที ..อ่อ ต้องลงกราวด์ให้ครบสองจุดก่อนก่อนที่จะวิ่งมาที่ขั้วลบ อืมม มีเหตผล ถ้าเป็นจังหวะที่ชาร์ทไฟเข้าแบต กระแสไฟลบนี้ก็จะวิ่งจากตัวถังผ่านสายไฟไปยังขั้วลบของแบตอีกที ..อ๋อ ไดชาร์จจะชาร์กระแสไฟลบ ไปเข้าขั้วลบของแบตเตอรีอืมเพิ่งกระจ่างวันนี้เอง กระแสไฟฟ้าในรถ จะเริ่มจากไดชาร์ท จ่ายกระแสไฟบวกผ่านสายไฟ ไปยังขั้วบวกของแบตและไปยังบริเวณกล่องฟิวส์หลัก ส่วนกระแสไฟลบ ก็จะวิ่งผ่านตัวถังขอไดชาร์ท ผ่านตัวถังของเครื่องยนต์ ผ่านสายเชื่อม ground ไปยังตัวถังรถ ..อ๋อ ถ้าไดไม่ชาร์จแบตจะจ่ายไฟบวกผ่านสายไฟไปเข้าขั้วบวกแบตเลย อืมมม เข้าเค้านะ ton99 modify....สุดยอดสำนักนี้แต่งรถแรง เอิ้กกกก นอกจากเจ้าสำนักจะมีความรุ้ขั้นพิศดารแล้วลูกน้องแต่ละคล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น 555เอิ้กกกก จากคุณ : REEF - [ 19 ก.ค. 48 06:23:03 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ครั้งที่สาม ติดเครื่องเดินเบา เปิดวิทยุ เปิดไฟหน้า เปิดแอร์ แต่ค่าความต่างศักย์ที่อ่านได้มันสวิงไปมาจนอ่านไม่ได้ ผมจึงไม่ได้ทำการวัด อ๋อ....นายต้นใช้ไมโครโวลท์มิเตอร์เชคเพือความละเอียดสุดๆ มันเลยสวิงอ่านค่าไม่ได้ อืมมเข้าใจและ ton99 modify สุดยอดเจ้าสำนักแต่งรถ เอิ้กกก จากคุณ : REEF - [ 19 ก.ค. 48 06:30:04 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่มเติมนะครับในกรณีที่คุณ ton99 อ่านค่าไม่ได้ เกิดจากการรบกวนในระบบไฟถ้าลองเอา สโคป จับดู จะพบว่า คลื่นรบกวนมาเป็น แผงเลยครับ ในรถยนต์ การรบกวนมีอยู่แล้ว ครับ แต่มัน ก็เป็น ค่าที่ไม่จำเป็นต้องสนใจ แต่ถ้ามีการจัดให้คลื่นรบกวนต่างๆลดลงจะส่งผลดีต่อการทำงานของ ECU ครับ จากคุณ : k1. - [ 19 ก.ค. 48 08:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รีฟเอ๋ย ไปลงหลุมในกระทู้นี้ไป อย่ามาเพ่นพ่านอะไรแถวนี้ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3608830/V3608830.html จากคุณ : ton99 - [ 19 ก.ค. 48 17:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ค้าบบบท่านเจ้าสำนักton99 modify เอิ้กกกก จะไปสั่งสอนต่อตามที่ท่านเจาสำนักสั่งค้าบบบ จากคุณ : REEF - [ 19 ก.ค. 48 23:01:18 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ปล ลืมสรุปให้ ท่านเจ้าสำนัก ton99 modiy ดังนี้ เวลาไดจ่ายไฟให้กับโหลดไฟฟ้าต่างๆ จะจ่ายไฟกระแสบวก ส่วนเวลาชาร์จ จะชาร์จไฟกระแสลบเข้าแบต ขั้วลบไม่ถือว่าเป็นกราวด์ หากสงสัยประการใด หรืออยากได้สายกราวด์วายร์ให้ติดต่อทางสำนักton99 modiy จะจัดส่งยอดฝีมืออบรมโดยตรงจากเจ้าสำนักไปติดตั้งให้ ราคากันเอง จากคุณ : REEF - [ 19 ก.ค. 48 23:08:40 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่แน่นะครับ คำว่า"ส่วนเวลาชาร์จ จะชาร์จไฟกระแสลบเข้าแบต" อาจมีนัยสำคัญก็ได้ กระแสลบคือกระแสอิเลคตรอนครับ... ว่าแต่ คุณ REEF ไปเอาประโยคที่ว่า "ขั้วลบ ไม่ถือเป็นกราวด์" มาจากไหนง่ะ ผมย้อนไปอ่านไม่เห็นคุณต้นเขาเขียนไว้เลย จากคุณ : Ontjung - [ 19 ก.ค. 48 23:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ..อ้าว ตกลง เวลาไดจ่ายกระแสจ่ายเป็น โปรตอนหรอ อิอิ เอิก้กกก ว่าแต่ คุณ REEF ไปเอาประโยคที่ว่า "ขั้วลบ ไม่ถือเป็นกราวด์" มาจากไหนง่ะ ผมย้อนไปอ่านไม่เห็นคุณต้นเขาเขียน ..การที่มีบางคนติดสายไฟโยงจากบริเวณต่างๆมาต่อกับขั้วลบของแบต โดยอ้างว่าเป็นการเพิ่ม ground ให้กับอุปกรณ์นั้นๆ นั้นเป็นความรู้และความเชื่อที่ผิด เพราะ ground ของอุปกรณ์ที่ติดอยู่บนเครื่องก็อยู่ที่ตัวเครื่อง ไม่ได้อยู่ที่ตัวถังหรือขั้วลบของแบต เอิ้กก รุ้สึกOntjung จาแถเก่งตามลูกพี่ท่านเจ้าสำนัก ton99 modify เลยนะเนี่ย จากคุณ : REEF - [ 20 ก.ค. 48 00:46:21 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องไดชาร์จ  ยังไม่เข้าใจ  แล้วเรื่องกราวด์จะเข้าใจเหรอ กระแสไฟฟ้าเขากำหนดยังไงวิ่งทางไหนยังไม่รู้เลย พูดอย่างกับคนไม่เคยเรียนแล้วไปจำเขามา แล้วอย่าทะลึ่งไปทำแบบที่ผมบอกล่ะ  ผมไม่อนุญาตให้คนอย่างคุณไปทำ เดี๋ยวทำมั่วๆ  แล้วมาพาลโทษผมอีก ขนาดกางวงจรให้ดู  ยังมั่วไปเรื่อยเปื่อย จากคุณ : ton99 - [ 20 ก.ค. 48 05:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ก้ากกกก เอิ้กกกก จากคุณ : REEF - [ 20 ก.ค. 48 06:27:09 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กระแสไฟฟ้าเป็นกระแสบวกหรือเปล่า จำได้ว่าไม่ใช่ แต่ที่เคยเรียนมาสมัยเด็กๆ มันเป็นทิศตรงข้ามกับกระแสอิเลคตรอนเท่านั้น ผมก็ยังงง งงนะตอนนั้น แต่ทำเป็นไม่สนใจ เพราะไม่ได้ใช้สอบ ปรกติโปรตอนมันอยู่ในนิวเคลียส ไม่เคลื่อนที่ไปไหน มีแต่อิเลคตรอนเท่านั้นที่วิ่งไปมา กระแสบวก คือกระแสสมมุติที่วิ่งไปในทิศตรงข้ามกับกระแสอิเลคตรอนครับ คุณ REEF ช่วยยืนยันความคิดคุณชัดๆหน่อยได้ไหมครับว่า กระแสบวก คือกระแสอิเลคตรอน..... จากคุณ : Ontjung - [ 20 ก.ค. 48 08:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 อย่ามาเพ้อเจ้อหาโปรตอนอะไรแถวนี้ เรื่องไฟฟ้าวงจรแบบพื้นๆยังไม่เข้าใจ แล้วเรื่อง electron proton จะเข้าใจได้ไง http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3608830/V3608830.html จากคุณ : ton99 - [ 20 ก.ค. 48 13:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 28 อ้าว เฮ้ย อะไรฟะ ผมนึกว่าคุณ Reef เข้าใจ  โอ้ยยย หรือแกกวนหว่า? อ๋อๆ  เข้าใจละ ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 48 16:59:08 จากคุณ : อากง - [ 20 ก.ค. 48 16:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ก้ากกก พลั่ก ตุ้บบ โอ้ยย ขำกลิ้งตกเก้าอี้อะ เอิ้กกก เท่าที่ปะลองฝีมือกับเจ้าสำนัก ton99 modify เลอะเทอะ นี้พอจะบอกได้แล้วว่า เจ้าสำนัก มีมือขวาคือ Ontjung ส่วนเจ้าสำนักเองก็มีปะลามาจานหนุนหลังอย่อีก คือ Craftman เอ..อาเพศจะเกิดกับสถาบันรัชดานี้แล้วกระมัง -3 จอมยุทธ์ที่เคยไปฝึกเคล็ดวิชามารจากเขมรรวมตัวกัน ก้ากกก จากคุณ : REEF - [ วันอาสาฬหบูชา 00:05:29 A:203.146.244.93 X: TicketID:102522 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่ได้รู้จักกับคุณ ton99 เป็นการส่วนตัว...อย่ามั่ว... บางครั้งก็มีความคิดเห็นขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่ได้ด่าหาเรื่องอย่างคุณ ถ้าคนสองสามคนมีความคิดเห็นตรงกัน จำเป็นหรือที่จะต้องเป็นสำนัก รู้จักมักจี่กันด้วย ผิดตรงไหนก็ไม่บอก แต่ด่าเขาไปทั่ว...ที่ผมบอกเรื่องทิศของกระแส มันจริงหรือเปล่า หรือว่าไม่รู้เรื่องตั้งแต่แรก โปรดสังเกต...ตั้งแต่ คคห.22 มา เอาแต่หัวเราะอย่างเดียว เพราะไม่รู้เรื่องว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร เนื่องจากเรียนแต่วิทย์กายภาพ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 48 22:55:23 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 48 18:42:36 จากคุณ : Ontjung - [ วันอาสาฬหบูชา 18:40:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าปล่อยๆแกไปดีกว่า เพราะว่าเรื่อง เล็กๆ reef ไม่ เรื่องใหญ่ๆ reef ok จากคุณ : ton99 - [ วันเข้าพรรษา 00:55:20 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอเอี่ยว...ด้วยคน (ช้าไปไหมวะเนี่ย) .....วันก่อนได้ไปเดินซื้อ Ground Wire มาชุดหนึ่ง ราคา1,000 บาท แบบ 10 มม. มีความหวังว่า รถเราคงเวอร์คแบบพอสังเกตได้หลังจากติด(มันน่าจะมีอะไรที่แตกต้างจากก่อนติดบ้าง) รถผม CK2ครับ ติดตั้งเสร้จสรรพ โดยช่างผู้ชำนาญการติดตั้ง ก็ติดเครื่องยนต์ พระเจ้าจอร์ช อะไรจะนิ่งอย่างนี้ แบบว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย รอบเดินเบา 800 รอบก็ยัง 800 รอบเหมียนเดิม เปิดปิดไฟ สาระพัดอยากจะลองมองหา ฟังดูว่าอะไรมันจะแตกต่างไปจากเดิมบ้าง ไม่มีเลยอ่ะ มีแต่.... ในห้องเครื่องมีสายGround Wire เพิ่มขึ้นให้รกรุงรังเท่านั้น กลับบ้านพยายามขับรถและหาความแปลกหลังจากติดตั้ง พยายามเท่าไหร่ก็ไม่พบเบาะแสความแตกต่างบ้างเลย (เริ่มเสียดายเงิน 1,000บาท) คราวนี้เริ่มทำใจว่ามันอาจช่วยประหยัดนำมันขึ้นบ้างก็ลองจับ ไมล์ดู หมดถัง (40ลิตร) ปรากฎว่ามันวิ่งได้เท่าเดิมอยู่ดีนั่นคือ 700 กิโล ผมเริ่มลังเลแล้วว่าไอ้สายGround Wire ที่ลำลือกันเนี่ย คนที่ใช้แล้วมันไม่สำแดงผลมีอีกบ้างมั้ยนอกจากผมผู้เคาะห์ร้าย เพราะตอนนี้เครื่องเริ่มเดินไม่เรียบแล้วครับ ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เป็น แต่หลังจากติดเจ้าสาย Ground Wire  เข้าไป รถเริ่มมีปัญหา สรุปไอ้สายนี้มันช่วยได้จริงเหรอ วันนี้ตั้งใจจะไปถอดออก พอดีมาเห็นกระทู้นี้ มันกินใจซะเหลือเกิน เลยขอ เล่าเรื่องส่วนตัวให้สมาชิกฟังหน่อย บางคนใช้แล้วอาจดีนะครับ แต่นี่เป็นประสพการณืส่วนตัวนะครับ ต้องขออภัยถ้าประสบการณ์ของผมมันไม่ตรงกับหลักวิชาการของท่านใด จากคุณ : TUNE UP (จูนอัพ) - [ วันเข้าพรรษา 16:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 33 กรุณาค้นกระทู้เก่าเรื่อง ground wire ของผม  และหาที่ jeep unity club ดูแล้วกัน  ที่ควรพูด ที่ควรบอก ที่ควรศึกษา ที่ควรแสดงด้วยรูป  ได้พูด ได้บอก ได้บรรยาย ได้แสดงด้วยรูป ให้ดูหมดแล้ว  สิ่งที่คุณต้นว่ามา ถูกต้อง ยกเว้นตรงในวงเล็บ  ติดสายไฟพวกนี้เพิ่ม  ระบบไฟโดยรวมจึงกลับเข้ามาสู่สถานปกติ โดยไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์บนตัวเครื่องนั้นก็มีค่าไม่มากกว่าเดิม  (เผลอๆอาจจะลดลง)  ปล.  1. ระบบ ground ในงานที่ผมทำ .. มีความสำคัญยิ่ง .. หากไม่เข้าใจเรื่อง ground ให้กระจ่าง ห้ามแตะเครื่องมือเด็ดขาด  ชีวิตคน ขึ้นอยู่กับระบบ ground ของ sensor, ของ opto-isolator, ของ op-amp .. ยาวจนกระทั่ง isolation grounds ของ power line  ในกรณีที่ใช้ battery .. เรื่อง ground ยิ่งก่อปัญหามากกว่าใช้ AC power line เพราะจะไม่มี ground loop ให้วัดได้ง่ายๆ  2. ควรเปรียบเทียบระบบกราวด์ของ MB ตั้งแต่รุ่น (ค่อนข้างเก่า)brake-by-wire กับระบบกราวด์ของ Toyota รุ่นใหม่ๆ ... จะเห็นชัดว่า ระบบกราวด์ มีความสำคัญแค่ไหน  3. กฏเรื่อง non-isolated ground ฟันธง ว่า ground ควรมีจุดเดียวเท่านั้น (common ground) คือเป็นแบบ star และรวมศูนย์ที่ highest-current sink device  .............  แต่ในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะรถยนต์ การทำอย่างนั้น ต้นทุนสูงมาก จึงมี ground อย่างน้อย 2 จุด คือ 1) chassis ground โดยออกแบบให้ระบบไฟรถทั้งระบบ มีความทนทานต่อแรงดันที่ไม่เท่ากัน และ ทนทานต่อ ground loop 2) starting motor ground .. ซึ่งไม่สามารถใช้ chassis ground ได้ เนื่องจาก starting current ที่สูงมหาศาล (2-300A) ... สูงจนแม้ความต้านทานที่ีจุด chassis ground มีผลกระทบ Vmotor = Ebatt- (Istart *Rchassis) ..................  chassis รถ ไม่ใช่ ground ที่ดีเลย  หลักฐานยืนยันที่ชัดเจนคือ เสียงหวีดในรถที่ติดเครื่องเสียงกำลังสูง และลง ground บริเวณ chassis ใกล้ๆตัว แทนที่จะไปลงที่ common ground บริเวณใกล้ power amp  จบ และจะไม่หวนกลับมาตอบต่อ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 23 ก.ค. 48 18:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ จากคุณ : Ontjung - [ 23 ก.ค. 48 22:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 (เผลอๆอาจจะลดลง) ลดลงตอนไหน ตอบ >> ตอนที่ไดจ่ายกระแสชาร์จ  แบตเตอร์รี่เปรียบเสมือนเป็นโหลดตัวหนึ่ง โหลดมาก ความต้านทานน้อย ดังนั้นการที่ทำให้จากฐานไดไปแบตมีความต้านทานลดลง  ก็เสมือนทำให้มีโหลดเพิ่มขึ้น แต่โดยปกติไดจะปรับแรงดันที่จ่ายให้เหมาะสมอยู่แล้ว ก็จะไม่ทำให้แรงดันมันตกลง แต่ถ้าระบบควบคุมของไดทำงานไม่สมบูรณ์ แรงดันก็อาจจะลดลงได้ และนี่ก็เป็นที่มาของคำว่า (เผลอๆอาจจะลดลง) จากคุณ : ton99 - [ 25 ก.ค. 48 16:12:13 ]