PANTIP.COM : V3636079 ทำความสะอาดเบาะหนัง(สีเบจ)ในรถใช้น้ำยาหรือครีมของอะไรดี []

ความคิดเห็นที่ 9

ผมอ่านเจอแล้ว copy ไว้นะครับ ผมว่าจะทำตามนี้แหละ แต่ยังขี้เกียจอยู่อะครับ
มาดูแลรักษาเบาะหนังกัน

การบำรุงรักษาเบาะหนังก็เป็นอีกเรื่องนึงที่เราคงต้องให้ความใส่ใจเหมือนกันนะครับ เพราะถ้าเบาะนั่งเต็มไปด้วยฝุ่นหรือคราบ หนังเบาะแห้ง แข็ง กรอบ แตกลายงา มันคงทำให้รถของเราๆดูสวยน้อยลงไปได้เยอะเลยทีเดียวแหละ โดยเฉพาะกับเทียน่า ซึ่งเบาะนั่งเป็นเบาะหนังแท้สีครีมเปลือกไข่ไก่ ก็เลยทำให้เกิดคราบสกปรกได้ง่าย และเวลาสกปรกก็จะมองเห็นได้ชัดเจน
เตรียมของกันก่อน

ก่อนจะลงมือ เรามาดูอุปกรณ์ที่เราจะใช้กันก่อนครับ ของที่จะใช้จริงๆก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นของที่หาได้ตามบ้านทั่วๆไปอยู่แล้ว พื้นๆที่ต้องใช้ก็จะมี...

1. สบู่เหลว หรือจะใช้ครีมอาบน้ำทั่วๆไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีกลิ่นหอมหรือผสมครีมบำรุงผิวอะไรทั้งนั้น ถ้าได้เป็นสบู่เหลวสำหรับเด็กก็ยิ่งดี จะได้ไม่มีสารเคมีที่อาจระคายเคืองต่อผิวอันอ่อนนุ่มของเทียน่า :)

ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานหรือผงซักฟอกนะครับ เพราะจะทำให้หนังแห้งแข็ง และอาจทำให้สีเบาะซีดลงด้วย

2. แปรงสีฟัน เป็นไปได้หาที่ขนนุ่มๆหน่อยก็จะดี หรือถ้าได้เป็นแปรงสีฟันสำหรับเด็กด้วยก็ยิ่งดีเลย (ถ้าเป็นแปรงสีฟันเด็ก ดูขนาดหัวแปรงด้วยนะครับ เพราะถ้าเป็นแปรงสำหรับเด็กเล็กเกินไป หัวแปรงมันออกจะขนาดเล็กเกินไปหน่อย)

3. ผ้าขนหนูผืนสะอาดๆสักสองผืน เลือกที่หนาๆนุ่มๆหน่อยก็ดี ขนาดไม่ต้องผืนใหญ่โตมากมาย เอาขนาดประมาณชุบน้ำแล้วบิดหมาดได้ง่ายๆหน่อย แล้วก็ขันหรือถังน้ำขนาดย่อมๆสักสองใบ

4. น้ำยาเคลือบเบาะหนัง อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว ทั้งเรื่องความลื่นมันและกลิ่น เพราะมันมีเยอะแยะหลายชนิดเหลือเกิน รายละเอียดเรื่องน้ำยาเคลือบจะพูดถึงทีหลัง แล้วก็ฟองน้ำนุ่มๆสักอันสองอัน

เมื่ออาวุธครบมือแล้ว เรามาเริ่มดูแลกันไปทีละขั้นตอนเลยครับ

ทำความสะอาด

อันดับแรกเลย ให้ลองสังเกตดูเบาะหนังของคุณใกล้ๆสักนิดนึงก่อน ให้เน้นดูบริเวณร่องของลายเบาะทั่วๆว่ามีคราบฝุ่นหรือสกปรกตามร่องหนังมากน้อยสักแค่ไหน หรือจะลองเอาผ้าชุบน้ำเปล่าบิดหมาดๆลูบผ่านๆเบาะแล้วดูรอยสกปรกที่ผ้าว่ามีสกปรกติดผ้ามามากน้อยแค่ไหนก็ได้
ถ้าเบาะไม่ได้สกปรกหรือมีฝุ่นอะไรมากมาย เราก็ใช้แค่ผ้าขนหนูชุบน้ำเปล่าแล้วบิดให้พอหมาดๆ ลูบทำความสะอาดเบาๆให้ทั่วๆทั้งเบาะด้านหน้าและด้านหลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลมผ่านจนแห้งก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำความสะอาด
แต่ถ้าดูแล้วเห็นมีคราบฝุ่นติดอยู่ตามร่องเบาะ ก็คงถึงเวลาทำความสะอาดให้ทั่วครับ ให้ผสมน้ำสบู่ใส่ถังหรือขันน้ำไว้(กะปริมาณให้พอเช็ดเบาะทุกจุด)หนึ่งถัง กับน้ำเปล่าอีกถัง ผ้าขนหนูสองผืน (สำหรับน้ำสบู่ผืนนึง กับน้ำเปล่าอีกผืนนึง)

ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำสบู่บิดพอหมาด เช็ดที่เบาะให้ทั่วสักสองรอบ ในขั้นตอนนี้ฝุ่นสกปรกบริเวณผิวๆของเบาะจะหลุดออกมา มื่อหนังถูกความชื้นจากการเช็ดน้ำสบู่ก็จะอ่อนตัวลง เราถึงใช้แปรงสีฟันขนอ่อนๆจุ่มน้ำสบู่แล้วแปรงเบาๆไปตามร่องเบาะ ขั้นตอนการแปรงนี่เพื่อให้คราบฝุ่นสกปรกต่างๆในร่องหนังหลุดออกมา (ลองสังเกตสกปรกที่ติดแปรงสีฟันออกมาดูครับ) จากนั้นค่อยใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าบิดหมาดๆเช็ดออกให้ทั่วอีกครั้ง

ทำอย่างนี้ไล่เป็นบริเวณๆไปเรื่อยๆ ระหว่างทำความสะอาดก็พยายามล้างแปรงสีฟันกับซักผ้าที่ใช้เช็ดทั้งสองผืนเป็นระยะๆ ทำจนทั่วทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง เบาะเราก็จะสะอาดปราศจากฝุ่นสกปรกแล้วครับ

ถ้าเบาะบางจุดเป็นรอยสกปรกค่อนข้างมากหรือฝังลึก เราอาจใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะหนัง หรือใช้ครีมสเตคลีนทาบริเวณที่สกปรกมากแล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบนี้เต็มทั้งเบาะนะครับ เพราะน้ำยาทำความสะอาดบางชนิด อาจทำให้สีของเบาะซีดลง หรือถ้าไม่แน่ใจในน้ำยาทำความสะอาดที่จะใช้มีผลกับสีหรือเนื้อของเบาะหรือเปล่า ก็ให้ลองใช้น้ำยากับเบาะบริเวณที่ลับตาเป็นบริเวณเล็กๆดูก่อน

เคลือบให้นุ่ม

หลังจากเอาคราบฝุ่นหรือสกปรกต่างๆออกจนเบาะสะอาดดีแล้ว ก็ปล่อยให้ลมผ่านเบาะสักครู่จนเบาะแห้งดี อย่าขับรถไปตากแดดให้เบาะแห้งสนิทนะครับ มันกลับจะทำให้เบาะแห้งกรอบและแตกได้ง่ายขึ้น

สังเกตว่าหลังเราใช้น้ำเปล่าหรือน้ำสบู่เช็ดเบาะแล้ว ผิวของเบาะจะดูกระด้างขึ้น ถ้าเราเช็ดน้ำแล้วทิ้งไว้บ่อยๆโดยไม่เคลือบให้เบาะมีความชุ่มชื้นบ้าง ในระยะยาวก็อาจทำให้เบาะแห้งหรือแตกเป็นรอยได้เหมือนกัน

สำหรับน้ำยาที่จะใช้เคลือบเบาะหนังนั้น มีด้วยกันมากมายจนเลือกแทบไม่ถูก เรามาว่ากันทีละอย่างละกัน
ที่เห็นกันทั่วไปเลยคือ Waxy (ขวดสีดำๆ) ราคาจะค่อนข้างถูกกว่าน้ำยาประเภทอื่น ซึ่งWaxyเวลาใช้แล้วเบาะจะลื่นมันหลังเคลือบเสร็จใหม่ๆ และเริ่มแห้งหลังเคลือบไปแล้วพักหนึ่ง ส่วนในระยะยาวบางคนก็บอกว่าทำให้เบาะแห้งกรอบ(หรืออาจแตกลาย)ได้เหมือนกัน ถ้าจะใช้Waxyผมว่าควรเคลือบให้ค่อนข้างบ่อยสักนิดนะครับ(สัก1-2อาทิตย์ครั้ง) ส่วนตัวผมเองตะก่อนเคยใช้เหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเคลือบ ช่วงหลังก็เลยไม่ได้ใช้แล้ว

ส่วนแบบที่เห็นวางขายอยู่ทั่วๆไปอีกแบบคือลักษณะแบบเป็นสเปรย์ สำหรับพ่นบนฟองน้ำแล้วเช็ดที่เบาะ เท่าที่ผมลองๆใช้สองสามแบบ โดยทั่วๆไปใช้แล้วจะไม่ค่อยลื่นมันเหมือนแบบแรกที่เป็นขวด ส่วนผลการใช้เคลือบก็เรียกว่าพอใช้ได้ดีในระดับนึง แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยเหมาะกับเบาะหนังโดยตรงเท่าไร เพราะมันไม่ค่อยทำให้หนังเกิดความนุ่มชุ่มชื้นซะเท่าไร ลักษณะมันน่าจะเหมาะที่จะใช้กับบริเวณคอนโซลที่เป็นพลาสติกมากกว่า
กรณีที่จอดตากแดดบ่อยๆ ก็อาจหาน้ำยาเคลือบประเภทที่มีสารป้องกันรังสีUV แต่ส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าไร ถ้าจำเป็นต้องจอดรถตากแดดจริงๆผมแนะนำให้หาที่บังแดดบริเวณคอนโซลมาใช้น่าจะได้ผลดีกว่า และบางคนก็บอกว่าเคยใช้แล้ว บางทียาเคลือบที่มีสารป้องกันUV มันก็กลับทำให้เบาะแห้งและแข็งได้เหมือนกัน

ยังไงก็ลองเลือกๆดูตัวเคลือบเบาะหนังที่เข้ากับลักษณะที่คุณชอบดูนะครับ โดยอาจลองถามข้อมูลจากคนขายดูว่าแต่ละแบบมันเป็นลักษณะไหน โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำว่าให้พยายามเลือกน้ำยาเคลือบที่ดูแล้วน่าจะมีส่วนผสมของสารเคมีให้น้อยที่สุด และเลือกที่ทำให้เบาะมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งแข็ง

ส่วนน้ำยาเคลือบที่ผมเลือกใช้น่ะเหรอครับ... ผมไม่ได้ใช้น้ำยาในรายการข้างบนเลย ที่ผมใช้เคลือบเบาะของผมจะเป็น"จอห์นสันเบบี้โลชั่น" ก็ที่เค้าใช้ทาผิวเด็กนั่นแหละครับ เพราะเท่าที่ผมใช้มารู้สึกว่าใช้แล้วหนังของเบาะมีความชุ่มชื้นและนุ่มดี แล้วก็ไม่เหนียว/ลื่นหรือมีกลิ่นฉุน

การเคลือบนี่ไม่ยากเลยครับ ก็แค่เทน้ำยาเคลือบลงบนฟองน้ำนุ่มๆ แล้วลูบเบาๆให้ทั่วทุกบริเวณเบาะ ไม่ต้องลูบแรงมากนะครับ เพราะเราต้องการแค่เคลือบ ไม่ได้ต้องการขัดเบาะ และแนะนำว่าไม่ควรเทหรือพ่นน้ำยาลงบนเบาะโดยตรง อาจทำให้น้ำยาเคลือบกระจายไม่ทั่วเบาะครับ
แค่ไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆ เราก็จะได้เทียน่าที่มีเบาะหนังสะอาดนุ่ม ชุ่มชื้น นั่งสบายแล้วล่ะครับ

มาดูเบาะหนังกันบ้าง

คราวนี้มาล้างเบาะหนังกันบ้าง ถ้าหากคิดว่าเราจะยกเอาเบาะหนังออกมาล้างเหมือนกับเบาะผ้านี่ ขอให้คิดใหม่เพราะถ้าเป็นไวนิลหรือหนังเทียมก็พอจะยกออกมาล้างได้เหมือนกัน สะดวกกว่าด้วย แต่ถ้าเป็นหนังแท้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คือเป็นหนังแท้ทั้งเบาะหรือแค่บางส่วน ห้ามยกออกมาล้าง ห้ามตากแดดนะครับ เขากรรมวิธีของเขาอยู่แล้ว ง่ายๆ เบาแรงแต่ใช้เวลามาก
เริ่มกันด้วยน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาด ไม่แนะนำให้ใช้ผงซักฟอกเพราะจะทำให้หนังแห้งและแข็ง แต่ขอให้ใช้น้ำสบู่เหลวที่มีขายกันอยู่ทั่วไปนี่แหละมาละลายน้ำสะอาดๆ อุปกรณ์ที่เหลือก็จะเป็นแปรงสีฟัน กับผ้าขนหนูเท่านั้นเอง
สาเหตุที่ให้ใช้แปรงสีฟันอ่อนๆ ก็เพราะผิวหน้าของหนังนั้นจะเป็นร่องเล็กๆ ซึ่งเป็นลายธรรมชาติของมัน นอกจากนั้นตัวหนังเมื่อโดนความชื้น หรือน้ำก็จะมีความอ่อนตัว ซึ่งถ้าเป็นแปรงที่มีความแข็งมากเกินไป มันจะขูดทำลาย ผิวหน้าจนเกิดเป็นขุยขึ้นมา จึงควรใช้แปรงสีฟันที่เราใช้งานจนหมดสภาพแล้วก็ได้ (ความจริงซื้อของใหม่ก็ราคาไม่เท่าไรนะ เพราะไม่จำเป็นต้องซื้อของแพงอยู่แล้ว) เมื่อได้เวลาอันสมควรก็จัดการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำยาที่ผสมเอาไว้ บิดให้พอหมาดๆ เพื่อเอาไปเช็ดให้ทั่วเบาะ ในขึ้นตอนนี้จะสามารถล้างเอาสิ่งสกปรกออกมาได้ในระดับพื้นผิว เมื่อเช็ดไปสัก 2 รอบเราก็ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำยาเอาไปขัดเบาะๆให้ทั่วเบาะ จะสามารถเห็นความสกปรกได้อย่างชัดเจนจากขนแปรง ที่ดำขึ้นมาทันที
เมื่อขัดและเช็ดจนมั่นใจว่าสะอาดเรียบร้อยดีแล้ว สุดท้ายก็จะเป็นการเช็ดล้างด้วยน้ำเปล่า เพื่อเอาคราบน้ำสบู่ออก ซึ่งงานนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แปรงก็ได้ ใช้เพียงผ้าขนหนูสะอาดๆ ชุบน้ำบิดพอหมาดแล้วเอาไปเช็ดที่เบาะอีกสัก 2-3 รอบเท่านี้เบาะรถคุณก็จะกลับมาสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง เกือบลืมไป การจะตากให้เบาะหนังแห้งนั้นแค่เปิดกระจกไว้หน่อย เท่านั้นก็พอครับ เพราะตัวเบาะหนังไม่ได้ชุ่มน้ำเหมือนกับเบาะผ้า และเมื่อแห้งดีแล้วก็ลงน้ำยารักษาหนังได้อีกเพื่อช่วยคงความนุ่มมวลและยังเป็นการช่วยยืดอายุของหนัง ไม่ให้เปี่อยเร็วอีกด้วย
การล้างทำความสะอาดเบาะรถนั้นทำได้ไม่ยากแต่ต้องใช้เวลามากเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้เวลาที่รถเราโดนน้ำท่วมหรือเด็กๆ ทำขนมหรืออย่างอื่นหกใส่ หรือจะเป็นเพราะใช้งานมานานก็แล้วแต่ แค่เรามีเวลาสัก 2-3 วันเท่านั้น ก็เพียงพอสำหรับ การล้างทำความสะอาดแบบชนิดที่ทำให้ภายในห้องโดยสารมีกลิ่นหอมโดยไม่ต้องพึ่งน้ำหอบปรับอากาศเลย สนใจจะทำเองก็ลองมองหาวันที่ไม่ต้องใช้รถและอากาศสดใส มีแดดเยอะๆ ไว้ได้แล้วครับ

ที่มา นิตยสารนักเลงรถกระบะ

จากคุณ : City ป้ายแดง - [ วันภาษาไทยแห่งชาติ 23:09:37 A:192.168.1.41 X:203.188.18.80 TicketID:071704 ]