PANTIP.COM : V3748944 ถามเรื่องเทอร์โบครับ [รถ-ประดับยนต์]

ความคิดเห็นที่ 2

จะพยายามเอาให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ

เทอร์โบปกติ จะมีโข่งไอเสียที่มีขนาดตายตัว คือเล็กก็เล็ก ใหญ่ก้อใหญ่ ซึ่งโข่งไอเสียแต่ละแบบจะมีบุคลิกในการทำงานแตกต่างกันดังนี้ครับ

- โข่งเล็ก
เหมาะกับรถความจุน้อยๆ เพราะไอเสียน้อย ถ้าโข่งใหญ่ กว่าไอเสียจะผลักให้เทอร์โบหมุนจนถึงจุดทำงาน ต้องลากรอบสูงมาก ใช้งานจริงได้ลำบาก รถที่ต้องการให้เทอร์โบทำงานเร็วๆ หรือต้องการใช้แรงบิดในรอบต่ำ ก็จะใช้เทอร์โบโข่งเล็ก เทอร์โบประเภทนี้จะทำงานเต็มที่ตั้งแต่ช่วงรอบประมาณ 1000 กว่าๆ ถึง 2000 เท่านั้น ข้อดีคือไม่รอรอบ รถประเภทนี้จะเป็นพวก "กดเป็นมา" อาการของรถคล้ายๆ super charge ครับ ส่วนข้อเสียก็อย่างที่คุณ A-Z ได้บอกไว้ครับ คือในรอบสูงๆ จะเกิด Back Pressure ทำให้เครื่องยนต์กำลังตกอย่างรวดเร็ว คล้ายๆรถบูสท์หนัก แต่แคมเดิม กราฟแรงม้าจะดีตอนต้น แต่พอตกแล้ว ตกเลย จะเรียกว่าหัวปักลงก็คงไม่ผิด กราฟเป็นเหมือนรูปภูเขา power band จะแคบมาก เทรนเมื่อสัก3-4ปีก่อนชอบทำกัน เวลาเปลี่ยนเทอร์โบลูกใหญ่ๆ ก็มักจะเปลี่ยนโข่งไอเสียให้ เล็ก-เล็กมาก เพื่อให้บูสท์มาเร็ว แต่ตอนนี้กระแสเปลี่ยนโข่งเล็ก เริ่มจางไป เพราะส่วนใหญ่เจอปัญหาข้างต้น ดังนั้นการโมดิฟายสมัยนี้จึงจะออกแนวมาช้าแต่หนักซะมากกว่า

-โข่งใหญ่
เหมาะสำหรับรถที่ CC มากๆ หรือรถที่มีการโมดิฟายเครื่องมาพอสมควร ข้อดีคือ จะไม่ต้านการไหลของไอเสีย หมดกังวลเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ กำลังช่วงรอบปลายไม่ตกเหมือนโข่งเล็ก กราฟแรงม้าจะแบนช่วงต้น แต่ชันช่วงปลาย กำลังของเครื่องจะมาแบบต่อเนื่อง power band จะกว้างกว่าโข่งเล็กพอสมควร แต่ทั้งหมดนี้ต้องแลกมาด้วยกำลังรอบต้นๆที่แทบจะไม่มีเลย ใช้งานในเมืองลำบาก เครื่องจะสึกหรอมาก เพราะต้องลากรอบสูงตลอดเพื่อให้เทอร์โบทำงาน ถ้าระบบเกียร์ไม่แมทกับเครื่อง รถจะออกอาการ "ดึงแล้วก็ห้อย ห้อยแล้วก็ดึง" ทำให้คนนั่งเวียนหัวเอาง่ายๆ โดยรวมแล้วโข่งประเภทนีเหมาะกับการแข่งขันมากกว่า

-โข่งแปรผัน
เป็นการรวมเอาข้อดีของโข่งเล็ก-โข่งใหญ่ มาไว้ด้วยกัน คือเทอร์โบประเภทนี้จะมีครีบดักอากาศภายใน ซึ่งครีบนี้จะขยับได้ เมื่อมีการขยับ ปริมาตรของโข่งไอเสียก็จะเปลี่ยนไปด้วย เปิดสุด ปริมาตรก็จะมาก ซึ่งเปรียบเสมือนโข่งใหญ่ แต่ถ้าปิดสุด ปริมาตรก็จะน้อย ซึ่งเปรียบเสมือนโข่งเล็ก เทอร์โบประเภทนี้ จะมีตัวควบคุมการทำงานของครีบ มีทั้งแบบ mechanic และ electronic ซึ่งตัวควบคุมนี้ จะรับรู้ถึงรอบการทำงานของเครื่องยนต์ ปริมาณไอเสีย ทำให้รู้ว่า ในช่วงเวลานั้นๆ ควรขยับครีบมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ปริมาตรของโข่งเหมาะสมกับไอเสียที่ออกมามากที่สุด ดังนั้นเทอร์โบประเภทนี้ จะเป็นพวก "กดเป็นมา" และ "ไม่อั้นปลาย" แถมยังมีอาการ "ห้อย" แค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ได้กำลังสูงสุดในเกือบทุกรอบการทำงาน (ช่วง 500-1000 รอบไม่สามารถทำได้ ไอเสียมันน้อยไปครับ) พูดถึงข้อดีไปแล้ว มาพูดถึงข้อเสียบ้าง สิ่งหนึ่งเลยที่แน่ๆคือเรื่องราคา ราคาจะสูงกว่าเทอร์โบปกติมาก เพราะต้องมีการติด sensor และ อุปกรณ์ต่อพ่วง เพื่อให้เจ้าครีบนั้นทำงานได้สมบูรณ์ มีร้านเทอร์โบบางร้าน อ้างว่าร้านของเขาติดเทอร์โบแปรผัน โดยเจ้าครีบที่ว่า สามารถทำงานได้สมบูรณ์ด้วย เมื่อเข้าไปสอบถามชุดติดตั้ง ก็เห็นมีเพียงเทอร์โบแปรผัน 1 ลูกโดดๆ พร้อมท่อทางเดินต่างๆ มิได้มีตัวควบคุมแต่อย่างใด ดังนั้น ผมจึงคิดว่า การติดเทอร์โบแปรผันตามร้านทั่วไป คงต้องรออีกสักพัก จึงจะใช้งานได้สมบูรณ์ 100% อีกข้อที่เป็นประเด็น แต่ยังไม่มีใครได้คำตอบที่ชัดเจนคือ ครีบดักอากาศต้องมีการขยับตัว และต้องทำงานอยู่ในอุณหภูมิสูงๆอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นไปได้ไหมที่จะทำให้อายุของเทอร์โบประเภทนี้สั้น เพราะครีบตาย เกิดการติดขัดจนไม่สามารถขยับได้

คงพอได้ประโยชน์บ้างนะครับผม

จากคุณ : walongkorn - [ 20 ก.ย. 48 01:42:08 ]