ความคิดเห็นที่ 1 เหอะ ๆ เปงโชคดีที่เกิดมาหูไม่ค่อยทองเท่าไหร่ อิอิ จากคุณ : O-Omega - [ 7 ก.ย. 48 23:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ แต่ผมว่า ฝันเฟ้อละเมอตด จากคุณ : Aop - [ 7 ก.ย. 48 23:21:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แต่โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อยครับ ยังรอผู้รู้มาชี้แจงครับ จากคุณ : bank09 - [ 7 ก.ย. 48 23:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวหมุนแบบไหนครับ ถ้าเป็น VR แบบสมัยก่อนก็อาจจะจริง เพราะแถบความต้านทานมันอาจจะไม่ดี  หรือใช้งานจนเสียคุณสมบัติที่ดีไป แต่ถ้าเป็นตัวหมุนแบบที่มี decoder คงไม่มีผล จากคุณ : เขาหาว่าผมหูทอง (ton99) - [ 8 ก.ย. 48 00:28:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าพัฒนาการมาจากเครื่องบ้านอ่ะครับ เทคนิคจริงๆ ก็มีผลครับ แต่ดีขึ้นหรือแย่ลงไม่ขอออกความเห็นครับของแบบนี้ต้องลองครับ สนใจเดี๋ยวจะซื้อมาให้ลองที่ร้านดีไหมครับ แบบต้องพิสูจน์อ่ะนะครับ ท่านๆ จะได้รู้ด้วยตัวเองไปเลยครับ จากคุณ : MIKE_BADBOY - [ 8 ก.ย. 48 01:30:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็น่าจะเห็นผลต่างล่ะครับ แต่มากน้อยแค่ไหน จะคุ้มหรือไม่ อันนี้ตอบยากแฮะ.... ในเครื่องเสียงบ้าน ผมเคยแต่เอา แอมป์ ไปเจาะท้ายเครื่อง เพื่อใส่ปลั๊ก IEC แล้วเปลี่ยนสายไฟให้ดีขึ้น...ก็ฟังเพลงดีขึ้นจมล่ะครับ.... หมดค่า ปลั๊ก  + ค่าแรงไปราวๆ 1 พันบาท ... ไม่รวมค่าสายไฟ อ่ะครับ...คุ้มหรือเปล่าไม่รู้ เพราะเสียไปจริงๆแค่พันเดียว ที่เหลือขุดๆเอาที่บ้านอ่ะครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 8 ก.ย. 48 07:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วยอธิบายหน่อยครับว่ามันมีผลได้อย่างไร เพราะมันไม่ได้ยุ่งกับวรงจรไฟฟ้าเลย แล้วเสียงมันจะดีขึ้นได้ไงครับ เปลี่ยนแค่ตัวปุ่มหมุนอย่างเดียว ดูไม่ค่อยมีเหตุผล ลองคิดดูเล่น ๆ ผมว่ามันเหมือนกับการเปลี่ยนแป้นคันเร่งแต่รถยนต์กลับแรงขึ้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อะไรประมาณนี้อ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 48 07:27:20 จากคุณ : bank09 - [ 8 ก.ย. 48 07:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คงได้ด้านจิตใจมากกว่าครับ จากคุณ : Megahead (aircadet) - [ 8 ก.ย. 48 07:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อิอิ....อยากลองฟังจัง....(เพราะไม่ได้ซื้อ) ผมว่าน่าจะมีผมต่างบ้าง(แต่ดีหรือ ไม่ดี...ไม่รู้) คงเหมือนเปลี่ยนขาตั้งลำโพงในบ้านมั้งครับ...ไม่ได้ยุ่งกะวงจร  แต่เสียงก็เปลี่ยนไปครับ หรือการใส่ Tiptoe รองใต้ลำโพงอ่ะมั้ง   อย่าคิดมากครับ     ใครมีขอลองฟังฟรีบ้างสิครับ....แต่ไม่ซื้อนะเพราะผมไม่ใช้alpine เหอๆๆ จากคุณ : TONAL - [ 8 ก.ย. 48 08:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็น เหมือน คนที่ 4 อ่ะครับ ..... จากคุณ : s_thongdee - [ 8 ก.ย. 48 10:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แค่เปลี่ยน knob เนี่ยนะ ถ้าเปลี่ยน VR ที่มีคุณภาพสูงขึ้นน่าจะมีผลกว่า จากคุณ : . (Tread'em all) - [ 8 ก.ย. 48 11:22:26 ]

ความคิดเห็นที่ 12 VR หรือ Variable Resistors เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ ใช้ในการปรับเสียง จะมีค่าผิดพลาดในตัวมันเอง ถ้าหาก ใช้ของที่มีคุณภาพต่ำก็จะมีค่าผิดพลาดสูง นั่นหมายความ ว่าคุณภาพเสียงย่อมด้อยลงไป ถ้าเปลียนไปใช้ของที่มี คุณภาพสูง ค่าผิดพลาดต่ำก็จะได้คุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น รายละเอียดของเสียงผ่านได้มากขึ้นบริสุทธิ์ขึ้น ราคาก็แพง ตามไปด้วย ตัวนี้มันมีผลต่อเสียงมากอย่างไร ก็เนื่องจากว่า สัญญาณเสียงจะต้องผ่านตัวนี้ก่อนที่จะเข้าภาคขยายสัญญาณ เสียง หรือ preamplifier ก่อนส่งต่อเข้าภาคขยายเสียงหรือ Power Amplifier แล้วออกลำโพงให้เราได้ยินเสียง จะเห็นได้ว่าเจ้าตัว VR นี้เป็นตัวกั้นสัญญาณเสียงให้ผ่าน มากหรือน้อยตามที่เราต้องการ และมีผลต่อเสียงตามที่กล่าว ข้างต้น จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ระบบเครื่องเสียงของท่าน ด้วย และมันเป็นเพียงแค่อุปกณ์ตัวนึงเท่านั้น ในหลายๆตัว จากคุณ : love EVO - [ 8 ก.ย. 48 11:39:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตอบ # 12 เค้าเปลี่ยนแค่ knop ครับ ไม่ได้เปลี่ยน VR จากคุณ : bank09 - [ 8 ก.ย. 48 15:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เค้าเปลี่ยนแค่นี้ครับพี่น้อง ไม่ได้ยุ่งกับวงจรใด ๆ เลย จากคุณ : bank09 - [ 8 ก.ย. 48 16:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โอ้  มึนเลยเจอแบบนี้ จากคุณ : ton99 - [ 8 ก.ย. 48 17:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สรุปง่ายจะตาย ยังงี้ก็ โม้ อะดิ๊ จากคุณ : nuinonthaburi - [ 8 ก.ย. 48 18:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องพิสูจน์ จากคุณ : tan (TAN1) - [ 8 ก.ย. 48 19:03:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แบบนี้ต้องเอาไปลงใน Ripley's  Believe it or not อ่ะ จากคุณ : Land Speed - [ 8 ก.ย. 48 19:18:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ง่ะ....... แบบนี้ก็หลอก แ_ด_ก กันอ่ะจิเนี่ย ต่อให้เอา ทองคำฝังเพชรมาใส่ก็ไม่มีผลเลยครับพ่อแม่พี่น้องเอ๋ย จากคุณ : love EVO - [ 8 ก.ย. 48 23:21:48 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อืม... แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 48 03:13:42 จากคุณ : สายล่อฟ้า (DonJuan) - [ 9 ก.ย. 48 03:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่มีผลหรอกครับ ขอยืนยันในฐานะนักอิเล็กฯ ขอออกตัวก่อนเลยนะครับ ว่าผมมีความรู้ในการซ่อมสร้างเครื่องขยายเป็นอย่างดีทั้งในวิชาเรียนและหนังสือที่เป็นเทคนิคการสร้างโดยเฉพาะ(ที่บอกแบบนี้เพราะบางคนเค้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เค้าจะเรียนแค่พอผ่าน) และการสร้างเครื่องขยายหนึ่งเครื่องนั้นต้องใช้เทคนิคในการป้องกันเสียงรบกวนมาก เรียกว่าแทบทุกจุดในเครื่องขยาย ตัว VR หรือโวลลุ่มที่คุณเรียกก็อย่างที่ #12 บอกครับ บิดน้อยค่า ความต้านทานมาก ไฟไหลได้น้อย เสียงดังน้อย บิดสุดค่าความต้านทานเป็นศูนย์ หรือไม่มีความต้านทาน จุดที่ทำการเปลี่ยนค่าความต้านทานก็อยู่ภายในตัว VR แกนหมุนไม่ได้มีผลแต่อย่างใด เทคนิคที่เกี่ยวกับตัว VR ก็มีอย่างเดียวคือ ถ้ามีVR หลายตัว ต้องเชื่อมตัวถังให้กราวด์ติดกัน ไอ้เทคนิคที่อาศัยการเปลี่ยนฝาครอบแกนวอลลุ่มเนี่ยไม่เคยเห็นจริงๆ ผมก็ยังงงอยู่เหมือนกัน เพราะเคยอ่านบทความของคนกลุ่มนี้หลายครั้งแล้ว อ่านแล้วก็นึกอยู่ว่า เค้ามีความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์แค่ไหนเนี่ย ยอมรับว่าบางคนมีความรู้จริงๆ แต่บางคนที่เค้าเรียกว่า อาจานๆ เนี่ย ไม่มีความรู้เลย น่าจะไม่เคยเรียนมาด้วยซ้ำ รู้ผิดๆถูกๆ เคยเห็นเค้าโมพาสซีฟโดยใช้สายไฟเชื่อมอุปกรณ์เข้าด้วยกันแทนลายทองแดงบนปริ๊น ได้คำนวณพื้นที่ผิวไหมนั่น ยังไงลองฝากไปอ่านบทความที่เขาเขียนถึง CAP ของ Monster ดูเถอะ ในบทความเขียนถึงยี่ห้อเดียวแต่สามแบบคือ ขนาดความจุ 0.5 ฟารัด ขนาดความจุ 1 ฟารัด ขนาดความจุ 1 ฟารัด DIGICAP(ดิจิตอลมิตเตอร์) ชุดเครื่องเสียงก่อนต่อและหลังต่อ CAPACITOR เข้าไปในระบบ... หลังจากต่อเข้าไปกับเพาเวอร์แอมป์ รับรู้ได้ถึงพละกำลังของเสียงที่อิ่มแน่นขึ้นในทันทีที่เสียงเพลงหลุดออกมา เสียงทุกย่านมีความชัดเจนขึ้นในทุกๆรายละเอียดของเสียง แยกน้ำหนักอ่อนแก่ หนักเบาซึ่งเป็นคอนทราสต์ของไดนามิกให้สัมผัสรับรู้ได้ชัดเจนขึ้นดีมาก รายละเอียดเสียงเล็กเสียงน้อยที่เคยได้ยินแต่เพียงแผ่วเบาก็ชัดเจนขึ้น กับรายละเอียดของเสียงบางอย่างที่ไม่เคยได้ยินในก่อนหน้านี้ ก็แสดงออกมาให้ปรากฏ มาในส่วนของมิติอาณาบริเวณเวทีเสียง ให้ความกว้างสัมผัสถึงความโอ่อ่าสง่างาม เสมือนดึงหรือทำให้ช่องว่าช่องไฟระหว่างตัวโน้ตชัดเจนและสงัดขึ้น ฟังบทเพลงคลาสสิกทราบได้ทันทีว่าเรจน์ของไดนามิก(คือเสียงจากต่ำสุดไปสูงสุด)มีความกว้างมากขึ้น ทำให้ฟังในทุกประเภทแนวเพลงได้อรรถรสของความไพเราะและเร้าใจมากขึ้นดีมาก หึหึ CAPACITOR ค่าความจุ 0.5 ฟารัดเทียบกับ 1 ฟารัด... ในชุดเครื่องเสียงดังกล่าวข้างต้น 0.5 ฟารัดจะให้เสียงที่กระชับ เฉียบพลัน รวดเร็วกว่า แรงปะทะต้นโน้ตของแต่ละเสียงชัดเจน จังหวะของบทเพลงรุกเร้า ในส่วนของ 1 ฟารัด ให้น้ำเสียงออกไปทางราบรื่น อวบอิ่มด้วยเนื้อเสียงกว่า ทุ้มฟังได้ความนุ่มนวลกว่าแต่ไม่ขาดไปซึ่งความกระชับ มิติเวทีเสียงกว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน ตัวนึงค่าความจุน้อยอีกตัวค่าความจุมาก เป็นไปได้แค่ตัวไหน เพี้ยนน้อยหรือเพี้ยนมากกว่าเท่านั้น CAPACITOR 1 ฟารัดแบบมีดิจิตอลมิทเตอร์ เทียบกับแบบธรรมดาไม่มีดิจิตอลมิทเตอร์... ความแตกต่างมีให้เห็นบ้างในยี่ห้ออื่น เนื่องจากกระแสไฟต้องผ่านวงจรของดิจิตอลมิทเตอร์จึงเกิดความต้านทานขึ้น ทำให้เสียงอืดเฉื่อย ขาดไปซึ้งความชัดเจนของไดนามิกของเสียง รวมถึงพละกำลังแรงปะทะที่เฉียบพลัน แต่อาการที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ปรากฏกับ MONSTER POWER CAPACITOR สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ จากขั้วต่อด้านบนมีแกนโลหะชุปทองขนาดใหญ่เชื่อมต่อตรงไปยังส่วนที่เป็นขั้วบวกและลบของ CAPACITOR โดยตรงไม่ผ่านวงจรดิจิตอลมิตเตอร์ ทำให้ไม่เกิดความต้านทานการไหลของกระแส โดยที่วงจรดังกล่าวต่อคร่อมไว้ที่ขั้วบวกและลบแทน ผมไม่เคยเห็นโวลท์มิเตอร์ที่ไหนไปต่อขั้นวงจรหรอกครับ มันก็ต้องต่อคร่อมทั้งนั้นแหละ ง่ายที่สุดใครจะสร้างปัญหาให้ตัวเอง การต่อ CAPACITOR เข้ากับเพาเวอร์แอมป์... การลองฟังได้ต่อใน 2 ลักษณะคือ ก. ไฟจากแบตฯมาเข้าตัว CAPACITOR และต่อจากตัว CAPACITOR ไปเข้าเพาเวอร์แอมป์ ข. ไฟจากแบตฯ มาเข้าเพาเวอร์แอมป์ และจั้มไฟบวกลบที่เพาเวอร์แอมป์ไปเข้า CAPACITOR การต่อในลักษณะ ก. จะได้จังหวะย้ำเน้น น้ำหนักเสียงของแต่ละโน้ตชัดเจนกว่า แรงปะทะของเสียงชัดเจน โฟกัสของตำแหน่งเสียงชัดเจน แต่มิติอาณาบริเวณรวมถึงความราบรื่นเป็นรองการต่อในลักษณะ ข. การต่อในลักษณะ ข. ได้ความกลมกลื่นที่ราบรื่นของเสียง ไม่เน้นที่จังหวะย้ำเน้นให้จัดเจนนัก ยอมลดหย่อนโฟกัสของเสียงลงสักหน่อย ฟังสบายไพเราะขึ้น ที่สำคัญมิติอาณาบริเวณเสียงกว้างกว่ามาก ช่องว่าช่องไฟระหว่างตัวโน้ตเว้นระยะห่างได้ดีมาก ไม่เร่งรีบหรือติดกันจนไม่สามารถแยกแยะได้ ข้อ ก. เอา cap ไปคร่อมแอมป์ถูกต้อง แต่ข้อ ข. เอาแอมป์ไปคร่อม cap หึหึ ความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์มันอยู่ตรงไหนล่ะ http://www.audio-teams.com/ คลิ๊ก autosound หัวข้อล่างสุด อ้อ ยังไงฝากเรื่องโมพาสซีพหน่อยละกัน แน่ใจแล้วเหรอที่เอาอุปกรณ์เกรดสูงจากเมืองนอกออก แล้วเอาอุปกรณ์ที่เกรดขายในไทยไปใส่แทน ถ้าต้องการเสียงที่เปลี่ยนไปก็ โอเคอยู่ อืม คิดเอาละกัน พูดแล้วเซ็ง ทำวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นไสยศาสตร์ไปได้ ผมไม่ได้หูทองนะ แต่ชอบอะไรที่มันมีทฤษฎี ไม่มีทฤษฎี ก็ไม่มีปฏิบัติ อย่างน้อยต้องตั้งสมมุติฐานได้ไม่ใช่ลอยๆ แบบนี้ จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 9 ก.ย. 48 11:09:45 A:203.155.221.253 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #6 ครับ เปลี่ยนปลั๊กไฟกับสายไฟ น่ะมันมีผลอยู่แล้วล่ะครับ #9 ครับ การเปลี่ยนขาตั้งลำโพง หรือการใส่ tiptoe รองใต้แอมป์กับลำโพงเครื่องบ้านอันนั้นมีผลนะครับ ใช่ครับ ไม่ได้ยุ่งกับวงจร(เหมือนการแดมป์ประตูแหละ) แต่มันช่วยลดการสั่นคราง อย่าเอามาเทียบกับไอ้ฝาครอบวอลลุ่มวิทยุรถยนต์เลยครับ รถน่ะจุดสร้างเสียงไม่พึงประสงค์เยอะ ไม่เหมือนเครื่องบ้านนะครับ จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 9 ก.ย. 48 11:35:41 A:203.155.221.253 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 23 หลักการ ทฤษฏีและปฏิบัติ มันต้องไปด้วยกันเสมอ แต่บางครั้งความรู้สึกก็เป็นอะไรที่ไม่อาจอธิบายได้ การเล่นเครื่องเสียงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วพวกละอ่อนก็เยอะเพ่นพ่านออกความเห็นกัน บางคนได้ดิบได้ดีจากการเชียร์สินค้า ได้โปรโมตกันไปเป็นอาจารย์ อ้างตัวว่ามีประสบการณ์มานานปีทำวิทยาศาสตร์กลายเป็นไสยศาสตร์ได้ก็มี ควรใช้วิจารณญานของตนในการเชื่อหรือไม่เชื่อ ว่าแต่ว่าพวกที่วิจารณ์เครื่องเสียงกันนะ มีใครมีประสบการณ์จากดนตรีสดที่ไม่ผ่านการขยายเสียง (live unplugged) อย่างที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเทศกาลดนตรีฯ ที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ นั่นนะ ไปฟังกันหน่อยเถอะแล้วค่อยมาคุยกันเรื่องของเสียงและความเป็นดนตรี เท่าที่ผ่านมาไม่เคยเจอบรรดาอาจารย์ทั้งหลายไปฟังของแบบนี้กันเลยแล้วก็มาวิจารย์กันเป็นคุ้งเป็แคว น่าสงสารบรรดาลูกศิษย์ที่หลายคนอุตสาห์ยกย่อง แหมได้แค่สมาธิเบื้องต้นดันอวดว่าบรรลุอรหันด์ จากคุณ : นิรฺนาโม (nynop) - [ 9 ก.ย. 48 12:00:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อืมม... ลองไปฟังกันรึยังอ่ะ... ลูกบิดปรับเสียง มันเกี่ยวกับการเพิ่มลดความดังของเสียงใช่ไหม ? แล้วมันเกี่ยวกับเสียงออกมาให้คุณฟังกันไหม ? แล้วคุณคิดว่ามีมันแรงสั่นสะเทือนเกิดกับแกนกลางหรือลูกบิตไหมล่ะ ? [ไม่ว่าจะสั่นน้อยนิดก็ตาม คุณคิดว่ามันสั่นไหม ?] แล้วแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น มันมีผลต่อเสียงไหม ? [ไม่ว่าจะมากหรือน้ายนิดก็ตาม มันมีผลไหม ?] การที่นำอุปกรณ์มาใส่เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของแกนกลางลูกบิด "มันไสยศาสตร์ ตรงไหน ?" ใส่แล้ว ไม่ว่าเครื่องบ้าน หรือ รถยนต์ มันมีผลเสียงทั้งนั้น แต่ว่าจะมากหรือน้อย เสียงดีไม่ดี มันเป็นอีกเรื่องนึง การที่จะตัดสินใจว่าอะไรดีไม่ดี อะไรมีผลไม่มีผลนั้น คุณได้ลองหรือยัง... เปิดใจกว้างๆ หน่อย... หัดรับสิ่งใหม่ๆ บ้าง... อยากรู้เรื่องจริงว่าเป็นยังไง ก็ไปฟังของจริงกับผู้ผลิต HI-FI Knop ดู แล้วจะรู้เอง... Front แบบไหนก็ได้ ขอให้มีลูกบิดปรับเสียงและถอดได้ ที่ติดต่อก็จากหนังสือเล่มเป็นกระทู้นั้นล่ะ ใส่แล้วมีผลต่อเสียง แต่ว่าเสียงจะดีไม่ดี อีกเรื่องนะ...เพราะไม่มีหูทองฟัง... จากคนเคยฟังของจริง.... ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช #21 "ข. เอาแอมป์ไปคร่อม cap หึหึ ความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์มันอยู่ตรงไหนล่ะ"       อ่านแล้วแล้วเหมือนกัน....               ต่อแบบนั้นแล้ว คุณคิดว่ามันมีผลเสียต่อวงจรต่างๆ ในระบบเครื่องเสียงไหมล่ะ       - ถ้ามี ก็ช่วยแจงหน่อยนะ จะประดับความรู้ไว้หน่อย เพราะว่ารู้น้อย... จะได้ไม่ทำตามนั้นเลย เพราะกลัววงจรจะพังเอา...  ขอบคุณล่วงหน้าครับ ^_^       - ถ้าไม่มี คุณคิดว่ามันมีผลต่อเสียงไหมล่ะ ? [เสียงดีไม่ดี เป็นอีกเรื่อง] ๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒ #23 หลักการ ทฤษฏีและปฏิบัติ มันต้องไปด้วยกันเสมอ แต่บางครั้งความรู้สึกก็เป็นอะไรที่ไม่อาจอธิบายได้ การเล่นเครื่องเสียงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน               ใช่ การเล่นเครื่องเสียงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ละคนต่างวัยต่างวาระ... ก็ต่างความชอบ...               มีคนเขียน ก็ต้องมีคนอ่าน คนอ่านก็ต้องวิจารณญานด้วยตนเอง มีจุดยืนของตัวเอง ฟังหูไว้หู ไม่ใช่งมงาย การลองด้วยตนเองเป็นการดีที่สุด...         คนเขียนเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสิน แต่ไม่คำตอบสุดท้าย        .      .      .         แล้วคำตอบสุดท้ายอยู่ที่ไหนล่ะ      .      .      .      มันก็อยู่ที่ตัวคุณเองนั้นล่ะ...      .      .      . แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 48 15:56:11 จากคุณ : nemo_kung - [ 9 ก.ย. 48 15:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 งั้นคุณ nemo_kung จาก #24 ช่วยให้หลักการณ์และเหตุผลหน่อยครับว่าทำไมแค่เปลี่ยน Knop แล้วทำให้มีผลต่อเสียง ขอบคุณครับ จากคุณ : bank09 - [ 9 ก.ย. 48 16:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 26 นี่รูปที่เจอมาครับ จากคุณ : bank09 - [ 9 ก.ย. 48 16:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 k. bank09 ครับ  หลักการมันอยู่ใน #24 อยู่แล้วครับ  ถ้าต้องแบบละเอียด ผมว่า k. bank09 ติดต่อผู้ผลิต Hi-Fi-Nhob โดยตรง จะสอบถามเฉยๆ หรือ ทดลองตัวตนเอง ได้ผลยังไงแล้ว ก็นำผลที่ทราบนั้นมาลงในกระทู้นี้  เพื่อที่จะประกาศให้ทุกคนที่อ่านในกระทู้ว่า การเปลี่ยนล Hi-Fi Nhob มันมีผลต่อเสียงจริงหรือไม่     เพราะ      1. คุณเองก็ไม่เชื่อ แต่อยากทราบหลัก    2. ถ้าคุณเป็นคนสอบถาม หรือทดลองด้วยตัวเอง คุณเองน่าจะเป็นคำตอบที่น่าเชื่อถือให้กับกระทู้นี่ ว่าใส่ Hi-Fi Nhob มันมีผลต่อเสียงหรือไม่       3. เมื่อรับทราบผลว่าเป็นยังไงแล้ว จะได้ปิดกระทู้ด้วยตัวเองคุณเองด้วย...       ด้วยสามเหตุนี้ คุณน่าจะทำนะ ^_^ จากคุณ : nemo_kung - [ 9 ก.ย. 48 18:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าว่ากันในฐานะคนเล่น มีสิก็เห็นผลพอรู้สึกได้ สำหรับเรื่องการฟังนะ แต่อาจจะไม่มากไม่มายเป็นแบบว่าสวรรค์นรกอยู่กันที่ตรงนี้ บางคนก็ฟังไม่ออกก็มี แต่หลายคน(หรือจะว่าเกือบทุกคนก็ได้นะ)ถ้ามีโอกาสได้ลองเทียบดูก็ฟังออกกับการเล่นอุปกรณ์อย่างนี้ หรือบางคนก็เอาดินน้ำมันมาแปะที่วอลลุ่ม โดยที่เหตุผลที่ได้ยินกันก็จะประมาณที่คุณ nemo_kung ได้บอกไว้ ถามผมว่ารู้สึกไหมรู้สึก ถามว่าเล่นไม่ ไม่เล่นอ่ะ ไม่อยากให้การใช้ชีวิต Lifestyle ของเรามันโดนจุดเล็กๆพวกนี้มากำหนดมากไป แต่บางทีผู้ที่ได้ทดสอบเขาก็บรรยายได้ยาวเป็นช๊อทๆทำให้คนที่อ่านรู้สึกไปเองว่า เฮ้ยมันเปลี่ยนนรกเป็นสวรรค์ได้ อย่างนี้ระบบเราที่เป็นอยู่ ถึงจะติดลำโพงไม่ดีไม่มีไม้รอง อากาศรั่วเจอกันจังๆอย่างนี้ไม่เป็นไร ไปเปลี่ยนเจ้าลูกบิดนี้ เราถึงสวรรค์แน่ อันนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน คนเล่นเครื่องเสียงบ้านบางคน(หลายคน)ก็ติดตามหาข้อมูลในเน็ต ก็อ่านๆดูๆว่ามีอะไรเล็กๆง่ายๆมาให้เราจับเล่นบ้าง ก็ยัดๆๆมันเข้าไป พอไปดูที่บ้านโอ้โหอุรุงตุงนังไปหมด ไอ้นี้รองอยู่บนไอ้นี้ มีไอ้นั่นแปะอยู่ ไอ้โน่นทับอยู่บนแต่ขอโทษลำโพงวางดื้อๆวางบนหิ้งแปะติดผนังมันอยู่อย่างนั้น จุดเบ้อเริ่มเท่าช้างข้ามไปแบบว่ามองไม่เห็น แต่ไปใส่ใจเล่นจุดเล็กๆๆๆนิดเดียวซะจนอย่างกับตามด อันนี้ก็ไม่ไหว ถ้าเล่นๆๆๆๆจุดใหญ่จุดสำคัญกันจนไม่มีอะไรจะเล่นแล้วค่อยมาดูตรงนี้ก็ได้   แต่ท้ายสุดนี้ใครจะเล่นอย่างไรอยู่ที่เรื่องของเขานั่นแหละ เราเสพข้อมูลก็มาพิจารณากลั่นกรองกันเอาเอง มีโอกาสได้ลองก็ได้ลอง เรื่องเครื่องเสียงทั้งบ้านหรือรถสิ่งที่อยู่เหนือไสยศาสตร์(บางคนก็มุ่งมาแนวนี้อย่างเดียวเลย) หรือวิทยาศาสตร์(บางคนก็สไตล์นี้ ประมาณว่าคุยกันทีนี่ สายตัวนี้มันเที่ยงตรงนะ ว่ากันไปถึงทฤษฎีควอนตัม ฟังแล้วง่วงนอน) ก็คือตัวเราเอง! อันไหนเราชอบก็ทำไปเล่นไป อันไหนเราไม่สนก็ช่างมันบ้างก็ได้ นี่คือความเห็นผมนะ อย่างบางตัวดับไฟหน้าจอได้ (เครื่องบ้านหลายตัว เครื่องรถก็บางตัว) ใช่เสียงเปลี่ยนไปดีขึ้นจริงๆ แต่นิดหน่อยนะ นิดเดียวจริงๆ แต่ถามว่าผมดับมั๊ย ไม่อ่ะ ขี้เกียจ มันมองไม่เห็นว่าเราเล่นอะไรอยู่เพลงไหนตรงไหน ว่ากันที่วิทยาศาสตร์มากๆอย่างในรถผมกดหน้ากากเปิดฟร้อนท์ลงเลยขณะเล่นอยู่ ไฟหน้าดับหมด แต่ถามว่าเสียงดีขึ้นไหม แย่ลงด้วยซ้ำ ถ้าหากมันดีขึ้นจะทำมั๊ย ก็ไม่ทำอยู่ดี การเล่นเครื่องเสียงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับอย่างที่ว่ากัน ก็เอากันตามสบายตามสะดวกเราดีกว่า ผมว่านะ จากคุณ : คนกรุง (คนกรุง) - [ 9 ก.ย. 48 18:55:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ้กระทู้นี้ยาวจัง ได้สาระน่ะ ก็ไปคิดกันเอาเอง ตามใจชอบ จากคุณ : tan 1 (TAN1) - [ 9 ก.ย. 48 19:28:53 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ของแบบนี้ต้องลองครับ อยากรู้ว่ามันดีขึ้นหรือเปล่า ต้องทดลองดูไม่รู้ว่าที่พูดๆกันได้มีทดลองแล้วกันหรือยัง น่าจะเปิดรับบ้างแล้วลอง ดีคือดี ไม่ดีก็อีกเรื่อง พูดไปพูดมาไม่ได้ประโยชน์หรอก ไปลองหาฟังดูแล้วค่อยสรุปก็ยังไม่สาย จากคุณ : เสียวหวาน - [ 9 ก.ย. 48 19:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เครื่องเสียงสำหรับนักฟังที่แท้จริง  ฟังแล้วได้ความไพเราะ  เกิดเป็นอารมณ์ต่างๆนาๆ  ที่แต่ละชุดเครื่องเสียงจะพาไป  การเล่นเครื่องเสียงเหล่านี้ก่อให้เกิดความสุขต่อจิตใจที่ดีงาม เล่นเครื่องเสียง  แล้วจิตใจพาลว้าวุ่น  เกิดความคิดที่สับสนขึ้นในจริต  คิดว่าใครทำอะไร  อย่างไร  เป็นไปอย่างไร  จริงไหม  ถูกต้องไหม  ถามว่าท่านเล่นเครื่องเสียงแบบนั้นแล้วได้อะไร  ได้เกิดโชว์ภูมิปัญญาว่าแก่กล้าสามารถจากการเรียนด้วยวิชากระนั้นหรือ  "กลับมามุ่งสู่ความดีงามในจิตใจดีกว่า" มีบางที่ในโลกที่เราไม่เคยไป  ไม่เคยเห็น  แต่ถ้าใครเค้าเคยไปและเคยเห็น  นำสิ่งเหล่านั้นมาเล่าสู่กันฟัง  บางครั้งถูกหัวเราะจากบัณฑิตผู้มีความรู้สูง  มากด้วยวิชาความรู้(แต่ท่านน่าจะนำสิ่งเหล่านั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้)  แต่ถามว่าบัณฑิตผู้มากด้วยวิชาความรู้  "เคยไปมารึยัง" สิ่งที่เห็น  บางครั้งความเป็นจริงต่างไปจากนั้น  การเล่นเครื่องเสียง  อยู่ที่ฟังด้วยหูหรือฟังด้วยวิชาความรู้  ไม่มีใครผิด  ไม่มีใครถูก  ขึ้นอยู่กับแนวทางตามความคิดที่แตกต่างกันไป  "แต่ทำไมสัตว์โลกต้องเบียดเบียนกัน"   วิชาความรู้ที่คิดค้นจนเป็นหลักสูตร  ใครจะรู้บ้างว่าเมื่อก่อนคนคิดค้นอาจถูกกล่าวหาว่าบ้าก็ได้  เพียงแต่สิ่งที่เค้ารู้และได้ทดลอง  คนที่รับรู้ต่อๆมา  ได้ทดลองและเห็นเป็นจริง  วิชาความรู้เหล่านั้นจึงถูกถ่ายทอดต่อมาถึงพวกท่าน   "ไม่มีใครโง่  ไม่มีใครบ้า  มันอยู่ที่ว่าเปิดใจและลองฟังอย่างไร" เซียนหูทองไม่มีจริงในโลกภิภพที่มีแต่ความริษยานี้  เกิดมาจากท้องมารดา  หูก็นิ่มเป็นธรรมดาของเนื้อหนังมนุษย์  เพียงแต่เขาเหล่าได้เปิดรับสิ่งใหม่ๆ  ใครว่าอย่างไร  ลองทำดู  เป็นจริงก็เชื่อถือ  ไม่เป็นจริงต้องถามให้รู้ว่าควรทำอย่างไร  อย่าเพิ่งไปด่าเขา  คนดีๆ  อยากให้วงการดีๆจะเสียใจ  "แต่ถ้าเป็นคนชั่ว หากินกับสิ่งที่ตัวเองรัก  ทุกๆท่านจงรีบไปด่ามัน" วงการเครื่องเสียงรถยนต์  มีผู้มีความรู้มาก  ทั้งจาการเรียนและประสบการณ์  รวมถึงแปลจากเมืองนอก  และฟังเขาเล่า  ทุกท่านต่างมีสิ่งหนึ่งในความคิดที่ยึดถือเอาไว้  อย่าข้องเกี่ยวกัน  อย่าด่ากัน  วงการเครื่องเสียงจะได้ดำรงคงอยู่ อย่าให้วงการเครื่องเสียง  มีแต่พวกอาจารย์  "แต่หากินกับลูกศิษย์"  "อาจารย์รับเงินโฆษณา"  "อาจารย์แปลเอกสารเลยนะ" อยากให้ปล่อยวางเสียบ้าง  อย่าเคร่งครัดจารีตนักเลย  คนทำดี  อยากให้วงการมีสิ่งดีๆ  "มันจะตาย"   แต่ถ้าท่านใดคิดว่าวิชาความรู้ที่มี  เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น  ลองสละความรู้และเวลาที่มี  เขียนบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่รู้และพบเห็น  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ไม่รู้  หนังสือเขาก็เปิดรับนี่ครับ  น่าจะลองดู  เกิดประโยชน์ต่อการมาคุยแบบนี้เป็นไหนๆ อย่าให้วงการเครื่องเสียงรถยนต์  เหลือแค่คน 2 ฝ่าย  คือ  "ผู้นำเข้า"  และ  "ผู้ทำตามผู้นำเข้าเลย" คนดีๆ เวปดีๆ  หนังสือดีๆ  ช่วยกันเลือกสรรส่งเสริมหน่อย  อย่าให้ตายไปหมดเลยครับ "จริงไหม.............." แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 48 23:21:27 จากคุณ : สายล่อฟ้า (DonJuan) - [ 9 ก.ย. 48 23:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นี่ตัวจริงของท่านสายฯ ใช่จริงๆ ใช่ไหมครับ ข้าน้อยขอคารวะต่อทัศนคติดีๆ ของท่านครับ นับถือมากๆ ครับ ส่วนท่านอื่นๆ ที่มีควาทเห็นต่างๆ น่าจะมาลองกันดูนะครับ ที่ร้านผมก็ได้นะครับ จากคุณ : MIKE_BADBOY - [ 10 ก.ย. 48 00:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 #21 "ข. เอาแอมป์ไปคร่อม cap หึหึ ความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์มันอยู่ตรงไหนล่ะ" อ่านแล้วแล้วเหมือนกัน.... ต่อแบบนั้นแล้ว คุณคิดว่ามันมีผลเสียต่อวงจรต่างๆ ในระบบเครื่องเสียงไหมล่ะ - ถ้ามี ก็ช่วยแจงหน่อยนะ จะประดับความรู้ไว้หน่อย เพราะว่ารู้น้อย... จะได้ไม่ทำตามนั้นเลย เพราะกลัววงจรจะพังเอา... ขอบคุณล่วงหน้าครับ ^_^ - ถ้าไม่มี คุณคิดว่ามันมีผลต่อเสียงไหมล่ะ ? [เสียงดีไม่ดี เป็นอีกเรื่อง] แหม โดยมากคนที่ออกตัวว่ารู้น้อยเนี่ย มักมีความมั่นใจในความรู้ตัวเองพอสมควรครับ แต่ทำไมไปคิดว่าเสียงดีไม่ดีมันอีกเรื่องล่ะครับ ขึ้นชื่อว่าการโมดิฟาย ผมว่าทุกคนคงเข้าใจเหมือนๆกันซะอีก โมดิฟายหมายถึงปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมไม่ใช่เหรอครับ ถ้ารู้ว่าโมแล้วทำให้คุณภาพเลวลงใครจะไปโม จริงไหม สมมุติมีรถคันนึงวิ่งได้ความเร็ว 100 กม./ชม. เอาไปเข้าอู่ช่างแต่งเครื่องให้ใหม่ออกจากอู่มาวิ่งได้ 120 กม.อันนี้โอเค จ่ายตังค์ แต่ถ้าออกจากอู่มาแล้ววิ่งได้แค่ 70-80 จากเดิมที่ก่อนแต่งเคยวิ่งได้ 100 นึง คุณจะยังยอมจ่ายตังค์อยู่ไหมครับ แค่ยกตัวอย่างครับ ว่าคนเราไม่ว่าใคร ยอมลงทุนลงแรงย่อมต้องหวัง ให้ผลเป็นบวกทั้งสิ้นครับ เรื่อง CAP ขออธิบายให้ฟังนะครับ คือก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปครับว่าคุณภาพเสียงนั้นจะขึ้นอยู่กับแหล่งจ่ายไฟเป็นอย่างมาก ระบบเสียงนั้นต้องการไฟกระแสตรงที่เรียบ ยิ่งเรียบก็ยิ่งดี ทีนี้เวลาคุณไปเลือกซื้อ cap นอกจากคุณจะดูค่าความจุว่าต้องใช้เท่าไหร่แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวตัดสินก็คือค่า ESR ครับ บางยี่ห้อเขาก็จะไม่ยอมบอกค่าค่านี้ไว้เลย ยี่ห้อไหนที่มั่นใจเขาก็จะกล้าโชว์ครับ ถ้า ESR ต่ำก็จะจ่ายกระแสได้รวดเร็วทำให้มีการกระเพื่อมน้อยกว่าตัวที่ค่านี้สูง การออกแบบตอนที่เป็นทฤษฎีเขาคำนวณไว้ในแบบอุดมคตินะครับ ทีนี้ในทางปฏิบัติจริง มักจะมีตัวแปรต่างๆมาขัดขวางอยู่เสมอ เราทำได้เพียงพยายามลดตัวแปรต่างๆ ลงให้น้อยที่สุดเพื่อให้วงจรเข้าใกล้ความเป็นอุดมคติที่สุด ในอุดมคติสายไฟจะมีค่าความต้านทานเป็นศูนย์โอห์ม แต่สายไฟที่ใช้จริงจะมีค่า คตท. อยู่ค่านึงเสมอ นอกจากสายไฟแล้ว อุปกรณ์อื่นๆ จะมีค่า คตท.เป็นคุณสมบัติประจำ ปัญหามันอยู่ที่ว่า ค่า คตท.นี้ไม่ใช่ ค่า คตท. บริสุทธิ์ แต่เป็นค่า คตท.เสมือน ที่มีค่า R , L , C ปนกันอยู่ ค่า คตท.นี้เปลี่ยนไปตามความถี่ ค่านี้เรียกว่า อิมพิแดนซ์ แหล่งจ่ายไฟจะต้องมี อิมพิแดนซ์ ให้น้อยที่สุด และควรมีค่าเท่าๆ กันต่อทุกความถี่ด้วย ถ้า อิมพิแดนซ์ของภาคจ่ายไฟสูง จะทำให้ แอมป์ทำงานขาดเสถียรภาพ และก่อให้เกิดสํญญาณรบกวนหรือการออสซิลเลต การลดอิมพิแดนซ์(หรือไม่หาเรื่องสร้างเพิ่ม)จึงเป็นหนทางนึงที่จะทำให้ได้เสียงใกล้กับการออกแบบของผู้ผลิต การเพิ่ม cap เข้าไปในระบบก็คือการโมดิฟายภาคจ่ายไฟใหม่ ทีนี้องค์ประกอบของอิมพิแดนซ์ที่ส่งผลต่อการเกิดออสซิลเลตก็จะเป็นสองส่วน คืออิมพิแดนซ์ ใน cap และอิมพิแดนซ์ในสายไฟ cap ก็คือ capacitor หรือตัวเก็บประจุ ชนิด อิเลคโตรไลท์ เป็นตัวเก็บประจุที่คุณภาพห่วยที่สุด มีกระแสรั่วมาก ตอบสนองต่อความถี่สูงไม่ดี ในการสร้างก็ต้องมีขั้ว (ในขณะที่ชนิดอื่นไม่จำเป็นต้องสร้างขั้วให้มัน)แต่มีข้อดีคือ สามารถสร้างขนาดเล็กที่สุดและราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดความจุ แต่ขนาดสร้างได้เล็กแล้ว ตัวยังอันเท่าแขนเลย หุหุ สมัยเรียนไม่คิดหรอกครับ ว่าจะมีใครสร้างขนาด 1 ฟารัดออกมา ไม่รู้จะไปทำอะไร ใหญ่เหลือเกิน ตัวเก็บประจุในอุดมคตินั้น จะมีอิมพิแดนซ์น้อยมาก ที่ความถี่สูง แต่ด้วยความที่มันเป็นอิเล็กโตรไลท์ มันจึงมีสารไดอิเล็กตริก(เช่น น้ำมัน)กั้น ระหว่างแผ่นเพรท ทำให้มีความต้านทานที่ความถี่สูงคล้ายเป็นคอยส์ตัวหนึ่ง ดังนั้นสารไดอิเล็กตริกของตัวเก็บประจุจึงมีอิมพิแดนซ์ต่อความถี่สูง ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนจากตัวเก็บประจุเสียเอง แต่ในแอมป์ก็มีภาคจ่ายไฟกรองอยู่แล้วชั้นนึง เพียงแต่เราไม่สามารถทราบได้ว่าวงจรที่อยู่ภายในคุณภาพดีแค่ไหน สิ่งเดียวที่เราทำได้จึงเป็นเพียงอย่าสร้างปัญหาเพิ่มให้เสียงมันเลวร้ายลง ส่วนอิมพิแดนซ์ของสายไฟสามารถลดลงได้โดย ใช้สายที่มีคุณภาพดีมีอิมพิแดนซ์ต่ำ เดินสายให้สั้นที่สุด ใช้สายเส้นโตๆเพราะค่าอิมพิแดนซ์ต่ำกว่าเส้นเล็ก และไม่เดินสายวกวน ทีนี้มาว่ากันเรื่องการต่อ ปกติก็ จาก แบต วิ่งผ่านสายไฟ1ไป วิ่งผ่านขั้วต่อของ cap เข้าตัว cap จากนั้นวิ่งผ่านขั้วต่อcapอีกครั้ง วิ่งผ่านสายไฟ2 วิ่งผ่านขั้วต่อแอมป์ เข้าแอมป์ จะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด แต่จากที่คุณถามว่าการต่อแบบนั้น (จากแบตไปแอมป์แล้วไปแคป มีผลเสียอย่างไร อย่างแรกก็คือ สูญเสียความรวดเร็วในการทำงานของอุปกรณ์โดยใช่เหตุ มาดูวงจร จากแบต วิ่งผ่านสายไฟ1 วิ่งผ่านขั้วต่อไฟแอมป์ วิ่งผ่านสายไฟ2 วิ่งเข้าขั้วต่อ cap เข้าตัว cap วิ่งผ่านขั้วต่อของ cap อีกครั้ง วิ่งผ่านสายไฟ2 เข้าแอมป์ จะเห็นว่าการต่อแบบนี้ จะมีระยะทางยาวกว่าการต่อแบบที่ 1 แหม อุตส่าห์เลือก cap ที่มีค่า esr ต่ำๆ ขั้วต่อชุบทอง เพื่อให้มีความรวดเร็วในการจ่ายกระแสมาแล้ว กับ ไปทำให้ช้า เพราะการต่อลำดับผิดอีก อย่างที่สอง การต่อแบบที่สองจะมีอิมพิแดนซ์สูงกว่าแบบที่หนึ่ง ทำเสี่ยงต่อการเกิดสัญญาณรบกวน จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 10 ก.ย. 48 20:09:59 A:210.213.42.83 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ถามว่าพังไหม ไม่พังหรอกครับ เพราะถ้าจะเกิดการออสซิลเลต ก็จะเป็นออสซิลเลตชนิดมีเงื่อนไข และเป็นแบบเล็กๆ เท่านั้น แต่ถ้าท่านฟังเสียง knop ออก เสียงเพี้ยนๆแค่นี้ก็คงฟังออกจริงไหม ว่าเรื่อง Knop ต่อ ผมยอมรับครับ ว่าถ้าหน้าที่ของมันคือช่วยลดการสั่นของแกนลูกบิดได้ ให้ฟังก็คงจะฟังไม่ออกอยู่ดี ยังไงผมก็ขอโทษด้วยที่พูดโดยไม่มีความรู้ อันนี้พูดถึงเครื่องบ้านนะครับ(ผมใช้ Marantz d63se) บอกตรงๆไม่มีปัญญาลงทุนสร้างห้องหรือใช้ ของเล่นอะไรมากหรอกครับ ถึงให้ไปฟังที่อื่นผมก็แยกไม่ออกอยู่ดีถ้าไม่ใช่ห้องตัวเอง ชุดตัวเอง ทีนี้มาพูดถึงหัวข้อกระทู้บ้างเห็นบอกว่าลองในห้องลองฟังไม่ใช่ในรถยนต์ การเปลี่ยน Knop ของฟร้อนรถยนต์ ถ้าสามารถฟังเสียงการสั่นของแกนวอลลุ่มว่ามันนิ่งขึ้นมากกว่าเดิมได้ ทำไมเขาฟังเสียงการสั่นของหน้ากากฟร้อนไม่ออกล่ะครับ alpine รุ่นนั้นถอดหน้ากากฟร้อนได้ ลองโยกกันดูก็ได้ครับ ว่าแกนลอลลุ่มกับหน้ากากฟร้อน อะไรมันน่าจะสั่นมากกว่ากัน อันนี้คือในห้องลองนะครับ ถ้าไปติดในรถจริง แค่กาบเสาเอก็สั่นมากกว่าอยู่แล้ว อคูสติกในรถก็รู้กันอยู่ว่าห่วยสุดๆ เพียงแต่คันไหนห่วยมากห่วยน้อยเท่านั้น สรุปคือ ถ้าเป็นเครื่องบ้านผมคงยอมรับได้ครับ ถึงผมจะเข้าไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ผมแค่สงสัยว่า ถ้าในกลุ่มของคนที่ฟังออก และมีคนฟังออกจริง ฟังเสียงก่อนและหลังใส่ knop ออก ทำไมฟังไม่ออกว่าหน้ากากฟร้อนมันสั่น เพราะแกนวอลลุ่มมันแน่นหนากว่าหน้ากากฟร้อนมากๆ จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 10 ก.ย. 48 20:44:22 A:210.213.42.83 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ้อ จากข้อความข้างบน ถ้าเรียงลำดับสิ่งใดผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าท่านใดมีความรู้ก็เชิญแก้ได้เลย พยายามอธิบายแบบที่ให้คนไม่เคยเรียนวิเคราะห์วงจรเข้าใจ น่ะครับ จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 10 ก.ย. 48 20:58:59 A:210.213.42.83 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณครับ k. เด็กบ้านหม้อ ที่นำความรู้มาให้อ่าน... ^_^ จากคุณ : nemo_kung - [ 11 ก.ย. 48 02:26:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คงจะเหมือนกับว่า คุณเปลี่ยนยี่ห้อกางเกงในที่ใส่แล้วกินข้าวอร่อยขึ้น มั้ง อิ อิ จากคุณ : Shopzguy - [ 11 ก.ย. 48 19:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตอบ #37 ครับ ทำไม Cap แต่ละตัวมีเสียง? ใช้หลักการอะไรวัดบุคลิกเสียง? อันแรกไม่เข้าใจ หมายถึงบุคลิกเสียงหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอตอบรวมกันนะ ^_^ เครื่องเสียงทุกเครื่องยืนอยู่บนพื้นฐานเดียวกันคือ ต้องการถ่ายทอดให้เหมือนต้นฉบับมากที่สุด แต่ทีนี้การปฏิบัติจริงมันทำไม่ได้น่ะสิครับ เพราะมีตัวแปรอื่นๆ เช่น การออกแบบวงจร การเลือกใช้อุปกรณ์ อย่างการออกแบบวงจรยี่ห้อต่างกัน วงจรก็ต่างกันสัญญาณย่อมผ่านการทำงานต่างกัน เสียงย่อมต่างกันอยู่แล้ว หรือวงจรเดียวกัน แต่อุปกรณ์ค่าเดียวแต่ต่างยี่ห้อ ก็ให้ผลต่างกัน หรือยี่ห้อเดียวกันค่าเดียวกัน แต่ผลิตคนละล็อตกัน ก็ให้ผลไม่เหมือนกันครับ (ล็อตเดียวกันไม่ได้หมายความว่าเหมือนกันเป๊ะนะครับ แต่มันหนทางสุดท้าย) ถึงเหมือนกันเป๊ะ แต่ตอนทำงาน อุณหภูมิไม่เท่ากัน ก็ทำงานไม่เหมือนกันเป๊ะครับ อุปกรณ์บางตัว จึงมีแบบ ตัวคู่ คือ สองตัว แต่ตัวถังเดียวกัน เพื่อให้มีการเชื่อมโยงความร้อน ทีนี้ก็เป็นหน้าที่ของผู้ออกแบบแล้วครับ ว่าจะประยุกต์ใช้กันยังไง แล้วเวลาสร้าง เขาจะใช้อุปกรณ์กำเนิดสัญญาณป้อนเข้าไปแล้วเอาสโคปจับเอาท์พุตที่ออกมาว่ามีค่าผิดพลาดอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ไหม แต่ไอ้ทั้งสโคป และตัวกำเนิดสัญาณ มันก็มีค่าผิดพลาดอยู่ในตัวเอง ตามเหตุผลข้างบนนั่นแหละ (เหมือนเอาหมอที่เพี้ยนๆ ไปรักษา คนไข้โรคจิตนั่นแหละครับ) ก็ไม่รู้จะเอาอะไรเป็นเกณฑ์เหมือนกัน คนที่กำหนดบุคลิกเสียงก็คือผู้ฟังครับ แล้วแต่ใครที่จะชอบแบบไหน ผู้ผลิตเขาเข้าใจจุดนี้ พักหลังจึงเริ่มหลุดจากแนวคิดแรกเริ่มที่พยายามถ่ายทอดให้เหมือนต้นฉบับครับ คือตลาดชอบเสียงแบบไหน ก็สร้างให้เสียงเป็นแนวนั้น แต่ในกลุ่มไฮเอนก็ยังคงแนวคิดเดิมอยู่ อย่างแรกเริ่มสุด สมัยก่อนนี้ใช้หลอดสูญญากาศ ต่อมาพัฒนาเป็นทรานซิสเตอร์ , FET และ MOSFET ตามลำดับครับ แต่แต่ละตัวก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกัน คนที่ชอบเสียงของเครื่องหลอด ก็ยังมีอยู่มาก ถึงยังมีผู้ผลิตเครื่องหลอดให้เห็นอยู่ไงครับ ทั้งที่เป็นของเก่าแล้วแต่อุปกรณ์อื่นไม่สามารถทดแทนข้อดีของหลอดได้ จากคุณ : เด็กบ้านหม้อ - [ 12 ก.ย. 48 10:30:38 A:203.155.221.253 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณทุกทุกท่านครับ จากคุณ : bank09 - [ 12 ก.ย. 48 10:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ่า....คุยกันสบายๆสุภาพๆก็ดีนะผมว่า จากคุณ : คนกรุง (คนกรุง) - [ 13 ก.ย. 48 18:25:47 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่า คุณท่องเวป ถ้าปวดขี้ก็ไปขี้ดีไหมครับ แล้วผมว่าคนพวกนี้ก็เป็น คนที่อยู่ในกลุ่ม meeting อะไรนั่น มีหัวหน้ากลุ่มเป็น นักวิชาการเหลือเกิน แต่ทำไมปล่อย ให้พวกแบบนี้เข้า มาแจม ในกลุ่มได้ ไม่เว้นแต่ ดินนำมันเปะvolumeอะไรนั่น ผมก็ไม่เข้าใจ หรือว่าเป็นนักวิชาการเก้ ๆ อุปโลกตัวเองขึ้น มาเป็น เกจิโดย เห็นโมครอส มานานหลายชาติแล้วไม่เห็นออกมาให้ฟังเป็นรุปร่างไห้ดูซักที (ล่าสุดนี่ก็ไปเกทับ คนอื่นเรื่องcrossที่ทำยังไงก็ไปถามกันเอาเอง) จนโดน ตอกหน้าหงายไปแล้วรอบนึงแล้วก็เรื่องบันทึกเสียงทำCDทดสอบอะไรนั่นด้วย ใครด่าจำไม่ได้ การmeeting กลับกลาย เป็นงานโชว์ห่วย ไปซะงั้น ผมว่า ไปนั่งท่องเวปลาวเขมร ดีกว่าที่นั่น ยังชอบเรื่อไสยสารตร์อยุ่ Knop ของวิทยุเดิมนั้นเป็นพลาสติ เรื่องสั่น นั้น แทบไม่มีผลอยู่แล้ว เพราะน้ำหนักเบา ส่วนKnop ที่อ้างถึงนั้น เป้นเหล็กกลึงขึ้น มามีน้ำหนักมากกว่า ส่งผลให้ แกน ของvolume หนีศูนย์ เกิดการถ่างของหน้าสัมผัสขึ้นได้ ซึ่งไม่ใช่ผลดีอะไรเลย แถมยัง สั่นได้ดีและมากกว่าของเดิมด้วย เพราะมีน้ำหนักมาก กระทุ้นี้ไม่ได้ตั้งใจกล่าวพาดพิงถึงใครแต่ใครอยากจะรับก้เอาไปล่ะกัน จากคุณ : ดีกว่า ว่ะ - [ 14 ก.ย. 48 23:04:22 A:58.10.226.131 X: TicketID:107746 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ข้างบนตอบชัดอยุ่แล้ว ถ้าอ่านภาษาไทยไม่ออก ออกแต่เขมร,ลาวก็ไปท่องเวปเขมร หรือลาว ที่นั่น เขายังเชื่อมั่นใน ไสยสาศตร์ กันอยู่ ปล.ถ้าอยากจะเอาขี้กรอกปาก ไปกรอก ปากพ่อ mungที่บ้านดีกว่า ของในบ้านจะได้ไม่รั่วไหล จากคุณ : ดีกว่าอีก จิง ๆว่ะ - [ 15 ก.ย. 48 21:13:39 A:61.91.166.143 X: TicketID:107746 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ปุ่มหมุนมันเป็นตัว decoder ถ้ามันไม่กระเทือนจนขนาดปุ่มมันหมุนได้  มันก็ไม่มีผลหรอก ถ้าเป็น VR แบบรุ่นเก่าๆก็พอจะฟังขึ้นบ้าง front รถผมตัวหมุนมันไม่ค่อยดี  เวลารถวิ่งกระเทือนหน่อย volume มันวิ่งเองเฉย แบบนี้มันถึงมีผลต่อเสียงแน่ จากคุณ : ton99 - [ 17 ก.ย. 48 14:55:06 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ไฟฟ้าก็เป็นฟิสิกส์  นะครับ ปุ่มแบบนี้มันเป็น digital  ไม่ใช่ analog ถ้ามันไม่กระเทือนจน logic มันเปลี่ยน  มันก็ไม่มีผลหรอก (เอาเฉพาะตรงปุ่ม) ถ้ามันมีผลเหมือน VR เขาคงไม่ต้องเปลี่ยนให้มันเป็น decoder ให้มันวุ่นวายหรอก เรื่องบางเรื่องมันมีเหตุมีผลจริง  แต่เรื่องบางเรื่องก็มีไว้แหกตาหลอกกินเงินเท่านั้น ฉะนั้นต้องใช้ปัญญาแยกแยะเอาดีๆ จากคุณ : ton99 - [ 18 ก.ย. 48 20:06:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณเป็นญาติกับคุณเดอะหั่งเหรอ ถ้ามันดีจริงผู้ผลิตเค้าทำมาแล้วล่ะ เหมือนตัวประหยัดน้ำมันน่ะ ปฎิวัติวงการเลยนะ พวกซื้อก็ซื้ออุปทานน่ะ เชียร์กันอยู่ได้ เดอะหั่ง อาแปะดีๆนี่เอง จากคุณ : ฮาฮาน - [ 19 ก.ย. 48 22:14:21 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ่านได้รู้สึกว่า ประเด็นอยู่ที่ คนไม่เคยฟังมาด่า คนที่เคยฟัง ติดตามอ่านบอดนี้มานาน นึกว่ามีคนรักเสียงมาก ใจดีกัน ทำไมมาด่ากันเองน่อ ไรสาระจิงๆ เถียงกันทำไม ไปพิสูจน์กันดีกว่ามาด่ากันเอง งง จากคุณ : อ่านความรู้ หูลองฟัง - [ 19 ก.ย. 48 23:31:22 A:61.90.14.25 X: TicketID:108048 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เป็น heer อะไรนักหนา มีปัญหามากนักก็กลับไปถามพ่อที่บ้านว่าเกิดมาทำไม จากคุณ : ว๊ะ - [ 23 ก.ย. 48 01:50:19 A:61.91.165.197 X:203.144.143.2 TicketID:107746 ]

ความคิดเห็นที่ 58 .........ฟายเอ้ย ประสาดจะแดก จากคุณ : ฮาฮาน - [ 1 ต.ค. 48 01:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 งั้นขอซื้อซะ 10 อัน จะเอาไปชั่งกิโลขาย ช่วงนี้ทองแดงราคางามด้วยจิ จากคุณ : ฮ (ฮาฮาน) - [ 3 ต.ค. 48 21:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 #ความคิดเห็นที่ 60 จากคุณ : พอเพียง - [ 5 ต.ค. 48 15:37:01 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 62 => #ความคิดเห็นที่ 60 "น่าสมเพส...ชีวิตนี้คงคิดได้เท่านี่... จากคุณ : พอเพียง - [ 5 ต.ค. 48 15:38:21 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ก้อว่ากันไป นึกว่าจะฮา จากคุณ : ฮ (ฮาฮาน) - [ 5 ต.ค. 48 21:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ก็ไม่อยากจะตอบหรอก มันดีจริงคนซื้อกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว อย่าหลับหูหลับตาโฆษณาเลยนะ อ่านแล้วทุเรศ แล้วถ้าคิดว่ามันดีตรงไหนอย่างไร ก็อธิบายมาสิ เชิงวิชาการก็ได้ โต้ตอบกันให้เป็นสาระ ไม่ใช่มากัดไปกัดมา กรูล่ะโคตรเซ็งมรึงมากเลยนะ ห่าเอ้ย... จากคุณ : ฮาฮาน - [ 10 ต.ค. 48 21:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แล้วผมคือเจ้าของแคลเรี้ยนที่ใส่อยู่ในรูปในหนังสือ จะว่าผมบ้าที่ไปติดมามั๊ยเนี่ย อยากรู้ว่าท่านที่คุยกันโครมๆ เคยทดลองเหมือนผมหรือยังครับ เฮ้อ................... จากคุณ : ddt. - [ 11 ต.ค. 48 20:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อุปสงค์ อุปาทาน จากคุณ : ฮาฮาน - [ 12 ต.ค. 48 23:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 69 K. ฮาฮาน ****************************** คุณได้พูดย่างมั่นใจว่า "อุปสงค์ อุปาทาน" แสดงว่าคุณได้ทดลองอุปกรณ์ตัวนี้อย่างถ่องแท้แล้วใช่ไหม ? ****************************** ว่าใช้อุปกรณ์ตัวนี้แล้ว คนที่เล่น เขา อุปสงค์ อุปาทาน กันไปเอง และมันไม่มีผลต่อเสียงเลยว่างั้น ? ****************************** จากคุณ : พอเพียง - [ 13 ต.ค. 48 17:18:31 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ช่วยอธิบายหน่อยจิ..คุณๆทั้งหลาย ที่มาเถียงกันว่ามันดีมั่งไม่ดีมั่งเนี่ย ก็เห็นคนค้านแล้วคนที่สนับสนุนน่ะ มีคำตอบในเชิงวิชาการให้หายข้องใจได้มั้ย ไม่ใช่เอาแต่ตอบว่าคุณลองแล้วหรือยังฯลฯ ใส่ไอ้ทองแดงนั่นน่ะ มันไปทำอะไรให้กับระบบหรือ มคุณลักษณะเหมือนอะไร พาสซีฟแอ้คทีฟ ก็ว่าไปสิ จากคุณ : .. (ฮาฮาน) - [ 13 ต.ค. 48 22:07:33 ]

ความคิดเห็นที่ 73 วามคิดเห็นที่ 70 K. ฮาฮาน .... คุณถามเช่นนี้ แสดงว่าคุณไม่อ่านข้อความทั้งหมด แต่คุณค้านๆๆๆๆๆๆ คนอื่นเขา แถมไม่คิดจะลองฟังอีก เหอๆๆๆๆ น่าขำว่ะ 555555555 ตั้งแต่เกิดมาเนี่ย คุณน่าจะมีตาไว้ดูสิ่งที่ชอบดู มีหูไว้ฟังสิ่งที่ชอบฟัง มีจมูกไว้ดมสิ่งที่ชอบดม .... เอ่ รึว่าไม่มี เหอๆ ถ้ามี.... ถามหน่อยเหอะ เกิดมาเนี่ย เคยเล่นเครื่องเสียง อะไรมาบ้าง... ถ้าบอกว่าไม่เคยมี หรือ ไม่ชอบที่จะฟัง หรือ ไม่คิดจะซื้อ ถ้าเป็นยังงี้ ก็ไปที่สงบๆ เถอะนะ อย่าได้มาเบียดเบียนคนอื่นเขาเลย... ถ้าตอบว่า คุณเคยเล่นเครื่องเสียง และชุดเครื่องเสียงของคุณ คงจะซื้อตามที่คนขายมันบอกและให้หลักวิชาการอย่างดีเลิศ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อื่นๆ อีก จนคุณตาแวววาวอยากจะได้มันเต็มเปี่ยม โดยไม่คิดจะฟังเสียด้วยซ้ำ ไม่สิ ซื้อโดยไม่ลองฟังก่อนเลยต่างหาก... 555 นี่ล่ะคุณ ชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช ชุดเครื่องเสียง หรืออุปกรณ์เสริมของเครื่องเสียง หลักวิชาการดีเลิศ เทคโนโยลีเยี่ยม ฟังแล้วแต่ไม่ถูกหูคุณ แล้วคุณจะซื้อไหม ? อ่านให้หมดก่อนน่ะ ค่อยมาถาม... ลองฟังก่อนแล้วค่อยมาค้าน... ซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ จากคุณ : พอเพียง - [ 14 ต.ค. 48 17:01:17 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ดีจริงเค้าก็ซื้อกันทั้งบ้านทั้งเมืองแหล่ะพี่น้องเอ้ย ไอ้ผู้ผลิตก็คงจะต้องขอซื้อลิขสิทธิ์เอามาใส่ในฟร้อนของตัวเอง ก็เหมือนตัวประหยัดน้ำมันนั่นแหละ สรุปคือ 100คน ซื้อถึง10คนอ๊ะป่าว ถ้ามันดีขึ้นจริงถึง 0.5เปอรเซ็นบวกกับ อุปาทาน 20-30เปอร์เซนต์ ก็ซื้อไปเหอะ ผมให้ฟรี ก็ไม่เอามาใส่หรอก...ลาว จากคุณ : ... (ฮาฮาน) - [ 15 ต.ค. 48 19:55:56 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เล่นเครื่องเสียง  ทำไมจิตใจคับแคบ  ริษยากันจัง  จะฟังเพลงเพราะรึ  ถ้าในใจมีแต่ไฟแห่งโทสะ จากคุณ : สายล่อฟ้า (DonJuan) - [ 16 ต.ค. 48 01:05:45 ]

ความคิดเห็นที่ 77 eeeee สะจายดีจัง ยั่วโมโหคนเนี่ย จากคุณ : ฮาฮาน - [ 16 ต.ค. 48 12:08:59 ]

ความคิดเห็นที่ 79 น่าสมเพสเวทนานัก....ฮาฮาน...เฮ่อ....ฮาฮาน...ที่ยั่วโทษะตนเอง.... เหล็กสนิมที่ถ่วงไว้...เอาออกบ้างก็ดีนะ...จะได้ไม่เป็นบาดพะยัก...หนักกว่าเดิม... ๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙ คนอื่นเขาเขียนอย่างสบายใจ.... [อ่านให้ละเอียดหน่อยนะ....] ๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙ จากคุณ : พอเพียง - [ 17 ต.ค. 48 11:32:06 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โดนหลอกแล้วอยากให้คนอื่นโดนด้วยล่ะสิ 5555 มาต่อความยาวอีกนะ...ชอบบบบ จากคุณ : ฮาฮาน - [ 17 ต.ค. 48 21:20:32 ]

ความคิดเห็นที่ 82 555555 ใต้ตม 555 ฮาฮาน 555 ใต้ตม 5555555 มาต่อความยาวอีกนะ...ชอบบบบ 5555555555 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 คนอย่าง ฮาฮาน คงโดนหลอกมาเยอะๆๆๆๆๆๆ เลยไม่กล้าที่ทำอะไรซักอย่าง ไม่กล้าแม้ที่จะทดลองฟังก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าดีหรือไม่ดี สร้างกำแพงขังตัวเอง ... เอ่อ... ไม่ใช่กำแพงสิ สร้างตมขังตัวเองต่างหาก...55555555 และสงสัยขยะเต็มบ้านแล้วมั่ง เพราะว่าโดนหลอกมาเยอะ 555555 สมแล้วที่เขาว่าอยู่ใต้ตม 5555555 จากคุณ : พอเพียง - [ 18 ต.ค. 48 12:04:53 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 83 การเปลี่ยน Knop ของฟร้อนรถยนต์ ถ้าสามารถฟังเสียงการสั่นของแกนวอลลุ่มว่ามันนิ่งขึ้นมากกว่าเดิมได้ ทำไมเขาฟังเสียงการสั่นของหน้ากากฟร้อนไม่ออกล่ะครับ alpine รุ่นนั้นถอดหน้ากากฟร้อนได้ ลองโยกกันดูก็ได้ครับ ว่าแกนลอลลุ่มกับหน้ากากฟร้อน อะไรมันน่าจะสั่นมากกว่ากัน 5555555555 จากคุณ : ปิดกระทู้ - [ 19 ต.ค. 48 01:29:26 A:58.8.245.236 X: TicketID:081048 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ก๊ากกกกกกกกกกก 555555555 #83 ปิดกระทู้ แต่ปิดกระทู้ไม่ลง 555555555 นั้นสิตาม #84 เลย สั่นน่ะ มันมีผลต่อเสียงอยู่แล้ว... แล้วแต่ใครจะมันสร้างอุปกรณ์อะไรมาลดความสั่นเท่านั้นล่ะ... หน้ากากที่ถอดมาได้น่ะ มันก็สั่นของมันอยู่แล้ว เสียงที่ได้ยินมันก็เป็นตามที่ได้ฟังนั้นล่ะ... หน้ากากกับ Knob น่ะคนละประเด็นกันนะคุณ ปิดกระทู้ หัดเข้าประเด็นหน่อย หรึอว่าใช้ปากฟังแทนหูแล้วรึ คิดซะหน่อยนะก่อนจะพูดอะไรน่ะ... จากคุณ : พอเพียง - [ 20 ต.ค. 48 17:49:05 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สงสัยจัง มีแต่พวกคุณ2คนที่ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์ มาจากร้านเดียวกันหรือคนเดียวกัน หรือได้เสียอันละเท่าไหร่ล่ะ จากคุณ : azujiro - [ 21 ต.ค. 48 00:01:56 A:61.91.209.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ azujiro ครับ.... ผมไม่เคยได้ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์ครับ และไม่เคยเชียร์ด้วยซ้ำ - เคยทดลองฟังไหม ? - พูดเรื่องแปลี่ยน Knob แล้วมันมีผลต่อเสียงไหม ? คุณอ่านข้อความที่ผมเขียนทั้งหมดและอ่านอย่างถ่องแท้รึเปล่าครับ ? และไม่เคยพูดด้วยซ้ำว่า คุณทั้งหลายต้องซื้อนะเพราะมีดีมากเลยนะ ถ้าใส่แล้วหูของคุณกลายเป็นหูทองเลยนะจะบอกให้... สำเนาลักษณะนี้ไม่เคยพูด อ่านดีๆ หน่อย แล้วหัดใช้จิตใต้สำนึกหน่อยก่อนจะมาติ คนอื่นเขานะคุณ azujiro ..... แล้วคุณ azujiro ครับ คุณว่ามีกี่คนกันที่เขามากันในกระทู้นี้ล่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ผมก็สงสัยเหมือนกันว่า คุณ azujiro กันความเห็นอื่นๆ เป็นคนเดียวกันอ่ะเปล่านา หรือว่าขัดผลประโยชน์ของร้านคุณหรือ...ถึงได้ชอบพูดเบี่ยงเบนคำถามในกระทู้จัง... ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ อ่านดีๆ หน่อยแล้วค่อยเขียนออกมานะ คุณ azujiro ก่อนจะติ... จากคุณ : พอเพียง - [ 21 ต.ค. 48 09:55:03 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 90 เมื่อคืนไปงานมี้ตติ้ง มะเห็นมีใครพูดถึงไอ้ทองแดงนั่นเลย ถามใครก็ไม่มะมีครายรุ หรือว่าหมดมนต์ขลังเสียแล้ว เจอพวกคนรู้ทันล่ะสิ จากคุณ : .. (ฮาฮาน) - [ วันปิยมหาราช 19:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 92 งานมี้ตติ้งอะไรหรอครับ... งานมี้ตติ้งดิสโก้ ดิ้นกะมัยอ่ะ รึเปล่าครับ หุหุ... ....มนต์ขลังน่ะ มันขังคุณอยู่ในกา....ลาอยู่ล่ะมั่ง...5555 จากคุณ : พอเพียง - [ 25 ต.ค. 48 14:13:44 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เคยเห็นเซียนพระคนไหนออกมายอมรับบ้าง ว่าตัวเองเช่าพระปลอมมาในราคาพระจริง บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระที่เช่ามาหลักแสนเป็นของปลอม ฉันใดก็ฉันนั้น จากคุณ : . (Tread'em all) - [ 1 พ.ย. 48 17:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 95 แน่นอนอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิมมันย่อมส่งผลอยู่แล้ว แล้วกรูก็อยากจะรู้จัง ว่าที่ เมิง ว่าใส่แล้วมันต่างไปนะ มันต่างยังงัย มากน้อยแค่ไหน ช่วยอธิบายเป็นตัวหนังสือให้คนโง่ๆ อย่าง กรู เข้าใจหน่อย คนไม่เคยฟังอย่าง กรู จะได้เข้าถึงสัจธรรมซักที เพราะที่อ่านจากข้างบน กรู ไม่เห็น เมิง จะบอกเลยว่ามันต่างไปยังงัย กรู เห็น เมิง เอาแต่เห่าว่ามันต่างๆ จากคุณ : . (Tread'em all) - [ 1 พ.ย. 48 17:20:02 ]

ความคิดเห็นที่ 97 คริ.. คริ.. ได้มวยคู่ใหม่แว้วว จากคุณ : ฮาฮาน - [ 1 พ.ย. 48 21:05:15 A:61.91.207.60 X: TicketID:109992 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ก๊ากกกกกกกก... อ้าว ฮาฮาน ไม่ร่วมด้วยช่วยกันรึท่าน 55555 ก๊ากกกกกกกก... อีก คุณท่าน (Tread'em all) ท่านอ่าน ภ.ไทย ออกไหมเนี่ย ถ้าอ่านออก แล้วอ่านทุกข้อความรึเปล่าท่าน... อ่านดีๆ หน่อยนะ ท่าน จะได้เข้าถึงสัจธรรมซักทีไง.... จากคุณ : พอเพียง - [ 2 พ.ย. 48 15:01:44 A:203.155.133.72 X: TicketID:031487 ]